คลังเก็บหมวดหมู่: ท่องเที่ยว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / น้องปิยธิดา สาวงามเผ่าถิ่น คว้ามงกุฎธิดาดอย ในงานประจำปีและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ที่เวทีกลาง งานงานประจำปีและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568 จังหวัดน่าน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการประกวดธิดาดอย ในงานประจำปีและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568 เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม คงความเป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ วิถีชีวิตชนเผ่าที่อยู่ในจังหวัดน่าน ซึ่งจัดประกวด 4 ชนเผ่า คือ ถิ่น/ลัวะ ม้ง เมี่ยน และขมุ

โดยปีนี้มีสาวงามสมัครเข้าประกวด 22 คน โดยมีนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นางเหมือนใจ วงศ์ใหญ่ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน และหัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน ร่วมมอบรางวัล สำหรับผลการประกวดธิดาดอยในปีนี้ สาวงามชนเผ่าถิ่น หมายเลข 17 นางสาวปิยธิดา จักอะโน สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดน่านส่งเข้าประกวด

คว้ามงกุฎธิดาดอยประจำปีนี้ไปครอง ได้รับเงินสด 20,000 บาท พร้อมที่นอนสปริงยางพารา 6 ฟุต มูลค่า 15,900 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท โล่รางวัล และสายสะพาย รางวัลรองชนะเลิศธิดาดอย อันดับที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 15 นางสาวซี แซ่ว่าง อำเภอปัว ส่งเข้าประกวด ได้รับเงินสด12,000 บาท

Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย รางวัลรองธิดาดอย อันดับที่ 2 ได้แก่ หมายเลข 22 นางสาวจิตรพร แซ่จ๋าว อำเภอบ้านหลวงส่งเข้าประกวด ได้รับเงินสด 10,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย รางวัลรองธิดาดอยอันดับที่ 3 ได้แก่ หมายเลข 3 นางสาวพรรพษา ศรีแอ

โครงการบ้านสันติภาพและ หจก.ชนากานต์พร็อพเพอร์ตี้ส่งเข้าประกวด ได้รับเงินสด 6,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย รางวัลขวัญใจชาวน่าน ได้แก่ หมายเลข 17 นางสาวปิยธิดา จักอะโน ได้รับเงินสด 6,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย และรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่หมายเลข 19 นางสาวศุภักอักษร ตุ้ยศรี ได้รับเงินสด 6,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย ส่วนรางวัลธิดาประจำชนเผ่า ธิดาชนเผ่าเมี้ยนได้แก่ หมายเลข 22 นางสาวจิตรพร แซ่จ๋าว

ได้รับเงินสด 6,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย ธิดาชนเผ่าม้งได้แก่ หมายเลข 15 นางสาวซี แซ่ว่าง ได้รับเงินสด 6,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย ธิดาชนเผ่าถิ่น/ลัวะได้แก่หมายเลข 19 นางสาวศุภักอักษร ตุ้ยศรี ได้รับเงินสด 6,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย และธิดาชนเผ่าขมุได้แก่ หมายเลข 3 นางสาวพรรพษา ศรีแอได้รับเงินสด 6,000 บาท Gift voucher แชมพูไบโอเวท และสายสะพาย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจัวหวัดน่าน/ทีมข่าวสมาคม รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผช.รมต.กระทรวงทรัพยฯ.สิ่งแวดล้อมเข้าร่วมเวทีประชาคม รับฟังปัญหาฯพื้นที่ต.ท่าแฝก/ททท.น่านหารือประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว น่าน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 นายนราพัฒน์ แก้วทอง (ผู้ช่วยรัฐมนตรี)ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมตรีว่าการกระพรวงพรัพยากรรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมเวทีประชาคมรับฟังปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตำบลท่าแฝกโดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายกอบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน สอบต.แกนนำชุมชนและชาวบ้านเข้าร่วมเวที

ด้วยโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ตำบลท่าแฝก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพื้นที่อยู่บริเวณเหนือเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ห่างจาก
วัดอุตรดิตถ์ ๑๒๘ กิโลเมตร พื้นที่เป็นภูเขาปกคลุมด้วยป่าไม้มีลักษณะสูงชัน สลับชับชับช้อนกันไป ทิศ (ทิศตะวันตกและทิศตะวันออก)

โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมด ๔๐๘,๘๗๔ ไร่ เป็นพื้นที่ป่า ๘,๖๒๐ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๘๓ ของพื้นพื้นที่ มีเขตการปกครอง ๙ หมู่บ้าน ประกอบด้วย ม.๑ บ้าน งอมมด ม.๓ บ้านงอมสัก ม.๔ บ้านห้วยผึ้ง ม.๕ บ้านป่าทั้ง ม.๖ บ้านเด่นยาว ม.๗ บ้านวังน้ำต้น ห้วยไผ่ และ ม.๙ บ้านผาผึ้งน้อย มีราษฎรอยู่อาศัยรวม ๑,๕๐๙ ครัวเรือน ประชากร รวม ๔,๕๐๐ คน ราษฎร

ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินอยู่อาศัยและที่ทำกิน อยู่ในเขตที่ดินของรัฐ อาทิ ป่าสงวนฯ,อุทยานแห่งชาติ อนุรักษ์ฯ และมีที่ดิน สค.1 บางส่วนที่ไม่สามารถออกโฉนดได้ หน่วยงานในพื้นที่ประสบปัญหา พัฒนาด้านสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชนในพื้นที่ป่าไม้ รวมถึงการ พัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก อันมีผลกระทบต่อการดำรงชีพ และความเป็นอยู่ของราษฎรในตำบลท่าแฝกเป็นอย่างมาก

ผู้นำชุมชนท้องที่ท้องถิ่นตำบลท่าแฝก เครือข่ายชุมชน และประชาชนตำบลท่าแฝกในการ ตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมเวทีประชาคมรับฟังปัญหาสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ตำบลท่าแฝก โดยการสนับสนุนของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านอำภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการยกระดับ

คุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำบล ท่าแฝก ได้อย่างถาวรและยั่งยืนซึ่งนายนราพัฒน์ แก้วทองได้เปิดโอกาสให้แกนนำเสนอข้อมูลต่างๆเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ใขปัญหาต่อไป/

บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานน่าน ร่วมหารือแนวทางการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน

27 มกราคม 2568 ที่ร้านเฮือนรินน่าน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานน่าน ร่วมกับสื่อมวลชนจังหวัดน่านหารือแนวทางประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดน่านประจำปี 2568 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน มีแผนดำเนินการส่งเสริมการตลาด

ด้านการท่องเที่ยวร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม ในพื้นที่ และยังเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดน่าน

ดังนั้นเพื่อให้การวางแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2568 รวมถึงการรับฟังข้อคิดที่เป็นประโยชน์เพื่อกำหนด ทิศทางการท่องเที่ยวจังหวัดน่านเป็นเมืองน่านน่าอยู่น่าเที่ยวน่าสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน

มุ่งมั่นการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพพร้อมกับประชาสัมพันธ์เพิ่มช่องทางการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ ทีมข่าวสมาคม รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นักท่องเที่ยวแน่นขึ้นห่มพระเขาช่องกระจก ขอพรวันปีใหม่

แชร์เนื้อหานี้

DCIM\100MEDIA\DJI_0794.JPG


เมื่อวันที่ 1 ม.ค.68 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธ) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในกิจกรรม “ขึ้นเขาห่มพระ พาท่องช่องกระจก เถลิงศกรับพร ประจำปีพุทธศักราช 2568” มี นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมกันเขียนชื่อของตนเองและคนในครอบครัวลงบนผืนผ้าเหลือง

พร้อมอัญเชิญผืนผ้าขึ้นสู่เขาช่องกระจก อ.เมืองประจวบฯ ผ่านบันได 396 ขั้น ห่มองค์พระเจดีย์ที่ประดิษฐานบนยอดเขา และกราบสักการะขอพรพระพุทธมงคลคีรีขันธ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวในวันขึ้นปีใหม่
สำหรับกิจกรรม “ขึ้นเขาห่มพระ พาท่องช่องกระจก เถลิงศกรับพรปีใหม่” เทศบาลเมืองประจวบฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ครั้งแรกในปี พ.ศ.2548 โดยปีนี้เป็นครั้งที่ 19 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้บรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวของ จ.ประจวบฯ

เพื่อเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่เสด็จพระราชดำเนินบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดเขาช่องกระจก พร้อมส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเขาช่องกระจก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเมืองประจวบฯ สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

ได้ขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาช่องกระจก ได้สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามของเมืองสามอ่าว ตลอดจนเพื่อปลูกจิตสำนึกในการบำรุงพระพุทธศาสนาในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีการห่มผ้าพระบรมสารีริกธาตุให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯจ.ชลบุรี เปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมดูแลรักษาความปลอดภัย “ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568”

แชร์เนื้อหานี้

 วันที่ 26 ธ.ค.67 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมดูแลรักษาความปลอดภัย "ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568" และวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2567 ณ บริเวณลานกิจกรรมพัทยากลาง ถนนเลียบชายหาดพัทยา จังหวัดชลบุรี

ด้วยศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนได้กำหนดให้ทุกจังหวัดดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 โดยให้ดำเนินการช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ถึง 5 ม.ค. 2568 (จำนวน 10 วัน) เพื่อความปลอดภัยแก่ชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่เดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนา และมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ประกอบกับคณะรัฐมนตรี ได้มีมติกำหนดให้วันที่ 26 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ

 จังหวัดชลบุรี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ แสดงถึงความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน อาสาสมัคร มูลนิธิ ในการส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

นอกจากการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ ยังมีอีกกิจกรรม คือการปล่อยขบวนรณรงค์ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ การกวาดล้างอาชญากรรม และดูแลรักษาความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 เนื่องจากจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และอาจมีมิจฉาชีพแฝงเข้ามาก่ออาชญากรรมจำนวนมาก ทั้งยาเสพติด อบายมุข และการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ จึงต้องบูรณาการความร่วมมือในการป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม และการรักษาความสงบในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุร้าย อันตรายต่างๆ และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่พี่น้องประชาชน

การกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การอ่านสารนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2567 การมอบนโยบาย การปล่อยขบวนรณรงค์ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ และการกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนทั้ง พลเรือน ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ องค์การสาธารณกุศล จิตอาสาพระราชทาน และภาคประชาชน ร่วมกิจกรรมกว่า 400 คน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ททท.เพชรบุรี ชวนสัมผัสธรรมชาติบ้านโป่งลึก-บางกลอย ดินแดนปกาเกอะญอ ม.ต้นน้ำเพชรบุรี/“หัวหิน” จัดใหญ่ “113 ปี ถิ่นมนต์ขลัง” พานักท่องเที่ยวย้อนยุค สถานีหัวหิน 

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชนและช่างภาพ เดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ณ บ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ที่นี่จะได้พบกับหมู่บ้านแห่งแรกของต้นแม่น้ำเพชรบุรี สองชุมชนบ้านบางกลอย-บ้านโป่งลึก ที่มีลำน้ำเพชรแยกออกเป็นสองฝากฝั่งและเชื่อมต่อกันด้วยสะพานแขวนที่ข้ามได้เฉพาะคนกับรถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์เท่านั้น รถยนต์ไม่สามารถข้ามผ่านสะพานแห่งนี้ได้

นางดวงใจ คุ้มสอาด กล่าวว่า หากนักท่องเที่ยวมีเวลาสัก 2 วัน 1 คืน ใช้ชีวิตสไตล์แค้มป์ปิ้ง กับกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ low carbon เส้นทางสาย green และชมวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ สองหมู่บ้านที่นับถือศาสนาพุทธกับศาสนาคริสต์ ยังคงวิถีชีวิตและป่าไว้อย่างแน่นหนา ท่ามกลางวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสงบ รวมถึงการทานอาหารขันโตกที่มีเมนูน้ำพริกตาละเว ผักต้ม ปลาทอด และอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ต้องมาสัมผัสกับประสบการณ์ Adventure ล่องแพไม้ไผ่บนลำน้ำเพชรบุรี เพียงแค่ 30 นาทีกับแก่งหินและสายน้ำใสจนอดใจไม่กระโจนลงน้ำไม่ได้ ค่าใช้จ่ายล่องแพไม้ไผ่ 1 ลำ/ 3 คน

พร้อมคนถ่อแพ เพียง 550 บาทเท่านั้น
การเดินทางสู่โป่งลึก-บางกลอย ขอให้มาลงทะเบียนชำระค่าธรรมเนียมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานก่อน และเดินทางจากศูนย์ฯ สู่ที่ทำการหน่วยด่านมะเร็ว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถนนราดยางเพียง 20 กม.และเดินทางต่อบนถนนภูเขาสลับลูกรัง 30 กม.จะถึงหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ใช้เวลาเดินทางรวม 3 ชั่วโมง แนะนำให้ใช้พาหนะรถยนต์ท้องถิ่นหรือรถกระบะยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ความน่ามาสัมผัสกับประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวแนวผจญภัยที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สักครั้งในชีวิตที่ต้องมาค้นหา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 032-471005-6 และ 1672 เบอร์เดียวทั่วไทย.
นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

“หัวหิน” จัดใหญ่ “113 ปี ถิ่นมนต์ขลัง” พานักท่องเที่ยวย้อนยุคในบรรยากาศแสงสีเสียงตระการตาสถานีหัวหิน 

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.67 ที่สถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) จ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “หัวหินถิ่นมนต์ขลัง 113 ปี” พร้อมด้วย นางสาววรกานต์ ถาวร รอง ผอ.ททท.สำนักงานประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ร่วมการแถลงข่าว มี นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นางสาวกิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ นางสาวบุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ร่วมรับฟังพร้อมชมการแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสม “มนต์เสน่ห์แห่งเรื่องเล่า” อย่างสวยงามตระการตา

เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ ททท.สำนักงานประจวบฯ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ บริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด และหน่วยงานต่างๆ กำหนดจัดงาน “หัวหินถิ่นมนต์ขลัง 113 ปี” ขึ้น ระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค.นี้ ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์วิถีชีวิตความเป็นเมืองหัวหินอันเก่าแก่จากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยถ่ายทอดเรื่องราวประวัติของหัวหินในอดีต เช่น วังไกลกังวล สถานีรถไฟหัวหิน สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ตลาดฉัตร์ไชย เป็นต้น รวมถึงการประกอบอาชีพ วิถีชีวิตการกินอยู่ของชาวหัวหินที่มีมายาวนานถึง 113 ปี ให้นักท่องเที่ยวและเยาวชนรุ่นหลังได้รับทราบ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ความสุขแก่ประชาชน

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่างๆ แบ่งเป็น 6 โซน โซนที่ 1 “มนต์เสน่ห์แห่งเรื่องเล่า” การแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสม 113 ปี หัวหินถิ่นมนต์ขลัง ชุด “มนต์เสน่ห์จากสมอเรียงสู่หัวหิน” การแสดงที่จะพาคุณไปพบเรื่องราวแห่งมนต์เสน่ห์และปลุกความสว่างไสวแห่งเรื่องเล่าประวัติศาสตร์อันมีความงดงามจากสถาปัตยกรรมสมัยวิกตอเรียนของสถานีรถไฟหัวหินเป็นฉากหลัง / โซนที่ 2 “มนต์กาลแห่งล้นเกล้า” นิทรรศการที่จะพาคุณย้อนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและความผูกพันอันลึกซึ้งของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” กับ “หัวหิน” เมืองเล็กๆ ที่มีความหมายยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทย / โซน 3 “มนตราแห่งราตรี” นิทรรศการแสงไฟ (Lighting Show) เพลิดเพลินไปกับการประดับประดาดวงไฟที่จะเนรมิตค่ำคืนแห่งลมหนาวให้กลายเป็นค่ำคืนอันอันสุกสกาวท่ามกลางบรรยากาศกลิ่นอายอันอบอวลอดีตวันวานของ “สถานีรถไฟหัวหิน” 

โซน 4 “มนต์วิถีแห่งหัตถศิลป์” กิจกรรมสาธิต Art and Craft Workshop ที่คุณสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ และสนุกสนานไปกับการประดิษฐ์งานฝีมือระดับภูมิปัญญาจากศิลปินพื้นถิ่นที่พร้อมจะถ่ายทอดเรื่องราวและคุณค่าผ่านงานหัตถศิลป์ อาทิ การสาธิตทำขนมลูกชุบ การสาธิตจากร้านผ้าโขมพัสตร์หัวหิน / โซน 5 “มนต์มหัศจรรย์แห่งแดนดิน” โชว์การเดินแบบย้อนยุคการกุศลชุด “มนต์สมัยแห่งอาภรณ์” ในธีมชุดไทย รัชกาลที่ 7, ชุดแกสบี้ วนิดา และปริศนา จากนางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้คลินิกทะเลใจ โรงพยาบาลหัวหิน และ โซน 6 “มนต์จวักพื้นถิ่นแห่งภูมิปัญญา”

การออกบูธอาหารและสินค้าพื้นถิ่นที่จะมาสำแดงรสชาติอันเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกชม นอกจากนี้พบกับการประกวดมนต์มหัศจรรย์หนูน้อยหัวหินชิงเงินรางวัล 3 หมื่นบาท วาดลีลาลีลาศไปพบกับวงโฟร์ซิงเกิ้ลและวงค่ายธนะรัชต์ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านแต่งชุดไทยร่วมชมงานดังกล่าวได้ ระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค.นี้ ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.
นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตลาดน้ำ4 พัทยา เปิดตัวให้บริการ “เรือสะเทินน้ำสะเทิ้นบก” / The Riviera Santa Monica Jomtien เปิดจอง ลูกค้าไทย-เทศเข้าคิวจองทะลุ 60%

แชร์เนื้อหานี้

มีรายงานว่า ตลาดน้ำภาค พัทยา สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังจังหวัดชลบุรี ได้เปิดให้บริการ “เรือสะเทินน้ำ สะเทินบก” หนึ่งเดียวในประเทศไทย โดย นายมนัส มีพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา จำกัด พร้อมทีมบริหาร พนักงาน และผู้ประกอบการร้านค้า ร่วมเปิดตัวการกลับมาให้บริการของ “เรือสะเทินน้ำ สะเทินบก” ภายใต้แนวคิด “ย้อนอดีตกับเรือเอี้ยมจุ๊นโบราณ”

นายมนัส ประธานฯ ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา เล่าว่า เรือสะเทินสะเทินบก ของตลาดน้ำ 4 ภาค (ฝพัทยา เป็นเรือเอี้ยมจุ๊นโบราณที่ในอดีตเป็นพาหนะที่ใช้นงานขนส่งสินค้าทางการเกษตรจากหัวเมืองภาคกลางตอนเหนือ เพื่อลำเลียงลงมาค้าขายที่พระนคร (หรือกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน) ที่ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ได้เก็บรักษาและดูแลหมู่เรือเอี้ยมจุ๊นโบราณจำนวน 4 ลำมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2

เนื่องจากหมู่เรือเอี้ยมจุ๊นเป็นเรือที่ถือได้ว่าคู่บุญมากับครอบครัว เพราะในสงครามครั้งนั้น ครอบครัวได้ล่องเรือเอี้ยมจุ๊นขนส่งสินค้ามาจากพระนครศรีอยุธยา และมาจอดเรือพักอยู่ที่เชิงสะพานพุทธ ช่วงเวลานั้นมีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ทางครอบครัวได้ตัดสินใจถอยเรือออกมาจากสะพาน ทำให้รอดพ้นจากการโดนทิ้งระเบิดของข้าศึกได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นจึงเป็นต้นเหตุของความเชื่อในเรื่องความแคล้วคลาดปลอดภัย และเจริญรุ่งเรือง

ดังนั้นตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา จึงได้นำเรือเอี้ยมจุ๊นโบราณที่เก็บรักษาไว้อย่างดี มาดัดแปลงเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน ให้สามารถวิ่งในน้ำเป็นเรือ และขึ้นวิ่งบนบกเหมือนรถยนต์ได้อีกด้วย โดยเรียกขานใหม่ว่า “เรือสะเทินน้ำสะเทินบก” เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส พร้อมนั่งชมทัศนียภาพย้อนอดีตวันวานมาแล้ว ก่อนจะเปิดตัว ให้บริการอีกครั้งพร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ การแสดงมวยทะเล การดวลระนาดเอก และวงดนตรีพื้นบ้าน ได้ตลอดทั้งวัน และทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ Riviera Group ผู้คร่ำหวอดในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ห้องพักที่อยู่อาศัยในเมืองพัทยา โดย คุณเอ๋ สุกัญญา เกล ผู้บริหารฯ ได้เปิดรับจองโครงการลำดับที่ 7 ของ Riviera Group ภายใต้ชื่อโครงการ The Riviera Santa Monica Jomtien ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท

The Riviera Santa Monica Jomtien เปิดจองวันแรก ลูกค้าไทย-เทศเข้าคิวจองทะลุ 60%

The Riviera Santa Monica Jomtien เป็นโครงการอาคารห้องพักความสูง 34 ชั้น รวม 446 ยูนิต เป็นแบบห้องชุด เพนท์เฮ้าส์ 4 ห้องนอน และ 1 ห้องเมด ขนาด 325 ตร.ม. ห้องชุด 3 และ 4 ห้องนอน ขนาด 180 ตร.ม. ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 50-73 ตร.ม. และ 1 ห้องนอน ขนาด 29-38 ตร.ม. สนนราคาเริ่มต้นที่ 2.1 ล้านบาท พร้อมเฟอร์นิเจอร์

The Riviera Santa Monica Jomtien ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดระหว่างถนนพัทยา-จอมเทียนสาย 2 (ซ.ชัยพฤกษ์ 1) และถนนสุขุมวิท (ซ.สุขุมวิท-พัทยา 68) บนพื้นที่รวม 3.7 ไร่ มีเส้นทางเข้าออกรวม 4 เส้นทาง เริ่มต้นการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2568 และจะมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2571

สำหรับในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับจองห้องพัก The Riviera Santa Monica Jomtien พบว่ามีลูกค้า-เอเยนซี่ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่ให้ความสนใจในโครงการนี้ทยอยเข้ารับบัตรคิวในการรับจองห้องพักกันอย่างคึกคัก ซึ่งทีมขายคาดว่าในวันแรกยอดจองจะมีสูงกว่า 60%

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ททท.เพชรบุรี ชวนเที่ยวงานฤดูหนาวพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน วาระ 100 ปี ตลอดเดือน ธ.ค.นี้

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.67 นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี เปิดเผยว่า ด้วยพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (ค่ายพระรามหก) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี กำหนดจัดงานฤดูหนาว พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน วาระ 100 ปี ณ สโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ทุกวันเสาร์ตลอดเดือนธันวาคม 67

เริ่มวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.67 เวลา 16.00 น.-18.00 น. ขอเชิญชมการแสดงกีต้าร์ Magical Melodies โดยศิลปิน ฮัคกี้ ไอเคิ้ลมานน์ (Hucky Eichelmann) มาบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และท่วงทำนองของไทยอื่นๆ พร้อมกับการอ่านบทพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา จากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบดนตรี (Madanabadha Suite) โดยศิลปินรับเชิญ ภัทราวดี มีชูธน (ศิลปินแห่งชาติ) อานันท์ นาคคง (ศิลปินศิลปาธร) อาทิตย์ ชีรวณิชย์กุล (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

วันเสาร์ที่ 14 ธ.ค.67 เชิญชมการแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ราชนาวี 25 ชิ้น (วง Light Music) กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ โดยการสนับสนุนของกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ร่วมด้วยกรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ ณ ท้องพระโรง พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน / เวลา 13.30 น. เปิดหน้าม่านโดยการแสดงลำตัดคณะลำตัดวงรากไทย โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จ.เพชรบุรี / เวลา 15.00 น.- 17.00 น. วงดุริยางค์ราชนาวี วันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.และวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.67 ชมการแสดงของสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา บทเพลงจากคีตนิพนธ์ร่วมสมัย รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเปิดโรง การขับเสภาและการอ่านทำนองเสนาะบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย กวินภพ ทองนาค (นิสิตปริญญามหาบัณฑิต จุฬาฯ) บทเสภาสามัคคีเสวก โคลงอารัมภกถาพระนลคำหลวง มงคลสูตรคำฉันท์ สยามานุสสติ สลับกับการอธิบายที่มาและความหมายของแต่ละบทโดย รศ.ดร.อาทิตย์ ชีรวณิชย์กุล (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ)

วันเสาร์ที่ 28 ธ.ค.67 ชมการแสดงของมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเปิดโรง วงดนตรีผู้หญิงล้วนแห่งเมืองเพชรบุรี ทั้งนี้การเข้าพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน บริจาคค่าเข้าชมตามอัตราปกติ ร่วมชมการแสดงไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสนับสนุนกิจกรรมโดยบริจาคสมทบทุนเพื่อการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี (ด้านดนตรีและการแสดง) มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตามจิตศรัทธา ติดต่อจองที่นั่งในท้องพระโรงในกล่องข้อความเพจ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน / Mrigadayavan Palace
ททท.สำนักงานเพชรบุรี จึงขอเชิญผู้ที่สนใจและนักท่องเที่ยวมาร่วมฟังดนตรีทุกบ่ายวันเสาร์ของเดือนธันวาคม 67 แล้วมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากร้านค้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รายได้เพื่อการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ให้คงอยู่สืบไป.

นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ร่วมจังหวัดนครราชสีมา จัดงาน Colorful Korat

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ร่วมกับ จ.นครราชสีมา จัดงาน Colorful Korat ระหว่างวันที่ 20 – 24 พฤศจิกายน 2567 โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยกานฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ณ สวนรัก อ.เมือง จ.นครราชสีมา

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ททท. ขานรับนโยบาย IGNITE THAILAND’s TOURISM : Soft Power & Sustainability โดยนำเสนอควบคู่กับ อัตลักษณ์ความเป็นไทย การผ่านกิจกรรมและเทศกาล Events & Festivals เปิดท่องเที่ยวได้ตลอดปี

เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้วัฒนธรรมไทย เปฺนจุดแข็ง ผ่านการร้อยเรียงเรื่องเราวในมุมมองใหม่ ที่ทันสมัยของภาคอิสาน อันเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวใน จ.นครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียงสามารถสร้างรายได้และ กระจายสู่ท้องถิ่น ตลอดจนระยะเวลาจัดงาน

นักท่องเที่ยวสามารถสำผัสสีสันในแบบอีสานที่ไม่ควรพลาด ระหว่างวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 – 22.30น ณ สวนรัก จังหวัดนครราชสีมา ภายในงานพบกับไฮไลต์สุดพิเศษ สัมผัสเอกลักษณ์ชองภาคอิสานในทุกมิติ

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อุบัติเหตุทางน้ำวันลอยกระทงเป็น”ศูนย์” สร้างภาพลักษณ์ “เมืองไทยปลอดภัย” ให้นักท่องเที่ยว

แชร์เนื้อหานี้

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ด้านความปลอดภัย) เปิดเผยถึงอุบัติเหตุทางน้ำวันลอยกระทงเป็นศูนย์ว่า จากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า (ศปก.จท.) สรุปรายงานสถิติอุบัติเหตุทางน้ำ วันลอยกระทง วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ไม่พบมีอุบัติเหตุทางน้ำ เหตุการณ์โดยรวมปกติ

จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางทางน้ำ “เทศกาลวันลอยกระทง” โดยแบ่งเป็นส่วนกลาง แม่น้ำเจ้าพระยา เรือด่วนเจ้าพระยา ให้บริการ 46 เที่ยว ผู้โดยสาร 5,547 คน เรือทัวริสต์โบ๊ทให้บริการ 60 เที่ยว ผู้โดยสาร 3,126 คน เรือไฟฟ้าเจ้าพระยา ให้บริการ 82 เที่ยว ผู้โดยสาร 3,620 คน เรือโดยสารข้ามฟาก ให้บริการ 924 เที่ยว ผู้โดยสาร 24,351 คน เรือภัตตาคาร ให้บริการ 36 เที่ยว ผู้โดยสาร 7,100 คน คลองแสนแสบ เรือโดยสารคลองแสนแสบ ให้บริการ 87 เที่ยว ผู้โดยสาร 7,141 คน ส่วนภูมิภาค เรือโดยสาร ให้บริการ 3,503 เที่ยว ผู้โดยสาร 162,811 คน รวมเรือโดยสารทั้งประเทศ ให้บริการ 4,738 เที่ยว ผู้โดยสาร 213,696 คน

ทั้งนี้ จากมาตรการด้านความปลอดภัยทางน้ำ กรมเจ้าท่า ในช่วงวันลอยกระทง ได้จัดเรือตรวจการณ์พร้อมเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราความปลอดภัย ทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองแสนแสบ พบว่ามีผู้ใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา เรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry เรือโดยสารข้ามฟาก มีปริมาณบางเบา เรือโดยสารให้บริการตามรอบการเดินเรือ สามารถระบายผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเรือตรวจการณ์และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนตามท่าเรือต่างๆ ตรวจสอบความพร้อมของเรือโดยสาร ท่าเรือโดยสาร และคนประจำเรือ รวมทั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ก่อนออกเดินเรือ ตามมาตรการความปลอดภัยที่กรมเจ้าท่ากำหนด

ในส่วนภูมิภาคเขต 1–7 มีการจัดตั้งจุดอำนวยความสะดวก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการตามท่าเรือต่างๆ ตรวจสอบความพร้อมของเรือโดยสาร ท่าเรือโดยสาร และคนประจำเรือ รวมทั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ก่อนออกเดินเรือ ตามมาตรการความปลอดภัย รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ควบคุมเรือคอยติดตามรายงานสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

ด้าน พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ประธานอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา กล่าวถึงอุบัติเหตุทางน้ำช่วงวันลอยกระทงปีนี้เป็นศูนย์ เกิดจากหลักการที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญ นำไปปฏิบัติใช้ เพื่อให้ทุกกิจกรรมความปลอดภัยไร้ซึ่งอุบัติเหตุ หรือทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเลย เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วย่อมส่งผลกระทบตามมาหลายอย่าง ตั้งแต่บาดเจ็บไปจนถึงการสูญเสียชีวิต แล้วยังส่งผลกระทบต่อรายได้ของประเทศที่พึ่งพิงภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ขอขอบคุณ ทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงาน ที่มุ่งมั่นป้องกันภาพลักษณ์ของประเทศ ผ่านการวางแผนและบริหารจัดการความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นศูนย์ โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์์เพ็ชร ผบ.ตร. ที่ท่านสั่งการให้ตำรวจน้ำ ตำรวจท้องที่ รวมทั้งกรมเจ้าท่า ช่วยเฝ้าระวังป้องกันเหตุไม่ให้เกิดกับนักท่องเที่ยว

เข้าสู่เทศกาล. ลองกองเมืองลับแล หัวดง อุตรดิตถ์ ตั้งคณะกรรมการเข้มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพลองกอง

แชร์เนื้อหานี้


วันที่ 24 ก.ย.67 จ่าสิบเอกธวัชชัย กาวีละ รองนายกเทศมนตรีตำบลหัวดง อำเภอลับแล ได้ลงพื้นที่ตลาดกลางผลไม้สินค้าโอทอปเทศบาลตำบลหัวดง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อประชาสัมพันธ์การเพิ่มประสิทธิภาพยกระดับลองกอง ที่เกษตกรชาวสวนได้นำมาจำหน่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อเพื่อไปจำหน่าย ซึ่งภายในตลาดกลางผลไม้สินค้าโอทอปเทศบาลตำบลหัวดง ได้มีเกษตกรชาวสวนนำลองกองจากสวนที่คัดช่ออย่างสวยงามนำมาจำหน่ายจำนวนมาก


จ่าสิบเอกธวัชชัย กาวีละ รองนายกเทศมนตรีตำบลหัวดง กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงต้นฤดูกาลของการให้ผลผลิตลองกอง ได้มีเกษตรกรชาวสวนนำลองกองมาจำหน่ายภายในตลาดกลางผลไม้สินค้าโอทอปเทศบาลตับลหัวดงกันต่อเนื่อง ทางเทศบาลฯจึงได้จัดตั้งคณะกรรมการในการตรวตสอบมาตรฐานของลองขึ้นมา โดยย้ำ


1.เกษตกรชาวสวนก่อนจะนำมาจำหน่ายให้คัดลองกองก่อน อย่าให้มีลองกองที่มีลูกแตก ลูกเน่า ลูกเขียว และหากพบว่าเจอเม็ดรีบเม็ดเล็กให้เด็ดออก
2.เน้นย้ำไม่ให้มีการนำลองกองที่ร่วงใส่ผสมกับลองกองช่อ ยกเว้นที่ใส่ในเข่งเป็นช่อมาแล้วเกิดการร่วงในระหว่างเดินทางซึ่งไม่เกิน 1 กิโลกรัม



“นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลหัวดง ยังได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับลองกองกองกันอย่างต่อเนื่องภายในตลาดด้วย ดังนั้น จึงอยากจะขอเชิญชวนร่วมสนับสนุนผลผลิตลองกองของเกษตรกร ซึ่งออกสู่ตลาดมากในเดือนกันยายนและตุลาคมนี้ นอกจากช่วยสนับสนุนเกษตรกรแล้วยังเป็นกำลังใจให้กับเกษตรกรในการผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพและยังช่วยกันร่วมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนอีกด้วย” จ่าสิบเอกธวัชชัย กล่าว



นาคา คะเลิศรัมย์ /รายงาน