คลังเก็บหมวดหมู่: บันเทิง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าว The Iconic Star Serch การแข่งขันเพื่อเฟ้นหาดาวดวงใหม่ สู่การเป็นนักแสดง ซีรีส์..วาย เข้าสู่วงการบันเทิง เงินรางวัล กว่า 600,000 บาท

แชร์เนื้อหานี้

2 ตุลาคม 2568 (กรุงเทพมหานครฯ) “คุณสมชัย รัตนวรางกูร ผู้จัดการประกวด พร้อมด้วย คุณหนุ่ม นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม ,คุณสถาพร นาควิไลโรจน์ ผู้กำกับภาพยนต์ ละคร และ คุณขิง ชัญญานุช Project Manager “แถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อค้นหาหนุ่มหล่อ นักแสดงซีรีส์..วาย The Icon Star Serch เวทีการประกวดที่มีเป้าหมาย เพียงหนึ่งเดียว คือ ค้นหานักแสดงซีรีส์

The search for a new star begins now : ถึงเวลาตามหาดาวดวงใหม่!การแข่งขันเพื่อเฟ้นหาดาวดวงใหม่ สู่การเป็นนักแสดงซีรีส์วายกับ Project : The Iconic Star Search หากคุณคือคนที่มีความฝันอยากเข้าสู่วงการบันเทิง พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานซีรีส์วาย

บรรยากาศงานแถลงข่าวการประกวด The Iconic Star Search เวทีการประกวดด้วยเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว คือการค้นหานักแสดงซีรีส์หน้าใหม่ โดยปลายทางคือการได้มีโอกาสเป็นเป็นนักแสดง และโอกาสอีกมากมายในวงการบันเทิง โดยงานแถลงข่าวในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก สองหนุ่มนักแสดง ต๋อง ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา,น็อต ณัฐสิทธิ์ ปัญญางาม และ ท่านเปา อนุชา ศรีเหรา ศรีเอเตอร์ ชื่อดัง เข้าร่วมงานแถลงข่าว

และถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Boys’ Love Series ที่เราจะมาร่วมกันเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ ที่มีความฝันพร้อม Passion อันแรงกล้า ที่จะมาร่วมเดินบนเส้นทาง นี้ไปด้วยกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่า Project : The Iconic Star Search ในครั้งนี้ทางทีม ผู้จัดตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่จะนำพาน้องๆ รุ่นใหม่ไปสู่ความสำเร็จในวงการบันเทิง พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท และต่อยอดเข้าสู่วงการบันเทิง

Overall Timeline5 พฤศจิกายน 2568 ประกาศผลผู้ที่ผ่านเข้ารอบ20 พฤศจิกายน 2568 Voice Class /Modeling Class
21 พฤศจิกายน 2568 Acting Class22 พฤศจิกายน 2568 Black Room Interview23 พฤศจิกายน 2568 Final Competitionเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกรอกใบสมัครมาได้เลย : https://forms.gle/r2YwGUxdb3Yftgmv6

theiconicstarsearchติดตามรายละเอียดได้ที่
The lconic Star Search

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ธี่หยด 3” กาล่าพรีเมียร์สุดยิ่งใหญ่!!!เปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2568 ก่อนสะพรึงเต็มตา 1 ตุลาคมนี้

แชร์เนื้อหานี้

สมศักดิ์ศรีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จาก ช่อง 3 และ M Studio เมื่อ “ธี่หยด 3” ได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์เปิดเทศกาล (opening film) ของงาน Bangkok Internationnal Film Festival 2025 (BKKIFF 2025) โดยจัดฉายรอบกาล่าพรีเมียร์สุดอลังการ ณ THE PINNACLE HALL ICONSIAM

งานนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก นำทีมโดยผู้บริหารและทีมสร้าง ได้แก่ คุณเทรซีแอนน์ มาลีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บมจ.บีอีซี เวิลด์, คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M Studio ผู้อำนวยการสร้าง , ผู้กำกับภาพยนตร์ แป๊ป-ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์, ต้อม-ธนเดช ประดิษฐ์ และผู้เขียนบท สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์

พร้อมด้วยทัพนักแสดงอย่างคับคั่ง อาทิ ณเดชน์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา, นีน่า ณัฐชา, จูเนียร์ กาจบัณฑิต, เฟรนด์ พีระกฤตย์, มิ้ม รัตนวดี, แฉะ องอาจ, แพรว เฌอมาวีร์, แก๊ป จักริน, ออม มานิตา, เพียว ดวงใจ, โซเฟีย ทิพปภา และ น้ำมนต์ พัสมนตร์ ที่ร่วมเดินพรมแดงสุดอลังการ เรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ได้อย่างล้นหลาม

ภายในงานยังมีไฮไลต์พิเศษของค่ำคืนคือการแสดงสดจากวงร็อกชื่อดัง Bodyslam ที่มอบบทเพลง “คิดถึง” ถ่ายทอดความรู้สึกของ “พี่ยักษ์” (ณเดชน์ คูกิมิยะ) และเพลงฮิต “แสงสุดท้าย” ก่อนเชิญทีมงานและนักแสดงจากภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” มาร่วมพูดคุย กับการเผชิญหน้าสู่บทสรุปสุดท้าย… ที่มีความสยองยิ่งกว่าครั้งไหน เพราะผีร้ายกำลังกลับมาเอาคืน! สร้างบรรยากาศเข้มข้นและประทับใจก่อนร่วมรับชมภาพยนตร์ไปพร้อมกัน

เรื่องย่อ หลังจากเหตุการณ์ร้ายผ่านไป ครอบครัวตัว ย. ได้กลับมามีชีวิตปกติสุขอีกครั้ง “ยักษ์” เริ่มนึกถึงการกลับไปทำในสิ่งที่ตนเองรัก คือการเป็นทหาร แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ “ยี่” น้องสาวคนเล็กของบ้าน โดนจับตัวไปโดยพวกผีที่ยักษ์ไม่เคยพบเจอมาก่อน ครั้งนี้ ยักษ์และจ่าปพันธ์ต้องรีบออกเดินทางตามหายี่กลับมา

ก่อนที่เรื่องเลวร้ายจะเกิดขึ้น แต่การเดินทางครั้งใหม่นี้จะพาพวกเขาไปเจอกับจุดเริ่มต้นของความสยองเกินคาดเดา ผ่านหนทางสุดลึกลับและอันตรายกว่าที่เคย! ธี่หยด 3 | 1 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ พร้อมสัมผัสความสยองเต็มรูปแบบ ทั้งระบบปกติ , ระบบเสียง IMAX ด้วยสัดส่วนภาพ IMAX 1.9:1 เต็มจอตลอดเรื่อง พร้อมด้วยระบบเสียง IMAX 12-Channel Sound และ DOLBY ATMOS

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เกลิน&เล้ง” นำทีมนักแสดงไหว้ขอพร “พระพิฆเนศร์” เปิดกล้องซีรีส์แนวตั้ง “ปานดวงใจ Signature”

แชร์เนื้อหานี้

ถือฤกษ์ดีเสาร์ที่ 27 กันยายน 2568 เวลา 09.39 น. นักแสดงจากซีรีส์แนวตั้ง “ปานดวงใจ Signature” นำทีมโดยนางเอกน้องใหม่ เกลิน-ธัญรดี ชาญชนินท์กุล ควงคู่มากับพระเอกเคมีใหม่ เล้ง-ณัฐพล นิลดอนหวาย ที่พักจากงานซีรีส์วายมาสวมบทพระเอกในซีรีส์แนวตั้งแนวโรแมนติกดราม่า เข้าร่วมพิธีไหว้ขอพรองค์พระพิฆเนศร์ เอาฤกษ์เบิกชัยในการเปิดกล้องซีรีส์เรื่องนี้ ณ ลานพระพิฆเนศร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ วังหน้า กรุงเทพ

โดยมีเพื่อนๆ นักแสดงเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมหน้า อาทิ บิว-ลลิฉัตร์ วราวิโรจน์พล ที่ขอสวมบทร้ายอย่างครบสูตร ร่วมด้วย แสตมป์-พรวศิน เรืองนุกูล, พรีเมียร์-ศรัญญา วงศ์สุนทร, ลาเต้-กฤษดา ธนากร, ปิ๊งปิ๊ง-รภัทร เอกนิธิเศรษฐ์, โฟล์ค-รัชนนท์ ขจิตพรพันธ์, วายุ-วายุมันตรา วงศ์ปัญญาเสถียร และขอแนะนำนักแสดงน้องใหม่ คีธ-กรินทร์ กนกวลีวงศ์ กับบทบาทสุดท้าทายครั้งแรกในชีวิต!!!

“ปานดวงใจ Signature” ซีรีส์แนวตั้งโรแมนติก-ดราม่า เค้าโครงเรื่อง-โปรดิวเซอร์ : ดร.วโรดม ศิริสุข บทโทรทัศน์-กำกับการแสดง : วลงกรณ์ จับใจ ผลิตโดย : บริษัท 9 สตาร์กรุ๊ป จำกัด ควบคุมการผลิต : ดร.กัญฐณา สนเจริญ “ปานรูปหัวใจ” ที่กลางแผ่นหลัง คือกุญแจชะตาชีวิต ที่จะเปลี่ยนความรัก ความริษยา และความลับของครอบครัวไปตลอดกาล…พบกับ ความรัก ความลับ และโชคชะตาที่พลิกผัน

นำไปสู่ความเจ็บปวด น้ำตา และการให้อภัย ซีรีส์โรแมนติก–ดราม่า ที่จะทำให้คุณเชื่อว่า…“ไม่มีใครหนีโชคชะตาได้ โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ” “ปานดวงใจ Signature” Vertical Series จะได้ฤกษ์เปิดกล้องถ่ายทำเร็วๆ นี้ ขอบคุณผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ อาทิ ตลาดเพชรพิชญา จ.นครสวรรค์,

Hangover@Nakhonsawan, EMMY HAIR PROFESSIONAL, น้ำดื่ม C2, เดอะลิตเติ้ล บี คลับ แอนด์ มิวสิค, อ่องหลองมิวสิค, มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 189 Café และ ผลิตภัณฑ์ในเครือ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “แอนดริว เกร้กสัน” แท็กทีม “โดนัท มนัสนันท์” และทัพนักแสดงสร้างความหลอนในรอบกาล่าพรีเมียร์ “เวียนว่ายตายเกิด” 11 ก.ย. นี้! ทุกโรงภาพยนตร์!!!

แชร์เนื้อหานี้

ห่างหายจากวงการแสดงหนังไปนานกว่า 20 ปี นักแสดงหนุ่ม “แอนดริว เกร้กสัน” หวนกลับคืนมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้งกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญสุดลี้ลับ “เวียนว่ายตายเกิด” (The Cycle) เสริมทัพความเข้มข้นเหล่านักแสดงแถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมสร้างความระทึก ผลงานการกำกับของ “จิ๊บ – ทิวา เมยไธสง” ผู้กำกับที่มากประสบการณ์ โดยเฉพาะงานหนังสยองขวัญ และหนังแนวฆาตกรรมที่เรียกว่าทำสุดทำถึง!!!

ในงานแถลงกาล่ารอบพรีเมียร์ภาพยนตร์ลี้ลับ “เวียนว่ายตายเกิด” ขนทีมนักแสดงนำโดย แอนดริว เกร้กสัน, โดนัท มนัสนันท์, นวลปรางค์ ตรีชิต, ฌัชฌา รุจินานนท์, สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ และผู้กับกับ “จิ๊บ ทิวา เมยไธสง” ที่พร้อมพาเราไปสัมผัสประสบการณ์สยองขวัญที่จะทำให้คุณต้องลุ้นทุกวินาที! ณ เอสเอฟเวิลด์ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้การันตีเลยว่าไม่ธรรมดา

เพราะยืนยันด้วยสมญานามของ แอนดริว ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความพิถีพิถันในการเลือกรับงานแสดงในแต่ละครั้ง ซึ่งทุก ๆ ผลงานที่ออกมาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง กับบทบาทสุดท้าทายในเรื่องนี้ ที่ไม่เพียงแค่จะทดสอบความสามารถในการแสดงเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนาและความน่ากลัวที่ตามหลอนไปทุกย่างก้าว

และการจับคู่กันของ แอนดริว เกร้กสัน และ โดนัท มนัสนันท์ ที่เรื่องนี้ทั้งคู่ โคจรมาร่วมงานกันเป็นครั้งแรก ซึ่ง โดนัท มารับบทเป็น “ผิง” สถาปนิกสาวที่มีปมอดีตฝั่งใจ ที่ดูเหมือนจะมีชีวิตที่อบอุ่น แต่ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ

จะทำให้ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งการร่วมงานของทั้งสองคนในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอความตึงเครียดระหว่างตัวละครที่ทั้งคู่ต้องเผชิญกับปริศนาและอันตรายที่ตามมา ทั้งในด้านอารมณ์และความกลัวที่ทวีคูณ

เมื่อทั้งคู่ต้องตัดสินใจร่วมกันในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความสยองขวัญ “เวียนว่ายตายเกิด” (The Cycle) เริ่มต้นจากครอบครัวอันแสนอบอุ่นของ “สารวัตรพุฒิ” ตำรวจหนุ่มที่ไม่เชื่อในสิ่งเร้นลับ, “ผิง” สถาปนิกสาวที่มีปมอดีตฝั่งใจ และ “น้องภู” ลูกชายที่ไม่ค่อยมีสุขภาพดีเท่าไร แต่แล้วพวกเขากลับได้รับโทรศัพท์ลึกลับจาก “น้องสาว” ที่ตายไปแล้วซึ่งกลับชาติมาเกิดใหม่

สถานการณ์เริ่มเลวร้ายเมื่อครอบครัวถูกคุกคามโดยญาติที่ไม่ยอมรับ และลัทธิประหลาดในป่าอันห่างไกล ความน่ากลัวของ “เวรกรรม” หรือ “ปีศาจ” จะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของพวกเขา
“เวียนว่ายตายเกิด” จะพาคุณไปเผชิญหน้ากับความลึกลับที่ซับซ้อน ในวันที่ 11 กันยายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์ อย่าพลาด! มาร่วมค้นหาคำตอบว่าจะเป็น เวรกรรม หรือ ปีศาจ ที่ตามล่าชีวิตของพวกเขา!

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “บีบี” สาวน้อยวัย 16 คว้าแชมป์ The Face Thailand Season 6เฉือน “ไฮดี้ – กวาง” สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ที่อายุน้อยที่สุด

แชร์เนื้อหานี้

“บีบี – บียังคา ณฐมน โพลัค” สาวน้อยวัย 16 ปี จากทีมเมนเทอร์ “แพนเค้ก” กระโดดตัวลอยปล่อยพลังดีใจแบบสุดตัว หลังเฉือนชนะตัวเต็ง “ไฮดี้-กวาง” คว้าแชมป์ The Face Thailand คนที่ 9 ของเมืองไทย สร้างประวัติศาสตร์แชมป์ที่อายุน้อยที่สุดของ The Face Thailand พากระแสโซเชียลมีเดีย ดัน #TheFaceThailand6 บน X ขึ้น trending อันดับ 1 ทันที

เดินทางมาถึงบทสรุปของตำนานบทใหม่! The Face Thailand Season 6 ปิดฉาก Final Walk อย่างสมศักดิ์ศรี ตอกย้ำความเป็นรายการเรียลลิตี้ระดับตำนานที่แฟน ๆ ตั้งตารอคอย ตลอดซีซันอัดแน่นด้วยดราม่า ความเข้มข้น และแคมเปญสุดหินที่ฟาดกันไม่ยั้งแบบ EP ต่อ EP สร้างไวรัลสุดแซ่บและมีมฉ่ำ ๆ จุดกระแสโซเชียลลุกเป็นไฟ ก่อนทุกอย่างจะถึงจุดไคลแมกซ์ในรอบชิงชนะเลิศที่เดิมพันด้วยเกียรติยศและตำแหน่ง The Face Thailand คนใหม่! ภายใต้ธีม “Power of Self, Own Your Value” เพื่อเฟ้นหาตัวจริงที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องเปี่ยมด้วยพลังและคุณค่าในแบบของตัวเอง

ประเดิมรันเวย์ด้วย โชว์สุดอลังการ ที่ขนผู้เข้าแข่งขันทั้ง 15 คนกลับมารวมตัว พร้อม 3 เมนเทอร์ มารีญา, แอนโทเนีย และแพนเค้ก และการปรากฏตัวของ Master Mentor แอน ทองประสม บนรันเวย์ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง ท่ามกลางบรรยากาศสุดอลังการจาก Kantana Virtual Production Studio ที่เนรมิตรันเวย์ “สุดจึ้ง” ขึ้นมาโดยเฉพาะ

พร้อมไฮไลต์ของ Final Walk ที่รวมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาร่วมตัดสินชี้ชะตา The Face Thailand คนที่ 9 ของประเทศ ได้แก่ ป้าตือ สมบัษร ถิระสาโรช, พี่ม้า อรนภา กฤษฎี, หนุ่ม อภิวัฒน์ ยศประพันธ์, พี่ติ๋ม พันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์, หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล, สตางค์ ดิษย์ลดา ดิษยนันทน์ กัลย์จาฤก และ Master Mentor แอน ทองประสม

แคมเปญส่งท้ายชี้ชะตากับโจทย์สุดหินที่ The Face Thailand เคยมีมา ในการตัดสินรอบ Final Walk ผู้เข้าแข่งขันตัวแทนทั้ง 3 ทีม ไฮดี้ – อมันดา อแมนด้า เจนเซ่น, บีบี – บียังคา ณฐมน โพลัค และ กวาง – กฤษฎา วันเพ็ญ ต้องสู้กับบททดสอบสุดท้ายในแคมเปญสุดหินภายใต้โจทย์การแสดงที่ต้องสวมบทเป็น พระวิสุทธิกษัตรีย์ จากบทละคร กษัตริยา เป็นบทประพันธ์โดยคุณทมยันตี ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์แนวดราม่าอิงประวัติศาสตร์ในปี 2546 ที่มาในรูปแบบมิวสิคัลเธียเตอร์แบบร่วมสมัย โดยได้รับเกียรติจาก ครูเล็ก ภัทราวดี ศิลปินแห่งชาติ มาร่วมตัดสิน

ที่แม้แต่ คุณเต้ ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก รองประธานกรรมการบริหารด้านงานสร้างสรรค์ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการสร้าง The Face Thailand ยังยอมรับว่านี่คือแคมเปญที่ “หิน และยากที่สุดที่ The Face Thailand เคยทำมา” ถือเป็นบททดสอบส่งท้ายปิดฉากซีซัน 6 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี และผู้ที่สามารถฝ่าด่านสุดหินนี้ไปได้ คือ “บีบี – บียังคา ณฐมน โพลัค” สาวน้อยวัย 16 ปีจากทีมเมนเทอร์ แพนเค้ก แม้จะเป็นน้องเล็กแต่โชว์พลังความมั่นใจ ถ่ายทอดทุกอารมณ์ของการแสดงได้อย่างสมบูรณ์ จนได้คว้าชัยชนะไปครอง

และแม้จะมีกติกาใหม่ระบุชัดว่า ผู้ที่ไม่ชนะในแคมเปญการแสดงสุดท้ายจะหมดสิทธิ์ร่วมเดิน Final Walk แต่ Master Mentor แอน ทองประสม จากที่ใคร ๆ คาดว่าจะออกมาฟาด กลับพลิกบทเป็น “แม่พระ” เพราะทุกความทุ่มเทของทั้ง ไฮดี้ และ กวาง ทำเอาคณะกรรมการและผู้ชมขนลุกไปทั้งสตูดิโอ พร้อมประกาศให้ทั้ง ไฮดี้ และ กวาง ได้สิทธิ์ร่วมเดิน Final Walk คู่กับผู้ที่ชนะแคมเปญ ทำเอาเสียงเฮดังสนั่น สร้างโมเมนต์ซาบซึ้งและประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำอีกครั้งของ The Face Thailand

แซ่บ หรู แพง! โชว์ ‘Diamond’ ที่รวมตัว legend ของ The Face Thailand ไว้บนรันเวย์ ในรอบ Final Walk ยังคงจัดเต็มไม่เคยทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เมื่อเวทีถูกเนรมิตให้ลุกเป็นไฟด้วยการยกทัพ อดีตเมนเทอร์ตัวแม่ระดับ legend อาทิ หญิง–รฐา, พลอย–เฌอมาลย์, ริต้า–ศรีริต้า, หมู อาซาว่า และโทนี่ รากแก่น มารวมพลังบนรันเวย์ ขณะเดียวกัน “ครอบครัว The Face Thailand” ตัวจี๊ดทั้ง ซาบีน่า – ไมซิงเกอร์ แชมป์คนแรก The Face Thailand Season 1, ติช่า – กันติชา ชุมมะ แชมป์ The Face Thailand Season 2, จีน่า – วิรายา วงศ์ศิริ แชมป์ The Face Thailand Season 4 All Stars , ฟิลลิป – ณัทธนพล ทินโรจน์ แชมป์ The Face Men Thailand Season 1 และ บอส – ธฤต ธีรพงศ์ชัย แชมป์ The Face Men Thailand Season 2 ก็กลับมาตบเท้าเติมความเผ็ด สร้างสีสันให้โชว์สุดพิเศษกับเพลง “Diamond” ที่ทั้งแซ่บ ทั้งหรูหรา และแพงสมการรอคอย

Final Walk 3 ทีม 3 สี ที่ถ่ายทอดพลังและคุณค่าเต็มรันเวย์
ใน Final Walk ครั้งนี้ เหล่าผู้เข้าแข่งขันทั้งสาม พร้อมด้วยเมนเทอร์ ต้องร่วมกันสร้างสรรค์โชว์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Walk For Your Own Value” โดยใช้ธีมสีที่เมนเทอร์สุ่มได้ เพื่อถ่ายทอดตัวตนและพลังอย่างเต็มที่บนรันเวย์ นำโดย บีบี – บียังคา ณฐมน โพลัค จากทีมเมนเทอร์แพนเค้ก ที่มาพร้อมโชว์ในธีม Age Is Limitless ต่อด้วย ไฮดี้ – อมันดา อแมนด้า เจนเซ่น ทีมเมนเทอร์มารีญา ที่ขนพลังความมั่นใจมาในธีม Earth Is Our Only Home และ กวาง – กฤชญา วันเพ็ญ ทีมเมนเทอร์แอนโทเนีย ที่สับรันเวย์ในธีม Born Beyond Limits ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแบทเทิลสุดเดือดบนรันเวย์ของทั้ง 3 ผู้เข้าแข่งขันบนเวที Final Walk ที่ทำให้บรรยากาศในสตูดิโอร้อนระอุ

และผลตัดสินก็เป็นที่ประจักษ์ สำหรับ ผู้ชนะ The Face Thailand คนที่ 9 ของประเทศไทย คือ ‘บีบี – บียังคา ณฐมน โพลัค’ สาวน้อยวัย 16 ปีจากทีมเมนเทอร์แพนเค้ก ที่ถือว่าน้องเล็กประจำซีซัน แต่ความสามารถไม่เล็ก ด้วยเอเนอร์จี้สุดล้น และความสามารถที่เกินวัย ทำให้เธอโดดเด่น และคว้าแชมป์ The Face Thailand คนที่ 9 ของเมืองไทย ไปครอง

ผู้ชนะ The Face Thailand Season 6 จะได้ร่วมงานกับ TRESemmé แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับโลก ในฐานะ Brand Endorser of TRESemmé พร้อมทั้งได้ถ่ายแฟชั่นขึ้นปกนิตยสาร Hashtag Legend Thailand ที่ประเทศฮ่องกง โดยทีมงานมืออาชีพระดับตำนานของวงการ อีกทั้งยังได้รับโอกาสเป็น The Face of AHC เพื่อร่วมงานกับแบรนด์ AHC และได้เป็น Friend of Vaseline ทำงานร่วมกับแบรนด์ วาสลีน ประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 1 ปี

นอกจากนี้ยังได้รับของรางวัลจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย อาทิ Samsung, SOLAURA, คอมบูฉะ ไฟเบอร์ มายเดลี่, IN2IT, SHU, Leila Amulets และอีกหลายแบรนด์ พร้อมทั้งได้เซ็นสัญญากับ กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รวมมูลค่ารางวัลกว่า 1 ล้านบาท

พร้อมติดตามทุกความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ผ่านทาง Facebook Fanpage : The Face Thailand , Instagram : The Face Thailand , X : The Face Thailand 6 และ TikTok : theface_thailandTheFaceThailand6 #KantanaTeamAnntonia #TeamMaria #TeamPancakeLoveMyJob #บันเทิงTikTok

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “โก๊ะตี๋” ซุ่มซ้อมรำมโนราห์เพียง 1 ชั่วโมง เข้าฉากปะทะ ครูไข่เหลี้ยมครูมโนราห์ชื่อดังงัดภูมิ “ลิเกเก่า” เทคเดียวผ่านฉลุยในซีรีส์ “คู่เตะแข้งบิน”

แชร์เนื้อหานี้

“โก๊ะตี๋ ชัยกฤต อ่อนละม้าย” ศิลปินนักแสดงชื่อดังเปิดประสบการณ์เรียน “รำมโนราห์” อย่างจริงจังกับ “ครูไข่เหลี้ยม” ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการแสดงพื้นบ้านชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยแรงบันดาลใจอยากสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย เพื่อส่งต่อคุณค่าศิลปะให้เข้าถึงผู้ชมทุกวัย การเรียนรำมโนราห์ครั้งนี้เริ่มตั้งแต่ถ่ายทอดแก่นแท้และกริยาของมโนราห์ และความเคารพต่อครูบาอาจารย์เริ่มจากขั้นตอนพิธีไหว้ครู,จังหวะและท่วงท่าพื้นฐาน ไปจนถึงรายละเอียดการวางมือ ปลายเท้า ลมหายใจ และสมาธิในขณะรำ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงจิตวิญญาณของศิลปะ ไม่ใช่เพียงจำท่าเท่านั้น ซึ่งเพราะความเป็นลิเกเก่าของ โก๊ะตี๋ จึงทำให้ใช้เวลาในการเรียนเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ก็สามารถร่ายรำท่วงท่าของมโนราห์ออกมาได้อย่างสวยงามจนครูไข่เหลี้ยมถึงกับปรบมือให้กับลูกศิษย์คนนี้“การก้าวจากเวทีบันเทิงสู่เวทีศิลปะพื้นบ้านเป็นความท้าทายใหม่ๆ ที่ต้องอาศัยวินัย ความอดทน และความตั้งใจจริง แต่กลับทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งในความงามและคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น

ผมมีความตั้งใจมากที่จะใช้พลังของสื่อและฐานแฟนคลับเพื่อชักชวนให้สังคมหันมาสนใจในมโนราห์มากขึ้น ยิ่งเมื่อได้มาร่วมแสดงในซีรีส์ “คู่เตะแข้งบิน” ที่มีเรื่องราวในภาคใต้ เราซึ่งเป็นน้องของครูสอนมโนราห์ คือ มโนราห์ไข่เหลี้ยม ก็ต้องรำให้เป็นก็เลยถือโอกาสเรียนซะเลย ซึ่งปรากฏว่าทุกท่วงท่าการรำ มีความคล้ายคลึงกับลิเกมากๆ ไม่ว่าจะจีบ จะรำ เพียงแต่จะต้องวาดแขน การจีบ การวางมืออีกแบบหนึ่ง ผมรู้สึกชอบมากๆ และที่สำคัญผมถ่ายฉากรำนี้แค่เทคเดียวผ่านเลย ก็ตะลึงกับตัวเองเหมือนกันครับ” โก๊ะตี๋กล่าว ด้านครูไข่เหลี้ยม (คุณภูมิพัฒน์ อนุวัฒนวงศ์) กล่าวว่า “การมีบุคคลสาธารณะเข้ามาเรียนรู้และสื่อสารอย่างถูกต้อง ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนและสังคมวงกว้าง ที่สำคัญคือการรักษามาตรฐานทางศิลปะ ตลอดจนความถูกต้องของแบบแผน และการเคารพรากเหง้าทางวัฒนธรรมควบคู่กันไปด้วยครับ ซึ่งผมรู้สึกดีใจมากๆที่ได้มีโอกาสสอนคุณโก๊ะตี๋ที่เป็นคนที่เก่งและมีพรสวรรค์ด้านศิลปะทุกรูปแบบจริงๆครับคนนี้ ” โดยฉากการรำมโนราห์ ของ โก๊ะตี๋ ปะทะ ครูไข่เหลี้ยม นี้ จะออนแอร์ในคืนวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม เวลา 22.25-23.25 น. ทาง ช่อง 3HD

”คู่เตะแข้งบิน” นำเสนอเรื่องราวของเยาวชนกลุ่มหนึ่ง ที่กล้าจะก้าวเพื่อไปตามหาและคว้าความฝันในกีฬาฟุตบอลที่เขารัก กำกับฯ โดย บอมบ์ อัศจรรย์ สัตโกวิท (แห่ง ถอดรหัสวิญญาณ และ มึง กู เพื่อนกันจนวันตาย) โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่เป็นกองหลังในการผลักดันให้เกิดการสร้างซีรีส์สร้างสรรค์สังคม แนว Sport and Inspiration นี้ขึ้นมา นำแสดงโดย โก๊ะตี๋ ชัยกฤต อ่อนละม้าย ร่วมด้วย จิ้ม ชวนชื่น, ต็อก ศุภกร,จุ๊บแจง ชาลีจังหาญ,เอ-วีระชัย หัตถโกวิท, อาเกรียง-พันธมิตร,สนธยา ชิดมณี,แจ็ค ไอเฟล ,ปู-ปริศนา ,โก้-ธีระศักดิ์ ,คุณภูมิพัฒน์ อนุวัฒนวงศ์ และยังได้รับเกียรติจาก “โจนาธาร เข็มดี” กองหลังทีมชาติไทยจากสโมสร Ratchaburi FC พร้อมดาวเด่นจากทีมบอลเยาวชนทั่วประเทศมาร่วมแสดงอาทิ วีเซนเต้-จรัสรวี วุฒิเจริญสุข รับบทพลุ (นักฟุตบอลเยาวชน ทีม การท่าเรือ) ,อิท- ขจรศักดิ์ สักกะณรงค์(นักฟุตบอลโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี), พีค-พิชญะ ชัยวรางกุล นักฟุตบอลเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกร่วมทีมชาติไทย U17, สแนค-ธีรเดช ชนะสุวรรณดำรง ฯลฯ และนางเอกดาวรุ่งหน้าใหม่ ไข่มุก-ชนัญญา เลิศวัฒนามงคล

“คู่เตะแข้งบิน” ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 22.25- 23.25 น. ทางช่อง 33 และทางแอพพลิเคชั่น 3Plus

วัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย พระไพศาลประชาทร วิ. หลวงพ่อพบโชค.เป็นเจ้าอาวาส (ท่องไปกับเอกสิทธิ์)

แชร์เนื้อหานี้

วัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย พระไพศาลประชาทร วิ. หลวงพ่อพบโชค.เป็นเจ้าอาวาส

https://youtu.be/TltlQ6ds82A

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เหนือ-ดิสรยา” นำทีมบวงสรวงซีรีส์แซฟฟิกโรแมนติกดราม่าเรื่อง “Dangerous Queen The Series คนโปรดของควีน”รั้งตำแหน่ง “ผู้จัดฯ หน้าใหม่ ” ในนาม “แสงเหนือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์”

แชร์เนื้อหานี้

เรียกได้ว่าเป็น “ลูกไม้หล่นใต้ต้น” จริงๆ สำหรับลูกสาวคนสวยของผู้จัดฯ คนเก่ง กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ แห่งค่ายปภัสราโปรดักชั่น อย่าง เหนือ-ดิสรยา เตชะไพบูลย์ เดินตามรอยคุณแม่มาติดๆ ด้วยการขึ้นแท่นเป็น “ผู้จัดฯ ป้ายแดง” เปิดบริษัทผลิตซีรีส์แซฟฟิกแนวโรแมนติกดราม่าเรื่องแรก “Dangerous Queen The Series คนโปรดของควีน” ในนาม บริษัท แสงเหนือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด”

“แสงเหนือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ถือฤกษ์ดีจัดงานบวงสรวงซีรีส์เรื่องแรกของบริษัทฯ “Dangerous Queen The Series คนโปรดของควีน” จากปลายปากกา “คุณผู้หญิง” บทโทรทัศน์โดย เทวรินทร์ ศิริเลิศ / ทิพย์ทิวา วะเท กำกับการแสดงโดย กษมา นิสสัยพันธุ์ จำนวนออกอากาศ 8 ตอน

งานนี้มีนักแสดงนำและทีมงานเข้าร่วมพิธีบวงสรวง ณ ลานพระพิฆเนศวร ห้างสรรพสินค้ายู เนี่ยนมอลล์ พร้อมด้วยสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมทำข่าวอย่างคับคั่ง นำทีมโดย เหนือ-ดิสรยา เตชะไพบูลย์ ที่มาพร้อมคุณแม่ กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมือ อาทิ อั๋น-อัครพรรฒ บุนนาค, เอี๊ยง-สิทธา สภานุชาติ, แทน-บุรันช์รัตน์ หอมบุตร, ชาลี กรีชัย

ขอแนะนำนักแสดงหน้าใหม่ แตงกวา-พิญญาเนศวร์ อั้งสุวรรณ กับงานแสดงครั้งแรกของเธอ และการกำเนิด Girl Love คู่ใหม่ของวงการบันเทิง “เหนือ-แตงกวา” ที่จะมาทำให้แฟนๆ ตกหลุมรักในความน่ารักและความฟินเฟร่อ…ของเธอทั้งคู่!!!
โดย “เหนือ-ดิสรยา” เผยถึงที่มาของการผลิตซีรีส์แซฟฟิกเรื่องแรกของบริษัทฯ ว่า

“หลังจบละคร สองทระนง แล้วว่าง แล้วรู้สึกว่าตัวเองชอบการแสดง แล้วก็อยากจะทำซีรีส์แนวแซฟฟิก ก็เริ่มจากการหาเรื่องมาทำก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็อ่านนิยายเยอะมาก จนกระทั่งมาถึงเรื่องนี้ อ่านแล้วชอบมาก ก็เลยเล่นเองด้วยค่ะ

พอมาได้มาทำจริงๆ อยากจะบอกว่าเหนื่อยมาก คือตอนที่เปิดกล้องวันแรก ตอนนั้นคือเหนื่อยมากแล้ว ยังแยกไม่ออกคือเหมือนแยกตัวเองไม่ออกว่า ตอนนี้เรากำลังเป็นนักแสดงนะ เราไม่ใช่ผู้จัดฯ แล้วก็คือจะมึนๆ พอวันนั้นคือเหมือนถ่ายวันแรกไปเหนือก็ต้องกลับบ้านไป เหมือนมานั่งแบบสมาธิแบบตอนนี้

เหมือนมีหมวกหลายใบแล้วนะ ซึ่งเราก็ต้องใส่ทีละใบ พอเราเข้าซีนตอนนี้เราเป็นนักแสดง เราฟังผู้กำกับฯ เราทำงาน พอในมุมที่เรากลับมาเป็นผู้จัดฯ เราก็จะมีการไปเช็คงาน ไปดูหน้ามอนิเตอร์บ้างว่า อยากได้แบบนี้นะ ขออันนี้เพิ่มได้ไหม แล้วก็ต้องแยกแยะให้มันขาดจริงๆ

ไม่งั้นพอเราไปแสดงมันจะกลายเป็นว่าเราจะกังวลตลอดเวลา ด้วยความพอเราเป็นผู้จัดฯ เราก็อยากให้งานออกมาดี แล้วต้องไว้ใจทีมงานทุกคนว่า เค้าจะทำให้งานออกมาดีแน่นอน เราไม่ต้องห่วงเลย เพราะทุกคนเต็มที่มากๆ แล้วก็สามารถทำหน้าที่นักแสดงได้อย่างเต็มที่”

แม้จะมีฐานะเป็น “ลูกผู้จัดฯ” อย่าง กบ-ปภัสรา แน่นอนว่า คุณแม่ต้องช่วยซัพพอร์ตในด้านต่างๆ ด้วย แต่เธอกลับบอกว่า
“ขอนับว่าคุณแม่ซัก 2 เปอร์เซ็นต์แล้วกันในการช่วยซัพพอร์ตหรือว่าแบบตบๆ รวมถึงคุณพ่อ (เอ๋-พรเทพ เตชะไพบูลย์) ด้วยให้อีก 2 เปอร์เซ็นต์ในการที่ให้กำลังใจอยู่ที่บ้าน แล้วทั้งพ่อทั้งแม่ก็มากองบ่อยมากมาคอยให้กำลังใจ บางทีถ่ายไกลมากก็ยัง

อุตส่าห์มาหาที่กอง เราก็แบบสบายใจมากเลยที่มีพ่อกับแม่คอยซัพพอร์ต คือเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปได้ถึงขนาดไหน แต่ในเมื่อเราทำเต็มที่สุดๆ แล้วพ่อกับแม่เค้าก็จะคอยหนุนหลังเราตลอด ก็รู้สึกอุ่นใจแล้วก็รู้สึกเซฟว่าอย่างน้อยถ้าสมมติว่าเราล้มขึ้นมา เค้าก็จะช่วยดันเราขึ้นมาเพื่อให้เราก้าวต่อไป”

ถือได้ว่าเป็น “ลูกไม้” ที่สวยและเก่งตามรอยคุณแม่แบบไม่ผิดเพี้ยน ตามไปเป็นกำลังใจให้กับ เหนือ-ดิสรยา เตชะไพบูลย์ ในฐานะ “ผู้จัดฯ หน้าใหม่” และ “นักแสดงซีรีส์แซฟฟิก” เรื่องแรกของเธอได้ใน “Dangerous Queen The Series คนโปรดของควีน” ทางช่อง Youtube : S.nur entertainment เร็วๆ นี้nurdesorayaTKphinyanechTKNurDangerousQueenTheSeriesคนโปรดของควีน Snurentertainment

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมการรอคอย!มงลง “วีนา” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2025 ตัวแทนสาวไทย ชิงมงจักรวาล “Miss Universe” ครั้งที่ 74 ปลายปีนี้

แชร์เนื้อหานี้

23 สิงหาคม 2568 กรุงเทพฯ : นับเป็นค่ำคืนที่แสงระยิบระยับเมื่อ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ผู้ถือสิทธิ์ในการจัดประกวด “Miss Universe Thailand” โดย คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด Miss Universe Thailand & Vice President of Miss Universe Asiana จัดการประกวดรอบตัดสิน (Final Competition)

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ( Miss Universe Thailand 2025) ณ MGI Hall ชั้น 6 ศูนย์การค้า Bravo BKK พระราม 9 โดยมีคณะกรรมการ แขกผู้มีเกียรติ เหล่าซุป’ตาร์ตัวแม่ในสังกัด MGI เดินพรมแดงเข้างาน THE NEW ERA Celebrations: Red Carpet with MGI STARS! อาทิ อิงฟ้า วราหะ ,ชาล็อต ออสติน , อุ้ม-มีนา , หลิน-ใบมิ้นท์ ฯลฯ รวมถึง ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น ฯลฯ และทัพ

สื่อมวลชน เข้าร่วมงาน รวมถึงที่กำลังรับชมผ่านทาง Youtube Live : Grand TV
ความตื้นเต้นเริ่มต้นขึ้นและเรียกเสียงเชียร์เต็มฮอลล์ เมื่อกองประกวดฯเปิดฉากด้วยโอเพนนิ่งโชว์ เปิดตัว 77 สาวงามตัวแทนจาก 77 จังหวัด เต็มไปด้วยความสนุกสนาน แสง สี เสียง โปรดักชั่นของเวทีที่ระดับบอสณวัฒน์ไม่เคยทำให้แฟนนางงามผิดหวัง อลังการงานละเอียด โดยมี แมทธิว ดีน และ นาตาลี เกลโบว่า Miss Universe 2005 รับหน้าที่พิธีกร

ต่อมา พิธีกรได้ประกาศรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม (Best National Costume) ได้แก่ MUTจันทบุรี “เฟนิษ ณิชารีย์ ชิงดวง” ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท และรองชนะเลิศชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ได้แก่ MUT กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พิจิตร นราธิวาส ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท ตามด้วยรางวัล นางงามผู้เปล่งประกายด้วยความพยายาม ได้แก่ MUTสระแก้ว “แตงกวา อภิรตา พุทธชัย” ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท

รางวัล Best Tiktok Content Creator By Numju Rachi ได้แก่ MUT กรุงเทพมหานคร “แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง” ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท รางวัล นางงามผิวสวยออร่า By Numju Rachi ได้แก่ MUT สระบุรี “วีนา ปวีนา ซิงห์” ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท รางวัล KATHY POWER OF UNIVERSE ได้แก่ MUTสระบุรี “วีนา ปวีณา ซิงห์” ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท
รางวัล Miss Beleaf Natural ได้แก่ MUTปทุมธานี อมองดีน กลาสเซต์ ได้รับเงินรางวัล100,000 บาท รางวัล Friend of Glass Skin ได้แก่ MUTสระบุรี “วีนา ปวีนา ซิงห์” ได้รับเงินรางวัล100,000 บาท

จากนั้นพิธีกรประกาศ 18 คนสุดท้าย โดยผู้ที่เข้ารอบอัตโนมัติจากการเป็นผู้ชนะในแคมเปญดังนี้ รางวัล Best Seller Award ได้แก่ MUTสระบุรี แคมเปญ Inspire U to The Universe ได้แก่ สุราษฏร์ธานี “ขิง ชุติกาญจน์ สุวรรณโคตร” และรางวัล Miss Popular Vote ได้แก่ MUTกรุงเทพมหานคร ตามด้วยนางงามที่เข้ารอบ 18 คนสุดท้าย ได้แก่ MUTนครนายก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต สงขลา สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ขอนแก่น ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ปทุมธานี ลพบุรี

ตามด้วยการอวดโฉมสาวงาม 18 คนที่เข้ารอบ ในชุดว่ายน้ำ ต่างจัดเพอร์ฟอร์แมนซ์ แบบไม่มีกั๊ก รางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ได้แก่ MUTกรุงเทพมหานคร “แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง”
แต่ละวินาทีตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆเมื่อพิธีกรประกาศผลผู้ที่เข้ารอบ TOP 10 ได้แก่ MUTปทุมธานี ภูเก็ต สุพรรณบุรี ลพบุรี นครนายก สระบุรี นครศรีธรรมราช พังงา กรุงเทพมหานคร สงขลา

และประกาศรางวัล “Best in Evening Gown” presented by Janua (น้ำหอมแจนยัวร์) ได้แก่ MUTลพบุรี “เจ้าหญิง สุมิตา คุมาประโคน” รางวัล Miss Photogenic Award Presented by Aura Rich ได้แก่ MUTอุตรดิตถ์ “ ยีนส์ พิชญาวี โยโกยาม่า” ตามด้วยการประกวดชุดราตรี พร้อมโชว์พิเศษจากศิลปิน เจมีไนน์ – โฟร์ท กับเพลง หนึ่งในร้อย เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ พิธีกรประกาศ TOP 5 ได้แก่ MUTสระบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และ นครศรีธรรมราช ทำให้อีก 5 สาวงาม สุพรรณบุรี ลพบุรี นครนายก พังงา สงขลา รั้งตำแหน่งรองอันดับ 5 ทันที

พิธีกรนำเข้าสู่รอบตอบคำถามโดยค่ำคืนสุดพิเศษสิ้นสุดลงเมื่อพิธีกรประกาศผล TOP 3 ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่มีทั้งผู้ที่ผิดหวังและสมหวัง โดยสาวงามผู้เข้ารอบสุดท้ายนี้ ได้แก่ MUTภูเก็ต MUT กรุงเทพมหานคร และ MUTสระบุรี ส่งผลให้ MUTนครศรีธรรมราช และ ปทุมธานี ดำรงตำแหน่งรองอันดับ 3

ทั้ง 3 สาวเดินเฉิดฉายอีกครั้งเป็นรอบสุดท้าย พร้อมตอบคำถามและวินาทีสำคัญที่ทำให้ทั้งฮอลล์แทบหยุดหายใจ เมื่อพิธีกรได้ประกาศผู้ได้ครองมงกุฏมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025( Miss Universe Thailand 2025) ได้แก่ MUTสระบุรี “วีนา ปวีนา ซิงห์” คว้ามงกุฎ “The Shining of the New Era” ประกายแห่งการกำเนิดใหม่ของจักรวาล” มูลค่า 1,500,000 บาท ให้เกียรติสวมมงกุฎโดย นาตาลี เกลโบว่า มิสยูนิเวิร์ส 2005 และรับเงินสดมูลค่า 2,000,000 บาท

รวมถึงรางวัลจากผู้สนับสนุนอีกมากมาย โดย วีนา มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ( Miss Universe Thailand 2025) จะเป็นตัวแทนประเทศไทยในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2025 (Miss Universe 2025) ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย ในปลายปี 2568 นี้ ตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ได้แก่ MUT กรุงเทพมหานคร แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง

รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ได้แก่ MUTภูเก็ต อเดล นฤมล พิมพ์ภักดีรับชมจัดการแข่งขันรอบตัดสิน (Final Competition) Miss Universe Thailand 2025 : The New Era ย้อนหลังได้ที่ Youtube : Grand TV
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของกองประกวดฯ

ที่จะพาทุกท่านไปสู่จักรวาล
ได้ในช่องทาง Facebook : Miss Universe Thailand
Instagram @missuniversethailand / X : @missu_thailand / TikTok : @officialmuthTheNewEraofMUT #MissUniverseThailand #MissUniverseThailand2025 #MGIxMUT

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้กำกับฯ “ใหญ่ – กรภัทร์” พร้อมนำคอหนังสู่มิติใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทยในผลงานเรื่องล่าสุด “รอด/ตาย – Survive or Die?”

แชร์เนื้อหานี้

คลุกคลีอยู่ในแวดวงหนังและละครทีวีมาหลายปี ล่าสุด ผู้กำกับฯ ”ใหญ่ – กรภัทร์ ทั่งศรี“ พร้อมแล้วกับการนำเสนอ ”รอด/ตาย“ ผลงานเรื่องล่าสุดสู่สายตาคอหนัง ”ผมเชื่อเสมอว่าหนังที่ดีต้องเริ่มจากบทภาพยนตร์ที่ดีก่อน ดังนั้นจึงพยายามวางโครงสร้างให้ ’รอด/ตาย’ มีความแตกต่างไปจากหนังไทยแนวเขย่าขวัญทั่วไป“ ผู้กำกับฯ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการทำงานในหนังเรื่องใหม่

“ดังนั้นสิ่งที่ รอด/ตาย พยายามจะทำก็คือการเล่าเรื่องในแนวทางใหม่ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเดินตามสูตรเดิม ๆ แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงความรู้สึกของคนดูในระดับที่ลึกกว่าหนังเขย่าขวัญทั่วไปในปัจจุบัน เพราะ รอด/ตาย กล้าที่จะพูดในสิ่งที่ต่างออกไปด้วยวิธีการนำเสนอที่สดใหม่ของกลวิธีการเล่าเรื่อง ที่สำคัญผมมั่นใจว่า รอด/ตาย เป็นหนังที่มีศักยภาพในตัวเองมากพอที่จะเรียกให้คนดูหันมาให้ความสนใจ และยังสามารถพาคนดูออกจากกรอบเดิมๆ และเรียกเอาศรัทธากลับคืนมาให้กับวงการภาพยนตร์ไทยได้อีกครั้ง“

เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อพบกับ “รอด/ตาย – Survive or Die?” มิติใหม่แห่งวงการภาพยนตร์ไทยโดยผู้กำกับฯ ”ใหญ่ – กรภัทร์ ทั่งศรี“ ตั้งแต่ 13 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์พร้อมกันทั่วประเทศ