คลังเก็บหมวดหมู่: ไม่มีหมวดหมู่

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / บึงกาฬเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ 2568 ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น 11 องศา ผู้ปกครองแห่พาบุตรหลานหลายพันคนร่วมกิจกรรม

แชร์เนื้อหานี้

บึงกาฬ เปิดงานวันเด็กแห่งชาติท่ามกลางอากาศหนาวเย็น 11 องศา
ผู้ปกครองแห่พาบุตรหลานหลายพันคนร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติปี 2568 ตั้งแต่เช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิต่ำเป็นประวัติการ 11 องศา นอกจากนี้ยังมีลมกระโชกแรงต่อเนื่องกันแต่เช้ามืด ต้องสวมเสื้อกันหนาวทั้งลูกหลานและผู้ปกครอง มีทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันนำสิ่งของรางวัลมาแจกเด็กๆ 1ปีมีครั้งเดียว

วันที่ 11 ม.ค.ที่ถนนข้าวเม่าริมโขง หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองบึงกาฬ จุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2568 โดยมีนายนคร ศิริปัญญานันท์ รอง ผวจ.นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รอง ผวจ.นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัด นายกริชชัย ศิลปะรายะ ท้องถิ่นจังหวัด นายราชันย์ วะนาพรม นายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยภาคเอกชน นำสิ่งของรางวัลของกินของใช้ ราคาตั้งแต่หลักร้อยจนไปถึงหลักพัน เช่นจักรยานเด็ก มามอบให้กับเด็กๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ สร้างความตื่นเต้นดีใจให้เด็กๆ เป็นอย่างมาก จากนั้นนางรินทิพย์ วารี ศึกษาธิการจังหวัดบึงกาฬ

ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ว่า 1.เพื่อเป็นการสร้างเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้รับความสนุกสนาน รื่นเริงกล้าแสดงออกในการสร้างสรรค์ ตระหนักในสิทธิหน้าที่ มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม 2. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีพัฒนาการเต็มศักยภาพ ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ และห่างไกลจากยาเสพติด 3.เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีกำลังใจในการศึกษาเรียนรู้ และประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม และประเทศชาติ 4.เพื่อให้ทุกส่วนของสังคม มีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและเยาวชน

ในการจัดงานครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานต่างภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชนชุมชน และวัดต่างๆ ให้การสนับสนุนของขวัญของรางวัลต่างๆ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และร่วมออกบูธ จัดนิทรรศการกว่า 60 หน่วยงานศึกษาธิการจังหวัดบึงกาฬ ได้ดำเนินการจัดให้มีขึ้น

โดยร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ หน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน เช่นคุณบุญมา พันดวง นำรถแห่มาตั้งเวที มอบความบันเทิงรื่นเริงพร้องทั้งมอบของรางวัล เงิน และของดื่มกิน ส่วนประชาชนที่ต้องการร่วมแบ่งปันความสุขให้กับเด็กๆ และเยาวชน โดยภายในงานมีทั้งกิจกรรมการเล่นเกมส์ต่างๆ การแจกของขวัญของรางวัล ให้กับเด็กๆ ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม จนคึกคักท่ามกลางอากาศหนาวเย็น 11 องศา และลมพัดกระโชกแรงด้วย นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

เป็นประธานอ่านสารวันเด็กแห่งชาติ จากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคำขวัญวันเด็กปีนี้ที่ว่า “ ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง ” สำหรับกิจกรรมงานวันเด็ก ประเทศไทยได้เริ่มจัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 ต่อมาได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2530 ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิเด็กและเยาวชน ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคม เห็นความสำคัญของเด็กและความต้องการของเด็ก รู้จักวิธีเลี้ยงดูเด็กให้มีสุขภาพดี

ทั้งทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และจิตสำนึกที่จะรับใช้สังคม ประเทศชาติบ้านเมือง โดยกำหนดให้วันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ ในส่วนของจังหวัดบึงกาฬ การจัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ ทางศึกษาธิการจังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่ต้องการร่วมแบ่งปันและสร้างความสุขให้กับเด็กๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน มีสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายจิตใจ ตระหนักถึงความสำคัญของตนเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัยที่มีต่อตนเอง และสังคม และมีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ซึ่งบรรยากาศภายในงานวันนี้ ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานของตนเองหลายพันคน แห่ร่วมกิจกรรมตั้งแต่เช้าตรู โดยในจุดที่เด็กและผู้ปกครองให้ความสนใจมากที่สุด คือการถ่ายภาพกับยุทโธปกรณ์ของทหารและตำรวจ เพราะใน 1 ปี เด็กๆ จะได้สัมผัสอาวุธที่ใช้ในการปกป้องประเทศชาติบ้านเมืองที่เป็นของจริง เพื่อเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก การฝึกบินโดรน เครื่องบินไร้คนขับ การวาดภาพระบายสี และตามด้วยกิจกรรมการเล่นเกมส์ต่างๆ โดยมีหลายหน่วยงานออกซุ้มอาหารและน้ำดื่มแจกเด็กๆ ที่มาร่วมกิจกรรมอีกด้วย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / องคมนตรี ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ที่โรงเรียนบ้านนายาง อ.นาหมื่น จ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ณ โรงเรียนบ้านนายาง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา เพื่อติดตามการดำเนินงานของโรงเรียนกองทุนการศึกษา โดยมี นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายอำเภอนาหมื่น นายอำเภอนาน้อย หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครู และผู้ปกครองนักเรียน ให้การต้อนรับ

ในการนี้ ได้รับฟังการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านนายาง อำเภอนาหมื่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2486 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 บนเนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา ปัจจุบัน เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 127 คน ครูและบุคลากร 15 คน มีนายวิโรจน์ ใหม่เทวินทร์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน

โรงเรียนฯ มุ่งพัฒนาการเรียนการสอนตามหลักสูตรขั้นพื้นฐาน สร้างเด็กดีและเด็กเก่ง ที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศและชุมชน เน้นสร้างสภาพแวดล้อมและกระบวนการที่เอื้อต่อการบริหารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน

โดยสอดแทรกหลักคุณธรรมและจริยธรรมภายในห้องเรียน ตลอดจนน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนมีวินัยรวมทั้งการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา

ให้แก่นักเรียนในพื้นที่ ให้สามารถเข้าถึงทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โอกาสนี้ องคมนตรี เยี่ยมชมห้องเรียน และพบปะพูดคุยกับนักเรียน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมฝากฝังให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์ อดทน ขยัน หมั่นเพียร ตั้งใจเล่าเรียนศึกษา รู้รักสามัคคี เพื่อเติบโตไปเป็นบุคลากรในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้าสืบไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ “หัวหิน” ปล่อยแถวป้องกันอาชญากรรมช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม มอบทุนการศึกษา งานวันสถาปนา กองพันซ่อมบำรุง

แชร์เนื้อหานี้

ช่วงเย็นวันที่ 24 ธ.ค.67 ที่บริเวณหน้าหอนาฬิกาหัวหิน จ.ประจวบฯ พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ เป็นประธานปล่อยแถวป้องกันเหตุอาชญากรรม ความไม่สงบเรียบร้อย ยาเสพติด และอุบัติภัยช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2568 มี พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ข้าราชการตำรวจหน่วยต่าง ๆ ทหาร ฝ่ายปกครอง เทศกิจ อาสาสมัคร และมูลนิธิ ราว 300 คน ร่วมปล่อยแถว

พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช กล่าวว่า การปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ของตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯ เป็นมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยตำรวจในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร ซึ่งในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน

ปัญหายาเสพติด รวมถึงปัญหาการแข่งรถในทางสาธารณะซึ่งเป็นปัญหาส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม ตำรวจภูธรภาค 7

จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรในสังกัด สนธิกำลังเพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ช่วงเทศกาลดังกล่าว.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

มูลนิธิพุทธภูมิธรรม นำโดย อาจารย์ วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิฯ เป็นตัวแทนท่าน ร่วมบำเพ็ญบุญกุศล นำสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และร่วมมอบทุนการศึกษา งานวันสถาปนา กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุนที่ 2 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี

กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุนที่ 2 ฯ เป็นหน่วยงานสำคัญ สนับสนุนความมั่นคงภาคตะวันออกของไทย โดย พันโท สุภชัย พานิช เป็นผู้บังคับกองพัน
มุ่งเน้นการทำความดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
พร้อมเห็นความสำคัญของการให้ทุนการศึกษาและมอบขวัญกำลังใจให้เด็กและเยาวชนอนาคตของชาติ ขอส่งพลังบุญและมงคลอธิษฐาน ให้แด่กัลยาณมิตร ทุกท่าน เทอญ…

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐทีวี / กิจกรรมศิลปะพื้นบ้านดีเกฮูลูนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียง 912 จ.นราธิวาส

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 กองบัญชาการกองทัพไทย โดย สถานีวิทยุกระจายเสียง 912 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดโครงการจัดประกวดดีเกฮูลูสานวัฒนธรรมสัมพัธ์ชายแดนใต้

ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการละเล่นที่เป็นศิลปะพื้นบ้านภาคใต้ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนิยมเล่นกันเป็นคณะในพื้นที่สามจังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ซึ่งกิจกรรมศิลปะพื้นบ้านดีเกฮูลูนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียง 912 จ.นราธิวาส ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกปี ตามนโยบายหลักของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และการส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชน

ร่วมกันอนุรักษ์และสืบสานศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ดำรงอยู่สืบไป อีกทั้งร่วมกันสร้างความรักความสามัคคีปรองดองในท้องถิ่น และสังคมให้มีความสุขอย่างยั่งยืน
/////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รองนายกฯ “อนุทิน”หลวงปู่ศิลา พระอ.สุริยัน เททองหล่อนำฤกษ์ “พระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี” แลนด์มาร์คแห่งใหม่จังหวัดบึงกาฬ

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (14 ธ.ค. 67) เวลา 13.39 น. ที่บริเวณโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ (Landmark) อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีเททองนำฤกษ์และพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี

พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายวินัย โตเจริญ รองอธิบดีกรมการปกครอง น.ส.มรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการ จ.บึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผวจ.บึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคราชการ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ร่วมพิธีจำนวนมาก

การประกอบพิธีครั้งนี้ ได้รับเมตตาจากพระสงฆ์สมณศักดิ์นั่งปรกอธิฐานจิต อาทิ พระธรรมวชิรเมธี (เจ้าคุณมีชัย) เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร พระเทพวัชรเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม(ธ) พระราชภาวนาโสภณ วิ. เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เจ้าอาวาสวัดเซกาเจติยาราม พระอารามหลวง

พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน พระวชิระสาสนคุณ เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ(ธ) เจ้าอาวาสวัดป่าเทพวิมุต พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. (เจ้าคุณสุริยันต์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) พระครูบวรธรรมรักขิต(หลวงตาเลิศ) เจ้าอาวาสวัดอรัญญานี ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน จังหวัดเชียงใหม่ และพระเถราจารย์จำนวนมาก ร่วมประกอบพิธี

โครงการ Landmark จ.บึงกาฬ เป็นการพัฒนาสวนสาธารณะริมแม่น้ำโขงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว มีไฮไลท์สำคัญคือ “พระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี” เป็นพระพุทธรูปนาคปรก 9 เศียร สูง 16.09 เมตร ขนาดหน้าตักกว้าง 4.77 เมตร ประดิษฐานริมแม่น้ำโขง

ซึ่งนอกจากจะทำให้เป็นสถานที่แห่งความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชม สนับสนุนเศรษฐกิจของ จ.บึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียงตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ประชาชนด้วย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รร.เสริมสวยจุฑามาศพัทยา จัดพิธีมอบประกาศนียบัตร ผู้สำเร็จการศึกษา 2567 รุ่นที่ 20 สู่มืออาชีพ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 9 ธ.ค.67 ที่โรงแรมไดอาน่าการ์เด้นท์รีสอร์ทพัทยา จ.ชลบุรี ดร.ลลิดา ธรรมบุตร ผู้อำนวยการ กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผล สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชลบุรี ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบประกาศนียบัตรผู้สำเร็จการศึกษาของโรงเรียนเสริมสวยจุฑามาศประจำปี 2567 รุ่นที่20 มีผู้สำเร็จการศึกษาจำนวน 28 คน

นส.จันฑิมันต์ สิริโพธิษาสุข ผอ.โรงเรียนเสริมสวยจุฑามาศพัทยา กล่าวว่า โรงเรียนเสริมสวยจุฑามาศ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณพ่อสุรนิตย์ อาจฤทธิ์ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 3 เป็นที่ปรึกษาและคอยให้คำแนะนำ คณะผู้บริหาร ครูและนักเรียนทุกคน ช่วยกันขับเคลื่อนความสำเร็จเสมอมา โดยได้ผลิตช่างฝีมือคุณภาพออกสู่วงการธุรกิจเสริมสวย ปัจจุบันรวม 20 รุ่น รวมจำนวนกว่า 8,000 ชีวิต

ทางโรงเรียนเสริมสวยจุฑามาศพัทยา ยังได้ร่วมทำกิจกรรมสังคมมากมายร่วมกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพอาจารย์และนักเรียนให้ทันตามโลกยุคใหม่ตลอดเวลา มีการนำเทรนด์ใหม่ๆ แฟชั่นทันสมัย โดยผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติเข้ามาสอนเทคนิคอยู่เสมอ และยังได้ส่งเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์ผมระดับโลก จนได้รับรางวัลชนะการแข่งขันสร้างชื่อเสียงมากมาย กิจกรรมบางส่วนของทางโรงเรียน ผลงานดีเด่นมากมายจึงได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนที่มีระบบการประกันคุณภาพดีเด่นอยู่ในระดับประเทศ ประจำปี 2552 จากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักบริหารคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคต 

อย่างไรก็ตามการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการสร้างรากฐานความรู้ คือ อาวุธทางปัญญาขับเคลื่อนท้องถิ่น ให้ก้าวไกล วิชาชีพเสริมสวยจึงเป็นการศึกษาอย่างหนึ่ง ที่สร้างรายได้ สร้างอาชีพ สร้างคุณภาพชีวิต มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงสู่ประชาคมอาเซียน และเชื่อว่าเมืองพัทยาของเรามีความพร้อมที่จะก้าวความเป็นสากลต่อไป

เมืองพัทยาประชุมเตรียมความพร้อมจัดโครงการวันเด็กแห่งชาติ 2568 ภายใต้แนวคิด “วันเด็ก ปลอดขยะ”

บ่ายวันที่ 11 ธ.ค.67 นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมจัดโครงการวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยมี คณะผู้บริหารเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ เมืองพัทยา โดยสำนักการศึกษา ฝ่ายกิจกรรมเด็กและเยาวชน ได้กำหนดจัดโครงการวันเด็กแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยในวันนี้เป็นการประชุมหารือเพื่อพิจารณารูปแบบการจัดงาน ภายใต้แนวคิด “วันเด็ก ปลอดขยะ” อาทิ ขั้นตอนการลงทะเบียนเข้าร่วมงาน เพื่อรับสายรัดข้อมือ (ริสแบนด์) รับคูปองอาหาร, การจัดเตรียมของรางวัล สำหรับเกมและจับฉลากแจกรางวัลที่กำหนดจัดเตรียมไว้กว่า 2,500 ชิ้น โดยได้รับการสนับสนุนของรางวัลจากหน่วยงานภาครัฐ-ภาคเอกชนในพื้นที่

ในงานจะได้มีมีการจัดบูธกิจกรรม นิทรรศการ/เกม จัดซุ้มอาหาร
พร้อมเวทีการแสดง จำนวน 3 เวที ได้แก่ เวทีกลาง (บริเวณลานเสาธง), เวทีเล็ก (บริเวณร้านขายยาฟาซิโน), เวทีเล็ก (บริเวณหน้าเวิลด์ เจมส์) อีกทั้งยังจัดให้มีกิจกรรมการแสดงดนตรีของนักเรียนในสังกัดโรงเรียนเมืองพัทยา และฐานกิจกรรม /เกมส์ จำนวน 10 ฐาน เพื่อเป็นเวทีให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถ กล้าแสดงออก พัฒนาตนเอง ตามความถนัดและสนใจ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เล็งเห็นถึงความสำคัญของกิจกรรม ที่จะสร้างความสนุกสนานและความสุขให้กับเด็กๆ ที่เติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญของสังคมในอนาคต ให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ซึ่งสิ่งสำคัญในกิจกรรมวันเด็กที่จะจัดจะมุ่งเน้นการปลุกจิตสำนึก ปลูกฝังพฤติกรรมรักษ์โลกให้กับเด็กๆ โดยเริ่มจากการคัดแยกขยะให้ถูกต้องเพื่อเป็นต้นแบบที่ดีในสังคม สอดคล้องกับนโยบาย Pattaya Go Green ของเมืองพัทยาต่อไป

เปิดยิ่งใหญ่! ชิงชัยเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “WGP#1 WATERJET WORLD CUP 2024”

วันนี้ 12 ธันวาคมพ.ศ 256 7 เวลา 17.00 น. พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมเจ็ทสกีแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดจัดการแข่งขันเจ็ตสกีนานาชาติ รายการ “WGP#1 WATERJET WORLD CUP 2024” ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

กิจกรรมการแข่งขันจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 11-15 ธันวาคม 2567 โดยในปีนี้พบว่ามีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งสิ้นกว่า 300 คนเข้าร่วมชิงชัย

การแข่งขันครั้งนี้ ถือเป็นการแข่งขันวอร์เตอร์เจ็ตนานาชาติแชมป์โลก สนามชิงชนะเลิศตัดสินตำแหน่งแชมป์เวิลด์คัพ แชมป์เวิลด์ซีรี่ส์ และแชมป์เอเชีย ประจำปี 2024 โดยพบว่าในวันแรกมีคนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รวมพลังประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต “สู้ให้สุด หยุดการโกง” เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ 9 ธ.ค.67 ที่ห้องเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานงาน “วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล” (ประเทศไทย) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้แนวคิด “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้สุด หยุดการโกง”

โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นางสาวจุฑารัตน์ เหลืองเพิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายองค์กรต้านทุจริตเข้าร่วมกิจกรรม มีการมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานที่มีผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Intergrity and Transpearency Assessment : ITA)

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และการมอบเกียรติบัตรชมรม สตรอง – จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีผลงานดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 การรวมพลังแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการทุจริต พร้อมการรับชมการถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลจากศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีประกาศเจตจำนงการต่อต้านการทุจริต

ซึ่งในปีนี้ รัฐบาลร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช., สำนักงาน ป.ป.ท., องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมกันจัด “งานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย)” ภายใต้แนวคิด “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้สุด หยุดการโกง” มีเป้าหมายเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำทางการเมืองและทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาทุจริต พร้อมปลุกกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตและยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI)

ทั้งนี้ ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA (Integrity and Transparency Assessment ประจำปิงบประมาณ พ.ศ. 2567 พบว่า จ.ประจวบฯ ได้คะแนนที่ 92.96 คะแนน อยู่ลำดับที่ 42 ของประเทศ โดยมีหน่วยงานที่เข้ารับการประเมิน ITA จำนวน 62 หน่วยงาน มีหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือได้รับคะแนนเกิน 85 คะแนนขึ้นไป จำนวน 61 หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ 98.39 สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ร้อยละ 14.52 ภาพรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

//////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / องคมนตรี ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงราย

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้( 7 ธ.ค. 67) นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำขุ่นอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยมีนายวัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) กรมชลประทาน พร้อมด้วย

นายนพดล น้อยไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 นายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงราย และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และสรุปผลการดำเนินงาน โครงการพัฒนาดอยตุง (คพต.ชร.) จังหวัดเชียงราย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530 มีจุดประสงค์เพื่อการพัฒนาที่สมบูรณ์แบบต่อเนื่องอย่างมีระบบ ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงาน

โดยในส่วนของกรมชลประทาน รับผิดชอบด้านการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคให้กับศูนย์บริหารโครงการพัฒนาดอยตุง และพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด ต่อมาที่ประชุม คพต.ชร.ได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2533 ให้มีการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎรบ้านห้วยน้ำขุ่น พร้อมกับมอบให้กรมชลประทานจัดหาน้ำให้กับชาวบ้านห้วยน้ำขุ่น (พื้นที่จัดสรรใหม่) จำนวน 47 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ ปี2533) กรมชลประทาน

ได้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กปิดกั้นลำห้วยน้ำช้าง บริเวณบ้านห้วยน้ำขุ่น หมู่ที่ 17 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง แล้วเสร็จเมื่อปี 2534 เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภคบริโภคของราษฎร และสนับสนุนพื้นที่การเกษตรภาคครัวเรือน ในพื้นที่บ้านห้วยน้ำขุ่น 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้าน ห้วยน้ำขุ่น หมู่ที่1 หมู่ที่17 และหมู่ที่18 รวม 1,255 ครัวเรือน ราษฎรประมาณ 3,463 คน และยังสนับสนุนพื้นที่เกษตรภาคครัวเรือนได้กว่า 100 ไร่

ในการนี้ องคมนตรี ได้มอบให้โครงการชลประทานเชียงราย สำนักงานชลประทานที่ 2 หาแนวทางในการเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำขุ่นให้สูงขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำให้กับชุมชนโดยรอบ ซึ่งจะทำให้ราษฎรมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน…

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

รายการ.วิธีธรรม.วิธีไทย เทปนี้ออกอากาศ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เวลา 06.00 น. – 06.30 น. ในงานทอดกฐินสามัคคี วัดสุดเขตแดนสยาม จ.บึงกาฬ 13-14 พฤศจิกายน 2567 และ วัดนาทิการาม จ.ชุมพร 28-29 ตุลาคม 2567 โดยมี ดร.ฉวีวรรณ คำพา เป็นประทานทอดทั้งสองวัด

แชร์เนื้อหานี้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/ เรือนจำนราธิวาสนำผู้ต้องขังร่วมด้วยช่วยกันลงพื้นที่มอบน้ำดื่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.นราธิวาส

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (2 ธันวาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามนโยบายของพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีนโยบายให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสหการ เพชรนรินทร์ ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส นำโดยนายสุรินทร์ จันทร์เทพ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส นำเจ้าหน้าที่ในสังกัดจำนวน 10 นาย และผู้ต้องขังกองงานสาธารณประโยชน์จำนวน 10 คน ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

ณ ศูนย์อพยพ วัดโคกงู ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่โดยรถทุกประเภท ต้องเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง แต่จำเป็นจะต้องเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือโดยได้ขึ้นเครื่องจักรทางการเกษตรของชาวบ้านเพื่อเข้าไปให้กำลังใจและนำน้ำดื่มไปให้กับผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 100 แพ็ค โดยมีเจ้าอาวาสวัดโคกงู เป็นตัวแทนผู้รับมอบ

สำหรับการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ สร้างความดีใจให้กับผู้ที่อพยพณ ศูนย์อพยพเป็นอย่างมาก โดยศูนย์ดังกล่าวมีผู้อพยพเข้าอาศัยอยู่ประมาณ 30-50 ครัวเรือนเนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตในบ้านของตนเองได้มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 – 3 เมตร และตามนโยบายดังกล่าว เรือนจำจังหวัดนราธิวาสจะเข้าไปยังพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยตามพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ผู้ต้องขังทุกคนได้ร่วมทำความดีเพื่อสังคม สร้างความภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าในตนเองในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น สร้างทัศนคติที่ดี เตรียมพร้อมทั้งกายและใจในการกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
//////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส