คลังเก็บหมวดหมู่: การเมือง

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “อลงกรณ์-เอฟเคไอไอ.“ห่วงทรัมป์2.0ทำเศรษฐกิจโลกโตต่ำ3%กระทบไทยเร่งหาทางออกประเทศจัดเวที “โอกาสหรือวิกฤติใหม่เศรษฐกิจไทยภายใต้สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน“

แชร์เนื้อหานี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์(FKII Thailand)
เปิดเผยวันนี้ว่า ไอเอ็มเอฟ.ประเมินล่าสุดว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนกระทบทั่วโลกเป็นลูกโซ่จะส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลดลงจาก3.3%เหลือ 2.8% ส่วนมิติการค้านั้น การค้าระหว่างสองประเทศคิดเป็นสัดส่วน 3% ของตลาดการค้าโลกซึ่งมีมูลค่า24 ล้านล้านดอลลาร์โดยเมื่อปี 2024 มูลค่าการส่งออกนำเข้าของสหรัฐและจีนอยู่ที่ 582.4 พันล้านดอลลาร์ โดย สหรัฐส่งไปจีน 143.5 พันล้านดอลลสาร์ และจีนส่งไปสหรัฐ 438.9 พันล้านดอลลาร์

ซึ่งองค์การการค้าโลก(WTO)มองว่าถ้าสงครามการค้ายังสู้กันด้วยการขึ้นภาษีทำให้2ชาติมหาอำนาจยุติการค้าขายกันแต่ตลาดโลกอีก97%ก็ยังค้าขายต่อไปได้ นับเป็นตัวอย่างมุมมองที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามผลกระทบยังมีอีกหลายมิติไม่ใช่เพียงเรื่องเศรษฐกิจการค้าและเป็นทั้งโอกาสและวิกฤตขึ้นกับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของแต่ละประเทศอดีตรัฐมนตรีอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า
สำหรับประเทศไทยเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและการเมืองของทั้ง2มหาอำนาจและอยู่ในกลุ่มประเทศเสี่ยงลำดับต้นๆที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและนโยบายทรัมป์2.0ครั้งนี้ แต่จะรอดจะร่วงหรือจะรุ่งจะเป็นโอกาสหรือวิกฤตสำหรับก้าวต่อไปของประเทศไทยหาคำตอบได้ในงานเสวนาโต๊ะกลมของสถาบันเอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์ -FKII National Dialogue
“โอกาสหรือวิกฤติใหม่เศรษฐกิจไทยภายใต้สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน“

วันพุธที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 13.00-15.30 น. ณ TVA Hall สวนเสียงไผ่ สถาบันทิวา กรุงเทพมหานคร ขอเชิญร่วมแสดงความเห็นเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทยในสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน
พบกับวิทยากรร่วมเสวนา อาทิ 1.นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailand 2.นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานสถาบันทิวา (TVA) และผู้อำนวยการสถาบัน FKII Thailand ผู้เชี่ยวชาญด้านอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี
3.นายเกษมสันต์ วีระกุล ประธานซีเอ็ดนักวิชาการอิสระ สื่อมวลชน ผู้เชี่ยวชาญด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 4.ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน อดีตอัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงปักกิ่งผู้เชี่ยวชาญด้านจีนและผู้ร่วมเสวนาโต๊ะกลมลงทะเบียนด่วน!!! รับจำนวนจำกัด!!!ที่ LineOA FKII Thailand: https://lin.ee/BgPCPvdติดต่อสอบถาม
091-1805459(วรวุฒิ)
093-1252012(ลิต้า).

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สว.เจ ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดน่าน มอบผ้าห่มกันหนาวให้ผู้สูงอายุและเด็กนักเรียนในพื้นที่ตำบลไชยสถาน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ณ โรงเรียนบ้านไชยสถาน ต.ไชยสถาน อ.เมืองน่าน จ.น่าน สว.เจ ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย คุณศิริลักษณ์ พรหมแสง ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สว., พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้ชำนาญการประจำตัว สว., ดร.พุฒิพงษ์ ทองวิมล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์, ดร.สมหมาย พัฒนดิลก ผช.สว., ดร.รัฐธนินท์ จิรวัฒน์โภคิน ผช.สว., ทนายภาส ศรประสิทธิ์ ผช.สว., ทนายศรัณย์พร ทองฉิม

คณะทำงานด้านกฎหมาย., คุณกิตติ คณะทำงาน, นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน นายธงชัย พุฒนา ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านไชยสถาน นายอลังกาล กุลหนาน ผอ.โรงเรียนบ้านไชยสถาน นายกมล อินถา ผู้ใหญ่บ้านไชยสถาน นายนิรันด์ สิทธิมงคล อดีตผู้ใหญ่บ้านนาท่อ นายธนาชัย อินปัน อดีต ผอ.กองช่าง อบต.สะเนียน

นางประกายดาว ไชยมงคล สอบต.บ้านฝาง นางปนัดดา ไชยเรียน อสม. มอบผ้าห่มกันหนาว, ยาดม, ยาหม่อง, สบู่ ให้กับผู้สูงอายุ บ้านฝาง บ้านไชยสถาน บ้านตาแก้ว บ้านศรีเกิด บ้านทุ่งขาม บ้านเด่นใหม่ บ้านก๊อด บ้านนาท่อ บ้านนาท่อใหม่ บ้านค่าใหม่ไชยเจริญ บ้านปางค่า

และนักเรียนโรงเรียนบ้านไชยสถาน รวม 11 ชุมชน จำนวน 120 ผืน นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่านซึ่งเป็นผู้ประสานงาน ต้องกราบขอบพระคุณ สว.เจ พร้อมคณะเป็นอย่างยิ่ง ที่นำผ้าห่มและยาดม ยาหม่อง และสบู่มามอบให้พี่น้องประชาชนตำบลไชยสถานในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณ ผอ.ธงชัย พุฒนา ที่ประสานแกนนำ

ทุกหมู่บ้าน ขอบคุณผู้ประสานงานชาวบ้านประกอบด้วยนายศุภสิน ทะนันชัย นางพิกุลรักษ์ กุลการินทร์ นางธนาภร วัฒนานิธิ นายลอยทะนันชัย ขอขอบคุณ ผอ.อลังกาล กุลหนาน และคณะครูโรงเรียนบ้านไชยสถานที่อนุเคราะห์สถาน ที่มา ณ โอกาสนี้ เป็นอย่างยิ่งครับ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สมศักดิ์- ลงพื้นที่พบปะ บุคลากรการแพทย์-อสม.บึงกาฬ เปิดโครงการ “บริการทุกช่วงวัย” ดูแลสุขภาพประชาชน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ หลังจากประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดนครพนม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวีนพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พบปะให้กำลังใจบุคลากรการแพทย์ และอาสาสมัครสาธารณสุขในหมู่บ้าน(อสม.) ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมีนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายก อบจ.บึงกาฬ

นายนิพนธ์ คนขยัน สส.บึงกาฬเขต1 พรรคเพื่อไทย นางอรอุมา บุญสิริ สส.บึงกาฬ เขต 2 พรรคภูมิใจไทย นายภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ นพ.กมล แซ่ปึง ผอ.โรงพยาบาลบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการบุคลากรการแพทย์ และ อสม.ให้การต้อนรับ

โครงการ “บริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใย ของกระทรวงสาธารณสุข จ.บึงกาฬ” มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่ การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การตรวจรักษา ฟื้นฟู

การดูแลแบบประคับประคอง การดูแล สุขภาพกาย จิตใจ และ สังคม ตามบริบทของพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยกิจกรรมการคัดกรองเชิงรุก ได้มีคลินิกบริการสุขภาพเคลื่อนที่ ใน 10 สาขา ได้แก่

o คลินิกโรคอ้วน
o คลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
o คลินิกโรคไต
o คลินิกโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ
o คลินิกต้อกระจกและจอประสาทตา
o คลินิกมะเร็งปากมดลูกและวัคซีน HPV
o คลินิกผ่าตัดวันเดียวกลับ
o คลินิกตรวจการได้ยินและมอบเครื่องช่วยฟัง
o คลินิกผ่าตัดนิ้วล็อค
o คลินิกฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

พร้อมกันนี้ได้มอบแว่นตาให้กับตัวแทนผู้สูงอายุจำนวน 5 ราย ผลักดัน พรบ.อสม.เพื่อความมั่นคงในชีวิต แก้ไขปัญหาหมอขาดแคลนอย่างยั่งยืน และส่งเสริมค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด “คืนคนดีสู่สังคม” มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ได้ประชุมรับฟังสรุปปัญหาข้อเสนอแนะจากแพทย์สาขาวิชาชีพ เพื่อปรับปรุงและขับเคลื่อนโครงการสุขภาพสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ข่าว/ภาพ ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สท.ทต.ทุ่งโฮ้ง “เข้มข้น” วชิรพงศ์ โกสิน”ผู้สมัครนายก เบอร์ 2 พร้อมผู้สมัคร ส.ท.กลุ่มทุ่งโฮ้งรวมใจ/ชมรมธุรกิจเกษตรพัฒนานานาชาติ แพร่ เปิดการประชุมกับกรรมการและสมาชิกชมรมศูนย์เรียนรู้ศาสตร์

แชร์เนื้อหานี้

เลือกนายกและสท.ทต.ทุ่งโฮ้ง “เข้มข้น” วชิรพงศ์ โกสิน”ผู้สมัครนายก เบอร์ 2 พร้อมผู้สมัคร ส.ท.กลุ่มทุ่งโฮ้งรวมใจ ออกเดินพบปะพี่น้องประชาชนฯตั้งแต่เช้ามืด ได้รับกำลังใจมากมายตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเทศบาล ในส่วนจังหวัดแพร่มีการเลือกตั้ง 26 แห่ง

ที่เทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เป็นอีกหนึ่ง ที่มีการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย ทางกลุ่มทุ่งโฮ้งรวมใจ นำโดย นายวชิรพงศ์ โกสิน ผู้สมัครนายก เบอร์ 2 และส.ท. เบอร์ 7-12 ที้งสองเขต ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน

“วันนี้พวกเราทีมผู้สมัครนายกและส.ท. กลุ่มทุ่งโฮ้งรวมใจ ออกเดินพบปะพี่น้องประชาชนชาวบ้านทุ่งโฮ้งใต้ หมู่ 1 และหมู่ 5 ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงสาย รวมถึงเดินตลาดสดทั้ง 2 แห่ง และเข้ากราบพระที่วัดทุ่งโฮ้งใต้ ได้รับกำลังใจกลับมามากมาย ต้องขอขอบพระคุณจากใจครับ”

ช่วงเย็น พวกเราลุยต่อที่ หมู่ 5 เดินครบทุกซอย พูดคุยอย่างใกล้ชิดกับพ่อแม่พี่น้อง เพื่อแนะนำตัวผู้สมัคร ขอแรงสนับสนุนในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ด้วยทีมงานคุณภาพโปรดให้โอกาสพวกเราได้เข้าไปทำงาน พวกเรา กลุ่มทุ่งโฮ้งรวมใจ มีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง ต่อยอด การพัฒนาให้บ้านทุ่งโฮ้งมีความเจริญ เป็นเมืองน่าอยู่พวกเรามีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ ไม่ต้องเสียเวลาศึกษางานใหม่ ทำงานต่อได้ทันที ประสานงานไวใส่ใจพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวบ้านทุ่งโฮ้ง

ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ขอแรงใจจากพี่น้องทุกท่านเลือก บัตรสีเหลือง เลือกนายก เบอร์ 2 “นายวชิรพงศ์ โกสิน” พร้อมทีมบริหารที่พร้อมลุยงานทันที
เลือก สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) บัตรสีเขียว เลือก ส.ท.ยกทีม เบอร์ 7-12
เขต 1 เบอร์ 7 – จำรัส เสนาธรรม เบอร์ 8 – เรวัต (แม้ว)

หมื่นโฮ้ง เบอร์ 9 – คาร ข้ามหนึ่ง เบอร์ 10 – ชัยวัฒน์ (อ๊อด) วงศ์ศิริ เบอร์ 11 – ศุภกิจ (ตี๋) เสนาธรรม เบอร์ 12 – จรัญ (รัญ) หมื่นโฮ้งเขต 2 เบอร์ 7 – สามารถ วงค์ฉายา เบอร์ 8 – สรณ์สิริ (เบิร์ด) วรินทร์ เบอร์ 9 – ภูบดินทร์ (แก่ง) ยอดเมือง
เบอร์ 10 – อรุโณทัย (ส้ม) จิตรใจ เบอร์ 11 – จุฑาทิพย์ (เบอะ) พลแหลม
เบอร์ 12 – ดำรง (นาท) ทองคำโฮ้ง “กลุ่มทุ่งโฮ้งรวมใจ” ทำต่อไม่หยุดพัฒนาต่อเนื่อง

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่ 061-595-5297

ชมรมศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชานานาชาติ / ชมรมธุรกิจเกษตรพัฒนานานาชาติ จังหวัดแพร่ เปิดการประชุมกับกรรมการและสมาชิกชมรมศูนย์เรียนรู้ศาสตร์ เพื่อติดตามงานของชมรมฯ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 เมษายน 2568 ณ.ห้องปฎิบัติธรรมวัดนํ้าบ่อ ตำบลเวียงทอง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่โดยมี นายเจษฎา แก้วศล ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาคเหนือ/ผู้จัดการจังหวัดแพร่ นายไพศาล จินดามณี ผู้ช่วยผู้จัดการจังหวัดแพร่ และ น.ส.สุธาสินี ตันศิริ ผู้ช่วยผู้จัดการจังหวัดแพร่ ได้เปิดการประชุมกับกรรมการและสมาชิกชมรมศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชานานาชาติ / ชมรมธุรกิจเกษตรพัฒนานานาชาติ จังหวัดแพร่

นายเจษฎา แก้วศล ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาคเหนือ/ผู้จัดการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ทางชมรมศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชานานาชาติ / ชมรมธุรกิจเกษตรพัฒนานานาชาติ จังหวัดแพร่ มีการประชุมฯ เพื่อทำความเข้าใจในการขอรับทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตชุดที่ 1

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่ 061-595-5297

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทีมนรา ปราศรัยแรกชิงนายกเล็กเมืองนราฯ ชูนโยบายสามารถทำได้จริง ประชาชน ตรวจสอบได้

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 18 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณถนนยะกัง 2 ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ด.ต.มโณ วารีวะนิช ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส พร้อมด้วยนายสมโชติ เสาร์ศรีอ่อน (พี่อิ๋วร้านฟิล์ม)น.ส.บุษรา เบนอะสาร (ดีเจ นา) นายเจ๊ะอิสมาแอ เบญเจ๊ะอาลี (แบแอ) นายอนันต์ มะมิง (แบยี)

นายพรชัย โต๊ะกะหรีม) บังหมัด ตลอดจน สมาชิกสภาเทศบาลเมืองนราธิวาส ทีมนราโปร่งใส ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ด้านงานบริหาร โดยเวทีนี้เป็นเวทีแรกของ ด.ต.มโณ วารีวะนิช ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส เบอร์ 1 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนแห่ไปฟังการปราศรัยในครั้งนี้โดยด.ต.มโณ วารีวะนิช ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ได้ขึ้นปราศรัยแนะนำทีมบริหารและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยอาสารับใช้ประชาชนภายใต้หลักการที่เน้นความ โปร่งใสประชาชนสามารถตรวจสอบได้ พัฒนา แก้ปัญหา เข้าหาได้ง่าย และในส่วนของการขึ้นเวทีปราศรัยในครั้งนี้ ได้พูดถึงแนวทางการพัฒนาในพื้นที่ หากได้รับการเลือกเข้ามา โดยมีนโยบายที่ชัดเจนประกอบด้วย การแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน นราต้องเป็นเมืองท่องเที่ยว สนับสนุนอุปกรณ์กีฬาชุมชน พัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ (ผ่าน อสม.)

สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือ ในการปฏิบัติหน้าที่ของ อสม. ขยะ เศรษฐกิจ และในด้านการศึกษา พัฒนาทักษะด้านการศึกษาอย่างเป็นรูปรรรมและยั่งยืน พัฒนาและสนับสนุนบุคลากรครูสู่ครูมืออาชีพ โรงเรียนกีฬาเทศบาล รถรับส่งนักเรียน และศูนย์การเรียนรู้อัลกุอ่านกีรออาตี โดยเฉพาะในการบริหารงานจะต้องไม่มีการกู้เงินมาบริหารเพราะจะทำให้เกิดหนี้สินตามมา โดยจะต้องมีการของบประมาณเพื่อมาบริหารให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และจะไม่มีการสนับสนุนการพนันทุกรูปแบบ

ด้านด.ต.มโณ วารีวะนิช ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส กล่าวว่าหากได้รับการเลือกเข้ามาสิ่งแรกที่อยากทำเลยก็คือในเรื่องของเศรษฐกิจ ในเรื่องของการท่องเที่ยว ที่จะมาเชื่อมกับเศรษฐกิจ จะทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวดีขึ้น เพราะฉะนั้นต้องทำเลย ทีมนราโปร่งใส่สามารถเข้าไปทำได้เลย เรื่องที่ทำโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอย่างเช่น ลานวัฒนธรรมต่างๆ เราก็พร้อมที่จะทำได้เลย และที่สำคัญถ้าเราได้เข้าไป 11 พฤษภาคม กว่าจะรับรองอะไรต่างๆ พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม ช่วงนั้นเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เพราะฉะนั้นตรงนี้สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือเรื่องของปัญหาน้ำท่วม เราต้องมาดูเรื่องของคูระบายน้ำ เรื่องของการแก้ปัญหาน้ำท่วม ทำอย่างไรให้น้ำไม่ท่วมในปีนี้

ซึ่งเราต้องมาดูตรงนั้นก่อน เรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อน เพราะว่าพอน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจ เช่นบางร้านเขาเสียหายเป็นล้าน เราต้องดูตรงนี้ก่อนเลย ถ้าหากว่าเข้าไปได้ในเรื่องของการศึกษาก็ต้องไปพูดไปคุยกัน มีการวางนโยบายอะไรต่างๆให้ไว้ อาจจะไม่ทำได้ทันที แต่ว่าอีกหนึ่งปีข้างหน้า ให้โอกาสกับทางโรงเรียนได้เตรียมในการที่จะปรับเปลี่ยน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการศึกษาให้ได้ในหลาย ๆ ด้านที่ต้องเข้าไปทำ
ด.ต.มโณ วารีวะนิช ยังกล่าวอีกว่าในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวเมืองนราธิวาสมีจุดเด่นๆของเราในวันนี้คือหาดนราทัคน์ซึ่งจริงๆแล้ว เรามีธรรมชาติที่สวยงามเราเป็นเทศบาลที่อยู่ในเมือง โดยที่อื่นเขาไม่ได้มีแบบเรา ซึ่งมูลค่าของหเนี่หาดนราทัศน์มีมากมายมหาศาล แต่วันนี้เราใช้ประโยชน์ยังไม่เต็มที่ แล้วจะทำอย่างไรที่เราจะใช้ให้มันเต็มที่ โดยเราจะต้องมีการทำคอนทัวร์ก่อน คือการปรับพื้นที่เราต้องมีการปรับภูมิทัศน์ตัดแต่งต้นไม้ให้มันลงมาก่อน ให้มันลดต่ำให้มันเกิดวัฒนธรรม เกิดที่ละหมาด เกิด ห้องน้ำ เกิดสุขา และอื่นๆ อย่างน้อย 2-3 จุด แล้วหาดนราทัศน์ต้องเปิดตลอดไม่ใช่เปิด-ปิดแค่ตอนเย็น และแสงสว่างตลอดทาง ทำจัดระบบให้ดี และมีที่จอดรถ โดยเฉพาะสินค้ามือสองทำอย่างไร จัดแบ่งเป็นโซนให้เรียบร้อยเพื่อที่มาถ้าจะซื้อสินค้ามือสองต้องไปตรงนี้ และมีการเชื่อมประมงกับการท่องเที่ยวให้ได้เรามีเรือเราก็ต้องมีตลาดที่เป็นของชุมชน

โดยในส่วนของตรงนี้ซึ่งเราก็ทำได้เลยเพราะมองว่ามันไม่ได้ยาก แต่ถ้าเราทำตลาดปลาได้ ก็สามารถเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประมงได้เยอะแยะมากมายเลย และในเรื่องของการท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาเราก็จะลงไปดูพื้นที่ต่างๆต้องสะอาด ซึ่งถ้าเราได้ความสะอาดนักท่องเที่ยวมาเยอะก็สามารถเดินไปและชมวิถีชีวิตของชาวประมงภายในตัว และเราสามารถมีสินค้ามีอะไรสามารถขายหน้าบ้านตนเองได้เลย ถ้าเราทำการท่องเที่ยวให้คนมาเที่ยวดี แต่ความสะอาดคือสิ่งสำคัญ และความปลอดภัยเรื่องคือเรื่องของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ในเมื่อนักท่องเที่ยวต้องมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่หาดนราทัศน์สำคัญอย่างน้อยกลางค่ำในช่วงกลางคืนถ้าเรามีศูนย์บริการอยู่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และการเข้า-ออกให้สองทางให้ได้สะพานที่มันชำรุดอยู่ต้องมีการซ่อมให้มันเสร็จให้เร็วที่สุดเพื่อจะใช้สัญจรไปมาได้สะดวก ด.ต.มโณ วารีวะนิช กล่าว
////////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กรมชลประทาน ร่วมงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จ.พะเยา ประจำปี 2568”

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 12 เมษายน 2568 #นายสุริยพล #นุชอนงค์ #อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายวรพจน์ เพชรนรชาติ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทาน นายนพดล น้อยไพโรจน์

ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 ผู้อำนวยการส่วน ผู้อำนวยการโครงการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน”เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ประจำปี 2568″ โดยมีนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงาน

ภายในงานได้จัดกิจกรรม ต่างๆ มากมาย อาทิเช่น กิจกรรมมอบโคและไข่ไก่ กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ กิจกรรมมอบเมล็ดพันธุ์พืช เป็นต้น

พร้อมกันนี้นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นำทีมข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะ

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานดังกล่าว ณ บริเวณลานอเนกประสงค์หลังเทศบาลเมืองพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา////

สมจิตรแสงบัลลังก์ทีมข่าวภาคเหนือรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทีมนราโปรงใส ตัวเต็งชิงเก้าอี้นายกเล็กฯเมืองนราฯ เบอร์ 1 ลุยหาเสียงอ้อนคะแนน แบบเคาะประตูบ้าน พร้อมชูนโยบายเด็ดมัดใจชาวบ้านโปร่งใสพัฒนาแก้ปัญหาไม่โกงตรวจสอบได้

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ 12 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนราธิวาสได้มีประกาศการสิ้นสุดวาระการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลง และให้เปิดรับสมัครนายก และสมาชิกเทศบาล ในวันที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2568 และมีกำหนดการเลือกในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นั้น

ด้านด.ต.มโณ วารีวะนิช ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส พร้อมทีมงานทีมนราโปร่งใส ได้เดินทางหาเสียงในพื้นที่ อ.เมือง จ.นราธิวาส เดินเท้าหาเสียงตามบ้านเรือน แนะนำตัวขอคะแนนจากพี่น้องประชาชนพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเป็นการเข้าถึงพี่น้องประชาชนแบบเคาะประตูบ้าน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีและอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนพร้อมชูนโยบายโปร่งใสพัฒนาแก้ปัญหาเข้าหาได้ง่าย โดยระหว่างที่ทีมนราโปร่งใสกำลังหาเสียงอยู่นั้น ชาวบ้านบางคนถึงกับลั่นว่า“ผมไม่รับเงิน”ถ้าใครเอาเงินมาให้เพื่อให้เลือกผมจะไม่เอาคนนั้น ซึ่งตรงกับนโยบายของทีมนราโปร่งใสเพราะไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงโดยเด็ดขาด

สำหรับทีมนราโปร่งใสมีนโยบายที่ชัดเจนคือการไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อทีมว่าทีมนราโปร่งใส โปร่งใส ไม่โกง ไม่ฮั้ว และมีนโยบายหลักในการพัฒนาเมืองนราธิวาสให้เป็นเมืองท่องเที่ยว แก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน พัฒนาทักษะด้านการศึกษา อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน สนับสนุนอุปกรณ์ส่งเสริมกีฬาชุมชน ตลอดจนพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุ

ด้านด.ต.มโณ วารีวะนิช ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส กล่าวว่าสำหรับนโยบาบแรกของผมคือคือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยังยืน ซึ่งหลายพื้นที่ในนราธิวาสเกิดน้ำท่วม บางพื้นที่ไม่สมควรที่จะท่วมเราจะทำอย่างไรให้น้ำลงสะดวก นโยบายที่2คือ นราธิวาสต้องเป็นเมืองท่องเที่ยวมองเศรษฐนราธิวาส มี 3 เรื่องคือ 1.เรื่องการท่องเที่ยว 2.เรื่องการค้าขาย และ 3.เรื่องการประมง ถ้าการท่องเที่ยวดีการค้าขายย่อมดีตามและเราจะเชื่อมการประมงกับการค้าขายให้ได้ ทั้งนี้เพื่อยกระดับประมงให้อาชีพประมงมีรายได้มากขึ้น เราต้องมีการเตรียมสถานที่รับนักท่องเที่ยว นโยบายการจอดรถสองแถวที่มาจากตากใบ บาเจาะ สุไหงปาดี

ต้องมีที่จอดรถที่หาดนราทัศน์เราต้องมีตลาดสินค้ามือสอง ซึ่งตลาดมีลานวัฒนธรรม ตลาดปลาเชื่อมกับประมงและท่องเที่ยวให้ได้มีห้องน้ำห้องละหมาด และเรามีนโยบายการศึกษามีทักษะโรงเรียนกีฬาของเทศบาล ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เน้นภาษเน้นศิลปะ พอเรามีโรงเรียนกีฬาต้องมีรถรับส่งนักเรียนของเทศบาล โดยเด็กที่เรียนโรงเรียนกีฬาที่อยู่ชายทะเล กำปงบารู และอื่นๆสามารถรับส่งนักเรียน เราจะมีการส่งเสริมศาสนาแต่ละศาสนาไม่ว่าศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลามและ ศาสนาคริสต์ โดยเราไม่เลือกปฎิบัติศาสนาอิสลามก็มีศูนย์เรียนรู้กีรออาตี ส่วนศาสนาอื่นเรามีทีมงานของศาสนาอื่น และ 3 นโยบายขยะเศรษฐกิจเราเห็นขยะในชุมชนเยอะมากทำอย่างไรให้เป็นขยะเศรษฐกิจทำอย่างไรให้ขยะมีมูลค่า ซึ่งเราสามารถขายหรือจำหน่ายได้ อย่างน้อยเศรษฐกิจจะดึขึ้นและลดขยะในชุมชนและสะอาดมากขึ้นได้อีกด้วย

ด.ต.มโณ วารีวะนิช ยังกล่าวต่ออีกว่าสำหรับทีมนราโปร่งใส ทีมเราไม่มีนโยบายซื้อสิทธิ์ขายเสียง เราทำงานการเมืองด้วยความโปร่งใส เพราะถ้ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่ใช่เพราะว่าทีมเราไม่มีเงิน แต่ถ้ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงก็เท่ากับว่าต้องมีการลงทุนซึ่งเท่ากับว่าถ้าลงทุนไปแล้ว เป็นทุนนิยมทางการเมือง สุดท้ายผมเองก็ต้องเข้าไปทุจริตโกงกินเพื่อดึงทุนกลับมาและในส่วนของนโยบายที่เราตั้งใจจะทำให้พี่น้องประชาชนก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเราต้องมีการคิดว่าเราต้องมีการถอนทุน

แต่ถ้าผมได้รับการเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชนด้วยพลังอันบริสุทธิ์ ซึ่งนโยบายทั้งหมดที่ออกมานั้นผมสามารถดำเนินการได้เลยเพราะเราไม่ต้องคิดคำนวณในเรื่องของการคืนทุน ซึ่งต่อไปนั้นในการทำถนน 10 เซนฯ ก็ต้องทำ 10 เซนฯ ถนน 15 เซนฯ ก็ต้องทำ 15 เซนฯ ซึ่งแบบแปลออกมาแบบไหนนั้นก็ต้องทำตามแบบแปลงนั้น ซึ่งเป็นที่มาของทีมนราโปร่งใส เปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้เพราะต่อไปเราจะมีแอพพลิเคชั่น ในการที่พี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบทีมบริหารของทีมนราโปร่งใส
/////////////////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สนง.วุฒิสภาเสริมสร้างความเข้มแข็ง ผู้นำนักประชาธิปไตย ภาคกลางและภาคตะวันออก /ทับสะแกโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ โรงแรมเคพี แกรนด์ จันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี นายอธิภัทร พุกเศรษฐี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ กล่าวเปิดการสัมมนาเครือข่ายผู้นำนักประชาธิปไตยประจำภูมิภาค ครั้งที่ 3/2568 (กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก)

กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย เครือข่ายผู้นำนักประชาธิปไตยวุฒิสภา ที่เคยเข้ารับการอบรมจากโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่น หลักสูตร “กระบวนการเสริมสร้างผู้นำนักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” ในกลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออกรวมจำนวน 101 คน

สำหรับการดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ดำเนินการจัดโครงการสัมมนาเครือข่ายผู้นำนักประชาธิปไตยประจำภูมิภาค ครั้งที่ 3/2568 (กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก) ระหว่างวันพุธที่ 2 – วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 ณ โรงแรมเคพี แกรนด์ จันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี

เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย บทบาทหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภา และการมีส่วนร่วมทางการเมือง และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเครือข่ายฯ ในการทำกิจกรรมร่วมกันกับวุฒิสภาและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

///////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย /
ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

ประจวบคีรีขันธ์ _ อำเภอทับสะแกโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568

วันที่ 4 เม.ย. 68 เวลา พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ประธานในพิธีพร้อมด้วยนายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบ ฯ พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ. ห้วยยาง พ.ต.ท.สหธัญ กำบิลดีลิราช รอง ผกก.ป.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.กฤษดา เหนี่ยวพึ่ง สวป.สภ.ห้วยยางพ.ต.ท.ทรงศักดิ์ รัศมี สว.อก.สภ.ห้วยยาง

นายชาตรี วนิชวรสกุล ประธาน กต.ตร.สภ.ห้วยยาง นาย ฉัตรชัย ค้างาม ปลัดอำเภอทับสะแก ฝ่ายความมั่นคง น.ส.ณุกานดา จันทราภรณ์ สาธารณสุข อำเภอทับสะแก น.ส.เสาวลักษณ์ กิตติธนานุรักษ์ ผอ.ส่วน วิเคราะห์ข่าวและเฝ้าระวัง ปปส.ภ.7 น.ส.ทิพย์วารี ชมชื่นนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ปปส.ภ.7 นาย สุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแสงอรุณ

นาย บุญช่วย โพธิ์ทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านไร่ใน นาย ทิวา สุขอวบอ่อง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านแสงทอง นางโนรี ฉัตรบรรยงค์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านแสงอรุณนาย พนม ชื่นชม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านคลองหินจวง ผู้แทนจากหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุข ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อาสาสมัครรักษาดินแดง ประชาชนชุมชนบ้านไร่ใน และบ้านแสงทอง

ร่วมดำเนินการทำพิธีเปิดศูนย์บำบัดยาเสพติด ด้วยกระบวนการบำบัดในชุมชน CBTx สำหรับโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด และ โครงการ แก้ไขปัญหาในพื้นที่เพื่อให้ประชาชน มีความสุข แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ณ ศูนย์ปฏิบัติการตำบลยั่งยืน ฯ หมู่ 1 บ้านไร่ใน ตำบลแสงอรุณ พร้อมได้ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อเป็นจุดมุ่งหมายในการเริ่มต้นโครงการไว้เป็นที่ระลึก
//////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี -สื่อรัฐนิวส์ / รองนายก-รมว.กลาโหม ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัด​บึงกาฬ​ เน้นย้ำ​ ศูนย์ฟื้นฟูบำบัดยาเสพติดบึงกาฬ​ เป็นต้นแบบที่ดี​

แชร์เนื้อหานี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการและหารือกับส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน จ.บึงกาฬ

วันที่ (6 เม.ย. 68) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น2 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดบึงกาฬ

เพื่อหารือข้อราชการกับส่วนราชการ เพื่อรับฟังสภาพปัญหารายงานผลการเตรียมความพร้อมรับภัยแล้ง-ภัยพิบัติ รับฟังข้อเสนอแนะ หารือประเด็นด้านความมั่นคง และมอบนโยบาย

โดยมีจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ, นายสมหวัง อารีย์เอืัอ รองผวจ.บึงกาฬ, พลตรีสุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พลตรียงยุทธ ขันทวี ผบ.มทบ.29, นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ, นายพนมวัสส์ วุฒาพาณิชย์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ,

พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ จากนั้น เวลา 14.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านโพนทอง หมู่ที่ 3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ

โดยภายหลังการพบปะผู้นำชุมชนท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รองนายกรัฐมนตรีได้รับปากว่าจะผลักดันงบประมาณการก่อสร้างถนนเพิ่มเติมให้อีก 1.5 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาในการเดินทางและขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ของพี่น้องประชาชนใน 3 หมู่บ้าน ของตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย

เวลา 15.30 น. คณะได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “ค่ายคืนคนดีสู่สังคม” ศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ที่กองร้อย อส.อำเภอโซ่พิสัย ซึ่งเป็นค่ายฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ประกอบด้วยผู้บำบัดชาย 196 คน ผู้บำบัดหญิง 30 คน

โดยมีกระบวนการบำบัด 3 ระบบ คือ การล้างพิษโดยการใช้ยาจากจิตแพทย์ การเข้าค่ายมินิธัญญารักษ์ และการเข้าค่ายฟื้นฟู 120 วัน ซึ่งมีทั้งการฟื้นฟูสมอง และการฝึกอาชีพ เพื่อลดโอกาสการกลับไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

พื้นที่สุดท้ายลงพื้นที่โรงเรียนพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เพื่อประชุมบูรณาการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศป.ปส.อ.พรเจริญ) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการอำเภอพรเจริญ ผู้นำท้องถิ่น

และประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งนี้รองนายกฯภูมิธรรม พร้อมผลักดันงบประมาณในการเปิดค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดเพิ่มเติมให้อีก 1 ล้านบาท “ค่ายคืนคนดีสู่สังคม”

นายภูมิ​ธรรม​ เวชยชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ กล่าวว่า​ จ.บึงกาฬ​ เป็นพื้นที่ที่มีทางเข้าออกของยาเสพติดค่อนข้างมาก​ เท่าที่ดูจากหลายอย่าง​ บึงกาฬก็มีจุดแข็งในการแก้ไขปัญหา​ เท่าที่ดูก็สามารถสืบค้นได้​ จนกระทั่งรู้ว่ามีแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน​

นอกจากนี้เรื่องที่นายกรัฐ​มนตรี​ให้มาดูคือ​ พื้นที่ในการฟื้นฟูบำบัด​ ยาเสพติดไม่ใช่ว่าเราต้องปราบอย่างเดียว​ มาตรการเหล่านี้เราต้องทำควบคู่กันไป​ “Seal​ Stop​ Safe​” ก็คือ​ ครบวงจรอยู่แล้ว​ Seal​ ก็คือ​ เป็นภารกิจของ​ ตชด.​/ ทหาร​

ในการระมัดระวังไม่ให้ยาเสพติดไหลทะลักเข้าประเทศ​ แต่เราก็รู้ว่า​ Seal​ อย่างไรก็คงมีการรั่วไหลเข้าประเทศบ้าง​ เพราะฉะนั้น​ เราจึงใช้อำเภอต่าง​ ๆ​ ทั้ง​ 51 อำเภอ​ เพราะยังไงก็ต้องมีจุดพักยา​ เรามีการบูรณาการ​ทั้งหมด​ ทั้งตำรวจ​ และฝ่ายปกครอง​ ฝ่ายปกครองมีจุดแข็งคือ

มีหน่วยในหมู่บ้านต่าง​ ๆ​ สามารถ​ X-Ray ได้ว่าบ้านไหนค้ายา​ หรือพักยา​ ถ้าบ้านไหนไม่มีการแก้ปัญหา​ ก็จะเจอกรณีลูกฆ่าพ่อ​ พ่อฆ่าแม่​ ฯลฯ​ จึงมีความจำเป็นในการฟื้นฟูบำบัด​ จังหวัดบึงกาฬ​มีจุดเด่นในการสร้างศูนย์​ในการฟื้นฟูบำบัด​ แต่จังหวัดเล็ก​ ทรัพยากรค่อนข้างน้อย​

ตนตัดสินใจมาดูที่นี่เพราะเห็นว่าบึงกาฬ​เป็นตัวอย่างที่ดี​ เราได้มีการดำเนินการที่ท่าวังผา​โมเดล จ.น่าน​ และธวัชบุรีโมเดล จ.ร้อยเอ็ด และมีโมเดลในการแก้ปัญหา​ มีโมเดลในการใช้โรงพยาบาลหรือสถานศึกษาเป็นฐาน

หลังจากนั้นเราได้มีการกำหนดไว้​ 10 จังหวัด​ ก็คิดว่าจังหวัดบึงกาฬเป็นตัวอย่างในการบำบัด​ได้​ ก็จะไปดูโรงเรียนที่มีความเหมาะที่จะรวมกัน​ให้​บูรณาการ​ของหน่วยต่างๆ​ เข้าไปช่วย​ ส่วนงบประมาณ​ต่างๆ​ ไม่ขัดข้องขอแค่แก้ปัญหา​ได้​

นอกจากนี้​ พบว่ามีปัญหาเรื่องกฎหมาย​กฎระเบียบบางข้อ​ ผู้บริหารบางหน่วยราชการ​คิดว่าการทำค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดจะผิด​ ผมคิดว่า​ต้องเอาเป้าหมายประชาชนเป็นหลัก​ ส่วนกฎระเบียบที่ผิดก็ไปแก้ให้ถูก​ ไม่ใช่นำสิ่งเหล่านี้มาคาดโทษผู้ปฏิบัติ​

โดยรวมก็คิดว่าที่บึงกาฬ​เป็นตัวอย่างที่ดี​ จะมีการไปดูสถานที่ในการจัดทำค่ายฟื้นฟูเพิ่มเติม​ ตรงไหนที่เพิ่มงบประมาณให้ได้ก็จะให้เลย เพื่อพัฒนาให้แข็งแรง​ เป็นต้นแบบให้จังหวัดต่างๆ​ เอาไปใช้ได้อีก

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ประชุมประจำเดือน !กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

แชร์เนื้อหานี้

3 เมษายน 2568 หอประชุมอำเภอชุม โดยนางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ พร้อมส่วนราชการในพื้นที่อำเภอชุมแพ พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ ศิริแก้ว สวป.สภ.ชุมแพ
ร่วมการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ

ในคราวเดียวกันนี้ คณะ กต.ตร. พร้อมด้วยที่ปรึกษา กต.ตร. ของ สภ.ชุมแพ ประกอบด้วย นายประสันต์ เขมะประสิทธิ์ ประธาน กต.ตร.สภ.ชุมแพ
นางอำนวย หงษ์ชุมแพ กต.ตร.สภ.ชุมแพ นายสมหมาย บุญฮวด กต.ตร.สภ.ชุมแพ นายชาตรี น้อยโนนงิ้ว กต.ตร.สภ.ชุมแพ นายสมพงค์ เกียรติพนมแพร กต.ตร.สภ.ชุมแพ

นายวีระกุล ยอดสง่า กต.ตร.สภ.ชุมแพ พ.ต.ต.มานพไชย ผลมาตย์ ที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.ชุมแพ พ.ต.ต.อัมพร จักษุทิพย์ สวป.(ชส.)สภ.ชุมแพ/เลขา กต.ตร.สภ.ชุมแพ

ได้ร่วมกันเป็นตัวแทนมอบงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมและศูนย์พักคอยผู้ป่วยยาเสพติด (Community Isolation : CI) อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยมี นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ เป็นผู้รับมอบ

สื่อสร้างสรรค์ ข่าวสารเพื่อท้องถิ่นวินสื่อรัฐทีวี/ สื่อรัฐนิวส์/ศูนย์ข่าวขอนแก่น