คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวศิลป และ วัฒนธรรม

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมสื่อมวลชนน่าน ร่วมพิธีสูมาคารวะ สรงน้ำขอพร เจ้าคณะจังหวัดน่าน และพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ วันสงกรานต์ ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. ที่วัดพญาภู พระอารามหลวง วัดมิ่งเมือง วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง วัดช้างค้ำวรวิหาร อำเภอเมืองน่าน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน พร้อมด้วยร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม พ.ต.ธนกฤต นันทชัยศรี นางพรรณี ณ น่าน นางรจนา วัวคำ นางปรานอม กุมภา

คณะกรรมการสมาคมสื่อมวลชนจังวัดน่าน ได้ร่วมสรงน้ำสูมาคารวะ พระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน พระสุนทรมุนี รองเจ้าคณะจังหวัด พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน พระวชิราภินันท์ เจ้าคณะอำเภอบ้านหลวง เจ้าอาวาสวัดช้างค้ำวรวิหาร เพื่อแสดงความเคารพ และขอพรเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์

นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ได้นำกล่าวคำสูมาคารวะปี๋ใหม่เมือง และถวายสักการะแด่พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ พร้อมนี้ เจ้าคณะจังหวัดน่าน รองเจ้าคณะตังวัดร่าน เจ้าคณะอำเภอบ้านหลวง กล่าวสัมโมนียกถา

ให้คติเตือนใจในการใช้ชีวิต ประพฤติชอบ อยู่ในศีลธรรม และมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อ เมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ อันจะทำให้เกิดความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / งานนมัสการพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ และพิธีสรงน้ำพระพุทธโสภณ (หลวงพ่อพระสุก) ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. ที่วัดศรีโสภณธรรมทาน (วัดใต้) ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ จัดงานนมัสการพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ และพิธีสรงน้ำพระพุทธโสภณ (หลวงพ่อพระสุก) ประจำปี 2568

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดบึงกาฬ โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี

พร้อมด้วย นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน ร่วมพิธี

ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ต่อพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ และร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่

ทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสามัคคีในชุมชน และจุดประกายจิตสำนึก ในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยอีกด้วย

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯมุกดาหารนำส่วนราชการและพุทธศาสนิกชน สรงน้ำพระราชทานพระใหญ่ สืบสานบุญประเพณีสงกรานต์

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 7 เมษายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานน้ำสรงให้จังหวัดมุกดาหาร เชิญไปสรงน้ำพระพุทธมิ่งมงคลมุณีศรีมุกดาหาร (พระใหญ่)

ในงานสืบสานบุญประเพณีสงกรานต์พิธีสรงน้ำพระราชทาน พระพุทธมิ่งมงคลมุณีศรีมุกดาหาร ประจำปี 2568 ณ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ในโอกาสนี้นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีสรงน้ำพระราชทาน

โดยมีพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระวิฑูรวชิรโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดมุกตาหาร หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการและพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้ประกอบพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

จากนั้นพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร และพระวิฑูรวชิรโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร ได้ร่วมประกอบพิธีกรรมดึงสายชักรอกขึ้นสรงน้ำพระพุทธมิ่งมงคลมุณีศรีมุกดาหาร และจุดพลุดอกไม้ไฟ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธมิ่งมงคลมุณีศรีมุกดาหาร

ผู้ว่าฯมุกดาหารนำส่วนราชการและพุทธศาสนิกชนสรงน้ำพระราชทานพระใหญ่ #วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ #จังหวัดมุกดาหาร​

ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ ​รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พระแก้วมรกต พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ปิดท้ายด้วยการหยาดน้ำน้อมถวายบุญเป็นพุทธบูชา แผ่บุญไปทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุ

แชร์เนื้อหานี้

บุญสำเร็จแล้ว 5 เมษายน 68 วันพระ วันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเส็ง วันแข็งวันพญาวันี่เป็นครั้งแรก ที่เห็นประชาชนมาร่วมบวงสรวงศาลหลักเมืองกทม.มากที่สุอัดแน่นทะลักออกไปนอกศาลเลย แน่นด้วยพลังศรัทธา และรอยยิ้มปีติหัวใจที่มีให้กัน เป็นการร่วมพลังบุญจากหลากหลายสายบุญและภาคีเครือข่าย มาร่วมถวายบุญแด่พระแม่ธรณี แผ่นดินไทย และชาติบ้านเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ค้ำชูแผ่นดิน และเสริมมงคลชีวิต

รายชื่อ​รายชื่อนับหมื่นถูกพริ้นท์มาเป็นปึกๆ นำมาวางไว้บนโต๊ะบวงสรวงอันศักดิ์สิทธ์ 9.09น. อาจารย์ตี่ วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม นำกล่าวโองการ อธิษฐานจิตถวายบุญ ที่กลางแจ้ง กลางลานศาลหลักเมือง ที่ขณะนี้ โต๊ะบวงสรวงถูกล้อมไปด้วยคลื่นศรัทธามหาชน ทุกคำที่ที่ทุกคนเปล่งออกมา ทรงพลังมาก ขนลุกตลอดเวลา

กลางแจ้งเสร็จ เข้าไปด้านใน ตรงแท่งเสาหลักเมือง นั่งกันตรงบันไดไร้ที่ว่างเลย ทุกคนมุ่งมั่นสวดมนต์ หนึ่งในนั้นคือมนต์บท “รตนัตตยัปปภาวาภิยาจนคาถา” เป็นพระคาถาปกป้องสยามประเทศและคนไทย เป็นมนต์ที่ษักดิ์สิทธิ์มาก สั่นสะท้านทั่วสรรพางกาย

จากนั้นเราได้เดินต่อไปที่วัดพระแก้ว กราบสักการะพระแก้วมรกต พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ปิดท้ายด้วยการหยาดน้ำน้อมถวายบุญเป็นพุทธบูชา แผ่บุญไปทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุ เป็นการเสริมบุญญาบารมีและมงคลชีวิต ไม่มีประมาณบุญของท่านสำเร็จแล้ว ปีติหัวใจอย่างท่วมท้น ขอโมทนาสาธุการอานิสงส์ความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงให้ชีวิตและกิจการงานของท่านมีความเจริญก้าวหน้า มั่นคง ปราศจากอุปสรรคและภัยอันตรายต่างๆ

การคุ้มครองปกป้องแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ทั้งจากภัยธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ความเป็นสิริมงคล: มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และความผาสุกในชีวิตความเจริญในธรรม: อานิสงส์แห่งการบูชาพระรัตนตรัยและการเจริญพระพุทธมนต์ จะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ท่านมีความเจริญก้าวหน้าในธรรม ปฏิบัติธรรมได้โดยสะดวก และบรรลุถึงความหลุดพ้นในที่สุด

ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้ทุกท่านประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และสัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการเทอญ😊🙏

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีบรรพชาสามเณร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ 1 เมษายน 2568 ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน มีการจัดพิธีบรรพชาสามเณร ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำปี 2568

เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568

โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ครอบครัวผู้บรรพชาและพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี
จังหวัดน่าน

โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน จัดโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำปี 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568

โดยจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ศึกษา ฝึกฝน และอบรมหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดค่านิยมเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัย มีจิตสาธารณะ และมีความกตัญญู ซึ่งจะส่งผลให้เป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมบรรพชาในครั้งนี้ จำนวน 43 คน

วันที่ 1 เมษายน 2568 สำนักงานเกษตรอำเภอเวียงสา โดยการนำของ นางสาวฐิติกาญจน์ ชะนะมาร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทน เกษตรอำเภอเวียงสา พร้อมด้วย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จัดเวทีวิเคราะห์ศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่

การลดต้นทุนการการผลิต การเพิ่มมูลค่าสินค้า การพัฒนาคุณภาพผลผลิต การตลาด และการบริหารจัดการ ให้กับสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ผักตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ตามโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อเก็บข้อมูล

รวบรวมประมวลผล และวิเคราะห์ศักยภาพกลุ่ม พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์เร่งรัดการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ข้าวนาปรัง, ไม้ผล, ไม้ยืนต้น และเน้นย้ำการถือปฏิบัติตามประกาศจังหวัดน่าน เรื่อง ห้ามเผาเด็ดขาดทุกพื้นที่

ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม –30 เมษายน 2568 และตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาตรการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ภาคการเกษตร

โดยห้ามเผาในพื้นที่การเกษตรทุกกรณีตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม –31 พฤษภาคม 2568 และแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังภัยพิบัติด้านพืช โดยมีสมาชิกแปลงใหญ่เข้าร่วมจำนวน 15 ราย ณ บ้านสถาน หมู่ที่ 1 ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี – มท.2 ทำพิธี “พุทธาภิเษกพระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี” Landmark บึงกาฬ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.68 เวลา 13.39 น. ที่อุทยานพระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี ถนนข้าวเม่าริมโขง ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย)

เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธีพุทธาภิเษก พระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี โดยมีเกจิอาจารย์อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล

โดยได้รับเมตตาอาทิ พระธรรมวชิรเมธี เจ้าคณะภาค1 เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร พระราชภาวนา โสภณ วิ. เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เจ้าอาวาสวัดเซกาเจติยาราม พระอารามหลวง พระวชิรศาสนคุณ เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ(ธ) เจ้าอาวาสวัดเนินแสงทอง พระราชสารโกศล เจ้าแาวาสวัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี พระครูบวรธรรมรักขิต(หลวงตาเลิศ) เจ้าอาวาวสวัดอรัญญานี

พระครูประภัสสรวีรคุณ (วีระพล ปภสฺสโร) เจ้าคณะอำเภิศรีวิไล(ธ) เจ้าอาวาสวัดสุดเขตแดนสยาม และพระเถราจารย์จำนวนมาก ร่วมประกอบพิธี โดยนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกอบจ.บึงกาฬ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผวจ.บึงกาฬ นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผวจ.บึงกาฬ นายสยาม เพ็งทอง สส.บึงกาฬ เขต1 หัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ และพุทธศาสนิกชนร่วมพิธี

“บรรยากาศการจัดพิธีพุทธาภิเษกฯ เป็นไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ โดยนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธี ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและถวายแป้งเจิมแด่เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เพื่อเจิมเทียนชัย เทียนมหามงคล แล้วจุดเทียนชัย เทียนมหามงคล พระสงฆ์ 9 รูป สวดคาถาจุดเทียนชัย

จากนั้นเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เข้านั่งปรกอธิษฐานจิต ประธานในพิธีจุดเทียนน้ำพระพุทธมนต์ เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ชุมนุมเทวดา เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ประธานในพิธีถวายใบพลูและแป้งเจิมแด่พระราชภาวนาโสภณ วิ. เพื่อเจิมใบพลู แล้วดับเทียนชัย เสร็จแล้วโปรยดอกไม้ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ในมณฑลพิธี ประธานในพิธีและผู้ร่วมพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ อนุโมทนา กรวดน้ำ-รับพร เป็นอันเสร็จพิธี”

อุทยานพระพุทธโลกนาถนาคสไชยบุรี เป็นโครงการ Landmark จ.บึงกาฬ เป็นการพัฒนาสวนสาธารณะริมแม่น้ำโขงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว มีไฮไลต์สำคัญคือ พระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี เป็นพระพุทธรูปนาคปรก 9 เศียร สูง 16.09 เมตร ขนาดหน้าตักกว้าง 4.77 เมตร ประดิษฐานริมแม่น้ำโขง

ซึ่งนอกจากจะทำให้เป็นสถานที่แห่งความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชม สนับสนุนเศรษฐกิจของ จ.บึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียงตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ประชาชนอีกด้วย

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / หลวงปู่มหาศิลา จัดงานพิธีวางศิลาฤกษ์ พระธาตุเจดีย์โนนสาวเอ้ ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท คนแห่ร่วมงานนับหมื่น !

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 13 มีนาคม 2568 หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโืท ได้จัดงานพิธีวางศิลาฤกษ์ “ พระธาตุเจดีย์โนนสาวเอ้ ” ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ต.เชียงเครือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์

โดยมีพระเดชพระคุณ เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาส วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร กทม. เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท ท่านเจ้าคุณเทียนชัย ชยทีโป วัดเทพสรธรรมาราม จ.ปทุมธานี ท่านเจ้าคุณสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม ท่านเจ้าคุณต้อม วัดท่าสะแบง จ.ร้อนเอ็ด พร้อมคณะสงฆ์และ เกจิอาจารย์อีกจำนวนมาก

โดยมี คุณชายแจ๊ค-หม่อมราชวงศ์ โสรัจจ์ วิสุทธิ บุตรชายคนเล็กของหม่อมเจ้าหญิงสุลัภวัลเลง วิสุทธิ (สกุลเดิม สวัสดวัตน์) พระขนิษฐาของ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อม
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หลายหมู่เหลา รวมถึงประชาชนจากทั่วสารทิศ คณะลูกศิษย์จาก ธรรมอุทยานหลวงปู่มหาศิลา และ คุณครูทับทิม วรา ที่ถือว่าเป็นคนสำคัญที่ หลวงปู่มหาศิลา ได้เลือกให้เป็นคนนำสร้าง พระธาตุเจดีย์ โนนสาวเอ้
ร่วมถึงประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานพิธีหลายพันคน

โดยก่อนหน้านี้2 วันได้เกิดฝนตกตลอดทั้งคืนทั้งวันจนถึงวันงานพิธีช่วงเช้าเกิดฟ้าครึ้มฝนตกเป็นละออง จนช่วงเวลาทำพิธีวางศิลาฤกษ์ หลวงปู่มหาศิลา ท่านมองขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นไปแล้วก้มหน้าท่องอะไรบางอย่าง จากนั้นท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็เกิดสว่างขึ้นแสงแดดเริ่มออก

พร้อมทั้งเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรด จนทำให้ผู้ที่มาร่วมงานกล่าวคำว่าสาธุ ซึ่งหลวงปู่ศิลาก็ยิ้มและหัวเราะอย่าง อารมณ์ดีใจซึ่งทำให้เหล่าศิษย์ยานุศิษย์ที่มาร่วมงานต่างๆ

ต่างมองดูบนท้องฟ้า ในสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าคนหลายพันคน
ภายหลังจากเสร็จพิธีวางศิลาฤกษ์ คุณจารุณี จอมทรักษ์ พร้อมทีมงานธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา ศิริจันโท ได้น้อมถวาย ทองคำแท่ง น้ำหนัก 20 บาท แด่หลวงปู่ศิลา พร้อมถวายทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท ถวายแด่พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็น จ. มหาสารคาม และน้อมถวายทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท แด่ พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง จ.ร้อยเอ็ด

จากนั้นท่านเจ้าประคุณ สมเด็จ พระธีรญาณมุนี หลวงปู่ศิลา และพระเกจิอาจารย์ รวมถึงข้าราชการทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้มงคล หลังจากนั้นท้องฟ้าที่มืดครึ้มก้อนเมฆก็จางหายไปแสงแดดกลับมาสว่างจ้าเหมือนเดิม

โดยในการสร้าง พระธาตุเจดีย์ โนนสาวเอ้ หลวงปู่มหาศิลา ได้บอกไว้ว่าต้องให้ครูทับทิม หรือ คุณครูทับทิม วรา ทำถึงจะสำเร็จ
สำหรับท่านใดที่สนใจจะร่วมบุญเพื่อสร้างพระธาตุเจดีย์ โนนสาวเอ้ และปรับภูมิทัศน์ภายในธรรมะอุทยานหลวงปู่มหาศิลาสามารถร่วมบุญได้ที่บัญชี

ธนาคารกรุงไทย
หมายเลขบัญชี 404-357378-2
ชื่อบัญชี : มูลนิธิธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท เพื่อสร้างพระธาตุเจดีย์และปรับภูมิทัศน์

( บัญชีนี้ บัญชีเดียว เท่านั้น )

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าแพร่ เปิดวัดมิ่งเมือง วัดเจ้าแม่เจ้าหลวงครั้งแรกในรอบ 70 ปี

แชร์เนื้อหานี้

บวงสรวง นมัสการพระบรมธาตุเจดีย์มิ่งเมือง หลวงพ่อพุทธมิ่งขวัญเมือง พ่อเมืองแพร่นำศรัทธาร่วมห่มผ้าองค์พระบรมธาตุ พุทธศาสนิกชนได้ชมความสวยงามปฏิมากรรมยุคเจ้าหลวงองค์สุดท้ายเมืองแพร่

วัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่บริเวณสะดือเมืองหรือใจกลางเมืองแพร่ สร้างโดยแม่เจ้าหลวง หรือแม่เจ้าบัวไหล เทพวงศ์ ชายาคนที่ 2 ของเจ้าพิริยเทพวงษ์ อดีตเจ้าผู้ครองเมืองแพร่ และแม่เจ้าบัวไหลยังเป็นย่าของนายโชติ แพร่พันธุ์ หรือ “ยาขอบ” นักเขียนนวนิยายชื่อดังของเมืองไทย

จึงนับว่าวัดมิ่งเมืองมีความสำคัญทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของเมืองแพร่อย่างยิ่ง แต่วัดมิ่งเมืองถือเป็นวัดขนาดเล็กอยู่ติดกับวัดพระบาท ปี พ.ศ.2492 ทางราชการจึงได้ยุบรวมเป็นวัดพระบาทมิ่งเมือง ในปี พ.ศ.2498 ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง จนปัจจุบัน 70 ปีแล้วที่วัดมิ่งเมืองไม่มีกิจกรรมทางศาสนา

ล่าสุดเวลา 15.50 น.วันที่ 16 มีนาคม 2568 นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระบรมธาตุเจดีย์มิ่งเมืองและนมัสการหลวงพ่อพุทธมิ่งขวัญเมือง พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนร่วมสักการะระหว่างวันที่ 16-23 มีนาคมนี้ ควบคู่ไปกับงานหอการค้าแฟร์ สร้างบรรยากาศครึกครื้นและร่วมกันรำลึกถึงประวัติท้องถิ่นเมืองแพร่ไปพร้อมๆ กัน

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297
ทีมข่าวบกรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / โครงการวิทยาลัยป้องกันกิเลส (วปก.) รุ่นที่ 29 วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

แชร์เนื้อหานี้

โครงการวิทยาลัยป้องกันกิเลส (วปก.) รุ่นที่ 29 จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา ส่งเสริมคุณธรรมในชีวิตประจำวัน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่เข้าร่วมการอุปสมบท ทั้งนี้ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ โครงการนี้ได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 29 รุ่น ซึ่งในรุ่นนี้ มีผู้เข้าร่วมอุปสมบท 59 รูป แบ่งเป็นคนไทย 58 รูป และชาวต่างชาติ 1 รูป จากประเทศเมียนมา โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 29 มีผู้เข้าร่วมอุปสมบทมากกว่า 5,000 รูป

โครงการ วปก. ก่อตั้งขึ้นโดย สมเด็จพระธีรญาณมุนี (วรชาโย) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ในการถวายเป็นพุทธบูชาและพระราชกุศล เพื่อสร้างบุคลากรที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกต่อสังคม โดยการบวชถือเป็นการบำเพ็ญบุญที่ทรงคุณค่า อันจะนำไปสู่ความสงบสุขและความเจริญของประเทศชาติ

ในปีนี้ได้รับความเมตตาจาก พระธรรมวชิรปาโมกข์ (ธนู วรธนุ ป.ธ.๔) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระศรีวิศาลคุณ (จีรพันธ์ วรญาโณ ป.ธ.๗) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์และผู้ดูแลโครงการเดินทางไปประเทศอินเดีย โดยโครงการได้รับการสนับสนุนจากศิษยานุศิษย์ คณะสหธรรมิก และผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้โครงการเติบโตและได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องทุกปี

กำหนดการเดินทางปฏิบัติธรรม และเยี่ยมชม 4 พุทธสังเวชนียสถาน วันที่ 5: กรุงเทพฯ – เจดีย์พุทธคยา (ประเทศอินเดีย)
วันที่ 6: ร่วมทำบุญมหาทานผ้าป่า และเยี่ยมชมพุทธรูปหินโบราณ ณ พุทธคยา
วันที่ 7: เยี่ยมชมสถูปบ้านบิดานางสุชาดา สถานที่ถวายข้าวมธุปายาส
วันที่ 8: เดินทางไปยังเขาคิชฌกูฏ และวัดเวฬุวัน ณ เมืองราชคฤห์
วันที่ 9: เยี่ยมชมกูฎาคารศาลา ปาวาลเจดีย์ เมืองไวสาลี
วันที่ 10: เดินทางไปยังสาลวโนทยาน กุสินารา สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
วันที่ 11: เดินทางสู่ลุมพินี ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า
วันที่ 12: เยี่ยมชมวัดพระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี
วันที่ 13: เยี่ยมชมสารนาถ เมืองพาราณสี สถานที่แสดงปฐมเทศนา
วันที่ 14: พักปฏิบัติธรรม ณ เมืองพาราณสี
วันที่ 15: เดินทางกลับมายังเจดีย์พุทธคยา
วันที่ 16: ออกเดินทางกลับประเทศไทย
วันที่ 17:

  • ช่วงเช้า: พิธีตักบาตรพระใหม่ นำโดย สมเด็จพระธีรญาณมุนี ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
  • ช่วงเที่ยง: พิธีฉลองพระใหม่ และลาสิกขาบท
  • การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้เข้าร่วมในการศึกษาและซึมซับหลักธรรมคำสอนจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 อันเป็นสถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นการเสริมสร้างความศรัทธาและปัญญาในการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร “ร่วมกันสืบทอดพระพุทธศาสนา สร้างคุณค่าทางจิตใจให้สังคมไทย”

โดย: พระคุณวํโว ธนพงศ์ งานรุ่งเรือง วปก29

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม และกัลยาณมิตร ร่วมสงเสด็จ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) /พลเอก ปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์ุ นำพลังบุญ บูรณะอุโบสถวัดศรีกะอาง จ.นครนายก

แชร์เนื้อหานี้

พลเอก ปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์ุ นำพลังบุญ บูรณะอุโบสถวัดศรีกะอาง จ.นครนายก วัดสำคัญประดิษฐาน “พระพุทธพิชิตมาร” พระพุทธรูปสำคัญที่ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ทรงประทานพระนาม 15 ก.พ.68 พลเอกปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์ุ , ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 , ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม และกัลยาณมิตร ร่วมพลังบุญทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนบูรณะอุโบสถวัดศรีกะอาง จ.นครนายก ยอดปัจจัยร่วมบุญกว่า 6 แสนบาท

ในการนี้ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมพลังบุญทอดผ้าป่า 7 หมื่นบาท ถวายเป็นพุทธบูชา เป็นพลังบุญเพื่อพระพุทธศาสนาสามารถร่วมบุญ ซ่อมแซมกระเบื้องหลังคาอุโบสถ และซ่อมแซมถังเก็บน้ำ วัดศรีกะอาง เพิ่มเติมได้ที่
ธนาคารกรุงไทย , เลขบัญชี 212 068 9946 , วัดศรีกะอาง (เปลี่ยนหลังคาโบสถ์และซ่อมแซมถังน้ำ)

**ประวัติ ความสำคัญ แผนงาน ของวัดศรีกะอาง *ประวัติ วัดศรีกะอางตั้งอยู่ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก ก่อตั้งเมื่อ ปีพุทธศักราช 2515 โดยมีเจ้าอาวาสรูปแรก คือ
หลวงปู่จำรัส อินทรกำแหง (ฉายา ฐิติจาโค) ซึ่งท่านดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาส ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2515 – 2536 ในระหว่างปีพุทธศักราช 2522 – 2536 ได้มีการก่อสร้างพระพุทธชินราชจำลอง ความสูง 30 เมตร, ก่อสร้างพระพุทธรูปจำลอง 3 พี่น้อง, ก่อสร้างพระสีวลี, ศาลาไม้, กุฏิบูรพาจารย์ และเสนาสนะอื่น ๆ ในช่วงต่อมา ระหว่างปีพุทธศักราช 2536 – 2566 มีพระครูวรญาณโสภณ (หลวงพ่ออาทร) เป็นเจ้าอาวาส โดยได้มีการก่อสร้างอุโบสถขึ้นในปี 2540 (ยังไม่ได้ฝังลูกนิมิตจนถึงปัจจุบัน) ก่อสร้างถนนเส้นทางในวัด และบันไดทางขึ้นพระพุทธชินราช โดยในระหว่างนี้ทางวัดได้รับวิสุงคามสีมาเรียบร้อยแล้ว ตามทะเบียนเลขที่วิสูงคามสีมา ในปัจจุบันตั้งแต่ พุทธศักราช 2566 – 2568 มีพระมหาฆโณทัย โฆสคุโณ เป็นเจ้าอาวาส

*ความสำคัญ ของวัดศรีกะอางและพระพุทธรูปมีความสำคัญ กล่าวคือ เป็นพระพุทธชินราชที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนามว่า “พระสัมพุทธะสักยะมุนีโลกนาถ” มีพระพุทธรูปพระประธาน ในพระอุโบสถปางสะดุ้งมาร ได้รับพระราชทานพระนามจาก สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ว่า “พระพุทธพิชิตมาร” โดยบริเวณผ้าทิพย์หน้าพระพุทธรูปได้รับพระราชทานพระนามาภิไธยย่อ ญสส. ประดิษฐานไว้

นอกจากนี้ยังได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย ไว้ในอุโบสถด้วย และความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ วัดศรีกะอางนี้ เป็นวัดธรรมยุติกนิกายตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน โดยในอดีตที่ผ่านมา วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของ พ่อแม่ครูอาจารย์ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ หรือพระกรรมฐานสาย พระอาจารย์ มัน ภูริทัตเถระ ได้เดินทางธุดงค์มาพักค้างแรมเจริญสมนธรรม อาทิเช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาป้อง จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมาหลวงพ่อวิริยังค์ จ.กรุงเทพฯ และอีกหลายรูป

*แผนงาน ของวัดที่สำคัญ กล่าวคือ การอบรมสั่งสอนสาธุชนของหมู่บ้านโดยรอบวัดและประชาชนโดยทั่วไปให้หันมาสนใจในธรรมะและคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการรักษาศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ยังมีการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะ ที่ถูกสร้าง ขึ้นมาเป็นเวลานานมีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้ ตามปกติ เช่น การซ่อมแซมเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถที่ชำรุดแตกหักทำให้น้ำรั่วซึมลงมา การปรับปรุงซ่อมแชมถังเก็บน้ำซีเมนต์ การปรับปรุงแหล่งต้นน้ำ เพื่อให้กักเก็บน้ำได้ยาวนาน รวมไปถึงการสวดถอนและการเตรียมการฝังลูกนิมิตในอนาคตอันใกล้

ขอเชิญชวน พุทธศาสนิกชน ร่วมพลังบุญ และ ขออนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ ครับ อานิสงส์การสร้างโบสถ์ https://www.sarakuntho.org/ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม นำโดยอาจารย์วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิฯ นำนมัสการพระธาตุพนมจำลอง (พระธาตุเจดีย์สิริมงคลนวรัตน์) ถวายบุญกุศลแด่ทุกภพภูมิ เปิดมงคลบวงสรวงฯ ณ วัดสระแก้ว จังหวัดขอนแก่น ในพลังบุญ เปิดงานนมัสการพระธาตุ และทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างกำแพงแก้วและซุ้มประตูวัด เป็นมหามงคลเพื่อแผ่นดิน ขอให้ทุกท่านมีส่วนในผลบุญ รับมงคลบารมีนี้ ให้เจริญสุข เจริญทรัพย์ เจริญอำนาจบารมี เจริญธรรม ตราบถึง พระนิพพาน…

มูลนิธิพุทธภูมิธรรม และกัลยาณมิตร ร่วมสงเสด็จ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) และ ปฏิบัติบูชา สวดมนต์อธิษฐานจิตถวายเป็นพุทธบูชา เป็นพลังบุญเพื่อแผ่นดิน ในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) กลับคืนสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ 15 ก.พ.2568

หลังจากได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.2567 จนถึงวันที่ 14 ก.พ.2568 รวมระยะเวลา 73 วัน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

ขณะที่ยอดจำนวนประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) หลังจากประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย จนถึงการอัญเชิญกลับสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งสิ้น 2,993,737 คน

ขอร่วมอนุโมทนาบุญและส่งพลังบุญนี้ ให้แด่กัลยาณมิตรทุกท่าน เจริญสุข เจริญธรรม ตราบถึง มรรค ผล นิพพาน เทอญ…