คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวอาชญากรรม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มุกดาหารระอุ! 3 วัน กวาดล้างยาเสพติดคำป่าหลาย ต.เดียว รวบ 44 ชีวิต – พระร่วมวงเสพ-ค้า ยึดยาบ้า – ปืน กลางหมู่บ้าน สะเทือนทั้งเมือง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร แถลงผลการปฏิบัติการตามนโยบาย “No Drug, No Dealer” ของรัฐบาล ที่ดำเนินต่อเนื่อง 3 วันรวด ระหว่างวันที่ 13–15 สิงหาคม 2568

โดยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองมุกดาหาร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.คำปลาหลาย สาธารณสุขอำเภอเมืองมุกดาหาร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคำปลาหลาย และเจ้าหน้าที่ อส. ระดมลงพื้นที่เป้าหมายสามารถจับกุมผู้กระทำผิดรวม 44 ราย

โดยเป็นผู้เสพ 43 ราย อายุ 17–53 ปี ถูกส่งเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและบำบัดรักษา ผู้ค้า 1 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย ตรวจยึดยาบ้าจำนวนมากพร้อมพร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไว้เป็นของกลาง

นอกจากนี้ยังได้จับกุมพระสงฆ์ในพื้นที่อีก 1 รูป หลังพบเกี่ยวข้องกับการเสพและค้ายา เจ้าหน้าที่นำตัวลาสิกขาบทก่อนควบคุมตัวดำเนินคดี

นายชายสิทธิ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชน ผู้สื่อข่าว และพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงพลังของชุมชนที่ต้องการสร้างความสงบและปลอดภัยให้สังคม พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะเดินหน้ากวาดล้างอย่างต่อเนื่องเพื่อตัดวงจรยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเมืองมุกดาหาร

ชายสิทธิ์สุวรรณโชติ #นายอำเภอเมืองมุกดาหาร #NoDrugNoDealer #มุกดาหารเดือด #กวาดล้างยาเสพติด #พระค้ายา #มุกดาหาร #ข่าวด่วน #CrimeNews #ข่าวมุกดาหาร #พระค้ายา #CrimeNews #ข่าวไวรัล #ข่าววันนี้/////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ ผู้​สื่อข่าว​ประจำ​จังหวัด​มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทับสะแกกวาดล้าง กลุ่มผู้ค้า/ ผู้เสพยาเสพติด ภายใต้ยุทธการเมืองสามอ่าวล้างบางยาเสพติด” จ.ประจวบฯ รวบผู้ต้องหา 5 ราย ยาบ้า 79 เม็ด

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการ ปส.จ.ประจวบคีรีขันธ์สั่งการให้ นายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก ในฐานะผอ.ศป.ปส.อ.ทับสะแก มอบหมายให้ นายทนงศักดิ์ รุ่งรัศมี ปลัดอาวุโส เจ้าพนักงาน ป.ป.ส อำเภอทับสะแก นายพงศ์นรินทร์ สุขประเสริฐ ปลัดอำเภอ

พร้อมด้วย สมาชิก อส.อ.ทับสะแกที่ 6 นายธนพล ยอดแก้วผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลเขาล้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลเขาล้าน ตรวจสอบการลักลอบการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ตำบลเขาล้าน จากการตรวจสอบได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจำนวน 5 ราย ซึ่งพนักงานฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้

  1. นายสราวุธ สงวนนามสกุล มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) จำนวน 44 เม็ด โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
  2. นายสุนทร สงวนนามสกุล มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) จำนวน 35 เม็ด โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
  1. นายอนุ สงวนนามสกุล โดยกล่าวหาว่า เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
  2. นายพิพัฒน์ชัย สงวนนามสกุล สมัครใจเข้ารับการบำบัด
  3. นายนครินทร์ สงวนนามสกุล สมัครใจเข้ารับการบำบัด
    พร้อมของกลางทั้งหมด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) จำนวน 79 เม็ด โดยได้บันทึกการจับกุมส่งพนักงานสอบสวนสภ.ทับสะแก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ตามนโยบายรัฐบาล”เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด No Drugs Noท Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดภัยยาเสพติดและการขับเคลื่อนงานระยะเร่งด่วน(Quick Win ) “ 5 ไร้ทุกข์ 3 สร้างสุข” ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยโดยดำเนินการการขับเคลื่อนงาน “ไร้ทุกข์ที่ 1” (การป้องกันปราบปรามยาเสพติด เพื่อช่วยเหลือเยียวยาคืนคนดีสู่สังคม) ได้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น จับกุมผู้ค้า/ผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด (สัปดาห์สีแดง) และยุทธการเมืองสามอ่าวล้างบางยาเสพติด”อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

/////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ย้ายลุงพล! จากเรือนจำมุกดาหารสู่เรือนจำนครพนม คุมเข้มผู้ต้องขังโทษสูง”

แชร์เนื้อหานี้

หลังจากเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ทำให้นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ต้องถูกคุมขังต่อในเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ล่าสุดเช้าวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 08.15 น. รถควบคุมผู้ต้องขังของเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ได้เข้าไปรับตัวลุงพล เพื่อนำส่งไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม

การย้ายตัวครั้งนี้เป็นไปตามอำนาจการควบคุมของเรือนจำ เนื่องจากเรือนจำจังหวัดนครพนมมีอำนาจและศักยภาพในการควบคุมผู้ต้องขังที่ได้รับโทษในอัตราสูงกว่า พร้อมมาตรการด้านความปลอดภัยที่รัดกุมกว่าเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะมีการเคลื่อนย้ายตัวลุงพลออกจากเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ไม่มีญาติหรือแฟนคลับ (FC) ของลุงพลมาร่วมให้กำลังใจเหมือนในครั้งก่อน ต่างจากวันที่มีทำพิพากษาและคำสั่ง ซึ่งมีกลุ่มผู้ติดตามมารอที่เรือนจำเป็นจำนวนมาก

ย้ายลุงพล #ลุงพลย้ายเรือนจำ #ลุงพล #ป้าแต๋น #เอฟซีลุงพล #เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร #เรือนจำจังหวัดนครพนม #มุกดาหาร #คดีน้องชมพู่ #ไม่ให้ประกันตัว #ข่าวร้อน #ดราม่า #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นอภ.เมืองมุกดาหาร บูรณาการกวาดล้างยาเสพติด – พบผู้เสพ 15 ราย สมัครใจเข้าบำบัด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร / ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองมุกดาหาร (ศป.ปส.อ.เมืองมุกดาหาร) นำทีมปลัดอำเภอ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่าย

ปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร้อย อส.อ.เมืองมุกดาหาร 2 บูรณาการร่วมกับ ร้อย อส.จ.มห.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำป่าหลาย ลงพื้นที่ปฏิบัติการค้นหาผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร

ภารกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ แผน Quick Win 3 เดือน “No Drugs No Dealers” และปฏิบัติการต่อเนื่องจากการ Re X-ray พื้นที่ เพื่อคัดกรองผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด และขยายผลดำเนินคดีกับผู้ค้าที่เหลืออยู่

📝 ผลการปฏิบัติเจ้าหน้าที่พบผู้เสพยาเสพติดจำนวน 15 ราย ซึ่งทั้งหมดสมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อสร้างชุมชนปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน

อำเภอเมืองมุกดาหาร #มุกดาหาร #กวาดล้างยาเสพติด #NoDrugsNoDealers #QuickWin #ชุมชนปลอดยาเสพติด ////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นาที​ “ลุงพลเข้าเรือนจำ! ศาลไม่ให้ประกัน รอศาลฎีกาชี้ชะตา”

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม รถเรือนจำจังหวัดมุกดาหารได้รับตัวนายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ซึ่งศาลยังไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร โดยลุงพลจะต้องถูกแยกกักโรคโควิดเป็นเวลา 5 วัน ก่อนพิจารณาส่งเข้าห้องขังแดนต่างๆ

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี กระทำการต่อศพหรือสภาพแวดล้อมก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุกทั้งหมด 26 ปี และให้ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่พ่อแม่น้องชมพู่ รวมกว่า 2.55 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทีมทนายความของลุงพลเปิดเผยว่าได้มีการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวลุงพลต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร แต่ไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ยื่นอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลฎีกาอยู่ระหว่างรอคำสั่ง

ประกันตัว #ปล่อยตัวชั่วคราว #ลุงพล #ป้าแต๋น #น้องชมพู่ #คดีสะเทือนใจ #ข่าวดราม่า #ฆ่าคนตายโดยเจตนา #ศาลอุทธรณ์ #ศาลฎีกา #ไวรัลข่าว #ดราม่าเดือด #มุกดาหาร #สะเทือนใจทั้งประเทศ ////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ลุงพลอ่วม” ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ตัดสินลุงพลข้อหาหนัก ฆ่าโดยเจตนา – พรากเด็ก จำคุกรวม 26 ปี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร นายอนามัย และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อกับแม่น้องชมพู่ได้เดินออกมาจากศาล แล้วให้สัมภาษณ์

ผู้สื่อข่าว รู้สึกดีใจและขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 4 มากที่ได้ให้ความเป็นธรรมกับน้องชมพู่ โดยมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกลุงพลในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและมีอัตราโทษโทษสูงขึ้น

นายพิสิษฐ์ ตรัยเจริญเมธากุล ทนายความโจทก์ร่วม เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษา ว่าจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลงโทษจำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร

ลงโทษจำคุกกระทงละ 10 ปี และกระทำการต่อศพหรือสภาพแวดล้อมก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ลงโทษจำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 26 ปี และให้

ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 เดี๋ยวแม่น้องชมพู่ จำนวน 1,350,000 บาท โจทก์ร่วมที่ 2 หรือพ่อน้องชมพู่ จำนวน 1,200,000 บาท

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบช.ภ.1 สั่งการ ตร.ภาค 1 รับผิดชอบ 9 จ. กวาดล้างสถานบริการผิดกฎหมายยาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี อาชญากรรมข้ามชาติ ที่เป็นภัยต่อประชาชน

แชร์เนื้อหานี้

ผบช.ภ.1 สั่งการตำรวจภูธรภาค 1 ในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้ง 9 จังหวัด ระดมกวาดล้างสถานบริการผิดกฎหมายยาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี อาชญากรรมข้ามชาติ และการกระทำผิดกฎหมายที่เป็นภัยต่อประชาชน ทุกกฏหมายทุกประเภทกฎหมายพิเศษเฉพาะทาง

พร้อมเป็นเจ้าภาพหลักและสนับสนุนร่วมในการตรวจระดมกวาดล้างแบบบูรณาการหน่วยงานร่วมกัน รวมใจหน่วยงานความมั่นคงเป็นหนึ่งเดียวกัน จับมือไว้แล้วทำงานไปด้วยกัน พร้อมสายด่วนเเจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 กับระบบควบคุมสั่งการตรวจสอบด้วยระบบเทคโนโยลี เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค 1 และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 1 ควบคุม งานแถลงข่าวและประชาสัมพันธ์ข่าวตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า 1เปิดเผยว่า

ทางด้าน พลตำรวจโท สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ คณะผู้บริหารระดับสูง ได้สั่งการให้ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ก็คือ สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรีพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท ลพบุรีสระบุรี สิงห์บุรี

และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ระดมกวาดล้างและ จับกุม เป้าหมาย ที่มีการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 โดยเฉพาะ สถานบริการต่างๆ ซึ่งเปิดอย่างผิดกฎหมายและ มีเรื่องของยาเสพติดซึ่งทำลาย สุขภาพ ของประชาชน และเศรษฐกิจตลอดจนความมั่นคงของประเทศไทย

โดย หา ดประชาชน ท่านใด พบแต่ความผิดหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับ การกระทำความผิดต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทางภาค 1 สามารถแจ้งได้ที่ที่ทำการของ ตำรวจ ภูธร ณ สถานีนั้นๆหรือจังหวัดนั้นๆหรือสามารถโทรแจ้ง

สายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ได้ทุกที่ทุกจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในระบบจะมีการบันทึกการแจ้ง การกระทำความผิดต่างๆไว้ ด้วยเทคโนโลยีที่จะสามารถ

ตอบรับ การทำงานเข้าช่วยเหลือ เหตุต่างๆของประชาชนหรือรับ เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเบาะแสเพื่อดำเนินการ สืบสวนสอบสวนหาข่าวเข้าไปจับกลุ่ม อย่าง โดยด่วนที่สุดต่อไป

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศุลกากรมุกดาหาร ตรวจยึดยาอี 5 ถุง น้ำหนัก 8 กิโลกรัม

แชร์เนื้อหานี้

ตามนโยบาย นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ทปษ.ด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนางสาวลลิตา อรรถพิมล ผอ.ศภ.2 ให้เข้มงวดในการตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้สั่งการให้ นายสานุ ศิลปไชย ผอ.สคศ.และนายชวลิต จิระชนากุล ผอ.สบศ. ดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568​ เจ้าหน้าที่ ฝคต. สคศ. ด่านศุลกากรมุกดาหาร นำโดย นายปริญญา ผลมั่ง หน.ฝคต. ร่วมกับฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2​ ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม 2 ส่วนสืบสวนและปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม ร้อย.ทพ.2105​ ฉก.ทพ.21 ชปข.กอ.รมน.ภาค 2 ชุด สท.ที่ 8 (มุกดาหาร) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร้อย.ตชด.234 ด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร  ได้ร่วมกันตรวจสอบกล่องกระดาษ จำนวน 1 กล่อง วางอยู่บริเวณด่านพรมแดนมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดแสดงตนเป็นเจ้าของ ผลการตรวจสอบพบ วัตถุชนิดผง สีส้มแดง จำนวน 5 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 8 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษดังกล่าว ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจเป็นสิ่งของที่มีส่วนผสมหรือมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ จึงได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาตรวจสอบสารเสพติด ผลการตรวจสอบเชื่อได้ว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาอี) กรณีเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252  แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด///ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รวบ “หัวเผือกบ้านนา” นักค้ายารายใหญ่พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 5 ล้านบาท / สนธิกำลังสแกนยาเสพติด ตามมาตรการสัปดาห์สีแดง

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ชุมพร สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน

ภาค 8 ร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.บ้านนา โดยสามารถจับกุม นายหัวเผือก (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ค้ายาเสพติดตัวการสำคัญ พร้อมยึดทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

ข่าวแจ้งว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายหัวเผือก หรือที่รู้จักในฉายา “หัวเผือกบ้านนา” เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับเยาวชนอายุระหว่าง 16-20 ปีในพื้นที่ จ.ชุมพรมาเป็นเวลานาน แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลายครั้งแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากนาย

หัวเผือกไม่ได้เสพยาเสพติดจึงไม่สามารถจับกุมได้ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับในข้อหา “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” ซึ่งศาลจังหวัดชุมพรได้อนุมัติหมายจับในที่สุด

จากนั้นใน เวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี พร้อมชุดสืบสวนภาค 8 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมนายหัวเผือกได้ที่บ้านพักหลังใหม่ในพื้นที่ ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมยึดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่า

ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย บ้าน 1 หลังพร้อมที่ดิน รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ทองคำหนัก 5 บาท เงินสด 120,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้กว่า 5 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายหัวเผือกพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สนธิกำลังสแกนยาเสพติด ตามมาตรการสัปดาห์สีแดง


ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร นายปารเมศ เห้งสวัสดิ์ นายอำเภอพะโต๊ะ

นายกิตติพงศ์ อินทรสุวรรณ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันมอบหมายให้ นายจักรกฤษณ์ มุณีน้อย เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.นายศุกรกานต์ ทิพย์บุญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.ร้อย อส.อ.พะโต๊ะ 8

กำนันต.ปังหวาน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติการค้นหาผู้เสพ ผู้ติด และผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray) ในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ตามมาตรการ “สัปดาห์สีแดง” (Intensive Days Screening Week) และการขับเคลื่อนนโยบายร่วมเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers”

เพื่อสร้างชุมชนปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ พบผู้เสพยาติดจำนวน 6 ราย จึงร่วมกันนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำ ต.ปังหวานต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯ ชลบุรี แถลงข่าวกวาดล้างยาเสพติดอำเภอบางละมุง ภายใต้ปฏิบัติการ “No Drugs No Dealers” ก่อนเป็นเชฟทอดไข่ให้ จนท. รับประทาน

แชร์เนื้อหานี้

 วันที่ 6 ส.ค.68 ที่สถานีตำรวจภูธรบางละมุง จ.ชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญ ตามโครงการของรัฐบาลภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “No Drugs No Dealers” ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

การแถลงข่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง และสถานีตำรวจภูธรบางละมุง โดยมี พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี, นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง, พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ร่วมในพิธี พร้อมด้วยสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทำข่าวอย่างคับคั่ง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่ามีการซื้อขายยาเสพติดผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยใช้ชื่อ “เจริญ...” เป็นช่องทางในการติดต่อซื้อขาย โดยมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่าง ๆ และมีการวางยาเสพติดตามจุดนัดหมายต่าง ๆ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนสั่งซื้อยาบ้า จำนวน 3 มัด ประมาณ 6,000 เม็ด และยาไอซ์ 200 กรัม เพื่อล่อซื้อ

 ต่อมาได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายบริเวณซอยเขามะกอก 1/1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง และสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายวัฒน์ ซึ่งให้การว่านำยาเสพติดมาจากบ้านพักของผู้ร่วมขบวนการอีก 2 รายที่ซอยหนองหิน 1 ถึง 1/1 ต.หนองปรือ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 ราย ได้แก่ นายมนตรี และนายศุภพัฒน์ พร้อมของกลางประกอบด้วยยาบ้า 24,440 ยาไอซ์ 751 กรัม อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ Norinco สีดำ 1 กระบอก

 รวมของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย: ยาบ้า จำนวน 30,440 เม็ด, ยาไอซ์น้ำหนักรวม 951 กรัม, อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ Norinco สีดำ จำนวน 1 กระบอก ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายวชิระ หรือวัฒน์ อายุ 33 ปี, 2. นายมนตรี หรือนุ๊ก อายุ 28 ปี และ3. นายศุภพัฒน์ หรือตี๋ อายุ 27 ปี

ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) โดยการขายอันเป็นการกระทำเพื่อ การค้า โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้ายาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อ จำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และนายมนตรีหรือบุ๊ก (ผู้ถูกจับที่ 2) มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ใน ความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

ภายหลังการแถลงข่าว นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางละมุง (ศอ.ปส.อ.บางละมุง) ณ อาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 5 ที่ว่าการอำเภอบางละมุง เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และร่วมประกอบอาหารกลางวันมอบแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่องด้วยมิตรไมตรีที่ดีร่วม