คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวอาชญากรรม

สื่อรัฐนิวส์ – สื่อรัฐทีวี / พบศพหญิงเร่ร่อน ถูกฆ่าตายในห้องน้ำร้าง ข้างหลังศูนย์เด็กเล็กเทศบาลทับสะแก ประจวบฯ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 29 ต.ค.67 ร.ต.ท.วิษณุ สังมัน รอง สารวัตรสอบสวน สภ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตที่บริเวณห้องน้ำร้างข้างตลาดนัด หน้าสถานีรถไฟติดกับศูนย์เด็กเล็กเทศบาลตำบลทับสะแกจึงรายงานให้ พ.ต.อ.พีรวัส ชูแก้ว ผกก.สภ.ทับสะแก พ.ต.ท.พยุงศักดิ์ จงดี รอง ผกก.สส.สภ.ทับสะแก พ.ต.ท.สุทิน ทัดรัตน์ สว.สส.สภ.ทับสะแก พร้อมชุดสืบสวน ฝ่ายป้องกันและปราบปราบ สพฐ.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ อาสามูลนิธิฯสว่างรุ่งเรืองทับสะแก แพทย์เวร รพ.ทับสะแก รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

บริเวณที่เกิดเหตุติดลานที่จอดรถตลาดนัดหน้าสถานีรถไฟ ด้านหลังศูนย์เด็กเล็กเทศบาลทับสะแกพบศพหญิงสาวทราบชื่อภายหลัง น.ส.สร้อยประดับ ทองสุข อายุประมาณ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 6 ต.ช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร สภาพนอนหงานอยู่บนหมอน ซึ่งไว้รองศีรษะ ข้างห้องน้ำเก่าที่ยังไม่ได้รื้อโคนต้นมะขามขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้นมีบาดแผลบริเวณใบหน้าและลำตัว แพทย์คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ตำ กว่า 3 ชม.

จากการสอบถาม นายสมหวัง ใสสะอาด อายุ 62 เป็นชาวตำบลทับสะแก ที่ยังให้การวกวน จากการดื่มสุราตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เล่าว่าตนเองอยู่กินกับผู้ตายมาประมาณ 20 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้ชาย และอ้างว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน เข้ามาทำร้ายภรรยาตนเอง พอตนเองจะเข้าไปช่วยคนร้ายก็วิ่งหายไป แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเนื่องจากยังอยู่ในสภาพเมา ให้การวกวนอยู่ และทราบว่าทั้งคู่ชอบดื่มเหล้าเมาแล้วทะเลาะกันเป็นประจำ ต่างคนต่างไม่ค่อยยอมกันเวลาพูด

โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บรายละเอียด และรายนิ้วมือแฝง ตรวจ DNA ส่งตรวจพิสูจน์ จากนั้นได้ให้มูลนิธิสว่างรุ่งเรือง นำร่างผู้ตายส่งตรวจพิสูจน์ ที่สถาบันนิติเวชฯ ต่อไป
////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นรข.มุกดาหาร ยึดยาบ้าข้ามโขง 3.6 ล้าน เม็ดพร้อมรถยนต์

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม​ 2567​ นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง(นรข.) และ พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ร่วมแถลงข่าว จับกุมยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) จำนวน 3,600,000 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม น.ท.เตชธร ฉิมพาลี หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการสถานีเรือมุกดาหาร พร้อมทั้งประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อบูรณาการปฏิบัติร่วมกัน

วางแผนในการสกัดกั้นและจับกุมโดยการเฝ้าสังเกตการณ์ และจัดวางกำลังตามเส้นทางคมนาคมที่คาดว่าผู้กระทำผิดจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. ชุดเฝ้าตรวจบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงได้ยินเสียงเรือแล่นเข้ามาบริเวณฝั่งระยะห่างจากจุดซุ่ม ประมาณ 300 เมตร พร้อมกับได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งมาบริเวณดังกล่าว ชุดซุ่มเฝ้าตรวจจึงได้นำกำลังเข้าไปบริเวณดังกล่าว และสังเกตเห็นว่ามีการลำเลียงกระสอบขึ้นรถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU X สีขาวทะเบียน ขก 7917 อุดรธานี

จากนั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เรือลำเลียงก็ได้วิ่งกลับฝั่ง สปป.ลาว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามรถยนต์เพื่อจะขอตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งเครื่องขับหลบหนี กระทั่งต่อมาได้ติดตามพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้บริเวณริมถนนติดกับสวนยางพารา ริมทางสาธารณะบ้านหนองโจด ม.13 ต.บ้านโคก อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

จึงได้เข้าเข้าตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว พบกระสอบสีขาว จำนวน 9 กระสอบ อยู่ที่ด้านหลังตัวรถ เมื่อเปิดกระสอบบอกดูพบยาบ้าจำนวน 3,600,000 เม็ด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทหารเรือ นรข.แถลงตรวจยึดยาบ้ากว่า 3.9 หมื่นเม็ด ริมน้ำโขง / บึงกาฬก้าวสู่ยุคดิจิทัล เสริมระบบป้องกันภัยพิบัติด้วยเทคโนโลยี AI (CCTV-based)

แชร์เนื้อหานี้


เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 11 ต.ค. ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย สถานีเรือบึงกาฬ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข.มอบหมายให้ น.อ.สุชาติ อุดมนาค รอง ผบ.นรข. เป็นผู้แทนในการแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 39,951 เม็ด ภายใต้อำนวยการของ พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข และ น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย โดยว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ประกอบไปด้วย นายธีรพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ว่าที่พ.ต.อ.จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ โคตรศรีวงษ์ ผบ.ร้อย ตชด.244 พ.ต.ต.ประชานารถ แดงเนียม สว.หน.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ และผู้แทน บก.อส.จ.บึงกาฬ ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ต.ค. เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ แจ้งว่ามีสายรายงานสืบทราบมาว่าจะมีการขนลักลอบยาเสพติดข้ามฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่ บริเวณริมแม่น้ำโขงระหว่างบ้านท่าโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ คาดว่าจะเป็นป่าสวนยาง ได้รายงาน น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้ทราบ จึงสั่งการให้ ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ ร.ท.เพชรนคร ผิวขำ และ ร.ท.ไชยา เนียมแสง พร้อมเจ้าหน้าที่ นรข.ได้จัดชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ ออกวางกำลังเข้าตรวจในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านท่าโพธิ์ ตลอดแนวคาดว่าจะมีการกระทำผิด

กระทั่งเวลา 19.00 น.ขณะที่แบ่งกำลังซุ่มอยู่ริมโขงบริเวณพื้นที่ป่าสวนยางบ้านท่าโพธิ์ ชุดปฏิบัติติการได้ใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนตรวจพบเรือกลีบเพลายาวเครื่องยนต์ติดท้ายต้องสงสัยแล่นข้ามน้ำโขงมาจากฝั่ง สปป.ลาว ภายในเรือมีบุคคลนั่งมาด้วย 1 คน ขับเรือมายังฝั่งบริเวณสวนยางริมฝั่งแม่น้ำโขงตามที่สายลับแจ้งมาโดยเมื่อเรือจอดชายคนดังกล่าวได้ยกถังสีขาว จำนวน 1 ถังขึ้นมาจากเรือ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ จึงเข้าแสดงตัวเข้าตรวจค้นเมื่อชายต้องสงสัยเห็นเป็นเจ้าหน้าที่จึงทิ้งถังสีขาวที่ถือมาแล้วรีบขับเรือกลีบเพลายาวที่จอดไว้กลับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงลงไปตรวจดูเปิดดูด้านในถังสีขาวพบว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 4 แพ็คๆ รวมเป็นยาบ้าจำนวนประมาณ 39,951 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ก่อนจะทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เชียงของดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายธีระพล ขุนพานเพลิง นอภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า ทุกวันนี้ในพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬ มีการระบาดของยาบ้าอย่างหนัก บางพื้นที่ราคายาบ้า เม็ดละ 20 บาท หรือ 5 เม็ดร้อย ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย เป็นต้นเหตุของการเกิดอาชญากรรมลักเล็กขโมยน้อย รวมไปถึงการเมายาบ้าอาละวาด สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ในบทบาทฝ่ายปกครองเองมี 3 ส่วน มาตรการในการป้องกัน มาตรการในการปราบปราบ และมาตรการในการบำบัด ซึ่งฝ่ายปกครองเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับพื้นที่ยังมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็นมือเป็นไม้ในพื้นที่มีโอกาสได้ส่งข้อมูลต่างๆให้กับหน่วยงานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญในส่วนมาตรการป้องกันที่ได้ดำเนินการคือการป้องกันระดับกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน เยาวชน ให้มีโอกาสห่างใกลจากยาเสพติด

ด้าน น.อ.สุชาติ อุดมนาค รอง ผบ.นรข. กล่าวเพิ่มเติมว่า นรข.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานบูรณาการร่วมกันในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ในการแก้ปัญหาอีกส่วนหนึ่งจะนำกำลังพลหน่วย นรข.พบปะประชาชน เยาวชน มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจปัญหายาเสพติด และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบคือครอบครัว โดยจะกลับไปให้ข้อมูลที่ดีกับประชาชนให้ความร่วมมือลดละเลิกยาเสพติด
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล //บึงกาฬ 0645960906

จังหวัดบึงกาฬก้าวสู่ยุคดิจิทัล เสริมระบบป้องกันภัยพิบัติด้วยเทคโนโลยี AI (CCTV-based)
.
วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมสิรินธรวัลลี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดระบบป้องกันและจัดการภัยพิบัติโดยใช้ระบบเทคโนโลยี CCTV-based (AI) ระหว่าง จังหวัดบึงกาฬ บริษัท ลาว พีเพิล จำกัด และบริษัท เอเดน แลป จำกัด

CCTV-based (AI) หรือระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายด้าน รวมถึงการจัดการภัยพิบัติ โดยระบบนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ประโยชน์ของการใช้ระบบ CCTV-based (AI) ในการจัดการภัยพิบัติ การตรวจจับภัยพิบัติล่วงหน้า ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น พายุ ฝนตกหนัก หรือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติ

ระบบ CCTV-based (AI) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือในการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ โดยสามารถตรวจจับภัยพิบัติได้ล่วงหน้า ประเมินความเสียหาย ติดตามสถานการณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดบึงกาฬในการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และเป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.มุกดาหาร ซ้อนแผนรวบฆาตกรโหด ฆ่าเพื่อนถ่วงน้ำโขง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ร.ต.อ.อุทัย ศรีแนน ร้อยเวร สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากนายสมศักดิ์ แตงงาม อายุ 42 ปี ว่ามีเพื่อนถูกฆ่าตายในบ้านเช่าในชุมชนตาดแคน ซอย 8 เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร แล้วนำศพไปทิ้งที่บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านสงเปือย ตำบล บางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยผู้ลงมือฆ่า คือ นายบาส เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบศพนายกิตติศักดิ์ บางเพชร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีอาชีพรับจ้างขับรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ส่งสินค้า สภาพศพมีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแล้วถูกนำร่างใส่ไว้ในกระสอบแล้วหุ้มทับด้วยถุงดำ

ต่อมาเนื่องจากยังไม่มีหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้วิธีเชิญตัวนายกิตติพงศ์ หรือบาส เงินงาม อายุ 46 ปี มาที่ สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อขอสอบถามข้อมูล ปรากฏว่าเมื่อนายบาส มาถึงก็ได้เข้าไปนั่งสั่งอาหารรับประทานอยู่ในร้านอาหารตามสั่งของ สภ.เมืองมุกดาหาร โดยยังไม่เข้าไปพบกับพนักงานสอบสวน ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อทราบว่านายบาส นั่งอยู่ในร้านอาหารก็ได้เข้าไปควบคุมตัวแล้วนำไปสอบสวน ซึ่งต่อมา นายบาสได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนกันจริงเพราะเมาและและเกิดอารมณ์โมโหจากการโต้เถียงกันเรื่องยาเสพติด

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายบาส ไปชี้จุดที่เกิดเหตุบริเวณบ้านเช่า โดยนายบาสได้เปิดเผยเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเอง กับนายสมศักดิ์ และผู้ตาย ได้นั่งกินเหล้าด้วยกันที่บริเวณด้านหลังบ้านพักภายใน ซ.ตาดแคน จากนั้นมีเรื่องทะเลาะกันกับผู้ตาย ทำให้เกิดความโมโหจึงได้ทำร้ายผู้ตายโดยใช้เอาน้ำร้อนนาฬิกาต้มน้ำสาดใส่ผู้ตายแล้วเข้าไปชกต่อยและใช้เท้ากระทืบจนถึงแก่ความตาย

จากนั้นในเวลาประมาณ 00.30 น. ก็ได้นำศพผู้ตายใส่ในกระสอบ หุ้มทับด้วยถุงดำ แล้วมัดด้วยลวดและถ่วงก้อนหิน ก่อนที่จะนำศพขึ้นรถบรรทุก ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 71 – 1176 นนทบุรี ไปทิ้งลงในแม่น้ำโขง ที่บริเวณท่าทราย บ้านสงเปือย ตำบลบางทรายใหญ่ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร

ภาพ//ข่าว​ พวงเพชร​ จันทร์ดี
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาคที่ 2 จับกุมยาบ้า 1.17 ล้านเม็ด/พบศพหญิงดับปริศนา สภาพมีเชือกผูกคอ กับต้นไม้บนภูเขา อ่างห้วยไร่ 2

แชร์เนื้อหานี้

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (บก.นบ.ยส.24) อ.เมือง จ.นครพนม เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานด้านยาเสพติด รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ของหน่วย ในพื้นที่รับผิดชอบอำเภอชายแดนของจังหวัดเลย, หนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม, มุกดาหาร, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี รวม 25 อำเภอ 92 ตำบล 512 หมู่บ้าน

พร้อมทั้งได้มอบแนวทางการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเน้นการบูรณาการขับเคลื่อนการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม​ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวทิ้งท้ายว่า “ ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ และลุกลามโดยไม่มีเวลาให้เราตั้งหลักนาน ดังนั้นการปฏิบัติงานของ นบ.ยส.24 ต้องมุ่งเน้นการบูรณาการทุกภาคส่วน เข้าแก้ไขปัญหาร่วมกัน อย่างเร่งด่วน และจริงจัง“

จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปที่ สถานีตำรวจภูธรชานุมาน อ.ชานุมาน​จ.อำนาจเจริญ เพื่อร่วมแถลงข่าวจับกุม ยาบ้า 1,174,000 เม็ด เมื่อ 1 ตุลาคม 2567 โดยสรุปดังนี้​ ตามนโยบายรัฐบาล โดย นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิต และจำหน่าย พร้อมทั้งการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหา ผู้เสพในชุมชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ภายใต้อำนวยการโดย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2

พลตรีสมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พลตำรวจตรี มารุต เรืองจินตนา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พันจ่าเอก สุวิน ห้องแซง นายอำเภอชานุมาน พันตำรวจเอก โชติ์นรินทร์ ศุภาวรัตม์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรชานุมาน มีผลการจับกุมคดียาเสพติด​ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมประกอบด้วย​ ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23, ตำรวจสืบสวน สถานีตำรวจภูธรชานุมาน, ฝ่ายปกครองอำเภอชานุมาน, หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตอุบลราชธานี, ตำรวจ มว.ฉก.หมวดเฉพาะกิจ ตำรวจตระเวนชายแดน 2273

ได้ร่วมจับกุม ผู้ต้องหาเป็นชาย 2 คน อายุ 22 ปี และ 14 ปี ซึ่งเป็นราษฎรบ้านเปื่อย ตำบล เปื่อย อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,174,000 เม็ด, รถยนต์ Honda สีขาว ทะเบียน กง 920 อำนาจเจริญ 1 คัน และ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สถานที่จับกุม บริเวณถนนลูกรังเสียบห้วยนาทัน บ้านโนนสำราญ หมู่ที่ 14 ตำบลซานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ
โดยก่อนเกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) จะลักลอบขนยาบ้าเข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณริมฝั่งโขงปากห้วยนาทัน หมู่ที่ 14 บ้านโนนสำราญ ต.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ชุดจับกุมจึงรายงานผู้บังคับบัญชา และประสานหน่วยความมั่นคงในพื้นที่เพื่อวางแผนจับกุม ต่อมา

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตรวจพบยาบ้า (ของกลางที่ตรวจยึดได้) จึงได้วางกำลังดักซุ่มตามจุดต่างๆ ตามความเหมาะสม และตามที่ได้วางแผนไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดดักซุ่มได้เห็น รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แจ็ส สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 920 อำนาจเจริญ ซึ่งมีชายอายุ 22 ปี เป็นคนขับ และมีชาย อายุ 14 ปี ที่นั่งมาด้วย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ทั้ง 2 คน จึงลงจากรถเก๋ง และได้ยกกระสอบที่บรรจุยาบ้าขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม บุคคลทั้ง 2 ไว้ได้ในที่เกิดเหตุ พร้อมได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ต่อมาได้นำผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรชานุมาน เพื่อดำเนินคดีต่อไป

กองทัพภาคที่ 2 กองกำลังสุรนารี และ ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในพื้นที่ตอนใน และชายแดน โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ ลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป

มุกดาหาร​ -​สลด! พบศพหญิงดับปริศนา สภาพมีเชือกผูกคอกับต้นไม้บนภูเขาอ่างห้วยไร่ 2

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ศูนย์รับแจ้งเหตุ สถานีตำรวจภูธรผึ่งแดด ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพหญิงสาวมีเชือกผูกแขวนคอห้อยอยู่กับต้นไม้บนภูเขาบริเวณพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยไร่ 2 ตำบลดงมอน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร จึงได้แจ้งร้อยเวรสอบสวนรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานขอความร่วมมือจากกู้ภัยร่วมใจ จุดคำชะอี (ในอุปถัมภ์พระครูปลัด พูลธวัฒน์ อิทธิญาโณ) ช่วยนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาจากบนเขา และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมุกดาหาร

จากการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นของผู้ตายระบุชื่อ น.ส.นภา กองสุข อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/5 หมู่ที่ 1 ตำบลนาป่า อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี และใกล้กับจุดพบศพยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า zoomer X สีเขียว-เอเลี่ยนกรีน ทะเบียน 1 กส ชลบุรี 1274 จอดอยู่โดยมีหมวกกันน็อคสีดำวางอยู่บนเบาะที่นั่ง จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐานเพื่อสอบสวนสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ศูนย์ข่าว​มุกดาหาร

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ​กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับฝ่ายปกครองแถลงการณ์ ตรวจยึดยาบ้า 400,000 เม็ด เตรียมส่งพ่อค้าฝั่งไทย

แชร์เนื้อหานี้

นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 1 และ พันเอก อินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 พร้อมด้วยหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า 400,000 เม็ด พร้อมเคตามีน จำนวน 1 ห่อ/กิโลกรัม เตรียมส่งพ่อค้าฝั่งไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ณ ที่ทำการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ร.13) โดย กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหนองกุ้งเหนือ ม.2 ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ครั้นเมื่อเวลา 2130 น. กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 จัดกำลังพลเฝ้าตรวจ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ด้านหลังสวนยางพารา พื้นที่บ้านหนองกุ้งเหนือ ม.2 ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย สามารถตรวจยึดยาเสพติดได้จำนวน 2 กระเป๋า ใบที่1 บรรจุยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด และเคตามีน จำนวน 1 ห่อ/กิโลกรัม และ กระเป๋าที่ 2 บรรจุยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 400,000 เม็ด หน่วยได้ประสาน ฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย,ตร.สภ.โพนพิสัย,หน่วยเรือโพนพิสัย,ตร.น้ำหนองคาย ร่วมทำการตรวจยึด ปัจจุบันนำของกลางมาทำการตรวจนับที่ที่ทำการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21

ทั้งนี้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี สั่งการทุกหน่วยในพื้นที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ เนื่องจากกลุ่มขบวนการดังกล่าวมักจะลักลอบขนยาเสพติดในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากต่อปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมืด อันตราย และเสี่ยงต่อการใช้อาวุธ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของการปฏิบัติงานของกำลังพล ตามนโยบายรัฐบาล โดย นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิต และจำหน่าย พร้อมทั้งการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหา ผู้เสพในชุมชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา

กองทัพภาคที่ 2 โดย กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในพื้นที่ตอนใน และชายแดน โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ ลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร​ #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี​ #กองทัพภาคที่2​ #กองทัพบกroyalthaiarmy​ #กรมการปกครอง​ #กระทรวงมหาดไทย​

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯมุกดาหารสั่งตรวจสอบความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ

แชร์เนื้อหานี้

   วันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายวรญาณ  บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดมุกดาหารออกตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ เพื่อความมั่นใจในการใช้บริการของประชาชน
โดยนายสมพงษ์ เทียนชัยเกิดศิลป์ ขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการดูแลความปลอดภัยของรถโดยสารผ่านรายการ”ผู้ว่าพบประชาชน”ว่าจังหวัดมุกดาหารมีผู้ประกอบการรถโดยสารขนาดใหญ่ จำนวน 39 ราย มีรถโดยสาร 20 กว่าคัน ซึ่งมีการตรวจสภาพตามระเบียบปีละ 2 ครั้ง

สำหรับการลงพื้นที่ปฎิบัติการตามมาตรการเชิงรุก สำนักงานขนส่งจังหวัดได้ ปฎิบัติการมาตรการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลโดยประสานผู้ประกอบการรถโดยสารทุกรายให้เตรียมความพร้อมของรถก่อนออกเดินทาง ,ออกตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการให้คำแนะนำการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ ระบบเบรค

ความพร้อมของยาง และอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในรถและอื่นๆ,ออกตรวจความพร้อมของรถและคนขับรถโดยสารประจำทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร,กำชับช่างตรวจสภาพรถเข้มข้นเรื่องการตรวจสภาพรถโดยสารโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตัวรถเพื่อให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก และเกิดความมั่นใจในการโดยสารรถ

ภาพ/ข่าว วันวิภา แพงแก้ว
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

มุกดาหาร​ -​หนุ่มวัย 34 นอนตายปริศนาในรถ หน้าผับดังโฟร์คพระนครมุกดาหาร

เมื่อ เวลา 03.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ร.ต.อ.อลงกรณ์ แวงวรรณ รอง สว.(สอบสวน)ได้รับแจ้งมีชายไทยนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์กระบะสี่ประตู หมายเลขทะเบียน 35718 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถของร้านโฟร์คพระนคร ต.มุกดาหาร อ. เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงได้พร้อมกับแพทย์เวรของโรงพยาบาลมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สายสืบร่วมกันชันสูตรพลิกศพผู้ตายเมื่อไปถึงพบศพนายสันติ โคชขึง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 4 ต.บ้านแก้ง อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร

นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะนั่งด้านหลัง มีนายทิวากรณ์ สีทา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ที่ 3 ต. โพธิ์ไทรย์ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร เจ้าของรถให้การว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกับผู้ตายก่อนเกิดเหตุได้พากันมาเที่ยวดื่มกิน ผู้ตายได้ดื่มสุราและเมาหนักกระทั่งเวลาประมาณ 22.00น.ของวันที่ 2 ตุลาคม ก็บอกว่าต้องการพักผ่อน นายทิวากรณ์ กับเพื่อนจึงพามานอนพักผ่อนภายในรถโดยเปิดประตูรถไว้ทุกบานและไม่ได้ติดเครื่องยนต์ แล้วได้เข้าไปดื่มกินภายในร้านต่อ เมื่อถึงเวลาร้านปิดจึงมาที่รถเห็นนายสันติ นอนอ้าปากค้างอยู่ และไม่รู้สึกตัว จึงเรียกให้คนมาช่วยเหลือแต่ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากนายสันติได้เสียชีวิตแล้วจึงได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยก ารต่อสู้และบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด

จากการสอบถาม นายเกียรติศักดิ์ โคชขึง บิดาของนายสันติ ให้การว่านายสันติ.มีอาการเป็นตระคิวบ่อยครั้งและเป็นคนชอบดื่มสุราเป็นประจำ และเมื่อดื่มสุราเมาแล้วมักจะมีอาการเป็นตระคิว ต้องช่วยเหลือโดยการบีบนวดเป็นประจำ ซึ่งนายสันติ เคยช็อคเนื่องจากดื่มสุราแล้วเป็นตระคิวและได้ช่วยเหลือมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่ติดใจสาเหตุการตายของนายสันติ เชื่อว่านายสันติดื่มสุราจนเมาหนักแล้วเป็นตระคิวเสียชีวิตเอง ไม่มีผู้ใดทำร้ายหรือปองร้ายทำให้นายสันติเสียชีวิตแต่อย่างใด

อนึ่ง มีประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า บริเวณที่ตั้งของผับ โฟล์คพระนคร อยู่ติดถนนพิทักษ์พนมเขตกลางใจเมืองมุกดาหาร เพิ่งเริ่มเปิดบริการเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา และไม่อยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) แต่เหตุใดจึงสามารถเปิดได้อย่างโจ่งแจ้ง และผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบได้อย่างไร

มุกดาหาร​ -​ฉก.ทหารพรานที่2105​ ตรวจยึดเนื้อหมูเถื่อน 1.5 ตัน พร้อมรถที่ใช้ขน​ คนขับทิ้งรถหลบหนี

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ร้อยโท วัชรสรณ์ เชื้อไพบูลย์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2105 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารพราน ออกลาดตระเวนในพื้นที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ครั้นเมื่อเวลา 22.45 น. ชุดลาดตระเวนได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่ออกมาจากถนนเรียบริมแม่น้ำโขง บ.บางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร ลักษณะท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่เมื่อคนขับรถยนต์ดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งเครื่องยนต์ขับรถหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตาม จนกระทั่งเวลา 23.00 น. พบรถยนต์คันกล่าวซึ่งเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน บม 5088 ศรีสะเกษ จอดอยู่บนถนนบ้านป่าหวาย ม.9 ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยคนขับได้ทิ้งรถยนต์และอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจพบเนื้อสุกรแช่แข็งบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยจำนวน 1,500 กก. ที่บริเวณท้ายกระบะจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางแล้วส่งมอบให้ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #ทหารพรานที่2105​ #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี #กองทัพภาคที่2

ภาพ/ข่าว​ พวงเพชร​ จันทร์ดี
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตชด.235 รวบ 2 หนุ่มห้วยไร่ ขนยาบ้า 60,000 เม็ด ฉก.ทหารพราน​21 ยึดจักรยานยนต์ 6 คัน ขณะเตรียมลักลอบส่งข้ามแม่น้ำเหืองให้นายทุนลาว

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 1 ตุลาคม​ 2567 ภายใต้การอำนวยการโดยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.​พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง​ผบช.ตชด.รรท.ผบช.ตชด.และ พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค.2 โดย พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชต.23,พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23 ร.ต.อ.สมควร เบญจมาตร รรท.ผบ.ร้อย ตชด.235 จับกุมการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด

ร.ต.อ.เสถียร พัฒนะโชติ รองผบ.ร้อย ตชด.235 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติด นักบินมาจาก จ.อำนาจเจริญ โดยมารับยาบริเวณดอนปลาแดก ตรงข้ามกับบ้านศรีนคร อ.ธาตุพนม ฯ จึงได้ออกตรวจสอบ พบรถต้องสงสัยตรงตามที่สายลับรายงาน จึงได้ขับติดตามไป พอรถต้องสงสัยได้สังเกตุว่ามีรถติดตามได้ขับหนี มุ่งหน้าไปทาง จ.มุกดาหาร และเสียหลักตกลงข้างทางบริเวณหน้า รร.บ้านอุ่มเหม้า ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนมฯ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น โซลูน่า วีออส สีดำ ทะเบียน ศธ 7826 กรุงเทพมหานคร ที่ถนนชยางกูร บ้านโนนงาม หมู่ที่ 5 ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

พบว่าที่พื้นภายในห้องโดยสารด้านหน้าฝั่งซ้ายด้านข้างคนขับมีกระสอบสีขาวจำนวน 1 กระสอบ วางอยู่เมื่อเปิดออกดูพบห่อกระดาษเทียนไขสีเหลือง จำนวน 30 มัด แกะออกดูพบว่าเป็นยาบ้ามัดละ 2,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดจำนวน 60,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวนายทองใบ รุ่งเรือง หรือ เป๊าะ อายุ 44 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 6 ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ คนขับรถ พร้อมกับ นายวุฒิไกร อ่อนชาติ หรือ อ้น อายุ 33 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 6 ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย และทำการตรวจยึดยาบ้าทั้งหมดพร้อมด้วยรถยนต์ไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เลย​ -​ฉก.ทหารพราน​21 ยึดจักรยานยนต์ 6 คัน ขณะเตรียมลักลอบส่งข้ามแม่น้ำเหืองให้นายทุนลาว

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม 2567 พันเอก อินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ข้ามไปยังฝั่งสปป.ลาว โดยมีนายทุนจากลาว ได้สั่งซื้อ จากนายทุนฝั่งไทย ในพื้นที่บ้านนากระเซ็ง หมู่ที่4 ตำบลอาฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย จึงสั่งการให้ ร.ท.อาคม คำจุลฬา​ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2102 ฉก.ทพ.21 พร้อมชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.โพนทอง , ฝ่ายปกครองอำเภอท่าลี่ และผู้นำชุมชน ซุ่มเฝ้าตรวจตามจุดเสี่ยง/จุดเพ่งเล็ง ครั้นต่อมาเมื่อเวลา 04.15 ได้มีเรือจากฝั่ง สปป.ลาว พายข้ามมาจอดริมตลิ่งฝั่งไทย

จากนั้นได้มีชายไม่ทราบสัญชาติประมาณ 3 คน เดินขึ้นมาเข็นรถจักรยานยนต์ลงไปริมตลิ่ง ชุดซุ่มจึงได้แสดงตัว เมื่อกลุ่มชายดังกล่าว มองเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็ตกใจทิ้งรถจักรยานยนต์และวิ่งลงเรือกีบพายหนีข้ามแม่น้ำเหืองไปยังฝั่ง สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบตามบริเวณพื้นที่ดังกล่าวพบรถจักรยานยนต์จำนวน 6 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda CRF 300 L สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda PCX 160 ป้ายทะเบียน กล 5302 ชลบุรี

รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda wave110 i สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda wave110 i สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 1 กส 926 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha Grand filano สีแดง ป้ายทะเบียน 7ขอ 4562 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha Grand filano สีเทา ไม่ติดป้ายทะเบียน จึงได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ทั้ง 6 คันไว้เป็นของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนทอง ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่21 #ทหารพรานที่2102​ #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี​ #กองทัพภาคที่2

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ทางหลวงประจวบฯ จับหนุ่มสตูล ยึดยาบ้ากว่า 10 ล้านเม็ด ก่อนหลุดลงภาคใต้

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 30 กันยายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ 3 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงประจวบฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมมาตร สังข์ทอง ผกก.สอบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.หญิง กมลทิพย์ สุทธิมรรคผล ผกก.พฐ.ประจวบฯ ร.ต.อ.เวิน ไชยอาษา รองสารวัตรตำรวจทางหลวงประจวบ 3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกัน ตรวจยึดและทำบันทึกจับกุมของกลางเป็นยาบ้ากว่า 10 ล้านเม็ด ซึ่งบรรจุอยู่ในตะกร้าผักผลไม้คลุมมาด้วยผ้าใบสีดำ จำนวน 65 ตะกร้า บนท้ายรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ 22 ล้อยี่ห้อ Hino 500 สีขาว หมายเลขทะเบียน ส่วนหัว 71-9691 สงขลา หมายเลขตัวพ่วง 71-9692 สงขลา โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายอมร (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดสตูล และนายวีระพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดตรัง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่ง เจ้าหน้าที่ปปส.ภาค 7 ดำเนินการต่อไป

โดยสืบเนื่องจาก ร.ต.อ.เวิน ไชยอาษา รองสารวัตรตำรวจทางหลวง ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 10 นาย ตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดกวดขันวินัยจราจร และตรวจความพร้อมการใช้งานของรถบรรทุกที่วิ่งบนถนน บริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 378 – 379 บ้านดงไม้งาม ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน ระหว่างนั้นได้มีรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวขับเข้ามาถึงด่าน ปรากฏว่าไม่มีบังโคลนคลุมล้อด้านท้ายรถ จึงได้เรียกตรวจปรากฏว่าผู้ขับขี่มีอาการพิรุธ และผู้โดยสารที่นั่งรถมาด้วย คือ นายวีระพงษ์ ได้วิ่งหลบหนี จึงได้ติดตามจับกุมตัวมาได้ และตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมาบนท้ายรถปรากฏว่าเป็นยาบ้าจำนวนมากซึ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกปิดผนึกอย่างแน่นหนาใส่ไว้ในตะกร้าผักผลไม้เรียงมาบนท้ายรถบรรทุกจำนวน 65 ตะกร้า รวมจำนวนประมาณ 10,300,000 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวนและทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจทางหลวง และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นต่อไป

นายอมร อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นคนขับยอมรับสารภาพกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้นำรถบรรทุกพ่วงซึ่งเป็นของพ่อมาขับรับจ้างขนยาบ้าจากอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี นำไปส่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจะมีรถมารอรับ ซึ่งครั้งนี้ได้ทำเป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้างครั้งละ 200,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ได้รับจ้างบรรทุกข้าวสาร จากกรุงเทพฯลงภาคใต้ ซึ่งครั้งนี้ได้เปลี่ยนมารับจ้างบรรทุกยาบ้าแทน และได้ใช้ผ้าใบคลุมให้ดูคล้ายกับบรรทุกสิ่งของทั่วไป

////////////////////////////

ข่าว ณฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี / กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร้อย.ฉก.ทพ.2102 รวบสองสาวคาด่านตรวจ พร้อมยาบ้า 120,920​เม็ด​ อ้างญาติทางฝั่งลาวฝากมา

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อ​วันที่​ 26 กันยายน​ 2567​ เวลา​ 16.00น พันเอก อินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจะมารับยาเสพติด ในพื้นที่บ้านหนองปกติ หมู่ที่ 5 ตำบลอาฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย จึงสั่งการให้ ร.ท.อาคม คำจุลฬา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2102 (หน่วยงานหลัก) บูรณาการร่วมกับ​ตร.สภ.โพนทอง ,มว.ตชด.2463 ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณหน้าปั้มPT พื้นที่ บ.อาฮี ต.อาฮี อ.ท่าลี่ฯ

ครั้นเมื่อเวลา 17.35น​ มีรถยนต์ กระบะยี่ห้อ เชฟโรเลต แคป สีขาว ทะเบียน บย 1281 เลย วิ่งเข้ามาที่จุดตรวจ จนท.จุดตรวจ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ และได้สอบถามหญิงดังกล่าว ทราบว่าจะเดินทางไปที่ตัวอำเภอท่าลี่ จนท.จึงสอบถามชื่อ ทราบชื่อว่า น.ส.วริศา กันนะเรศ เป็นคนขับ และน.ส.วรดา พรมดี เป็นผู้โดยสาร ขณะสอบถาม มีท่าทางพิรุธน่าสงสัย จนท.จึงขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้าจำนวน 20 แพ็ค ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติดสีดำ อยู่ในกระสอบสีขาวแถบสีฟ้า อยู่หลังเบาะผู้โดยสาร จึงได้ควบคุมตัว และแจ้งให้ น.ส.วริศาฯ และน.ส.วรดาฯ ทราบว่าจะต้องถูกจับกุม เนื่องจากร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) และแจ้งสิทธิ์ให้ทราบ

จากนั้นได้นำตัวผู้กระทำผิด พร้อมของกลางมาที่ สภ.โพนทอง เพื่อตรวจนับอย่างละเอียด ทั้งนี้หน่วยฯ ร่วมบันทึกภาพถ่ายพร้อมบันทึกวิดีโอ ผู้ถูกควบคุมตัวตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ผู้ต้องหา​ 2ราย น.ส.วริศา กันนะเรศ (อัน) อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 69/1 ม.1 ต.อาฮี อ.ท่าลี่ จ.เลย​ และ น.ส.วรดา พรมดี (จ๋า) อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 196 ม.1 ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย

พร้อมของกลางยาบ้าเม็ดสีแดง จำนวน 119,680 เม็ด​ ยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 1,240 เม็ด​ รวมยาบ้าทั้งหมด จำนวน 120,920 เม็ด​ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ เชฟโรเลต แคป สีขาว ทะเบียน บย 1281 เลย จำนวน 1 คัน​ โทรศัพท์ ยี่ห้อ ไอโฟน จำนวน 2 เครื่อง​ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมบันทึกภาพถ่ายและบันทึกวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำผู้ต้องหาและของกลางส่ง พงส.สภ.โพนทอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #กองทัพบกroyalthaiarmy #กองทัพภาคที่2 #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​