คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวอาชญากรรม

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /อุกอาจ! โชเฟอร์ขับรถโดยสารมุกดาหาร-สะหวันนะเขต ซุกบุหรี่ไฟฟ้า 4,200 แท่ง ใส่ช่องลับของรถ บขส. ระหว่างประเทศ จนท.ศุลกากรตรวจปล่อยออกจากด่านแต่ทหารตามไปตรวจพบจับดำเนินคดี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน 2105 และเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร -สะหวันนะเขต) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ได้ตรวจรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศ สายมุกดาหาร-สะหวันนะเขต) หมายเลขทะเบียน 10-0716 มุกดาหาร ขณะวิ่งข้ามสะพานมิตรภาพ 2 จากแขวงสะหวันนะเขต​ เข้ามาที่ด่านพรมแดนมุกดาหาร เมื่อเปิดดูบริเวณที่เก็บสัมภาระใต้ท้องรถพบกล่องกระดาษขนาดใหญ่ต้องสงสัยจำนวน 6 กล่อง

จึงได้นำมาเปิดตรวจสอบพบว่าภายในเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 1,200 แท่ง แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานกำลังจะขึ้นไปตรวจค้นที่ด้านบนรถ ปรากฏว่าได้มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านซึ่งเข้ามาร่วมตรวจค้นด้วยบอกกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารว่าข้างบนรถตรวจแล้วไม่พบอะไรมีแต่กล่องขนมและได้ปล่อยให้รถโดยสารคันดังกล่าวแล่นออกไปจากด่านพรมแดน

แต่ต่อมาผู้บังคับบัญชาของหน่วยทหารทราบเรื่องว่ามีการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลและกองทัพบกมีนโยบายให้กวดขันจับกุมโดยเด็ดขาด จึงได้สอบถามว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ขึ้นไปตรวจได้ด้านบนด้วยหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีเจ้าหน้าทหารขึ้นไป ทางผู้บังคับบัญชาจึงได้ให้ติดตามรถโดยสารคันดังกล่าวไปทำการตรวจค้นที่ด้านบนรถโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตม.มุกดาหาร ตชด.234 ชุดสืบสภ.เมืองมุกดาหาร ตำรวจน้ำ ติดตามไปพบรถโดยสารคันดังกล่าวไปจอดอยู่ที่ด้านหลังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร

จึงได้ขึ้นไปทำการตรวจค้นที่ด้านบนรถพบว่าที่บริเวณด้านท้ายสุดของห้องโดยสาร มีการดัดแปลงทำเป็นช่องลับภายในพบกล่องบรรจุบุหรี่ไฟฟ้าอีกจำนวน 15 กล่อง

ภายในบรรจุบุหรี่ไฟฟ้ารวมจำนวน 3,000 แท่ง นอกจากนี้ยังพบเสื้อกันฝนและขนมขบเคี้ยวอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ผ่านพิธีศุลกากร จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ดำเนินคดี

ส่วนคนขับรถโดยสารประจำทางคือนายสมบัติ โคตรสงคราม อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 13 ตำบลนิคมคำสร้อย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศุลกากรมุกดาหารแจ้งว่าจะกันตัวไว้เป็นพยาน

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อ.ศรีสัชนาลัยจัดยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ายาเสพติด.

แชร์เนื้อหานี้

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าวันพุธที่ 30 เมษายน 2568ตั้งแต่เวลา 08.00 – 13.00 น.อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ภายใต้การอำนวยการของ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยโดย นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอศรีสัชนาลัย เปิดปฏิบัติการ “ยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย” ภายใต้โครงการ ศรีสัชนาลัย สีขาว โดยบูรณาการความร่วมมือกับ พ.ต.อ.วรวิทย์ คชไกรผกก.สภ.บ้านแก่ง มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอศรีสัชนาลัย

ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชป.ปส.สภ.บ้านแก่ง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอศรีสัชนาลัยที่ 6 ขับเคลื่อนโครงการ “ศรีสัชนาลัย สีขาว” ภายใต้โครงการจังหวัดสุโขทัย และมหาดไทยสีขาว เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งภัยยาเสพติด Safe Zone No Drugs และขับเคลื่อนนโยบายจัดระเบียบสังคมปราบปรามผู้มีอิทธิพล ของกระทรวงมหาดไทย

โดยร่วมกันเปิดปฏิบัติการยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย ในพื้นที่บ้านโป่ง หมู่ที่ 6 ตำบลสารจิตร อำเภอศรีสัชนาลัย การปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ได้มอบหมายให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เป็นสายลับเข้าไปสังเกตุการณ์ในพื้นที่เป้าหมาย ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 2 ราย รายละเอียดดังนี้

ผู้ถูกจับรายที่ 1 พบของกลางเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวน 7 เม็ด จึงได้ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต”

ผู้ถูกจับรายที่ 2 พบของกลางเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวน 30 เม็ด จึงได้ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต”


เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุม พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแก่ง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันระหว่างนายอำเภอ เจ้าคณะอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่ดำเนินการจัดทำพิธีลงนาม MOU แก้ไขปัญหายาเสพติด เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเจตจำนงค์ในการร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของทุกภาคส่วน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ณ บ้านโป่ง หมู่ที่ 6 ตำบลสารจิตร อำเภอศรีสัชนาลัย
กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 แถลงปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ยึดยาบ้า 5.5 ล้านเม็ด ในพื้นที่ จ.เลย / วิบัติ! โจรแสบลักสายไฟตลาดอินโดจีน เสียหายย่อยยับนับ 100 ห้อง

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 27 เมษายน 2568 เวลา 13.30 น. ที่กรมทหารพรานที่ 21 ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย จ.เลย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24) พร้อมด้วยนายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมกันแถลงข่าวปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe

ในพื้นที่อำเภอชายแดน ของจังหวัดเลย โดยมี พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย นายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พันเอก สุพรเทพ ไชยยงค์ ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 3 ( ร.8 ) นางสาวภูมารินทร์ คงเพียรธรรม ปลัดจังหวัดเลย พันเอกอินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 นายสุชิน จันทร์ป่าน นายอำเภอปากชม และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมแถลงข่าว

โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 02.00 น. กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2109 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 สืบทราบจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนย้ายยาเสพติดเข้ามายังฝั่งไทย บริเวณพื้นที่บ้านปากมั่ง ตำบลหาดคัมภีร์ อำเภอปากชม จังหวัดเลย จึงได้ประชุมวางแผนการปฏิบัติ ร่วมกับ ชป.505 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ,จนท.สภ.ปากชม จากนั้นได้วางกำลังซุ่มเฝ้าตรวจพบ เรือกีบ 1 ลำ แล่นเข้ามายังฝั่งไทยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 5 คน กำลังแบกกระสอบสีดำขึ้นจากเรือมาวางริมถนน

จากนั้นได้มีรถยนต์กระบะถอยเข้ามาเพื่อทำการขนกระสอบสีดำขึ้นท้ายกระบะ จนท.ชุดซุ่ม จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ พบเห็นว่าเป็น จนท. จึงได้กระโดดลงน้ำแม่โขงหลบหนีไปได้ แต่จนท.สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 2 คน ต่อมาจึงได้ประสานหน่วยที่เกี่ยวมาร่วมทำการตรวจสอบกระสอบสีดำ

พบเป็นกระสอบบรรจุยาบ้ารวม ทั้งหมดประมาณ 15 กระสอบ พบเป็นยาเสพติดทั้งหมด 5,566,000 เม็ด พร้อมทั้งนำส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ให้ สภ.ปากชม เพื่อทำการขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กรณีที่มีการตรวจยึดจับกุมในครั้งนี้ นบ.ยส.24 ในพื้นที่ 7 จังหวัด 25 อำเภอ พื้นที่ตามแนวชายแดน ในห้วงที่ผ่านมานั้น มีสถิติการจับกุมในพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดเลย จำนวน 186 ครั้ง ผู้ต้องหา 240 ราย โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 14,898,762 เม็ด, ไอซ์ 993 กิโลกรัม และเคตามีน 250 กิโลกรัม การจับกุมในพื้นที่รับผิดชอบของ

หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งหมด 7 จังหวัด 25 อำเภอ จำนวน 696 ครั้ง ผู้ต้องหา 974 คน โดยมี ของกลางยาบ้ามากถึง 104,955,437 เม็ด, ไอซ์ 4,084 กิโลกรัม, เฮโรอีน 124 กิโลกรัม, เคตามีน 777 กิโลกรัม, และอื่นๆ (ยาอี 3,490 เม็ด, happy Water 1,156 ซอง, ฝิ่น 1 กรัม) รวมมูลค่ามากถึงเจ็ดพันกว่าล้านบาทเศษ

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

มุกดาหาร​ -​วิบัติ! โจรแสบลักสายไฟตลาดอินโดจีน เสียหายย่อยยับนับ 100 ห้อง

เมื่อวันที่ 28 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า ได้เกิดเหตุลักลอบขโมยสายไฟครั้งยิ่งใหญ่มโหฬารในบริเวณอาคารตลาดอินโดจีนชั้นใต้ดินของจังหวัดมุกดาหาร จนทำให้โครงการก่อสร้างซ่อมแซมโครงสร้างและปรับปรุงตลาดอินโดจีน จังหวัดมุกดาหาร

มูลค่า 149,950,000 บาท ได้รับความเสียหาย โดยสืบเนื่องจากได้มีผู้ไปออกกำลังกายที่บริเวณริมแม่น้ำโขงหน้าตลาดอินโดจีนได้สังเกตเห็นสายไฟบริเวณที่เชื่อมต่อกับแผงหลอดไฟมีลักษณะถูกตัดเป็นจำนวนมาก คาดว่าอาจถูกคนร้ายเข้ามาลักลอบตัดสายไฟไปขาย จึงได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดอินโดจีนชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นอาคารยาวประมาณ 700 เมตร และอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมและปรับปรุง ปรากฏว่าที่บริเวณห้องซึ่งจะทำเป็นร้านค้าจำนวนกว่า 100 ห้อง และบริเวณทางเดิน ซึ่งมีการเดินสายไฟร้อยท่อเชื่อมต่อกับแผงหลอดไฟและอุปกรณ์ควบคุม ได้ถูกรื้อและขโมยตัดเอาสายไฟไปเกือบทั้งหมด โดยคาดว่าคนร้ายจะลักลอบเข้ามาขโมยตัดสายไฟหลายครั้งโดยใช้เวลาหลายวัน จึงทำให้มีพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

เหตุดังกล่าวทำให้ประชาชนที่ได้รับทราบข่าวต่างพากันวิตกกังวลถึงความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินเนื่องจากคนร้ายกระทำโดยอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่ตลาดอินโดจีนตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีผู้คนพลุกพล่าน และ

ที่สำคัญการถูกลักลอบตัดขโมยสายไฟดังกล่าวยังอาจทำให้งานก่อสร้างต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก ซึ่งจะส่งผลต่อเสียหายต่อเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดมุกดาหารลดต่ำลงจากที่เคยมีรายได้จากการค้าและการท่องเที่ยวเมื่อครั้งเปิดให้บริการตลาดอินโดจีนปีละประมาณ 200 ล้านบาท อีกด้วย

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อ.แม่สะเรียง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ “คนร้ายยิงราษฎรเสียชีวิต” บ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ 23 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 07:00 น. ตามที่ได้รับแจ้ง”มีคนร้ายผู้ก่อเหตุใช้อาวุธอื่นลูกซองยาว ยิงราษฎรเสียชีวิต จำนวน 1 ราย และยังตามหาตัวไม่พบ อีก 1 ราย ท้องที่เกิดเหตุ หมู่ที่ 10 บ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอำเภอแม่สะเรียงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ตั้งแต่เวลา 13:30 น. ซึ่งยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้

ผู้ถูกยิงเสียชีวิต นายดิเก สุกุลกิจ อายุ 65 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 บ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวมราษฎรที่คาดว่าจะถูกยิง 1 ราย แต่ยังหาตัวไม่พบ ชื่อ กมล สุกุลกิจ อายุ 41 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 แม่กองคา ตำบลแม่ยวมผู้กระทำความผิด/ผู้ก่อเหตุ ชื่อ ยุทธนา จตุพรสีวลี อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ครอบครัวแจ้งความหายออกจากบ้านเมื่อประมาณ 10 กว่าวันที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการติดตามค้นหาของเจ้าหน้าที่

วันนี้ 23 เมษายน 2568 เวลา 18:30 น. นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมทั้ง ร่วมวางแผนวางกำลังเจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัยให้แก่ราษฎรในหมู่บ้าน โดยบูรณาการหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ปลัดอำเภอ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เจ้าหน้าที่ทหารกรมทหารพรานที่สาม 36 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่งร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้านท้องที่ และผู้ใหญ่บ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียง จำนวนมากกว่า 50 นาย

จัดกำลังรักษาความปลอดภัยดูแลความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน เพื่อสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยให้แก่ราษฎรในพื้นที่ จนกว่าจะติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยศัพท์เปลี่ยนหมุนเวียนกำลังรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการกระทำความผิดเพิ่มเติม ประกอบกับได้รับแจ้งจากราษฎรในพื้นที่ว่าผู้กระทำความผิดอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติด และมีการประกาศว่าจะกลับมาทำร้ายราษฎรในหมู่บ้านอีก

สมจิตร แสงบัลลังก์ ภาพ/ข่าว ทีมข่าว บก. รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.นิคมคำสร้อย จับยาบ้า 4 แสนเม็ด พร้อม 2 นักบิน มุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ไพโรจน์ ไทยพุทรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ โพธิ์จันทร์ ผกก.สภ.นิคมคำสร้อย พ.ต.ท.มงคล แวงวรรณ รอง ผกก.ป.สภ.นิคมคำสร้อย พ.ต.ต.ไพรบูรณ์ เทพนา สวป.สภ.นิคมคำสร้อย มอบหมายให้ ร.ต.อ.ภูเบชร์ แจ่มจันทร์ รอง สวป.ฯ ร.ต.ท.อิทธิฤทธิ์ แซ่ลิ้ม รอง สว.ป.ฯ พร้อมชุดสายตรวจตำบลโชคชัย ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจกวดขันดำเนินตามแผนสกัดกั้น

เพื่อป้องกันปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว ยาเสพติด อาวุธปืน ผู้มีอิทธิพล และการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมาย ที่หน้าวิทยาลัยการอาชีพนิคมคำสร้อย ตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ขณะปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจดังกล่าว พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีเทา ทะเบียน ญฐ 5275 กรุงเทพมหานคร วิ่งเข้ามาจากเส้นทางอำเภอนิคมคำสร้อย เมื่อมาพบด่านตรวจได้เลี้ยวกลับรถอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร จึงได้ขับรถไล่ติดตาม

เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ขับรถไล่ติดตามจึงได้กลับอีกครั้งแต่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าสกัดได้ทันและหยุดคนร้ายไว้ได้ เมื่อตรวจผลภายในรถยนต์พบถุงสีดำขนาดใหญ่บรรจุสิ่งของ 3 ถุง วางอยู่บริเวณที่นั่งด้านหลัง เจ้าหน้าที่เปิดถุงดำดังกล่าว พบว่าเป็นห่อยาบ้าจำนวน 67 ก้อน รวมประมาณ 400,000 เม็ด และยาไอซ์ ประมาณ 0.6 กิโลกรัม (6 ขีด) จึงได้ควบคุมตัวนายวัทธิกร ฯ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี อยู่ ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี และนายคเนตร (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี อยู่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งนั่งมาในรถและตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมคำสร้อย ดำเนินคดีและทำการขยายผลต่อไป

ตำรวจนิคมคำสร้อยจับยาบ้าสี่แสนเม็ดไอซ์หกขีดพร้อมสองนักบิน​ #จังหวัดมุกดาหาร​

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / คุมประพฤติประจวบฯ ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ประจวบฯ รวบผู้ต้องหากระทำความผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 21 เมษายน 2568 สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้การอำนวยการของ นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มอบหมายให้ นายปิยชาติ ไฮ้คง พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ พร้อมด้วย นายวรวุฒิ ใบแย้ม พนักงานขับรถยนต์ ได้บูรณาการประสานความ

ร่วมมือกับ กองกำกับการตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผกก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.อธิธัช นิยมดี รอง ผกก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.มานิตย์ ปลอดโปร่ง สว.สส.ภ.จว.จังหวัดประ จวบคีรีขันธ์ ร.ต.อ.สุเทพ เขียวประชุม ร.ต.อ.ณรงค์ บุญตามทัณฑ์ รอง สว.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ส.ต.รัชตะ กรุดจันทร์ ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ประจวบฯ

ได้ประสานความร่วมมือ นำหมายค้นของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ ค. 134 / 2568 ลงวันที่ 19 เมษายน 2568 เพื่อค้นบ้านเลขที่ 80 / 3 หมู่ 9 ตำบลเขาล้าน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีบุคคลที่มีหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พักอาศัยอยู่ เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวพบ

นายพลกฤษณ์ หรือเอฟ คอนกำลัง อายุ 35 ปี เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แสดงหมายค้นและหมายจับ ของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และได้แสดงหมายจับให้บุคคลดังกล่าวดู ซึ่งรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกลุ่มในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบว่า

โดยการจับกุมได้ดำเนินจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 314 / 2567 ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 คดีอาญาหมายเลขดำที่ ย 449 / 2566 คดีอาญาหมายเลขแดง ที่ ย 495 / 2566 ในความผิดเรื่องต้องหาว่ากระทำผิดฐานมีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งเมทแอมเฟตามีน โดยฝ่าฝืนตามกฎหมาย ซึ่ง นายพลกฤษณ์ หรือเอฟ คอนกำลัง ผู้ถูกจับกุม ได้กระทำความผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติ จึงมีหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้นำตัวผู้ถูกจับกุมส่ง สภ.ทับสะแก เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

/////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทหารยึดยาบ้า 2 กระสอบ !! 330,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ (21เม.ย.68) ที่หมวดสกัดกั้นยาเสพติดที่2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และฝ่ายปกครอง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดย ร.ท.ศุภนิจ อุดมทรัพย์ ผบ.หมวดสกัดกั้นฯที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรีร่วมกับร้อย.ฉก.ทพ.2108, มว.ตชด244

ฝ่ายปกครองอำเภอบึงโขงหลง, บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) กกล.สุรศักดิ์มนตรี นบ.ยส.24, กก.3 บก.ป, นรข.เขตนครพนม สน.เรือบ้านแพง โดยมีนายทวี ชิณรงค์ นายอำเภอบึงโขงหลง เป็นประธานการตรวจนับ/ตรวจยึด ยาเสพติดประเภท (ยาบ้า)

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย.68 จนท.ได้ทำการขยายผลเพื่อเพื่อกวาดล้างยาเสพติดตามโครงการ SEAL STOP SAFE หมวดสกัดกั้นฯที่ 2 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่โดย

ได้รับรายงานจากแหล่งข่าว ว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้านและจะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่โซนใน จนท.มว.สกัดกั้นฯที่ 2 และหน่วยงานในพื้นที่จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณลานซื้อขายยางพารา ตามที่ได้รับแจ้งข่าว ครั้นเมื่อเวลา 2130

ได้มีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 I ไม่ติดแผนป้ายทะเบียน ได้ขับเข้ามาบริเวณลานยางพาราและมีคนเดินเข้ามาบริเวณหลังห้องน้ำ หยิบกระสอบสีขาว 1 กระสอบและสีเหลือง1กระสอบจนท.จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น กลุ่มคนดังกล่าวซึ่งได้ตื่นตกใจและได้ขับรถจักรยายยนต์หลบหนีไป จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบ กระสอบ จำนวน 2 กระสอบ และห่างจากจุดดังกล่าว 200 เมตร พบจักรยานยนต์จอดคว่ำอยู่บริเวณข้างถนน

จนท.ได้ทำการตรวจยึดและนำมาตรวจสอบเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการ มว.สกัดกั้นฯที่ 2 เมื่อวันที่ 21เม.ย.68 หมวดสกัดกั้นฯที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรีและหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ได้ร่วมทำการตรวจนับของกลาง โดยทำการตรวจสอบของกลางโดยละเอียดแล้วพบ ยาเสพติดประเภท (ยาบ้า)

จำนวน 53 แพ็ค (ใหญ่) 318,000 เม็ด และอีก 3 แพ็ค (เล็ก) จำนวน 12,000 เม็ด รวมทั้งสิ้น 330,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน จากนั้นได้ร่วมกันบันทึกภาพและวิดีโอพร้อมนำของกลางทั้งหมด นำส่งให้กับ สภ.เหล่าหลวงเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

 สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /  “ชะอำ” รวบ 2 หนุ่มสาวเอเย่นต์ยาบ้าพร้อมของกลาง กว่า 6 พันเม็ด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.68 พ.ต.อ.อภิรักษ์ เพิ่มชัย ผกก.สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พ.ต.ท.ธีระพงษ์ รักษาเวียง รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายเจษฎาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว จ.ราชบุรี พร้อมแฟนสาว นางสาวปวีณา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาว อ.ชะอำ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 3 มัด รวม 6,059 เม็ด คิดเป็นมูลค่าราว 6 แสนบาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กภ 2070 เพชรบุรี 1 คัน

นำตัวมาสอบสวน โดยก่อนหน้านั้นตำรวจสืบทราบว่าจะมีเอเย่นต์นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าที่บริเวณถนนคันคลองชลประทาน ถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี (ขาล่องใต้) อ.ชะอำ จึงนำกำลังดักซุ่ม

จนกระทั่งมีนายเจษฏาพร ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว นางสาวปวีณา นั่งซ้อนท้ายผ่านมา จึงแสดงตนขอตรวจค้น เมื่อเห็นตำรวจทั้งคู่ถึงกลับหน้าซีด ก่อนพบยาบ้าดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ นำตัวทั้ง 2 คน ไปตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาลชะอำ พบฉี่เป็นสีม่วง

เบื้องต้นนายเจษฎาพรให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้มีคนชื่อบอยได้ติดต่อว่าจ้างตนเป็นเงิน 3,000 บาท ให้ไปรับยาบ้าดังกล่าวที่มีคนนำไปวางทิ้งไว้บริเวณเสาไฟฟ้าถนนคันคลองชลประทาน ถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ห่างจากปั๊ม PT ประมาณ 2 กม.

จึงชวนแฟนสาวนั่งซ้อนท้ายไปเป็นเพื่อนจนถูกจับกุม ส่วนนางสาวปวีณายังให้การปฏิเสธแต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมพรรคพวกที่เหลือ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฤาษีตาไฟหาคนไม่เจอ เลยจุดไฟเผาบ้านเรียก

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 11 เมษายน ศูนย์รับแจ้งเหตุ สภ.บ้านค้อ อ.คำชะอี จ.มกดาหาร ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านที่บ้านไม่มีเลขที่บ้านตาเปอะ ต.บ้านค้อ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินไปตรวจสอบพบบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงกำลังถูกไฟไหม้โดยมีนายสุรชัย พันธ์ชัย อายุ 47 ปี ฉายาฤาษีตาไฟ ผู้ก่อเหตุเดินวนไปมาพร้อมกับท่องคาถาอยู่บริเวณรอบบ้าน จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน โดยนายสุรชัย ยอมรับว่าตนเองเป็นคนจุดไฟเผาบ้านหลังดังกล่าวเอง สืบเนื่องจากต้องการหาตัวนายสมปอง อาจหาญ หรือนายกระแต ซึ่งเอาสว่านไฟฟ้าของตนไปขาย และเมื่อตนนั่งทางในดูเห็นภาพนายกระแต อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้จุดไฟเผาบ้านเพื่อให้นายกระแตออกมา เจ้าหน้าที่จริงได้ควบคุมตัวฤาษีตาไฟไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฤๅษีตาไฟจุดไฟเผาบ้านเรียกคน #จังหวัดมุกดาหาร​ ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สุรศักดิ์มนตรี ร่วมตรวจยึด จับกุม ผู้กระทำความผิด ตาม พรบ.ศุลกากร ขบวนการแอบลักลอบนำจักรยานยนต์ส่งข้ามประเทศ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 7 เม.ย. 68 ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ บ.ดอนใหญ่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เวลา 06.10 น. ร.ท.ศุภนิจ อุดมทรัพย์ ผบ.มว.สกัดกั้น ฯ ที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรีได้รับ

รายงานจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีการแอบลักลอบนำจักรยานยนต์ส่งข้ามประเทศ โดยได้ประสาน ร.ท.โกวิทย์ วงษ์แสง ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2108และ มว.ตชด.2441

จึงจัดกำลังเข้าไปตรวจสอบในบริเวณที่ได้รับแจ้ง เมื่อ จนท.ไปถึงบริเวณดังกล่าว ได้พบชาย 2 คนกำลังนำรถมอเตอร์ไซค์ลงไปในท่าริมตลิ่งแม่น้ำโขงบริเวณ บ้านดอนใหญ่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ พิกัด 48QV 00821 13330 เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีท่าทางน่าสงสัย

จึงได้แสดงตัวว่าเป็น จนท.ขอตรวจสอบ กลุ่มชาย 2 คนเมื่อเห็นว่าเป็น จนท.จึงได้รีบวิ่งกระโดดลงไปขับเรือและได้แล่นเรือไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจากนั้น จนท.จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพบ มอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น R15 หมายเลขทะเบียน 1 กศ สกลนคร 9690

จอดคว่ำบริเวณริมตลิ่ง บ้านดอนใหญ่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จับได้ของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น R15 หมายเลขทะเบียน 1 กศ 9069 สกลนคร จำนวน 1 คัน

เจ้าหน้าที่ ชุดจับกุม จึงได้ทำการตรวจยึด และนำของกลางมาที่ สภ.บุ่งคล้า เพื่อจัดทำบันทึกตรวจยึด/จับกุม พร้อมทั้งของกลางทั้งหมด นำส่ง สภ.บุ่งคล้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป