คลังเก็บหมวดหมู่: ตำรวจ(ตร.)

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก. ภ. จว.ลพบุรี พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัดร่วมมอบทุนฯ

แชร์เนื้อหานี้

17 มิ.ย.2568 เวลา 16.30 น. พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วย รอง ผบก. ในสังกัด ภ.จว.ลพบุรี, ข้าราชการตำรวจ ในสังกัด สภ.โคกสำโรง สภ.หนองม่วง สภ.เพนียด, สภ.บ้านหมี่ สภ.โคกเจริญ สภ. สระ

โบสถ์ และคณะ กต.ตร.ภ.จว.ลพบุรี คณะ กต.ตร.สภ.โคกสำโรง ที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.โคกสำโรง ร่วมพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตร-ธิดา ของข้าราชการตำรวจ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจ

การร่วมมอบทุนการศึกษาใน “โครงการทุนการศึกษา บุตร-ธิดาข้าราชการตำรวจ สังกัด ภ.จว.ลพบุรี ประจำปี 2568” โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษา ลดภาระค่าใช้จ่าย และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กับบุตร-ธิดาข้าราชการตำรวจที่มีความประพฤติดีและมีผลการเรียนดี

โดยมุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน เพื่อเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต การสนับสนุน

ด้านการศึกษาถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีคุณภาพ เพราะการศึกษาคือกุญแจสู่ความสำเร็จและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

สนอง แท่นสูงเนิน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจ PCT ภาค 5 บุกจับ “3หนุ่มจีนเทา” คาบ้านพักหรูย่านสันทราย เนียนเข้าไทยใช้วีซ่านักเรียน แอบกบดานทำเว็บพนันออนไลน์ ปั่นรายได้ฉ่ำ 5 ล้านบาท

แชร์เนื้อหานี้

โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.๕, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช. ภ.5, พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช. ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, และ พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่
ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าตำรวจชุด

จับกุมได้รับแจ้งว่ามีคนจีนการลักลอบพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จนเจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.๕ สืบทราบว่ามีการเช่าบ้านในโครงการแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมพยาน
หลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 แลพล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 พร้อมชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโยโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวผลการตรวจค้นพบ

  1. นายกง สงวนนามสกุล เชื้อชาติ-สัญชาติ จีน อายุ 30 ปี
  2. นายวู สงวนนามสกุล เชื้อชาติ-สัญชาติ จีน อายุ 30 ปี
  3. นายหวัง สงวนนามสกุล เชื้อชาติ-สัญชาติ จีน อายุ 34 ปี
    กำลังนั่งทำงานอยู่บริเวณห้องนอนชั้น2 เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมหมายค้น ทั้ง 3 คนรับยอมรับว่าทำหน้าที่เป็นแอดมินตอบคำถามแก้ไขปัญหาลูกค้าที่เข้าเล่นเว็บไซต์พนันออนไลน์จึงควบคุมตัว แล้วแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า
    “ร่วมจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดย ทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับ อนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๑๒”และนำตัวส่งพงส. สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
    จากการสอบถามทั้ง 3 คน ให้การว่าเป็นชาวเมืองเจ้อเจียง ประเทศจีน ใช้วีซ่าท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย จากนั้นสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนได้วีซ่านักศึกษาแล้วมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งเป็นสำนักงานทำเว็บพนันให้ลูกค้าชาวจีน โดยได้ค่าจ้างคนละ 50,000 บาทต่อเดือนโดยมีสมาชิกกว่า 4,000 คน โดยจะกลับไปรับเงินเดือนกับบอสชาวจีน 6เดือนต่อครั้งแล้วกลับมาทำงานใหม่ ยอมรับว่าทำมาประมาณ 1 ปี มีเงินเดือนหมุนเวียนหลายสิบล้านต่อเดือน

ตำรวจภาค5 #PCTภาค5 #จับกุม #พนันออนไลน์…สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน…

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ตม.สตูล ตรวจ การแจ้งที่พักอาศัย ต่างด้าวในพื้นที่”ตามนโยบาย สนง.ตำรวจแห่งชาติ / “ตม.สตูล กวดขันตรวจสอบป้องกันชาวบ้านแอบช่วยเหลือให้ที่พักคนต่างด้าวผิดกฎหมายมีโทษสูง”

แชร์เนื้อหานี้

“ตม.สตูล ตรวจประชาสัมพันธ์การแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวในพื้นที่”
ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ให้ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดออกตรวจสถานที่พักของคนต่างด้าว ประชาสัมพันธ์การแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบโดยตรวจเพื่อจัดทำข้อมูลไว้ใช้สำหรับการป้องกันและปราบปรามคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.68 พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล และ พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี รอง ผกก.ตม.จว.สตูล ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สตูล นำโดย พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ สว.ตม.จว.สตูล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สตูล ได้ออกตรวจเป้าหมายแคมป์คนงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอละงู และควนกาหลง จังหวัดสตูล

ทั้งหมด 3 แห่ง ซึ่งพบแรงงานชาวเมียนมาเข้ามาทำงานกรรมกรและพักอยู่ในแคมป์คนงานและบ้านเช่ารวมจำนวน 24 คน เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารประจำตัวของคนต่างด้าวและใบอนุญาตทำงานปรากฏว่ามีเอกสารถูกต้อง แต่ตรวจพบว่ามีนายจ้างชาวไทย จำนวน 2 ราย ที่ไม่ได้มีการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จำนวนรวม 7 คน จึงได้ทำการจับกุมดำเนินคดีนายจ้างชาวไทยทั้ง 2 ราย ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหะสถาน หรือผู้จัดการโรงแรม รับคนต่างด้าว

ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย ไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้าน เคหะสถาน หรือโรงแรม นั้นตั้งอยู่ ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับรวมเป็นเงิน 11,200 บาท และได้ประชาสัมพันธ์แนะนำให้นายจ้างดำเนินการตามกฎหมายให้เรียบร้อย ซึ่งกฎหมายมาตราดังกล่าวมีความสำคัญในการควบคุมคนต่างด้าวให้ทราบถึงที่อยู่ของคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เจ้าบ้าน หรือผู้ที่รับคนต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดทราบ

ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล ขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ โดยเฉพาะชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือกระทำผิดกฎหมาย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดในจังหวัดสตูล กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล เลขที่ 6 ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล 91000 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 074711080 (ฝ่ายสืบสวนปราบปราม) หรือที่สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

“ตม.สตูล กวดขันตรวจสอบป้องกันชาวบ้านแอบช่วยเหลือให้ที่พักคนต่างด้าวผิดกฎหมายมีโทษสูง”

ตามนโยบายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ให้ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดระดมกวาดล้างอาชญากรรมและปราบปรามคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล และ พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี รอง ผกก.ตม.จว.สตูล ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สตูล นำโดย พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ สว.ตม.จว.สตูล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สตูล สืบสวนหาข่าวคนต่างด้าวผิดกฎหมาย วันที่ 16 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สตูล ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สตูล และ ชุด ชปข.ตชด.436 ได้สืบสวนจนทราบว่าที่บ้านหลังหนึ่งในบ้านควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล

ได้มีชายชาวมาเลเซียพักอาศัยอยู่ซึ่งเป็นผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบและพบชายมาเลเซีย คือนายอาเหลียง อายุ 45 ปี สัญชาติมาเลเซีย พักอาศัยอยู่ โดยมีหญิงไทย คุณนา (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของบ้านแจ้งว่าเป็นสามีภรรยากัน จึงได้ตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางของคนต่างด้าวพบว่ามีหนังสือผ่านแดนที่ไม่มีตราประทับการเข้าเมืองอย่างถูกต้องและหมดอายุแล้ว สอบถามอาเหลียง

ได้ยอมรับว่าหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยจริง เนื่องจากอยากเข้ามาอยู่กับภรรยาชาวไทยไม่อยากกลับบ้านที่มาเลเซียแต่ตนไม่มีสิทธิอยู่อย่างถูกต้องจึงต้องลักลอบเข้าประเทศไทย คุณนายอมรับว่ารู้เรื่องที่สามีชาวมาเลเข้ามาประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย แต่คิดว่าไม่เป็นอะไรจึงได้ให้พักอาศัยอยู่ด้วยกันเรื่อยมา เจ้าหน้าที่จึงได้ชี้แจงข้อกฎหมายให้ทราบว่าเป็นการกระทำความผิดทั้งคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมาย และเจ้าของบ้านที่ให้ที่พักแก่คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64 คือ “ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” โดยมีอัตราโทษสูงคือจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท เจ้าหน้าที่ได้จับกุมทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ควนโดน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล ขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าการให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือให้ที่พักแก่คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่มีอัตราโทษสูงคือจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท ขอให้ปรึกษาหรือแจ้งมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่หรือตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด และหากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดในจังหวัดสตูล กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล เลขที่ 6 ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล 91000 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 074711080 (ฝ่ายสืบสวนปราบปราม) หรือที่สายด่วน 1178 จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ให้กำลังใจ ด.ต.วิชิต แก้วฉิม สภ.เกาะช้าง จว.ตราด เป็นเหตุให้ต้องถูกตัดขาซ้ายเหนือหัวเข่า สูญเสียสมรรถภาพถาวร

แชร์เนื้อหานี้

วันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และ ดร.นุชประวีณ์ ลิขิตศรัณย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ด.ต.วิชิต แก้วฉิม ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เกาะช้าง จว.ตราด

ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจในพื้นที่ สภ.เกาะช้าง จว.ตราด เมื่อวันที่ 2 พ.ค.63 เป็นเหตุให้ต้องถูกตัดขาซ้ายเหนือหัวเข่า สูญเสียสมรรถภาพถาวร และอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลนครพิงค์ในการนี้ คณะฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนกว่า 40,000 บาท พร้อมสิ่งของบำรุงขวัญ ตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว

โดยมี พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, คุณพจนารถ กรึงไกร รักษาการประธานแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5, คุณจารุณี แก่นจันทร์ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, ผกก.สภ.แม่ริม และคณะสมาชิกแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 และ ภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมในครั้งนี้….

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.โคกสำโรง ภจ.ลพบุรี รณรงค์ แก้ไขปัญหายาเสพติด เด็กนักเรียนและประชาชนในชุมชนฯ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 30 พ.ค.68 ที่โรงเรียนเทศบาล1 บ้านโคกสำโรง อ. โคกสำโรง จ. ลพบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.โคกสำโรง พ.ต.ท.มนตรี เล่ห์อิ่ม รอง ผกก.ป.ฯ โดย พ.ต.ต.ชยพล ตรีโอษฐ์ สวป.(ชส.)ฯ ร.ต.อ.โกวิทย์ พลั่วพันธ์ รอง สวป.(ชส.)ฯ ร.ต.อ.พรชัย ธรรมวริทธิ์ รอง สว.(ป.)ฯ ด.ต.พฤกษ เหมาะสมัย ผบ.หมู่(ป.)ฯ

ส.ต.ต.ศรัณญ์ บุญภาพผบ.หมู่(ผช.พงส.)ฯ ร่วมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยยาเสพติด(บุหรี่ไฟฟ้า) ตามโครงการรณรงค์และแก้ไขปัญหายาเสพติด to be number one และวันงดสูบบุหรี่โลก แก่นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 บ้านโคกสำโรง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 180 คน มี นายสมบูรณ์ ตรีฤกษ์งาม ปลัดเทศบาลตำบลโคกสำโรงประธาน คณะครูโรงเรียนเทศบาล 1 บ้านโคกสำโรง ผู้นำชุมชน 5 หลักเมือง และคณะกรรมการ ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

วัตถุประสงค์โครงการเพื่อสร้างกระแสนิยมและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจในกลุ่มเยาวชนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
เพื่อพัฒนาศักยภาพและคุณภาพเยาวชนให้เป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตัวเอง เพื่อสนับสนุนเยาวชนและชุมชนให้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์โดยการสนับสนุนของสังคม

เพื่อสร้างความเข้าใจและยอมรับผู้มีปัญหายาเสพติดโดยให้โอกาสกลับมาเป็นคนดีของสังคม เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มประชาชนและเยาวชนทั่วไป

เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติปีงบประมาณ 2568
ให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในปัจจุบันพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้ารับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ชุมชนเทศบาล1 การแจ้งเบาะแสยาเสพติด และการค้นหาผู้เสพในชุมชน เข้ารับการบำบัดรักษาต่อไป

สนอง แท่นสูงเนิน ผอ. ศูนย์ข่าวฯ
อนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อบรมการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น / แถลงข่าวจับกุม แก๊งโจรกรรม รถยนต์ จักรยานยนต์ ปากคลองรังสิตคลองหลวง ปทุมธานี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 27 พ.ค.68 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ประธานพิธีสมาคมแม่บ้านตำรวจ นำโดย คุณชนาพร ไกรทอง กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจและผู้ช่วยที่ปรึกษาโครงการพัฒนาทักษะแม่บ้านตำรวจชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1

นำโดยคุณณัฐวดี เอี่ยมวงศ์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1คณะชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1 และข้าราชการตำรวจ ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมพิธีเปิดโครงการอบรมการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น (First Aid & CPR)

โดยมี คณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก BEAT CPR TRAINING CENTER บรรยายให้ความรู้และสาธิตการปฏิบัติณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1เพื่อเป็นการฝึกอบรมทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานให้แก่ข้าราชการตำรวจ ตลอดจนครอบครัว ได้มีความรู้

ความเข้าใจและทักษะที่ถูกต้อง สามารถนำไปปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานให้กับเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว ประชาชนที่มาติดต่อราชการ และผู้ประสบภัย ในภาวะฉุกเฉินได้ พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าหน่วยกองบังคับการอำนวยการ รับผิดชอบงานประประชาสัมพันธ์ข่าวและแถลงข่าวตำรวจภูธรภาค 1เปิดเผยว่า ทาง พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ได้จัดให้มีโครงการ….

.

แถลงข่าว #จับกุม #แก๊งโจรกรรม #รถยนต์ #จักรยานยนต์ #ปากคลองรังสิต #คลองหลวง #ปทุมธานี

วันที่ 28 พ.ค. 68 เวลา 10.00 น.พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตรผบช.ภ.1พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานีพร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัดตามนโยบายของ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ที่มุ่งเน้นให้ทุกหน่วยเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มการโจรกรรมมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจำนวนมากตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คดี ดังนี้ คดีที่ 1: จับแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 68 ผู้เสียหายนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ไปจอดที่สถานีรถไฟฟ้าหลักหก ต่อมาวันที่ 19 พ.ค. 68 พบว่ารถหาย จึงแจ้งความกับตำรวจการสืบสวนและจับกุม:เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต สืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุ 3 ราย คือนายภูมิ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี 4 เดือน – เคยต้องโทษลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 8 คดีนายฟรองซ์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี น.ส.อีฟ (นามสมมติ) อายุ 26 ปีผู้ต้องหาให้การว่าได้นำรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรม ไปขายให้นายหรั่ง (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ใน ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานีผลการตรวจค้นบ้านนายหรั่ง:พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม 2 คันตรวจสอบพบว่า นายหรั่งกำลังจะนำรถทั้งสองคันขึ้นรถตู้เพื่อไปขายต่อที่เขตมีนบุรีนายหรั่งรับสารภาพว่า

เริ่มรับซื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 6 เดือน ได้รับซื้อรถมาแล้ว มากกว่า 135 คันจากการตรวจสอบบัญชีธนาคาร พบยอดเงินหมุนเวียนทั้งสิ้น 11,227,970 บาทนายหรั่งส่งรถให้เพื่อนใน Facebook เพื่อปลอมแปลงเอกสาร โดยเก็บค่าดำเนินการคัดสำเนารถ: 300 บาท/คันสำเนาบัตรประชาชน: 400 บาท/คันตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 พบว่า นายหรั่งขายรถที่ถูกโจรกรรมไปแล้ว 26 คัน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมี 8 โรงพัก ที่มีการแจ้งหายได้แจ้งข้อกล่าวข้อกล่าวหา: “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร

    คดีที่ 2: จับแก๊งโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุม นายเล้ง (นามสมมติ) อายุ 47 ปีจากการสอบสวน นายเล้งให้การว่า โจรกรรมรถแล้วนำไปขายต่อให้นายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 40 ปีการตรวจค้นและของกลาง:ตรวจค้นบ้านพักนายเล็ก พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม 2 คันรถที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 คันเอกสารปลอม เช่น ใบคู่มือจดทะเบียน สำเนารายการจดทะเบียน และเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายรถอีกจำนวนมากเมื่อได้รถมา จะส่งให้เครือข่ายใน Facebook ปลอมแปลงเอกสาร ลักษณะเดียวกับคดีที่ 1 โดยมีค่าดำเนินการ

      คัดสำเนารถ: 300 บาท/คันสำเนาบัตรประชาชน: 400 บาท/คันได้แจ้งข้อกล่าวข้อกล่าวหา: “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”
      ภาพรวมความเสียหายทั้ง 2 คดี:มูลค่าความเสียหายรวมกัน มากกว่า 12,000,000 บาทจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว รวม 6 รายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงปัจจุบัน ภ.จว.ปทุมธานี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมรถ ไปแล้ว 18 คน และติดตามรถที่ถูกโจรกรรมไป นำส่งคืนให้กับเจ้าของแล้ว 23 คัน

      มีการเร่งขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผู้ร่วมขบวนการ และผู้รับซื้ออย่างเข้มข้นณ สภ.ปากคลองรังสิต ภ.จว.ปทุมธานี ตำรวจภูธรภาค 1 ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมน่าสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โปรดแจ้งเบาะแสไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

      สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีเปิดโครงการฝึกและประกวดการฝึกระงับเหตุ กรณีบุคคลคลุ้มคลั่ง โดยใช้ปืนยิงตาข่าย ปีงบประมาณ 2568 ณ ตำรวจภูธรภาค 1

      แชร์เนื้อหานี้

      ภ.จว.ปทุมธานี 🔸️🔹️ เข้าพบหารือกับรร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต เพื่อประสานความร่วมมือ ให้ความรู้แก่นักเรียน ให้รู้เท่าทันอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime) วันที่ 21 พ.ค.68 เวลา 10.00 น.👮‍♂️

      พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี👨🏻‍💼 นายชาลี วัฒนเขจร ผอ.รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต👮‍♂️ พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รอง ผกก.สส.สภ.ปากคลองรังสิตร่วมกับคณะครู รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต♦️ ร่วมหารือกับทางโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต

      เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าบรรยายให้ความรู้แก่ นักเรียนในสถานศึกษา เพื่อให้รู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime) ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
      📍ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต

      พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าหน่วยกองบังคับการอำนวยการ รับผิดชอบงานประประชาสัมพันธ์ข่าวและแถลงข่าวตำรวจภูธรภาค 1เปิดเผยว่า

      ทาง พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ได้มอบหมายให้ พลตำรวจตรี โชคชัยงามวงศ์ รอง ผบช.ภ. 1 ดำเนินการจัด….

      วันที่ 22 พ.ค.68 เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ประธานพิธี ฯ

      พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี

      พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรีคณะรอง ผบก.ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีเปิดโครงการฝึกและประกวดการฝึกระงับเหตุ กรณีบุคคล

      คลุ้มคลั่ง โดยใช้ปืนยิงตาข่าย สายงานป้องกันปราบปราม ประจำปีงบประมาณ 2568ณ ตำรวจภูธรภาค 1

      ตำรวจภูธรภาค 1 ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชน ผู้นำชุมชน สมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรมในการแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือทางสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

      สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามรูปแบบธวัชบุรีโมเดล จ.สกลนคร

      แชร์เนื้อหานี้

       วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา16.00น.เป็นต้นไป ภายใต้การอำนวยการของนายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายพิสิษฐ์แร่ทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร (ความมั่นคง) นายเอกภพ โสภณ ปลัดจังหวัดสกลนคร,นายปัณณวิชญ์ กุลตังคะวณิชย์ นายอำเภอบ้านม่วง ผอ.ศป.ปส.อ.บ้านม่วง นายไพโรจน์ ฦาชา ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านม่วง

      เปิดปฏิบัติการเด็ดปีกนักค้าเพื่อเป็นการป้องกันเหตุและการกระทำผิดกฏหมาย ตามนโยบายการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามรูปแบบธวัชบุรีโมเดล จังหวัดสกลนคร ได้สั่งการให้นายสุวรรณ สุโน ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลังสมาชิก อส.อำเภอบ้านม่วง ดำเนินการ จับกุมผู้ต้องหา: เพศชาย 2ราย

      รายที่1 เพศชาย ของกลาง:ยาบ้าจำนวน20เม็ด โดยกล่าวหาว่า:เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”รายที่2:เพศชายของกลาง:ยาบจำนวน44เม็ด โดยกล่าวหาว่า:เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) และขับขี่ยานพาหนะในขณะมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย โดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”สถานที่จับกุม หมู่3ต.หนองกวั่ง อ.บ้านม่วงจ.สกลนคร จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ้านม่วงเพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป

      เรื่องมีอยู่ว่า…เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 68 เวลา 20.00 น. ผมเป็นนักร้อง ได้เดินทางไปร้องเพลงที่ร้านแห่งหนึ่ง บางบอน 3 พอถึง 4 ทุ่มได้มีตำรวจ สน.บางบอน ได้เข้ามาในร้านที่ผมร้องเพลงก็เคยเห็นหน้าคุ้นเคย เพราะตำรวจคนนี้จะมาประจำแต่ผมกับตำรวจคนนี้ ไม่เคยพูดคุยกันเลย เพราะผมไม่กินเหล้า มาร้องเพลง พอถึงเวลาเที่ยงคืน หมดเวลาผมก็เก็บโน๊ตบุ๊ค เดินลงมาจากเวทีกำลังเอาโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋า ผู้กองคนนี้พร้อมพวก 6 คนก็มายืนอยู่ด้านหลังผมแล้วถามขึ้นว่า เฮ้ยมึงกวนตีนเหรอ ผมหันหน้ามา ผมตอบว่าพี่ผมไม่รู้จักพี่ผมไปกวนตีนอะไรพี่ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงผม ผู้กองคนนี้ ได้หมัดขวาต่อย มาที่กกหูซ้ายผม แล้วทำท่าจะชักปืนออกจากเอว ด้านขวา ผมจึงจะกระโดดปัดมือ ลูกน้องผู้กองอีก 5 คน ก็เข้ามาล็อคคอกระทืบผม หลังจากนั้นเขาเดินออกไปนอกร้านประ 10 นาที ลูกน้องผู้กอง 5 คนนั้นได้เดินเข้ามากระทืบผม เป็นรอบที่ 2 มีคนนึงพูดขึ้นว่า เอาให้ตายแต่ถ้าไม่ตาย ก็เอาให้สองเอ๋อให้การไม่ได้ แล้วใช้สนับมือต่อยเข้าที่เบ้าตาผม จนกระดูกเบ้าตาหัก ต่อยเข้าที่หัวจนสมองบวมเลือดคลั่งในสมอง ดั้งจมูกหัก จนผมเลือดออกปาก ออกจมูก ออกหูเขาก็ไม่หยุดจนนักร้องสาว ชื่อ แอน วิ่งมาบังผมแล้วบอกพอแล้วๆ เดี๋ยวพี่เขาตาย ลูกน้องผู้กองถึงเดินออกไปนอกร้าน จังหวะนั้นมีคนโทรแจ้ง กู้ภัยปอเต็กตึ้ง มาถึงก็มาประฐมพยาบาลห้ามเลือด จะเอาผมขึ้นรถ ลูกน้องผู้กอง มารอบที่ 3 เขาตะโกนบอก กู้ภัยปอเต็กตึ้งว่ามึงจะเอามันไปไหน กูยังกระทืบไม่มันตีนเลย

      กู้ภัยปอเต็กตึ้งไม่ยอมกันตัวผมไว้ แล้วรีบนำตัวผมขึ้นรถกู้ภัย ส่งโรงพยาบาล หมอบอกผมอาการสาหัส สมองบวมเลือดคลั่งในสมองกระดูกใบหน้าหัก พอผมเริ่มอาการดีขึ้น ผมมาแจ้งความที่ สน.บางบอน ผู้กำกับบอกไม่เชื่อว่าลูกน้องเขาทำ เขาถามว่ามีหลักฐานไหม กล้องวงจรปิดที่ร้าน ผู้กอง ให้เจ้าของร้านชักตัวบันทึกออก ผมเลยบอกผมมีพยาน บุคคลคือนักร้องหญิง ผมเลย โทรศัพท์ไปหานักร้องหญิงต่อหน้าผู้กำกับ และ ร้อยเวร แล้วเปิดโฟน ผมถามนักร้องหญิง ว่าใครรุมกระทืบพี่ นักร้องหญิงบอกผู้กองกับพวก ผู้กำกับเงียบไปพักนึงถามผมว่าจำหน้าได้ไหม ผมบอกผมจำได้แม่น เพราะเขาจะไปกินเหล้าที่ร้านประจำ พอผู้กำกับเรียกตัวผู้กองคนนั้นมา เข้ามาผมชี้เลยคนนี้แหละครับ ผู้กองบอกเขาไม่รู้เรื่อง พอถามว่าคืนนั้นคุณไป ร้านครัวนั้นมารึป่าวเขาบอกว่าไป แล้วผู้กำกับเดินไปคุย กับผู้กอง 2 คนผู้กองบอกผู้กำกับ ว่าต่อยผมไป 1 ที ผู้กำกับบอกจะให้ความเป็นธรรม ในเมื่อผู้กองต่อยผม 1 ที่ ก็จ่ายแค่ทีเดียวเขาพยายามบีบให้ผมรับเงิน แต่ผมไม่เอาหลังจากนั้นเขาก็ พยายามติดต่อคนที่ผมรู้จักให้มาคุยกับให้รับเงิน คำพูดที่ผู้กำกับพูด ว่าต่อยทีเดียวจ่าย ที่เดียวผมบันทึกเสียงไว้ครับ ผมขอความกรุณา ช่วยผมด้วนะครับ.

      สราวุต อ่อนทรวง ภาพ/ข่าว รายงาน

      สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภูธรกันทรารมย์ ศรีสะเกษ จับยาบ้า 7 แสนเม็ด ทะลักเข้าประเทศมาจากฝั่ง สปป.ลาว ติดตามยึดทรัพย์ทั้งรถยนต์รถจักรยานยนต์

      แชร์เนื้อหานี้

      วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เฮริคับเตอร์ของ พลตำรวจตรี ประสงค์ เรืองเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 3 รับผิดชอบเรื่องยาเสพติด เดินลงจอดที่โรงเรียนกันทรารมย์ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนที่จะเดินทางมาที่ สภ.กันทรารมย์ เปิดการแถลงข่าว เพื่อผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด การทำงานในการสกัดกั้น สืบสวน ขยายผล จนสามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดในข้อหา มียาเสพติด ชนิดยาบ้าไว้ในครอบครอง เพื่อเสพ และจำหน่าย รายแรก จำนวน 5 แสนเม็ด

      และยังพบชนิดของยาเสพติด ยาบ้าน ชนิดใหม่ ออกแบบ เพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น เพื่อเตรียมวางจำหน่ายในกลุ่มวัยรุ่น เยาวชน ที่ จังหวัดศรีสะเกษ จะต้องเฝ้าระวังในการเข้าถึงยาเสพติด ทั้งการป้องกัน ปราบปราม และบำบัด ยึดทรัพย์ มูลค่า 869,000.-บาท, ส่วนรายที่ 2 และ 3 ที่ สภ.เบญจลักษ์ รายแรก ตรวจยึดยาบ้า ได้ จำนวน 34,000 เม็ด และรายที่ 2 ตรวจยึดยาบ้า ที่คนร้ายนำมาวางไว้ข้างถนน รอผู้มารับ เจ้าหน้าที่ 1 วัน 1 คืน ไม่เห็นใคร จึงเข้าตรวจยึดมาได้ จำนวน 200,000 เม็ด รวมที่ สภ.เบญจลักษ์ ตรวจยึดยาบ้า ได้ 2 รายการ รวม 234,000 เม็ด และเมื่อรวมกับ สภ.กันทรารมย์ เป็นจำนวน 734,000 เม็ด

      โดย เที่ยงของวันนี้ ที่ สถานีตำรวจภูธรกันทรารมย์ พลตำรวจตรี ประสงค์ เรืองเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภาค3 , พลตำรวตรี พิษณุ วัตถุ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ, นายสุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, พันตำรวจเอก ธัชพงศ์ พรหมมา ผู้กำกับ สภ.กันทรารมย์ เจ้าหน้าที่ชุด 238 พิทักษ์นครลำดวน,

      filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 6; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 7864320;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 36;

      ชุดเฉพาะกิจพิเศษ เจ้าหน้าที่ชุดสิบ ภจว.จังหวัด, สภ.กันทรารมย์, สภ.เบญจลักษ์ ได้ร่วมกันวางแผนฝัง เส้นทางของการปฎิบัติการ 238พิทักษ์นครลำดวน ที่เข้าสืบสวน สอบสวน ก่อนเข้าทำการสกัดจับกุม ผู้ต้องสงสัย ก่อนที่จะนำตัวมาควบคับไว้ที่ สภ.กันทรารมย์ เพื่อสอบสวนขยายผล สู่การจับกุมชุดใหญ่ พร้อมการยึดทรัพย์ ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มูลค่าความเสียหาย รวม 869,000.- บาท

      โดย พลตำรวจตรี ประสงค์ เรืองเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปฎิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี อย่างเคร่งครัด ทั้งการปราบปราม การป้อวกัน ตามติดตามสกัดยาเสพติดที่จะเข้าสู่ประเทศไทยในทุกมิติ พร้อมกันนี้ยังเพิ่มขยายสถานที่บำบัด ให้กับผู้ที่เคยหลงผิด เข้าไปเสพ และติด จนทำให้เกดอาการหลอน เสียประสาท โดยความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ทหาร และโดยเฉพาะภาคประชาชน ที่เป็นหัวใจหลัก ในการสกัด ไม่ให้บุตรหลาน เข้าไปเสพ เข้าไปค้า โดยใช้มาตรการ ล้อมรั่วด้วยรัก จากผู้ปกครองทุกคน ร่วมด้วยช่วยกัน เชื่อว่า หากไม่มีคนเสพ เขาก็จำหน่ายยาเสพไม่ได้
      /////////
      ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

      สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผัวโหดทุบหัวเมียเสียชีวิตในวันเกิด – ตำรวจตั้งข้อหาหนัก

      แชร์เนื้อหานี้

      เกิดเหตุสลดในพื้นที่ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เมื่อชายวัย 35 ปี ก่อเหตุทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม เวลาประมาณ 21.00 น. นายสมัคร เมืองพิน หรือ “กึ้ม” ได้ทำร้ายร่างกายนางสาวพิกุลทอง ดาผา อายุ 43 ปี ภรรยาของตนเอง โดยใช้มือและเท้าทุบตีบริเวณศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

      หลังเกิดเหตุ นายกึ้มได้นำร่างภรรยาส่งโรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรแจ้งบุตรสาววัย 17 ปีของผู้เสียชีวิต ซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด ว่าแม่ถูกทำร้ายร่างกายจนไม่รู้สึกตัว และต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมุกดาหาร

      อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ผู้เสียชีวิตสิ้นใจในเวลา 06.20 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของเธอ โดยบุตรสาวเปิดเผยว่า ตนเดินทางกลับมาทันหลังแม่เสียชีวิตไปแล้วเพียง 1 ชั่วโมง

      นายดาว คำวงษา อายุ 55 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ลูกชายตนมักมีนิสัยรุนแรงเวลาเมา สุราเป็นสาเหตุหลักของปัญหา โดยก่อนหน้านี้นายกึ้มเคยมีแฟนหลายคน และคบหากับผู้เสียชีวิตมาราว 2 ปี ก่อนจะมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าในบ้านโนนเกษม ต.นิคมคำสร้อย ซึ่งตลอดระยะเวลามักมีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำ

      ภายหลังเกิดเหตุ นายกึ้มได้กลับมารอให้ตำรวจจับตัวที่บ้านเช่า โดยให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายภรรยาจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาให้ถึงแก่ชีวิต

      เบื้องต้น พ.ต.ท. วัชรพล จันทรศรี พนักงานสอบสวน สภ.นิคมคำสร้อย ได้แจ้งข้อหานายสมัคร เมืองพิน ในข้อหา “เจตนาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” และควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

      ข่าวอาชญากรรม #ความรุนแรงในครอบครัว #ผัวทำร้ายเมีย #มุกดาหาร #ข่าวภูมิภาค #วันเกิดกลายเป็นวันตาย #สถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อย #ฆ่าภรรยา​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​