คลังเก็บหมวดหมู่: ตำรวจ(ตร.)

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รอง ผบ.ตร.เปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากร กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (14 สิงหาคม 2568) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากร กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา ประจำปี พ.ศ.2568 ณ ห้องแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โครงการฝึกอบรมฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 สิงหาคม 2568 ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ที่บัญญัติให้จัดตั้งกองทุนขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกว่า “กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายในงานสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของกองทุน จึงได้อนุมัติให้สำนักงานงบประมาณและการเงิน

โดยกองการเงิน ดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาบุคลากรของกองทุน ให้มีความรู้ความเข้าใจในระเบียบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการรับ เก็บรักษา การจ่ายเงินกองทุน รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการเบิกจ่ายเงินกองทุนได้อย่างถูกต้อง และลดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน โดยในระหว่างเดือนมีนาคม 2568 ถึงปัจจุบัน กองทุนได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรของกองทุนในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 – 9 ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 7,458 คน

โดยในวันนี้เป็นการจัดอบรมให้กับหน่วยงานในส่วนกลาง จำนวน 383 คน จากหน่วยงานกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผู้สังเกตการณ์จากสำนักงานตรวจสอบภายใน

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ถือว่าเป็นทุนหมุนเวียนในกำกับดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ช่วยสนับสนุนงานด้านการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแท้จริง

ขอให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกท่านซึ่งเป็นกำลังหลักขับเคลื่อนการเบิกจ่ายเงินกองทุน นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการฝึกอบรม และให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของหน่วยบริหารกองทุน ให้ความสำคัญในการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อลดข้อผิดพลาดจากการเบิกจ่ายเงิน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะช่วยเสริมการปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน สอบสวน ปราบปราม ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร. สั่งการผู้บัญชาการศึกษาดูแลการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจ คุมเข้มทุกหน่วยสอบโปร่งใส ไร้ทุจริต

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (10 สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการไปยัง พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ให้ดูแลตรวจสอบการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2568

ที่จัดขึ้นในวันนี้ เวลา 13.30 น. ให้คุมเข้มทุกหน่วยสอบทั่วประเทศไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เน้นย้ำต้องเป็นการสอบคัดเลือกที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน หากพบการทุจริตให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย

พล.ต.ท.นิธิธรฯ ขานรับนโยบาย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและกำกับดูแลการเตรียมความพร้อมการสอบคัดเลือก ฯ ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี พร้อมประชุมมอบนโยบาย ข้อห่วงใย และกำชับการปฏิบัติแก่ทุกหน่วยสอบ มติดตามสถานการณ์การสอบผ่านระบบ Zoom Meeting จากกองอำนวยการร่วมฯ

ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ย้ำมาตรการเข้มป้องกันการทุจริตทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้เข้าสอบและสังคม และได้กำชับไปยังทุกหน่วยสอบให้จัดจุดปฐมพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อดูแลอย่างทันท่วงทีกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากแต่ละหน่วยสอบมีผู้เข้าร่วมสอบจำนวนมาก โดยการสอบครั้งนี้จัดโดยกองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.)

ครอบคลุมหน่วยสอบ บช.ศ., ตำรวจภูธรภาค 1-9 และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) รวมทั้งสิ้น 11 หน่วยสอบ เพื่อคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี หรือวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ทั้งในชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน รวมจำนวน 155 อัตรา โดยมีผู้สนใจสมัครสอบในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 65,203 คน

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้กำชับเข้มงวดให้ บช.ศ.กำกับดูแลการจัดการสอบคัดเลือกในทุกหน่วยสอบต้องโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และคุณธรรม เข้าสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพ ซึ่ง บช.ศ.รับนโยบายมาขับเคลื่อนอย่างเคร่งครัด จะไม่ยอมให้มีการทุจริตหรือการเอื้อประโยชน์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงยืนยันมาตรการเข้มข้นในการคัดเลือกบุคลากร พร้อมพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการสอบแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้าราชการตำรวจที่มีคุณภาพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และอุทิศตนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

สมจิตร แสงบัลลังลค์ ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สนง.ตำรวจแห่งชาติ จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดคอร์ส “รู้ทันภัยไซเบอร์” บน Thai MOOC เรียนฟรี พร้อมรับ 1 หน่วยกิต / ผบช.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ประชุมมอบนโยบาย แก่รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ หัวหน้า สภ. ในสังกัด

แชร์เนื้อหานี้

ภารกิจผู้บังคับบัญชาวันนี้ ( 9 ส.ค. 68 )เวลา 13.00 น.ภ.จว.ปทุมธานีพล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติรอง ผบช.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานีประชุมมอบนโยบายบริหารราชการ แก่รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ หัวหน้า สภ. ในสังกัด ภ.จว.ปทุมธานี โดยได้มีข้อราชการกำชับการปฏิบัติของกำลังพล ดังนี้

🔸1. ให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัย ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ และให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดมีความรัก สามัคคี ในหมู่คณะ

🔸2. กวดขันจับกุมและป้องกันลักลอบเล่นการพนัน สถานบริการ กำชับตำรวจไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือ เรียกรับผลประโยชน์

🔸3. ให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัด เร่งรัดและเข้มงวดกวดขันการตรวจสอบสถานบริการ ให้กำหนดเวลาปิด–เปิด ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ,ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด เข้าใช้บริการโดยเด็ดขาด และหากมีการมั่วสุมยาเสพติดทุกประเภท ภายในสถานบริการ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนทั้งผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง

🔸4. ให้ดำเนินการตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” ของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในทุกมิติ และทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด

“บิ๊กหน่อง/พล.ต.ต..ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เรียกประชุมมอบนโยบายการปฎิบัติ งานของตำรวจในสังกัด หลัง มารักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ” พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 และหัวหน้าฝ่าย อำนวยการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบงานแถลงข่าว และประชาสัมพันธ์ข่าวเปิดเผยว่า

สนง.ตำรวจแห่งชาติ จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดคอร์ส “รู้ทันภัยไซเบอร์” บน Thai MOOC เรียนฟรี พร้อมรับ 1 หน่วยกิต

วันนี้ (9 สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านระบบ Thai MOOC ภายใต้ชื่อ “รู้ทันภัยไซเบอร์” เพื่อยกระดับความรู้และทักษะในการป้องกันภัยคุกคามจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน

หลักสูตรนี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจพฤติกรรมของมิจฉาชีพออนไลน์ วิเคราะห์รูปแบบการโจมตี และเรียนรู้วิธีการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับใบประกาศนียบัตร และนับเป็นหน่วยกิตทางวิชาการได้ 1 หน่วยกิต โดยหลังสูตรดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รองผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ตอท. บช.สอท.) , พ.ต.อ.เกรียงไกร พุทไธสง ผู้กำกับการ กลุ่มงานสนับสนุนทางไซเบอร์ บก.ตอท.บช.สอท. และ พ.ต.ต.พากฤต กฤตยพงษ์ สารวัตรฝ่ายอำนวยการ บก.สอท.2

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่สามารถนำไปเทียบโอนเป็นหน่วยกิตในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้กับตนเองและครอบครัว สมัครเรียนฟรีผ่านระบบ Thai MOOC เว็บไซต์ https://thaimooc.ac.th คลิกเลือกหมวดหมู่รายวิชา “ทักษะชีวิตและการพัฒนาตนเอง” จากนั้นคลิกเลือกวิชา “อาชญากรรมทางเทคโนโลยีเบื้องต้น” หรือคลิกลิงก์ https://learn.thaimooc.ac.th/courses/course-v1:CU+00868+0/about

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร.และนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ห่วงใย ตำรวจที่ประสบอุทกภัย ภาคเหนือตอนบน มอบเงิน 1,339,000 บาท “ครอบครัวตำรวจเราไม่ทิ้งกัน”

แชร์เนื้อหานี้

คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณจำนวน 1,339,000 บาท เพื่อจัดซื้อสิ่งของ เครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับข้าราชการตำรวจรวมจำนวน 1,339 นาย ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ น่าน เชียงราย พะเยา และแพร่ ที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยจากพายุ“วิภา” แม้ว่าครอบครัวตำรวจก็ประสบปัญหาอุทกภัยเช่นเดียวกัน

โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มอบหมายให้ คุณพจนารถ กรึงไกร ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับ
พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พร้อมด้วย คุณละมัย กัลยา ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดน่าน , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย

พร้อมด้วย แพทย์หญิงทรงพร เสนากูล ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ,พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย คุณมลธิชา ไชยบาล ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ,

พล.ต.ต.พงษ์เดช คำใจสู้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย คุณศุภรัตน์ การะเกตุ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ นำคณะข้าราชการตำรวจ – แม่บ้านตำรวจ

ร่วมดำเนินการบรรจุถุงยังชีพ และ ดำเนินการส่งมอบสิ่งของดังกล่าวให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัวในสังกัด ทั้งสิ้น 1,339 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 2 – 8 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวมีขวัญกำลังใจมากขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป
..สมจิตร แสงบัลลังค์ ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ชุมพร โครงการฝึกอบรมครูฝึกยิงปืน (ครู ค) ทหารเมียนม่า ปะทะ ทหารกระเหรี่ยง ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน อ.อท่าแซะ ช่องหินดาด

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมครูฝึกยิงปืนต้นแบบระดับสถานีตำรวจ (ครู ค) สำหรับการฝึกทักษะการยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฎิบีตหน้าที่ป้องกันปราบปราม สืบสวน และจราจรในสถานีตำรวจ

ณ สนามยิงปืนชุมพร ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร โดยมี หน.สภ.ในสังกัด พร้อมด้วย ผกก.ฝอ.ภ.จว.ชุมพร และข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการเข้าร่วมพิธี มีครูฝึกต้นแบบระดับสถานีตำรวจ (ครู ค.) เข้าร่วมฝึกอบรม จำนวน 34 นา

มีการปะทะระหว่าง กองกำลังทหารเมียนมากับกองกำลังทหารกระเหรี่ยงในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านด้านอำเภอท่าแซะ ช่องหินดาด

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 ได้รับรายงานจาก ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ที่ 4102 ทราบว่าได้ยินเสียงการใช้อาวุธเครื่องยิงหนัก (ไม่ทราบชนิด) ยิงปะทะกันประมาณ ๒๐ นาที ในพื้นที่ระหว่าง บ.ยัวฮินลู กับ บ.เยยันตะ ๑ ต./ กิ่ง อ.กะระตุริ จว.ปกเปียน ด้านตรงข้าม ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จว.ช.พ. ทั้งนี้คาดว่าเป็นการยิงก่อกวนจากฝ่าย กกล.กอทูเล ( KTLA ) ดังนั้น ทมม.ฐานปฏิบัติการยัวฮินลู จึงยิงตอบโต้ ปัจจุบันสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ และไม่ได้รับรายงานการสูญเสียอย่างใด

ในขณะเดียวกัน นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ สั่งการกำนัน ทุกตำบล และผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้าน ติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับราษฎรไทยและติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอท่าแซะจึงให้ บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหน่วยงาน ความมั่นคงในพื้นที่ให้เป็นเอกภาพในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่อย่าตื่นตระหนก และหลงเชื่อข่าวเท็จที่อาจจะเกิดขึ้น

จากบุคคลไม่หวังดี และขอให้รับฟังข่าวสารจากหน่วยงานราชการเท่านั้น กรณีเกิดสถานการณ์ปะทะที่รุนแรงหรืออาจส่งผลกระทบขอให้อพยพราษฎรในพื้นที่เสี่ยง ไปอยู่ในที่ปลอดภัยและรายงานให้นายอำเภอท่าแซะ หรือปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงทราบโดยทันที กรณีปรากฏข่าวสารสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงบริเวณชายแดน ด้านอำเภอท่าแซะ ให้รายงานนายอำเภอท่าแซะ หรือปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงทราบโดยทันที หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑-๘๖๗๑๐๑๒, ๐๖๓-๙๐๓๔๘๙๐ และรายงานเป็นเอกสารให้อำเภอทราบด้ว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบก.อก.ภ.1 นำทีม บก.อก.ภ.1 ออกตรวจประเมินโครงการศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191พื้นที่ภ.จว.สมุทรปราการ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 8 ส.ค.68 เวลา 10.00 น. นำโดย พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 พ.ต.อ.โชคชัย คณะเจริญ รอง ผบก.อก.ภ.1 พ.ต.อ.ฉัตรชัย จันอ้น ผกก.ฝอ.6 บก.อก.ภ.1 พร้อมคณะตรวจฯ ได้เดินทางตรวจประเมินศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ภ.จว.สมุทรปราการ ตามแผนละกรอบระยะเวลาที่ ตร. กำหนด

พบ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาด รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.ท.ปริยพล แสนเสน สว.กก.สส.ภ.จว./หัวหน้าศูนย์ฯ 191 และเจ้าหน้าที่ รอรับการตรวจประเมิน จากคณะตรวจฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหตุการณ์ปกติ ประโยชน์ของการรับแจ้งเหตุตำรวจ 191 มีหลายด้าน ทั้งต่อประชาชนและต่อการทำงานของตำรวจดังนี้

  1. เพื่อความปลอดภัยและช่วยเหลือเร่งด่วนประชาชนสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ทันที เช่น เหตุทะเลาะวิวาท, ลักทรัพย์, อุบัติเหตุ, เหตุเพลิงไหม้, การพบวัตถุต้องสงสัยทำให้ตำรวจสามารถจัดกำลังเข้าช่วยเหลือหรือระงับเหตุได้รวดเร็ว ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
  1. เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารที่ง่ายและจำง่ายเบอร์ 191 เป็นหมายเลขกลางที่ประชาชนจำได้ง่าย ใช้ได้ทั่วประเทศไม่ต้องค้นหาหมายเลขสถานีตำรวจเฉพาะพื้นที่
  2. การประสานงานอย่างเป็นระบบศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 มีระบบบันทึกข้อมูล, ระบุตำแหน่ง, และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร, สืบสวน, สายตรวจ, หน่วยกู้ภัยช่วยให้การทำงานเป็นขั้นตอนและไม่ซ้ำซ้อน
  1. เก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนป้องกันอาชญากรรมข้อมูลการแจ้งเหตุจาก 191 สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อดูพื้นที่เสี่ยง, ช่วงเวลาที่เกิดเหตุบ่อย, และวางแผนป้องกันในอนาคต
  2. เพิ่มความมั่นใจและสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนทำให้ประชาชนรู้ว่ามีช่องทางขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมงสร้างความเชื่อมั่นในระบบรักษาความปลอดภัยของรัฐ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด ตี๋หน้าพระลานยึดยาบ้า 2,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 60,000,000 บาท

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 7 ส.ค.68 นำโดย พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 พ.ต.อ.ฉัตรชัย จันอ้น ผกก.ฝอ.6 บก.อก.ภ.1 พร้อมคณะตรวจฯ ได้เดินทางตรวจประเมินศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191

ภ.จว.ปทุมธานี พบ พ.ต.อ.ชุมวร ชมะทัต รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ช่วยราชการ ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.ต.ชิต จันท่าม่วงสว.กก.สส.ภ.จว./หัวหน้าศูนย์ฯ 191 ภ.จว.นนทบุรี พบ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.จิรายุส

วานิชกูล ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.จิรัตน์เดช ภุมรินทร์ สว.กก.สส.ภ.จว./หัวหน้าศูนย์ฯ 191 และเจ้าหน้าที่ รอรับการตรวจประเมิน จากคณะตรวจฯ ตามแผนละกรอบระยะเวลาที่ ตร. กำหนด เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหตุการณ์ทั่วไปปกติ

สืบเนื่องจากมีการแพร่ระบาดเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีจึงได้ทำการสืบสวนพบเครือข่ายของนายตี๋หน้าพระลานได้มีการนำยาเสพติดจากเทพเพื่อนบ้านเข้ามาแพร่กระจายอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีจึงได้ทำการสืบสวนหาที่ลำเลียงจนสามารถจับกุมได้ครับ

ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด ตี๋หน้าพระลานยึดยาบ้า 2,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 60,000,000 บาท

ตามนโยบายของรัฐบาลเน้นแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบด้วยการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติด อย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง – กลางทาง – ปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., จึงสั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากกรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ

ทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ตอนในของประเทศตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, และพล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, บช.ปส. โดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง

ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส., ขกท. โดย พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผบ.ขกท. , ขกท.ศปก.นสศ. โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ., ภ.จว.สระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ผบก.ภ.จว.สระบุรี , พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี , พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ชุดที่ 2 และ พ.ต.อ.วีระวุฒิ ดำสุวรรณ ผกก.สภ.พระพุทธบาท , บก.สส.ภ.1 โดยพล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1, สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1

โดย นายทิพเมษฐ์ สังขะวรรณะ ผอ.ปปส.ภาค 1 และว่าที่ร้อยตรีอากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และจังหวัดสระบุรี โดย นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนายในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด พฤติการณ์ในการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหาร

จากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด รวมไปถึงทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมาก และจากประสานข้อมูลผู้ค้ ายาเสพติดรายสำคัญกับ ภ.จว.บึงกาฬทำให้ทราบว่ามีนายมณเฑียร หรือต๋องน.ส.ชนันธิดา หรือเค้ก และนายไชยรัตน์ หรือกบ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สระบุรี นั้นมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียง ยาเสพติดจากบริเวณภาคอีสานตอนบนลงมายังพื้นที

ภาคกลาง โดย จะมีรถสำรวจเส้นทางขับนำหน้ารถขนยาเสพติดจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยได้รับคำสั่งให้สืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด ตี๋หน้าพระลานยึดยาบ้า 2,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 60,000,000 บาท – 2 –ขอประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไปจับกุมและบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้กระทำผิดมาโดยตลอด

*** ต่อมาในวันที่ 6 สิงหาคม 2568 จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดได้เดินทางไปรับยาเสพติดบริเวณภาคอีสานตอนบน โดยจะใช้รถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีดำ เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ภาคกลาง และมีรถเก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ แอทราจ สี แดง เป็นรถคอยสังเกตการ์ด่านตรวจ โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 3334ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.พระพุทธบาท จึงประสานให้ สภ.พระพุทธบาท ตั้งจุดสกัดรถลำเลียงยาเสพติดที่บริเวณหน่วยบริการประชาชน ต.ธารเกษม ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่เหลือ ได้วางกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์ตามเส้นทางหลัก

และรองเพื่อจะสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ และเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ วันที่ 6 สิงหาคม2568 นายมณเฑียรฯ และน.ส.ชนันธิดาฯ ได้ขับรถลำเลียงยาเสพติดมาถึงจุดสกัดของ สภ.พระพุทธบาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเรียกให้หยุดและแสดงตนเข้าตรวจ ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางจำนวน 5 ใบ วางอยู่บริเวณเบาะด้านหลังคนขับ และสามารถติดตามไปจับกุมนายไชยรัตน์ ฯ ที่ขับรถนำสำรวจเส้นทางซึ่งอยู่ห่างจากรถขนยาเสพติดประมาณ 3 กม. อีก ๑ ราย ได้ทันที

โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางดังนี้1. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง จำนวน 5 ใบ โดยกระเป๋าแต่ละใบบรรจุยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าทั้งหมด 2,000,000 เม็ด2. ผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำผิด จำนวน 3 ราย2.1) นายมณเฑียร หรือต๋อง (ขับรถขนยาเสพติด)2.2) น.ส.ชนันธิดา หรือเค้ก (โดยสารมาด้วยกันกับรถขนยาเสพติด)2.3) นายไชยรัตน์ หรือกบ (ขับรถนำสำรวจเส้นทาง)3. รถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด จำนวน 2 คัน3.1) รถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีดำ จำนวน 1 คัน3.2) รถเก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ แอทราจ สี แดง จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปเหตุเกิดที่ บริเวณริมถนนพระพุทธบาทเขาสูง ม.๒ ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ต่อเนื่องบริเวณริมถนนสาธารณะ ม.๘ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม 256๘ เวลาประมาณ ๑๖.๓0 น

การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 60,000,000 บาท (หกสิบล้านบาท) และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดโดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่าย ยาเสพติดต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สภ.โคกสำโรง ภจ.ว.ลพบุรี ประชุมชี้แจงการบริหารงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรโคกสำโรง ครั้งที่ 3 /2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 6 สิงหาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรโคกสำโรง โดยมี พ.ต.อ. จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก. สภ. โคกสำโรง นางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอโคกสำโรง

นายณัฎพงษ์ อารยางกูร ประธาน กต.ตร.สภ.โคกสำโรง พร้อมด้วยคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.โคกสำโรง และที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.โคกสำโรง เข้าร่วมประชุมรับฟังการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจสถานีตำรวจภูธรโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี

โดยนางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอโคกสำโรง หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอโคกสำโรง ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมการปกครอง สั่งการด่วน ถึงนายอำเภอทั่วประเทศ X-Ray “โดรน” เชิงรุกสืบหาความเคลื่อนไหว การนำเข้าโดรนในพื้นที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ได้สั่งการนายอำเภอทั่วประเทศ X-Ray โดรน เชิงรุก สืบหาความเคลื่อนไหว

การนำเข้าโดรนในพื้นที่ โดยให้เร่งประสานการปฏิบัติกับผู้กำกับการทุกสถานีตำรวจภูธร หาข่าวการนำเข้า การมีอยู่ การเตรียมนำไปใช้ของโดรน และอุปกรณ์ควบคุมที่ผิดสังเกตทุกกรณี พร้อมเร่งตรวจสอบหน่วยควบคุมการใช้งานโดรนผิดกฎหมาย และได้ชี้แจงเกี่ยวกับชุด ชรบ.หมู่บ้านในเขตพื้นที่อำเภอโคกสำโรง ให้ที่ประชุมรับทราบ

จากนั้นประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบตามระเบียบวาระประชุม พร้อมทั้งรายงานสถานภาพอาชญากรรมของ สภ.โคกสำโรง งานป้องกันปราบปราม การจับกุมอาวุธปืน ( พร้อมภาพนำเสนอโดย) พ.ต.ท.มนตรี เล่ห์อิ่ม รอ ผกก.ป.สภ.โคกสำโรง งานสืบสวน สถิติการจับอาวุธปืน,ยาเสพติด ( พร้อมภาพนำเสนอโดย) พ.ต.ท.ณฐรัช สินธุโคตร รอง ผกก.สส.สภ.โคกสำโรง

งานสอบสวน พ.ต.ท.อนันต์ ปานทอง รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.โคกสำโรง) การดำเนินการตามโครงการและนโยบายต่าง ๆ และรายงานผลการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น อำเภอ อบต. สาธารณสุข เทศบาล เป็นต้น ร่วมกับเทศบาลตำบลโคกสำโรง

จัดระเบียบการวาง “ขายของ” ในเขตเทศบาลโคกสำโรง รวมถึงการแก้ไขปัญหาการร้องเรียนข้าราชการตำรวจเรื่องทั่วไป เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น และการได้รับความร่วมมือหรือสนับสนุนจากประชาชน ชุมชน ท้องถิ่นหน่วยงานอื่นๆ
ทั้งนี้ในที่ประชุม

ได้ยกย่องชมเชยข้าราชการตำรวจที่มีผลการงานดีเด่นในด้านความซื่อสัตย์สุจริต ส.ต.ท.สุรชัย พลเทพ ผบ.หมู่(ป.)สภ.โคกสำโรง ข้าราชการตำรวจดีเด่น ด้านงานป้องกันปราบปราม ประจำปี 2568

รวมถึงการรับฟังปัญหาข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะของ กต.ตร.สภ.โคกสำโรง เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการให้บริการประชาชน และปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดยิ่งๆขึ้นต่อไป

สนอง แท่นสูงเนิน
ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พล.ต.อ.ประจวบฯ รอง ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยม สภ.แม่โป่ง ติดตามโครงการสร้างเครือข่ายภาคประชาชน

แชร์เนื้อหานี้

เชียงใหม่ – เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมคณะฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจภูธรแม่โป่ง (สภ.แม่โป่ง) จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามและประเมินผลโครงการ “สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับสถานีตำรวจ เพื่อสนับสนุนการป้องกันอาชญากรรม” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

เมื่อเดินทางมาถึง สภ.แม่โป่ง พล.ต.อ.ประจวบฯ ได้รับการต้อนรับจาก พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5,พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5. พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว. เชียงใหม่,

นายนิติปกรณ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอดอยสะเก็ด, พ.ต.อ.สุรชัย ศุภยศอมร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, พ.ต.ท.วิมล วงศ์สิงห์ สว.สภ.แม่โป่ง และข้าราชการตำรวจในพื้นที่ เทศบาลตำบลแม่โป่ง,กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนแม่โป่งประชาสามัคคี ก่อนจะมอบโอวาทและพูดคุยกับข้าราชการตำรวจเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ ยังได้พบปะพูดคุยกับภาคีเครือข่ายภาคประชาชนกว่า 50 คน ที่มีส่วนร่วมในโครงการฯ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ พร้อมทั้งเป็นตัวแทนมอบทุนสร้างบ้านจำนวน 2 หลัง ให้กับผู้ยากไร้ในพื้นที่ สภ.แม่โป่ง โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนรับมอบ

จากนั้นคณะตรวจประเมินได้เข้าประชุมภายในห้องประชุมของ สภ.แม่โป่ง โดยมีพ.ต.ท.วิมล วงศ์สิงห์ สว.สภ.แม่โป่ง ได้นำเสนอผลการดำเนินงานของโครงการฯ ผ่านวิดีทัศน์ เพื่อให้คณะตรวจประเมินได้รับทราบข้อมูลและประเมินผลการทำงานตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป.

สมจิตร แสงบัลลังค์ ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังปล่อยแถวระดมกวาดล้าง ตามยุทธการฟ้าสาง เด็ดปีกนักค้ายา และ ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด (No Drugs No Dealers) “ผนึกกำลังชุมชน ปลอดยาเสพติด”

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 05:30 น. พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , ผู้แทน ผอ.ปปส.ภาค 5 , ผู้แทนฝ่ายทหาร , พ.ต.อ.ชินเดช ดีแท้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่

(รับผิดชอบงานยาเสพติด) , ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ แม่ปิง ภูพิงค์ ช้างเผือก หางดง สารภี แม่ริม แม่โจ้ สันทราย สันกำแพง กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่และ จนท.ตำรวจ ทหาร ปกครอง หน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ จำนวน 180 นาย

เข้าร่วม พิธีปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นระดมกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด ตามโครงการ ยุทธการฟ้าสาง เด็ดปีกนักค้ายา และ ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด(No Drugs No Dealers)

ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ณ บริเวณลานหน้า ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี

และทุก สภ. ในสังกัด ภ.จว.เชียงใหม่ 38 สภ.ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันทุกพื้นที่ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 75 เป้าหมาย

ยุทธการฟ้าสาง #เด็ดปีกนักค้ายา #ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด #No DrugsNoDealers #ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด #ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ #เชียงใหม่เมืองปลอดภัย #CMPD…..

…#สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน