คลังเก็บหมวดหมู่: ทหารบก (ทบ.)

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/เลขาธิการ ป.ป.ส. ควงแม่ทัพภาค 2 ลงเรือตรวจสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-ลาว จ.มุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 21 ธันวาคม​ 2567​ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พลตรี วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 พลเรือตรี ณรงค์ เอมดี ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และ

คณะ เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนทางน้ำตามแนวชายแดนไทย-ลาว บริเวณเลียบแม่น้ำโขง พื้นที่อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล โดยเน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองทั้งช่องทางท่าข้ามที่อาจจะใช้ในการลักลอบทำผิดกฏหมาย และป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของชาติ

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้เป็นมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบขนส่งยาเสพติดข้ามแดน และป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ตามแนวชายแดน เน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันสกัดกั้นการสกัดการกระทำผิดกฎหมายตามชายแดนในการปราบปรามสิ่งผิดกฏหมายข้ามชาติทุกชนิดอย่างเด็ดขาดอันเป็นการสนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ซึ่งรัฐบาลถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติ

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า จากผลการปฏิบัติที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงประกาศกำหนดพื้นที่มีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและผู้รับผิดชอบเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปีงบประมาณ 2568 ให้หน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24)

โดยรับผิดชอบพื้นที่อำเภอชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด 25 อำเภอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 18 ธันวาคม 2567 ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร สามารถจับกุม 22 ครั้ง ผู้ต้องหา 17 ราย โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 17,804,240 เม็ด, ไอซ์ 0,053 กิโลกรัม, เคตามีน 1.79 กิโลกรัม, ยาอี 1,484 เม็ด และ ฝิ่น 0.66 กรัม

ปปส #กองทัพภาคที่2 #นรข #สถานีเรือมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/ผบ.ทหารพรานที่ 23 มอบผ้าห่มกันหนาว ให้กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน ไทย – กัมพูชา”

แชร์เนื้อหานี้

พันเอก กัญญณัต ไชยโอชะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลในพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี โดยได้นำผ้าห่มกันหนาว จำนวน 200 ผืน พร้อมกับสิ่งของอุปโภคบริโภค มอบให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจในการป้องกันชายแดน ซึ่งปัจจุบันมีสภาพอากาศหนาวเย็น

โดยได้รับมอบผ้าห่มกันหนาวจาก พระอาจารย์ไพรวัลย์ ทนฺตวีโร เจ้าอาวาสวัดบ้านเหมือดแอ่ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ที่ได้แสดงความห่วงใยและเห็นความสำคัญของทหารพรานที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของชาติตลอดแนวชายแดน ไทย – กัมพูชา ให้สามารถปฏิบัติงานช่วงฤดูหนาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23

ได้ให้โอวาทการปฏิบัติงานโดยเน้นย้ำความปลอดภัยในการลาดตระเวน ตามพื้นที่อันตรายต่างๆ ซึ่งอาจมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้

ฉก.ทพ.23 ภาพ/ข่าว
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผอ.ทหารผ่านศึก ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจนักรบทหารผ่านศึกผลักดัน “เงินผดุงเกียรติ”

แชร์เนื้อหานี้

ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกในพื้นที่จ.บึงกาฬ พร้อมชี้แจงการแก้ไขกฎหมาย เพื่อผลักดัน “เงินผดุงเกียรติ” ให้ทหารผ่านศึก และครอบครัว เป้าหมายแรก 3,000 บาท/ เดือน และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เตรียมไปนำโครงกระดูกนักรบนิรนามที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในประเทศเพื่อนบ้านกลับประเทศไทย ที่ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ผอ.อผศ.) ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึก และครอบครัวทหารผ่านศึกในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ช่วยในการประสานงานอำนวยความสะดวกให้กับทหารผ่านศึก และครอบครัวทหารผ่านศึก ให้เข้าถึงสิทธิการให้การสูงเคราะห์ได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว มีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และร่วมกิจกรรมจิตอาสา และบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ โดยจังหวัดบึงกาฬ มีเครือข่ายทหารผ่านศึกผ่านศึก ทั้ง 8 อำเภอเข้าร่วมการพบปะ และมีนางสาวณัฏฐา ประเทืองบูลย์ รองหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เขตอุดรธานี, นายธีระพล ขุนพาลเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ, พันเอก บัณฑิต คำเคน สัสดีจังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

พลเอก เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กล่าวว่า จะดูแลและผลักดันสิทธิและสวัสดิการของพี่ ๆ นักรบทหารผ่านศึกให้ดีที่สุด ขอบคุณพี่ ๆ ที่สละเวลามาพบปะพูดคุยกันในวันนี้ และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจะนำปัญหา ข้อขัดข้อง ความเดือดร้อน รวมทั้งความต้องการ ผลักดันเข้าสู่กระบวนการเพื่อช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่ ๆ ทหารผ่านศึก และครอบครัวต่อไป ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ได้กล่าวถึงการผลักดันแก้ไขกฎหมาย เสนอ ร่างพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ…

เพื่อผลักดัน “เงินผดุงเกียรติ” ให้ทหารผ่านศึกผู้ถือบัตรชั้น 2,3 และ 4 เป้าหมายแรกเดือนละ 3,000 บาท ประมาณ 6 แสนกว่าคน ซึ่งพ.ร.บ.ปัจจุบัน กล่าวถึงไว้เฉพาะเงินผดุงเกียรติของผู้ถือบัตรชั้น 1 และครอบครัว คือ ทหารผ่านศึกที่ แขน-ขา ขาด, ตาบอด แต่ผู้ถือบัตรชั้นอื่น ๆ ได้เงินช่วยเหลือครั้งคราว ไม่ได้รวมไปถึงครอบครัว จึงนำมาสู่การผลักดัน เพื่อจะแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อให้พี่ ๆ ทหารผ่านศึกทุกท่านได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กล่าวว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับ ผอ.สำนักงบประมาณ และที่ประชุมแล้ว ทุกคนก็เห็นเป็นเสียงเดียวกัน และไม่มีใครคัดค้านว่า ควรให้พี่ ๆ ทหารผ่านศึกจริง ๆ แต่ขอดูตัวเลขงบประมาณ และภาระของรัฐบาลที่ต้องดูแลพี่น้องคนไทย ในแต่ละปีก่อน อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า จะยังคงผลักดันแก้ไขร่าง พ.ร.บ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ให้ได้

นอกจากนี้ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ยังมีโครงการที่จะไปขุดโครงกระดูกนักรบนิรนามที่เสียชีวิตขณะไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศลาว สมัยสงครามเย็นด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงทหารของประเทศลาวแล้ว ท่านก็เห็นว่าถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะนำโครงกระดูกของทหารกล้ากลับบ้าน โดยจะมีโครงกระดูกของนักรบนิรนามที่มีวีรกรรมเป็นที่กล่าวขานจนถึงปัจจุบัน เช่น “อินทนิล” หรือ ร.ท.ชูเกียรติ สินค้าเจริญ ผู้ขอปืนใหญ่ยิงถล่มฐานตนเองบนภูเทิง ทุ่งไหหิน ด้วยโดยในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

มอบของที่ระลึกแก่ผู้แทนทหารผ่านศึก จำนวน 10 นาย ได้แก่ สิบเอกเติม ผลจันทร์ เคยรับราชการสังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ได้รับบาดเจ็บ ทำให้พิการทุพพลภาพ ขาซ้ายขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2530, ร้อยตรีคำไหล สร้อยโสม เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 ณ อำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร ได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพตาข้างขวาบอด เมื่อปีพุทธศักราช 2522, พลทหารทวี โนนบริบูรณ์ อดีตกองพลเสือดำ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก เมื่อปีพุทธศักราช 2511, สิบเอกบัวเรียน คำพินันท์ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 ณ ช่องโอบก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์

ได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพขาซ้ายขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2531, สิบเอกอินทฉันท์ พุทธามาตย์ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 ณ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ตำแหน่งสนามพลปืนเล็กได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพที่แขนซ้ายข้อมือขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2534, สิบเอกอุดม โพธิ์ใต้ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ตำแหน่งพลปืนเล็ก ได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพขาขวาขาดใต้เข่า เมื่อปีพุทธศักราช 2522, อาสาสมัครทหารพราน สุทัศน์ บุตรเจริญ เคยรับราชการสังกัด กองกำลังสุรนารี ได้รับบาดเจ็บในสนามทำให้พิการทุพพลภาพตาขวาบอด เมื่อปีพุทธศักราช 2529 ได้รับบาดเจ็บ, ร้อยตรีบังเอิญ โนนริบูรณ์ เคยรับราชการสังกัดกรมผสมที่ 13 ร.พัน 3 ในสนามทำให้พิการทุพพลภาพที่ลำตัว ขาแขน และมือซ้าย ใช้การไม่ได้ เมื่อปีพุทธศักราช 2517, ร้อยตรีสุริยา คำเจริญ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 13 ได้รับบาดเจ็บในสนามทำให้พิการทุพพลภาพที่ขาซ้ายใต้เข่าขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2556 และพลทหารสมพงษ์ โคตรสี ประธานเครือข่ายจังหวัดบึงกาฬ เคยรับราชการสังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 13 เมื่อปีพุทธศักราช 2532
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้การทหารพราน 23 นำกำลังเดินเท้าลาดตระเวน ชายแดนไทย – กัมพูชา พื้นที่รับผิดชอบ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่บริเวณอำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก กัญญณัต ไชยโอชะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 นำกำลังพลเดินเท้าลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศในพื้นที่รับผิดชอบ ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี

เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำความผิดเงื่อนไขชายแดน การสกัดกั้นและป้องกันผู้หลบหนีเข้าเมือง การกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ และการละเมิดข้อตกลง MOU พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานตามแนวชายแดน โดยได้มอบนโยบายให้กับกำลังป้องกันชายแดนของหน่วย

เน้นย้ำให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนายเข้มงวดในเรื่องของการป้องกันการกระทำความผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในห้วงการปฏิบัติงาน ให้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดนอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของกองทัพบก ซึ่งพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี

มีความสำคัญ ที่จะต้องรักษาไว้อย่างเข้มงวด ไม่ให้เกิดการละเมิด MOU การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และการเข้ามากระทำผิด พรบ.ป่าไม้ ซึ่งในพื้นที่นี้เป็นเขตป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23

ต่างปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เข้มแข็งทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจในการที่จะปกป้องประเทศชาติ และผืนแผ่นดินไทยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่ตามแนวชายแดนได้ปลอดภัยทั้งทางด้านร่างกายและทรัพย์สินสืบไป

ภาพ : ฉก.ทพ.23
ข่าว : นายพรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.ตรวจเยี่ยม ตามโครงการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร/แม่ทัพภาค 2 แถลงข่าว จับกุม ผู้ต้องหา 4 ราย ยาไอซ์ 6 กระสอบ 200 กก. มูลค่า 200 ล้านบาท อ.ปากชม จ.เลย

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 15.00 น. ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มอบหมาย พลตรีฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210/รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้การต้อนรับ พลโท กัณห์ สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะ ในโอกาศเดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วย และติดตามผลการปฏิบัติงานตามโครงการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และพัฒนาประเทศ ประจำปี 2568 ในพื้นที่ จังหวัดนครพนม

โดยได้รับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ในห้วง ที่ผ่านมา พร้อมทั้งมอบนโยบาย ข้อสั่งการ และข้อเน้นย้ำ แนวทางการปฏิบัติงาน รวมถึงรับทราบปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางการบูรณาการในการพัฒนาความร่วมมือด้านการข่าว

ในพื้นที่รับผิดชอบสู่แผนการปฏิบัติ พร้อมทั้งให้กำลังใจกับกำลังพลที่เสียสละในการปฏิบัติงานต่อไป ณ ห้องประชุมหน่วยบัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

ภาพ : นบ.ยส.24
ข่าว : พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร
เด​วิท​ โชคชัย​ รายงาน​ 092-5259777​

แม่ทัพภาค 2 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 6 กระสอบน้ำหนัก 200 กก. มูลค่า 200 ล้านบาท ในพื้นที่ อ.ปากชม จ.เลย

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ที่กรมทหารพรานที่ 21 ค่ายศรีสองรัก อำเภอเมือง จังหวัดเลย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.ศปก.ทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24)

แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 6 กระสอบน้ำหนัก 200 กก. และรถยนต์ จำนวน 2 คัน ในพื้นที่ อำเภอปากชม จังหวัดเลย โดยมี นายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พลตรี พุทธิวัฒน์ สิริพงศ์พล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 28

พลตำรวจตรี พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย พันเอก สุพรเทพ ไชยยงค์ ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 3 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พันเอก อินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 นายสามารถ หมั่นนอก ปลัดจังหวัดเลย นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล นายอำเภอปากชม พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดเลย ร่วมแถลงข่าว
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยเฉพาะกิจทหาพรานที่ 2109 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับทราบจากสายข่าว ว่ากลุ่มกระบวนการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ เมื่อเวลา 19.00 น.

วันที่ 11 ธันวาคม 2567 จึงได้จัดกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วของหน่วย ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจจุดเพ่งเล็ง และตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยที่ดัดแปลงกระบะตู้ทึบ ไว้เพื่อปิดบังอำพรางในการกระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงได้ขับติดตามดูพฤติกรรม และตั้งจุดตรวจจุดสกัด รถต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นรถนำ บริเวณสามแยกบ้านห้วยเป้า หมู่ 5 ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย เมื่อสบโอกาสจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แต่บุคคลดังกล่าวท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ลงจากรถ ควบคุมตัวไว้ตรวจสอบหาความเชื่อมโยงสามารถทำตรวจยึด/จับกุม ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 6 กระสอบ ประมาณ 200 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน รถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บม 5410 เพชรบุรี (รถยนต์กระบะ ดัดแปลงตู้ทึบ) รถขนยาไอซ์, รถยนต์กระบะ นิสสัน นาวารา สี่ประตู สีดำ ทะเบียน กต 4383 ชุมพร (รถนำทาง) และจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด จำนวน 4 ราย

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ในวันนี้ได้มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามแนวป้องกันชายแดนของเรา ในห้วงที่ผ่านมา ได้มีการจับกุมยาบ้า 50 ล้านเม็ด ซึ่งทราบได้ว่ามีการใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งมีมูลค่าสูง ในครั้งนี้ที่สำคัญมีการได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีกลุ่มขบวนการจากภาคกลางตอนล่าง ยังคงมีความพยายามที่จะลำเลียงยาเสพติดเหล่านี้เข้าสู่พื้นที่ตอนใน ในครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เราจับกุมผู้ต้องหาได้ และเป็นยาเสพติด (ยาไอซ์) จำนวน 200 กก. มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทโดยปัจจัยสำคัญคือ มีผู้ต้องการยาเสพติดเป็นอย่างมาก ในพื้นที่ภาคกลาง ทางแม่ทัพภาคที่ 2 จึงแจ้งต่อตำรวจภูธรจังหวัดเลย ขอให้นำผู้ต้องหาไปขยายผล นำไปสู่กลุ่มกระบวนการผู้สั่งการ และกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง เป็นคดีสมคบคิด จนสามารถนำไปสู่การยึดทรัพย์ให้ได้ สาเหตุที่มียาเสพติดจำนวนมากเข้าในพื้นที่ เนื่องจากช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ มีความต้องการของลูกค้าในตลาดสูงมาก

ท้ายที่สุดนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21และทุกส่วนราชการที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง และบูรณาการร่วมกัน จนทำให้การจับกุมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่าน ที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน และช่วยประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร ขอให้สื่อได้ช่วยเป็นกระบอกเสียง เชิญชวนประชาชนร่วมแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลักลอบค้ายาเสพติด หรือข้อมูลผู้ค้ายาเสพติดผ่านช่องทางตรงของ เจ้าหน้าที่ในหน่วยกำลังป้องกันชายแดนทุกหน่วย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ปัญหายาเสพติดลดลง และพี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน

ภาพ : นบ.ยส.24
ข่าว : นาย พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร
เด​วิท​ โชคชัย​ รายงาน​092-5259777​

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / “แม่ทัพภาคที่ 2 พบปะพัฒนาสัมพันธ์ กองทัพประชาชนลาว”

แชร์เนื้อหานี้

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ พบปะพัฒนาสัมพันธ์กับ พลตรี วันทอง บุตตะวง รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว เนื่องในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

สำหรับการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ชายแดนในห้วงที่ผ่านมา มีการพบปะพัฒนาสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของหน่วยทหารในระดับพื้นที่ เช่น ชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาชายแดน รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิด เพื่อให้พื้นที่ตามแนวชายแดน ไทย-ลาว เกิดความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และได้ร่วมกันพูดคุยแนวทางความร่วมมือด้านการทหารร่วมกันแก้ไขปัญหาเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย คือความมั่นคงตามแนวชายแดน และความสุขของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไปภาพ/ข่าว#กองทัพภาคที่2

กองทัพบกRoyalThaiArmy

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / “รวมพลังมวลชนขอนแก่นสามัคคี”กองทัพภาค 2 มทบ.23 พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนสวนสนาม นักศึกษาวิชาทหาร (นศท.)

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ (8 ธ.ค.2567) เวลา 14.00 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันรวมพลังมวลชนขอนแก่นสามัคคี” และพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร ประจำปี 2567 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความสามัคคี รวมทั้งแสดงพลังการมีส่วนร่วมของมวลชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น รวมถึงแสดงพลังความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ตลอดจนการแสดงศักยภาพของ “เยาวชน คนรุ่นใหม่” นักศึกษาวิชาทหาร และนักเรียน นักศึกษา

ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ ที่สนามกีฬา 50 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี พลตรีนรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 พลตรีกิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะหลักสูตรประชาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพภาคที่ 2 หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 2,000 คน กิจกรรมประกอบด้วย การร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการและตัวแทนกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ณ ห้องสารสิน อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติและนิทรรศการเทคโนโลยีทางทหาร การเดินพาเหรดรวมพลังของมวลชนกลุ่มต่างๆ พิธีอัญเชิญ “ธงชาติไทย” การปฏิญาณตนเป็น “พลเมืองดี และพลังแผ่นดิน”

การแสดงของเยาวชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น การแสดงของนักศึกษาวิชาทหาร การแสดงดนตรีร่วมสมัย และพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร สังกัด ศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 23 เพื่อแสดงออกถึงความรักความสามัคคี ความเข้มแข็ง และความพร้อมเพรียงของนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งจะเป็นกำลังพลสำรองที่มีคุณภาพ และมีความสำคัญของประเทศชาติ พลโท บุญสิน กล่าวว่า “กลุ่มพลังมวลชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ประกอบไปด้วยกลุ่มมวลชนที่หลากหลาย แต่ละกลุ่มล้วนมีหน้าที่ความรับผิดชอบเฉพาะตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ใช้บังคับในแต่ละกลุ่ม แต่หน้าที่ที่เหมือนกันของทุกท่าน คือ การสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อย

ในพื้นที่ชุมชนของตนเอง และหมายความรวมถึงความสงบเรียบร้อยของสังคมในภาพรวมด้วย ซึ่งหน้าที่นี้ถือเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งของพลังมวลชนทุกกลุ่ม ที่จะช่วยให้ชุมชนของตนเองมีความสงบเรียบร้อย และหน้าที่การสอดส่องดูแล ความสงบเรียบร้อย มิได้เป็นเพียงหน้าที่ของกลุ่มพลังมวลชนเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคนที่จะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในชุมชนและสังคม ขอให้แจ้งให้ทางราชการ หรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทราบทันที

เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และที่สำคัญดีใจที่เห็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้มาร่วมกิจกรรมแบบนี้ที่แสดงออกการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งจะทำให้ห่างไกลยาเสพติดได้อีกด้วย เพราะปัจจุบันปัญหายาเสพติดแพร่ระบาด สร้างความเสียหายต่อสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้นจะต้องร่วมด้วยช่วยกันป้องกันแก้ไขทุกภาคส่วน”

กองทัพภาคที่2กองทัพบกRoyalThaiArmyรวมพลังมวลชนขอนแก่นสามัคคีมณฑลทหารบกที่23

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /ครบรอบ 9 ปี สมาคมทหารผ่านศึก-กองหนุน จ.เชียงราย องค์การสังเคราะห์ทหารผ่านศึก

แชร์เนื้อหานี้

ที่ห้องประชุมคชสาร อบจ.เชียงรายเวลา10.00น.วันที่3ธันวาคม2567สมาคมหารผ่านศึกและทหารกองหนุน เชียงราย จัดงานครบรอบ9ปีในการก่อตั้งสมาคมทหารผ่านศึก-กองหนุน เชียงราย ตามนโยบายองค์การสังเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งนายทะเบียนสมาคมจังหวัดเชียงราย

จดทะเบียนครั่งแรก เมื่อ28 มิ.ย.2559มีจ่าสิบเอก บุญส่ง ศรีจุมปา ทหารผ่านศึกอดีตกำลังพล ร.17 พัน 3 (ในพระองค์)เป็นนายกสมาคมผู้ก่อตั้ง พร้อมคณะบริหาร14ตำแหน่ง ปัจจุบันมีนายศรีเนตร์ ธนาคำ อดีตกำนันบ้านดู่ เมืองชียงราย ในงานวันดังกล่าวมีการสวดเจริญพุทธมนต์ทอดผ้าไตรบังสุกุล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเหล่าทหารผ่านศึกและทหารกองหนุนที่เสียชีวิต ตั้งแต่ปี 2559 จำวนวน 104 รายซึ่งทางสมาคมได้เชิญทายาทและครอบครัวผู้เสียชีวิตเหล่านั้น

หลังเสร็จพิธีทางศาสนา นายราชัน มีน้อยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับผู้สนับสนุนสิ่งของเครื่องกันหนาวจาก คุณวิโรจน์ คุณเฟื่องฟ้า อำนาจเกษม เจ้าของและผู้จัดการบริษัท สยามฟูรูกาวา เทรดดิ้ง จำกัด (กทม ) และตัวแทนกรรมการผู้จัดบริษัท วีอาร์ กลกาล จำกัด(กทม.)

และเพื่อมอบต่อให้กับสมาชิกสมาคมทหารผ่านศึกจังหวัดเชียงรายเพื่อมอบให้กับทหารผ่านศึกและทหารกองหนุนที่ประสพภัยน้ำท่วม ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในสภาวะลำบากและเสียชีวิตอนึ่งยังเป็นขวัญกำลังใจให้กับเหล่าทหารผู้กล้าและเสียสละเพื่อชาติเนื่องในโอกาสครบรอบการก่อตั้งสมาคม และของขวัญปีใหม่2568 ที่จะถึงเร็วนี้

    สำหรับกิจกรรมในวันดังกล่าวนับว่าเป็นการปฏิบัติติดต่อกันมาโดยตลอดนับว่าเป็นกิจกรรมที่ทหารกองหนุนและทหารผ่านศึกได้ระลึกถึงเหล่าบรรดาทหารที่มีคุณาประการต่อประเทศชาติ ถึงแม้ว่าจะปลดประจำการก็ได้ปฏิบัติหน้าที่จนลมหายใจสุดท้ายถือว่าเป็นการเสียสละต่อประเทศชาติบ้านเมืองให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยมาตราบเท่าทุกวันนี้ หลังจากมีการมอบสิ่งของเครื่องกันหนาวและผู้ประสบภัยน้ำท่วมเสร็จสิ้นนายกสมาคมทหารผ่านศึกเชียงราย ได้เชิญพอ.เด็ดดวง ณ ลำปางในฐานะที่ปรึกษาสมาคมได้กล่าวทักทายสมาชิกสมาคมทหารผ่านศึกและทหารกองหนุนให้กำลังใจในการทำหน้าที่เพื่อชาติ  ในต้อนท้ายนายศรีเนตร์ ธนาคำได้กล่าวทักทายบรรดาสมาชิกสมาคมทหารกล่าที่มาร่วมงาน กล่าวอวยพรปีใหม่ส่งความปารถนาดีต่อให้สมาชิกสมาคมทุกคนให้สุขภาพแข็งแรงเนื่องในโอกาสที่วันปีใหม่2568ที่จะมาถึงเร็วๆนี้

ธนากฤต วรรมณี
ผู้สื่อข่าวเชียงรายรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาคที่ 2 พบปะสื่อมวลชน ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ณสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในกิจกรรมพบปะพัฒนาสัมพันธ์สื่อมวลชน ประจำปี 2568 โดยมี ผู้บังคับบัญชากองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมให้การต้อนรับสื่อมวลชนทุกแขนง ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ

การจัดกิจกรรมพบปะพัฒนาสัมพันธ์สื่อมวลชน ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานทหารกับสื่อมวลชน และนำเสนอผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 ห้วงที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำทีมโฆษกกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งมีหน้าที่สื่อสารข้อมูลของกองทัพภาคที่ 2 ไปยังสื่อมวลชนและสาธรณชน ทั้งยังเป็นช่องทางสำหรับติดต่อประสานข้อมูลข่าวสารผลการปฏิบัติภารกิจของกองทัพภาคที่ 2 เพื่อนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้ความเข้าใจ อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนง ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ และขอบคุณที่ช่วยกันนำเสนอข่าวสารของกองทัพภาคที่ 2 ในลักษณะที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ ด้วยดีเสมอมา พร้อมกับขอความร่วมมือสื่อมวลชน ในการนำเสนอข่าวที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน เพื่อความมั่นคง และยั่งยืนของประเทศชาติต่อไป

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ​กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับฝ่ายปกครองแถลงการณ์ ตรวจยึดยาบ้า 400,000 เม็ด เตรียมส่งพ่อค้าฝั่งไทย

แชร์เนื้อหานี้

นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 1 และ พันเอก อินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 พร้อมด้วยหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า 400,000 เม็ด พร้อมเคตามีน จำนวน 1 ห่อ/กิโลกรัม เตรียมส่งพ่อค้าฝั่งไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ณ ที่ทำการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ร.13) โดย กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหนองกุ้งเหนือ ม.2 ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ครั้นเมื่อเวลา 2130 น. กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 จัดกำลังพลเฝ้าตรวจ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ด้านหลังสวนยางพารา พื้นที่บ้านหนองกุ้งเหนือ ม.2 ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย สามารถตรวจยึดยาเสพติดได้จำนวน 2 กระเป๋า ใบที่1 บรรจุยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด และเคตามีน จำนวน 1 ห่อ/กิโลกรัม และ กระเป๋าที่ 2 บรรจุยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 400,000 เม็ด หน่วยได้ประสาน ฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย,ตร.สภ.โพนพิสัย,หน่วยเรือโพนพิสัย,ตร.น้ำหนองคาย ร่วมทำการตรวจยึด ปัจจุบันนำของกลางมาทำการตรวจนับที่ที่ทำการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21

ทั้งนี้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี สั่งการทุกหน่วยในพื้นที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ เนื่องจากกลุ่มขบวนการดังกล่าวมักจะลักลอบขนยาเสพติดในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากต่อปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมืด อันตราย และเสี่ยงต่อการใช้อาวุธ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของการปฏิบัติงานของกำลังพล ตามนโยบายรัฐบาล โดย นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิต และจำหน่าย พร้อมทั้งการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหา ผู้เสพในชุมชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา

กองทัพภาคที่ 2 โดย กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในพื้นที่ตอนใน และชายแดน โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ ลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร​ #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี​ #กองทัพภาคที่2​ #กองทัพบกroyalthaiarmy​ #กรมการปกครอง​ #กระทรวงมหาดไทย​

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​