สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ยกระดับความปลอดภัยตู้ทำน้ำดื่มในโรงเรียน สังกัด สพฐ.

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ตรวจสอบและปรับปรุงระบบไฟฟ้า ตู้ทำน้ำดื่ม ให้กับโรงเรียนในสังกัด สพฐ. จังหวัดนครปฐม ภายใต้โครงการชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA ประจำปี 2568

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. นายพานุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม เขต 3 ร่วมเป็นเกียรติในพิธีการส่งมอบโครงการตรวจสอบและปรับปรุงตู้น้ำดื่มโรงเรียนในสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ภายใต้โครงการ "ชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA"  ณ โรงเรียนอนุบาลกำแพงแสน ตำบลกำแพงแสน  อำเภอกำแพงแสน  จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นางพัชรี เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม นางสาวฉันทนา ภุมมา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลกำแพงแสน ผู้บริหาร กฝก.3 และคณะทำงาน ในการนี้ นายนรวีร์ ขันธหิรัญ นายอำเภอกำแพงแสน   พร้อมด้วยปลัดอำเภอกำแพงแสน ผู้แทนส่วนราชการ นางสมพิศ ยืนนาน นายกเทศมนตรีตำบลกำแพงแสน  นายสมเกียรติ  อ.สงวน  ผู้จัดการไฟฟ้าสวนภูมิภาค  อำเภอกำแพงแสน

ได้เป็นเกียรติร่วมพิธีการส่งมอบโครงการดังกล่าว และติดสติกเกอร์ “ผ่านการตรวจสอบโดย PEA” บริเวณตู้น้ำดื่มและร่วมกดน้ำเพื่อประชาสัมพันธ์ถึงความเชื่อมั่นในการใช้ตู้น้ำดื่มที่มีความปลอดภัย กิจกรรมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งานระบบไฟฟ้า,การทำ CPR การใช้งานตู้น้ำดื่ม และข้อควรระวัง (สำหรับนักเรียน) และสอนวิธีการตรวจสอบ RCBO เบื้องต้น (สำหรับครู/เจ้าหน้าที่โรงเรียน)
สมคิด พรมมี ผู้สื่อข่าว นครปฐม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดงาน ปากคาดเกษตรเฟสติวัล ชูทุเรียนหมอนทอง “ทุเรียนราคา” ของดีบึงกาฬ

ดูเรื่องนี้

จังหวัดบึงกาฬเตรียมจัดงานปากคาดเกษตรเฟสติวัล เพื่อโปรโมทผลไม้ในท้องถิ่น ในชื่อทุเรียนหมอนทองของบึงกาฬ ทุเรียนนาคา เพื่อเป็นอัตลักษณ์และจำชื่อได้ง่าย ชูรสชาติหวานหอม กรอบอร่อย และเปลือกบางด้วย

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2568 ณ สวนพูนทรัพย์ บ้านห้วยไม้ซอด ม.9 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน ปากคาดเกษตรเฟสติวัล ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลปากคาด ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 มิ.ย.นี้ พร้อมชูทุเรียน ของอำเภอปากคาด เพื่อเป็นอัตลักษณ์และจำชื่อได้ง่าย ซึ่งส่วนมากชาวสวนมักนิยมปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองกันมาก มีรสชาติหวานหอม กรอบอร่อย และเปลือกบางด้วย โดยมี นายบุญเหลือ ราชภักดี นายก อบต.ปากคาด คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ อบต.และชาวสวนผลไม้ในอำเภอปากคาด ร่วมในงานแถลงข่าวด้วย

จากนั้น นายจตุรพร ผานาค นักสื่อสารมวลชนปฏิบัติการ สวท.บึงกาฬ ได้เป็นผู้ดำเนินรายการเปิดการเสวนา มีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย 10 คน 1.นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ 2.นายไตรภพ รำเพยพล รองนายก อบจ.บึงกาฬ 3.นายบุญเหลือ ราชภักดี นายก อบต.ปากคาด 4.นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด 5.นายสัมรวย มีจินดา เกษตร อ.ปากคาด 6.นายณรงค์ศักดิ์ คุรุพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.บึงกาฬ 7.รองผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี 8.นายประจักษ์ แสนสุภา เจ้าของสวนผลไม้พูนทรัพย์ 9.นายธีรวัฒน์ สนิทชน ท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ 10.ผู้แทนเกษตรจังหวัดบึงกาฬ

นายบุญเหลือ ราชภักดี นายก อบต.ปากคาด กล่าวว่า ในการจัดงานปีที่ผ่านมา มีชาวบ้านสนใจและรู้จักผลไม้อำเภอปากคาด มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด เงาะ การจัดงาน “ปากคาดเกษตรเฟสติวัล” จึงเป็นการเปิดตลาดให้ผู้นิยมชมชอบผลไม้ไทยได้มาซื้อมาไปรับประทาน เป็นการเปิดตลาดการเกษตรเชิงท่องเที่ยวไปในตัวด้วย แต่ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าปีที่แล้ว นอกจากการแข่งขันการกินผลไม้แล้ว ยังมีการโชว์ “ควายงาม” การแข่งส้มตำลีลา ซึ่งเป็นกิจกรรมสนุกสนาน การแสดงสินค้ากลุ่ม OTOP ทั่วทั้งจังหวัดกว่า 50 กลุ่ม ช่วงกลางคืนก็จะมีการประกวดนางงามผลไม้ การแข่งกินผลไม้ ซึ่งจัดเป็นปีแรก มีทั้งประเภทชาย และหญิง

นายก อบต.ปากคาด กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีการเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชการเกษตร ประกวดแต่งชุดแฟนซีผลไม้ การจัดงานในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของท้องถิ่นที่จะส่งเสริมช่องทางในการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรเพื่อช่วยเหลือ และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรอีกด้วย จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของอำเภอปากคาดและจังหวัดบึงกาฬ ด้วย

ด้าน นายสัมรวย มีจินดา เกษตร อ.ปากคาด กล่าวว่า การจัดงานปากคาดเกษตรเฟสติวัล ในครั้งนี้ เป็นการจัดงานที่รวมคนหลายสาขาอาชีพ ทั้งจากชาวสวนที่เป็นเกษตรกรต้นแบบที่มีองค์ความรู้มีประสบการณ์ ส่วนผู้คนที่มาเที่ยวชมงาน ซึ่งประกอบอาชีพสาขาวิชาอาชีพอื่น ก็ได้มาพบปะกับแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชาวสวนผลไม้ตัวจริง ซึ่งถือว่าอำเภอปากคาดเป็นแหล่งที่ท้าทาย เพราะมีการปลูกพืชหลากหลายทั้งยางพารา และก็พืชผลไม้หลากหลายชนิด ที่ปากคาดจึงเป็นแหล่งที่มีศักยภาพมาก ที่ผ่านมายุทธศาสตร์การเกษตรมีการปลูกยางพารากันมาก แต่เนื่องจากว่ายางพาราราคาตกต่ำ จึงมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงปลูกพืชผลไม้มาทดแทนยางพารา ทำให้มีความเสี่ยงน้อยกว่าการปลูกพืชเชิงเดี่ยว.

จังหวัดบึงกาฬ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมงาน เพื่อร่วมสัมผัสเสน่ห์ของชุมชนเกษตร พร้อมสนับสนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ตลาดที่กว้างขวางยิ่งขึ้น

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล ผู้สื่อข่าวบึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เกษตรนาน้อย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรผู้ปลูกมะขาม ในพื้นที่ต.เชียงของ อ.นาน้อย จ.น่าน

สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรผู้ปลูกมะขาม ในพื้นที่ตำบลเชียงของ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เพื่อให้คำแนะนำตามหลักการทางวิชาการ เกี่ยวกับการดูแลรักษาไม้ผล

เช่น มะขาม เนื่องด้วยสถานการณ์สภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ อาจส่งผลต่อการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชในมะขาม ทั้งนี้ผลผลิต มะขามส่วนใหญ่อยู่ในระยะสำคัญคือช่วง

กำลังออกดอกและเริ่มติดฝักอ่อน (ระยะฝักดาบ) จึงได้เน้นย้ำให้เกษตรกรหมั่นสำรวจแปลง และเฝ้าระวังการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชที่อาจเข้าทำลายผลผลิตในระยะนี้อย่างใกล้ชิด

เรื่องและเรียบเรียง /นางสาวบัณฑิตา เผือทะนา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ภาพ/ข่าว/เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อย
/บุญยงค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดงานมหัศจรรย์ทุเรียนเมืองพระยาพิชัย ระหว่างวันที่ 20-22 มิ.ย นี้

วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจิรญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานมหัศจรรย์ทุเรียนเมืองพระยาพิชัย

พร้อมด้วยนางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ นายอนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศสำนักงาน แพร่-อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานในครั้งนึ้

ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า จากความพิเศษของทุเรียน GI หลง หลิน จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งปัจจุบันสามารถปลูกได้หลายอำเภอมากขึ้นทั้ง อำเภอลับแล อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอท่าปลา

และอีกหลายพื้นที่ของจังหวัด สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจให้กับจังหวัดปีละ 2 พันกว่าล้านบาทและผู้คนทุกภูมิภาคได้กล่าวถึงความอร่อยว่ารสชาติไม่เหมือนที่อื่น แม้จะนำไปปลูกภาคตะวันออก หรือภาคกลาง ความเป็นที่หนึ่ง

ของเนื้อและรสชาติ ยังเป็นของจังหวัดอุตรดิตถ์ดังนั้นเราต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และช่วยกันเปิดพื้นที่ ดังเช่นการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตร รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจ

เข้ามาสัมผัสบรรยากาศงาน มาชิม มาฟิน ทุเรียน หลง หลิน ของจังหวัดอุตรดิตถ์ และสินค้า อาหารผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย ในช่วงวันที่ 20 – 22 มิถุนายน 2568 นี้ โดยในวันนี้มีกิจกรรมนาทีทองลดราคาทุเรียนกิโลกรัมละ 50 บาท มีจำนวนจำกัด 100 กิโลกรัมเท่านั้นซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ภาพ/ข่าว นาคา คะเลิศรัมย์ อุตรดิตถ์
.

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผวจ.ศรีสะเกษเปิดงานทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี 2568 เชิญชวนให้มา ลิ้มรส “ทุเรียนภูเขาไฟ หอมหวานละมุนลิ้นกลิ่นไม่ฉุน

เชิญเที่ยวชม ลิ้มรส “ทุเรียนภูเขาไฟ หวานมัน เนียนนุ่ม” ไม่เหมือนใคร กับเต็นท์ติดแอร์ขนาดใหญ่ บรรยากาศที่เย็นฉ่ำ กับเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน 2568 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
***เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน 2568 เพื่อประชาสัมพันธ์ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพ เพิ่มช่องทางการการตลาด อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษด้วย มี นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานฯ ในครั้งนี้

***นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษถือได้ว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของอีสานใต้ เพราะนอกจากเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ หอมแดง กระเทียม ที่มีคุณภาพมาตรฐานจนได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งปลูกผลไม้คุณภาพดี โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัด และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เนื่องจากปลูกในพื้นที่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์จากดินลาวา และความชุ่มชื้นแนวป่าเทือกเขาพนมดงรัก ในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ขุนหาญ และศรีรัตนะ ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุเรียนภูเขาไฟจึงเปรียบเสมือนหัวรถจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนภาคการเกษตร รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและการบริการ เช่น ที่พัก ร้านอาหาร และอื่นๆ ให้ได้รับประโยชน์ไปด้วย โดยในปี 2568 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 20,550 ตัน มูลค่าผลผลิต 2,856,450,000 ล้านบาท จังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดจัดงานเพื่อประชาสัมพันธ์ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพ เพิ่มช่องทางการการตลาด อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย

***นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้ขับเคลื่อนวาระจังหวัดเพื่อเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน บรรลุวิสัยทัศน์ “ดินแดนเกษตรปลอดภัย การค้า การท่องเที่ยวครบวงจร” ซึ่งจังหวัดได้ให้ความสำคัญกับสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะทุเรียนภูเขาไฟจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผลไม้ที่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่มีรสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมปานกลาง เนื้อละเอียด เนียนนุ่ม แห้ง สีเนื้อเหลืองสม่ำเสมอทั้งผล ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ให้กับเกษตรกร และทุกภาคส่วนในจังหวัดอย่างทั่วถึง

***สำหรับกิจกรรม ภายในงานประกอบด้วย การจำหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีคุณภาพและมาตรฐาน จากเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่ม OTOP วิสาหกิจชุมชน Young Smart Farmer และกลุ่มองค์กรเกษตรกร นำมาจำหน่ายโดยตรงให้กับผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการประกวดผลผลิตทางการเกษตร อาหารจากทุเรียน และสิ่งประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากทุเรียนและสิ่งเหลือใช้จากทุเรียน และจุดที่สำคัญคือ ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนจัดในปีนี้ ทางจังหวัดได้มีการจัดเต็นท์ขนาดใหญ่ ติดแอร์ ดั่งให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน ได้เที่ยว ชม ชิมทุเรียนภูเขาไฟ ในห้างสรรพสินค้า แอร์ที่เย็นฉ่ำ สัมผัสกลิ่นอายของชาวศรีสะเกษ ผ่านสินค้าโอท็อป งานนี้พลาดไม่ได้
/////////////////////////////////////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่”ยกระดับ” พลังความร่วมมือแนวทาง CSR / “หมอรุ่ง” ณัฐ วังกาวรรณ นายกทต.สวนเขื่อนแถลงนโยบายต่อสภา ก่อนเข้ารับตำแหน่งฯ

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์ปฏิบัติการวิชาชีพแก้วกาสะลอง วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มอบหมายให้ นายสง่า แต่เชื้อสาย รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในพิธีรับมอบศูนย์การเรียนรู้ “ยกระดับพลังความร่วมมือกับบริษัท 21

ซันแพชชั่น (Partnership college)” และมอบนโยบายด้านการศึกษาและแนวทาง CSR ร่วมกัน โดยมี นายอนรรฆ ชนาธินาถพงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ พร้อมคณะผู้บริหารฯ ครู-อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ ให้การต้อนรับ โดยมีแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายบุญธรรม เกี้ยวฝั้น ผู้อำนวยการสถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 2 คณะกรรมการการศึกษาร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง

โดยกิจกรรมดังกล่าว วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ ได้ดำเนินการจัดทำบันทึกความร่วมมือกับบริษัท 21 ซันแพชชั่น เพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนนโยบาย “ยกระดับพลังความร่วมมือกับบริษัท 21 ซันแพชชั่น (Partnership college)” ภายใต้แนวทางการทำงานที่เน้น “เรียนดี มีความสุข” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการบริหารจัดการร่วม

พัฒนา และสนับสนุนสถานศึกษารวมถึงการพัฒนาคุณภาพและรังสรรค์นวัตกรรมการบริหารจัดการของสถานศึกษาเพื่อให้สถานศึกษาได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างทั่วถึง นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและการเรียนรู้ที่สร้างความสุขให้ผู้เรียน โดยได้รับสนับสนุน 5 ด้าน ได้แก่ 1.สนับสนุนทุนการศึกษา 2.พัฒนาห้องเรียนต้นแบบช่วยจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยี 3.ส่งบุคลากรจากสถานประกอบการร่วมสอน 4.ออกแบบหลักสูตรที่ตอบโจทย์เทรนด์ตลาดแรงงาน และ 5.สร้างเส้นทางอาชีพ ฝึกงาน – จ้างงานจริง

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

“หมอรุ่ง” ณัฐ วังกาวรรณ นายกทต.สวนเขื่อนแถลงนโยบายต่อสภา ก่อนเข้ารับตำแหน่งฯ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 มิถุนายน 2568 เทศบาลตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้จัดการประชุมสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปีพ.ศ.2568 ครั้งที่ 1 ณ.ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน ซึ่งมี นางชลดา หม้อกรอง ประธานสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน นางสาวนงเยาว์ สวนสง่า เลขานุการ และสมาชิกสภาทั้ง 2 เขต นางยุพิน ทองเทพ ปลัดเทศบาลตำบลสวนเขื่อน ผู้อำนวยการ กองต่างๆ เข้าร่วม

ทั้งนี้ “หมอรุ่ง” นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน พร้อมคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย ร.ต.อ.สมฤทธิ์ เขื่อนแก้ว รองนายกเทศ
มนตรี (คนที่ 1) นายธีรภพ เขื่อนสี่ รองนายกเทศมนตรี (คนที่ 2) นายเสถียร เขื่อนเก้า เลขานุการนายกเทศมนตรี นางกัญฐณา สิริกรวัฒนกุล ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี เข้าร่วมการประชุมด้วย

ในการนี้ “หมอรุ่ง” นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน ได้แถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน 7 ด้านฯ เพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนตำบลสวนเขื่อน

“หมอรุ่ง” นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน กล่าวว่า 4 ปี หรือ 48 เดือน ต่อจากจากนี้ไปผมพร้อมผู้บริหารจะทำหน้าที่ตามระเบียบของทางราชการ คงจะไม่ตามใจพี่น้องประชาชนอย่างที่ผ่านมา เพราะว่า 4 ปีก็จะครบ 2 วาระของผม กลังจากนั้น ผมต้องวางมือจากการเมือง ผมมีความตั้งใจจะทำหน้าที่ผู้บริหารเทศบาลตำบลสวนเขื่อนเต็มความสามารถ ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภา ฝ่ายข้าราชการฯ เทศบาลตำบลสวนเขื่อน ฝ่ายปกครองในตำบลสวนเขื่อน

ในโอกาสนี้ นางยุพิน ทองเทพ ปลัดเทศบาลตำบลสวนเขื่อนได้มอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดีแด่ นายณัฐ วังกาวรรณ ที่ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาลตำบลสวนเขื่อน ร่วมแสดงความยินดีด้วย และทางฝ่ายสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน
นำโดย นางชลดา หม้อกรอง ประธานสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน พร้อมสมาชิกสภาได้มอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดีแด่ นายณัฐ วังกาวรรณ ที่ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อนด้วย

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

เมียสุดทน ผัวหึงไม่รู้สาเหตุ จึงคว้ามีแทง ร้อนถึงตำรวจมาไกล่เกลี่ย ลงท้ายด้วยการหอมแก้ม

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ศูนย์วิทยุ “เวียงโกศัย” สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท เมียแทงผัว เหตุเกิดที่ข้างโรงสี ม.7 บ้านดอนดี ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังรับแจ้งทางร.ต.ท.พีรศักดิ์ กองรัตน์ ร้อยเวร 20 สภ.เมืองแพร่ ร่วมกับสายตรวจ ต.กาญจนา ออกตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้ง ร่วมศูนย์กู้ชีพ เทศบาลตำบลสวนเขื่อน

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านชั้นเดียว มีนายสุรินทร์ ยวงแก้ว อายุ 57 ปี บ้านหมู่ 7 ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่แคร่ใต้เพิงหน้าบ้านด้วยอาการเมา พร้อมชี้บาดแผลที่ถูก นางสุรีรัตน์ ไกยสวน อายุ 46 ปี ภรรยา แทงที่บริเวณ ข้างเท้าด้านในขาซ้าย มีรอยเลือดเล็กน้อย จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ต.สวนเขื่อน ปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ระหว่างนั้น นายสุรินทร์ฯเปรยกับเจ้าหน้าที่ว่า สู้เมียไม่ได้เลย บ้านอื่นเมืองอื่น มีแต่ ผัวตีเมีย บ้านนี้ เมียตีผัว มีเรื่องกันครั้งใด แพ้ตลอด จนทำให้ตนเองกลัวหมด ไม่กล้าหือ วันนี้ก่อนเกิดเหตุ ทะเลาะกัน เมียได้ขึ้นไปเอามีดจากบนบ้านมา มาขึ้นคล่มตีจนตนเองโดนแทงเข้าที่เท้า จึงได้บอกพี่ชาย และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางด้าน นางสุรีรัตน์ฯ ภรรยา เผยว่า วันนี้น้องสาวจากบ้านเวียงทองพาแฟนมาเที่ยวหา จึงตั้งวงกันตั้งแต่เช้า เมื่อต่างคนต่างเมา นายสุรินทร์ฯ จึงมีอาการหึงหวงตนเองกับแฟนน้องสาว พูดอย่างนั้นอย่างนี้ ตนเองทนไม่ไหว จึงได้มีเรื่องกัน และตนเองเอามีดมาขู่ เพื่อให้สามีหยุดการหึงหวง แต่พลาดไปโดยเท้า เข้านิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยพูดคุยให้ทั้ง สองคนดีกัน เพราะเป็นคู่กันแล้ว อย่าให้มีเรื่องมีราวกัน อยู่กันอย่างสันติ รักกัน ก่อนที่จะให้ทั้ง 2 คน มาแสดงความรัก ด้วยการหอมแก้มให้อภัยกัน จบความบาดหมางหึงหวงในวงเหล้า ก่อนจะออกบ้านเกิดเหตุ ทั้งคู่ ได้ ยกมือไหว้ขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ที่มาช่วยเหลือ และไกล่เกลี่ยให้รักกันเหมือนเดิม

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ​แม่ทัพภาค 2 นำคณะ พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2 เยี่ยมทหารบาดเจ็บเหตุ ฮ.ตก พร้อมมอบกระเช้าและเงินเป็นกำลังใจ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2568 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 2 (พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2) เดินทางเข้าเยี่ยมมอบกระเช้าผลไม้ และเงินเพื่อให้กำลังใจนายทหาร 8 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เฮลิคอปเตอร์ตกกระแทก

พื้น ขณะปฏิบัติภารกิจผลัดเปลี่ยนกำลังพลและส่งเสบียงยังฐานปฏิบัติการชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ มารอมอบดอกไม้และถ่ายเซลฟี่กับแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นจำนวนมาก

โดยผู้บาดเจ็บประกอบด้วยทหารพรานจาก กรมทหารพรานที่ 23 จำนวน 5 นาย, นักบิน 2 นาย และช่างเครื่องอีก 1 นาย และในโอกาสเดียวกัน นางสาวธนชนก

สุริยเดชสกุล ผู้แทนนักศึกษา พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2 ได้ร่วมมอบเงินสนับสนุนเพื่อเป็นกำลังใจแก่ทหารผู้บาดเจ็บ พร้อมกล่าวให้กำลังใจและชื่นชมในความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติด้วย

ทั้งนี้ ทหารที่ได้รับบัตรเจ็บขณะนี้มีอาการปลอดภัยทั้งหมด โดยมีเพียงทหารพราน 1 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่านายอื่น เนื่องจากขาซ้ายหักและแพทย์ผู้รักษาได้การผ่าตัดใส่เครื่องยึดให้เป็นเรียบร้อยแล้ว

พลโท บุญสิน ได้กล่าวให้กําลังใจนายทหารที่บาดเจ็บและครอบครัวที่มาเฝ้า โดยได้สอบถามถึงอาการทหารที่ได้รับบาดเจ็บแต่ละคนด้วยความห่วงใยว่าเป็น

อย่างไรบ้าง โดยมีแพทย์ผู้ให้การรักษาได้อธิบายถึงขั้นตอนการรักษาผู้บาดเจ็บแต่ละรายว่าได้ให้การรักษาอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีอาการบาดเจ็บเนื่องจากการถูกกระแทกอย่างแรงบริเวณแขนขาและชายโครง โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้

กล่าวอวยพรให้ทหารทุกนายหายจากอาการบาดเจ็บเป็นปกติโดยเร็ววันบุญสินพาดกลาง #แม่ทัพภาคที่2 #เยี่ยมทหารบาดเจ็บ #เฮลิคอปเตอร์ตก #โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ #วารินชำราบ #อุบลราชธานี #ศาลโลก

#ชายแดนไทยกัมพูชา #ทหารไทย #ทหารกัมพูชา #ทหารเขมร #ข่าวด่วน #ความมั่นคงชายแดน #ข่าวสุรินทร์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #พนมดงรัก #สุรินทร์

#ปะทะชายแดน #ThaiArmy #BorderConflict #ปราสาทตาเมือนธม #ปราสาทตาควาย #ปราสาทตาเมือนโต๊ด #ช่องบก #สามเหลี่ยมมรกต #ข่าววันนี้​ ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดตัว “นากรักมาก ม๊ากมาก” ฮาสนั่น “เท่ง-โหน่ง” รวมตัวแกง “หม่ำ” ชุดใหญ่“ญดา-คริส” นำทีมสร้างตำนานรักม๊ากมาก ตลกม๊ากมาก

บริษัท แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ “นากรักมาก ม๊ากมาก”

ที่จะมาสร้างตำนานรักบทใหม่โรแมนติกม๊ากมาก คอมเมดี้ม๊ากมาก ให้สมกับที่สามตลกตัวพ่อ หม่ำ จ๊กมก, เท่ง เถิดเทิง และ โหน่ง ชะชะช่า กลับมาร่วมแสดงภาพยนตร์ร่วมกันอีกครั้งในรอบ 15 ปี ซึ่งโปรเจกต์ครั้งนี้พิเศษสุด ๆ เพราะ โหน่ง ชะชะช่า นั่งแท่นกำกับหนังเต็มตัวครั้งแรก เริ่มงานด้วยพิธีกร พัน พลุแตก กล่าวต้อนรับแผู้มเกียรติและสื่อมวลชนภายในงานและได้เปิดตัวอย่างเต็มของ

ภาพยนตร์ให้แขกในงานได้รับชมพร้อมกันเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก็เรียกเสียงฮาตั้งแต่เริ่มงาน เมื่อพิธีกร พัน พลุแตกและเท่ง,โหน่ง รวมตัวแกงหม่ำหนักมาก เริ่มตั้งแต่กล่าวเชิญ โหน่ง ชะชะช่า ที่ควบบทบาทผู้กำกับและนักแสดง ต่อด้วยเท่ง เถิดเทิง ขึ้นมาบนเวที และเปิดตัว “นางนาก-พี่มาก” เวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร, คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์ ร่วมด้วยนาย เดอะ คอมเมเดี้ยน และ ฟอร์ม ชลพิพรรธน์

แต่กลับข้ามชื่อ หม่ำ จ๊กมก นักแสดงรุ่นพี่คนสำคัญไปเฉย ๆ ทั้งที่เจ้าตัวก็รอตั้งแต่ชื่อแรก พอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่เรียกหม่ำ ก็ดันไปเชิญแขกพิเศษหน้าเหมือนอย่าง หมวดหม่ำ ขึ้นเวทีแทน งานนี้ทำเอาพี่หม่ำหวิดวางมวยกันเลยทีเดียว เรียกเสียงฮาลั่นกันทั้งงานก่อนจะนำเข้าสู่การแถลงข่าวพูดถึงการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างสนุกสนาน นี่ขนาดงานแถลงข่าวยังแกล้งพี่หม่ำขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเป็นแผนของพี่โหน่งผู้กำกับหรือไม่

ต้องรอดูเลยว่าในหนังจะจัดหนักขนาดไหน ตำนานรักบทใหม่ของ “นากรักมาก ม๊ากมาก” เล่าเรื่องราวของ ปื๊ด (โหน่ง ชะชะช่า) ผู้กำกับหน้าเก่าไฟแร๊ง ร่วมมือกับ อังเคิล (เท่ง เถิดเทิง) ผู้ช่วยผู้กำกับคู่มือคู่เท้า ลุยสร้างหนังรีเมคจากตำนานรักอมตะ “นางนาก” หวังเขย่าวงการให้สะเทือน! แต่เรื่องกลับหลุดบทไปไกล เมื่อ “นางนากตัวจริง” (ญดา นริลญา) โผล่มาเล่นเอง! พร้อมภารกิจตามหารักแท้ที่กลับชาติมาเกิดเป็น คริส (คริส พีรวัส)

นักแสดงหนุ่มดาวรุ่ง! เมื่อกองถ่ายหนังผีดันมีผีจริงร่วมจอ โปรเจกต์นี้จะปังจนเป็นตำนาน หรือพังจนเป็นตำนานกันแน่!?ปิดท้ายด้วยเรียนเชิญผู้บริหารจากบริษัท แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด คุณพรชัย ว่องศรีอุดมพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ, คุณอรอร อัครเศรณี กรรรมการผู้จัดการ The Nation, คุณชยานนท์ อุลิศ กรรมการบริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด และ คุณขจรชัย วชิรพิศุทธ์โศภิน

โปรดิวเซอร์บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด ถ่ายภาพร่วมกันกับทีมผู้กำกับและนักแสดงเป็นที่ระลึก ก่อนจะไปพบกับภาพยนตร์โรแมนติกม๊ากมาก คอมเมดี้ม๊ากมาก “นากรักมาก ม๊ากมาก” ในโรงภาพยนตร์ วันที่ 24 กรกฏาคมนี้ แฟนๆ สามารถชมตัวอย่างภาพยนตร์ “นากรักมาก ม๊ากมาก” ได้แล้วทาง YouTube Black Dragon Entertainment :
https://youtu.be/pU3gYnZq7Ug?si=0RLaC18dJrEwHTSs

25 มิถุนายนนี้ร่วมเป็น 100 คนแรกใน ”รอบพิเศษ“ ของ “มหัศจรรย์แห่งรัก”ร่วมย้อนความทรงจำเป็น 100 คนแรกในโอกาสการกลับมาในรอบ 30 ปีของภาพยนตร์ไทยเจ้าของ 6 รางวัลตุ๊กตาทอง ประจำปี 2538 “มหัศจรรย์แห่งรัก” วันพุธที่ 25 มิถุนายนนี้ ณ โรงภาพยนตร์ Major Cineplex รัชโยธิน โรงที่ 14ในงานพบกับ สินจัย เปล่งพานิช, นุสบา ปุณณกันต์, สันติสุข พรหมศิริ, เล็ก ไอศูรย์, วราพรรณ หงุ่ยตระกูล, อังคณา ทิมดี และ มณฑานี ตันติสุข พร้อมฟังอมตะเพลงประกอบภาพยนตร์จากเสียงร้องของ “รัดเกล้า อามระดิษ“จำหน่ายบัตรรอบพิเศษล่วงหน้าพร้อมกันตั้งแต่วันนี้ทางแอพพลิเคชั่นของโรงภาพยนตร์ในเครือ Major Cineplex ซื้อบัตรรอบพิเศษทุกที่นั่ง “แถมฟรี” โปสเตอร์ขนาดใหญ่ บัตรมีจำนวนจำกัดเพียง 100 ที่นั่งเท่านั้น….ห้ามพลาด!!!

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภูธร​ร้อยเอ็ด​ รวบแสงจันทร์​ผู้ต้องหาฆ่าชิงทองจากสุรินทร์ หนีมามุกดาหาร เตรียมข้ามลาวแต่ไม่สำเร็จ

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อนายแสงจันทร์ กิ่งก้านนาค ก่อเหตุฆ่าชิงทองคำนายประทีป คงทวี อายุ 63 ปี โดยใช้มีดแทงบริเวณลำคอเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักเลขที่ 58 หมู่ 14 ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่โดยจะข้ามแม่น้ำโขงไปแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ทางจังหวัดมุกดาหาร แต่ไม่สามารถหาทางข้ามได้จึงย้อนกลับมาที่จังหวัดร้อยเอ็ด และถูกจับกุมได้ในที่สุด

พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ร่วมตรวจสอบและสอบสวนการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของ สภ.เมืองสุรินทร์ โดยตำรวจชุดสืบสวน “สุรสีห์” สามารถจับกุมตัวได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดร้อยเอ็ด ขณะผู้ต้องหากำลังจะลงจากรถเพื่อเดินทางต่อกลับจังหวัดสุรินทร์ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนตั้งใจจะไปยืมเงินผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ให้ยืมพร้อมกับดุด่า ต่างๆ นานา ด้วยความโกรธก็เลยกลับออกมา โดยไม่ยืมเงิน แต่พอออกมาก็ได้มาพบกับนายบอม รู้จักแต่ชื่อเล่น เป็นชาวกัมพูชาที่รู้จักกัน ชวนตนเข้าไปในบ้านผู้ตายใหม่

จากนั้นรายบอมได้เอาปืนจี้บังคับให้ตนเอามีดแทงที่ลำคอด้านขวาของจนเสียชีวิต แล้วนายบอม ก็เข้าไปค้นในห้องผู้ตาย ซึ่งเปิดประตูอยู่ พบว่ามีทองใส่อยู่ในกล่อง จึงนำออกมาแบ่งให้ตนส่วนหนึ่ง แยกย้ายกันหลบหนีไปโดยคาดว่านายบอมจะกลับไปกัมพูชาส่วนตนเอง กลัวความผิด จึงตั้งใจจะหนีข้ามฝั่งไปแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว โดยใช้เส้นทางจังหวัดมุกดาหาร แต่ไม่สามารถข้ามไปได้ เนื่องจากหาเรือรับจ้างไม่ได้ โดยตนไม่โดยสารรถยนต์ข้ามทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เนื่องจากกลัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ จึงตั้งใจที่จะจ้างเรือพายหนีข้ามแม่น้ำโขงไป สปป.ลาว แทน แต่ปรากฏว่าเจ้วของเรือไม่กล้าพาไป เนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำโขงไหลเชี่ยวมาก จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับ โดยนั่งรถโดยสารมาลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจะต่อรถกลับบ้านที่สุรินทร์ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ ดังกล่าว ทั้งนี้ มีทองรูปพรรณที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหาขณะที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และพระเลี่ยมทอง น้ำหนักรวมประมาณ 13 บาท หรือราว 200 กรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบให้กับตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ข่าวอาชญากรรม #จับฆ่าชิงทอง #สุรินทร์ #ร้อยเอ็ด #มุกดาหาร #จะหนีข้ามโขงแต่ไม่รอด #มีดแทงคอฆ่าชิงทอง #ตำรวจ #ประทีปคงทวี #แสงจันทร์กิ่งก้านนาค #ข่าววันนี้

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดการประชุมปฐมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเนินผลกระทบสิ่งแวดอ่างเก็บน้ำน้ำยาว (ตะวันตก) จังหวัดน่าน

วันพุธที่ 18 มิถุนายน 2568 เวลา 13.00 น. ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสองแคว จังหวัดน่าน นายพรมงคล ชิดชอบ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2ผู้แทนกรมชลประทาน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ต่อนางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ประธานในพิธีเปิดการประชุมนิเทศโครงการ

ศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำน้ำยาว
(ตะวันตก) จังหวัดน่านโดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สังกัดกรมชลประทาน และประชาชนเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก

ตามที่กรมชลประทาน ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและ
ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำยาว (ตะวันตก) จังหวัดน่าน ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสองแคว หมู่ที่ 5 ตำบลนาไร่พลวง อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน ซึ่งมีพื้ นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1A ดังนั้น จึงต้องเตรียมความพร้อม

จัดทำรายงานความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อประกอบการ ขออนุญาตใช้พื้นที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการนี้ได้มีการศึกษาและจัดทำแผนหลักฯควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะทราบถึงปัญหา เกี่ยวกับทรัพยากรน้ำและแนวทางในการแก้ไขในภาพรวมของทั้งอำเภอ และพื้นที่

ใกล้เคียง รวมทั้งศึกษาลงรายละเอียดเฉพาะถึงความเหมาะสมและผลกระทบ
สิ่งแวดล้อมทั้งทางบวกและทางลบ รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบ
สิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำน้ำยาว (ตะวันตก) จังหวัดน่าน
การประชุมปฐมนิเทศโครงการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเบื้องต้น
ของโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำยาว (ตะวันตก) ตลอดจนแนวทาง

และแผนการดำเนินงาน การศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินงาน ตลอดจนสภาพ

ปัญหา ข้อห่วงกังวลต่าง ๆ เพื่อนำไปประกอบการศึกษา ซึ่งจะดำเนินการเป็น
ระยะเวลา 18 เดือน โดยเริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ถึง กรกฎาคม 2569/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน 081-0342455

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง