สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รมช.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบถุงน้ำใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดน่านจำนวน 900 ชุด

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม2568 นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมด้วยนายขรรค์ชัย แก้วเนตร นักธุรกิจส่งออกและคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดน่าน มอบถุงน้ำใจจำนวน 900 ชุด

โดยมีนายสว่าง เปรม ประสิทธิ์ นายกอบต.สะเนียน นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดน่าน อดีต ผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขต 1 นางจรวยพร อินสาคำ อดีต ผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขต 2 นายเรืองเดช จอมเมือง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดน่าน อดีต ผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขต 3(ผู้ประสานงานส.ส.สมบัติ)

นายรัฐภูมิ ขันสลี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ผู้แทนเกษตรกร 17 จังหวัดภาคเหนือ ผู้บริหารและทีมงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม นางสาวอรประภา พุฒิหมื่น กรรมการสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ร่วมมอบ โดยจุดที่ 1 มอบที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านท่าวังผาจำนวน155 ชุด มีนายบดินทร์ จิณะไชย กำนันตำบลท่าวังผากล่าวต้อนรับ ผญบ.พร้อมด้วย สท.เทศบาลตำบลท่าวังผา ให้การต้อนรับ จุดที่ 2 มอบที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเจดีย์ชัย โดยมีนายพิพัฒน์ เพชรพิพัฒน์ นายอำเภอปัว กล่าวต้อนรับ นายอิทธิฤทธิ์ ยะแสง กำนันตำบลเจดีย์ชัย

นายสมศักดิ์ คำเขื่อน นายก อบต.เจดีชัย ผญบ.ผช.ผญบ.สอบต.พนักงานและลูกจ้างอบต.เจดีย์ชัย ให้การต้อนรับ จุดที่ 3 มอบที่ บ้านแสงดาว ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จำนวน 100 ชุดมีนางพวงแก้ว พรมมิ สอบจ.เขตอำเภอภูเพียง นายวรายุทธิ์ เขียวปัญญา กำนันตำบลฝายแก้ว นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหย่บ้านจังหวัดน่าน กล่าวต้อนรับ มีผญบ.ผช.ผญบ.สอบต.ให้การต้อนรับ จุดที่ 4 มอบที่ศาลาวัดน้ำปั้ว ตำบลน้ำปั้ว อำเภอเวียงสา จำนวน 250 ชุด มีนายอดุลย์ ชนะภัย กำนันตำบลน้ำปั้วกล่าวต้อนรับ

ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นร่วมกันให้การต้อนรับ ถุงน้ำใจบางส่วนที่เหลือก็ให้อดีตผู้สมัคร ส.ส.นำไปมอบต่อให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป ด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าตนได้เป็นผู้แทน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ประธานมูลนิธิ มรว.เสนีย์ ปราโมทย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำถุงน้ำใจมามอบให้พี่น้องชาวน่านที่ประสบอุทกภัย ถึงแม้ของที่มามอบในวันนี้จะไม่มีค่ามากมายอะไรมากนัก แต่ก็มากด้วยน้ำใจและ

พร้อมกันนั้นได้นำความปราถนาดี ของ ดร.เฉลิม ชัย ศรีอ่อน ที่เป็นห่วงเป็นใยมายังพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยทุกท่านด้วย ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ระดมรถน้ำทั้งในจังหวัดและเขตภาคเหนือ นำรถบรรทุกน้ำมาล้างทำความบ้านเรือนพี่น้องประชน สำนักงานส่วนราชการต่างๆอีกทั้งได้มอบน้ำดื่มให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทองกล่าว

ด้านอดีต ผู้สมัคร ส.ส.น่านทั้งสมามเขต ขอกราบขอบพระคุณท่านดร.เฉลิม ชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหนาพรรค นายสมบัติ ยะศิลป์ รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ส.ส.จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ผู้ประสานงาน)นายขรรค์ชัย แก้วเนตร นักธุรกิจส่งออกและคณะที่นำขนมมามอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่งครับ/ภาพ ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม /ข่าวบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยม ชป.จรยุทธ์ กำชับมาตรการควบคุมพื้นที่เชิงรุก-พิทักษ์กำลังพล ควบคู่ดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง

วันที่ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4511 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ณ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส โดยได้ให้กำลังใจแก่กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เผชิญความเสี่ยง และประชุมร่วมกับผู้บังคับหน่วย พร้อมฝ่ายอำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ความมั่นคงร่วมกัน

ในการประชุมครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำจุดสำคัญในการขับเคลื่อนมาตรการ “ควบคุมพื้นที่เชิงรุก” ควบคู่กับ “แผนพิทักษ์กำลังพล” โดยมุ่งให้ทุกหน่วยปฏิบัติการไม่เพียงแค่เฝ้าระวังเชิงป้องกัน แต่ต้องเดินหน้าสร้างความปลอดภัยเชิงรุกในทุกมิติ ทั้งการข่าว การลาดตระเวน และการสร้างพื้นที่ปลอดภัยร่วมกับชุมชน สิ่งสำคัญที่แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเน้นย้ำคือ

“ถ้าเจ้าหน้าที่เองไม่พร้อม หรือได้รับอันตรายเสียก่อน แล้วใครจะไปดูแลพี่น้องประชาชนได้?” ซึ่งสะท้อนจุดยืนที่ชัดเจนของผู้นำกองทัพภาคที่ 4 ว่า การดูแลประชาชนอย่างยั่งยืนเริ่มต้นที่ความพร้อมและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ต้องมีสติ รอบคอบ และไม่ประมาทในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้สามารถยืนหยัดทำภารกิจได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังแสดงความห่วงใยถึงกลุ่มเป้าหมายเปราะบาง โดยเฉพาะ เด็ก คนชรา พี่น้องไทยพุทธ และประชาชนในทุกหลังคาเรือน ที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งถือเป็นหัวใจของการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงเชิงมนุษยธรรม พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยเข้าถึงและสื่อสารกับประชาชนในภาษาที่เขาเข้าใจ โดยเฉพาะ “ภาษาไทยถิ่น” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและลดช่องว่างระหว่างรัฐกับประชาชน

การลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของผู้นำทหารในพื้นที่ว่า ภารกิจความมั่นคงต้องไม่ละเลยมิติของมนุษยธรรมที่ดีงาม ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ต้องทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยทั้งในทางกายภาพและจิตใจ และเชื่อมั่นว่าทหารคือผู้ที่อยู่เคียงข้างเขาอย่างแท้จริง
//////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธี “รวมพลังทหารผ่านศึก เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย” และกล่าวสดุดีนักรบผู้กล้า

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2568 เวลา 07.00 น พล.ต.สมคิด ชูเผือก ผบ.มทบ.44 / หัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธาน กิจกรรม พิธี “รวมพลังทหารผ่านศึก เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย” และกล่าวสดุดีนักรบผู้กล้า ณ พระอนุสาวรี พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์

โดยมี นายทหารผู้บังคับบัญชา พร้อมกำลังพล มทบ.44 ร่วมกับ ทหารผ่านศึก ในเขตพื้นที่ จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมกิจกรรม โดยจัดให้มีการกระทำพิธีพร้อมกันทั่วประเทศไทย สดุดีและให้กำลังใจแก่ทหาร

หาญที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนในขณะนี้ ด้วยการร้องเพลงชาติไทย
พ.ต.พินัย กยุคำ ทหารผ่านศึกอาวุโส กล่าว ในเหตุการณ์พิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา ขอสดุดีวีรกรรมอันกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว/ ของทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน/ และอาสาสมัคร ทหารพรานทุกนาย/ แห่งกองทัพไทย

ผู้ซึ่งได้เสียสละเลือดเนื้อ แรงกาย และแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย อธิปไตยแห่งชาติ และเกียรติภูมิของแผ่นดินในการรบ/ ณ ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่เต็มไปด้วยสถานการณ์ความ ตึงเครียด อันตราย และภยันตรายจากกระสุนและระเบิด/ โดยเฉพาะทหารหาญผู้กล้า จำนวน 15 นาย ที่ยอมพลีชีพ พลีกาย เสียสละปกป้องแผ่นดินไทย/ พวกเขามิได้ย่อท้อ ต่อภารกิจ

และมิยอมถอยแม้เพียงก้าว/พวกเขาคือผู้ที่ยืนหยัด ต่อหน้าอันตราย/ อย่างองอาจภายใต้ธงไตรรงค์ ด้วยหัวใจเปี่ยมด้วยจงรักภักดี เพื่อรักษาดินแดนที่บรรพบุรุษได้สละเลือด เนื้อไว้ เพื่อปวงชนชาวไทยทั้งชาติ/ และเพื่อสันติสุขของ ประชาชน/ พวกเราอดีตนักรบ ขอยืนยันกับน้อง ๆ นักรบที่ปฏิบัติ หน้าที่แนวชายแดนทุกนายว่า/ พวกเราทุกคนจะช่วยเป็นหู เป็นตา

เป็นยามเฝ้าบ้าน เพื่อสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหว ของข้าศึก ความกล้าหาญ ความเสียสละ ความจงรักภักดี และจิตใจที่ รักชาติของท่าน/ จะประทับอยู่ในหัวใจคนไทยตราบนิจนิรันดร์ และจะเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานไทยตราบนาน

เท่านาน ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดอภิบาล ดวงวิญญาณของเหล่าทหารกล้า ให้สงบสุขในสัมปรายภพ และขอจงปกปักรักษาทหารทุกนาย ที่ยังคงยืนหยัดอยู่แนวหน้า ให้ปลอดภัย และกลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัว ด้วยชัยชนะ ตลอดกาลและตลอดไป

พล.ต.สมคิด ชูเผือก ผบ.มทบ.44 / หัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชุมพร ในเหตุการณ์พิพาทชายแดน ไทย – กัมพูชา/ ข้าพเจ้าและ เหล่าทหารหาญ/

พร้อมด้วยพนักงานและลูกจ้างขององค์การ สงเคราะห์ทหารผ่านศึก และ ทหารผ่านศึก ทั้ง ๗๗ จังหวัด ทั่วประเทศ ขอสดุดีวีรกรรมอันกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ของทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน/ และ อาสาสมัครทหารพรานทุกนาย แห่งกองทัพไทย

ผู้ซึ่งได้เสียสละเลือดเนื้อ แรงกาย และ แม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืน แผ่นดินไทย อธิปไตยแห่งชาติ และเกียรติภูมิของแผ่นดินในการรบ ณ ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่เต็มไปด้วยสถานการณ์ ความตึงเครียด อันตราย และภยันตราย จากกระสุนและระเบิด โดยเฉพาะทหารหาญผู้กล้า จำนวน 15 นาย ที่ยอมพลี ชีพ พลีกาย เสียสละปกป้องแผ่นดินไทย

พวกเขามิได้ย่อท้อต่อภารกิจ และมิยอมถอยแม้เพียงก้าว/ พวกเขาคือผู้ที่ยืนหยัด ต่อหน้าอันตราย อย่างองอาจภายใต้ ธงไตรรงค์ ด้วยหัวใจเปี่ยมด้วยจงรักภักดี เพื่อรักษาดินแดน ที่บรรพบุรุษได้สละเลือดเนื้อไว้/ เพื่อปวงชนชาวไทยทั้งชาติ และเพื่อสันติสุขของประชาชน ความกล้าหาญ ความเสียสละ ความจงรักภักดี และจิตใจที่ รักชาติของท่าน

จะประทับอยู่ในหัวใจคนไทยตราบนิจนิรันดร์ และจะเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานไทยตราบนานเท่านาน ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดอภิบาล ดวงวิญญาณของเหล่าทหารกล้า ให้สงบสุขในสัมปรายภพ และขอจงปกปักรักษาทหารทุกนาย ที่ยังคงยืนหยัดอยู่แนวหน้า ให้ปลอดภัย/และกลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัว ด้วยชัยชนะ ตลอดกาลและตลอดไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อ.ดอนตาลจัดแข่งเปตอง “หมากบูน” เชื่อมสัมพันธ์สองฝั่งโขง กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

นายชาคริต ชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล เปิดเผยว่า อำเภอดอนตาลเตรียมจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาเปตอง หรือ “หมากบูน” เชื่อมสัมพันธ์สองฝั่งโขง ระหว่างวันที่ 21 – 22 สิงหาคม 2568 ณ ลานอเนกประสงค์วัดท่าดอนตาล โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขับเคลื่อนเมืองแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา (Tourism and Sports City)

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สนับสนุนกีฬาในพื้นที่ สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมแสดงออกผ่านกิจกรรมสร้างสุขภาพแบบ Go Green และ Soft Power

📌 เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 20 สิงหาคม 2568 ณ ที่ว่าการอำเภอดอนตาล ชั้น 2 ห้องปกครอง หรือเพจ Facebook: ที่ว่าการอำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
☎️ โทร. 098-146-2543

ประเภทการแข่งขัน:
🔸 คู่ประชาชนทั่วไป (Open) – ค่าสมัคร 500 บาท
🔸 คู่ประชาชนทั่วไป ภายใน (เฉพาะผู้มีภูมิลำเนาหรือทำงานในเขตอำเภอดอนตาล) – ค่าสมัคร 300 บาท

💰 รางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล
ประเภท Open
🥇 รางวัลชนะเลิศ 10,000 บาท
🥈 รองชนะเลิศอันดับ 1 – 7,000 บาท
🥉 รองชนะเลิศอันดับ 2 – 5,000 บาท
🏅 รองชนะเลิศอันดับ 3 – 2,000 บาท
ประเภท ภายใน
🥇 รางวัลชนะเลิศ 5,000 บาท
🥈 รองชนะเลิศอันดับ 1 – 3,000 บาท
🥉 รองชนะเลิศอันดับ 2 – 2,000 บาท
🏅 รองชนะเลิศอันดับ 3 – 1,000 บาท

🏁 การแข่งขันจะใช้กติกาของสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย
พร้อมข้อกำหนดพิเศษเกี่ยวกับนักกีฬาทีมชาติ 100 รายชื่อ และแต้มต่อสำหรับผู้หญิง เพื่อความเท่าเทียมในการแข่งขัน

🎯 “เปตองเชื่อมใจ สองฝั่งโขง รวมพลังคนรักกีฬา เพื่อพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน”เปตองหมากบูน #สองฝั่งโขงสัมพันธ์ดี #TourismSportCity #SoftPowerGoGreen #กีฬาเพื่อชุมชน #อำเภอดอนตาล #มุกดาหาร #กิจกรรมดีดีเพื่อท้องถิ่น #หมากบูน2568 #กีฬาเชื่อมใจคนสองฝั่ง #DonTanSportCity #ເປຕັງ #ເມືອງໄຊພູທອງ #ສະຫວັນນະເຂດ #ສປປລາວ #ข่าววันนี้////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ท

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เผาแล้ว 7 เหยื่อจากลูกระเบิดที่กัมพูชายิงตกลงมาใช้ประชาชน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

***เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 3 ส.ค. 68 ที่ศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายฆารวาส ประกอบพิธีพระราชเพลิงศพ 7 ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การปะทะด้านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์ประกอบพิธี

***โดยพิธีพระสงฆ์ตั้งพัดยศ สวดมาติกา เจ้าหน้าที่อัญเชิญกล่องเพลิงและผ้าไตรพระราชทาน เจ้าหน้าที่อ่านหมายรับสั่ง ญาติอ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าไตรบังสุกุลพระราชทาน จำนวน 5 ไตร

หน้าจิตกาธาน พระสงฆ์สมณศักดิ์ 5 รูป พิจารณาผ้าไตรพระราชทาน ประธานในพิธี ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ แขนผู้มีเกียรติและผู้เข้าร่วมในพิธีขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ถือว่าเสร็จพิธี

***ทั้งนี้หลังวางดอกไม้จันทน์ เสร็จแล้วจะมีคลื่อนศพไปตามวัดที่จัดไว้เพื่อไปฌาปนกิจศพ ดังนี้ ที่เมรุวัดมหาพุทธธาราม พระอารามหลวง จะมี 4 ร่าง ได้แก่ นางสาวรุ่งรัตน์ ประชัน, เด็กหญิงทักษพร ประชัน, เด็กชายพงศภัค ประชัน และ

เด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ขณะที่เมรุ วัดเจียงอี ศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง จะมีร่างของ นางอรุณรัตน์ วันศรี ส่วนที่เมรุ วัดหลวงสุมังคลาราม พระอารามหลวง จะนำร่าง นางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง ไปประกอบพิธี และที่เมรุ วัดเพียนาม อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ จะนำร่าง นายสมศรี ลาภบุญ ไปประกอบพิธีประเพลิง

***โดยหลังจากที่ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ว่างดอกไม้จันทน์เสร็จได้เดินเข้ามาคุยกับครอบครัวผู้สูญเสีย และกอดปลอบใจญาติผู้สูญเสีย พร้อมกับได้แลกเบอร์กันไว้เผื่นได้ติดต่อช่วยเหลือ โดยก่อนจะนำร่างไปฌาปนกิจได้มีการทำพิธีขอขมาผู้วายชนม์ ทั้งนี้บรรยากาศในแต่ละวัดที่นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย

ไปฌาปนกิจ ช่วงนำโลงศพขึ้นเมรุ และขึ้นเตาเผาศพ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติๆ ผู้มาร่วมงาน ต่างร้องไห้กอดรูปถ่ายกันระงม ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ นายเอกรัฐน์ วันศรี อายุ 39 ปี เป็นลูกชายคนโตของ นางนางอรุณรัตน์ วันศรี ที่เสียชีวิตที่สวนยางหลังปั๊มน้ำมันที่ระเบิดตกลงใส่ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ที่ต้องเสียคุณแม่ไป

วันที่เกิดเหตุตนได้คุยกับแม่ว่าวันที่ 5 หมอนัดแม่ตรวจหัวเข่าตนจะลางานเพื่อพาแม่ไปพบหมอที่โรงพยาบาล พอพูดเสร็จแม่ก็ปั่นจักรยานไปหยอดน้ำกรดที่สวนยางตรงจุดเกิดเหตุ แม่ไปไม่ถึงชั่วโมงระเบิดจากกัมพูชาก็มาลงจนทำให้แม่ตนเสียชีวิตคาที่ ตนอยากสะท้อนหรือถามทหารกัมพูชาว่าทำไมถึงต้องมายิงระเบิดใส่แม่ตนใส่ประชาชนจนทำให้ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยต้องมาเสียชีวิต

***สุดท้ายนี้ตนอยากบอกแม่ว่า ตนรักและเป็นห่วงแม่เสมอเพราะที่ผ่านมาร่างกายแม่ก็ไม่ค่อยแข็งแรงขอให้แม่ไปสู่สุคติไม่ต้องเป็นห่วงลูกหลานอยู่ทางบ้าน จะดูแลกันเองตนจะเข้มแข็งและสู้ชีวิตต่อไป หลังจากที่ทำพิธีพระราชทาน

เพลิงศพเสร็จครอบครัวก็จะปรึกษากันกับญาติก่อนว่าจะเอาอัฐิแม่ไปทำพิธีตามประเพณีทางพระพุทธศาสนาแบบไหน แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ความปลอดภัยด้วยเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงอพยพไม่สามารถเข้าไปที่บ้านได้
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประธานคณะกรรมาธิการ การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม เยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จากชายแดนไทย – กัมพูชา

เมื่อวันที่(3ส.ค.68) เวลา10.30น. นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานคณะกรรมาธิการ การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ,

นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ,รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา, สมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา,ศิลปินแห่งชาติ ,ผู้แทนจากมทส.และวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา

เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลค่ายสุรนารีจังหวัดนครราชสีมา

\ โดยมี พ.อ. รัฐสรรค์ ภูวนาถวรกิตติ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี พร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ให้การต้อนรับและ

รายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ปลัดกระทรวงกลาโหม ในพิธีถวายทุนแด่พระภิกษุ สามเณร ผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ประจำปีพ.ศ.2568 (ปีที่ 4 )

บุญของท่านสำเร็จแล้ว❗️มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมบุญกับ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในพิธีถวายทุนแด่พระภิกษุ สามเณร ผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ประจำปีพ.ศ.2568 (ปีที่ 4 )วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2568 เวลา 11.00 น.นางสาว สาธิมา ลาชโรจน์ รองประธานและผอ.ศูนย์อำนวยการ มูลนิธิพุทธภูมิธรรมเป็นตัวแทนทุกท่าน เป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

จากนั้นเวลา 13.30 น.พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประธานในพิธีและคณะบุญ ร่วมถวายทุนแด่พระภิกษุสามเณรสอบได้เปรียญธธรรม 9 ประโยค จำนวน 72 รูปโดยแบ่งเป็นพระภิกษุจำนวน 53 รูป สามเณร 19 รูป ณ ห้องพินิตประชานาถ ชั้น 2 ภายในศาลาว่าการกลาโหมเพื่อเป็นการถวายความอุปถัปถัมภ์พระภิกษุสามเณร

ผู้รับภาระสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้มีขวัญและกำลังใจดำรงมั่นอยู่ในสนสมเพศ และเพื่อเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระราชศรัทธาถวายความอุปถัมภ์พระภิกษุสามเณรที่ ได้พากเพียรเรียนพระบาลีอันเป็นภาษาที่ทรงไว้ ซึ่งหลักคำสอนอันเป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา

มูลนิธิพุทธภูมิธรรมกราบอนุโมทนาสาธุบุญ และนำบุญแด่กัลยาณมิตรทุกท่านที่ร่วมบุญในครั้งนี้เทอญ สาธุๆๆ อนุโมทามิฯ1 สิงหาคม 2568 : 09.30 น. สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โดย พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมฯ/กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ : รับบริจาคอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้ว จาก รร.บรรจงรัตน์ ซึ่งมี นางวาม ดุลยากร ผอ.รร.,คณะผู้บริหาร รร.,นักเรียน,ประธานเครือข่าย รร.บรรจงรัตน์ทุกชั้น ร่วมในพิธีมอบ ณ รร.บรรจงรัตน์ อ.เมือง จ.ลพบุรี

***ขอขอบคุณผู้บริจาค มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ***สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลโรงเรียนบรรจงรัตน์ทหารผ่นศึกบัตรชั้นที่1


1 สิงหาคม 2568 : 13.00 น. สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โดย พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมฯ/กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์,

พล.อ.ทวี ณ ชาตรี รอง หส.ผศ.ล.บ. และคณะ : ลงพื้นที่มอบนมกล่องสำหรับเด็กนักเรียน จำนวน 22 ลัง ให้กับ รร.พลร่มอนุสรณ์มิตรภาพที่ 50 ซึ่งมี คณะครู นักเรียน ร่วมในพิธีรับมอบ ณ ห้องประชุม รร.พลร่มอนุสรณ์มิตรภาพที่ 50 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี

*** ขอขอบคุณ รร.บรรจงรัตน์ : บริจาคนมกล่องสำหรับเด็กนักเรียน จำนวน 22 ลัง มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ***สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรีทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลมุก ร้อง กกต.กลาง – ศูนย์ร้องทุกข์ฯทำเนียบรัฐบาล ปมถูกใส่ร้ายผ่านไลน์ เชื่อทำคะแนนพ่ายโหวตโน

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 นางสาวนันท์นภัส ธนวงศ์ทวีสิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลมุก เทศบาลตำบลมุก อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร หมายเลข 2 ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่สำนักงาน กกต. กรุงเทพมหานคร และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่เธออ้างว่า ถูกใส่ร้ายผ่านแอปพลิเคชันไลน์ก่อนการเลือกตั้ง

ผู้ร้องเรียนระบุว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่ข้อความผ่านไลน์จากบุคคลชื่อ “กัญจนา…” และ “นันทนา…” โดยมีเนื้อหาจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง “กาไม่เลือกใคร” หรือ “โหวตโน” และมีถ้อยคำระบุเจาะจงว่า “อย่าไปกาเบอร์ 2 ได้” พร้อมใส่ร้ายว่าผู้สมัคร “ไม่ใช่คนในพื้นที่”

นางสาวนันท์นภัสระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (5) และยังอ้างว่าบุคคลทั้งสองเป็นบุตรของนายสนั่น ซึ่งมีความเชื่อมโยงเป็นผู้สนับสนุนของนายอนุชา ศรีโยหะ ผู้สมัครหมายเลข 1

สำหรับผลการเลือกตั้งที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ปรากฏว่า นางสาวนันท์นภัสได้รับคะแนนเสียงจำนวน 1,249 คะแนน ขณะที่จำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ผู้ใด หรือ “โหวตโน” มีมากถึง 1,560 คะแนน ซึ่งมากกว่าคะแนนของเธอถึง 311 คะแนน

นางสาวนันท์นภัสจึงร้องเรียนให้ กกต. – หน่วยงานรัฐ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมขอให้ระงับการประกาศผลการเลือกตั้ง และแต่งตั้งตนเองเป็นนายกเทศมนตรี เนื่องจากเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สุจริตเที่ยงธรรม และอาจมีการชี้นำประชาชนด้วยข้อมูลเท็จอีกด้วย

นายกเทศมนตรีตำบลมุก #เทศบาลตำบลมุก #ร้องเรียนเลือกตั้ง #โหวตโน #มุกดาหาร #การเมืองท้องถิ่น #กกต #ข่าวเลือกตั้ง #ข่าวการเมือง ///// ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ ผู้สื่อข่าวสื่อรัฐทีวี ประจำจังหวัดมุกดาหาร

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / การแข่งขันกีฬาฟุตซอล กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร Supper cup ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 50,000 บาท

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันเสาร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ นายจรินทร์ ก๋งม้า ประธานสภาทนายความจังหวัดชุมพร /กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธาน เปิดการแข่งขันกีฬาฟุต ซอล กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร

Supper cup ณ สนามฟุตซอล โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านท่าตะเภา จังหวัดชุมพร แบ่งประเภทการแข่งขันเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 12 ปี และประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 50,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ จาก พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร

พันตำรวจเอก ปัญญา ท้วมศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมือง ชุมพร ได้กำหนดจัดการแข่งขันกีฬาฟุตซอล กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร Supper cup ชิงถ้วย ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร โดยกำหนด

จัดการแข่งขัน ในวันเสาร์ที่ ๒ และ วันอาทิตย์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๘ โดยมีทีมเข้า ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จำนวน ๓๕ ทีม โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนในพี้นที่ใกล้เคียงให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์

รู้จักใช้ เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากอบายมุข และยาเสพติด ๒. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงการออกกำลังกายโดยใช้ กีฬาเป็นสื่อในการ พัฒนาร่างกายและจิตใจ ๓. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้มีความสามัคคี รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มี

น้ำใจนักกีฬา เกิดความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดีภายในหมู่คณะ ๔. เพื่อให้เด็กและเยาวชนห่างไกลยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาล ” No Drugs No Dealers ” รวมพลังยับยั้งปัญหายาเสพติด ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด

นายจรินทร์ ก๋งม้า การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เด็ก – และเยาวชน ได้หันมาเล่นกีฬา ออกกำลังกาย เสริมสร้างสุขภาพ ให้มีร่างกาย พลานามัยที่แข็งแรง สมบูรณ์ รู้จักการ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อลดปัญหาการยุ่งเกี่ยว

กับยาเสพติด ทั้ง ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อสนองตามนโยบาย/ของ รัฐบาลอีกทางหนึ่งในการออกกำลังกาย ขอให้ทุกท่าน ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้

จงมีสุขภาพร่างกาย ที่ สมบูรณ์แข็งแรง มีน้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จริง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยต่อกัน โอกาสนี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย ตลอดจนเดชะบารมีอันแผ่ไพศาล แห่งองค์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ

พระบรมราชินี ได้โปรดดล บันดาลพระราชทานพรให้ท่าน และครอบครัว จงประสพแต่. ความสุขความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจาก โรคาพยาธิ และภยันตรายทั้งปวง มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ตลอดไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานมอบรางวัล “FTI e-Influencer Awards 2025” ยกระดับพลังอินฟลูเอนเซอร์ไทยสู่เวทีสากล

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ร่วมกับสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย จัดงาน “FTI e-Influencer Awards 2025” เพื่อยกย่องอินฟลูเอนเซอร์ไทยทั้งในระดับบุคคลและองค์กร ที่ใช้พลังของสื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมไทยในยุคดิจิทัล

ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพิธีมอบรางวัล อาทิ
• คุณปณิธาน ปวโรฬารวิทยา รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมฯ และรองประธานสถาบันดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมฯ เป็นประธานในพิธี
• คุณนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม
• คุณก่อพงศักดิ์ ตันติสิริรักษ์ นายกสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย
• คุณทรงสิทธา จันทรา อุปนายกสมาคมฯ
• ดร.เมธวิน กิติคุณ กรรมการบริหารสมาคมฯ

ในปีนี้ มีอินฟลูเอนเซอร์และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ได้รับรางวัลรวม 46 ท่าน ครอบคลุม 3 สาขา ได้แก่ สาขาองค์กร สาขาบุคคล และสาขาเยาวชน ซึ่งแต่ละรางวัลล้วนสะท้อนถึงบทบาทที่โดดเด่นในการสร้างแรงบันดาลใจและใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อประโยชน์ของสังคม หนึ่งในไฮไลต์ของงาน คือการบรรยายพิเศษโดย Mr. Vikas R Jain (วิคาส อาร์ เจน) Founder & CEO จาก ACVISS Technologies ประเทศอินเดีย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยและการป้องกันการปลอมแปลงสินค้า

โดยได้นำเสนอแนวทางการใช้ Blockchain และ QR Code ในการยกระดับความน่าเชื่อถือของสินค้าไทย ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท คิกิเมะ และสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมสู่ผู้ประกอบการไทยอย่างยั่งยืนการจัดงาน FTI e-Influencer Awards 2025 ครั้งนี้ นับเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยปลุกพลังอินฟลูเอนเซอร์ไทยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และขยายบทบาทสู่ระดับนานาชาติ พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างวงการครีเอเตอร์และภาคอุตสาหกรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง