สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / วัดหูรอจัดพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานอุทิศบูรพาจารย์ และท่านผู้มีพระคุณพร้อมกับเจริญพระพุทธมนต์มงคลอายุ 51 ปี พระมหาศุภชัย กิตฺติปาโล

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น นายกเลิศเชาวน์ ลือชัย นายก อบต. นาทุ่ง มาเป็นประธาน จัดพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานอุทิศบูรพาจารย์ และท่านผู้มีพระคุณ เจริญพระพุทธมนต์

มงคลอายุ 51 พระมหาศุภชัย กิตฺติปาโล เจ้าคณะตำบลขุนกระทิง เจ้าอาวาสวัดหูรอ ร่วมกับ ดร.อรทัย มีแสง นายกพุทธสมาคมจังหวัดชุมพร และกำนันผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับประชาชน ณ วัดหูรอ ตำบลนาชะอัง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

พระครูบัณฑิตธรรมธาดา รักษาการเจ้าคณะจังหวัดชุมพร เจ้าอาวาสวัดเกาะแก้วดุสิยารังสฤษฐ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับ พระครูถาวรสีลาจาร เจ้าคณะธรรมยุตอำเภอเมืองชุมพร เจ้าอาวาสวัดเขาดิน พร้อมกับ พระอโนมคุณมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดชุมพร เจ้าอาวาสวัด สามแก้ว

พระภิกษุสงฆ์ สามเณร พุทธบริษัท เข้าร่วมกิจกรรม พิธีสวดพระพุทธมนต์ ทอดผ้าบังสุกุล ถวายไทยธรรม รวมถึงพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์ทรง

สมณศักดิ์ 9 รูป นายกเลิศเชาวน์ ลือชัย ประทาน จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล สมาทานศีล อาราธนาศีล สมาทานศีล อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้ำรับพร เสร็จพิธี

พระครูบัณฑิตธรรมธาดา ปาฐกถาธรรม แสดงธรรมบรรยายให้ พุทธบริษัท ที่เข้าร่วมกิจกรรม พิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานอุทิศบูรพาจารย์ และท่านผู้มีพระคุณ เจริญพระพุทธมนต์มงคลอายุ 51

กล่าวถึงความเป็นมาของวัด หูรอ ถึงประวัติของวัดที่มีมาอย่างยาวนาน และชื่นชมเจ้าอาวาสท่านปัจจุบันบรรยากาศภายในวัดวันนี้ มีพ่อแม่พี่น้องได้นำอาหารเข้ามาเลี้ยงเป็นโรงทานจำนวนมาก และมีรสชาติ

อร่อยมากจนหมดแผงตลาดโงทาน ที่อาหารรสเด็จของอาหารก็มี ส้มตำรสเด็จ ขนมจีนน้ำยาที่ขึ้นชื้อ และที่ขาดไม่ได้ก็เป็น โรตีใส่ไข่ใส่กล้วย ทอดมันปลา พร้อมกับเครื่องดื่มจำนวนมาก

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สภ.บ้านดู่ เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2568

โดยการอำนวยการของ
พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านดู่

มอบหมายให้
พ.ต.ท.ชาตรี ชราชิต
รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.บ้านดู่

เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ
เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2568

🗓 วันพุธที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น.
📍 ณ ห้องประชุมนพดล วรอุไร ชั้น 15
อาคารสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ขอขอบคุณภาพ จาก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หญิงดวงดีถูกรางวัล 12 ล้าน หอบเงินแสนมาแก้บนซื้อที่ดินถวายวัดไตรสามัคคี แถมล้วงไหได้เลขเด็ดเพื่อลุ้นอีกงวด

***ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 68 ที่วัดไตรสามัคคี อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ นางทองใบ เมืองแสน อายุ 58 ปี พร้อมครอบครัว ซึ่งเป็นชาวบ้านกะปิ หมู่ 11 ตำบลหนองม้า อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางมาแก้บนด้วยการทำบุญ 9 วัด

และนำเงินหลักแสนมาช่วยซื้อที่ดินจำนวน 5 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา ถวายให้วัดไตรสามัคคี หลังจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ถูกรางวัลที่ 1 รับโชคก้อนโต 12 ล้านบาท นอกจากนี้ นางทองใบยังล้วงไหเสี่ยงโชคต่อหน้าองค์ท้าวเวสสุวรรณ ทั้งร่างยักษ์และร่างมนุษย์ เพื่อหาเลขเด็ดให้ได้ลุ้นในงวดนี้อีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้ได้เลข 068

***นางทองใบ เมืองแสน อายุ 58 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 กันยายน 68 ซึ่งถูกจำนวน 2 ใบ ได้รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท ก่อนหน้าที่จะถูกรางวัล ตนได้เข้ามาทำบุญสังฆทานที่วัดไตรสามัคคีแห่งนี้ และนั่งอธิษฐานใต้ต้นไม้ใหญ่ ขอพรจากท้าวเวสสุวรรณ ให้ตนมีโชคลาภถูกรางวัลใหญ่ หากถูกรางวัลใหญ่ จะถวายเงินเพื่อซื้อที่ดินให้วัด และจะซื้อรถยนต์พาคนมาทำบุญ เนื่องจากตนไม่มีรถของตัวเอง เวลาจะมาวัดทำบุญต้องอาศัยรถคนอื่นอยู่เสมอ

***ดังนั้น หลังจากถูกรางวัลใหญ่ในครั้งนี้ ตนจึงเข้ามาที่วัดไตรสามัคคีเพื่อทำตามสิ่งที่ได้อธิษฐานไว้ โดยนำเงินไปซื้อที่ดินและนำโฉนดถวายให้วัด ตนรู้สึกดีใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ชีวิตลำบากมาก ตนมีอาชีพทำนา ต้องเลี้ยงหลาน 3 คน รายได้ไม่พอใช้ ต้องคอยยืมเงินญาติพี่น้องเพื่อประทังชีวิต รอสิ้นเดือนให้ลูกสาวโอนเงินมาให้ใช้ ส่วนลูกชายก็ตกงาน ทำให้ครอบครัวอยู่กันอย่างยากลำบาก การถูกรางวัล 12 ล้านบาทครั้งนี้ เงินบางส่วนจะนำไปทำบุญ 9 วัด ตามที่ตั้งใจไว้ และจะแบ่งให้ลูก ๆ เพื่อนำไปสร้างอาชีพ ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ใช้เอง และเป็นทุนการศึกษาให้หลาน ๆ ในอนาคต

***ทั้งนี้ วัดไตรสามัคคี เป็นหนึ่งในวัดที่น่าเที่ยวชม และเป็นวัดที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ดินแดนพญานาค โดดเด่นด้วยเกาะนาคเมืองบาดาล ประติมากรรมแห่งศรัทธาที่งดงามวิจิตรตระการตา ราวกับอยู่ในเมืองบาดาล อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีองค์ท้าวเวสสุวรรณร่างยักษ์ใหญ่ และองค์ท้าวเวสสุวรรณในร่างมนุษย์ที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน ภายในพระอุโบสถก็มีความวิจิตรงดงามไม่แพ้กัน เสมือนอยู่ในถ้ำบาดาลของพญานาค ทำให้ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ หลายคนมักมาขอพรตามจุดต่าง ๆ ของวัด และก็มักสมหวังอยู่เสมอ
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นณ์ตวรรณ เบอร์ 2 ภูมิใจไทย กราบพ่อแม่ แถลงชัยชนะ หลังทิ้งห่างคู่แข่งกว่า 8 พันคะแนน

***บรรยากาศที่ทำการพรรคภูมิใจไทย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงเฮฉลองชัย หลังจาก น.ส.จินต์วรรณ ไตรสรณกุล หรือ “อีฟ” ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคภูมิใจไทย กวาดคะแนนนำห่างคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทยอย่างไม่เป็นทางการ

***ผลคะแนนนับไปแล้ว 95% เบื้องต้น น.ส.จินณ์ตวรรณ หมายเลข 2 พรรคภูมิใจไทย ได้ 40,093 คะแนน ขณะที่ น.ส.ภูริกา สมหมาย หรือ “กุ้ง” ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย ได้ 31,349 คะแนน ห่างกัน 8,744 คะแนน

***ทั้งนี้ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย มีแกนนำสำคัญร่วมฉลองชัย ไม่ว่าจะเป็น น.ส.ไตรศุรี ไตรสรณกุล (กวาง) เลขาธิการรัฐมนตรี, นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ, นายธีระ ไตรสรณกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส. และบิดา–มารดาของผู้ชนะเลือกตั้ง โดยในบางช่วงบรรยากาศอบอุ่นถึงขั้นมีการกอดและหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ

***หลังทราบผลไม่เป็นทางการ น.ส.จินณ์ตวรรณ ได้นำพวงมาลัยมากราบพ่อแม่ พร้อมกล่าวขอบคุณพี่น้องชาวศรีสะเกษ เขต 5 ที่มอบความไว้วางใจ “วันนี้เราเห็นชัยชนะของเรา คือความร่วมมือของพี่น้องศรีสะเกษ เขต 5 ที่ส่งสัญญาณอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเมือง”
***น.ส.จินณ์ตวรรณ กล่าวต่อว่า ปัจจัยแห่งชัยชนะเกิด

จากหลายด้าน โดยเฉพาะการบริหารจัดการปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนมองว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลเดิม เพราะพื้นที่ศรีสะเกษเคยเป็นจุดที่ต้องอพยพ แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล อีกทั้งการลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เข้าถึงประชาชนได้จริง “สิ่งที่ต้องทำทันทีคือการเตรียมหาข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดน และแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ จะทำให้ดีที่สุด ให้ประชาชนเห็นความจริงใจ” น.ส.จินณ์ตวรรณ ย้ำ

***ขณะที่บรรยากาศฝั่งพรรคเพื่อไทยเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดย น.ส.ภูริกา ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ แต่แจ้งว่าจะทำการแถลงผ่านเพจพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / ก้องสนั่น! สนามแข่งนกเขาชวารือเสาะเปิดศึกประชันเสียงครั้งใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานฯ ครั้งที่ 10

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2568 ณ สนามสำนักงานเทศบาลตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เทศบาลตำบลรือเสาะ ร่วมกับสมาคมนกเขาชวาเสียงภาคใต้ ชมรมนกเขาชวาเสียงอำเภอรือเสาะ และหน่วยงานราชการ จัดโครงการแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประจำปี 2568 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 10 โดยมีนายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีมอบถ้วยพระราชทาน

บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมจากทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งผู้สนใจจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ เสียงใหญ่ (A), เสียงกลาง (B), เสียงเล็ก (C), เสียงดาวรุ่ง (DR), เสียงเบบี้ 1 และเสียงเบบี้ 2 ซึ่งผู้ชนะเลิศใน 4 ประเภทหลัก (A, B, C, DR) ได้รับถ้วยรางวัลถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติจาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

ผลการแข่งขันปรากฏว่าประเภทเสียงใหญ่ (A) : “แบแซ จาแบปะ” จากจังหวัดปัตตานีประเภทเสียงกลาง (B) : “มัง โสร่ง เขาตูม” จากอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีประเภทเสียงเล็ก (C) : นายอดิศักดิ์ ร้านทองเจริญชัย จังหวัดปัตตานีประเภทเสียงดาวรุ่ง (DR) : “PTB อ.ศาลาใหม่” อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสประเภทเสียงเบบี้ 1 และ 2 : “เถ้าแก่เฮง” ปาลัส จังหวัดปัตตานี

นอกจากการแข่งขันแล้ว ภายในงานยังมีการออกร้านจำหน่ายอาหารนก ยานก กรงนก และอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงนกเขา รวมทั้งกิจกรรมมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 40 ทุน ๆ ละ 500 บาท

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ส่งเสริมการอนุรักษ์ประเพณีการแข่งขันนกเขาชวาเสียง อันเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น ตลอดจนสนับสนุนผู้ประกอบการและการท่องเที่ยวในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนในประเทศและประเทศใกล้เคียงที่ให้ความสนใจเข้าร่วม

นายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล และชื่นชมคณะผู้จัดงานที่สามารถจัดการแข่งขันได้อย่างเป็นมาตรฐาน ครอบคลุมทั้ง 6 ประเภท พร้อมทั้งย้ำว่าการแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รับทุนการศึกษา ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสังคม
////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หนุ่มใหญ่มุกดาหาร ย่องฉก iPhone ร้านขายของเล่นกลางตลาดอินโดจีน ตร. ตามรวบคาบ้าน ตรวจฉี่เจอสารยาบ้า

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร และ พ.ต.ท.ฉัตรมงคล บุญกลาง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เจษฎากร ไชยศรีหา สว.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร พร้อมชุดสืบสวน เข้าจับกุม นายคทาวุธ วิเศษสุนทร อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุเข้าไปลักโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 8 ที่พนักงานวางไว้บนโต๊ะ ภายในร้านอรุณทอยส์ จำหน่ายของเล่นเด็ก ถนนพิทักษ์พนมเขต บริเวณตลาดอินโดจีน เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ก่อนนำของกลางกลับมาที่บ้านพัก

เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 16/4 ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร พร้อมของกลาง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือไอโฟน 8 จำนวน 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เทน่า สีดำ หมายเลขทะเบียน กงย 711 มุกดาหาร กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ และหมวกนิรภัยสีดำ 1 ใบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะ ปรากฏผลตรวจจากโรงพยาบาลมุกดาหารเป็นบวก พบสารเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่าลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จากนั้นได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวมุกดาหาร #ลักทรัพย์ #เสพยา #ตำรวจมุกดาหาร #ตลาดอินโดจีน #iPhoneถูกขโมย #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดหีบเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ คนทยอยมาใช้สิทธิกันต่อเนื่อง ชาวบ้าน เผยอยากได้ สส. ที่ช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนอย่างจริงจัง

***ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหลังเปิดหีบเลือกตั้งซ่อม สส. ศรีสะเกษ เขต 5 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 68 พี่น้องประชาชนต่างออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันคึกคัดตั้งแต่เช้า โดยผู้สื่อข่าวได้ลงสังเกตการในเขตเทศบาลตำบลขุนหาญ ตำบลสิ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 5 ตำบลสิ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่มี นส.ภูริกา สมหมาย (กุ้ง) ผู้สมัคร สส. เขต 5 หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย ลูกสาวของอดีต สส.อมรเทพ ที่เสียงลงกะทันหัน มาเลือกตั้งที่หน่วยนี้ นอกจากนี้ยังมีประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาใช้สิทธิเลือกตั้งกัน

***โดยเวลา 08.49 นส. ภูริกา สมหมาย หรือ กุ้ง ผู้สมัคร สส. เขต 5 หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย ก็ควงแขนคุณแม่ มาเข้าคูหาใช้สิทธิอเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากใช้สิทธิเลือกตั้งเสร็จ นส.ภูริกา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนเข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกับคุณแม่ ตอนนี้ตนรู้สึกปลอดโปร่งและอากาศแจ่มใสมาก ก่อนที่จะออกมาจากบ้านตนได้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอพรจากคุณพ่ออมรเทพ สมหมายขอให้ตนได้รับชัยชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ และตนก็มั่นใจว่าจะเอาชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้

***ด้าน นางมาลัย ศรีมงคล อายุ 52 ปี แม่ค้าในตลาดสด เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ตนอยากได้ สส. ที่จะเข้าไปเป็นปากเป็นเสียง อยากได้ สส. ที่เก่งมีความสามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงภัยสงครามตนอยากให้มันเคลียปัญหาให้เสร็จๆ และอยากให้ สส. เข้าไปช่วยเรื่องเศรษฐกิจเรื่องราคาข้าวราคามัน และดูเรื่องราคาปุ๋ยที่แพงเกิน ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพปลูกพืชผักสวนครัวจำหน่ายก็จะมีกำไรพอได้เลี้ยงชีพบ้าง ส่วยเรื่องชายแดนตอนนี้ตนยังมีความกังวลอยู่กลัวว่าจะเกิดเหตุยิงปะทะกันขึ้นมาอีกเห็นว่าวันที่ 1 ตุลาคม ให้เตรียมอพยพ ต้นอยากให้รีบช่วยแก้ปัญหาให้จบๆ

***ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนบรรยากาศที่หน่วยเลือกตั้งในตำบลอื่นบนว่า บรรยากาศช่วงเช้าส่วนมากจะมีผู้สูงอายุเข้ามาใช้สิทธิก่อนเป็นส่วนมาก ทั้งนี้การเลือกตั้งซ่อน สส. เขต 5 ในครั้งมีอย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยเห็นกัน คือ ผู้สมัคร สส. เขต 5 ของพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 2 คือ นส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล (อีฟ) ไม่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตที่ตัวเองลงสมัคร เนื่องจากไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมาที่เขต 5 แต่ก็ไม่ได้ขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร สส. แต่อย่างใด ทำให้การลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้จะไม่มีภาพของ นส.จินณ์ตวรรณ เข้าคูหากาเลือกตัวเอง ทั้งนี้การเลือกตั้งซ่อม สส. ศรีสะเกษ เขต 5 มีผู้สมัครลงชิงชัยเพียง 2 คน เป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และจากพรรคภูมิใจไทย โดยมีเขตเลือกตั้งอยู่ 2 อำเภอ คือ อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 236 หน่วย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 127,143 คน

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /น่านเปิดฤดูท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาว เส้นทาง “หอมกลิ่นโรบัสต้า เที่ยวบ่อว้าสุขใจ ไหว้ 2 พระธาตุ”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดน่าน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวน่าน ชมรมมัคคุเทศก์น่าน และชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแม่จริม จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip โดยใช้ชื่อเส้นทาง “หอมกลิ่นโรบัสต้า เที่ยวบ่อว้าสุขใจ ไหว้ 2 พระธาตุ” ในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 เพื่อเปิดฤดูการท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาว และเตรียมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง เส้นทางดังกล่าว พานักท่องเที่ยวและสื่อมวลชนรวม 70 คน เดินทางสำรวจและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่รองที่มีศักยภาพของ น่านใต้ คืออำเภอแม่จริม-อำเภอเวียงสา

เปิดประตูสู่เสน่ห์ “น่านใต้” กับเส้นทางไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
กิจกรรม One Day Trip นี้จะพาไปสัมผัสเสน่ห์ที่หลากหลายของน่านใต้ โดยเริ่มต้นที่อำเภอแม่จริม ด้วยการสักการะ วัดพระธาตุยอยหงส์ พระธาตุศักดิ์สิทธิ์อายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งปรากฏอยู่ในคำขวัญของอำเภอ จากนั้นไปสัมผัสประสบการณ์ความหอมกรุ่นที่ บ่อว้าคอฟฟี่ เพื่อเรียนรู้กระบวนการ Process เมล็ดกาแฟโรบัสต้า และลิ้มลองรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ของกาแฟโรบัสต้าแม่จริม พร้อมทั้งเยี่ยมชม วิสาหกิจชุมชน บานาน่า สแน็คส์ การแปรรูปกล้วย ในพื้นที่เป็นผลิตภัณฑ์กล้วยฉาบที่มีรสชาติโดดเด่นและป็นเอกลักษณ์

ช่วงบ่าย คณะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านน้ำมวบ อำเภอเวียงสา เพื่อสักการะ วัดพระธาตุแดนทอง ซึ่งตั้งอยู่ติดทิวเขาหลวงพระบาง และนมัสการพระเจ้าทันใจองค์ขาว ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในจังหวัดน่าน ต่อด้วยการสักการะ ศาลเจ้าพ่อช้างงาแดง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านน้ำมวบ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2170 เพื่อความเป็น สิริมงคล นอกจากนี้ยังจะพาไปชม รอยพระบาทแรกแห่งแผ่นดินน่าน ณ อำเภอเวียงสา

เพื่อระลึกถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เมื่อปี พ.ศ. 2501 และสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ อำเภอเมืองน่าน จะแวะสักการะ วัดบุญยืน พระอารามหลวง วัดเก่าแก่ที่ คู่บ้านคู่เมืองเวียงสา มาอย่างยาวนาน กลับถึงบริเวณข่วงเมืองน่าน นักท่องเที่ยวสามารถแวะ ชม ชิม ช้อป ตามอัธยาศัยที่ ถนนคนเดินข่วงเมืองน่าน เพื่อปิดท้ายทริปอย่างสมบูรณ์แบบ

น่านพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่ช่วงไฮซีซั่น ในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ จังหวัดน่านมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการต้อนรับนักท่องเที่ย ทั้งที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวกลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว โดยมีเที่ยวบินขาเข้าถึง 2 สายการบิน 4 เที่ยวบินต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสัมผัสเสน่ห์ได้ทั้ง น่านเหนือ

ที่ธรรมชาติเขียวขจีสวยงามอากาศเย็นสบาย เช่น สกาด สะปัน มณีพฤกษ์ สันเจริญ สวนยาหลวง หรือ น่านใต้ ที่โดดเด่นด้วยวัฒนธรรม วิถีชีวิต และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติขุนสถาน และวัดถ้ำเชตวัน รวมถึงกิจกรรม Adventure สุดเร้าใจ ไม่ว่าจะเป็น ล่องแก่งน้ำว้า ที่อำเภอแม่จริม หรือ พาย SUB Board ที่อำเภอเวียงสา

นอกจากนี้ จังหวัดน่าน นำโดย นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ยังให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยได้จัดประชุมถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน ทั้งการยกระดับมาตรฐานที่พักและร้านอาหาร การจัดอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยว การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

รวมถึงการเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับคุณภาพธุรกิจให้ได้มาตรฐาน พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังมาถึง ททท. สำนักงานน่าน ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาเยือนน่านในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดนี้ เพื่อสัมผัสเสน่ห์ที่หลากหลายอากาศเย็นสบายและความพร้อมในการต้อนรับสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมข่าวสมาคม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เชฟบุญมีจากแบรนด์มาสเตอร์เค้กมอบตำราสูตรลับให้ผู้ต้องขังหญิง

เรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม เชิญเชฟระดับประเทศคือเชฟ บุญมี จากแบรนด์ มาสเตอร์ เค้กสัญจรทั่วไทย มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ แบบหมดเปลือกกับผู้ต้องขังหญิงกว่า40คน ได้นำสูตรลับของเชฟระดับประเทศไปถ่ายทอดสร้างอาชีพหลังพ้นโทษ

นายนพรัตน์ หมอกมืด ตำแหน่งเจ้าพนักงานอบรมและฝึกวิชาชีพอาวุโส เรือนจำกลางจังหหวัดนครปฐม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเรือนจำมีนโยบายที่จะฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังทั้งชายและหญิง เพื่อเมื่อเวลาพ้นโทษออกเรือนจำไปแล้วจะได้มีวิชานำไปประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้ ทั้งนี้ต้องรับนโยบายมาจากผู้บัญชาการเรือนจำที่รับมาจากกรมราชทัณน์อีก

ที่หนึ่งที่ต้องการจะให้ผู้ต้องขังได้ฝึกอาชีพหลังพ้นโทษ และเน้นไปที่การฝึกอาชีพได้จริงนำไปประกอบอาชีพได้จริง และการฝึกอาชีพด้านการทำเบเกอร์รี่ ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทางตลาดมีความต้องการมาก วันนี้ตนจึงได้เรียนเชิญวิทยากรที่โด่งดังระดับประเทศอยู่ในขณะนี้ คือเชฟ บุญมี เจ้าของแบรนด์ มาสเตอร์ เค้กสัญจร ทั่วไทยมาเป็นวิทยากรฝึกทำอาชีพ เบเกอร์รี่ ในวันนี้ที่เรือนจำจังหวัดนครปฐม ในเรือนจำนักโทษหญิง

นายนพรัตน์เผยต่อไปอีกว่าที่เรือนจำจังหวัดนครปฐมแห่งนี้ เรามักจะฝึกอาชีพที่หลากหลาย อาทิ การฝึกแกะสลักช่างไม้ การฝึกอาชีพทอผ้า การฝึกอาชีพด้านการซักรีดที่รับจากบุคคลภายนอกเข้ามาซักและบริการ การฝึกการปรุงอาหารและเบเกอร์รี่ นอกจากนี้เรายังมีครัวเพื่อยกระดับมาตรฐาน และได้ระดับมาตรฐาน (SAN)

พร้อมจัดเบรค จัดงานเลี้ยงต่างๆ และฝีมือของผู้ต้องขังนับว่าไม่แพ้ภัตตาคารข้างนอกเลย นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟอยู่3ที่ จุดที่1 บริการญาตผู้มาเยี่ยม จุดที่2 เป็นร้านคอฟฟี่ที่อยู่เรือนจำชายและ จุดที่3 อยู่ที่แดน7ของผู้ต้องขังหญิง นอกจากนี้ทางเรือนจำยังมีศูนย์แคร์เพื่อคอยติดตามผู้ที่ฝึกอาชีพออกไปแล้วสามารถ ดูแลตนเองได้หรือไม่ คอยให้คำแนะนำอยู๋ตลอดเวลาเพื่อให้เขาสามารถเลี้ยงชีพตนเองและมีชีวิตที่ดีหลังพ้นโทษไปแล้ว นายนพรัตน์กล่าว

ทางด้านเชพบุญมี อาสาสร เจ้าของเค้กแบรนด์ดังมาสเตอร์เค้กสัญจร กล่าวว่าตนยินดีและตอบรับอย่างเร็วมากเนื่องจากอยากนำความรู้ที่ตนได้เรียนไปถ่ายทอดให้กับน้องๆผู้ต้องขัง ได้นำไปประกอบอาชีพหากพ้นโทษออกไปอยู่ภายนอกแล้วแล้วตนอยากถ่ายทอดวิชาความรู้ที่ตนเองสั่งสมมาเป็นบุญเป็นกุศลให้พวกเขาเหล่านี้ได้นำไปประกอบวิชาชีพในชีวิตต่อไป แล้ววันนี้

ตนก็ได้ นำสูตรลับความอร่อยของตนเองนำมามอบให้กับเรือนจำนครปฐม แห่งนี้แบบหมดเปลือกพร้อมสอนสูตรตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบกระบวนการทีเดียว แบบไม่มีกั๊กเอาไว้ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมแข่งขันประสบการณ์ความรู้ที่เรามีให้กับน้องๆผู้ต้องขังในวันนี้

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /กฟผ. เปิดสถานีชาร์จไฟฟ้า รักษ์โลกต้นแบบแห่งแรกณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก ประจวบฯ

วันที่ 26 กันยายน 2568 นายเมธาวัจน์ พงศ์รดาภิรมย์ รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (รวธ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีชาร์จ EleX by EGAT ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก Green Charging Station จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้ร่วมกับพันธมิตรสร้างเป็นสถานีชาร์จต้นแบบจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้รับเกียรติจาก นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย Mr.Goh Chee Kiong ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

บริษัท ชาร์จพลัส อิเล็กทริค (ประเทศไทย) จำกัด (Charge+) นายนพดล สรวงประเสริฐ พลังงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คุณณิศรา ธัมมะปาละ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการธุรกิจนวัตกรรมพลังงาน กฟผ.นายภูศเดช ภัคดีพันธ์ ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอทับสะแก นายสายชล ชนะภัย รองนายกอบต.นาหูกวาง นายภัทรดนัย สมศรี รองประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก นางพิมลรรณ วงศ์ทิม ประธานชมรมครูอำเภอทับสะแก นายมหยศ โกศิน หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทับสะแก นายพนม ปัถวี หัวหน้าแผนกโรงไฟฟ้าทับสะแก และหน่วยงานพันธมิตรเข้าร่วมพิธี

สถานีชาร์จแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กฟผ. และ Charge+ โดยติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จำนวน 2 เครื่อง ขนาด 180kW และ 120kW รองรับการชาร์จพร้อมกันได้ถึง 4 คัน ผู้ใช้สามารถใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน EleXA ทั้งยังเตรียมพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Charge Plus พร้อมระบบ Roaming รองรับผู้ใช้งานจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ช่วยให้การใช้งานข้ามพรมแดนหรือข้ามเครือข่ายเป็นไปอย่างไร้รอยต่อการออกแบบสถานีชาร์จยึดแนวคิด “Enlighted EcoCharge” ที่มุ่งเน้นให้เป็นมากกว่าจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้และต้นแบบด้านพลังงานสะอาด โดยใช้วัสดุที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อาทิ


พื้นคอนกรีต EGAT AshNova ผลิตจากเถ้าลอย (Fly Ash) ซึ่งเป็นวัตถุพลอยได้จากกระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ช่วยลดการใช้ซีเมนต์ซึ่งเป็นทรัพยากรจากธรรมชาติและสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตซีเมนต์ได้สูงถึง 58%
หลังคา Polycarbonate ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล โดย บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด
สีโพลียูรีเทน ซึ่งมีค่า VOC (Volatile Organic Compounds หรือ สารระเหยอินทรีย์) ต่ำ จากบริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อลดการฟุ้งกระจายของสารระเหยอินทรีย์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

สถานีชาร์จ EleX by EGAT แห่งนี้จึงเป็นการผสานพลังงานสะอาด นวัตกรรมวัสดุรีไซเคิล และการออกแบบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม สะท้อนเจตนารมณ์ของ กฟผ. ในการขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดและการพัฒนาที่ยั่งยืน

////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649645443

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง