สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จเรตำรวจแห่งชาติประชุมผู้แทน 10 ประเทศ และ UNODC จับมือร่วมปฏิบัติการในวอร์รูม ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ

วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (จตช./ผบ.ศกค.) /International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) ประชุมหารือเตรียมความพร้อมในการดำเนินการร่วมกันในวอร์รูม IAC

โดยมี พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว/รอง ผบ.เหตุการณ์ (2) ร่วมกับผู้แทนทูตนานาประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ได้แก่ ผู้แทนทูตจากประเทศ บังกลาเทศ ญี่ปุ่น ลาว เมียนมา แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เวียดนาม สิงคโปร์ และ UNODC ณ ห้องประชุมวอร์รูม ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์นานาชาติ

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลสั่งการให้เดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เห็นผลภายใน 3 เดือน โดยให้ร่วมมือกับนานาชาติในการปฏิบัติการ จึงเป็นที่มาของการตั้งวอร์รูมศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (IAC) ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีประเทศต่างๆ รวม 10 ประเทศ รวมทั้ง UNODC

ในการทำงานร่วมกัน เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างปัญหาให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งการทำงานร่วมกันของนานาประเทศในวอร์รูม IAC นี้ จะเป็นประโยชน์อย่างสูงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศต่างๆ โดยวอร์รูมนี้จะเป็นการยกระดับปฏิบัติการในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในทุกมิติ

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.)/รอง ผบ.เหตุการณ์ (1) ประชุมเตรียมความพร้อมผู้ประสานงานวอร์รูม IAC โดยมีผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมปฏิบัติการในวอร์รูมร่วมประชุม อาทิ ผู้แทน บช.สอท. , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , ตำรวจภูธรภาค 2 , ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ , กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , ธนาคารแห่งประเทศไทย , สำนักงาน กสทช. , สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ , สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ , สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบุคคล และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

โดยการปฏิบัติการของวอร์รูม IAC จะเป็นการยกระดับการปฏิบัติการให้เข้มข้นและเป็นเอกภาพมากขึ้น ในการเร่งรัดข้อมูลเพื่อวิเคราะห์เส้นทางการเงินและอายัดบัญชีธนาคาร/Wallet/Cryto Wallet ทันที , เร่งรัดข้อมูลเพื่อวิเคราะห์จุด IP หาพิกัดที่ใช้ในการกระทำความผิด ขอข้อมูลการจดทะเบียนทั้งผู้ให้บริการและผู้ขอรับบริการ รวมทั้งระงับการใช้หมายเลขโทรศัพท์ หรือจุดที่จ่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ต , วิเคราะห์แผนประทุษกรรม วิเคราะห์ความเชื่อมโยงขบวนการ และนำเสนอแนวทางการป้องกันปราบปราม นอกจากนี้ ยังจะสามารถปิดเพจ ปิดแพลตฟอร์มทันทีเมื่อรับแจ้งคดี และป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งจะทำให้การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลภายในระยะเวลาที่กำหนดได้

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานแถลงข่าว วิ่ง ปั่นรวมใจ อุทยานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดสัมปัตตะวนาราม จ.นครราชสีมา

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2568 นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าววิ่ง ปั่นรวมใจ อุทยานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วาไรตี้ฮอลล์ หน้า MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช กิจกรรมเดินวิ่งปั่น ณ อุทยานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดสัมปัตตะวนาราม จ.นครราชสีมาจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2568

โดยโครงการดังกล่าว เป็นการจัดกิจกรรม วิ่ง ปั่นรวมใจ เพื่อสร้างอุทยานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดสัมปัตตะวนาราม ตำบลโคกกรวด อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพลเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการโครงการ ฯ เพื่อส่งเสริมให้วัดสัมปัตตะวนาราม จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่รู้จักและส่งเสริมการออกกำลังกาย ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้นักกีฬาจักรยาน ในจังหวัดนครราชสีมาได้มีพื้นที่ในการแข่งขัน และเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่า ของการปฏิบัติธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
การชิงโล่รางวัลเกียรติยศจากพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรีการเข้าร่วมกิจกรรม จะแบ่งออกเป็น การเดิน วิ่ง และการปั่นจักรยานโดย แบ่ง
กิจกรรมดังต่อไปนี้

  1. ประเภทถนนระยะทาง44 กิโลเมตร โล่รางวัลและเงินรางวัลแบ่งเป็น 3 รุ่น รุ่นละ 5 รางวัล เป็นเงินรางวัล
    1,000 / 900 / 800 /700 / 600 บาทตามลำดับรวม 15 รางวัล
    1.1 เยาวชนชายไม่เกิน 17 ปี
    1.2 ประชาชนชาย ( OPEN )
    1.3 ประชาชนหญิง ( OPEN )
  2. ประเภทท่องเที่ยว ระยะทาง 14 กิโลเมตร ( ไม่มีการแข่งขัน )
  3. ประเกทระยะสั้น 1 กิโลเมตร โล่รางวัลและเงินรางวัลแบ่งเป็น 3 รุ่น รุ่นละ 3 รางวัล เป็นเงินรางวัล
    1,000 / 900 / 800 บาทตามลำดับ
    3.1 เยาวชนชายไม่เกิน 17 ปี
    3.2 ประชาชนชาย ( OPEN )
    3.3 ประชาชนหญิง ( OPEN )
  4. วิ่งเพื่อสุขภาพระยะทาง 5 กิโลเมตร (ไม่มีการแข่งขัน) รางวัลพิเศษส่งเสริมการร่วมกิจกรรมเพื่อสุขภาพ
  5. โล่รางวัลประกวดการแต่งกายแฟนซี จำนวน 10 รางวัล
  6. โล่รางวัลประเภททีม ผู้ที่เข้าร่วมวิ่งตั้งแต่ 26 ท่านขึ้นไป นักกีฬาร่วมเป็นหมู่คณะร่วมทุกประเภท (วิ่งปั่น) จะได้รับโล่รางวัลประเภททีม ทุกทีมไม่จำกัดทีม
    ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านที่สมัครแบ่งตามประเภทดังต่อไปนี้

ปั่นระยะทาง 44 กิโลเมตร และ 14 กิโลเมตร ค่าสมัคร 500 บาท/ท่าน
สิ่งที่ได้รับ เสื้อคอโปโล + เหรียญที่ระลึก + อาหาร + อุปกรณ์การแข่งขัน (BIB)วิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 399/ท่าน

สิ่งที่ได้รับ เสื้อคอกลม + เหรือยู่ที่ระลึก + อาหาร + อุปกรณ์การแข่งขัน (BIB)ประเภท VIP ( สามารถร่วมกิจกรรมได้ทุกประเภท ( วิ่ง-ปั่น ทุกระยะ ) ค่าสมัคร 1,000 บาท/ท่านสิ่งที่ได้รับ เสื้อไปโล 1 ตัว + รูปหล่อเหมือนหลวงปู่มั่น หน้าตัก 5 นิ้วเนื้อนิล + อาหาร + อุปกรณ์การแข่งขัน ( BIB )ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่เว็บไซด์ https://race.thai.run/runbike

ที่สโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณกฤตชัย โทร 086-7717779คุณลิขิต โทร 092-966-2291คุณวรินทร โทร 095-6145492สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมาติดต่อร้านแชมป์สปอร์ต โทร 0444-267411และติดตามข่าวสารได้ที่เพจ “อุทยานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดสัมปัตตะวนาราม นครราชสีมา” กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีปล่อยแถวปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด“N0 Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร
อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรให้เกียรติมาเป็นประธาน

พิธีปล่อยแถวปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติดร่วมกับ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดชุมพร ปลัดจังหวัดชุมพร นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดชุมพร และหัวหน้าส่วนราชการ

นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ด้วยปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลตั้งใจขจัดให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทย และที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้ดำเนินงานอย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่อง ด้วยมาตรการ และปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งการกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งจะมีการกำกับ ติดตาม

และประเมินผลตัวชี้วัดอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนปฏิบัติการ Seal Stop Safe ผนึกกำลัง ในพื้นที่จังหวัดและอำเภอชายแดน อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานจะต้องขยายผลให้มากยิ่งขึ้น รัฐบาลต้องการ ให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างเข้มข้น และครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือของข้าราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานส่งผลดีกับประชาชน และสามารถขจัดปัญหายาเสพติดได้อย่างแท้จริง

วันนี้ รัฐบาลได้ผลักดันวาระการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ให้เป็นวาระของจังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน/ชุมชน ทั่วประเทศ ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัด ว่า ภายใน 3 เดือนนี้ หมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีปัญหายาเสพติด จะต้องเริ่มแก้ไขปัญหา วางกลไกของชุมชน และประกาศตนเป็น “หมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด”

ที่จะต้องไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้เสพอีกต่อไป จึงต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของจังหวัด และฝ่ายปกครอง นำโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำโดย ท่านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และกลไกฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ครบถ้วนทุกมิติในชุมชน ตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม

จังหวัดชุมพร จะขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข ตามข้อสั่งการและนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยจึงกำหนดให้มีการปล่อยแถว เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers”

ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ปฏิบัติการ Re X-ray อย่างเข้มข้นในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน โดยมีการบูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย ในการปฏิบัติภารกิจกวาดล้างยาเสพติด อย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงขอเรียนเชิญท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้มอบนโยบายและสั่งการ พร้อมปล่อยแถวปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ต่อไป ขอเรียนเชิญครับ

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ตามที่ ได้ไปรับมอบนโยบายจาก ท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการกวาดล้าง ยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด  เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร นั้น เนื่องจากปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลตั้งใจ ขจัดให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทย และที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่อง 

ด้วยมาตรการและปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งการกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งมีการกำกับ ติดตาม และประเมินผลตัวชี้วัดอย่างต่อเนื่อง การดำเนินงานจะต้องขยายผลให้มากยิ่งขึ้น รัฐบาลต้องการให้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างเข้มข้น และครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร และในภูมิภาค ทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอ โดยจะต้องอาศัย ความร่วมมือของข้าราชการทุกหน่วย ที่เกี่ยวข้อง จึงจะสามารถขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปได้อย่างแท้จริง ในวันนี้ รัฐบาลจะผลักดันวาระการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ให้เป็นวาระของจังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน/ชุมชน ทั่วประเทศ ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด“No Drugs No Dealers”ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดว่า ภายใน 3 เดือนนี้ หมู่บ้าน ชุมชน ที่มีปัญหายาเสพติด จะต้องเริ่มแก้ไขปัญหา วางกลไกของชุมชน และประกาศตนเป็น “หมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด” ที่จะต้องไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้เสพอีกต่อไป

จึงจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานอื่น ๆ โดยใช้กลไกของฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผนึกกำลังร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบถ้วนทุกมิตินับตั้งแต่การป้องกันไม่ให้ยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ การป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน ตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม โดยมีการตั้งด่านชุมชน ตรวจค้น จับกุม บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯแพร่ “ขอบคุณ” หน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจแก้ไขสถานการณ์ในภาวะวิกฤตน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนชาวแพร่อย่างเต็มกำลังความสามารถ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดแพร่ ร่วมเชิญสิ่งของพระราชทานใส่ในถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี

ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้แทนมอบให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตจังหวัดแพร่ ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ป่าแมต อ.เมืองแพร่ วันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.68) เวลา 08.30 น.

นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวในนาม ผู้บัญชาการณ์เหตุ การณ์ กรณีเกิดอุทกภัยอันเนื่องมาจากพายุโซนร้อน “วิภา” ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดแพร่ มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวนหนึ่ง

แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน อาสาสมัครกู้ภัย ทหาร ตำรวจ พลเรือน พระภิกษุสงฆ์ และประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อทรัพย์สิน บ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในจำนวนไม่มากนัก จึงใคร่ขอ
กราบขอบพระคุณทุกท่านทุกหน่วยงานมา ณ โอกาสนี้

ด้วยจิตคารวะ

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

เชียงใหม่ ศปอส.ภาค 5 บุกจับแก๊งคอลเซนเตอร์จีนราย ใหญ่คาบ้านหรู 40 ล้าน ที่แม่ริม

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ,พลตำรวจตรีธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจค้นบ้านหรูในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลห้วยทราย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตามหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่

บ้านหลังดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มชาวจีน 18 คน เปิดเป็นคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงลูกค้าชาวจีนผ่านแอปพลิเคชันและเพจออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม ซึ่งภายในบ้านพบกำลังนั่งทำงานผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ

ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจู่โจมตรวจค้น ผู้ต้องหาทั้งหมดพยายามหลบหนี บางรายกระโดดลงมาจากชั้นสองของบ้านที่มีความสูงกว่า 8 เมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 8 คน หนึ่งในนั้นขาหัก ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการหกล้มและบาดแผลถลอก จากการตรวจค้น พบคอมพิวเตอร์กว่า 20 เครื่อง โทรศัพท์มือถือมากกว่า 100 เครื่อง ซิมการ์ดประเทศจีน ซึ่งถูกใช้ในการติดต่อกับเหยื่อชาวจีนกว่า 10 ราย

พลตำรวจตรีธวัชชัย เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวจีน เดินทางเข้าประเทศไทยและเช่าบ้านหลังนี้มาแล้วประมาณ 3 เดือน โดยมีหัวหน้าชาวจีนเป็นผู้จัดการเช่าให้กลุ่มลูกน้องที่ทำงานภายในบ้าน พฤติกรรมของกลุ่มนี้คือทำงานตลอด 24 ชั่วโมง กินอยู่หลับนอนภายในบ้านหรูแห่งนี้ทั้งหมด

เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาได้รับค่าจ้างหัวละประมาณ 10,000 ถึง 20,000 หยวน หรือราว 50,000 ถึง 100,000 บาทต่อเดือน โดยภารกิจหลักคือการหลอกลวงชาวจีนในรูปแบบต่างๆ ทั้งการหลอกขายสินค้าออนไลน์ หลอกให้โอนเงินเพื่อแก้ปัญหาสายการบิน ปัญหาธนาคาร รวมถึงการข่มขู่เรียกเงินในลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้ว่าจ้างตัวจริง รวมถึงตรวจสอบเครือข่ายที่อาจโยงใยข้ามชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีความเชื่อมโยงกับขบวนการอาชญากรรมทางไซเบอร์รายใหญ่จากต่างประเทศด้วย..

สมจิตร แสงบันลังค์

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พระราชทานเพลิงศพ “จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา” อย่างสมเกียรติ ครอบครัว-ประชาชนหลั่งน้ำตาร่วมอาลัยแน่นวัด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2567 ณ วัดเจริญธรรมาราม ตำบลบ้านซ่ง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พลตรี ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เดินทางมาเป็นประธาน

ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 106 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

โดยในพิธีพระราชทานเพลิงศพมี พลตำรวจตรีไพโรจน์ ไทยพุทรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร นางอัญชลี กัลมาพิจิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอคำชะอี คณะผู้บังคับบัญชากองทัพ

ภาคที่ 2 และหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก , หัวหน้าส่วนราชการ นายเฉลิมชัย บุสภา บิดาของผู้เสียชีวิต นางวิไล บุสภา มารดา นางสาวรจรินทร์ สิงห์ศร ภรรยา อาสาสมัครทหารพราน ทรงวุฒิ บุสภา น้องชาย ตลอดจนคณะญาติ และประชาชนในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหารได้เข้าร่วมพิธีเพื่อแสดงความไว้อาลัย

พิธีพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้กับ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา โดยเมื่อขบวนอัญเชิญกล่องเพลิงพระราชทานมาถึงบริเวณประกอบพิธี ผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ เพื่อนทหารตลอดจนครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ตั้งแถวรอรับ

เจ้าหน้าที่ได้มีการอัญเชิญกล่องเพลิงพระราชทานขึ้นวางประจำจุดเตรียมประกอบพิธี จากนั้นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล กองเกียรติยศเป่าแตรนอน ผู้ร่วมพิธีได้ขึ้นวางดอกไม้จันทน์

ร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แก่วีรชนผู้เสียสละ สร้างความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อผู้กล้าในวาระสุดท้ายของชีวิต และครอบครัวบุสภา ญาติผู้เสียชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯโคราช เปิดจวนผู้ว่าฯ เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพชายแดน

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดจวนผู้ว่าฯ เป็นศูนย์ช่วยเหลือชั่วคราว รองรับผู้อพยพจากเหตุสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

จวนผู้ว่าฯ แห่งนี้เปิดให้ประชาชนจากหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเข้าพักชั่วคราว โดยมีการจัดเตรียมที่พัก อาหาร และน้ำดื่มอย่างเพียงพอ พร้อมทั้งเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมประชาสัมพันธ์สถานการณ์ เพื่อส่งต่อกำลังใจไปยังผู้ประสบภัยและมีการรับบริจาคทั้งอาหารสดและอาหารแห้งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย กัมพูชา ณ อำเภอเสิงสาง

นอกจากนี้ โรงแรมในพื้นที่ 5 แห่ง ได้ร่วมสนับสนุนเปิดห้องพักรวมกว่า 200 ห้อง เพื่อรองรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ศูนย์พักพิงในอำเภอเสิงสางมีผู้อพยพเข้าพักแล้วกว่า 4,000 คนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมารับมอบสิ่งของจากภาคประชาชนและหน่วยงานต่างๆที่นำมาบริจาค เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา

สามารถบริจาคได้ที่ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ทุกวัน ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. จนกว่าจะประกาศปิดรับการบริจาค สิ่งของที่รับบริจาคอาทิ น้ำดื่ม เสื่อปูพื้น ผ้าห่ม มุ้ง ยากันยุง แปรงสีพัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพูสระผม ขันอาบน้ำ ผ้าอ้อม ผ้าอนามัย ปลั๊กไฟ ข้าวสาร อาหารแห้ง.จังหวัดนครราชสีมายังคงประสานทุกภาคส่วน เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สสอ.สวรรคโลกพร้อมทีมงานลงช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติ

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่30กค.2568
นายรัชกร คำถาเครือ สาธารณสุขอำเภอสวรรคโลกพร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ อสม.รพ.สต.นาทุ่ง นำเงินช่วยเหลือ อสม.ตำบลนาทุ่ง ที่ได้ความเสียหายจากบ้านไฟไหม้พร้อม

เวลา 10.40น.นายรัชกร คำถาเครือสาธารณสุขอำเภอสวรรคโลกพร้อมด้วย ผอ.รพ.สต.บ้านไผ่ตะล่อม และคณะจนท. มอบเงินช่วยเหลือ อสม.รพ.สต.บ้านไผ่ตะล่อม ที่ได้ความเสียหายจากเหตุวาตภัยจากนั้น

เวลา 11.20 น. นายรัชกร คำถาเครือ สาธารณสุขอำเภอสวรรคโลกพร้อมด้วย ผอ.รพ.สต.ปากน้ำ และคณะจนท. มอบเงินช่วยเหลือ อสม.รพ.สต.ปากน้ำที่ได้ความเสียหายจากเหตุวาตภัยด้วย
กิตติ พรดวงจันทร์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดระเบียบสังคม ป้องกันเหตุอาชญากรรม การมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ใครมีครอบครองผิดกฎหมาย

ใครครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย เป็นภัยต่อเยาวชนจังหวัดลพบุรี ผู้จำหน่ายผิดกฎหมาย ภายใต้การอำนวยการของ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ ปลัดจังหวัดลพบุรี

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.00 น. ชุดปกครองจังหวัดลพบุรี (กลุ่มงานความมั่นคง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี นำกำลัง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลพบุรี บูรณาการร่วมกับอำเภอเมืองลพบุรี จัดระเบียบสังคม ป้องกันเหตุอาชญากรรม การมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน และอบายมุขต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี นำกำลังตรวจค้นในครั้งนี้


นำโดย นายยศวิน บำรุงเวช ป้องกันจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยผู้ช่วยป้องกันจังหวัดลพบุรี สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลพบุรี บูรณาการร่วมกับอำเภอเมืองลพบุรี จัดระเบียบสังคม ป้องกันเหตุอาชญากรรม การมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน และอบายมุขต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี ตามข้อร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า
ตรวจของในครั้งนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 ราย

เวลาต่อมา นายยศวิน บำรุงเวช ป้องกันจังหวัดลพบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในการนี้ ได้สืบทราบว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในลักษณะออนไลน์และหน้าร้าน จึงได้ทำการจับกุมร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 แห่ง ผู้ต้องหา 1 ราย พบของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 65 ชิ้น. พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองลพบุรี ดำเนินคดีต่อไป

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ /อนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จับแรงงานเพื่อนบ้านฝันตัวเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าร่วม 7,575 เม็ด พร้อมปืนยาว 5 กระบอก

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 นาย วิทยา สุวรรณสิทธิ์นายอำเภอปะทิว รายงาน โดยการอำนวยการ ของ นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รอง ผวจ.ชุมพร นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร นายวิทยา สุวรรณสิทธิ์ นายอำเภอปะทิว นายกิติพงศ์ โสมณะ ปลัดอำเภอหน.กลุ่มงานบริหารงานปกครองมอบหมายให้

นายธีระวุฒิ นุชนงค์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมสมาชิก อส.อ.ปะทิวที่ 4 ลงพื้นที่ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านมาบอำมฤต กำนันต.เขาไชยราช กำนัน ต.ดอนยาง เจ้าหน้าที่ทหารชป.ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
การขับเคลื่อนปฏิบัติการ กวาดล้างยาเสพติด “No drugs No dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด โดยค้นหาและขยายผลจากผู้เสพสู่การจับกุมผู้ค้าสำคัญ ดังนี้ นำผู้เสพในพื้นที่ต.เขาไชยราช เข้ารับการบำบัดรักษาแบบ สมัครใจ รพ.สต.บ้านพละ จำนวน 6 ราย

ร่วมจับกุม นาย โทน สัญชาติเมียนมา ม.1 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)
พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุถุงพลาสติกชนิดกดปิด ดึงเปิด สีน้ำเงิน จำนวน 117 เม็ด (สีส้ม 115 เม็ด , สีเขียว 2 เม็ด) 2. เงินสด 2,000 บาท 3. อาวุธปืนยาว ชนิดไทยประดิษฐ์ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก 4. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 21 นัด 5. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Vivo รุ่น Y02T สีเทา

   ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่  “ มียาเสพติดให้โทษร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อการค้า , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติ(เมียนมาร์) อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม 1.Mr.ZAW PAING หมายเลขหนังสือเดินทาง CC7327160 สัญชาติเมียนมา  ม.1 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร  (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)    2.Mrs.SOE SOE MON หมายเลขหนังสือเดินทาง CC7327161 สัญชาติเมียนมา  ม.1 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร  (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)

พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) รวมทั้งหมด 1,409 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด) เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 22 นัด 4.ถุงพลาสติกใสชนิดกดปิด-ดึงเปิด (ถุงแบ่งบรรจุ) จำนวน 50 ใบ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi สีดำ หมายเลข 065-053-1700 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีน้ำเงินคราม หมายเลข 093-461-0377 จำนวน1เครื่อง

ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่า “ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยเป็นกระทำที่มีลักษณะการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กระทำการโดยมีอาวุธปืนฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม   1.Mr.SAN TUN (ซาน ทูน) สัญชาติเมียนมา 2/8 ม.6 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร  (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล) 2.Mrs.Khin Khin Htww หมายเลขบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย 00-8603-109185-2 สัญชาติเมียนมา  2/8 ม.6 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)

พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) รวมทั้งหมด 6,409 เม็ด อาวุธปืนยาว ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด,ติดอยู่ข้างลำตัวปืน 6 นัด) อาวุธปืนยาว

ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด,ติดอยู่ข้างลำตัวปืน 4 นัด) อาวุธปืนยาว ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด) เครื่องชั่งดิจิตอล ขนาด 1000g โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ samsung สีดำ หมายเลข 064-976-5140 จำนวน 1 เครื่อง

ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่าร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยเป็นกระทำที่มีลักษณะการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป

โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กระทำการโดยมีอาวุธปืนฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สรุป ผู้เสพ 6 ราย ผู้ค้า จำนวน 3 คดี ผู้ต้องหา 5 ราย ของกลางยาบ้า 7,575 เม็ด อาวุธปืน 5 กระบอก โดยนำผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านมาบอำมฤต ดำเนินคดีตามกฏหมาย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันนี้ (28 ก.ค. 68) นายนพพร อุสิทธ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน พ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า

ร่วมประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568

เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ณ วัดพรุใหญ่ ตำบลสะพลี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

โดยนายนพพร อุสิทธ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ประธานในพิธีฯ ถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ววางพานพุ่มทอง พานพุ่มเงิน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะถวายธูปเทียนแพ

เปิดกรวยกระทงดอกไม้ เสร็จแล้วจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวคำกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี, เพลงสดุดีจอมราชา ตามลำดับ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนับเป็นอเนกประการ ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด ศาสตร์ของพระราชาแห่งสมเด็จพระบรมชนกนาถ ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่นในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่อาณาประชาราษฎร์อย่างยั่งยืน

ผ่านโครงการในพระราชดำริที่หลากหลายครอบคลุม เช่น ด้านการสาธารณสุข ทรงได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งยังทรงรับผู้ป่วยไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษา ด้านการศึกษา ทรงให้จัดตั้ง “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา ให้แก่เด็กและเยาวชนที่ประพฤติดี และมีความสามารถในการศึกษา

ทั้งยังพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร ในยามที่ประสบเหตุเภทภัยให้พ้นผ่านความยากลำบากไปได้ น้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้นำมาซึ่งความปีติซาบซึ้ง ประทับอยู่ในใจของปวงเหล่าพสกนิกรตลอดไป

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง