​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เฝ้าระวังระดับน้ำโขงพุ่งสูงใกล้จุดวิกฤต สั่งเตรียมรับมือ – ระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า เมื่อเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่จังหวัดมุกดาหารยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ที่สถานีวัดระดับน้ำแม่น้ำโขงมุกดาหาร ได้รายงานระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 11.40 เมตร เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.53 เมตร ซึ่งยังต่ำกว่าระดับวิกฤตที่ 12.50 เมตร อยู่เพียง 1.10 เมตร ขณะเดียวกันมีปริมาณน้ำฝนสะสมวัดได้ 15.8 มิลลิเมตร

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับเทศบาลเมืองมุกดาหาร ได้เร่งติดตั้ง เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ หลายจุดทั่วเมือง เพื่อเตรียมรับมือกรณีน้ำโขงล้นตลิ่ง และเพื่อระบายน้ำฝนจากในตัวเมืองลงสู่แม่น้ำโดยเร็ว ป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนและเขตเศรษฐกิจ

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สถานการณ์นี้เกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ทางตอนเหนือ รวมถึงฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งได้เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำโขง ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จังหวัดมุกดาหารจึงมีความเสี่ยงที่น้ำจะเอ่อล้นตลิ่งได้

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารยังขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำที่เคยได้รับผลกระทบในอดีต ขอให้เร่งขนของมีค่าไว้ในที่สูง เตรียมพร้อมอพยพในกรณีฉุกเฉิน และหากประชาชนได้รับผลกระทบ หรือพบเห็นสถานการณ์ภัยพิบัติ สามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 1784 หรือผ่าน LINE

ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดมุกดาหาร ตลอด 24 ชั่วโมงน้ำโขงมุกดาหาร #เตือนภัยน้ำท่วม #น้ำโขงใกล้วิกฤต #เครื่องสูบน้ำ #เฝ้าระวังน้ำโขง #มุกดาหาร #ข่าวมุกดาหาร #ภัยพิบัติ #ข่าวน้ำท่วม #ระดับน้ำโขง #น้ำท่วมภาคอีสาน #น้ำท่วม2568 #ฝนตกหนัก #แม่น้ำโขง #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้//////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชุมพร จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28กค.2568

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 07.19 น.วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณปะรำพิธีบริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

ได้จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ประจำปี 2568 โดยมีนายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน

ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร ฯลฯ ผู้นำองค์กรเอกชน ผู้นำชุมชน กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมพิธี

นอกจากนี้ จังหวัดชุมพร ได้จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังแผ่นดิน โดยนายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานนำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังแผ่นดิน

โดยมี ข้าราชการพลเรือน ศาล ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทรงอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญา ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการโดยไม่เหน็ดเหนื่อยพระวรกาย เพื่ออำนวยประโยชน์ให้พสกนิกร และผู้ยากไร้ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อยู่ดีกินดีมีสุข ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา

ซึ่งพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้แสดงความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่ตามรอยพระยุคลบาท ในฐานะข้าของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนสังคมและประเทศชาติต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายก.อบจ.นครศรีฯ เปิดกิจกรรม “เต้นรับโอโซน สุขกาย สบายปอด” โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำโลน festival @คีรีวง ครั้งที่ 3 ( สรรค์ศิลป์ ถิ่นใต้ ) บ้านคีรีวง

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
ที่หมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดหวัดนศรศรีธรรมราช นางสาววาริน ชินวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (อบจ.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “เต้นรับโอโซน สุขกาย สบายปอด” โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำโลน festival @ คีรีวง ครั้งที่ 3 (สรรค์ศิลป์ ถิ่นใต้)

โดยมี นายสมโชค เสนา นายอำเภอลานสกา นายไพโรจน์ รัตนธน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำโลน พร้อม คณะผู้บริหาร อบจ.นครศรีธรรมราช สมาชิกสภา อบจ.คณะผู้บริหารอบต.กำโลน สมาชิกสภาอบต.กำโลนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านคีรีวง และใกล้เคียง พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมงานและให้การต้อนรับ

นายไพโรจน์ รัตนธน นายกอบต.กำโลน กล่าวว่า เพื่อสืบสานโครงการ
การท่องเที่ยวให้เป็นงานประจำปีของตำบลกำโลน ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของ ตำบลกำโลน และจังหวัดนครศรีธรรมราช ในปีนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช องค์การบริหารส่วนตำบลกำโลน และประชาชนตำบลกำโลน จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว แบบบูรณาการ โดยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนสืบสานการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำโลน Festival @คีรีวง ครั้งที่ 3 (สรรค์ศิลป์ ถิ่นใต้) ประจำปี ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2568

และในการจัดงานครั้งนี้อบต.กำโลน ได้จัดให้มีกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แก่ กิจกรรมไลน์แดนซ์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายสร้างสุขภาพให้ แข็งแรง ภายใต้ชื่อกิจรรม “เต้นรับโอโซน สุขกายสบายปอด”โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์มานพ แนวกลาง ซึ่งเป็นผู้นำเต้นที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมานำเต้นในกิจกรรม ครั้งนี้ เพื่อสร้างความตื่นตัวให้คนหันมารักษ์สุขภาพโดยมีประชาชนผู้รักสุขภาพทั่วสารทิศเข้ามาร่วมเต้น เสริมสร้างความสนุกสนาน รื่นเริง และความบันเทิงผ่าน กิจกรรมภายในงาน นับเป็นการเสริมสร้างสุขภาพจิตเชิงบวกให้กับประชาชน รวมไปถึง การส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักรักษ์สุขภาพโดยมีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

กิจกรรมแสดงภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สร้างบทเพลง “รำวงกำโลน” อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของตำบลกำโลน โดยดึงเอาความโดดเด่นของแต่ละหมู่บ้าน มาแต่งเป็นบทเพลงเพื่อสร้างเป็นมรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของตำบลกำโลน ให้ลูกหลานคนรุ่นหลังให้เห็นถึงความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของตำบลกำโลน การแสดงแสงสีเสียงมโนราห์ “ชุดผันหลังแลโนรา เทิดจักราพระวชิเกล้า” เป็นการย้อนตำนานอดีตมโนราห์สู่ยุคปัจจุบัน และไท้องค์ราชันที่หาชมยาก จัดแสดงในวันที่ 26 ก.ค.68


กิจกรรมไลน์แดนซ์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายสร้าง
สุขภาพให้แข็งแรง ภายใต้ชื่อกิจรรม “เต้นรับโอโซน สุขกายสบายปอด”โดยมีประชาชนผู้รักสุขภาพทั่วสารทิศเข้ามาร่วมเต้น พร้อมทั้ง ทีม TK แดนซ์ จาก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมงาน ณ ริมฝั่งคลองคีรีวง จัดในวันที่ 27
ก.ค.68 กิจกรรมวิ่งมินิมาราธอน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย
สร้างสุขภาพให้แข็งแรงดำเนินการโดยกลุ่มผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 นายพิทักษ์ สุขันทอง เช้าวันที่ 27 ก.ค.68 การแสดง ชุดบูรณะภูมิปัญญาศิลป์ ถิ่นได้ (Soft Power) ซึ่งรวมเอาศิลปะวัฒนธรรมประเพณีของภาคใต้มาสร้างสรรค์เป็นชุดการแสดง วันที่ 29 ก.ค.68

การแสดงเพลงบอก การแสดงหนังตะลุง และอีกหลายหลาก โดย
เยาวชนคนรุ่นใหม่บริเวณสะพานแขวนหน้าวัดคีรีวง เพื่อรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของภาคใต้ การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนตำบลกำโลน โดยกลุ่ม OTOP และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจากที่ต่างๆที่มาร่วมในงาน และสร้างบูธกิจกรรมสิ่งประดิษฐ์จากขยะเพื่อสร้างรายได้ โดยร่วมกับ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภาคใต้ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช มีจุดมุ่งเน้นเพื่อให้ประชาชนได้เห็นถึงประโยชน์จากขยะ และเป็นการต่อยอดการสร้างอาชีพให้คนในตำบลกำโลนต่อไป

/////////////////////

ผู้สื่อข่าวพิเศษ. ณัฐธภพ พันสาย. / 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมสื่อมวลชนน่าน ร่วมกับชมรมนักจัดรายการวิทยุ พ่อบ้านแม่บ้าน เยาวชนบ้านทุ่งขาม ร่วมกันจัดตั้งโรงครัวทำอาหารมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 1421 กล่อง

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ร่วมกับชมรมนักจัดรายการวิทยุจังหวัดน่าน พ่อบ้านแม่บ้าน เยาวชน บ้านทุ่งขาม ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน ได้ตั้งโรงครัวจัดทำอาหารมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม โดยนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลน่าน จำนวน135 กล่อง

บ้านศรีบุญเรือง จำนวน15 กล่อง บ้านภูมินทร์ จำนวน 25 กล่อง โรงเรียนน่านคร จำนวน50 กล่อง ผู้ประสานงานให้ญาตินำไปส่ง บ้านดอนมูล เจดีย์ ทุ่งน้อย บ้านอภัย 130 กล่อง ตำบลนาปัง 110 กล่อง สำนักงานปภ.น่าน 60 กล่อง รวม689 กล่อง ก่อนหน้านันวันที่ 26 กรกฎาคมมอบไป จำนวน 732 กล่อง

โดยนำไปมอบให้วัดดอนมูล 100 กล่อง มอบให้ สจ.เอกชัย กับเจ้าอาวาสวัดพวงพยอม ไปแจก 100 มอบให้สนง.ปภ.น่าน 47 กล่อง พวงพยอม 25 พันต้น 21 กล้อง บ้านน้ำครก10 กล่อง ช่วงเย็นจะนำไปมอบให้โรงพยาบาลน่าน 164 กล่อง บ้านเจดีย์10 กล่อง ดู่เหนือ 25 กล่อง บ้านท่าลี่ 25 กล่อง หัวเวียงใต้ 5 กล่อง รวมทั้งหมด 1421 กล่อง

งานนี้ขอขอบคุณ ผู้บริจากเงินจัดซื้อวัตถุดิบประกอยอาหารประกอบด้วย 1สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน 10,000 บาท ชมรมนักจัดรายการวิทยุจังหวัดน่าน 5.000 บาท สว.เจ ภิญญาพัชญ์ ศันยชนีชีวิน 2,000 ซีพี มอบเนื้อหมูบด จำนวน 50 กีโล บาท ผู้ไม่ประสงค์ ออกนาม 1.000 บาท

ที่มอบผ่านแม่บ้านรวมทั้งผู้บริจาคน้ำดื่มวัสดุ ประกอบอาหาร ขอขอบคุณผญ.ปรานอม สิทธิรัตน์ ผช.ตุ๋ย สุภัตรา แก้วก๋าคำ พ่อบ้าน แม่บ้านแม่บ้านทุ่งขาม และเยาวชนที่มาช่วยกันทำกับข้าว

ตลอดสองวัน ขอบคุณผู้ใจบุญ ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุก ๆท่าน มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีสวนสนามของสมาคมสันนิบาตเสรีชนแห่งประเทศไทย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา 28 กรกฎาคม 2568

📌 วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. ณ ลานหน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว รองแม่ทัพภาคที่ 4

เป็นประธานพิธีสวนสนามของสมาชิกสมาคมสันนิบาตเสรีชนแห่งประเทศไทย เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และถวายความเคารพเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยมี ฝ่ายเสนาธิการกองทัพภาคที่ 4, ผู้บังคับบัญชา, นายทหารชั้นสัญญาบัตร, นายทหารชั้นประทวน,อาจารย์วันอับดุลเลาะฮ์ หล๊ะติหมะ นายกสมาคมสันนิบาตเสรีชนแห่งประเทศไทย,

ประธานสมาคมสันนิบาตเสรีชนแห่งประเทศไทย และสมาชิกฯ ร่วมในพิธีบรรยากาศเต็มไปด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

📌 สมาคมสันนิบาตเสรีชนแห่งประเทศไทย เป็นสมาคมที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการเทิดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

พร้อมทั้งยึดมั่นในหลักจิตอาสา ปฏิบัติงานโดยไม่หวังผลตอบแทนส่วนตน มุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรม ตลอดจนส่งเสริมแนวทางการประกอบอาชีพอย่างสุจริต เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเปี่ยมด้วยคุณธรรม

ขอบคุณ

ภาพ : จ.ส.อ. ศักดิ์สิริ รัตนพันธุ์
ข่าว : ซัมซูนีฯ
อนุมัติข่าว : ร.ท. ยุทธชัย ชูถิ่น

สื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ “ลุ่มน้ำยม-น่าน”จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน


สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ให้เขื่อนสิริกิติ์ปรับลดการระบายช่วงฝนชุกปลายเดือน ก.ค. เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำจากลำน้ำยมไปยังลำน้ำน่าน พร้อมเตรียมพื้นที่ “ทุ่งบางระกำ” ช่วยหน่วงน้ำหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว
วันนี้ (26 กรกฎาคม 2568) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธาน การประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ครั้งที่ 1/2568

โดยมี นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ให้การต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการ สทนข. ผู้แทนจังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดน่าน จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดแพร่ จังหวัดอุตรดิตถ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ จังหวัดสุโขทัย ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและติดตามการเตรียมความพร้อมในแต่ละจุด ได้แก่ จุดเสริมคันกั้นน้ำ หมู่ที่ 7 ตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย เขื่อนป้องกันตลิ่งชั่วคราวริมแม่น้ำยม บริเวณสะพานสิริปัญญารัตน์ ตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง ประตูระบายน้ำคลองหกบาท และประตูระบายน้ำปากคลองตะคร้อ ตำบลป่ากุมเกาะ อำเภอสวรรคโลก และจุดคันกั้นน้ำคลองยม โดยที่จุดนี้ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการเสริมคันดินชั่วคราวป้องกันน้ำให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้

เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยว่า การประชุมคณะทำงานอำนวยการน้ำฯ พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ในวันนี้เป็นการประชุมครั้งแรก เนื่องจากการที่ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” ในช่วงนี้ และได้รายงานสถานการณ์เป็นรายวัน ให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้รับทราบ ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน จึงสั่งการให้ สทนช. จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน เพื่อบูรณาการกับทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ร่วมบริหารจัดการน้ำที่จะไหล

จากพื้นที่ตอนบนของประเทศลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาโดยลดผลกระทบในแต่ละพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ปริมาณฝนโดยกรมอุตุนิยมวิทยาร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้มีปริมาณฝนตกหนักบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน และพะเยา โดยมีปริมาณฝนสูงสุดประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ ระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2568 จากนั้นปริมาณฝนจะลดลงในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ยังไม่น่าเป็นห่วงและมีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาเพิ่มได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 70% มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำได้อีก 2,761 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ปัจจุบันมีการระบายน้ำอยู่ที่ 15 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งจะต้องวางแผนการระบายให้สอดคล้องกับปริมาณฝนที่จะตกมาเพิ่มเพื่อไม่ให้น้ำในเขื่อนเกินระดับเก็บกักน้ำสูงสุด ในขณะเดียวกันยังคงต้องให้เขื่อนสิริกิติ์เป็นกลไกสำคัญในการช่วยบริหารจัดการมวลน้ำที่ไหลผ่านลำน้ำยมและลำน้ำน่านด้วย จากสถานการณ์ดังกล่าว ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาแผนการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ มีมติเห็นชอบให้

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับลดการระบายน้ำลงอยู่ที่ 10 ล้าน ลบ.ม./วัน ในช่วงวันที่ 26 – 30 กรกฎาคม 2568 เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำที่ไหลผ่านจากลำน้ำยมไปสู่ลำน้ำน่าน โดยขอให้ทุกหน่วยงานช่วยสนับสนุนการเร่งการระบายน้ำโดยเร็วที่สุด เช่น การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเพิ่ม เพื่อระบายน้ำไปให้ได้มากที่สุดในช่วง 5 วันนี้ หลังจากนั้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณฝนลดลง ให้ กฟผ. ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนที่จะกลับมาอีกในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งการปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ในครั้งนี้ ได้ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ด้วย สำหรับการเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำรองรับน้ำหลาก “โครงการบางระกำโมเดล” พบว่าพื้นที่ปลูกข้าวรวม 327,000 ไร่ ขณะนี้เก็บเกี่ยวไปแล้ว 91,519 ไร่ ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีก 235,481 ไร่ ซึ่งมีแผนจะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ก็จะสามารถใช้เป็นพื้นที่หน่วงน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำยมได้ในปริมาณ
400 ล้าน ลบ.ม.

“จากการลงพื้นที่ติดตามปริมาณน้ำในแต่ละจุด พบว่า ได้เตรียมการบริหารจัดการมวลน้ำที่คาดว่าจะมาสูงสุดในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ โดยระบายน้ำส่วนหนึ่งผ่านคลองยม – น่าน และแม่น้ำยมสายเก่า และอีกส่วนระบายผ่านประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ แม่น้ำยมสายหลัก เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะผ่านตัวเมืองสุโขทัยให้อยู่ในระดับไม่เกิน 500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่ก่อเกิดให้เกิดผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจเมืองสุโขทัย อย่างไรก็ตาม การประชุมในวันนี้พบว่าหน่วยงานในพื้นที่ทุกจังหวัดมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่และเข้มแข็ง ครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมการรองรับก่อนเกิดสถานการณ์
การบริหารจัดการในระหว่างเกิดสถานการณ์ ไปจนถึงการช่วยเหลือและฟื้นฟูเยียวยาหลังสถานการณ์ ทั้งนี้ ได้ขอให้แต่ละจังหวัดสะท้อนจุดอ่อนจากการทำงานให้กับที่ประชุม เพื่อเตรียมการขับเคลื่อนและพัฒนาประสิทธิภาพการรับมือสถานการณ์อุทกภัยในอนาคตต่อไป” เลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย
พร้อมวันนี้ที่27กค.2567เวลา13.30ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ได้ลงพื้นที่คลองหกบาท อำเภอสวรรคโลกเพื่อตรวจลงดูแนวตลิ่งคันคลองของแม่น้ำยมพร้อมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยนายอำเภอสวรรคโลกและผู้นำชุมชน นายกเทศบาลอีกหลายที่ด้วย.
กิตติ พรดวงจันทร์สุโขทัย

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานตะกร้าสิ่งของแก่ครอบครัว “จ่าสิบเอก ธวัชชัย” ทหารกล้าผู้เสียชีวิตจากชายแดน

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ณ บ้านเลขที่ 37 หมู่ที่ 3 บ้านโนนสังข์ศรี ตำบลบ้านซ่ง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เชิญ ตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ครอบครัวของ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา ทหารกล้าสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ขณะปฏิบัติหน้าที่เพื่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ

โดยมี นายเฉลิมชัย บุสภา บิดาของผู้เสียชีวิต เป็นผู้รับพระราชทานสิ่งของ พร้อมด้วย นางวิไล บุสภา มารดา และ นางสาวรจรินทร์ สิงห์ศร ภรรยา ร่วมเข้ารับสิ่งของพระราชทานด้วยความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระเมตตา

ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เชิญ พระราชกระแสทรงห่วงใย จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งสร้างความตื้นตันใจ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อ.โคกสำโรง เปิดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุการประทะกันตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2568 ณ อาคารหอประชุมที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ตามที่นายอำพล อังภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้มอบหมายให้แต่ละอำเภอ ประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลพบุรี

บริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ในการดำรงชีพ เพื่อนำไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุการประทะกันตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา ที่อพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์

ทางอำเภอโคกสำโรงโดยการนำของ นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรง มอบหมายให้ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่ได้ประกาศเสียงตามสาย ประชาสัมพันธ์เชิญชวน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยการสู้รบดังกล่าว

ซึ้งในวันนี้อำเภอโคกสำโรงได้รับสิ่งของบริจาค จากพี่น้องชาวอำเภอโคกสำโรงที่พร้อมใจกันนำมาช่วยเหลือจำนวนมาก และจะได้นำส่งให้ทางจังหวัดลพบุรีดำเนินการส่งต่อความช่วยเหลือต่อไปในแต่ละวัน

ฉนั้นทางอำเภอโคกสำโรง ยังคงขอความรวมมือรวมมอบสิ่งของส่งกำลังใจ ได้ที่ศาลาหอประชุมได้ทุกวัน จะมีนายอำเภอโคกสำโรง พร้อมเจ้าหน้าที่คอยรอรับบริจาคสิ่งของต่างส่งต่อไปยัง ผู้ประสบภัย ตามจังหวัดต่างๆในทุกๆวัน ศูนย์รับ

บริจาค สิ่งของอุปโภคบริโภค บริเวณที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพ ในจังหวัดสุรินทร์ / อุบลราชธานี / ศรีสะเกษ ตั้งแต่ 26 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
โดยสิ่งของที่ต้องการด่วน ดังนี้

  1. Pampers (แพมเพริส)
  2. ผ้าอนามัย
  3. มุ้ง(แบบกางสำเร็จรูป)
  4. ผ้าห่ม(แบบบาง)
  5. ยากันยุง
    (ทั้งนี้งดรับเงินสด / น้ำดื่ม)

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี
และอนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบมุ้งรักโลก ให้กับศูนย์พักพิง พร้อมเผยหลังเหตุการณ์สงบ จัดหาอาชีพ ให้กับผู้ประสบภัย

***ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์พักพิงผู้อพยพ อําเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อม ผศ.ดร พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ที่ปรึกษาอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และคณะเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังผู้อพยพเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ศูนย์ดังกล่าว และมอบสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้ง ยาสีฟัง แปรงสีฟัน แป้ง แพนเพิร์ธทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ นม ยากันยุง น้ำดื่ม มุ้งรักโลก โดยมี นายธนเดช พระอารักษ์ นายอําเภอเบญจลักษ์ และหัวหน้าส่วรนราชการให้การต้อนรับ

***นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่อพยพมาจากตะเข็บชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่ตนได้ทราบข่าวการยิงปะทะกันกลับประเทศกัมพูชา ทำให้ประเทศไทยเกิดการสูญเสียและมีเด็กและประชาชนเสียชีวิตหลายราย ทางกระทรวง พม. มีความห่วงใยมากจึงให้ตนลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมและสอบถามความเดือดร้อนของผู้สูญเสีย และผู้อพยพที่เป็นกลุ่มเปราะบางรวมถึงพี่น้องประชาชนที่ได้รับเดือดร้อนหลายๆส่วน อาทิเช่น ผู้ป่วยติดเตียง คนชรา และเด็ก ที่ได้รับผลกระทบการจากการยิงปะทะกันในครั้งนี้

***ทางกระทรวงได้เห็นความสำคัญของกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้รัฐมนตรี พม. ประนามการกระทำของกัมพูชาที่กระทำต่อประชาชนเด็กที่ไม่รู้เรื่องด้วยและมีทางสู้ ตนลงมาในครั้งนี้ได้รับทราบความเดือดร้อนและความต้องการสิ่งต่างๆที่ขาดแคลนในศูนย์อพยพ อาทิเช่น มุ้งกาง โลชั่นกันยุง พัดลม แปรงสีฟันยาสีฟันสบู่แป้ง ที่ยังเป็นที่ต้องการอยู่เป็นจำนวนมากในตอนนี้ และหลังจากที่เหตุการสงบ พม. ก็จะลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือนและจัดหาอาชีพและสงเสริมอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยต่อไป

***หลังจากมอบสิ่งของเสร็จแล้ว อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะ ก็ได้เข้าไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง โดยได้สอบถามพูดคุยกับคุณยายสะแอม วันทรัพย์ อายุ 94 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง ที่อพยพมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยที่เป็นสีแดงในอำเภอกันทรลักษ์ คุณยายมาอยู่ศูนย์อพยพแห่งนี้ได้ 2 คืนแล้ว คุณยายไม่อยากมาและบ่นกับลูกๆอยู่ตลอดว่าอยากกลับบ้าน ให้พากลับไปบ้านหน่อย เพราะคนแก่คิดถึงบ้าน

***ลูกสาวคุณยายยังเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุตนยังขายของตามปกติอยู่ที่บ้าน โดยไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเกิดรวดเร็วมาก เพียงไม่กี่นาที วันที่เกิดเหตุระเบิดที่ปั๊ทน้ำมัน ตนเองยังได้ไปช่วยเหลือคนที่โดนระเบิดในวันนั้นด้วย ตนรู้สึกหดหัวใจและยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่ลืม

***ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้นี้ยังมกลุ่มวัยรุ่นจิตอาสามีน้ำใจ นำเสื้อผ้ามือสองที่ไม่ได้ใช้ เอามาแจกจ่าย ปันน้ำใจให้กับผู้อพยพในศูนย์แห่งนี้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สร้างรอยยิ้ม และกำลังใจให้กับผู้อพยพที่หนีมาพักพิงช่วงยามอยากในครั้งนี้

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมช่วยพี่น้องไทยในภาคตะวันตก กาญจนบุรี มอบถุงยังชีพให้กับ ผู้ยากไร้, ผู้ด้อยโอกาส และมอบอุปกรณ์กีฬาให้รร.บ้านไร่เจริญ จ.กาญจนบุรี

24 ก.ค.68 , มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมพลังบุญ กองทัพน้อยที่ 1 และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.68

ช่วยพี่น้องไทยในภาคตะวันตก กาญจนบุรี มอบถุงยังชีพให้กับ ผู้ยากไร้, ผู้ด้อยโอกาส และมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนบ้านไร่เจริญ จ.กาญจนบุรี
และร่วมกิจกรรมจิตอาสา

ขอส่งผลบุญและความปรารถนาดีจากกัลยาณมิตรทั้งปวง ให้ถึงแด่ทุกท่าน มีความสุขความเจริญ ปรารถนามงคลใด ให้สำเร็จผลทุกประการ เทอญ…สามารถติดตามข่าวสารธรรมทานงานบุญ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ได้ที่Line Official Account กด : https://lin.ee/AlxR8XfLine ID : @bbdf

Page #Facebook : มูลนิธิพุทธภูมิธรรม
https://web.facebook.com/bbdf.orgสาธุๆๆอนุโมทามิฯมูลนิธิพุทธภูมิธรรมพุทธภูมิธรรมนำสุขทำบุญ #สุขใจที่ได้ทำบุ

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง