สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธี หลอมลูกกระสุนปืนใหญ่ทหารไทย เทหล่อพระกรุตสมิงชัยมงคล เพื่อมอบทหาร 4 จ.ชายแดนอีสาน และพลีมวลสาร ปั้มพระผงกรุตสมิงชัยมงคล อีก 3,000 องค์

วันที่ 27 กันยายน 2568 ที่ บริเวณหน้าศาลาท้าวเวสสุวรรณ วัดป่ากุดสมิง บ้านกุดสมิง ตำบลหนองหว้า อำเภอเบ็ญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พระครูปิยวนารักษ์ หรือ พระอาจารย์ สมนึก ปิยสิโล เจ้าอาวาสวัดป่ากุดสมิง ที่ญาติโยมสายมู เคารพ เชื่อมั่น ศรัทธา ประธานฝ่ายสงฆ์, เมฆ ปาวะโร ลูกศิษย์วัดป่ากุดสมิง คนสำคัญในการจัดงาน ร่วมกับ นาย ธนเดช พระอารักษ์ อำเภอเบ็ญจลักษ์, นายอุดมศักดิ์ นวลศิริ นายอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลฯ อดีตนายอำเภอเบ็ญจลักษ์, ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆารวาส และนายวสวรรธน์ พวงพรศรี หรือ สส.กังฟู ซึ่งยังมี น้ำ รพีพัฒน์ และเหล่าดารานักแสดง,

พร้อมกับญาติโยมที่รู้ข่าว เดินทางมาร่วมพิธีนับพันคน โดยมีพิธีบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณ พิธีบวงสรวงปลอกกระสุนปืนใหญ่ของทหารไทย ที่ยิงสู้รบกับฝ่ายตรงข้าม จนชนะ นำมาเป็นมวลสารในการหลอม เพื่อเทหล่อเป็นพระกรุตสมิงมิ่งมงคล หน้าตักกว้าง 30 เซนติเมตร จำนวน 5 องค์ นำประดิษฐานยังค่ายทหาร 4 จังหวัด คือ จังหวัดบุรีรัมย์, สุรินทร์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบราชธานี


ที่มีการปะทะกัน และยังได้นำพลีมวลสารทั้งปลอกกระสุนปืน และหัวสบู่เลือด อายุ 100 ปี ที่นำลงมาจากภูมุย เทือกเขาพนมดงรัก มาเป็นมวลสารปั้มพระผงกรุตสมิงชัยมงคล รูปสีธงชาติไทย สีทหารกล้า จำนวน 3,000 องค์ ซึ่งทุกองค์จะมีเลขโค้ดกำกับทุกองค์ เพื่อมอบให้กับทหารกล้า ตามแนวชายแดน ทั้ง 4 จังหวัด เพื่อไว้ป้องกันตัว ในการรู้รบ แคล้วคลาด ปลอดภัย

พิธีเริ่มด้วยประธานฝ่ายสงฆ์ จุดธูปเทียน บูชา ขอขมา บวงสรวง เทพเทวา ประธานฝ่ายฆารวาส จุดธูปเทียน โปรยข้าวตอก ดอกไม้ บูชา บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ญาติโยมที่มาร่วมงาน เขียนแผ่นทอง นำรวมเพื่อหลอมรวมกับลูกกระสุนปืนใหญ่ ที่ทหารไทยยิงสู้รบกับกองกำลังต่างชาติ จนชนะ ในช่วงที่ผ่านมา ระหว่าง วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ถึง 28 กรกฎาคม 2568 นี้ ที่ทหารนำมาถวายเพื่อร่วมเป็นมวลสาร ในการหลอมรวมพลีมวลสาร เทหล่อพระกรุตสิงชัยมงคล


ขนาด หน้าตัก 30 นิ้ว จำนวน 5 องค์ และพลีมวลสารปั้มเป็นพระผง กรุตสมิงชัยมงคล อีกจำนวน 3,000 องค์ โดย พระครูปิยวนารักษ์ ได้มอบใบปราศเกียรติคุณ แด่ผู้ที่มาร่วมบุญกัน ร่วมเป็นเจ้าภาพกันตามศรัทธา ผ่านมัคทายกวัด ขณะเดียวกัน ได้มีมูลนิธิกู้ภัยศรีสัตนาคา จากจังหวัดนครพนม นำโลงศพมามอบให้กับกู้ภัยบ้านจาน อำเภอเบ็ญจลักษ์ เพื่อบริการให้กับศพไร้ญาติ จำนวน 300 โลง นอกจากนั้น น้ำ ระพีพัฒน์ และบรรดาเหล่าดารานักแสดง ยังได้มอบข้าวสาร แก่ผู้ที่มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ จำนวน 2,000 กิโล เป็นโรงทานข้าวสารมอบให้กับทุกคน


พิธีเทหล่อพระกรุตสมิงชัยมงคล และพิธีปั้มพระผงกรุตสมิงชัยมงคล ขณะที่การปั้มได้มีพระอาทิตย์ทรงกรด แต่ขณะร่ายรำถวายของบรรดาแม่บ้าน นางรำ กลับมีฝนตกลงมาปรอยๆ อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก พิธีเสร็จสิ้นลงในช่วงยามบ่ายๆ จากนั่นจะรอให้พิมพ์เทหล่อพระเย็นลง จะได้มีการเกาะพิมพ์ และกำหนดพิธีพุทธาภิเษก พระกรุตสมิงชัยมงคล ในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ก่อนนำไปมอบให้ทหารกล้าตามชายแดน
/////////////////////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กกต.จัดโรดโชว์ ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง รณรงค์เลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 5 ขุนหาญ–ภูสิงห์ 28 ก.ย.นี้ พร้อมเตรียมมาตรการรับมือ ถ้าเกิดเหตุการณ์การปะทะ

***เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่สนามกีฬาวงกลม อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดกิจกรรมโรดโชว์ (Road Show) ภายใต้สโลแกน “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้ง ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่าง เขตเลือกตั้งที่ 5” เพื่อประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ก่อนการเลือกตั้งซ่อมที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนนี้
***ในพิธีเปิด มี ศาสตราจารย์สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นายธาตรี สิริรุ่งวนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, นายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการ กกต. ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและอำเภอ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 ผู้ตรวจการเลือกตั้ง นักเรียน นักศึกษา จิตอาสา รวมทั้งประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกว่า 200 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

***นายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการ กกต. กล่าวรายงานว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของการเลือกตั้ง สร้างจิตสำนึกไม่ซื้อสิทธิไม่ขายเสียง และเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิอย่างพร้อมเพรียง ลดจำนวนบัตรเสีย และทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย

***ด้าน ศ. สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ ประธานในพิธีเปิด กล่าวเน้นย้ำว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 5 ศรีสะเกษ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ เป็นโอกาสสำคัญของประชาชนในการกำหนดอนาคต โดย ส.ส. ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ออกกฎหมายและอนุมัติงบประมาณเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้แทนที่สะท้อนปัญหา ความต้องการ และข้อร้องเรียนจากประชาชนไปสู่การแก้ไขในระดับนโยบาย

***สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีรายชื่อ โดยไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในเขตและนอกเขต ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน (แม้หมดอายุก็ใช้ได้) หรือหลักฐานทางราชการที่มีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชนมาแสดงตน

***ทั้งนี้ กิจกรรมโรดโชว์ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน เครือข่ายประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) เยาวชน จิตอาสา และสื่อมวลชน โดยผู้จัดงานคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ 2 อำเภอ ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง ภายใต้สโลแกนที่ย้ำชัดเจนว่า “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง”

***ขณะที่ นายเอกฤกษ์ พร้อมชัยอนันต์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในส่วนความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 ทางเรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก และอยากให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มาก สมกับการรอค่อยมานาน ส่วนเรื่องการร้องเรียนผู้สมัครการเลือกตั้งทั้ง 2 เบอร์ ตอนนี้ก็มีแต่เรื่องเดิมๆ คือเลือกตั้งปราศรัย การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวน

***ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนมาตรการความพร้อม และการรับมือ หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด หรือ เหตุการณ์ยิงปะทะเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ทาง กกต. ก็มีการประสานกับทางทหาร และฝ่ายปกครองไว้แล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทางทหารจะส่งสัญณาณ มายังฝ่ายความมั่งคง และฝ่ายปกครอง ก่อนจะส่งสัญญาณต่อมายัง กกต. โดย กกต. จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะหยุดการเลือกตั้ง หรือ จะให้มีการเลือกตั้งต่อ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กิจกรรม “โครงการกรมส่งเสริมการเกษตรช่วยเหลือเกษตรกรฟื้นฟูเครื่องจักรกลเกษตรที่ประสบอุทกภัย ปี 2568″

วันที่ 26 กันยายน 2568 นางสาวฐิติกาญจน์ ชะนะมาร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอเวียงสา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเวียงสา ได้เข้าร่วมการจัดกิจกรรม

“โครงการกรมส่งเสริมการเกษตรช่วยเหลือเกษตรกรฟื้นฟูเครื่องจักรกลเกษตรที่ประสบอุทกภัย ปี 2568″ ระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกรในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลเกษตรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย

ให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้ พร้อมกันนี้ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช สำนักงานเกษตรอำเภอเวียงสา ได้จัดตั้งจุดบริการการขึ้นทะเบียนเพาะปลูกพืชและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปีการผลิต 2568/69 และการขึ้นทะเบียนเครื่องจักรกลการเกษตร

สำหรับเกษตรกรผู้มีความประสงค์ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร โดยมี นายศักดิ์สิทธิ์ ศรีวิชัย เกษตรจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงานดังกล่าว ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ททท.น่านประชุมเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขัน “Amazing Nan Marathon 2025”

วันนี้ 25 กันยายน 2568 09.30 น. ณ ห้องประชุมโรงแรมเวียงแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน มอบหมายให้นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน

เป็นประธานเปิดการประชุมเตรียมความพร้อมการแข่งขันวิ่ง “Amazing Nan Marathon 2025” โดยมีนายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ที่ประชุมได้รับทราบว่า ททท.สำนักงานน่าน ร่วมกับบริษัท รูท แมพ จำกัด และภาคีเครือข่าย ได้กำหนดจัดการแข่งขันวิ่ง “Amazing Nan Marathon 2025” ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568

ณ บริเวณข่วงเมืองน่าน อำเภอเมืองน่าน โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ Marathon 42 กิโลเมตร, Half Marathon 21 กิโลเมตร, Mini Marathon 10 กิโลเมตร และ Fun Run 5 กิโลเมตร คาดว่าจะมีนักวิ่งและผู้ติดตามเข้าร่วมกว่า 4,000 คน

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับที่พัก ร้าน

อาหาร ร้านกาแฟ สายการบิน รวมถึงชุมชนท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวในเขตเมืองน่านและพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ เทศบาลเมืองน่าน สนับสนุนสถานที่จัดกิจกรรม, สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน อำนวยความสะดวกด้านการจราจร,

โรงพยาบาลน่านและโรงพยาบาลภูเพียง สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และรถพยาบาลฉุกเฉิน รวมถึงแขวงทางหลวงชนบทน่าน สนับสนุนเส้นทางวิ่งและไฟฟ้าส่องสว่าง

การจัดการแข่งขันครั้งนี้นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัดน่านในระดับประเทศและนานาชาติ/ภาพข่าว/สนง.ปชส.น่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มุกดาหาร​ -​ชุดสืบ ภ.จว.มุกดาหาร สกัดยาบ้า 2 ล้านเม็ด รวบผู้ต้องหา 3 ราย

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และพล.ต.ต.ไพโรจน์ ไทยพุทรา ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร รวมแถลงข่าว ชุดสืบ ภ.จว.มุกดาหาร ตรวจยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด พร้อมจับผมผู้ต้องหาได้ 3 ราย

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 พล.ต.ต.ไพโรจน์ ไทยพุทรา ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เดชา เวฬุวนารักษ์ สว.กก.สืบสวน ภ.จว.มุกดาหาร นำกำลังเฝ้าติดตามขบวนการค้ายาเสพติด หลังสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาจำนวนมากผ่านเส้นทางจาก อ.เมืองมุกดาหาร มุ่งหน้า อ.นิคมคำสร้อย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัดบริเวณถนนชยางกูร บ้านโค้งสำราญ ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร พบรถยนต์เก๋งมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กท 3565 กาฬสินธุ์ ตรงตามที่ได้รับแจ้ง จึงเรียกตรวจค้น ภายในรถพบกระสอบสีดำ 5 กระสอบ บรรจุยาบ้ารวมประมาณ 2,000,000 เม็ด โดยมีผู้ครอบครองคือ นายนันทกานต์ พันธุ์เพชร (ผู้ขับขี่) และนายธรรมรัฐ ผุดผ่อง (นั่งโดยสาร)

จากการสืบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่โรงแรมเคียงโขง พบผู้ร่วมขบวนการอีก 1 ราย คือ น.ส.ละอองดาว สมประสงค์ ภรรยาของนายนันทกานต์ฯ ที่พักอยู่หน้าห้อง 109 จึงจับกุมได้เพิ่มเติม

ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” พร้อมนำของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด และรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับยาบ้า2ล้านเม็ด #มุกดาหาร #SealStopSafe #NoDrugsNoDealers #ชุดสืบมุกดาการ #ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้/////เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา พร้อมคณะกรรมมาธิการทหาร เเละความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่ จ.ชุมพร

https://drive.google.com/file/d/18i3P2pqNYiBHvadrGDM0y_gAj2vsgtQq/view?usp=sharing

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ – วันเสาร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๘ ณ จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง เดินทางไปศึกษาดูงาน ของคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความมั่นคงชายแดนภาคตะวันตก แรงงานต่างด้าว การหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด

แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการใช้โครงข่ายการสื่อสารข้ามประเทศ และอาชญากรรมข้ามชาติ ที่กระทบต่อความมั่นคง รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงแบบองค์รวม ป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดนภาคตะวันตก แรงงานต่างด้าว การหลบหนีเข้าเมือง และยาเสพติด

การรักษาปลอดภัยของประชาชนและความเชื่อมั่นของภาคเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลความมั่นคงตามแนวรอยต่อชายแดน การแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องของการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งของแม่น้ำกระบุรี อ.กระบุรี

 วันที่ 25 กันยายน 2568 เวลา 1020 พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว รองเเม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พันเอก ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5, พันเอก สิทธิชัย โกศล รองเสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 44, ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการด้านความมั่นคงจังหวัดชุมพรเเละจังหวัดระนอง ร่วมให้การต้อนรับ พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะฯ ในโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ และความมั่นคงชายแดนด้านตะวันตกของประเทศไทยในพื้นที่จังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง รวมทั้งรับทราบปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงแบบองค์รวมจากหน่วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่ ในการนี้ทางคณะได้รับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี, หน่วยงานความมั่นคงของจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนองเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์และความมันคงชายแดนภาคตะวันตก แรงงานต่างด้าว การหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการใช้โครงข่ายการสื่อสารข้ามประเทศ และอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทบต่อความมั่นคง รวมถึงกรณีพื้นที่ทับซ้อนของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนประเทศไทย - เมียนมา 

ในพื้นที่ตำบล จ.ป.ร. อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง และการทำพนังกั้นน้ำเเนวลุ่มแม่น้ำกระบุรี ทั้งนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอให้คณะฯ นำข้อมูลปัญหาต่างๆ ที่ได้รับฟัง ไปเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้น

ในพื้นที่ชายแดน โดยใช้กระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง

มีการจัดทำระบบป้องกันและเฝ้าระวัง ตลอดจนการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน และประเทศเพื่อนบ้าน วางโครงสร้างพื้นฐานในการส่งเสริมอาชีพจน

เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติในอนาคตต่อไป ณ มณฑลทหารบกที่ 44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ หมู่ที่ 1 ตำบลวังใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / นรข.เขตหนองคาย สน.เรือบึงกาฬ ตรวจยึดยาบ้าล้านเม็ด ริมฝั่งโขงบ้านห้วยดอกไม้

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 19.30 น. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย (นรข.) สน.เรือบึงกาฬ ภายใต้การอำนวยการของ นาวาโท รุ่งเรือง มาสุทธิ หัวหน้าหน่วยเรือบึงกาฬ

ได้สนธิกำลังออกปฏิบัติการตรวจสอบและสกัดกั้นยาเสพติด หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่บริเวณบ้านห้วยดอกไม้ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

จากการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ เจ้าหน้าที่พบเรือต้องสงสัยพายเลาะตามริมแม่น้ำโขง เข้ามาในเขตพื้นที่ ก่อนจะแล่นกลับออกไปยังฝั่ง สปป.ลาว ในช่วงเวลาเดียวกันพบชายหนึ่งคนลำเลียงวัตถุต้องสงสัยขึ้นจากริมฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน กระโดดน้ำว่ายหลบหนีไปในความมืด

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบลังกระดาษห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 5 ลัง ภายในบรรจุ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมประมาณ 1,000,000 เม็ด พร้อมตรวจยึด รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง 1 คัน ที่ใช้ในการลำเลียงของกลาง ทิ้งไว้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ด้านหลังป่าช้าบ้านห้วยดอกไม้ ตำบลโคกก่อง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางทั้งหมดส่ง สน.เรือบึงกาฬ เพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียด และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตม.มุกดาหารเตือน! นำรถออกนอกประเทศต้องมีเอกสารครบ-ถูกต้อง หากไม่นำรถกลับเข้าภายในกำหนด จะถูกขึ้นบัญชีเฝ้าระวัง

พันตำรวจเอก พิทักษ์พงษ์ เจริญกุล ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยถึงเพจกรณีมีเฟซบุ๊กชื่อดังด้านอู่ซ่อมรถและประดับยนต์ใน สปป.ลาว ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คน ได้โพสต์ข้อความเสนอ “บริการรับจ้างนำรถยนต์จากประเทศไทยเข้าลาว” โดยคิดค่าบริการ ครั้งละ 160,000 บาท ว่า การนำรถออกไปนอกราชอาณาจักรต้องผ่านขั้นตอนการตรวจอนุญาตที่ถูกต้อง โดยเอกสารหลักที่ต้องใช้ ได้แก่ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (ตัวจริง), เอกสารการเสียภาษี, สำเนาบัตรประชาชนผู้ถือกรรมสิทธิ์ รวมทั้งเอกสารการมอบอำนาจที่ติดอากรแสตมป์ ในกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ได้เดินทางด้วยตนเอง

สำหรับขั้นตอนการตรวจอนุญาต ผู้ประสงค์จะนำรถออกนอกประเทศต้องนำรถยนต์พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และเอกสารการเดินทาง (พาสปอร์ต หรือบอร์เดอร์พาส) ไปยื่นขออนุญาตที่ช่องตรวจรถยนต์ขาออก โดยต้องกรอกแบบฟอร์ม ตม.2, ตม.3, ตม.4 และ ตม.53 ก่อนยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและประทับตราอนุญาต

พันตำรวจเอกพิทักษ์พงษ์ กล่าวต่อว่า ทาง ตม.มุกดาหาร มีมาตรการตรวจสอบเข้ม โดยเน้นการตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้องตรงกับรถยนต์ที่ขออนุญาต พร้อมทั้งเก็บสถิติรถยนต์ที่ออกไปแต่ไม่ได้นำกลับเข้ามาฝั่งไทย ซึ่งหากผู้ใดไม่นำรถกลับภายในเวลาที่กำหนด จะถูกบันทึกชื่อเป็น “บุคคลเฝ้าระวัง” เพื่อพิจารณาอย่างเข้มงวดในการขออนุญาตครั้งต่อไปทั้งนี้ ทางการ สปป.ลาว ได้มีมาตรการใหม่ ลดระยะเวลาการอนุญาตให้นำรถยนต์ไปใช้ชั่วคราว จากเดิม 30 วัน เหลือเพียง 15 วัน ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะนำรถไปใช้งานในฝั่งลาวควรปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา#ตมมุกดาหาร #รถข้ามแดน #ตรวจเข้มชายแดน #มุกดาหาร #สะหวันนะเขต #คำม่วน #ข่าวด่วน #เตือนภัยชายแดน #ข่าววันนี้/////เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / มทร.รัตนโกสินทร์ สร้างฮีโร่ครั้งใหญ่จัดอบรมนักศึกษาช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานหากเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 24 ก.ย.68 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นภาพร นาคทิม รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตวังไกลกังวล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการ “BDMS

อบรมการช่วยชีวิต” Big Campaign รวมพลังสร้างฮีโร่ครั้งใหญ่ เนื่องในวันมหิดล โดยมี นางศศิเพ็ญ ปิยสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน และโรงพยาบาลกรุงเทพเพชรบุรี นายเชษฐพล มณีฉาย ผู้จัดการแผนกการตลาดและสื่อสารองค์กร

โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน พร้อมด้วย คณะครูอาจารย์มหาวิทยาลัยฯ นักศึกษาจากสโมสรโรทาแรคท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล จำนวน 2 รุ่น ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย กว่า 200 คน เข้ารับการอบรม ผศ.นภาพร นาคทิม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช

มงคลรัตนโกสินทร์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี จึงได้ร่วมกับทางโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหินจัดกิจกรรมนี้ เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ที่ถูกต้อง และมีความมั่นใจในการรับมือหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น หากพบเจอก็สามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง เพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้เพื่อนมนุษย์

นางศศิเพ็ญ ปิยสุทธิ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน จัดการอบรมนี้ตามนโยบายของของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จํากัด (มหาชน) หรือ BDMS มาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เข้าการอบรมจะมีความรู้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วยเบื้องต้น (Basic Life Support) เมื่อ

เกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนได้อย่างถูกวิธีก่อนส่งถึงมือแพทย์ การอบรมจะมีทั้งภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้ที่หัวใจหยุดเต้นด้วยการปั๊มหัวใจ (CPR) ที่ถูกวิธี การใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)

และการช่วยเหลือผู้ป่วยสำลักอุดกั้นทางเดินหายใจ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน และภาคีเครือข่าย อาทิ เทศบาลนครหัวหิน มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน และมูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน มาเป็นวิทยากรให้ความรู้

ตามแนวคิดที่ว่า แม้ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ หากเรามีองค์ความรู้และมีความมั่นใจ ผ่านการอบรมและฝึกปฏิบัติจริง โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้หลักการที่เป็นสากล.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ตร.ทท.ประจวบฯ จัดอบรมเครือข่ายอาสาสมัครฯ พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว “สะดวก-ปลอดภัย-เป็นธรรม”

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

เมื่อวันที่ 24 ก.ย.68 ตามศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว (ศปทท.ตร.) พ.ต.อ.ประภาวิน ฉายโฉมเลิศ รอง ผบก.ทท.3, พ.ต.ท.วรพรต ผลานิสงค์ รอง ผกก.1 ทท.3, พ.ต.ท.อาณัฐชัย ก้อนทอง สวญ.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 (ประจวบคีรีขันธ์), พ.ต.ต.ชโนวิทก์ สีเนหะ สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 และตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พร้อมผู้เข้ารับการอบรมอาสาสมัคร จำนวน 100 คน

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

ร่วมในพิธีเปิดการอบรม “โครงการอบรมอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแกนักท่องเที่ยว” ของศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี โดยมี พ.ต.อ.สุพมาส บัวลาด รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เป็นประธานเปิดการอบรม ระหว่างวันที่ 22-23 ก.ย.68 ณ ห้องประชุมบ้านพิงภูแพรว รีสอร์ท อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้กำหนดให้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์หลัก “สะดวก-ปลอดภัย-เป็นธรรม” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีมาตรฐานความปลอดภัยและการบริการระดับสากล โดยได้ดำเนินการจัดทำโครงการอบรมโครงการอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว เพื่อดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว พ.ศ.2568

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

เพื่อให้อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว มีความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ถูกต้อง เหมาะสมในการให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ โดยให้หน่วยในสังกัดจัดอบรมบรรยายเน้นบทบาทอาสาสมัครใน 3 มิติ ตามยุทธศาสตร์กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว คือ – สะดวก (Convenience) ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงตำรวจได้ง่ายและทันสมัย เช่น ศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 แปดภาษา, TTP Application,

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

และเครือข่ายสถานทูต – ปลอดภัย (Safety) ประเทศไทยต้องเป็น Safe Destination โดยอาสาสมัครคือ “หูตา” ของตำรวจ และ “เกราะใจ” ของสังคม ที่ช่วยป้องกันเหตุร้ายตั้งแต่ยังไม่เกิด – เป็นธรรม (Fairness) นักท่องเที่ยวได้รับความยุติธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เช่น การจัดการทัวร์เถื่อน, Taxi หลอกลวง และอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งคาดว่าหลังจบการอบรมในครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้ ความเข้าใจ เพื่อนำไปต่อยอดในการเป็นอาสาสมัครดำเนินงานเกี่ยวกับที่ได้รับอบรมมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี-ประจวบฯ ต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

ส.ส.ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับและถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหาร คณะครู และนักเรียน โรงเรียนเขากะลาวิทยาคม

วันพุธที่ 24 กันยายน 2568 นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับและถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหาร คณะครู และนักเรียน โรงเรียนเขากะลาวิทยาคม ตำบลเขากะลา 
อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมรัฐสภา  คณะฯ ได้เข้าชมห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร รับฟังข้อมูลความรู้เกี่ยวกับกระบวนการประชุมสภา และได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดีให้แก่นักเรียน 

สส.ทรงศักดิ์ ยังกล่าวชื่นชมคณะครูที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ใกล้ชิดการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร และขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ นักเรียนทุกคนเติบโตเป็นเยาวชนคุณภาพของจังหวัด

นครสวรรค์และของประเทศต่อไปแป๊ะยิ้มคอนหวัน #ทรงศักดิ์ส่งเสริมอุดมชัย #สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครสวรรค์เขต2พรรคเพื่อไทย #อําเภอเมืองนครสวรรค์ #พยุหะคีรี #โกรกพระ #นครสวรรค์บ้านเรา

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / สำนักศิลปากร 12 แจ้งความเอาผิดคนลักลอบขุดเขาสามแก้ว

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 24 กันยายน 2568 นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช พร้อมนางสาวกาญจนา สากระแสร์ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร และเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบร่องรอยการลักลอบขุดค้นหาโบราณวัตถุ บริเวณแหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร หลังจากได้รับทราบจากสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีบุคคลโพสต์ Facebook ระบุว่า มีการลักลอบขุดค้นในพื้นที่ดังกล่าว

จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่ามีหลุมร่องรอยการขุดหลายจุด ซึ่งเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผู้กระทำความผิดลอยนวล ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 จึงได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองชุมพร เพื่อแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สหชาติ สังข์สม พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองชุมพร ขอให้สืบหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ การลักลอบขุดค้นโบราณวัตถุมีโทษร้ายแรงตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 700,000 บาท และหากผู้ใดซ่อนเร้น จําหน่าย หรือรับซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุอันได้มาโดยการกระทําความผิด ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

“สำนักศิลปากรที่ 12 ขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมเฝ้าระวังและอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์ หากพบเห็นการลักลอบขุดค้น ครอบครอง ซื้อ ขาย หรือรับซื้อโบราณวัตถุ โปรดรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสำนักศิลปากรใกล้เคียงทันที เพื่อร่วมกันปกป้องสมบัติอันล้ำค่าของชาติให้คงอยู่สืบไป ซึ่งสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช สามารถโทร.แจ้งได้ที่หมายเลข 075-356458 หรือที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร โทร.077-630758” นายภัทรพงษ์ กล่าว

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง