สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / เปิดการแข่งขันกีฬาสีโรงเรียนฝวาหมินกงลิ ประจำปีการศึกษา 2568

วันที่ 23 กันยายน 2568 นายณัฐวัฒน์ โชติกสถิตย์ ประธานสภาเทศบาลเมืองชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธาน
ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาสีประจำปีการศึกษา 2568 ร่วมกับ

นายประชา วิโรจน์ทินกร ในฐานะ ประธานมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ นายอรรถสิทธิ์ ลิมสถายุรัตต์ ผู้รับใบอนุญาต โรงเรียน

ฝวาหมินกงลิ ดร. มยุรีย์ ทิพย์ญาณ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะผู้บริหารโรงเรียน นักกีฬา กองเชียร์ที่รักทุกคน

นายอรรถสิทธิ์ ลิมสถายุรัตต์ กล่าว โรงเรียนฝวาหมินกงลิ การจัดการแข่งขันกีฬาสีทางโรงเรียนจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่ง

เสริมให้นักกีฬา มีทักษะด้านกีฬาพื้นฐาน เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคี ปลูกฝังให้นักกีฬาเล่นกีฬาด้วยน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้

ชนะ รู้อภัย ห่างไกลยาเสพติด ดังคำขวัญที่ว่า เสียเหงื่อให้กับการกีฬาดีกว่าเสียน้ำตาให้กับยาเสพติด ในการแข่งขันกีฬา แบ่ง

นักกีฬา กองเชียร์ออกเป็น 4 สี ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน สีม่วง และ สีชมพู โดยมีนักกีฬาและกองเชียร์เข้าร่วมทั้งหมด 1,600 คน

โรงเรียนได้รับการสนับสนุนวงดุริยางค์ 1. วงโยธวาทิตมณฑลทหารบกที่ 44 2. วงโยธวาทิตโรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา 3. วงโย

ธวาทิตโรงเรียนนิรมลชุมพร 4. วงโยธวาทิต โรงเรียนสวีวิทยา 5. วงโยธวาทิต โรงเรียนท่าแซะรัชดาภิเษก ได้รับการสนับสนุน เจ้า

หน้าที่จราจร การให้ความสะดวกปลอดภัยกับนักกีฬากองเชียร์ รับสนับสนุนรถพยาบาลจากมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์และ

คณะผู้ปกครองทุกท่านในการ จัดริ้วขบวนกีฬาสีเป็นอย่างดี ทางโรงเรียนจึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้


นายณัฐวัฒน์ โชติกสถิตย์  ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาสีโรงเรียนฝวาหมินกงลิ ประจำปีการศึกษา 2568 ในครั้งนี้ ผมได้เห็นถึงความสามัคคีในการทำงานและได้เห็นถึงการปลูกฝังให้นักกีฬา กองเชียร์ มีน้ำใจนักกีฬา และมีทักษะในการเล่นกีฬาเสมอมา สี่สีที่แบ่งออกเพื่อความสะดวกในการ แข่งขันขอให้เด็กๆจำไว้ว่า สุดท้ายแล้วเราจะกลับมาเป็นสีเดียวกันคือขาวแดง ผมได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาหลายครั้ง เห็นถึงความพร้อมเพรียง ความคิดสร้างสรรค์ ความสามัคคี พัฒนาขึ้นทุกปี เป็นที่น่าชื่นชมยินดีนัก ขอให้นักกีฬา กองเชียร์เล่นกีฬาอย่างมีน้ำใจนักกีฬา สนุกสนานและปลอดภัยกันทุกคน

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศรีสะเกษ อาจารย์อีฟ จินณ์ตวรรณ” เบอร์ 2 ภูมิใจไทย ลุยหาเสียงขุนหาญ ชูนโยบายเกษตร ชายแดน พูดแล้วทำ

การเมืองเขต 5 ศรีสะเกษคึกคัก “อาจารย์อีฟ” จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 2 ลงพื้นที่อำเภอขุนหาญ เดินเคาะประตูบ้าน พบปะชาวบ้านอย่างถึงพริกถึงขิง ชูนโยบายช่วยเกษตรกร ลดต้นทุนค่าปุ๋ย–แก้ราคาพืชผลตกต่ำ พร้อมควบคู่แก้ปัญหาชายแดน ย้ำจุดยืนพรรคภูมิใจไทย “พูดแล้วทำ” ไม่ซ้ำรอยการเมืองแบบเดิม บรรยากาศการหาเสียงเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น โดยอาจารย์อีฟเผยว่า จากการลงพื้นที่ทำให้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หลังเลือกผู้แทนพรรคเดิมต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี แต่ไม่เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม มีเพียงวาทกรรมการเมืองซ้ำ ๆ

“พรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ เราจะทำตามที่บอกกับพี่น้อง ประชาชนไม่อยากได้การเมืองแบบเก่า ๆ อีกต่อไป” อาจารย์อีฟกล่าว พร้อมย้ำถึงแนวทางการหาเสียงที่มุ่งตรงสู่ความต้องการของพื้นที่จริง ไม่ใช่คำสัญญาลอย ๆสำหรับนโยบายหลัก พรรคภูมิใจไทยเตรียมแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทั้งข้าวและมันสำปะหลัง ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรจำนวนมากต้องเป็นหนี้ค่าปุ๋ย พรรคได้วางโรดแมปชัดเจน โดยเริ่มแก้ปัญหามันสำปะหลังก่อน จากนั้นจะขยายไปสู่ราคาข้าว และดำเนินมาตรการลดต้นทุนการผลิตควบคู่กัน

ในด้านความมั่นคงชายแดน อาจารย์อีฟระบุว่า แม้อำเภอขุนหาญและอำเภอภูสิงห์จะไม่ใช่พื้นที่กระสุนตกโดยตรง แต่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการอพยพหนีภัย รวมถึงปัญหาเงินเยียวยาผู้ประสบภัยโดยตรงและสัตว์เลี้ยงที่เสียหายจำนวนมาก จึงต้องเร่งเข้ามาจัดการอีกทั้งยังมีปัญหาหมุดแดนบริเวณช่องสะงำจากบันทึกความเข้าใจ (MOU 43) ที่ทำให้เกิดการรุกล้ำพื้นที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญความเสี่ยง พรรคภูมิใจไทยประกาศจะผลักดันให้มีการเจรจาและหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นคงให้พี่น้องประชาชนชายแดน/////

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายกฯอนุทิน ลงพื้นที่ กับผู้ว่าฯ เหตุดินทรุดตัวหน้า รพ.วชิระ ถ.สามเสน กำชับตรวจสอบสาเหตุ ป้องกันดินสไลด์เพิ่ม และเคลียร์พื้นที่ ด้าน ปภ. จัดทีมปฏิบัติการ สนับสนุน กทม. ตลอด 24 ชั่วโมง

วันนี้ (24 ก.ย. 68) เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายกาจผจญ อุดม

ธรรมภักดี ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามเหตุดินทรุด หน้าโรงพยาบาลวชิระ ถนนสามเสน กรุงเทพฯ เผยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังร่วมกันทำงานเพื่อควบคุม สถานการณ์ – ด้านผู้ว่า กทม. อพยพคนจากจุดเสี่ยงเรียบร้อย รฟม. เร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมปรับปรุงพื้นที่ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตและเดินทางสัญจรได้ตามปกติโดยเร็ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทว กล่าวว่า จุดที่ดินทรุดเป็นโครงการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งจะมีโครงสร้างรองรับอยู่แล้ว ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการทำงานเพื่อควบคุมสถานการณ์แล้ว ได้

เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1-2 วันนี้ เบื้องต้นได้ประสานว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมในการประสานความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครเพื่อรองรับและให้บริการผู้ป่วยและคนไข้ได้ตามปกติ ซึ่งเบื้องต้น คาดว่าไม่มีอุปสรรคในการรักษา ส่งต่อ และดูแลคนไข้

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า กทม. ได้มีการ ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง รฟม. กฟน. กปน. สปภ.กทม. วชิรพยาบาล และหน่วยอื่น ๆ เพื่อแก้ไขและควบคุมสถานการณ์ โดยเบื้องต้นต้องเร่งหยุดและป้องกันไม่ให้เกิดดินสไลด์ต่อเนื่อง ตอนนี้ทางกรมโยธาฯ ได้มีการประมวลสถานการณ์โดยรอบโรงพยาบาล ในส่วนของโรง

พยาบาลไม่มีข้อกังวลเพราะมีกำแพงกั้นดินอยู่ แต่เพื่อความปลอดภัยได้หยุดให้บริการผู้ป่วยนอกเพื่อลดการเดินทางของประชาชนเข้ามาในพื้นที่แล้ว ในส่วนของถนนฝั่งตรงข้ามที่เป็นสำนักงานตำรวจถือว่าเป็นเขตอันตราย ได้มีการควบคุมการเดินทางและกั้นไม่ให้ประชาชนเข้ามาในพื้นที่รัศมีประมาณ 100 เมตรจากจุดเกิดเหตุ ตอนนี้สิ่งที่เป็นห่วงคือฝนที่อาจจะตกลงมา ซึ่งอาจทำให้ดินสไลด์มากขึ้น จึงได้มีการประสานเตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่

ด้านผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เส้นทางที่เกิดเหตุเป็นสายสีม่วงใต้ เป็นอุโมงค์รถไฟใต้ดิน 2 ชั้น ตอนนี้ต้องเร่งตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เกิดสถานการณ์ขึ้น เบื้องต้นคาดเกิด

จากการเคลื่อนตัวของน้ำใต้ดินกับดินที่การเคลื่อนตัวทางอุโมงค์ชั้นล่างทำให้ตัวรอยต่อระหว่างอุโมงค์ทั้งสองชั้นมีการสไลด์ ทำให้ดินบางส่วนพร้อมกับน้ำไหลเข้าไป ซึ่งตอนนี้ได้เร่งทำงานเพื่อคืนสภาพพื้นที่ให้เร็วที่สุด

“ตอนนี้ต้องตรวจสอบว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ใครต้องทำงานส่วนไหน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งบูรณาการทำงาน อาจจะต้องกลับใช้โมเดลการทำงานตอนที่ตึก สตง. ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างถล่ม และมุ่งเน้นการเคลียร์พื้นที่ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว“ นายอนุทิน เน้นย้ำ

เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ กทม. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ปภ. ประจำ ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Command Post: ICP) ปฏิบัติงานเป็นวงรอบ เพื่อติดตามข้อมูล ประสานการปฎิบัติงาน และสนับสนุนความช่วยเหลือให้กับ กทม. ตลอด 24 ชั่วโมง ////////

#ปภ#ข่าว#อนุทิน#ดินถล่ม#วชิรพยาบาล

ลงพื้นที่ติดตามเหตุดินทรุดตัวหน้า รพ.วชิระ ถ.สามเสน ส่งทีมปฏิบัติการพิเศษ USAR Thailand พร้อมอุปกรณ์กล้องจับความความเคลื่อนไหวของโครงสร้างอาคาร เข้าช่วย กทม.

วันนี้ (24 ก.ย.68) เวลา 09.30 น.นายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้มอบหมายให้นายสหรัฐวงศ์ สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการติดตามสถานการณ์เหตุดินทรุดตัวบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลวชิระ ถนนสามเสน กรุงเทพฯ

ในเบื้องต้นสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานครได้ประสานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอรับการสนับสนุนทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ (USAR) พร้อมอุปกรณ์กล้องส่องความเคลื่อนไหวของโครงสร้างอาคาร เพื่อสนับสนุนภารกิจในการเข้าตรวจสอบพื้นที่ โดย

เฉพาะการตรวจสอบความทรุดตัวของอาคาร เพื่อความปลอดภัยในการเข้าปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่อไป ซึ่ง ปภ.ได้จัดส่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ หรือ USAR พร้อมอุปกรณ์พร้อมอุปกรณ์ชุดค้นหาพิเศษเข้าสนับสนุน กทม. ในเวลา 10:00 น.

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / คนเชียงกลาง จังหวัดน่านร่วมใจถวายผ้าป่ามหากุศล”คนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน”ปีที่ 10

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 09.39 น. ณ หอประชุมอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน นายโชดก ทองหาร นายอำเภอเชียงกลาง เป็นประธานในการถวายผ้าป่ามหากุศล”คนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน”ปีที่ 10 โดยคณะกรรมการกองทุนคนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน นำโดยนายทัตพงศ์ นันทะน้อย ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเชียงกลาง,
,นายอนันต์ บุญเทอม ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้าน (อสม.) อำเภอเชียงกลาง,นายประทุม นิลคง กำนันตำบลเชียงคาน,นายสังวาล สุโรพันธ์

กำนันตำบลพระพุทธบาท,นายสมเดช สายน้ำน่าน กำนันตำบลพระธาตุ,นายพงษกร ค่าคาม กำนันตำบลพญาแก้ว,นางสาวชนสกานต์ สุโรพันธ์ กำนันตำบลเปือ ร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ ชมรม อสม. ภาคเอกชน ร้านค้า และประชาชน ผู้มีจิตศรัทธา กำหนดจัดผ้าป่ามหากุศล”คนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน”ปีที่ 10 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อหาวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ สนับช่วยเหลือผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีฐานะยากจน ช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ ผู้ป่วยจิตเวช และผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัด และช่วยเหลืองานสุขภาพ ต่างๆที่พบว่าเป็นปัญหา โดยประชาชนพื้นที่อำเภอเชียงกลาง

ร่วมเป็นเจ้าภาพทุกหลังคาเรือน มีคณะสงฆ์ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานราชการต่างๆ ร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ , โดยได้ยอดรวมผ้าป่าทั้งหมด 731,729(เจ็ดแสนสามหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าบาทถ้วน) มีผู้เข้าร่วมถวายผ้าป่า อาทิ นายแพทย์อนุชิต สถาวรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงกลาง/นายกิตติเดช เกียรติมหาชัย เลขานุการ ส.ส.น่าน เขต 3/นายเมธี มะลิลม ผู้แทนเกษตรอำเภอ/นางพรมาลี ธาราทิพย์ พัฒนาการอำเภอเชียงกลาง/นางอุไร เปียงใจ

ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงกลาง/ผู้แทนนายก อปท.ทุกแห่ง/ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สารวัตร แพทย์ ทุกคน/อาสาสมัครรักษาดินแดน กองร้อยที่ 10 อำเภอเชียงกลาง/ ข้าราชการ ตำรวจ สภ.เชียงกลาง,กองร้อย ตชด.ที่ 325/ตัวแทน อสม.และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเชียงกลาง
ภาพข่าว ชาตรี ทำงาม สมาชิกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ให้ความรู้เรื่องสิทธิ คนพิการ มอบชุดเยี่ยม/รถวีลแชร์/ผ้าอ้อมสำเร็จรูป คนพิการ 12 ราย วัดศรีสุวรรณรัตนาราม [วัดดงแก้ว] ต.วังขอนขว้าง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

23 กันยายน 2568 : 13.30 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคน

พิการทางการเคลื่อนไหวสากล ร่วมกับ นางสุพิชชญา สาคร นายกสมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะ,พล.อ.ทวี ณ ชาตรี รอง หส.ผศ.ล.บ. และคณะ,ประธานเครือข่ายทหารผ่านศึก อ.โคกสำโรง และคณะ,รอง นายก อบต.วังขอนขว้าง,จิตอาสา รุ่น 8/25

เหล่าทหารปืนใหญ่,ผญบ.,อสม.,พ.ต.เฉลิม อินจำปา รองประธานเครือข่ายทหารผ่านศึก อ.โคกสำโรง ผู้ประสานงาน : ลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ของคนพิการ พร้อมมอบชุดเยี่ยม/รถวีลแชร์/ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ให้คนพิการ จำนวน 12 ราย ณ ศาลาเอนกประสงค์ วัดศรีสุวรรณรัตนาราม [วัดดงแก้ว] ต.วังขอนขว้าง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

*** ขอขอบคุณผู้บริจาค มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ดังรายนามต่อไปนี้ ***สมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์ : บริจาคชุดเยี่ยม จำนวน 7 ชุด/ผ้าอ้อมสำเร็จรูปนางศิริกาญจน์ เขื่อนเพชร : บริจาครถวีลแชร์ 1 คันนางสุพมณฑน์ คลังบุญครอง : บริจาคผ้าอ้อมสำเร็จรูป และแผ่นรองซับโรงแรม CENTARA : บริจาคแปรงสีฟัน ยาสีฟัน

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์สมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว

สากลสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรีเครือข่ายทหารผ่านศึกอำเภอโคกสำโรงองค์การบริหารส่วนตำบลวังขอนขว้างทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่2ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่4

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / ป้องกัน ลดยอดอัตราป่วยและเสียชีวิต Non-Communicable Diseases (NCDs)

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 สาธารณสุขระดมหมอ แกนนำ อสม.ทั้งจังหวัด ติวเข้มขับเคลื่อนดูแลสุขภาพประชาชนป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs)ลดยอดอัตราป่วยและเสียชีวิต Non-Communicable Diseases หรือ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นกลุ่มโรคที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อโรค และไม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้

แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยและพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม การขาดการออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ และความเครียด. กลุ่มโรคนี้มีลักษณะดำเนินโรคอย่างช้าๆ ค่อยๆ สะสมอาการ และมักเป็นเรื้อรัง. ตัวอย่างโรค NCDs ที่พบได้บ่อย ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด, เบาหวาน, โรคไตเรื้อรัง, โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง และมะเร็ง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ก.ย.68 ที่โรงแรมมรกตทวิน อ.เมือง จ.ชุมพร นางเดือนเพ็ญ เคี่ยนบุ้น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธาธารณสุขและเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนงานส่งเสริมปีองกันโรค NCDs จังหวัดชุมพร โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมนายแพทย์สาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลทุกแห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลคณะกรรมการชมรมอสม. หน่วยบริการสาธารณสุขทุกแห่ง และ อสม 320 คน

นางสาวสุดารัตน์ วงศ์นัฏจิรา หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาคุณภาพและรูปแบบบริการ สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดชุมพร กล่าวรายงานว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขและเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนงานส่งเสริมป้องกันโรค NCDs จังหวัดชุมพร ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) เล็งเห็นว่ากลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ถือเป็น
ปัญหาใหญ่ที่กำลังทวีความรุนแรง

จากสถิติติผู้เสียชีวิตจากกลุ่มโรค NCDs ในปี พ.ศ.2562 พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลกทั้งหมดมีถึง 63% ที่เกิดจากกลุ่มโรค NEDs สำหรับประเทศไทยสถิติล่าสุดพบว่า 14 ล้านคน พบในกลุ่มโรค NCDs เป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตของประชากรทั้งประเทศ โดยจากสถิติปี พ.ศ.2562 พบว่ามีประชากร
เสียชีวิตจากกลุ่มโรค NCDs มากกว่า 300,000 คน หรือคิดเป็น 73% ของการเสียชีวิตของประชากรไทยทั้งหมด มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกลุ่มโรค NCDs ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคถุงลมโป้งพอง และโรคอ้วนลงพุง

กระทรวงสาธารณสุขจึงหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนให้ อสม.มีส่วนร่วม เพื่อให้คนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) ได้ด้วยกลไก อสม.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร มีความตระหนักและเห็นความของปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs

จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพบุคลากรสารณสุขและภาคีเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บุคลากรและเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชนมีความรู้ความสามารถในการขับเคลื่อมงานป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และเพื่อลดปัญหาโรค

NCDs เพื่อให้บุคลากรและเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชนร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานศูนย์คนไทยห่างไกล NCDs ในสถานบริการสาธารณสุขให้ครบทุกแห่ง การจัดตั้งสถานีสุขภาพในทุกหมู่บ้านของจังหวัดชุมพร Hulth station เพื่อให้บุคลากรและเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชนได้แลกเปลี่ยนและขับเคลื่อนการดำเนินงานสุขภาพภาคประชาชนร่วมกับชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดชุมพร

สำหรับวิทยากร ที่ให้ความรู้ประกอบด้วย นายแพทย์ภัคพล ปัญจจิตติ นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ นายชาตรี เบญญาพันธุ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สสอ.เหนือคลอง และนางสาววรุญยุภา ยุติมิตร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.บ้านบางผึ้ง จังหวัดกระบี นายบุญสิงห์ แก้วสุข อสม.ดีเด่นระดับชาติ สาชา NCD ปี 2566 จังหวัดกระบี่

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประชาชน อ.พานเตรียมเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ต้านโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ จี้รัฐยกเลิก MOU

วันที่ 26 กันยายน 2568นี้ มวลชนต้านโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอำเภอพาน นัดรวมพลครั้งใหญ่แสดง. ยืนกรานไม่เอาโรงไฟฟ้า พลังงานขยะ จี้องค์กรณ์รัฐยกเลิก MOU อปท.ท้องที่เกี่ยวกับโครงการกำจัดขยะความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ประชาชนชาวอำเภอพาน 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลทานตะวัน ตำบลแม่เย็น ตำบลหัวง้ม ตำบลม่วงคำ ได้ออกมาเคลื่อนไหวจัดเวทีแสดงความคิดเห็นโดยมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเวทีแสดงความคิดเห็น และรวมพลังแนวร่วมแต่ละหมู่บ้านร่วมแสดงแนวคิดเห็นผลข้อได้เสีย การสร้างโรงงาน

ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่4 ตำบล ได้แสดงความคิดเห็นอันเป็นแนวทางอันเดียวกันว่าไม่เอาโรงงานไฟฟ้าจากพลังงานขยะฯโดยล่าสุดเมื่อวันที่4กันยายนที่ผ่านมาตัวแทนประชาชนในพื้นที่ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ ประธานคณะกรรมการจัดการ จัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย จังหวัดเชียงราย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับว่าเป็นการยื่นหนังสือถึงหน่วยงานของรัฐเนื่องจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีผลกระทบต่อห้วย หนอง คลอง บึงแหล่งน้ำสาธารณะในพื้นที่และมลพิษทางอากาศ จึงได้มีการเรียกร้องให้ยกเลิกMOU เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

อยู่ระหว่างองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่และเรียกร้องประชาชนสี4ตำบล จะนัดรวมพลครั้งใหญ่ซึ่งจะมีพลังมวลชนเกือบ 1,000 คน โดยนัดรวมพลที่ โรงเรียนบ้านปูแกงโดยจะมีการปราศรัยใหญ่และเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทาง ในพื้นตำบล ผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอพาน วกกลับเส้นทางถนนพหลโยธิน เพื่อแสดงถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไม่เอาโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะในพื้นที่อำเภอพานและการเรียกร้องให้มีการยกเลิกMOUโดยเร็วที่สุดความคืบหน้าจะนำเสนอให้ทราบต่อไป.

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สพม.น่าน จัดงาน “SPARK 3วิ สู่น่านเมืองสร้างสรรค์” ขับเคลื่อน Soft Power วิถีน่าน สู่อนาคตที่ยั่งยืน

วันที่ 23 กันยายน 2568 ณ ลานข่วงเมืองน่าน (ข่วงใหญ่) อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน จัดงาน “SPARK 3วิ สู่น่านเมืองสร้างสรรค์” ภายใต้โครงการ “เสริมสร้างศักยภาพผู้เรียนบนฐานพหุปัญญา สู่ Soft Power วิถีน่าน” เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุกและการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนครบทุกมิติ

กิจกรรมได้รับเกียรติจาก นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานเปิดงาน โดยมี นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวต้อนรับ และ นางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางโสภา ชวนวัน และ นางพัทธนันท์ พิพิธนวงค์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน โดยมีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษากว่า 520 คน

🪄วัตถุประสงค์การจัดงาน

  1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนบนฐานพหุปัญญา เชื่อมโยง Soft Power วิถีน่าน มุ่งสู่น่านเมืองสร้างสรรค์
  2. จัดเวทีสำหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำเสนอผลงานในรูปแบบนิทรรศการ ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านวิชาชีพ และด้านวิชาชีวิตตามหลักพุทธธรรม ด้วยกระบวนการ SPARK โดยมีการนำเสนอจากโรงเรียน 4 สหวิทยาเขต ได้แก่ 1) สหวิทยาเขตวรนคร 2) สหวิทยาเขตศิลาทอง 3) สหวิทยาเขตเวียงภูเพียง 4) สหวิทยาเขตเวียงป้อ รวมทั้งโรงเรียนภาคีเครือข่าย
  3. ส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน

⭐️ไฮไลต์กิจกรรม

การจัดแสดงนิทรรศการและผลงานจากโรงเรียนในสังกัดและเครือข่ายรวม 30 โรงเรียนการแสดงศักยภาพผู้เรียนทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิตตามหลักพุทธธรรมการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

🎊การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน “องค์กรแห่งคุณภาพคู่คุณธรรม ขับเคลื่อนนวัตกรรม สู่อนาคตที่ยั่งยืน” เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่บนฐานพหุ

ปัญญา เสริมสร้างทักษะอาชีพและการสร้างรายได้ระหว่างเรียน ตลอดจนยกระดับสู่การเป็น Soft Power ของจังหวัดน่าน เพื่อมุ่งสู่การเป็น “เมืองสร้างสรรค์” อย่างมั่นคงและยั่งยืน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปัตตานี – เลขาฯ ป.ป.ส เปิดงาน ยุวสิงห์มหาดไทย รวมพลังต่อต้านยาเสพติด ชมดนตรีในสวน มาลีฮวนน่า สร้างมูลค่าทางเศษฐกิจในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงาน วันที่ 22 กันยายน 2568 20.30 น. ที่ สวนสาธารณะพรุจงเปือย หมู่ที่ 4 ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จัดกิจกรรม “ยุวสิงห์มหาดไทย รวมพลังทำ ความดี ต่อต้านยาเสพติด มีการชมดนตรีในสวนมาลีฮวนน่า โดยมีเยาวชนเข้าร่วมกว่า 200 คน

โอกาสนี้ยังได้รับเกียรติจาก นางสาว อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายคอซีย์ มามุ ส.ส.ปัตตานี (เขต2ปัตตานี) นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และนางรอมละห์ มามุ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาประดู่ โดยมี นายเชาวลิต สิทธิฤทธิ์ นายอำเภอโคกโพธิ์ ได้มาเป็นผู้กล่าวรายงานในพิธีเปิดกิจกรรมในครั้งนี้

ซึ่งภายในงานมีการเปิดบูทขายสินค้าต่างๆ กิจกรรมรวม กลุ่มสันทนาการ การเรียนรู้วิธีปฏิเสธยาเสพติด และ การเลือกคบเพื่อนที่ดี การดำเนินชีวิตตามหลักศาสนา และการอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรม ความรู้ด้านกฎจราจร และการขับขี่ปลอดภัยจากสถานีตำรวจภูธรนาประดู่ และสถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ มีกิจกรรม แรลลี่เยี่ยมชม โครงการสร้างบ้านกาชาดและกลุ่มผู้เปราะบาง ที่ บ้านห้วยเงาะ ตำบลทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี

นอกจากนี้แล้ว ไฮไลท์ที่ประชาชนให้ความสนใจ การแสดง ดนตรีในสวนจากวง “มาลีฮวนน่า” วงดนตรีเพื่อชีวิตในตำนาน มาทำการแสดง เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุข และเสริมสร้างพลังอันเกิดจากความสามัคคีของคนในชุมชน นอกจากนี้การที่ชาวบ้านได้มีการเปิดบูทร้านค้าขายสินค้าในพื้นที่ยังก่อให้เกิดการกระตุ้นเม็ดเงินหลายล้านบาทเเละเศรษฐกิจที่กำลังก้าวไปข้างหน้าซึ่งกิจกรรม

ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ ได้รับความร่วมมือจาก นายคอซีย์ มามุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ปัตตานี เขต 2 ปัตตานี องค์การบริหาร ส่วนตำบลนาประดู่ ในการเอื้อเฟื้อสถานที่ในการจัดงาน มีการเปิดวีดิทัศน์สรุปกิจกรรม ประธานยุวชนสิงห์ ได้นำกล่าวคำปฏิญาณตนเพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ ก่อนเข้าสู่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ส.

ด้าน นางสาว อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การจัดกิจกรรม ยุวสิงห์มหาดไทยรวมพลังทำความดี ต่อต้านยาเสพติดครั้งนี้ ก็เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และ สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้แก่เยาวชนในพื้นที่

โดย กิจกรรมในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ในการป้องกัน และปราบปราม ยาเสพติดในเชิงรุก เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และการสร้างเครือข่าย เยาวชนในระดับพื้นที่ เพื่อป้องกัน การเข้าถึงยาเสพติดใน กลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อีกด้วย

ตอริก สหสันติวรกุล
ผอ.กองบรรณาธิการข่าว
(ศูนย์ข่าวภาคใต้ จ.ปัตตานี)

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ป.ป.ช. ชี้มูลทุจริต! จนท.พัสดุ สพป.มุกดาหาร–เอกชน พัวพันสมคบฮั้วประมูล จัดจ้างปรับปรุงอาคารเรียน 3 แห่งในพื้นที่ อ.คำชะอี – ผอ.ร.ร.หลุดอาญาแต่เจอวินัยร้ายแรง

นายนิรุท สุขพ่อค้า ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำวินิจฉัยในคดีหมายเลขดำที่ 67-1-1427/2565 และคดีหมายเลขแดงที่ 1114-1-50/2567 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียน 3 แห่ง ในอำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่พัสดุของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร (สพป.มุกดาหาร) ว่ามีการจัดจ้างปรับปรุงอาคารเรียนโดยวิธีพิเศษ ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีพฤติการณ์เอื้อประโยชน์แก่เอกชน

การสอบสวนพบว่าในปี 2557 น.ส.ทองม้วน สุทธิคุณ ขณะดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่พัสดุ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร ได้โน้มน้าวให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง คือ นายวิษุวัต วิมลเศรษฐ ร.ร.บ้านดงยาง 1 นางภัทร์สิริ ไชยธงยศ ร.ร.บ้านกกไฮโนนน้ำคำ และนายวิรัตน์ บุตรดีวงศ์ ร.ร.บ้านน้ำเที่ยงวันครู 2501 จัดจ้างโดยวิธีพิเศษ อ้างว่าหากล่าช้า งบประมาณจะถูกตัด ซึ่งไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้ น.ส.ทองม้วน เป็นผู้จัดหาผู้รับจ้างและคู่เทียบเอง ทำให้การจัดจ้างไม่มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม โดยมีโครงการที่เกี่ยวข้อง 3 รายการ ได้แก่
ปรับปรุงอาคารเรียน ร.ร.บ้านดงยาง 1 งบประมาณ 735,000 บาท ปรับปรุงอาคารเรียน ร.ร.บ้านกกไฮโนนน้ำคำ งบประมาณ 1,160,000 บาท และปรับปรุงอาคารเรียน ร.ร.บ้านน้ำเที่ยงวันครู 2501 งบประมาณ 200,000 บาทต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 107/2567 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 มีมติ คือ
ผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง พ้นมูลความผิดอาญา แต่มีมูลผิด วินัยร้ายแรง ฐานละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบจนทำให้ราชการเสียหาย น.ส.ทองม้วน สุทธิคุณ เจ้าหน้าที่พัสดุ มีมูลผิดอาญาหลายฐาน ทั้งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ม.157) สมคบเสนอราคา (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล 2542) และผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. รวมทั้งผิด วินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่

นางนภาพร แสนโสม และนางจรรยพร วังคะฮาต มีมูลผิดวินัยร้ายแรง ฐานลงนามเอกสารจัดจ้างทั้งที่ไม่มีการเสนอราคาจริง นายจุบรรณ บรรจง และนางจิรภา พรหมพิบูลย์ ไม่มีมูลผิดอาญา แต่มีมูลผิดวินัยไม่ร้ายแรงส่วนภาคเอกชน นางอรัญญา คูสกุลวัฒน, นายอภิเดช ปัททุม, หจก.กลางประพันธ์ก่อสร้าง และนายแดนศักดิ์ ทิพนัส มีมูลผิดอาญา ฐานสมคบเสนอราคาและสนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริต น.ส.ผาณิตา บุตรดีวงศ์ และหจก.ซีเอ็นเอส คณาทรัพย์ มีมูลผิดอาญาในลักษณะเดียวกัน ส่วนนางนันธิตา แสนโสม และหจก.สุทธิดา การโยธา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล

โดย ป.ป.ช.มีมติให้ส่งสำนวนและพยานหลักฐานไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อฟ้องผู้เกี่ยวข้องในคดีอาญา ได้แก่ น.ส.ทองม้วน สุทธิคุณ, นางอรัญญา คูสกุลวัฒน, นายอภิเดช ปัททุม, หจก.กลางประพันธ์ก่อสร้าง, น.ส.ผาณิตา บุตรดีวงศ์, หจก.ซีเอ็นเอส คณาทรัพย์ และนายแดนศักดิ์ ทิพนัสนอกจากนี้ ป.ป.ช.จะส่งเรื่องไปยัง ผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหารดำเนินการชดใช้ค่าเสียหาย และส่งข้อมูลเอกชนที่เกี่ยวข้องให้กรมบัญชีกลางขึ้นบัญชีดำเป็นผู้ทิ้งงานต่อไป

ทั้งนี้ ยังพบว่าจังหวัดมุกดาหารได้ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2567 โดยมีชื่อนางอรัญญา คูสกุลวัฒน สารวัตรกำนันตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี ได้รับรางวัลขั้นที่ 2 ของสารวัตรกำนัน ด้วย

ปปช #ปปชมุกดาหาร #ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง #ข่าวการศึกษา #ปราบโกง #มุกดาหาร #ฮั้วประมูล #สพป #สพปมุกดาหาร #โรงเรียนบ้านดงยาง1 #โรงเรียนบ้านกกไฮโนนน้ำคำ #โรงเรียนบ้านน้ำเที่ยงวันครู2501 #คำชะอี #มุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง