สื่อรัฐทีวีสื่อรัฐนิวส์ / รวมน้ำใจซับน้ำตาชาวใต้ ปภ.จังหวัด และปกครองอำเภอ- จังหวัด ทั้ง 22 อำเภอ คุณแม่โฆษกรัฐบาล นำชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติ ร่วมมอบเงินสด

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ ศาลากลางถนนเทพา อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นาย อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ ปภ.จังหวัด ได้มารับมอบสิ่งของ “รวมน้ำใจซับน้ำตาชาวใต้” ซึ่งวันนี้ ได้มี ชมรมแม่ดีเด่นจังหวัดศรีสะเกษ นำโดย นางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ คุณแม่ของโฆษกรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นำเงินสดมาร่วมบริจาคจำนวนหนึ่ง พร้อมกับประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ

ได้นำข้าวของเครื่องใช้ ที่จำเป็น ข้าวสาร อาหารแห้ง พริก – หอม – กระเทียม ยารักาโรค แป้งนาคา ผ้าอนามัย น้ำดื่ม เงินสด อื่นๆ ตามจิตศรัทธา เพื่อนำส่งมอบไปให้พี่น้องชาวใต้ โดยเฉพาะชาวหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่กำลังประสบอุทกภัยใหญ่ที่สุด ที่จะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย สร้างความเสียหาย กับการสูญเสีย ของพี่น้องชาวใต้เป็นอันมาก แม้วันนี้น้ำจะลดลง แต่การฟื้นฟูก็ยังมีความต้องน้ำใจจากพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ จังหวัดศรีสะเกษเอง โดยป้องกันบรรเทาสาธารรภัยจังหวัดศรีสะเกษ ได้ลำเลียงสิ่งของเครื่องใช้ ที่นำเป็น ส่งผ่านเครื่องบิน ซี300 ที่สนามบินอุบล ส่งตรงลงใต้มาแล้ว แต่ก็ยังมีความช่วยเหลือจากคนศรีสะเกษ ได้นำสิ่งของมามอบผ่าน ปภ.ศรีสะเกษ ตลอด วันนี้จึงได้ทำการรวบรวมอีกรอบ เพื่อนำส่งไปขึ้นเครื่องบิน ที่สนามบิน กองบิน21 จังหัดอุบล ส่งตรงลงใต้ ส่วนเงินสดก็ได้โอนเข้าบัญชี ที่รับบริจาคที่ภาคใต้โดยตรง เพื่อนำไปจัดสรรแบ่งไปตามหมู่บ้าน ชุมชน กระจายไปตามครอบครัว ตามระบบ เพื่อให้ถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดของไทย ในครั้งนี้

โดย อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า อันดับแรกต้องขอเป็นกำลังใจให้กับชาวหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ชาวภาคใต้ ที่พบเจอกับมหาอุทกภัย เชื่อว่าเป็นภัยที่ใหญ่สุดในรอบหลายสิบปี ที่เกิดเหตุขนาดนี้ ก็เนื่องจากน้ำฝนที่ตกมาก ตกหนักในระยะสั้นๆ ต่อเนื่อง และจากเหตุการณ์นี้ ตนเชื่อว่าพวกเราชาวจังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งคนไทยทุกคนก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่ง ท่านนายก อนุทิน บอกว่า ทุกข์ของชาวบ้าน ก็คือ ทุกข์ของเราชาวข้าราชการทุกคน ซึ่งในขณะนี้อุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ กำลังเข้าสู่การฟื้นฟู และท่านนายก อนุทิน ก็ได้เร่งในการเยียวยา ซึ่งในส่วนของจังหวัดศรีสะเกษ สิ่งของต่างๆ ที่มารวบรวมกันในวันนี้ ส่วนหนึ่งได้รับการบริจาคมาจากส่วนราชการต่างๆ ข้าราชการในจังหวัด ในอำเภอ และภาคเอกชน พร้อมวันนี้ยังได้รับการบริจาคเงินสด จากชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติ มาร่วมบริจาค เพื่อส่งความห่วงใยไปสู่พี่น้องชาวหาดใหญ่ ชาวใต้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเยียวยา การฟื้นฟู พี่น้องชาวหาดใหญ่ ชาวใต้ ต่อไป.

ขณะเดียวกันที่ ปกครองอำเภอ ทั้ง 22 อำเภอ ก็ได้เปิดรับสิ่งของ เครื่องใช้ ในการรวมน้ำใจเพื่อซับน้ำตาชาวใต้ เหมือนกันกับที่อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ นาย พศิน ทาศิริ นายอำเภออุทุมพรพิสัย และ นายสมพงษ์ จิริวิภากร นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลกำแพง เป็นหัวเรือใหญ่ในการเปิดรับสิ่งของเครื่องใช้ และที่ชาวบ้าน นำมามอบให้มากที่สุดก็เห็นจะเป็น ข้าวสาร เพราะชาวอีสาน ทำนา ปลูกข้าว จึงได้นำข้าวสารมามอบให้มากที่สุด ขณะนี้มีมากกว่า 10 ตันแล้ว ซึ่งจะได้ลำเลียงโดยรถยนต์ขนส่ง รถบรรทุกใหญ่ ส่งไปในวันพรุ่งนี้ก่อน พร้อมกับข้าวของอื่นๆ ที่ได้รับบริจาคมา ซึ่งตอนนี้เชื่อน่าจะเต็มรถบรรทุก 10 ล้อแล้ว มากกว่า 5 คัน เฉพาะในอำเภออุทุมพรพิสัย ตอนนี้ วันนี้
///////////////////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /นายก อบจ. ลงพื้นที่ ตรวจสอบถนนที่ชำรุด เป็นหลุมเป็นบ่อลึกส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมขัง

วันที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 10.30 น. นายสุนทร ปานแสงทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายพิษณุวัส คำงาม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ นายสิทธิชัย เกษรสิทธิ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ

นางสาวจันทร์เพ็ญ สมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ อบจ. ลงพื้นที่ ตรวจสอบถนน สป.3075 หมู่ 19 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ชำรุด พื้นผิวถนนเป็นหลุมเป็นบ่อลึก ท่อระบายน้ำอุดตัน ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมขัง เป็นระยะเวลานาน

โดยทาง อบจ.สมุทรปราการ ได้ทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยการนำหินคลุกมาลงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว แต่เนื่องด้วยถนนเส้นนี้มีรถยนต์และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ใช้งานตลอดเวลา ทำให้ถนนเกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น จนอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก สัญจรไปมาเกิดความเดือดร้อน และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในการใช้ถนนได้


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทนายความ จ.พัทยา รวมพลัง “รวมน้ำใจ สู้มหาอุทกภัยภาคใต้ 68”/ Treee Time Cafe จัดกิจกรรมวันขอบคุณพระเจ้า ลูกค้าร่วมงานอบอุ่น

มีรายงานว่าที่สำนักงานยศสุภาทนายความ (ตลาดจีนซากแง้ว) หมู่ 10 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ทีมทนายความจังหวัดพัทยา ร่วมกันจัดกิจกรรมโครงการ
“รวมน้ำใจ สู้มหาอุทกภัย ภาคใต้ 68” เพื่อรับบริจาคสิ่งของจำเป็นในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยการรับบริจาคครั้งนี้จัดขึ้นเพียง 1 วันเท่านั้น และสิ่งของทั้งหมดจะถูกรวบรวมเพื่อนำไปสมทบกับชุดช่วยเหลือของ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา (นาเกลือ) เพื่อส่งต่อถึงมือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว

ภายในงานมีประชาชน ผู้ประกอบการ และผู้ที่เดินทางผ่านตลาดจีนซากแง้ว เข้าร่วมบริจาคสิ่งของอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง ขนม นม ผ้าอนามัย ยาสามัญประจำบ้าน และของใช้จำเป็นต่าง ๆ โดยทางคณะผู้ดำเนินงานขอรับเฉพาะ สิ่งของเท่านั้น (งดรับเงินสด) เพื่อให้การจัดส่งและการคัดแยกทำได้อย่างเป็นระบบและทันการช่วยเหลือ

คณะทำงานทนายความจังหวัดพัทยาที่ร่วมดำเนินการในครั้งนี้ประกอบด้วย นายสุขสันต์ มิสสาจันทร์ ประธานสภาทนายความจังหวัดพัทยา นายสมยศ นานาประเสริฐ รองประธานฯ นายพีระชัย ชวรัตน์โชติวงศ์ รองประธานฯ นายปรเมศ อักษรดี รองประธานฯ นายบุญมี เอกอุ่น กรรมการ นายประเวศ คำสว่าง กรรมการ นายสิทธิชัย ตีย์วัฒน์ กรรมการ นายชนะชล อ่อนสะอาด ที่ปรึกษา นายลือชัย ทีคาสุข ที่ปรึกษา

นายสุขสันต์ คณะทำงานกล่าวว่า การรวมพลังน้ำใจของชาวพัทยาครั้งนี้ แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งวัน แต่ทุกสิ่งของที่ได้รับบริจาค จะถูกนำไปช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ที่ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง และยังต้องการสิ่งของจำเป็นอีกจำนวนมาก การร่วมมือกับมูลนิธิสว่างบริบูรณ์จึงเป็นช่องทางที่ทำให้ความช่วยเหลือส่งต่อถึงพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

Treee Time Cafe จัดกิจกรรมวันขอบคุณพระเจ้า ลูกค้าร่วมงานอบอุ่น น.ส.ศิรณัฐ พงษ์พิระ ผู้บริหารร้าน Treee Time Cafe ได้จัดกิจกรรมวันขอบคุณพระเจ้า โดยมีกลุ่มลูกค้าเข้าร่วมงานเพื่อพบปะพูดคุย ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

ทั้งนี้ ทางร้านได้ให้บริการอาหารไทย อาหารนานาชาติ และเครื่องดื่ม ทั้งบริเวณชั้น 1 และบริเวณชั้นดาดฟ้าของร้าน เพื่อเพิ่มอรรถรสให้การเข้ารับบริการ ด้วยดีเจมากความสามารถคอยเปิดแผ่นเล่นเพลง

วันขอบคุณพระเจ้า หรือ Thanksgiving Day เป็นวันหยุดประจำชาติ ซึ่งจัดขึ้นในวันของเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ไลบีเรีย เซนต์ลูเซีย และไม่เป็นทางการในบางประเทศ เช่น บราซิล เยอรมัน และฟิลิปปินส์

โดยเริ่มต้นมาจากวันขอบคุณพระเจ้าหลังสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว แม้ว่าวันขอบคุณพระเจ้าจะมีรากฐานประวัติศาสตร์จากประเพณีทางศาสนาและวัฒนธรรม แต่ก็ได้รับการเฉลิมฉลองในฐานะวันหยุดมาอย่างยาวนานเช่นกัน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / คึกคัก !! วันรับสมัครศึกชิงนายก อบต.คลองด่าน ลั่นวาจา “ รู้แพ้ รู้ชนะ ”ผู้สมัคร 3 คน สมาชิก13 คน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

คึกคัก !! วันรับสมัครศึกชิงนายก อบต.คลองด่าน ลั่นวาจา “ รู้แพ้ รู้ชนะ ” เผย มีผู้สมัครชิงนายกจำนวน 3 คน สมาชิกทีมละ 13 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก หลังได้เบอร์ประจำทีม ว่าที่นายกฯ จับมือกันลั่นวาจาลูกผู้ชาย จะแข่งกันด้วยความบริสุทธิ์ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน เมื่อรู้ผลแพ้-ชนะ ต้องยอมรับและไม่ร้องเรียนกันในภายหลัง

เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.2568 ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองด่าน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้เปิดรับสมัครผู้ที่มีความประสงค์เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองด่าน และ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองด่าน

โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-5 ธ.ค.2568 เวลา 8.30 – 16.30 น.ไม่เว้นวันหยุดราชการ เช้านี้มีผู้สนใจเดินทางเข้ามาสมัครชิงตำแหน่งนายกฯ จำนวน 3 คน แต่ละคนมาพร้อมทีมงานและกองเชียร์ก่อนเวลาเปิดรับสมัคร ดังนั้นคณะกรรมการ จึงต้องใช้วิธีให้จับเลือกเบอร์โดยเปิดเผย ปรากฏว่า นายอำนาจ หล่อนิล (ทีมพัฒนาคลองด่านยั่งยืน)

ผู้สมัครนายกฯ ได้เบอร์ 1 , นายสัมฤทธิ์ จันทร (ทีมเรารักคลองด่าน) ได้เบอร์ 2 และ นายณัฐนันท์ จิระนนท์เสถียร (ทีมพลังชุมชน)ได้เบอร์ 3 สำหรับเป็นเบอร์ประจำตัวของนายกฯและสมาชิกในการใช้หาเสียงกับประชาชน หลังจากที่ดำเนินการเรื่องเอกสารเสร็จแล้ว ทั้ง 3 ทีม

ได้ลงมาหากองเชียร์รับดอกไม้ คล้องพวงมาลัยและถ่ายรูปกันอย่างคึกครื้นโดยจุดสำคัญนั้น ผู้สมัครขิงตำแหน่งนายกฯ ได้เข้ามาพูดคุยจับมือกัน พร้อมให้คำมั่นสัญญา จะแข่งขันกันอย่างโปร่งใส ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือก หลังรู้ผลแพ้-ชนะในวัน

ที่ 11 ม.ค.2569 แล้ว ว่าใครได้เป็นนายกฯ จะไม่แกล้งหรือร้องเรียนกันในภายหลัง ซึ่งก็ทำให้บรรยากาศของการเริ่มต้นแข่งขันชิงผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองด่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา “ รู้แพ้ รู้ชนะ ”


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

AOT สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สนามบินทุกแห่งประเมินและจัดการก๊าซเรือนกระจกครบวงจร
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เดินหน้ารักษามาตรฐานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ได้รับการรับรองตามโปรแกรม Airport Carbon Accreditation (ACA) ของ Airports Council International (ACI) ในระดับที่ 3 Optimisation ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ได้รับการรับรองในระดับที่ 2 Reduction นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่าการที่ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT

เข้าร่วมโปรแกรม ACA สะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการรับผิดชอบต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกในรูปคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO₂e) ที่ปล่อยจากกิจกรรมภายในขอบเขตการปฏิบัติการของท่าอากาศยานตามแนวทาง Airport Carbon Accreditation Guidance Document ซึ่งผลการประเมินนี้ช่วยให้ท่าอากาศยานสามารถวางแนวทางบริหารจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ โปรแกรม ACA มีทั้งหมด 5 ระดับ โดยระดับที่สูงขึ้นสะท้อนถึงความเข้มข้นในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของท่าอากาศยาน โดย AOT ได้ตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างชัดเจน โดย ทสภ. ทดม. ทชม และ ทภก.ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมที่อยู่ภายใต้การควบคุมของท่าอากาศยานต่อผู้โดยสาร ร้อยละ 10 ภายในปี 2571 เมื่อเทียบกับปี 2566 ขณะที่ ทชร. และ ทหญ. ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยรายได้ ร้อยละ 7 ภายในปีเดียวกัน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นางสาวปวีณา กล่าวว่า การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกถือเป็นหนึ่งในแนวปฏิบัติทางธุรกิจมาตรฐาน (Standard Business Practice) ที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกให้ความสำคัญ เพราะเป็นตัวชี้วัดความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นักลงทุนจึงให้ความสนใจข้อมูลดังกล่าวเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นนี้ AOT จึงพัฒนาการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ท่าอากาศยานทุกแห่งที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบเป็นต้นแบบด้านความยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและผู้โดยสารอย่างยั่งยืนต่อไป


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายก.หน่อย อบจ.โคราช ผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ มอบถุงน้ำใจ 500 ชุด ช่วยผู้ประสบอุทกภัยพัทลุง

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่สำนักงานช่าง ตำบลมะเริง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เดินหน้าส่งต่อพลังน้ำใจสู่พี่น้องชาวภาคใต้ที่กำลังประสบอุทกภัยรุนแรง

โดย ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล (นายกหน่อย) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ อบจ.นครราชสีมา ร่วมจัดเตรียมและมอบ “ถุงน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดพัทลุง” จำนวน 500 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

ภายในถุงยังชีพประกอบด้วยอาหารแห้ง สิ่งของจำเป็น น้ำดื่ม และอุปกรณ์ดูแลสุขภาพพื้นฐาน โดยทีมงาน อบจ.โคราช ได้เร่งบรรจุและส่งมอบสิ่งของอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ถึงมือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

นางยลดา เปิดเผยว่า การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นความตั้งใจของ อบจ.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ต้องการส่งกำลังใจไปยังพี่น้องชาวใต้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมย้ำว่าทางจังหวัดโคราชจะยังคงติดตามสถานการณ์และพร้อมสนับสนุนเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น

การส่งมอบถุงน้ำใจครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของท้องถิ่นเมืองย่าโม ในการยืนเคียงข้างพี่น้องคนไทยทั่วประเทศเมื่อเกิดวิกฤต พร้อมเดินหน้าสานต่อภารกิจช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง.

กันตินันท์ เรืองประโคน จ.นครราชสีมา/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กรมทรัพยากรน้ำ1 ลงพื้นที่ ดูโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำฯ สนับสนุนน้ำต้นทุนระบบประปาตำบลบุญนาคพัฒนา จ.ลำปาง

กรมทรัพยากรน้ำ #โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1ลงพื้นที่ตรวจราชการ “โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำฯ สนับสนุนน้ำต้นทุนระบบประปาตำบลบุญนาคพัฒนา จ.ลำปาง” (กำชับติดป้ายสัญลักษณ์เพื่อแจ้งการเตือนภัย และการดูแลรักษาความสะอาด)

วันนี้ (28 พฤศจิกายน 2568) #นางสาวสุพัดสอน #สีมืด #ผุ้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สนับสนุนน้ำต้นทุนระบบประปาตำบลบุญนาคพัฒนา หมู่ที่ 5 หมู่บ้าน นิคมเขต 15 ตำบลบุญนาคพัฒนา อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง งบประมาณ พ.ศ.2568 (งบกลาง)

โดยมีช่างควบคุมงาน ลงพื้นที่ติดตามและรายงานผลการดำเนินงานให้ทราบ ซึ่งโครงการดังกล่าว ปัจจุบันมีผลการดำเนินงาน 20% หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถสูบน้ำ กระจายน้ำได้ 900 ลบม./วัน ประชาชนในพื้นทีได้รับประโยชน์กว่า 20 ไร่ 2,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 ได้มีการกำชับให้ช่างควบคุมงาน และผู้รับจ้าง ให้ติดป้ายสัญลักษณ์เพื่อแจ้งการเตือนให้ประชาชนทราบ ตลอดจนให้มีการติดไฟกระพริบหรือติดไฟให้สว่าง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนที่สัญจรผ่าน นอกจากนี้

ให้ปฏิบัติงานด้วยความรอบครอบ โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ เช่น การรักษาความสะอาดบนพื้นผิวถนน และการไม่สร้างสิ่งกีดขวางต่างๆ ให้กับประชาชน///

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปลัดกระทรวงคมนาคม พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคม 2568

ที่ ด่านตรวจพรมแดนบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2568 ร่วมกับอธิบดีกรมทางหลวง

และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ปลัดจังหวัดบึงกาฬ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ก่อสร้างสมบูรณ์แล้ว 100 % ทั้ง 2 ฝั่งโขง ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำในเรื่องความพร้อมของพิธีเปิดงาน ไฟส่องสว่าง และจุดให้บริการประชาชนที่มาร่วมในพิธีเปิด

สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ มีจุดก่อสร้างฝั่งไทยตั้งอยู่ที่บ้านดอนยม หมู่ที่ 5 ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ และฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ที่บ้านกล้วย แขวงบอลิคำไซ มูลค่าการลงทุน 3,930,000,000 บาท

โดยแยกเป็นฝั่งประเทศไทยวงเงิน 2,630,000,000 บาท และฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วงเงิน 1,300,000,000 บาท โดยหากเปิดใช้งาน จะสามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เป็นอย่างด
ภาพ/ข่าว ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เสื้อแดงศรีสะเกษ รวมพลจัดกิจกรรม “คนติดไม่ท้อ คนรอไม่ทิ้ง” กินข่าวร่วมกับท่านทักษิณ พร้อมแขวะรัฐบาล บริการจัดการน้ำล่มเหลว ทำหาดใหญ่จมบาดาล

***เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่ชมดาวรีสอร์ท ปาร์ทหมอสมคิด คลินิกเวชกรรมหมดสมคิด ตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มเสื้อแดงศรีสะเกษ พร้อม กลุ่มเดอะเรด fc เพื่อไทย และกลุ่มมวลชนผู้มีใจรักในนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กว่า 300 คน ร่วมทำกิจกรรม คนเสื้อแดงศรีสะเกษ ส่งกำลังใจให้ท่านทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำคลองเปรม “คนติดไม่ท้อ คนรอไม่ทิ้ง” ยิ่งแกล้ง เรายิ่งรอวันที่ท่านกลับมา โดยกิจกรรมมีแกนนำเสื้อศรีสะเกษ และส่วนกลาง ผลัดกันขึ้นปราศรัยให้มวลชนได้รับฟังถึงกิจกรรม และโจมตีรัฐบาล กิจกรรมรอบวงกินข้าวกับท่านทักษัณ กิจกรรมเขียนสมุดแดงส่งกำลังให้ท่านทักษิณ ซึ่งสมุดเล่มนี้จะนำไปให้ท่านทักษิณ ได้ดูและรับทราบว่าคนเสื้อแดงยังรัก และยังรอท่านทักษิณ กลับอยู่เสมอ

***นางอัญชลี เทพวงษา หรือ แอ๊ว ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า กิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่กลุ่มคนเสื้อแดงจัดขึ้นในหัวข้อว่า คนติดไม่ท้อ คนรอไม่ทิ้ง ซึ่งคนติดก็หมายถึงท่านนายกทักษิณ ชินวัตร โดยพวกเราชาวพี่น้องเสื้อแดงจังหวัดศรีสะเกษ รวมใจรวมพลังพลังกันมาวันนี้เพื่อที่จะรำลึก ให้กำลังใจ ท่านนายกทักษิณ ซึ่งพวกเราเสื้อแดง คิดถึงท่าน เป็นห่วงท่าน ขอให้ท่านรักษาสุขภาพ แล้วก็พวกเราก็จะรอที่ให้ท่านกลับมาช่วยบ้านช่วยเมืองเรา ช่วยพี่น้องตาดำ ๆ ได้ลืมตาอ้าปากได้ พวกเราก็รักและคิดถึงท่านเสมอ

***ขณะที่ นายอัฐฐเสฏฐ จุลเสฏฐพานิช ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีและพูดถึงภัยพิบัติที่หาดใหญ่ว่า ทุกคนคงรู้ว่าทุกวันนี้การบริหารจัดการภัยพิบัติทุกวันนี้มันล่าช้าขนาดไหน มันไม่มีระเบียน ไม่มีแบบแผ่น ถ้าย้อนกลับไปภัยพิบัติเมื่อปี 44 ท่านทักษิณ จะมีการสั่งการ รมว. ทุกคนนั่งประจำสั่งการทุกจังหวัด เป็นผู้บัญชาการทุกจังหวัด ตรงไหนเข้ามาได้ก็สั่งให้เอาฮอลิคอปเตอร์เข้าไปช่วย ทุกภาคส่วนสั่งได้หมด เพราะจุดมุ่งหมายเดียวคือการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ดังนั้นที่เรามาร่วมตัวกันวันนี้ ที่เราลงชื่อเขียนให้กำลังใจท่านทักษิณ ในวันนี้ จะส่งไปถึงท่านทักษิณในเรือนจำ เพื่อให้ท่านได้เห็นถึงความห่วงใยของพวงเราชาวเสื่อแดง ถึงแม้จะอยู่ข้างนอกแต่หัวใจพวกเราก็ยังผูกพันกับท่านทักษิณ ชินวัตร ตลอดไป

***ด้าน นายศรรัก มาลัยทอง แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี พูดบนเวทีปราศรัย ว่า ท่านทักษิณ ถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่ทำคุณประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนมากมาย และมากที่สุด การติดคุกของท่านทักษิณ ในครั้งสนี้ ถือว่าท่านเสียสละเพื่อประชาน เพราะกลับมาประเทศไทย ท่านไม่ต้องมายุ่งกับการเมืองก็ได้ อยู่อย่างสุขสบาย แต่ท่านเป็นห่วงพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะประชาชนคนเสื้อแดงท่านจะห่วงมาก พอท่านกลับมาประเทศไม่ถึงปีก็มาเจอปัญหาแบบนี้ และก็พยายามกลั่นแกล้งท่านไม่ให้ออกจากเรือนจำ มีเพียงพี่น้องเท่านั้นที่จะช่วยกันตระโกนเอาความยุติธรรมคืนให้นายกทักษิณ และให้นายกทักษิณมาดูแลพี่น้องประชาชนทั่งประเทศอีกครั้งผ่านการเลือกตั้ง ศรีสะเกษ มีกี่เขตเลือกเพื่อไทยให้หมดทุกเขต เดียวตนจะทำปทุมธานี โมเดลให้ดู จะให้ปทุมธานี ทั้ง 8 เขต เป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด

***นายศรรัก มาลัยทอง แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี พูดบนเวทีปราศรัยอีกว่า วันนี้น้ำท่วม หาดใหญ่ จากที่ตนลงพื้นที่คิดว่าหน้าจะมีคนตายมากว่า 500 คน แน่นอน แต่นายกอนุทิน บอกว่าไม่ถึง 100 ราย และการบริการจัดการบูรณาการก็ทำให้พี่น้องเราผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ถือเทียบกับยุคสมัยภัยพิบัติ สึนามิ ที่ท่านนายกทักษิณ นั่งสั่งการบัญชาการเอง ไม่นานกลับสู่สภาพปกติ เห็นไหม นายกอนุทิน คนนี้มันมาแค่ต้องการเอาอำนาจกลั่นแกล้งท่านนายกทักษิณ ล่าสุดแข่งรถ 4 พันล้าน แต่น้ำท่วมที่หาดใหญ่งบประมาณยังไม่ออก แต่เอางบไปบูรณาการแข่งรถก่อน เขากระโดง ฮั่ว สว. ทั้งหมดทั่งปวงนี้คือการโกงกินชาติทั้งสิ้น
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วัดกุดสมิง ศรีสะเกษ จัดพิธี สมโภชน์ พระพุทธกรุตสมิงชัยมงคล พุทธาภิเษก เตรียมติดตั้งที่ฐานภูมะเขือ และชายแดน

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ ศาลาการเปรียญ วัดป่ากุดสมิง บ้านกุดสมิง ตำบลหนองหว้า อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้มีพ่อขาว – แม่ขาว ได้มาร่วมสวดมนต์ข้ามคืน ร่วมปฎิบัติธรรม สมโภชน์ พระพุทธกรุตสมิงชัยมงคล ที่ เทหล่อจากปลอกลูกกระสุนปืนใหญ่ ที่ทหารไทย ยิงปะทะชายแดน ไทย – กัมพูชา ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา จนได้รับชัยชนะ สามารถขึ้นไปตียึดฐานภูมะเขือ มาได้เป็นผลสำเร็จ ก่อนที่นายทหารจะได้นำปลอกกระสุนปืนใหญ่มาถวายให้กับ พระครู สมนึก ปิยะสีโล เจ้าอาวาสวัดกุดสมิง

ซึ่งภายหลังจากได้จัดพิธีเทหล่อ เป็นองค์ พระพุทธกรุตสมิงชัยมงคล ขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว สูง 1.99 นิ้ว จำนวน 4 องค์ เพื่อเตรียมนำไปตั้งยังฐานทหาร ที่รักษาอธิปไตยของไทย ทั้ง 4 จังหวัด คือ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ฐานภูมะเขือ, จังหวัดสุรินทร์, จังหวัดบุรีรัมย์ และช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมมี “พระผงกรุตสมิงชัยมงคล” รุ่น “ปิตุภูมิพิทักษ์2568” ที่มีทั้งหมด 5 รูปแบบ ทั้งเป็นรูปสีธงชาติไทย, สีแดง, สีลายพรางทหารไทย, สีเขียวเข้ม และสีขาวพื้นน้ำตาล และบ่ายของวันนี้ ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยมี พันเอก สุรกิจ กาฬเนตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่1 กองกำลังสุรนารี ร่วมเป็นประธานจุดเทียน

โดย ในพิธีพุทธาภิเษก จัดขึ้นภายในศาลาการเปรียญ วัดป่ากุดสมิง พันเอก สุรกิจ กาฬเนตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่1 กองกำลังสุรนารี ร่วมเป็นประธานจุดเทียน พร้อมมีเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียง ร่วมนั่งปรก ทั้ง 4 ทิศ อันได้แก่ 1.หลวงปู่ เร็ว ฉนฺโก 2.พระครู เกษม ธมฺมาณุวัตร 3.หลวงปู่ อุดมทรัพย์ สิริพุฒโต และ 4.พระครูปิย วนานุรัต หรือพระครู สมนึก ปิยะสีโล เจ้าอาวาสวัดกุดสมิง ร่วมนั่งปรกล้อมรอบ วัตถุมงคล พระพุทธกรุตสมิงชัยมงคล ขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว สูง 1.99 นิ้ว จำนวน 4 องค์ เพื่อเตรียมนำไปตั้งยังฐานทหาร ที่รักษาอธิปไตยของไทย, “ปิตุภูมิพิทักษ์2568” ที่มีทั้งหมด 5 รูปแบบ รวมทั้งวัตถุมงคง ของญาติโยม

ที่ขอนำมาวางร่วมในพิธีอีดเป้นจำนวนมากด้วย โดยภายหลังจากที่คณะสงฆ์ ได้สวดพิธีพุทธราภิเษก เสร็จ ประธานฝ่ายฆารวาส ประธานฝ่านสงค์ ได้ร่วมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ โปรยข้าวตอก ดอกไม้ ให้พรแก่ญาติโยม ที่มาร่วมพิธี ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้ญาติโยม ร่วมร่วมบูชา “ปิตุภูมิพิทักษ์2568” ที่มีทั้งหมด 5 รูปแบบ ที่เป็นการบูกชาแบบสุ่ม ว่าเมื่อเปิดกล่องออกมา จึงจะทราบารู้ได้ว่า ได้รุ่นสีอะไรไปบูชา และจากนี้ญาติโยม ที่ประสงค์อยากจะได้ไปบูชา ปกป้องคุ้มครองตนเอง เรียกทรัพย์อุดม ค้าขายร่ำรวย ก็วสามารถมาขอบูชาได้ที่วัดกุดสมิง และจะได้ทำการประสานทหาร เพื่อเตรียมนำ พระพุทธกรุตสมิงชัยมงคล ที่เทหล่อด้วยปลอกลูกกระสุนปืนใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว สูง 1.99 นิ้ว จำนวน 4 องค์ เพื่อเตรียมนำไปตั้งยังฐานทหาร ที่รักษาอธิปไตยของไทย ทั้ง 4 จังหวัด และนำพระผง 5 สี ไปมอบให้ทหารที่ฐาน ด้วย
///////////////////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พรรคโอกาสใหม่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม หาดใหญ่ ทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างสามัคคี

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 จตุพร บุรุษพัฒน์ หัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ และคณะกรรมการบริหารพรรคได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอหาดใหญ่ โดยเฉพาะเขตที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง พร้อมนำข้าวสารและอาหารแห้งจำนวน สองคันรถหกล้อ ได้ที่ฝากประสานมาจากหลากหลายภาคเพื่อแจกจ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย

นายจตุพรกล่าวว่า ขณะนี้ยังมีประชาชนจำนวนมากที่รอความช่วยเหลือจากภาครัฐซึ่งเข้าไม่ถึงในหลายพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำว่า ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ ทุกคนต่างเดือดร้อนและต้องการกำลังใจอย่างมาก เพื่อให้สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ จึงอยากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างสามัคคี ไม่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย และร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังเผชิญปัญหา รวมถึงส่งกำลังใจให้ครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย

โดยยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังน้ำลด สิ่งสำคัญที่สุดคือการเยียวยาประชาชนและเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว โดยจำเป็นต้องมีระบบบริหารจัดการที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อให้หาดใหญ่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างทันเวลา พร้อมทั้งเสนอว่ารัฐบาลและทุกภาคส่วนควรนำเหตุการณ์ครั้งนี้มาเป็นบทเรียน เพื่อวางแผนการจัดการน้ำที่เป็นระบบมากขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทั้งนี้พรรคโอกาสได้ขบวนปล่อยคาราวาน เพื่อช่วยน้ำท่วมภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน และได้ส่ง กรรมการบริหารพรรค และ อาสาสมัครของพรรค เข้าร่วมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อุทกภัยทันทีล่วงหน้าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์

พรรคโอกาสใหม่/บุญยงค์ สดสอาด รายงาน

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง