สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ภ.7 นำร่อง “ไกลกังวล หัวหิน โมเดล” ติดตั้งระบบ AI ป้องกันภัยรอบวังไกลกังวลและนครหัวหิน

เมื่อวันที่ 14 ต.ค.68 ที่ห้องประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย วังไกลกังวล (ปภ.97) อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 เป็นประธานแถลงข่าวโครงการหัวหินเมืองปลอดภัยกับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยบริเวณโดยรอบวังไกลกังวล

ด้วยระบบ Ai และกล้องวงจรปิด (CCTV) มี นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ, พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.อาทร ชิ้นทอง ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ, พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน, พ.ต.ท.สัตยา เสโล่รังสี รอง ผกก.ถวายอารักขาและรักษาความปลอดภัย

หัวหน้าควบคุมทีมปฎิบัติงานดูแลระบบกล้องวงจรปิด (Ai), นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน, นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลนครหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟพล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวังไกลกังวลเป็นเขตพระราชฐานที่มีความสำคัญ ทางตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้เปิดตัวนวัตกรรม กล้องวงจรปิดระบบปัญญาประดิษฐ์ Ai

เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยบริเวณวังไกลกังวลและนครหัวหิน โดยระบบ Ai ตัวนี้จะสามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้อง CCTV ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจจับพฤติกรรมหรือวัตถุต้องสงสัยโดยอัตโนมัติ เช่น การบุกรุกพื้นที่หวงห้าม การตรวจจับอาวุธ เช่น ปืน มีด หรือการระบุตัวบุคคลตามบัญชีเฝ้าระวัง (Blacklist) เพื่อตรวจสอบใบหน้าที่เชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถรับรู้และตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ระบบปฏิบัติการดังกล่าวครอบคลุมพื้นรอบวังไกลกังวลโดยมีจำนวนกล้องทั้งสิ้น 24 ตัว พร้อมกันนี้เราได้เชิญทางจังหวัด อำเภอ เทศบาล เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ เนื่องจากหัวหินเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการมาก ถ้าสามารถเป็นประโยชน์ได้ก็จะนำไปต่อยอดในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวและการป้องกันอาชญากรรมไปด้วย

สำหรับโครงการนี้ก็ยังจะขยายไลน์ออกไปยังแหล่งศูนย์ท่องเที่ยวของนครหัวหิน และที่อื่น ๆ ในแต่ละจังหวัดของภาค 7 โดยจะเรียกว่า “ไกลกังวล หรือ หัวหิน โมเดล” เพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชนและนักท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ เดินทางกว่า 200 โล เพื่อมอบสิ่งของและความสุข ให้กับ นักเรียน โรงเรียน ตชด. / แนนซี่ นำทีม ชมรมโฮปฯ แจกข้าวเหนี่ยวหมูและน้ำดื่ม

TTT

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 นายจุมพล ศรวิเศษ นายกสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ พร้อมด้วย คณะกรรมการ และ กำลังเจ้าหน้าที่ นำข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนม นม เครื่องปรุง เสื้อผ้า ผ้าห่ม เครื่องปริ้น และกระดาษ เดินทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อมอบสิ่งของ อุปโภค และ บริโภค ดังกล่าว ให้กับ คณะครู และ เด็กๆ

โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง หมู่ที่ 8 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคณะครูและเด็กๆ พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำอาหารเลี้ยงเด็กๆ และคณะครู

ก่อนจะลงสนามทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ อาทิ แข่งฟุตซอล เล่นดีดลูกแก้ว ฯลฯ ก่อนจะถ่ายรูปหมู่แล้วเดินทางกลับสมุทรปราการโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาห่างจากชายแดน ไทย-พม่า ประมาณ 4 กิโลเมตร

และอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร หากต้องเดินทางไปกลับเพื่อซื้อสิ่งของจะต้องใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยภายในโรงเรียน มี ครูตำรวจ 8 ท่าน ครูพลเรือน 5 ท่าน และมีนักเรียน จำนวนประมาณ 250 คน มีการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีนักเรียนบางส่วนพักอาศัยอยู่ที่โรงเรียน

นายจุมพล ศรวิเศษ นายกสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ กล่าวว่า วันนี้ทางสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ / ชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา / และทีมภาคประชาชนที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันนำสิ่งของปัจจัยต่าง ๆ โดยทางสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ

ได้มาเป็นตัวแทนมอบให้กับน้อง ๆ นักเรียน โรงเรียน ตชด. อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อให้น้อง ๆ ได้รับความสุข ได้รับสิ่งที่ดี ๆ จากทางกลุ่มชมรมอาสาในพื้นที่สมุทรปราการ
ครูประจำโรงเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นผู้หลักผู้ใหญ่ยังเล็งเห็นความสำคัญของเด็กชายแดนตรงนี้ วันนี้เด็ก ๆ ก็มีความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ อิ่มทั้งกาย อิ่มทั้งใจ และมีความสุขมาก


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

แนนซี่ นำทีม ชมรมโฮปฯ แจกข้าวเหนี่ยวหมูและน้ำดื่ม ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันสวรรคต ร.9แนนซี่ นำทีม ชมรมโฮปฯ แจกข้าวเหนี่ยวหมูและน้ำดื่ม ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันสวรรคต ร.9

วันที่ 13 ตุลาคม 2568 นางสาวปิยนุช(แนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา ได้นำทีม เจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัคร นำข้าวเหนียวหมูและน้ำดื่ม จำนวน 500 ชุด แจกตามประชาชน ตามชุมชน 5 แห่ง

ชุมชนเก้าไร่ท้ายบ้าน / ชุมชนคลองหัวลำภู ท้ายบ้านใหม่บางปู / ชุมชนหาดอัมรา / ชุมชนบ่อขยะ ท้ายบ้าน / ชุมชนสะพานปูน คลองศาลาแดง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

เนื่องในวาระครบ ๙ ปี วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ “วันนวมินทรมหาราช”

นางสาวปิยนุช(แนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา กล่าวว่า วันนี้ทางชมรมโฮปฯ ได้นำข้าวเหนียวหมูและน้ำดื่มจำนวน 500 ชุด ไปแจกตามชุมชนต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

เนื่องในวันครบรอบสวรรคต พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 โดยวันนี้ได้ไปแจกที่ ชุมชนเก้าไร่ท้ายบ้าน / ชุมชนคลองหัวลำภู ท้ายบ้านใหม่บางปู / ชุมชนหาดอัมรา / ชุมชนบ่อขยะ ท้ายบ้าน / ชุมชนสะพานปูน คลองศาลาแดง


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชายฉกรรจ์ 2 ราย บุกรุมทำร้าย!! อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านเกาะรัง ต.หนองหว้า

วันนี้ (13 ต.ค.68) เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้าน นายอนันต์ อารี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 (ผู้เสียหาย) ร้องเรียนยัง นายสมชาย แก้วสุทธิ นายกสมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) เหตุเกิดเมื่อวันที่ (12 ค.ค.68) เวลาประมาณ 22.05 น. ผู้เสียหาย ได้กำลังนอนพักอยู่ บ้านเลขที่ 299 หมู่ 10 ต.หนองหว้าฯ (ที่เกิดเหตุ)

ได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 2 คน (อ้างว่าชื่อ อบต.นิว) ซึ่งขับรถมาก่อเหตุ ทะเบียน กบ 789 สระแก้ว รถ อีซูซุลักษณะสีรถบรอนซ์เขียว ได้มาที่บ้านหลังเกิดเหตุ แล้วได้สอบถามหากับ น.ส.จิตตรา อารี (บุตรสาวของผู้เสียหาย) บอกว่ามีธุระ จะขอคุยกับ นายอนันต์ ในขณะนั้น นายอนันต์ ได้ยินเสียงจึงได้เดินมาดู ก็พบว่ามีชายฉกรรจ์ จำนวน 2 คน ยืนรออยู่ บริเวณบ้านหลังเกิดเหตุ

หลังจากนั้นชายฉกรรจ์จำนวน 2 คน ดังกล่าวก็ได้ทำร้ายร่างกาย นายอนันต์ โดยการชกเตะ เข้าที่บริเวณใบหน้าและตามร่างกาย ทำให้ นายอนันต์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณคอและตามร่างกาย

ต่อมา..ได้มี นายบุรากร แซ่ลี้ เข้ามาห้ามปราม กระทั่งชายฉกรรจ์ จำนวน 2 คนดังกล่าวได้หลบหนีไป ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์กับ นายสมชาย แก้วสุทธิ นายกสมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) เพื่อขอความเป็นธรรมให้ทางผู้ก่อเหตุออกมารับผิดชอบให้สัมภาษณ์ นายอนันต์ อารี (ผู้เสียหาย)ให้สัมภาษณ์ จิตตรา อารี (ลูกสาวผู้เสียหาย) ให้สัมภาษณ์ บุรากร แซ่ลี้ (ลูกเขย)

ภาพข่าว โดย ผอ.วงศกร ปราจีน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าปากน้ำ เป็นประธานทำบุญตักบาตร เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช”

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2568 ซึ่งตรงกับ “วันนวมินทรมหาราช” ณ ลานพระบรมรูปทรงงาน สวนสุขภาพลัดโพธิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล พระสงฆ์และสามเณร จำนวน 89 รูป พิธีวางพวงมาลา และถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ภายในงานมี นางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ นางเสาวภาคย์ วงศ์ไวทยากูล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรปราการ นายรุ่งสง่า นวลนุกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระประแดง และนายอานนท์ บูรณะภักดี นายอำเภอพระประแดง เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ อาสาสมัคร และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ สะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนในการร่วมรำลึกและแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียง ในการนี้ยังมี จิตอาสาพระราชทาน นำโดยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยเหล่าข้าราชการ พลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ ทหาร ตำรวจ องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษา และ ประชาชนในชุดจิต อาสาพระราชทาน พร้อมใจกันบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอีกด้วย
สำหรับ “วันนวมินทรมหาราช” เป็นวันแห่งการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย

ผู้ทรงอุทิศพระวรกายและพระสติปัญญาเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมาตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีแห่งการครองราชย์ ที่พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างของ “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ที่ลงพื้นที่ทรงงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เพื่อเข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในทุกภูมิภาคของประเทศ จากภูเขาสูงถึงปลายน้ำ พระองค์ทรงใช้พระปรีชาสามารถคิดค้นและพัฒนาโครงการพระราชดำริกว่าหลายพันโครงการ ครอบคลุมด้านการเกษตร แหล่งน้ำ ป่าไม้ การศึกษา การแพทย์ และสิ่งแวดล้อม แนวพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ยังคงเป็นหลักการสำคัญที่หน่วยงานและประชาชนไทยน้อมนำมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพราะพระองค์ทรงเชื่อมั่นว่า “ความเจริญที่แท้จริง ต้องเกิดจากพื้นฐานชีวิตของประชาชน”

พระราชจริยวัตรอันงดงาม ความเรียบง่าย สมถะ และความเสียสละของพระองค์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกคนยึดถือเป็นแบบอย่างแห่งความพอเพียง ซื่อสัตย์ และตั้งใจทำความดีเพื่อส่วนรวม ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ได้พระราชทานไว้ในวันนวมินทรมหาราชนี้ ชาวจังหวัดสมุทรปราการ จึงใช้สวนสุขภาพลัดโพธิ์ ซึ่งมีพระบรมรูปทรงงาน และยังเป็นสถานที่ตั้ง สะพานภูมิพล และประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์

ที่เป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อปี พ.ศ. 2538 เพื่อแก้ปัญหาจราจรและส่งเสริมการขนส่ง โดยสะพานนี้เปิดให้สัญจรได้

ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2549 และได้รับพระราชทานนามว่า “สะพานภูมิพล” อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ชาวจังหวัดสมุทรปราการ จึงน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ พร้อมสำนึกในพระเมตตาอันล้นพ้น และตั้งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธาน เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน และความมั่นคงของชาติไทย

นอกจากนี้ยังมี นาย อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือเต้ อาชีวะ อายุ 40 ปี แกนนำกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ที่จะทำความดีตอบแทนแผ่นดิน ในนามกลุ่ม “ไทยไม่ทน” พร้อมคณะกว่า 10 คน ได้นำพวงมาลา มาวางที่อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงงานอีกด้วย
นาย อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ ประธานกลุ่ม ไทยไม่ทน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า นี่เป็นแผ่นดินไทย ผืนแผ่นดินไทย เปิดเพลง เปิดเสียงหมาหอน จะทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ อยู่บนผืนแผ่นดินไทย ไม่ได้หนักหัวเขมรแน่นอน

สุดท้ายรับเงินเดือนจากภาษีประชาชน ดังนั้นสิ่งที่คำนึงถึงเรื่องละเมิดสิทธิ์ ควรไปห่วงประชาชนที่อยู่ชายแดน วันที่ 24 กรกฎาคม ประชาชนที่เสียชีวิต สูญเสียขา เด็กที่ต้องสูญเสียไป ทำไมต้องแคร์สิทธิมนุษยชน ผมเป็นคนตรง ไม่เกี่ยวกับพรรค ที่นี่แผ่นดินไทย ประเทศไทย

ต้องดูแลคนประเทศไทยก่อน ประเทศปลายทางเคยเคารพเราหรือเปล่า เขามาเอาม็อบมากดดันพวกเรา กลุ่มไทยไม่ทน และอนาคตจะเกิดเป็นพรรคไทยไม่ทน พวกเราคนไทยทุกคน มีความเศร้าโศกสูญเสีย เมื่อ 9 ปีที่แล้ว มาจำนวนหนึ่งมาร่วมแสดงจุดยืนความจงรักภักดีแบบนี้ตลอดไป

วันนี้มีภารกิจมีข้อร้องเรียนมาในพื้นที่ตลาดพระประแดง มีต่างด้าวทำตัวเป็นเจ้าของร้านเจ้าของแผง และนำข้อมูลที่แท้จริงไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปกวาดล้าง ในกลุ่มไทยไม่ทน ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ของทุกคน ยังเล็งเห็นว่ายังไม่บรรลุเป้าหมาย ต้องผนึกกำลัง ทำงานในด้านกฎหมายและทำเรื่องดีๆขึ้นมา ต้องพึ่งกฎหมายเข้ามาช่วย ผนึกกำลังสร้างกลุ่มไทยไม่ทนขึ้นมา แก้ปัญหาในเรื่องต่างด้าว และอีกหลายๆด้าน ช่วยพัฒนาประเทศ ความพร้อมของกลุ่มไทยไม่ทน ส่งรายชื่อให้ กกต. ผ่านเรียบร้อยแล้ว พร้อมทำงานให้กับประชาชน


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

แนนซี่ นำทีม ชมรมโฮปฯ แจกข้าวเหนี่ยวหมูและน้ำดื่ม ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันสวรรคต ร.9
วันที่ 13 ตุลาคม 2568 นางสาวปิยนุช(แนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา ได้นำทีม เจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัคร นำข้าวเหนียวหมูและน้ำดื่ม จำนวน 500 ชุด แจกตามประชาชน ตามชุมชน 5 แห่ง ชุมชนเก้าไร่ท้ายบ้าน / ชุมชนคลองหัวลำภู ท้ายบ้านใหม่บางปู / ชุมชนหาดอัมรา / ชุมชนบ่อขยะ ท้ายบ้าน / ชุมชนสะพานปูน คลองศาลาแดง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวาระครบ ๙ ปี วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ “วันนวมินทรมหาราช”
นางสาวปิยนุช(แนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา กล่าวว่า วันนี้ทางชมรมโฮปฯ ได้นำข้าวเหนียวหมูและน้ำดื่มจำนวน 500 ชุด ไปแจกตามชุมชนต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันครบรอบสวรรคต พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 โดยวันนี้ได้ไปแจกที่ ชุมชนเก้าไร่ท้ายบ้าน / ชุมชนคลองหัวลำภู ท้ายบ้านใหม่บางปู / ชุมชนหาดอัมรา / ชุมชนบ่อขยะ ท้ายบ้าน / ชุมชนสะพานปูน คลองศาลาแดง


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “นาทีระทึก! เด็กน้อยกลืนเหรียญ คุณแม่โพสต์สุดสะเทือนใจ ‘บทเรียนชีวิตอันยิ่งใหญ่’”

“หัวอกคนเป็นแม่แทบสลาย 💔 เมื่อลูกน้อยเผลอกลืนเหรียญเข้าไป! โพสต์ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกพ้นอันตราย 🙏
ภาพเอกซเรย์เห็นชัด เหรียญขนาด 17 มิลลิเมตรติดในช่องท้อง แพทย์เร่งดูอาการใกล้ชิด – ขอให้น้องปลอดภัย ❤️”

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า มีคุณแม่รายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กขณะอยู่ที่ โรงพยาบาลมุกดาหาร “บทเรียนชีวิตอันยิ่งใหญ่ พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวบุตรเทวดาเพิลงยังช่วยอยู่ 🙏🙏🙏🙏” พร้อมแนบภาพลูกชายตัวน้อยในชุดคนไข้ และภาพเอกซเรย์ที่แสดงให้เห็นวัตถุโลหะคล้ายเหรียญในช่องท้อง
จากภาพฟิล์มพบว่า วัตถุดังกล่าวมีขนาด ประมาณ 17.37 มิลลิเมตร เบื้องต้นคาดว่าเด็กน่าจะเผลอกลืนเหรียญเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ

👩‍⚕️ ขณะนี้แพทย์อยู่ระหว่าง เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และดำเนินการตามขั้นตอนทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของน้อง

บทเรียนสำคัญสำหรับพ่อแม่ทุกคน อย่าประมาทกับของเล็ก ๆ ในบ้าน

🙏 ขอให้ น้องปลอดภัย หายดีในเร็ววัน ❤️

⚠️ คำเตือนจากแพทย์
กรณีเด็กกลืนสิ่งแปลกปลอม เช่น เหรียญ ถ่านกระดุม หรือของเล่นชิ้นเล็ก ❗ ถือเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
❌ ห้ามพยายามล้วงคอ หรือทำให้อาเจียนเอง
✅ รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อให้แพทย์เอกซเรย์และวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง
👶 คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง

  • เก็บเหรียญ ถ่านกระดุม และของชิ้นเล็กให้พ้นมือเด็ก
  • ห้ามให้ของเล่นที่มีชิ้นส่วนเล็กกับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
  • หากเด็กมีอาการไอ สำลัก หรือกลืนลำบาก ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

กลืนเหรียญ #ขอให้น้องปลอดภัย #เตือนภัยพ่อแม่ #อุบัติเหตุในเด็ก #โรงพยาบาลมุกดาหาร #ข่าวมุกดาหาร #บทเรียนชีวิตอันยิ่งใหญ่ #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้_////เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “หมาก ปริญ” แบรนด์แอมฯ!ร่วมเปิด “ic! berlin Flagship Store” ใหญ่ที่สุดในไทย

“ออพติค สแควร์” ปักหมุดหมายใจกลาง “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”
ฮอตไม่พักสำหรับพระเอกหนุ่มสุดหล่อ “หมาก – ปริญ สุภารัตน์” Brand Ambassador แว่นตา ic! berlin ล่าสุดอวดลุคหล่อเนี้ยบร่วมงาน Grand Opening “ic! berlin Flagship Store” แห่งใหม่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริษัท ออพติค สแควร์ จำกัด ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค

งานเต็มไปด้วยบรรยากาศสุดชิคและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแฟชั่น โดยมี คุณสาวิตรี สุรธรรมวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ออพติค สแควร์ จำกัด แม่งานใหญ่ นำทีมผู้บริหารต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ เซเลบคนดังจากหลากหลายวงการ อาทิ จ็อบ ธัชพล, ฟลุ๊คจ์ พงศภัทร, แฟร้งค์กี้ วีรภัฏ, ไนซ์ บริพัฒน์, เล้ง ณัฐพล นิลดอนหวาย , แสตมป์ พรวศิน เรืองนุกูล, น้ำ จุฑามาศ หวังสวัสดิ์ , เบนซ์ ทิพย์สุวรรณ มหาสุวรรณชัย , ซัน ก้องภพ บรรณทอง , ชาย สมชาย เจริญสุข

รวมถึง คุณประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายแว่นตาชั้นนำระดับโลกกว่า 20 แบรนด์ รวมถึงแบรนด์ “ic! berlin” ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย นอกจากมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้บริหารคนเก่งแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่สาวกแว่นตาจะได้ยลโฉม คอลเลกชัน Fall-Winter 2025 (Full Collection) อย่างเป็นทางการ

เรียกว่าโดนใจแฟชั่นนิสต้าชาวไทยขั้นสุด อีกเรื่องที่ดูจะดึงดูดใจไม่น้อยไปกว่าแว่นตาคือการตกแต่งภายในของ “ic! berlin Flagship Store” ที่ ออพติค สแควร์ ออกแบบให้สะท้อนตัวตนของแบรนด์อย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยคอนเซ็ปต์ “Luxury in Simplicity” ผสมผสานดีไซน์มินิมอลกับความหรูหราอย่างลงตัว แว่นตาแต่ละรุ่นถูกจัดวางเสมือนงานศิลปะในแกลเลอรี พร้อมมุม

ไฮไลต์สุดพิเศษ “ic! berlin Heritage Wall” ที่จัดแสดงคอลเลกชันลิมิเต็ดรุ่นหายากจากแต่ละยุค เพื่อให้แฟนพันธุ์แท้ได้ชมความงามของดีไซน์เหนือกาลเวลา
คุณสาวิตรี สุรธรรมวิทย์ เผยว่า “เราตั้งใจสร้างสาขานี้ให้เป็นต้นแบบของร้านแว่นตายุคใหม่ ที่ผสมผสานเทคโนโลยี งานดีไซน์ และประสบการณ์สุดพิเศษของแบรนด์ระดับโลกเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด “Modern Optical Gallery”

โดยใช้ความ โมเดิร์น และ มินิมอล มาผสมผสานอย่างมีสไตล์ เน้นการใช้วัสดุที่มีความคมชัดและเปี่ยมคุณภาพอย่าง สแตนเลสสตีล สะท้อนตัวตนของแบรนด์เยอรมันที่ให้ความสำคัญกับ ฟังก์ชัน ความแม่นยำ และความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด สำหรับบรรยากาศภายในร้านถูกออกแบบให้สื่อถึงคำว่า “Luxury in Simplicity” มีการใช้แสงในโทนอุ่นเพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตรให้ลูกค้ารู้สึกสบายตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ภายในร้านของเราค่ะ”

ขณะที่ หมาก ปริญ สุภารัตน์ Brand Ambassador ic! berlin ประเทศไทย 4 ปีซ้อน เผยความรู้สึกว่า “ic! berlin Flagship Store สวยและมีสไตล์มากครับ เต็มไปด้วยแว่นตา ic! berlin ทุกรุ่นทุกแบบ ผมชอบมุมพิเศษอย่าง “ic! berlin Heritage Wall” เพราะเป็นมุมที่จัดแสดงคอลเลกชันลิมิเต็ดรุ่นหายากจากแต่ละปี ที่ไม่ได้วางจำหน่ายแล้ว

ให้แฟนพันธุ์แท้ได้เห็นเสน่ห์และวิวัฒนาการของงานออกแบบจากเบอร์ลินในแต่ละยุค ถือเป็นมุมที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของ ic! berlin ได้ดี ที่สำคัญวันนี้ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ชมแว่นตา ic! berlin คอลเลกชัน Fall-Winter 2025 (Full Collection) อีกด้วย ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ic! berlin เพราะแบรนด์นี้สะท้อนสไตล์ของผมได้อย่างลงตัว เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยรายละเอียดและคุณภาพทุกครั้งที่ใส่รู้สึกมั่นใจและเป็นตัวเองที่สุดครับ”.

เกี่ยวกับ ic! berlin ic! berlin ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 เป็นแบรนด์แว่นตาสไตล์ฟังก์ชันนัลระดับโลกจากเยอรมนี โดดเด่นด้วยนวัตกรรมการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะบานพับไร้สกรูซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ ทำให้แว่นตาแต่ละรุ่นมีน้ำหนักเบา แข็งแรง ยืดหยุ่น และสวมใส่สบาย

ผลิตจากสแตนเลสสตีลคุณภาพสูงเกรดเครื่องมือแพทย์ มอบทั้งความทนทานและความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้สวมใส่ ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงการผลิต เป็นนวัตกรรมแว่นตาจากเยอรมนี Made in Germany 100% ปัจจุบัน ic! berlin เป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมแว่นตาระดับโลก และได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Marcolin Group ตั้งแต่ปี 2024 พร้อมจัดจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

icberlin#icberlinthailand#FunctionalEyewear#icberlinDusitCentralPark #DusitCentralParkติดตามข่าวสารและคอลเลกชันใหม่ๆ ของ ic! berlin ได้ที่ :Facebook: facebook.com/icberlinthailandInstagram: @icberlin_thailand / @icberlinshop TikTok: @icberlinthailand

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ :ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท พลอย พีอาร์ (2565) จำกัดระวีนันท์ พุทธวิเชียร (ทิพย์) 097-954-9591, เนตรดาว จตุพงษา (เต้ย) 090-954-5045
พนารัตน์ ธงไชยฤทธิ์ (พลอย) 097-949-5156, ปณิชา มาไลยกุล (เป้) 081-979-7609อารยา ส่วยหวาน (ไอซ์) 092-437-9019

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาค 4 ถวายผ้าไตรกฐินพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พันปีหลวง ประจำปี 2568 ณ วัดหัวควน จ.ปัตตานี

วันนี้ (12 ตุลาคม 2568) เวลา 13.30 น. ณ วัดหัวควน อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/

ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีถวายผ้าไตรกฐินพระราชทาน

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2568 โดยมี คณะผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วน

ราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ กำลังพล ตลอดจนพุทธศาสนิกชน จากหลายอำเภอเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

พิธีเริ่มด้วยการอัญเชิญผ้าไตรกฐินพระราชทานเข้าสู่พระอุโบสถ ตามด้วยการประกอบพิธีทางศาสนา การถวายสังฆทาน และการเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระสงฆ์จากคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี

ร่วมประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยและเปี่ยมไปด้วยศรัทธา

ซึ่งปัจจัยที่รวบรวมได้จากบริวารกฐินผู้มีจิตศรัทธาในครั้งนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 204,900 บาท

การถวายผ้าไตรกฐินพระราชทานในครั้งนี้ เป็นพระราชปณิธานอันงดงามในการบำรุงพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นการสืบสาน

ประเพณีทางพุทธศาสนาอันดีงาม เสริมสร้างความศรัทธา ความสามัคคี และความเข้มแข็งในชุมชน

ทั้งนี้ วัดหัวควนถือเป็นวัดสำคัญในอำเภอโคกโพธิ์ ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ การได้รับพระราชทานผ้าไตรกฐินในครั้งนี้

จึงนับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งแก่คณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน และประชาชนในจังหวัดปัตตานี
//ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน//

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ขอนุญาติพี่นักข่าว พัทลุงด้วยครับ ผู้การสมคิด นำขบวนทอดกฐินสามัคคี สืบสานศรัทธา ณ วัดอัมพวนาราม จ.พัทลุง

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 11.30 น. พันเอก สมคิด คงแข็ง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 นำขบวนกฐินสามัคคีประจำปี 2568

ณ วัดอัมพวนาราม (ส้มตรีด) อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อสืบสานประเพณีทางพระพุทธศาสนา และส่งเสริมความรัก ความสามัคคีในชุมชน

โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้น อย่างอบอุ่นและเปี่ยมด้วยพลังศรัทธา โดยมีผู้เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ กำลังพลจากหน่วยทหาร

เพื่อนกระต่ายโรงเรียนพัทลุง ส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนจากพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมกันถวายบริวารกฐินด้วยจิตใจอันเป็นกุศล

ยอดปัจจัยรวมจากการทอดกฐินในครั้งนี้อยู่ที่ 610,160 บาท ซึ่งจะนำไปสมทบทุนในการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรม เพื่อให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งธรรมะที่มั่นคงและเจริญรุ่งเรืองต่อไป

พันเอกสมคิดกล่าวว่า “การทอดกฐินไม่เพียงเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทย หากยังเป็นสะพานเชื่อมโยงความสามัคคีระหว่างหน่วยงานราชการ เยาวชน และประชาชนในพื้นที่ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมกันสร้างกุศลในวันนี้”

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ เสียงสาธุดังก้องทั่วศาลาวัด สะท้อนถึงพลังแห่งศรัทธาที่ยังคงงดงามและมั่นคงในหัวใจของชาวพัทลุง // ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน //

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีเปิดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาด ประจำปี 2568 ทางบกและทางเรือ และ พิธีห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ปูชนียสถานคู่บ้าน คู่เมือง

วันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่บริเวณพิธีหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

นางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ลั่นฆ้อง 3 ครั้ง เปิดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสมุทรปราการ ประจำปี 2568

โดยมีนายชนินทร์ กาญจนสุชา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ เลขานุการจัดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสมุทรปราการ

กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายสุจินต์ วาจากิจ นายประทีป นทีทวีวัฒน์ นายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายวีรภัทร ทรัพย์มาดีกุล อัยการจังหวัดสมุทรปราการ

นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ นายวัฒนา เจริญจิตร นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเหล่ากาชาด

จังหวัดสมุทรปราการ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการจัดงาน แขกผู้มีเกียรติ และพ่อค้า ประชาชน เข้าร่วมพิธี

ขบวนแห่(ทางบก) ประกอบด้วย รถเครื่องเสียง ขบวนริ้วธง ขบวนรถปุปผชาติอัญเชิญ ผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ พร้อมเคลื่อนขบวนออกจากศาลากลางจังหวัดสุมทรปราการ เข้าสู่ถนนศรีสมุทร ฝั่งซ้ายมือ (สำนักงานสรรพกรจังหวัดฯ)

ไปถึงตลาดสี่แยกเลี้ยวขวา ผ่านธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย เลี้ยวขวาผ่านธนาคารทหารไทย ตลาดวิบูลย์ศรี ศาลจังหวัดฯเลี้ยวซ้ายผ่านจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

และกลับเข้าสู่ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นเป็นขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ (ทางน้ำ) ขบวมผ้าห่มฯ จากรถบุปผชาติลง(เรือตำรวจน้ำ) จัดรูปขบวนแห่ทางเรือขบวนเรือแห่ผ้าห่มฯ เคลื่อนไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาสู่อำเภอพระประแดง

เพื่อนำผ้าห่มฯ ขึ้นฝั่งอำเภอพระประแดง และนำผ้าห่มฯ ขึ้นรถบุปผชาติ แห่ผ้าห่มฯ ไปตามตลาดให้ชาวพระประแดงได้สักการะ ขบวนรถบุปผชาติแห่ผ้าห่มฯ เคลื่อนจากอำเภอพระประแดงสู่วิหารหลวง บริเวณหน้าองค์พระสมุทรเจดีย์

โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปองค์พระประธาน”พระมงคลชัยวัฒน์” (ปางห้ามสมุทร) ห่มผ้า ถวายพวงมาลัย ปิดทอง ประธานในพิธีเข้าสู่ศาลาทรงยุโรปสถานที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย ถวายพวงมาลัยนำขบวนแห่ผ้าห่มฯ ทำทักษิณาวรรตรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ 3 รอบ การจัดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ ถือเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวจังหวัด

สมุทรปราการ กล่าวคือนับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเลิศหล้านภาลัย รัชการที่ 2 ได้ทรงริเริ่ม ให้สร้างองค์พระสมุทรเจดีย์ขึ้น เมื่อปีพุทธศักราช 2366 จนกระทั้งก่อสร้างมาแล้วเสร็จ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 3

ครั้งต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนรูปแบบองค์พระสมุทรเจดีย์ ให้สูงขึ้นเป็น 19 วา ดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ และทรงโปรดเกล้าฯ

ให้มีงานฉลองในแรม 5 ค่ำ เดือน 11ซึ่งชาวจังหวัดสมุทรปราการ ก็ได้จัดงานดังกล่าวเจริญรอยตามเบื้องพระยุคบาท สืบกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยได้กำหนดงานจัดงานเริ่มตั้งแต่ วันที่ 12-23 ตุลาคม 2568 ซึ่งตรงกันวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11

นอกจากนี้ภายในงานยังมี การออกร้านกาชาด การแสดงศีลปวัฒนธรรมของสภาวัฒนธรรม และสถานศึกษาจากทุกอำเภอ พร้อมทั้ง มหรสพสมโภชภายในงานตลอด 12 วัน 12 คืน ทั้งฝั่งศาลากางจังหวัดฯ และพระสมุทรเจดีย์


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบพิธีห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ปูชนียสถานคู่บ้าน คู่เมืองและเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2568 นาย สยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานอัญเชิญผ้าแดงห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ ทำพิธีทักษิณาวรรต รอบองค์พระสมุทรเจดีย์ 3 รอบ เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ซึ่งบรรจุอยู่ภายในองค์พระสมุทรเจดีย์ ก่อนที่จะส่งมอบให้กับผู้ประกอบพิธีห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งเป็นสมาชิกในตระกูลรุ่งแจ้ง นำขึ้นไปห่มบนคอระฆังขององค์พระสมุทรเจดีย์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน ร่วมกันประกอบพิธีห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ สำหรับพิธีดังกล่าวจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11

ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 12 ตุลาคม 2568 พระสมุทรเจดีย์ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการ ที่ชาวสมุทรปราการและชาวจังหวัดใกล้เคียงเลื่อมใสศรัทธา เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แต่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2371

ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยก่อนผู้คนส่วนใหญ่จะเรียกกันติดปากว่า พระเจดีย์กลางน้ำ เนื่องจากแต่เดิมบริเวณที่ก่อสร้างพระสมุทรเจดีย์ เป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ พระสมุทรเจดีย์องค์เดิมสร้างเป็นแบบย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทอดพระเนตรสภาพทั่วไปของพระสมุทรเจดีย์

ทรงมีพระราชประสงค์จะสถาปนาให้สูงขึ้นไปอีก เพื่อให้เรือของชาวต่างประเทศที่เข้ามาจะได้แลเห็นพระสมุทรเจดีย์ จึงโปรดฯให้ช่างไปถ่ายแบบพระเจดีย์ลอมฟางที่กรุงศรีอยุธยา แล้วโปรดฯให้กรมหมื่นราชสีหวิกรม

เป็นนายช่างจัดการก่อสร้างพระเจดีย์แบบลอมฟางครอบองค์พระเจดีย์เดิม นอกจากนี้ ยังทรงสร้างศาลาเก๋งจีน หอเทียน หอระฆัง พระวิหาร และพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร พร้อมหลักผูกเรือริมน้ำรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ จากพระบรม มหาราชวัง

แห่มาทางชลมารคบรรจุไว้ตามโบราณราชประเพณี ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการสมโภชเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ จนเป็นประเพณีสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ในปีที่ผ่านมา เทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์

จะนำมาตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆขนาดประมาณ 2X2 นิ้ว บรรจุใส่ซองเพื่อแจกให้กับผู้ร่วมพิธีนำไปสักการบูชา โดยในปีนี้ทาง จ.สมุทรปราการ ได้จัดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาด จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 12-23 ตุลาคม 2568


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “กัน นภัทร” แท็กทีม “แบงค์ ศรราม” พร้อมทัพศิลปินบุกเวที คอนเสิร์ต “๘๖ ปีสุนทรีย์สุนทราภรณ์” ฉลองครบรอบ 86 ปี

​​มูลนิธิสุนทราภรณ์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้จัดงานคอนเสิร์ต “สุนทรีย์สุนทราภรณ์” เนื่องในโอกาสครบรอบวันก่อตั้งวงดนตรีสุนทราภรณ์เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิสุนทราภรณ์ฯมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา

ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ จำกัด กลุ่มบริษัท Kin และ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) โดยในเเต่ละปี คุณเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานจัดงานคอนเสิร์ตสุนทรีย์สุนทราภรณ์ จะพยายามเฟ้นหาสิ่งใหม่ๆมานำเสนอให้แฟนๆได้รับชม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างหนาแน่นทุกปี

สำหรับในปี 2568 นี้ มูลนิธิสุนทราภรณ์ฯ ได้จัดงาน คอนเสิร์ต “๘๖ ปี สุนทรีย์สุนทราภรณ์” ขึ้นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 86 ปี ในการก่อตั้งวงดนตรีสุนทราภรณ์ ซึ่งได้จัดงานแถลงข่าวไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม

ที่ผ่านมา ณ เกล็นบาร์ โรงแรมพูลแมน ซ.รางน้ำ และได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน รวมไปถึงแฟนคลับจำนวนมาก โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการมูลนิธิสุนทราภรณ์

ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และ กรรมการจัดงานสุนทรีย์สุนทราภรณ์ ขึ้นกล่าวถึงที่มาและความพิเศษของงานในปีนี้ หลังจากนั้น ตัวแทนศิลปินทั้ง 7 คน ได้แก่ กัน นภัทร / แบงค์ ศรราม น้ำเพชร / ธัช กิตติธัช แชมป์เพลงเอก / วิน วศิน แชมป์ The Golden Song Season 3 / นุ อนุกูล / บาร๊อก ชลธาร และ น้องใบบัว ปุญชรัสมิ์ คลื่นลูกใหม่ของสุนทราภรณ์ ขึ้นมาพูดถึงความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเวทีอันทรงเกียรตินี้

ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ บาร๊อก ชลธาร และ แบงค์ ศรราม น้ำเพชร พระเอกลิเกระดับท็อปของไทยที่ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับการร้องเพลงในรูปแบบของสุนทราภรณ์ ภายในงาน แบงค์ ศรราม ยังได้ร้องลิเกแบบสดๆอ้อนฝากงาน คอนเสิร์ต “๘๖ ปี สุนทรีย์สุนทราภรณ์” กับทุกคนเรียกเสียงปรบมือสนั่นทั้งงานเลยทีเดียว

ซึ่งในงานแถลงข่าวนี้ ศิลปินแต่ละคนได้นำส่วนหนึ่งของบทเพลงสุนทราภรณ์ที่จะบรรเลงในงานมาโชว์เรียกน้ำย่อยให้ได้ฟังอีกด้วย เรียกได้ว่า แม้จะได้ฟังแค่ส่วนเล็กๆของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในจริง ก็ทำให้ทุกคนอินได้แล้ว ดังนั้น ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง กับ คอนเสิร์ต “๘๖ ปี สุนทรีย์สุนทราภรณ์” ในครั้งนี้
สำหรับ คอนเสิร์ต “๘๖ ปี สุนทรีย์สุนทราภรณ์”

ในปีนี้ได้อัดแน่นความพิเศษต่างๆมากมายที่จะนำเสนอความบันเทิงในรูปแบบของสุนทราภรณ์ โดยนำเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มาร้อยเรียงในการพาแฟนเพลงสุนทราภรณ์ทุกท่านย้อนยุคกลับ

ไปสู่บรรยากาศ สมัยช่วงแรกของช่อง 4 บางขุนพรหม กับ บทบาทของ ครูเอื้อ ครูแก้ว และวงดนตรีสุนทราภรณ์ ที่สร้างความบันเทิงให้คนไทยผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทยไปพร้อมๆกัน

นอกจากจะได้พบกับวงดนตรีสุนทราภรณ์วงใหญ่ (วงคอนเสิร์ต) ภายใต้การควบคุมวงของ ครูณรงค์ เนตรเจริญ พร้อมด้วยการะเวกเสียงใส ครูแดง พรศุลี วิชเวช และนักร้องคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์แล้ว ยังมีศิลปินรับเชิญมาร่วมขับกล่อมบทเพลงสุนทราภรณ์ อย่างคับคั่ง

ได้แก่ กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ,แบงค์ ศรราม น้ำเพชร, ธัช กิตติธัช แก้วอุทัย, วิน วศิน พรพงศา, นุ อนุกูล โกมลอุปถัมภ์, บาร๊อก ชลธาร เซ็นเชาวนิช, วิ วิรัช ศรีพงษ์ และ แคน อติรุจ กิตติพัฒนะ เรียกได้ว่า คอนเสิร์ต “๘๖ ปีสุนทรีย์สุนทราภรณ์” ในครั้งนี้ จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี 2568

ของสุนทราภรณ์ ที่พร้อมมอบความสุข ความบันเทิง ความทรงจำ และ ความประทับใจ ให้แฟนๆเพลงสุนทราภรณ์ และแฟนๆ ศิลปินทุกท่านอย่างไม่รู้ลืมซึ่ง คอนเสิร์ต “๘๖ ปีสุนทรีย์สุนทราภรณ์” นี้จะจัดขึ้นใน

วันเสาร์ที่ 22 และ วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน
2568 ณ โรงละครอักษราคิงเพาเวอร์ ถนนรางน้ำ โดยจำหน่ายบัตร ในราคา 3,500 3,000 2,500 2,000 และ 1,500 บาท ท่านที่สนใจสามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line Official: @Suntaraporn หรือ ศูนย์บริการสุนทราภรณ์ โทร 081 285 1427

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง