สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จับได้อีก! ทหารเรือ นรข.”สถานีเรือบึงกาฬ” ร่วมหน่วยความมั่นคง สกัดจับยาบ้าล๊อตใหญ่ 1 ล้านเม็ด กลางดึก

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 พ.ค.68 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.)เขตหนองคาย สถานีเรือบึงกาฬ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข.มอบหมายให้ น.อ.สุชาติ อุดมนาค รอง ผบ.นรข. เป็นผู้แทนในการแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 1,006,000 เม็ด

ภายใต้อำนวยการของ พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข โดยมี น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย, น.ท.โอรส พุทธโค หัวหน้าสถานีเรือบึงกาฬ พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ประกอบไปด้วย นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ แก้วสมนึก รองผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ, พ.อ.เรวัฒ ธรรมจิรเดช รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, กอ.รมน.จังหวัดบึงกาฬ, ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดบึงกาฬ, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ, ผู้แทนกองร้อย ตชด.244, ผู้แทนตำรวจน้ำบึงกาฬ ผู้แทนนายด่านศุลกากรบึงกาฬ, ผู้แทน บก.อส.จ.บึงกาฬ ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เวลา 23.00 น. ที่ผ่านมา ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ แจ้งว่ามีสายลับรายงานสืบทราบมาว่าจะมีการขนลักลอบยาเสพติดข้ามฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่ บริเวณริมแม่น้ำโขงระหว่างบ้านท่าไคร้ หมู่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ ได้รายงาน น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้ทราบ จึงสั่งการให้ ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ พร้อมเจ้าหน้าที่ นรข.ได้จัดชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ ออกวางกำลังเข้าตรวจในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านท่าไคร้ ตลอดแนวคาดว่าจะมีการกระทำผิด

กระทั่งเวลา 02.00 น.ของวันที่ 16 พ.ค. เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังซุ่มอยู่บริเวณริมโขงบ้านท่าไคร้ ตรวจพบรถยนต์1คัน วิ่งมาพร้อมรถจักรยานยนต์ 1 คัน มาจอดดับไฟบริเวณริมโขง ชุดปฏิบัติการได้ซุ่มเฝ้าตรวจพบมีชายจำนวน 2 คน กำลังยกวัตถุหีบห่อคล้ายยาบ้าเสร็จแล้วรีบขับรถออกไป เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ จึงส่งสัญญาณใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืน

ให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ ผู้ต้องสงสัยกลับเร่งเครื่องยนต์หลับหนีเข้าไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 212 – บก.3013 จึงประสานหน่วยความมั่นคงแจ้งพิกัดรถต้องสงสัย ได้ทำการติดตามค้นรถยนต์ต้องสงสัยขนยาเสพติดถึงบ้านห้วยสามยอด ต.โป่งเปื่อย อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ในระหว่างไล่ล่าติดตามตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว

ผู้ต้องสงสัยมีพฤติการณ์หลบหนีเจ้าหน้าที่ นรข.ทหารเรือจึงตัดสินใจขับรถพุ่งชนรถเก๋งของกลาง ส่งผลให้ทั้งเจ้าหน้าที่ นรข.ทหารเรือ และผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บสาหัส สามารถตรวจยึดของกลางรถเก๋งยี่ห้อ นิสสัน ซันนี่ นีโอ สีบรอนเงิน ทะเบียน กฉ 4045 นครพนม จำนวน 1 คัน ผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมา ชื่อนาย เอ็ม(นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ชาวตำบลหอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงลงไปตรวจดูเปิดดูด้านในรถเก๋งยี่ห้อ นิสสัน ซันนี่ นีโอ สีบรอนเงิน ทะเบียน กฉ 4045 นครพนม พบว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จึงได้นำของกลางทั่งหมดตรวจสอบเพิ่มเติมที่ หน่วยสถานีเรือบึงกาฬ นรข.เขตหนองคาย ซึ่งจากการตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่าทั้ง 3 กระสอบ เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 171 แพ็ค รวมเป็นเป็นยาบ้าทั้งสิ้นจำนวน 1,006,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดบันทึกจับกุมและนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.หอคำ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน น.อ.สุชาติ อุดมนาค รอง ผบ.นรข. กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่ามารับยาบ้าจากคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน(ชื่อพงศ์) ส่งแล้วโดยไม่ได้คุยอะไรกันต่อ เงินจะยังไม่ได้ต้องส่งของล็อตนี้ไปจังหวัดกาฬสินธุ์ก่อนถึงจะได้ แต่มาโดนจับเสียก่อน ผู้ต้องหาก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการแจ้งเบาะแสสืบสวนขยายผลต่อได้ นรข.

ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานบูรณาการร่วมกันในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ในการแก้ปัญหาอีกส่วนหนึ่งจะนำกำลังพลหน่วย นรข.พบปะประชาชน เยาวชน มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจปัญหายาเสพติด และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบคือครอบครัว โดยจะกลับไปให้ข้อมูลที่ดีกับประชาชนให้ความร่วมมือลดละเลิกยาเสพติด

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ปปท.เขต6-ตำรวจ บุกรวบเจ้าหน้าที่กองคลังเทศบาลเบียดบังเงินภาษี. / กอ.รมน.จังหวัด สุโขทัย ร่วมปลูกต้นไม้ “วันต้นไม้แห่งชาติ 2568”

เมื่อเวลาประมาณ10.30น.ของวันที่16 พฤษภาคม 2568. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายณรงวิทย์ สุวรรณสิทธิ์ ผอ.ปปท. เขต 6 และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผอ. กอท.พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปท. เขต 6 นำโดย ร.ต.อ.สมบูรณ์ อินทร์ทับ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ
และ ร.ต.อ.อัศวิน เบญจโอฬาร นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำคู้ จ.พิษณุโลก ปฏิบัติการตามหมายจับศาลอาญา
คดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๖ ที่ 7/2568 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ทำการจับกุมนาย ส. (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ขณะเกิดเหตุตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ ๕ กองคลัง เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย ซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บ รับชำระภาษีของเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี อาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่เบียดบังเอาเงินค่าภาษีที่ตนเองรับไว้เป็นของตนเองโดยทุจริตไม่นำส่งเป็นรายได้ของเทศบาล และเพื่อเป็นการปกปิดการกระทำความผิดได้ปลอมเลขที่และเล่มที่ใบเสร็จรับเงินค่าภาษี และฉีกทำลายใบเสร็จรับเงินบางฉบับ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 14๗ มาตรา 157 มาตรา ๑๖๑ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๒๓/๑ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับ ขณะกระทำความผิด
ทั้งนี้ เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 22/2 หมู่ที่ 2 ต.วังน้ำคู้ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก และได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหา ส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๖ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด” กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย

เรียน ผู้บังคับบัญชาเพื่อกรุณาทราบ กอ.รมน.จังหวัด สุโขทัย ร่วมปลูกต้นไม้ “วันต้นไม้แห่งชาติ 2568”

เมื่อ เวลา 13.30น.ของวันที่16 พค.2568 พ.อ.พิทยา ราชะพริ้ง รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ท.(ท.) พร้อมด้วย จนท.กอ.รมน.จังหวัด ส.ท.

ร่วมกับ จนท.อุทยานแห่งชาติรามคำแหง, ประชาชนจิตอาสา, จนท.ดับไฟป่า, ชป.ลว.พัน.ซบร.23 บชร.3, ชป,ลว.พัน.ขส.23 บชร.3, ผู้นำท่องที่ท้องถิ่น นักเรียนนักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ดำเนินการปลูกต้นไม้ เนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติ 2568 เพื่อฟื้นฟูป่าไม้ และเพิ่มพื้นที่สีเขียว

ซึ่งช่วยในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนให้กับโลก ต้นไม้ยังมีบทบาทสำคัญในการลดมลพิษป้องกันการพังทลายของดิน และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพการปลูกต้นไม้ใน

วันนี้จึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ดำเนินปลูก ต้นสัก, ต้นมะค่า, ต้นมะคึก, ต้นพยุง และต้นไผ่ จำนวน 500 ต้น ในพืัน 3 ไร่ ณ พื้นที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ม.7 บ้านหนองหญ้าไซร ต.ศรีคีรีมาศ อ.คีรีมาศ จังหวัด.สุโขทัย
กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กองทัพภาค 2 จัดพิธีพุทธาภิเษก สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี ณ ค่ายสุรนารี

กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบุญอันยิ่งใหญ่ จัดสร้างสมเด็จพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคุณสุพางค์พรรณ พาดกลาง

ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมผู้มีจิตศรัทธา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ณ สโมสรร่วมเริงชัย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

ได้รับพระเมตตา จาก “4 ดอกบัวบานแดนอีสาน” หลวงปู่ศิลา วัดพระธาตุหมื่นหิน หลวงพ่อสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง พระอาจารย์สุริ

ยัณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี ในพิธีมหาพุทธาภิเษก และทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนสร้าง “สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ”

หรือ “หลวงพ่อใหญ่โชคดี” เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธปฏิมา

สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) มีขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร ความสูง 9 เมตร ซึ่งจะประดิษฐาน ณ วัดป่าศรีคุณาราม อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี

วัดป่าศรีคุณารามเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม

การสร้างพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ ณ วัดแห่งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา ปฏิบัติธรรม และเป็นที่พักพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนสืบไป​

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / น่านทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวกาแฟจังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568–สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรสร้างสรรค์มูลค่าสูง สู่การพัฒนากาแฟน่าน ภายไต้โครงการเกษตรปลอดภัย และมูลค่าสูง (กาแฟ)จังหวัดน่าน

ระหว่างวันที่ 16-17 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดน่าน โดยเชิญ Influencer และสื่อมวลชนจากภาคเหนือ ร่วมเดินทางท่องเที่ยว ชิม และเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟคุณภาพสูงของจังหวัดน่าน

ภายใต้โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง กิจกรรมนี้มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกาแฟน่านและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ณ โรงคั่วกาแฟ น.น่าน อำเภอเสียงสา ร้าน 29 base บนถนน สายอำเภอสันติสุข บ่อเกลือ จังหวัดน่าน

กิจกรรมประกอบด้วยเรียนรู้วิธีการคั่วกาแฟ เรียนรู้การแปรูปผลิตภัณฑ์จากกาแฟ เรียนรู้เกี่ยวกับกาแฟพิเศษน่าน ร่วมเวิร์กชอฟเกลือสปาผิวที่รฤกบ่อเกลือ ซึ่งในช่วงเช้าสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน

ได้นำคณะขึ้นรถรางชมความงดงามนเส้นทางท่องเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองน่าน จุดที่ 1 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน จุดที่ 2 วัดมิ่งเมือง จุดที่ 3 วัดศรีพันต้น จุดที่ 4 วัดไผ่เหลือง จุดที่ 5 วัดหัวข่วง จุดที่ 6 วัดมงคล จุดที่ 7 กำแพงเมือง จุดที่ 8 ตลาดโต้รุ่ง

จุดที่ 9 วัดสวนตาล จุดที่ 10 แยกช้างเผือก จุดที่ 11 วัดสถารส จุดที่ 12 มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาน่าน จุดที่ 13 ตลาดเชียงแข็ง จุดที่ ที่14 วัดน้ำล้อม จุดที่ 15 โรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา จุดที่ 16 วัดหัวเวียงไต้ จุดที่ 17 ศาลเจ้าปึงเถ่ากง จุดที่ 18 วัดกู่คำ จุดที่ 19 วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร /บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงา

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “คุ้ย” ทำถึง! ปล่อยตัวอย่างเต็ม “Attack วิญญาณเลขที่ 13”เปิดมิติใหม่ “ผีลิลลี่” ไล่ล่า “อ๊ะอาย-เพิร์ธ-สตางค์-ยูแอล” โคตรคลั่ง ตะโกนลั่น ถ้าผี Bully มา พวกเธอก็พร้อม Attack กลับ!!!!

 “13 สตูดิโอ” (เธอทีน สตูดิโอ) นับถอยหลังเปิดฉากการไล่ล่าสุดคลั่งของ “ผีบุษบา” ในภาพยนตร์สยองขวัญ “Attack วิญญาณเลขที่ 13” ผลงานการกำกับของ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา การันตีโดยผลงานภาพยนตร์ “ธี่หยด” และ “ธี่หยด2” ที่กวาดรายได้ไปกว่า 1000 ล้านบาท 
 ล่าสุดได้ปล่อยตัวอย่างเต็มของ “Attack วิญญาณเลขที่ 13” ให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความเขย่าขวัญแบบไร้ขีดจำกัด นำแสดงโดย  อ๊ะอาย-กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ หรือ อ๊ะอาย 4eve รับบทเป็น “จิน”, ลิลลี่-ลฎาภา ทองคำ หรือ ลิลลี่ เดอะ เฟซ สวมบทเป็น “บุษบา” หรือ “ผีบุษบา”, เพิร์ธ-วีริณฐ์ศรา ตั้งกิจสุวานิช แสดงเป็น “หงส์”, สตางค์-ตริษา ปรีชาตั้งกิจ รับบทเป็น “อร”, ยูแอล-รมิตา รัตนภักดี แสดงเป็น “หยา”  และนักแสดงหนุ่มหล่อคนเดียวของเรื่องนี้ได้แก่ แบงค์-ณฐวัฒน์ ธนทวีประเสริฐ สวมบทเป็น “กรรณ”
ผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา กล่าวว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้หยิบเอาประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม ได้แก่ การบูลลี่ หรือการล้อเลียน มาพูด ซึ่งปัญหาการบูลลี่มีมาตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนมัธยม ล้อชื่อพ่อแม่ ล้อเรื่องรูปร่างหน้าตา ดังนั้นผมเลยเลือกนักแสดงวัยรุ่นหญิงมาร่วมงานด้วย เลือกคนที่หน้าตาดีเพราะอยากได้ฟีลแบบเกิร์ลกรุ๊ป  คนแรกที่คิดถึงเลยคือ น้องอ๊ะอาย เพราะเราเคยร่วมงานกันมาก่อน ก็เห็นด้านใส ๆ ของน้อง เลยคิดว่าถ้าเราเอาเขามาปรับเป็นโหมดโหด สู้คน มีความแซ่บ อ๊ะอายในเรื่องนี้จะเถื่อนหน่อย ๆ การเข้าใจคาแร็คเตอร์ตัวนี้ต้องใช้ฝีมือ ต้องทำยังไงให้คนเชียร์ตัวละครตัวนี้ ซึ่งอ๊ะอายทำได้ดีเข้าใจมู้ดตัวละครนี้มากครับ ในส่วนของ ลิลลี่ เคยดูผลงานของเขาจากหนัง “เพื่อนที่ระลึก” และเป็น เดอะ เฟซ ทีมงานก็บอกผมว่าเด็กคนนี้เก่ง ทำการบ้านดี ซึ่งก็จริง อย่างบางซีนผมตีความแบบนี้ แต่ลิลลี่ก็มองว่าน่าจะเป็นแบบนี้ไหม เขาตีคาแร็คเตอร์ไว้ดี บท “บุษบา” ที่ลิลลี่ได้รับ เป็นคนที่โหดสุด บูลลี่คนหนักสุด เป็นหัวโจกที่จี๊ดสุดในโรงเรียน แต่ในเวลาเดียวกันเขาต้องขับเสน่ห์ตัวเองออกมาให้ดูน่าสนใจให้ได้ ผมก็ลองเอาภาพน้องไปเทสต์ให้ผู้ชายดู เขาก็บอกว่าลิลลี่เหมือน หวังจู่เสียน ผมก็รู้สึกว่ารอดแล้ว เขาดูมีคาริสม่าดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างดีครับ” 

“เพิร์ธ เป็นอะไรที่แจ๋วมาก เขาเป็นนางเอกช่อง One31 ตัวละครตัวนี้มีคาแร็คเตอร์เป็นเด็กผู้หญิงใส ๆ มีน้ำใจ เงียบและเก็บความรู้สึกเก่ง ตัวละครนี้เล่นยาก และต้องแชร์แอร์ไทม์ให้คนอื่นด้วย ตอนที่นั่งดูตัดต่อรู้สึกว่าทำไมเขาเก่งอย่างนี้ ส่วนน้องสตางค์ เคยผ่านการแสดงซีรีส์มาบ้าง แต่ไม่เคยเล่นหนังเลย ตอนแรก ๆ ก็รู้สึกว่าน้องดูไม่มีทักษะเลย แต่เขามีความสดใสเหมือนตัวละคร “อร” เป็นลูกกระจ็อกของแก๊ง แต่พอมาร่วมงานกันเขามีความพยายามมาก กลายเป็นว่าการแสดงของเขาตัดต่อชมเขาเยอะที่สุด เขาเล่นรับทุกแอ็ค ไม่คัทไม่เลิกจริง ๆ สำหรับน้องยูแอล เป็นนางเอกละครจักร ๆ วงศ์ ๆ เห็นแล้วรู้สึกเขามีเสน่ห์ เราอยากให้คนแบบแปลก ๆ ที่คนดูไม่คิดว่าจะมาเล่น การได้นางเอกจักร ๆ วงศ์ ๆ มาร่วมงานอย่างน้อยเขาอึด ถึก ทน เขาตอบโจทย์บท “หยา” ได้ดี ชั่วโมงบินการแสดงเยอะเราดีดนิ้วสั่งได้เลย ปิดท้ายด้วย ผู้ชายคนเดียวอย่าง แบงค์ ทำไมต้องเป็นเขา จริง ๆ มีคนมาแคสท์เยอะมาก แต่ผมรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์มากที่สุดา หน้าตาดีดูหลอกผู้หญิงได้ ทรงแบดบอย และเขาเข้าใจมู้ดตัวละครมากสุด มีทั้งดีและเลว และเราต้องเอาใจช่วยเขาด้วย ตัวละครนี้แบงค์โดดเด่นและเข้ากับคาแร็คเตอร์มากที่สุด เขาเป็นคนมีความตั้งใจครับ” คุ้ย-ทวีวัฒน์ กล่าว

“Attack วิญญาณเลขที่ 13” 19 มิถุนายนนี้ “ตบ” ถึง “ตาย” ในโรงภาพยนตร์

13studio #THIRTEENSTUDIO #ATTACK13 #วิญญาณเลขที่13

Aheye4EVE #stangtari #ULRamita #PerthKVSR #LillyNicha #BankNuttawat

ลิงค์ตัวอย่างภาพยนตร์ https://drive.google.com/drive/folders/1sURlyJeQ5X5hAdn0-wIknocRErSGdV7S

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.อำนวย หมื่นภูเขียว ณ.เมรุวัดแจ้งสว่างใน ต.โนนหัน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 16.45 น.พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธาน พิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.อำนวย หมื่นภูเขียว ศิริอายุ 78 ปี โดยมีนางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรชุมแพ คหบดีเมืองชุมแพ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แขกผู้มีเกียรติ ครอบครัว คณะญาติให้การต้อนรับและร่วมกันประกอบพิธีส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดี เสร็จพิธีประธานจึงได้เดินทางกลับ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผัวโหดทุบหัวเมียเสียชีวิตในวันเกิด – ตำรวจตั้งข้อหาหนัก

เกิดเหตุสลดในพื้นที่ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เมื่อชายวัย 35 ปี ก่อเหตุทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม เวลาประมาณ 21.00 น. นายสมัคร เมืองพิน หรือ “กึ้ม” ได้ทำร้ายร่างกายนางสาวพิกุลทอง ดาผา อายุ 43 ปี ภรรยาของตนเอง โดยใช้มือและเท้าทุบตีบริเวณศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังเกิดเหตุ นายกึ้มได้นำร่างภรรยาส่งโรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรแจ้งบุตรสาววัย 17 ปีของผู้เสียชีวิต ซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด ว่าแม่ถูกทำร้ายร่างกายจนไม่รู้สึกตัว และต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมุกดาหาร

อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ผู้เสียชีวิตสิ้นใจในเวลา 06.20 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของเธอ โดยบุตรสาวเปิดเผยว่า ตนเดินทางกลับมาทันหลังแม่เสียชีวิตไปแล้วเพียง 1 ชั่วโมง

นายดาว คำวงษา อายุ 55 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ลูกชายตนมักมีนิสัยรุนแรงเวลาเมา สุราเป็นสาเหตุหลักของปัญหา โดยก่อนหน้านี้นายกึ้มเคยมีแฟนหลายคน และคบหากับผู้เสียชีวิตมาราว 2 ปี ก่อนจะมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าในบ้านโนนเกษม ต.นิคมคำสร้อย ซึ่งตลอดระยะเวลามักมีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำ

ภายหลังเกิดเหตุ นายกึ้มได้กลับมารอให้ตำรวจจับตัวที่บ้านเช่า โดยให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายภรรยาจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาให้ถึงแก่ชีวิต

เบื้องต้น พ.ต.ท. วัชรพล จันทรศรี พนักงานสอบสวน สภ.นิคมคำสร้อย ได้แจ้งข้อหานายสมัคร เมืองพิน ในข้อหา “เจตนาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” และควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ข่าวอาชญากรรม #ความรุนแรงในครอบครัว #ผัวทำร้ายเมีย #มุกดาหาร #ข่าวภูมิภาค #วันเกิดกลายเป็นวันตาย #สถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อย #ฆ่าภรรยา​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สาธารณสุข ผนึก ทหาร – ตำรวจ บูรณาการร่วมกันพร้อมองค์กรต่างๆ ยกระดับโคราช ทูบี นัมเบอร์ วัน โคราช

รองนายแพทย์สาธารณสุข ปลุกระดม ทหาร-ตำรวจ และองค์กรต่างๆในโคราชให้มาบูรณาการร่วมกันยกระดับโคราช “ทูบี นัมเบอร์ วัน โคราช” ของจังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 32 อำเภอ เน้นไปที่การสร้างกิจกรรมทางการกีฬา การร้องเพลง ดนตรี เพื่อให้เยาวชนของนครราชสีมาห่างไกลจากยาเสพติด ตั้งงบปี 2568 กว่า 7 ล้านบาท

นายชวิศ เมธาบุตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาเปิดเผยว่า ตนในฐานะประธานการประชุมบูรณาการทุกหน่วยงานของจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดประชุมการจัดกิจกรรม “ทูบี นัมเบอร์ วัน ” เพื่อต่อต้านยาเสพติดประจำปี 2568 โดยมีทุกภาคส่วนของจังหวัด อาทิ ตำรวจ ทหาร สาธารณสุขทุกอำเภอ โรงเรียน โรงพยาบาล เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาประชุมเพื่อแนวทางในการจัดกิจกรรมส่งเสริมโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปีนี้ได้รับงบประมาณจากจังหวัดประมาณ 7 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมปี 2568 นี้ โดยเน้นกิจกรรมไปที่เด็ก และเยาวชน เพื่อต่อต้านยาเสพติด อาทิ กิจกรรมการออกกำลังกาย กิจกรรมทางดนตรี กิจกรรมเน็ตไอดอล เพื่อให้เด็กมีผลงานเข้ามาประกวดและแข่งขัน และต่อยอดในกิจกรรมนั้นๆและยังเป็นการเพิ่มจำนวนเด็กและเยาวชนให้เพิ่มมากขึ้น และเป็นการเซ็ทติ้งสถานศึกษา เรือนจำและสถานประกอบอื่นๆอีกด้วย และปีนี้เราได้ทางตำรวจและกองทัพภาคที่ 2 หน่วยงานราชการเข้ามาร่วมเซ็ทติ้งกับเราในปีนี้ด้วย

รองนายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมากล่าวต่อไปอีกว่า ทำอย่างไรเด็กและเยาวชนจะมีความเข้มแข็งต่อตนเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า น้ำกระท่อม ต้องได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว ต้องหากิจกรรมให้เขาเหล่านั้น ต้องมีความฝันให้เด็กๆ มีความฝันที่อยากจะเป็นนักกีฬา นักดนตรี หรือเน็ตไอดอลเขาจะได้ห่างไกลจากยาเสพติด โครงการ “ทูบี นัมเบอร์ วัน ” ก็จะมุ่งเน้นจุดเริ่มต้นของเด็กๆหากิจกรรมให้เขาเหล่านั้นได้ร่วมและขยายวงไปยังเครือข่ายต่างๆ ของน้องๆ และเยาวชนให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสถานศึกษา และสถานประกอบการต่างๆ ก็จะเชื่อได้ว่าเด็กจะหวนคืนสู่สังคมได้อย่างแน่นอน
ทางด้าน พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา

กล่าวว่า เข้าร่วมสนับสนุนเพื่อของ ทูบี นัมเบอร์วัน เน็ตไอดอล ตามพื้นที่อำเภอต่างๆ พร้อมทั้งกวดล้านขบวนการผู้ค้ายาเสพติดและขบวนการ พร้อมทั้งดูแลผู้เสพเพื่อให้เขากลับคืนสู่สังคม กิจกรรม ทูบี นัมเบอร์วัน เป็นกิจกรรมที่ดี ทางตำรวจพร้อมให้การสนับสนุนทุกๆกิจกรรม เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
ด้านพันเอกจีราชัย มุสิกะพุกก์ รองเสนาธิการ มณฑลทหารบกที 21 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนมองว่าอนาคตของประเทศชาติเริ่มต้นที่เด็กและเยาวชน เราสามารถทำให้เด็กๆห่างไกลจากยาเสพติดได้ ทางตนพร้อมให้การสนับสนุน กิจกรรมของเด็กและเยาวชนให้ดีต่อประเทศชาติต่อไปและโครงการที่ดีอย่าง “ทูบี นัมเบอร์ วัน” ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเยาวชนสามารถห่างไกลจากยาเสพติดได้ด้วย กิจกรรมต่างๆของโครงการนี้

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อภิมหาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ก้าวสำคัญสู่ศูนย์กลางการบินระดับโลก

​โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Eastern Aviation City) ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยมีเป้าหมายในการยกระดับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติหลักแห่งที่ 3 ของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางการบินหรือ Aviation Hub ที่สำคัญในภูมิภาค

​สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนั้นพบว่าจะมีการเซ็นสัญญาก่อสร้างและการลงทุนอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ ซึ่งเป็นกานรลงนามระหว่างบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ที่เตรียมจะเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 โดยไม่รอการเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และอยู่ระหว่างการเจรจาสิทธิประโยชน์พื้นที่ปลอดอากรเมืองการบินอู่ตะเภา

​ขณะที่แผนการพัฒนาโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภามีแผนดำเนินการครอบคลุมในพื้นที่กว่า 6,500 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีการวางแผนพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกให้เป็นศูนย์กลางการบินและธุรกิจต่อเนื่อง รวมถึงการเชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางรางแบบไร้รอยต่อ

​มีรายงานเพิ่มเติมว่าโครงการนี้มีการสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือกับเอกชน โดยรัฐบาลได้อนุมัติการแก้ไขสัญญาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยเพิ่มเงินลงทุนเป็น 40,000 ล้านบาท และจัดหาแหล่งเงินกู้เงื่อนไขพิเศษ . นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติให้สถานบริการในเขตเมืองการบินภาคตะวันออกสามารถเปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย

ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ ที่จะให้มีการเปิดบริการโครงการได้ในเฟสแรกภายในในปี 2571 โดยมีการวางแผนขยายขีดความสามารถสนามบินและพื้นที่เชิงพาณิชย์สู่ “มหานครการบินอู่ตะเภา” . ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย

​สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก และส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกเป็นอย่างดี

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่า.กทม. จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ประสบภัย และผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ ตึกสตง. ถล่ม

(13 พ.ค.68) ณ อาคารจอดรถ ตึกสตง. เขตจตุจักร เวลา 07.00 น. : นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

ในพิธีทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ประสบภัยและผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เขตจตุจักร

เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคน โดยมีเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถระสมาคม

เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 89 รูป เพื่อรับบิณฑบาต

️จากนั้น เวลา 08:00 น. พระสงฆ์จำนวน 109 รูป ได้ทำพิธีสวดพระพุทธมนต์ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต และในเวลา 09.45 น. ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร

ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจากทุกหน่วยงาน ร่วมยืนไว้อาลัยให้กับผู้ประสบภัย

เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ในการไว้อาลัยให้ผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทย ณ บริเวณชั้นล่าง อาคารจอดรถ ตึกสตง. เขตจตุจักร

️ในการนี้ นายมลเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.)

นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชาชนในพื้นที่เขตจตุจักร

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง