สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บ้านดอนตัน 100 กว่าหลังคาจมน้ำ ขณะที่เยาวชนฝีพายเรือแข่ง อ.ท่าวังผา ขนน้ำลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน

วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 – สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่านยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่ บ้านดอนตัน หมู่ 4 ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา ซึ่งมีชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนยังคงอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่ยังสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 ของบ้านเพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียวจำเป็นต้องอพยพไปพักอาศัยอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียงหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และจิตอาสาได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

โดยมีการจัดส่งอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา ได้นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงมือผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ภายในบ้าน ดร.เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ได้ลงพื้นที่นำข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมรับฟังปัญหาและให้กำลังใจถึงพื้นที่ด้วยตนเอง

นายเดโชพล คำเขียว ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำ ยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไยรวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด
ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา

ได้แก่ บ้านสบหนอง บ้านหนองบัว บ้านดอนมูล และบ้านดอนแก้ว ระดับน้ำได้ลดลงอยู่ที่ประมาณ 50-80 เซนติเมตร ส่วนในเขตเทศบาลตำบลท่าวังผา ระดับน้ำได้ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านในการทำความสะอาดบ้านเรือนและถนน เพื่อขจัดคราบโคลนและป้องกันไม่ให้โคลนแห้งกลายเป็นฝุ่นฟุ้งเข้าสู่บ้านเรือน

ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการสำรวจความเสียหายในพื้นที่การเกษตร เพื่อวางแผนการช่วยเหลือและเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไป ข้อมูลระดับน้ำ ณ เวลา 14.00 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ในจุดสำคัญต่าง ๆ ของจังหวัดน่าน พบว่าจุดวัดน้ำ N64 บ้านผาขวาง อ.เมืองน่าน: ระดับน้ำ 9.56 เมตร (แนวโน้มลดลง) – เกินระดับวิกฤติ 9.50 เมตร จุดวัดน้ำ N1 หน้า สนง.ป่าไม้ อ.เมืองน่าน: ระดับน้ำ 7.55 เมตร – เกินระดับวิกฤติ 7.00 เมตร จุดวัดน้ำ N13A บ้านไผ่งาม อ.เวียงสา: ระดับน้ำ 7.59 เมตร – เกินระดับวิกฤติ 6.50 เมตร จุดวัดน้ำ N75 สะพานท่าลี่ อ.เวียงสา: ระดับน้ำ 7.02 เมตร (แนวโน้มลดลง) – ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 10.00 เมตร

สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2568 ส่งผลกระทบรวม 7 อำเภอ 13 ตำบล 20 หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์และความเสียหาย
ด้าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้สั่งการให้ทุกอำเภอที่ได้รับผลกระทบเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ และให้หน่วยงานท้องถิ่นจัดตั้งโรงครัวประกอบอาหาร แจกจ่ายข้าวกล่องให้กับประชาชน

พร้อมทั้งระดมสรรพกำลัง อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตามจังหวัดน่านยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยประชาชนในพื้นที่เสี่ยงขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย/ภาพข่าวระพีพร เพชรเจริญ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กอ.รมน.จ. ส.ท. ลงพื้นที่มอบของช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย ในพื้นที่ อ.สวรรคโลก จว.ส.ท.

เมื่อ เวลา 09.00ของวันที่17ก.ค.2568 พ.อ.พิทยา ราชะพริ้ง รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ท. (ท.) มอบหมายให้ พ.ท.ดุสิต อยู่นิ่ม หน.ฝ่ายนโยบายและแผนฯ พรัอมด้วย จนท.กอ.รมน.จังหวัด ส.ท. ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือครอบครัวของ พลทหารอัสนีย์ สีแดงสุวรรณ​ สังกัด​ ร้อย.ซ​บร​.1​ พัน.ซ​บร​.23​ บ​ชร​.3​ อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.8 ต.คลองยาง อ.สวรรคโลก จว.ส.ท. ได้รับผลกระทบจากวาตภัยเมื่อวันที่ 15 ก.ค.68 ทำให้หลังคาบ้านบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัย และครอบครัว พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบต่อไป
กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อากาศร้อนคนหัวร้อนระทึกขับรถ ปาดหน้าเฉี่ยวชน จนเกิดมวยกลางถนนจบด้วนยิง3นัดต่อหน้าผู้ใช้รถติดไฟแดง

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 17 กรกฎาคม เวลา 14.30 น ร.ต.อ.ชวกุล สิทธิ ศักดิ์ พงส. ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลใช้อาวุธปืนยิงกันที่ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนปรมินทรมรรคา ต.ท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ด้วยอาวุธปืนจึงรายงาน พันตำรวจเอกปัญญาท่วมสีผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองชุมพรทราบจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ

เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบ นายเกรียงศักดิ์ ชูราศี และนางกัญญภัทร รติภัชรสิริ ให้ข้อมูลว่า บุคคลทั้งสองได้นั่งโดยสารมาด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน งบ 26 ชุมพร โดยมีนายสุริยา บัวหอม เป็นผู้ขับขี่ เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณสี่แยกหอนาฬิกาที่เกิด เหตุ รถยนต์โดยสาร(รถสองแถว) ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน สีแดง

ได้หยุดรถทำให้นายสุริยาฯที่ขับขี่ รถตามหลังมา เฉี่ยวชนบริเวณท้ายรถยนต์โดยสารดังกล่าวจากนั้นนายสุริยาฯและคนร้ายได้ลงมาจากรถมีปากเสียงกัน คนร้ายได้ใช้ อาวุธปืนที่ พกไว้ในกระเป๋าสะพายยิงไปที่นายสุริยาฯ ทำให้นายสุริยาฯได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายและถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ส่วนคนร้ายได้ขับขี่รถหลบหนีไป จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบ ปลอก กระสุนปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 3 ปลอก ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษไว้เป็น คดีอาญาที่ 751/2568 เพื่อจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนนาย นายเจนณรงค์ ดวงสกุล ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวขณะที่ผมขับรถมาก็เห็นไฟเขียวพอดีกำลังจะเลี้ยวขวาจากแยกไฟแดงเพื่อที่จะเดินทางไปทางปากน้ำแต่ผมอยู่ในช่องเดินรถที่สองที่จะเลี้ยวขวาก็ได้ตรงไป

ก็ได้พอดีผมขับรถมาผมได้ยินเสียงแตรผมก็ไหลไปไม่ได้ดูรถเลยผมเข้าใจว่าผมตัดหน้ารถทางตรงหรือเปล่าก็เลยแตะเบรค ทำให้เขามาชนท้ายผมตอนที่ผมกำลังจะลงไปผมเห็นว่ามีรถชนท้ายผมก็ได้เปิดประตูเพื่อที่จะลงไปแต่ก็เห็นเค้ากระโดดถีบเข้ามาเลยหลังจากนั้นได้ลงไปจากรถก็ได้ต่อยกันและเขาก็มารุมผม แต่ผมว่าจะวิ่งหนีเข้าไปในปั๊มน้ำมันเพื่อหลบนึกขึ้นได้ว่าลูกเมียได้อยู่ในรถ

เพราะลูกก็อยู่ในรถอายุแค่ขวบเดียวกลัวจะได้รับอันตรายเกิดขึ้นผมก็เลยหันกลับมาตัดสินใจชักปืนขึ้นมา ยิงตั้งใจยิงนัดแรกผมยิงลงพื้นแล้วก็นัดสองก็กะว่าจะยิงให้ถูกขาแต่ไม่ทราบว่าถูกหรือเปล่าผมยิงไปสามนัด ส่วนรถสองแถวคันนี้ผมเพิ่งซื้อมา ผมทำอาชีพ อู่รับซ่อมรถกระบะแล้วก็ทำสวน ในวันนี้ได้ไปซื้อไม้และไปเหมาไม้ก็เลยได้ซื้อรถคันนี้เป็นรถตอนเดียวเพื่อจะนำไปขนไม้ที่ไปรับเหมา ต่อมาผมเกรงกลัวความผิดก็เลยได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวในครั้งนี้
นางกัญญาภัทร รติภัชรสิริ อายุ 67 ปี

เจ้ารถเล่าว่า ก็วันนี้ได้พาหลานออกมาขับรถเที่ยวรถเล่นเพราะอากาศมันร้อนก็เลยมาเกิดเหตุขึ้นในครั้งนี้สร้างความตกใจตื่นตระหนกมากเพราะว่ายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่มีการเอาปืนมาไล่ยิงกัน ต้อนที่ ใกล้จะติดไฟแดงแต่รถสองแถวสีแดงมาปาดหน้าเดินทางมาด้วยกันแต่รถเค้ามาปาดหน้าทำเกิดการเฉี่ยวชนกันด้านหน้าซ้ายทำให้เด็กที่อยู่ในรถหัวทิ่มลงไปในเบาะเด็กเด็กที่ขับรถมันเลยโกรธโมโหก็เลยออกไปต่อยกันคนขับรถสีแดงก็เดินอ้อมออกไปทางด้านซ้ายแล้วก็กลับมาชักปืนยิงยิงสามนัดยิงโดนแขนผู้บาดเจ็บแตกคราวนี้อาการปลอดภัยอยู่อาศัยอยู่ที่บางไผ่รถก็อยู่ที่นี่แต่ว่าใช้ทะเบียนที่ชลบุรี

ร.ต.อ.ชวกุล สิทธิ ศักดิ์ รวบรวมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งสอบถามพยานคนเห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า พยามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนโดยใช้ดินระเปิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เจ้าของธุรกิจให้เช่าสินสอดสุดช้ำ! ถูกหญิงสาวหลอกเช่าเงิน 5.5 ล้าน ก่อนเชิดหนี – พบเคยก่อเหตุซ้ำที่ชลบุรี

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากลูกสาวของหญิงวัย 60 ปี เจ้าของธุรกิจปล่อยเช่าสินสอดในจังหวัดขอนแก่น ว่ามารดาของตนตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพชาย-หญิง

ชื่อ น.ส.พรทิพย์ หรือ แป้ง นายปั๊ก และ น.ส.หมวย โดย น.ส.พรทิพย์ ได้หลอกเช่าเงินจำนวน จำนวน 5,500,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำไปถ่ายรูปคู่กับเงินเพื่อสร้างเครดิตให้ดูน่าเชื่อถือ โดยจะนำไปแสดงต่อนายทุน คือ นายปั๊ก และ น.ส.หมวย เพื่อร่วมลงทุนทำธุรกิจเต้นท์รถกัน แต่ภายหลังกลับหลอกล่อให้ทั้ง 2 คน นำเงินจำนวน 5,500,000 บาท หลบหนีไป

จากการสอบถาม ลูกสาวของผู้เสียหายเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย น.ส.พรทิพย์ ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อขอเช่าเงินจำนวน 8 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายมีเงินไม่พอจึงลดลงมาเหลือจำนวน 5,500,000 บาท ตกลงจะจ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 76,500 บาท

โดย น.ส.พรทิพย์ ได้เงินโอนเงินมัดจำมาให้ก่อนเป็นจำนวน 5,000 บาท และได้มีการนัดส่งมอบเงินกันในเวลา 14:00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งในวันดังกล่าว น.ส.พรทิพย์ มารับเงินด้วยตนเองที่ร้านข้าวเปียกช็อปเปอร์ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ก่อนส่งต่อเงินให้เพื่อนร่วมแก๊งที่มาด้วยกันสองคน คือ นายปั๊ก และ น.ส.หมวย นำขึ้นรถหลบหนีไป โดยอ้างว่านำไป “นับเงิน” แล้วจะกลับมา แต่สุดท้ายทั้งสองก็หายตัวไปเลย

ขณะที่ผู้เสียหายพยายามสอบถาม น.ส.พรทิพย์ เจ้าตัวกลับอ้างว่าตนเองก็ถูกหลอกเช่นกัน ไม่มีเจตนาหลอกลวงหรือยักยอก และจะพยายามติดตามเงินกลับมาให้ จึงได้มีการพาตัวน.ส.พรทิพย์ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองมุกดาหาร และนัดหมายว่าจะนำเงินมาคืนภายในวันที่ 16 กรกฎาคม แต่เมื่อถึงวันนัดกลับไม่มาตามที่ใดมีการลงบันทึกประจำวันตกลงกันไว้

ต่อมา ผู้เสียหายตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นชาวตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร และเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ได้ใช้วิธีหลอกเช่าเงินแบบเดียวกัน และมีชื่อ น.ส.พรทิพย์ เป็นผู้ติดต่อในทั้งสองกรณีเบื้องต้นผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองมุกดาหาร เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หลอกเช่าสินสอด #เชิดเงิน5ล้าน #มุกดาหาร #พรทิพย์ #มิจฉาชีพหญิง #ให้เช่าสินสอดขอนแก่น #อาชญากรรม #เตือนภัย #หลอกลงทุน #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้​ ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหา​ร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ที่อ.โคกสำโรง คณะ สงฆ์ประชาชน อุบาสกอุบาสิกา ร่วมงาน ธรรมนาวา “วัง” มากกว่า 600 คน

วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.30 น. ที่วัดเขาจรเข้ ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรีนางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อำเภอโคกสำโรง

ประธานพิธีฝ่ายฆราวาส พันตำรวจเอกมาโนช จันเที่ยง ผกก. สภ. เพนียด นางสาวพรพรรณ ศรีเมือง (คีรีตา รีสอร์ท แอนด์ คาเฟ่) ต.วังเพลิง พร้อมด้วยอุบาสกอุบาสิกา หัวหน้าส่วนราชการอำเภอโคกสำโรง ประชาชน คณะสงฆ์อำเภอโคกสำโรง จำนวนพระสงฆ์เข้าร่วมงาน 250 รูป ประชาชน 425 คน ร่วมงาน ธรรมนาวา “วัง”

พุทธศาสนิกชน สู่การตื่นรู้ร่วมงาน ธรรมนาวา วัง เป็นจำนวนมากที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี โดยมีการแตงกายชุดขาว และเครื่องแบบกากี
กิจกรรมภาย

ในงานประกอบด้วยการบรรยายธรรมจากคณะสงฆ์ พระสังฆาธิการหลายรูปสลับการหมุนเวียนบรรยายธรรมให้ความรู้แก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมงาน สลับกับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มาให้ความรู้ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา นอกจากนี้แล้วยังมีจัดนิทรรศการ ให้ความรู้กับผู้ร่วมงาน และมีการสวดมนต์ธรรมวัด “ธรรมสัญจร”

ผู้ร่วมงานต่างได้แสดงความรู้สึกว่า วันนี้ได้มารับความรู้ จากธรรมะคำสอนต่างๆมากมายที่นำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้

ทั้งนี้กิจกรรมปูทางตื่นรู้ สู่ธรรมนาวา วัง ที่จัดขึ้น เพื่อเผยแพร่ตามหลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนา ธรรมนาวา วัง ตามแนวทางพระราชดำริ หลักธรรมไปสู่การพ้นทุกข์ของพระพุทธองค์ และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันในทุกมิติอีกด้วย

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ และอนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บริหารส่วนตำบลตินแดง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ได้ดำเนินกิจกรรมโครงการคลองสวยน้ำใส ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ณ.คลองอีสานเขียว หมู่ที่ 5 บ้านดองดึง ตำบลดินแดนแดง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษได้ดำเนินกิจกรรมโครงการคลองสวยน้ำใส อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนตำบลดินแดง โดยมี
ประชาชนเข้าร่วม 60 คน

กิจกรรมดังกล่าว มีนายฉลาด ชิดชม นายอำเภอไพรบึง เป็นประธานในพิธี และร่วมลอกคลองกับชาวบ้าน ร้อยตำรวจเอกปธิวัฒน์ พลเหลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดินแดงได้ดำเนินการจัด โครงการคลองสวยน้ำใส ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

โดยมี นางวิลาสินี ไพรสิน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง นำพาพี่น้องประชาชน และเจ้าที่ร่วมกิจกรรม โดยได้รับความร่วมมือจาก กำนัน สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในตำบลดินแดงเข้าร่วมกิจกรรมผลที่ได้รับ
๑. เกิดการบูรณาการร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานในพื้นที่และประชาชนในการกำจัด

วัชพืชที่กีดขวางทางน้ำ และเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีสภาพที่สะอาดและสวยงามสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้อย่างคุ้มค่า
๒. ชาวบ้านมีความเข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการอนุรักษ์ และดูแลรักษาทรัพยากรในแม่น้ำ ล้ำ ลำคลอง

๓. ชาวบ้านมีแหล่งน้ำสาธารมะที่ขอาดและมีคุณภาพในการใช้ประโยรน์ใต้อย่างคุ้มค่า
๔. ชาวบ้านมีจิตสำนึกในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พาณิชย์ศรีสะเกษ ชวนชม ชิม ช้อป FUN FOOD FEST ตลาดเขียว โขง ชี มูล 2025 ศรีสะเกษ

***เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดงาน FUN FOOD FEST ตลาดเขียว โขง ชี มูล 2025 ศรีสะเกษ โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์

ซึ่งพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ภาครัฐและภาคเอกชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค. 68 เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ และสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์ของกลุ่มจังหวัด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

***นายจีระศักดิ์ ศรีเพชร พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญของ
ภาคและประเทศ

จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมตลาดสินค้าปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์ ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย และสินค้าเกษตรอินทร์ทรีย์ ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 จำนวน 45 ราย ประกอบด้วย จังหวัดศรีสะเกษ 29 ราย จังหวัดอุบลราชธานี 5 ราย

จังหวัดอำนาจเจริญ 6 ราย Food Truck 2 ค้น และกิจกรรมรณรงค์ การบริโภคผลไม้ ชื่องาน “Thai Fruits Festival 2025 @SISAKET” โดยมีผลไม้มังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ทุเรียนภูเขาจากศรีสะเกษ กิจกรรมส่งเสริมการขาย และการแสดงดนตรี

ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนที่ใครชอบชม ชิม ช้อป สามารถเดินเข้ามาในงาน FUN FOOD FEST ตลาดเขียว โขง ชี มูล 2025 ศรีสะเกษ ได้ที่ บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค. 68 นี้
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จนท.ปักธงแดงเตือนภัย หลังลำห้วยบังอี่น้ำแตะระดับวิกฤต – พบน้ำท่วมโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วน

วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ลงพื้นที่สอดส่องโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมห้วยบังอี่ บริเวณสะพานข้ามห้วย

ในพื้นที่ตำบลหนองแวง และตำบลนากอก อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พบว่าในช่วงเวลานี้มีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในลำห้วยเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว จนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนของโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง

ขณะที่เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานมุกดาหาร ได้ติดตั้งป้ายแจ้งเตือนระดับน้ำและปักธงแดงบริเวณจุดเฝ้าระวังบ้านห้วยกอก สะพานข้ามห้วยบังอี่ หลังระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับวิกฤต (มากกว่า 7.00 เมตร)

โดยธงแดงถือเป็นสัญญาณแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมระดับวิกฤต โดยระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์วิกฤตเริ่มล้นตลิ่ง ให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ระวังภัยที่เกิดจากน้ำ และให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

อนึ่งขณะนี้ ได้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตตำบลหนองแวง และนากอก บางส่วนแล้ว

น้ำท่วมมุกดาหาร #ห้วยบังอี่ #ปักธงแดง #เตือนภัยน้ำท่วม #ธงแดงวิกฤต #ลำห้วยบังอี่ #นากอก #หนองแวง #นิคมคำสร้อย #น้ำหลาก #มุกดาหารวันนี้ #ข่าวน้ำท่วม2568 #ธรรมาภิบาลจังหวัดมุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สพม.น่าน ลงพื้นที่ให้กำลังใจโรงเรียนสตรีศรีน่าน เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม

วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 นางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บริหาร คณะครู และนักเรียนโรงเรียนสตรีศรีน่าน ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม

ในการนี้ คณะครูและนักเรียนได้ร่วมแรงร่วมใจกันเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมทั้งจัดเตรียมแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำหลากเข้าสู่พื้น

ที่อาคารเรียน โดยได้รับการสนับสนุนจากมณฑลทหารบกที่ 38 (มทบ.38) ในการจัดกำลังพลมาช่วยบรรจุทรายลงกระสอบและเสริมแนวป้องกัน

ทั้งนี้ โรงเรียนสตรีศรีน่านได้ประกาศ หยุดการเรียนการสอนในวันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2568 เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรในสถานศึกษา

สพฐ #สพม #น่าน #สพมน่าน #SESAONAN #ทีมน่านการศึกษา #NanOneTeam/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดกิจกรรม จิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 พล.ต.สมคิด ชูเผือก ผบ.มทบ.44 ให้เกียรติมาเป็นประธาน กิจกรรม จิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” แด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เนื่องใน วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568 และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดี ศรีสนทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทาน โครงการจิตอาสาพระราชทาน ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ปรองดองสามัคคี ร่วมมือร่วมใจ ประกอบกิจกรรมสาธารณะ

เพื่อประโยชน์ สุขของประชาชนส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้มีความรักความผูกพัน ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ในวันนี้ท่านทั้งหลาย และนักศึกษา วิชาทหารทั่วประเทศ ได้มาชุมนุมโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อร่วมแสดงพลัง ความจงรักภักดี และทำกิจกรรมจิตอาสา ให้สำเร็จเป็นไปตาม

วัตถุประสงค์ และในกิจกรรมครั้งนี้ ยังมุ่งหวังให้นักศึกษาวิชาทหารเป็นต้นแบบ ในการปลุกพลังความดี ที่มีอยู่ในหัวใจของแต่ละคน นำไปสู่การปฏิบัติ ที่เห็นผลเป็นรูปธรรม และยั่งยืนต่อไป ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้า ปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า

พลตรีสมคิด ชูเผือก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 73 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568 นี้ ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา

พระราชทาน ต่างมีความปลื้มปีติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงมีพระเมตตา ในการที่จะบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน มีความรัก ความสามัคคี และพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่น และยั่งยืน

อีกทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานโครงการ จิตอาสาพระราชทาน เราทำความดีเพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยมี พระบรมราโชบาย ให้เริ่มทำจากเล็กไปใหญ่ ปัจจุบันมีทั้งส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ปวงข้าพระพุทธเจ้า ต่างสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท

ในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอทำ กิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อเป็นการร่วมกันทำความดี เฉลิมพระเกียรติ และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมทั้ง จะปฏิบัติตนเป็นคนดี เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดไป พร้อมทั้งขอพระราชทาน พระราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช และสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

ได้โปรดคุ้มครองใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงมี พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงพระเกษม สำราญ และทรงเป็นร่มโพธิ์ทอง ของปวงข้าพระพุทธเจ้าตลอดกาลนาน พระพุทธเจ้าข้า ขอรับ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง