สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จนท.รพ.ช็อคได้ยินเสียงตุ๊บ คนป่วยหาย ตามหาทั้งคืน ตื่นเช้าพบเป็นศพ กระโดด ชั้น 4 ตึกผู้ป่วย ดับอนาถ

***เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 6 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุ คนเสียชีวิต ภายในห้องเก็บของพนักงานทำความสะอาด อาคาร 9 A ชั้น 1 โรงพยาบาลศรีสะเกษ อำเภอเมืองฯ จังหวัดศรีสะเกษ หลังทราบเรื่องได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุพบ ศพผู้เสียชีวิต 1 ราย เพศหญิง อายุ 38 ปี ชาวอำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ สภาพศพหัวตั้งกับพื้นห้อง ก้นชี้ฟ้า เลือดจากศีรษะไหลนองทั่วบริเวณพื้นภายในห้อง โดยผู้เสียชีวิต สวมชุดสีฟ้าของผู้ป่วยที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ

***ต่อมา แพทย์หญิงแคทรียา เทนสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ พร้อมด้วยชุดปฏิบัติ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่ ได้นำผ้ามากั้นพื้นที่เปิดเหตุเพื่อปิดล้อมพื้นที่พบศพไว้ เพื่อไม่ให้ประชาชนที่เดินทางมาใช้บริการแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
***จากการสอบถาม พนักงานเวรเปล โรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเข้ามารับเวรปฏิบัติหน้าที่ในช่วงกลางคืน ปรากฏว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ เวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 6 มีนาคม 2568 ได้ยินเสียงดัง คล้ายเสียงปิดประตู หรือเสียงสิ่งของกระแทกพื้น ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าเป็นเสียงปรกติ จนกระทั่งตอนเช้า จึงมาทราบจากแม่บ้านในโรงพยาบาลศรีสะเกษ ว่า มีผู้ป่วย ที่มารักษาตัวที่ห้องอายุรกรรมหญิง กระโดดตึกลงมาจากชั้น 4 ซึ่งตนคนที่เข้าปฏิบัติหน้าที่อยู่รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก

***ขณะที่ แพทย์หญิงแคทรียา เทนสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทราบว่า มีผู้ป่วยกระโดดตึกเสียชีวิต เป็นผู้ป่วย เพศหญิง อายุประมาณ 38 ปี โรงพยาบาลวังหิน ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ โดยคนไข้มาด้วยโรคหัวใจล้มเหลว น้ำท่วมปอด อีกทั้งยังเคยมีประวัติเสพสารเสพติดมาก่อน ตอนนี้รักษาตัวจนผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแล้ว เมื่อวานคุณหมอได้ทำการถอดเครื่องช่วยหายใจและกำลังมีแพลนจะเดินทางกลับบ้าน

***ซึ่งเหตุการณ์อันน่าเสียใจครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 02.30 น. ของวันนี้ (6 มีนาคม 2568) ได้รับแจ้งว่า มีผู้ป่วยได้หายไปจากห้องอายุรกรรมหญิง ชั้น 4 หลังทราบเรื่อง พยาบาล และเจ้าหน้าที่ได้รีบออกตามหา และตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดก็ไม่พบคนไข้เดินออกจากตึกผู้ป่วย จากนั้นก็ได้แจ้งศูนย์บัญชาการเหตุฉุกเฉิน ดำเนินการตามขั้นตอน จนกระทั่งพอรุ่งเช้า (07.00 น.) ได้รับรายงานจากแม่บ้านว่าเจอศพผู้ป่วยในห้องเก็บของที่ล็อคข้างในไว้ จึงแจ้งเจ้าหน้าทางโรงพยาบาลให้ไปตรวจสอบพร้อมรายงานตามขั้นตอนและแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ทางโรงพยาบาลได้แจ้งญาติและทำความเข้าใจกับญาติ

***เบื้องต้น ทางญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของผู้ป่วย ทางโรงพยาบาลศรีสะเกษจึงได้ดำเนินการช่วยเหลือเรื่องทำศพ และค่าดูแลจัดงานศพให้ในเบื้องต้น ก่อนส่งมอบศพให้กับทางญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.เมืองเชียงใหม่ แจ้งผลการตรวจสอบคลิปวัยรุ่น แก็ง “เด็กไทใหญ่ 575” มีการถูกจับดำเนินคดีไปบางส่วนแล้ว กลุ่มแก๊งดังกล่าว

6 มี.ค.68 เวลา 11.30 น.
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ตรวจสอบกรณีมีการโพสต์แชร์คลิปวัยรุ่น แก็ง “เด็กไทใหญ่ 575” ตามสื่อโซเชียลซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของวัยรุ่นชาวไทใหญ่พร้อมกับชูเสื้อที่มีข้อความพร้อมรูปภาพว่า “เด็กไทใหญ่ 575” ในลักษณะคึกคะนอง พูดยั่วยุ ท้าทายวัยรุ่นกลุ่มอื่นๆ

ต่อมา พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวน (เหยี่ยวดำ) นำโดย พ.ต.ท.ชุวาพล ชัยสาร รองผดก.สืบสวน ,พ.ต.ต.พูนศักดิ์ พักตร์ผ่องศรี สว.สส.,พ.ต.วุฒิไกร ทาหอม สว.สส.ดำเนินการตรวจสอบคลิปดังกล่าว และได้รายงานให้ ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบดังนี้

จากการตรวจสอบ
คลิปดังกล่าว เป็นคลิปเก่าที่ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 67 โดยบัญชีที่ใช้แอพลิเคชั่นติ๊กต๊อกชื่อ “ru.ok575” และในวันนี้ได้มีบุคคลนำคลิปวิดีโอดังกล่าวมาโพสต์ใหม่อีกครั้ง ทำให้เกิดเป็นกระแสตามสื่อโซเชียลขึ้นนั้น โดยในปัจจุบันบุคคลในคลิปดังกล่าวบางคนได้มีการถูกจับดำเนินคดีไปบางส่วนแล้ว

ส่วนบุคคลที่เหลือก็ได้กระจัดกระจาย แยกย้าย ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้และกลุ่มดังกล่าวก็ถูกยุบไปแล้ว ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการจับกุมกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง เมื่อเกิดการกระทำความผิดได้จับกุมดำเนินคดีผลักดันส่งออกนอกราชอาณาจักรทุกราย
//#สมจิตรแสงบัลลังค์
//#ธนวัฒน์โมมา

ทีมข่าวอาชญากรรมรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐทีวี / ผู้ว่าประจวบฯ มอบถังน้ำ เก้าอี้สุขา และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งและผู้ด้อยโอกาส ในพื้นที่

วันที่ 6 มี.ค.2568 ที่อาคารโรงยิมเนเซี่ยม 2 สนามกีฬากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผวจ.ประจวบฯ ร่วมในพิธีรับมอบถังเก็บน้ำพลาสติก ขนาด 1,000 ลิตร 100 ใบ และกล่องพลาสติกบรรจุสิ่งของ อุปโภค-บริโภค 150 ชุด จาก คุณวิรัช – คุณพรพิศ อาชวกุลเทพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรหมสิน พี.เอส.ซี. จำกัด และรับมอบเก้าอี้สุขา 200 ตัว จาก คุณสมาน – คุณเพียงเพ็ญ คุณากรไพบูลย์ศิริ กรรมการผู้จัดการ

บริษัท เกรียงถาวร คอนเทนเนอร์ จำกัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 721,000 บาท โดยมี นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเรวัต ประสงค์ อดีต ผวจ.อ่างทอง นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ อดีต ผวจ.พิษณุโลก นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ อดีต ผวจ.ลพบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี โอกาสนี้ พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี ได้กล่าวสัมโมทนียกถา ขอบคุณคณะผู้บริจาค

จากนั้น ผวจ.ประจวบฯ ได้มอบของที่ระลึก โล่ประกาศเกียรติคุณ หนังสือแสดงความขอบคุณให้กับคณะผู้บริจาค ก่อนร่วมกันทำพิธีปล่อยขบวนรถบรรทุกถังน้ำเคลื่อนออกจากสนามกีฬากลางจังหวัดฯ ไปมอบให้แก่ครัวเรือนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากใน อ.ทับสะแก 41 ใบ อ.เมืองประจวบฯ 57 ใบ และ อ.สามร้อยยอด 2 ใบ เพื่อให้มีภาชนะสำหรับใช้ในการเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค บรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ส่วนสิ่งของอุปโภคบริโภคจะนำไปมอบให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้

ตามที่ได้มีการสำรวจข้อมูลความต้องการในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ แบ่งเป็น อ.เมืองประจวบฯ 50 ชุด อ.ทับสะแก 40 ชุด ส่วนอีก 6 อำเภอ ได้แก่ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด อ.กุยบุรี อ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย ได้รับมอบอำเภอละ 10 ชุด ขณะที่เก้าอี้สุขาจะนำไปมอบให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ อ.หัวหิน 3 ตัว อ.ปราณบุรี 22 ตัว อ.สามร้อยยอด 1 ตัว อ.กุยบุรี 63 ตัว อ.เมืองประจวบฯ 27 ตัว อ.ทับสะแก 26 ตัว อ.บางสะพาน 48 ตัว และ อ.บางสะพานน้อย 10 ตัว
//////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แต่งตั้ง ‘ทอฟ้า – ลูกหมู’ 2 สาวเก่งสู้ศึกเวที ‘Classy Model International 2025’ / “สตีเว่น ฮอลล์” ผู้กำกับภาพมือฉมังของฮอลลีวูดสรรค์สร้างภาพสุดระทึกให้ “The Bayou – มฤตยูงาบ”

กระแสการประกวดของเมืองไทยในขณะนี้กำลังคึกคักและมาแรงมาก ทำให้เห็นภาพเวทีประกวดนางงามและนายแบบกับการเป็น ‘SOFT POWER’ ของไทยได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ล่าสุดได้มีการจัดงานตั้งแต่งตั้งผู้แทนสาวไทยเข้าร่วมประกวด ‘Classy Model International 2025’ ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในระหว่างวันที่ 9 -10 พฤษภาคม 2568 โดยมี ‘พล.ต.ต. พินิต มณีรัตน์’ ประธานที่ปรึกษากองประกวด ‘Classy Model Thailand’ 2025’ เป็นประธานในงาน และ ‘คุณกฤษรัฏฐ์ ปัญญา’ เป็น ‘National Director Classy Model Thailand’ และ คุณแหม่ม เป็นผู้ให้การสนับสนุนหลัก ซึ่งจัดแถลงข่าว ณ โรงแรม Aloft Sukhumvit 11 โดยมี ‘คุณดวงใจ รุ่งเรืองอารี’ GM Aloft Bangkok Sukhumvit 11 Hotel ให้การต้อนรับ

สำหรับผู้แทนสาวไทยที่จะไปชิงมงกุฎ ‘Classy Model International 2025’…You’ll shine at the right ได้แก่ ‘คุณทอฟ้า-วศิตาภาวิ์ สาระกุล’ นางเอกละครค่ายมหามงคลฟิล์มสูติโอและนางแบบ อีกทั้งยังมีผลงานในวงการบันเทิงมากมาย สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท ด้านนิเทศศาสตร์การท่องเที่ยว และ ‘คุณลูกหมู-อิสรีย์ ศุภเลิศจารุภัทร์’ ปริญญาตรี-โท มหิดล
อดีตนักกีฬาทีมชาติเทควันโดและฟันดาบ ดีกรีรองชนะเลิศอันดับ 3 Miss Landscapes of The World Thailand 2024 ปัจจุบันเป็นอินฟลูอินเซอร์ และ กรรมการตัดสินกีฬาเทควันโดระดับนานาชาติ

โดยงานนี้มีแขกคนสำคัญ มาร่วมงาน อาทิ คุณแพรวเพชรพราว ผลศิริ Stylist Director, ดร.วโรดม ศิริสุข ผุ้จัดละคร ,ทีมผู้บริหาร BYB BEYOND BEAUTY CLINIC คุณกำพล ศุภลักษณ์เมธา ว่าที่ ร.ต.ดร.วรฐ จินตนานุวัฒน์ คุณจิราพร ชาตยาภา คุณฉัตรา ศุภลักษณ์เมธา คุณสุชาดา แสงแก้ว, ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าว สำนักข่าวบางกอกทูเดย์, คุณหนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม กูรูนางงาม, ดร.ปุณิกา เพ็ญสุวรรณ CEO Miss Landscapes of The World Thailand และ Miss LandscapesoftheWorldInternational, ดร.รัชดาภรณ์ เกตุเทศ ผู้บริหาร ค่ายละคร มหามงคลฟิลม์, ดร.ณรามิล วิชณุซัน คุ้มรักษ์ ผู้บริหาร มหามงคลฟิล์มฯ,

คุณภูมิพัฒน์ ธรรมพันธ์ ( คุณเต๋า ทีวีพูล), คุณเฌอมินทร์ สถิตโอฬารโรจน์ Bonnie Clinic, คุณศิริพงษ์ มรเวก แอดมินเพจ Classy Model Thailand, ดร.ศุภลักษณ์ นิลนพรัตน์ Chaiya C.R.C. GROUP Co. LTD, คุณชยเวศฐ์ สมวงศ์ ฝ่ายประสานงานสถานที่, อ.ไพโรจน์ สืบสาม, คุณอโนชา กุลวงศ์, คุณจตุพล เก็งวินิจกุล, คุณกิจติพร นันท์ตานนท์, คุณกฤษดา ธนากร, คุณจารุวรรณ แท่นชัยกุล, คุณสุจิตรา แซ่ลิ้ม, คุณสายธาร แสงทอง, พรทิพย์ แก่นจันทร์, ยาสีฟันนกไทย, นายประมง , น้ำปลาร้าป้าโก้, Supree CC Sunscreen by นุ๊ก สุทธิดา , Anaya Bridal wear, ไอศกรีม Ice Age, Narai Massage & Spa และ Teerak Couture

“สตีเว่น ฮอลล์” ผู้กำกับภาพมือฉมังของฮอลลีวูดสรรค์สร้างภาพสุดระทึกให้ “The Bayou – มฤตยูงาบ”

นอกจาก หุ่นกลไกจระเข้ และ CGI จะเป็นจุดขายของ “The Bayou” แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ ฝีมือการกำกับภาพของ “สตีเวน ฮอลล์ ผู้กำกับภาพ” ที่มีผลงานผ่านตาคอหนังมาแล้วจาก“Foundation“ ภาพยนตร์ไซไฟ-แฟนตาซีที่สตรีมทาง Apple TV ,ภาพยนตร์เรื่อง Lift ของ Netflix รวมไปถึงภาคล่าสุดของ Fast & Furious หรือ FAST X ,

ผลงานทาง Netflix เรื่อง DAMSEL , ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ภาคต่อของ DC เรื่อง AQUAMAN 2 ที่จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. Pictures , ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่นเรื่อง TOM & JERRY และภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ อีกหลายเรื่องอาทิ HORIZON LINE , DUMBO (ของผู้กำกับฯ ทิม เบอร์ตัน), ALLIED (โดยผู้กำกับฯ โรเบิร์ต เซเมคิส), ASSASSIN‘ S CREED (กำกับฯ โดย จัสติน เคอเซล) และเร็ว ๆ นี้กับภาพยนตร์เรื่อง SWALLOWS AND AMAZONS

”The Bayou – มฤตยูงาบ“ เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทที่ชวนกันไปท่องเที่ยวในแถบตอนใต้ของอเมริกา แต่มันกลับไม่ได้เป็นวันหยุดแสนวิเศษแบบที่คิดเอาไว้ เมื่อเครื่องบินเช่าเหมาลำของพวกเขาตกลงสู่หนองน้ำแถวหลุยเซียนา และได้พบกับ “บางสิ่ง” ที่อาศัยอยู่ในลำธารแห่งนี้มาหลายศตวรรษที่ทั้งมีขนาดที่ใหญ่กว่า ว่องไวกว่า ปราดเปรียวกว่า และพร้อมที่จะจัดการกับเหยื่อที่อยู่ตรงหน้าของมันด้วยความหิวโหย

สัมผัสฝีมือการกำกับภาพสุดระทึกของ “สตีเว่น ฮอลล์” ใน “The Bayou – มฤตยูงาบ” โดย Movie Copyright (Thailand) ตั้งแต่ 13 มีนาคมนี้เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เปิด ‘เทศกาลข้าวโพดหวานและของดีศรีรัตนะ’ ประจำปี 2568 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น สร้างรายได้สู่ชุมชน

****ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลข้าวโพดหวานและของดีศรีรัตนะ” ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 ถึง 9 มีนาคม 2568 โดยมี นายสุรพล ศรีพนมธนากร นอภ.ศรีรัตนะ หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ผู้บริหาร อปท.ทุกแห่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรกรและประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

*****นายสุรพล กล่าวว่า อ.ศรีรัตนะ มี 7 ตำบล 90 หมู่บ้าน 8 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีพื้นที่ทั้งหมด 144,439 ไร่ พื้นที่การเกษตร 130,343 ไร่ พื้นที่อื่นๆ 13,007 ไร่ และ อ.ศรีรัตนะ เป็นหนึ่งในกลุ่มอำเภอที่มีศักยภาพการผลิตข้าว พืชสวน พืชไร่ โดยเฉพาะข้าวโพดหวาน และทุเรียนภูเขาไฟ ซึ่งเป็นพืชที่สำคัญ และคิดเป็นมูลค่าของผลผลิตทางการเกษตรรวมของ อำเภอศรีรัตนะ 60 ล้านบาท โดยมีผลผลิตออกสู่ตลาดตลอดปี สร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้แก่อำเภอศรีรัตนะเป็นอย่างงด ดังนั้น อ.ศรีรัตนะ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมงานเทศกาลวันข้าวโพดหวาน และของดีศรีรัตนะ ประจำปี 2568 ขึ้น โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย 1. การประกวดผลผลิตทางการเกษตร 2. การประกวดด้านปศุสัตว์

  1. การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ผลไม้ ข้าวโพดหวาน และผลผลิตทางการเกษตร 4. การประกวดธิดาข้าวโพดหวาน 5. การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง 6. การประกวดนางฟ้าจำแลง 7. การแข่งขันส้มตำลีลา 8. กิจกรรมรำวงย้อนยุค และ หมู่บ้านย้อนยุค
  2. ****ในการจัดงานครั้งนี้ ได้เชิญชวนประชาชน แต่งกายชุดพื้นถิ่นมาเที่ยวงาน โดยเน้น “ใส่เสื้อไหม เสื้อผ้าฝ้าย สวมผ้าถุง นุ่งโสร่ง”เพื่อเป็นการอนุรักษ์การแต่งกายให้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยได้รับความร่วมมือด้วยดีจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง กำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวอำเภอศรีรัตนะทุกคน และกลุ่มอาชีพต่างๆ ทุกกลุ่ม ที่ทำให้การจัดงานในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความสนใจในปรับปรุงคุณภาพผลผลิตให้ได้ตรงตามความต้องการของตลาด ส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างผลผลิตโดยอาศัยตลาดนำการผลิต กระตุ้นให้เกิดการผลิต การตลาดหมุนเวียนอย่างครบวงจร ส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลผลิต ผลิตภัณฑ์ของชุมชนและอำเภอให้ปรากฎแก่สายตาและความรับรู้ของมหาชน เป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ ให้มีศักยภาพมากขึ้น อีกทั้งยังเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย.

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จับกุมบุหรี่ไฟฟ้า และ แก๊สหัวเราะ 666 ราย ผู้ต้องหา 690 คน ของกลาง 454,958 ชิ้น มูลค่า 41,911,815 บาท

รอง ผบ.ตร. เร่งรัดขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ เผยผลการปฏิบัติในห้วง 7 วัน ที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจ จับกุมทั้งสิ้น 666 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 690 คน ยึดของกลาง 454,958 ชิ้น มูลค่าของกลาง 41,911,815 บาท

วันนี้ (5 มี.ค.68) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมสรุปผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ โดยมีผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1 – 9 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร.

ทั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ซึ่งปัจจุบันได้ปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาด ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา พื้นที่ใกล้โรงเรียนหรือสถานศึกษา รวมถึงสถานบริการ สถานประกอบการ และพื้นที่สาธารณะในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเอง หรือผู้อื่น สร้างความเดือนร้อน รำคาญแก่ประชาชนใกล้เคียง โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับการผลการปฏิบัติในห้วง 7 วัน ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม 2568 ภาพรวมการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าของทุกหน่วย มีผลการจับกุมทั้งสิ้น 666 ราย ผู้ต้องหา 690 คน ยึดของกลาง 454,958 ชิ้น มูลค่าของกลาง 41,911,815 บาท เป็นการจับกุมรายใหญ่ 2 ราย ผู้ต้องหา 3 คน ยึดของกลาง 409,364 ชิ้น มูลค่าของกลาง 34,200,000 บาท , จับกุมรายย่อย 645 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 669 คน ยึดของกลาง 43,483 ชิ้น มูลค่าของกลาง 7,215,005 บาท , จับกุมรอบสถานศึกษา 7 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 6 คน ยึดของกลาง 1,359 ชิ้น มูลค่าของกลาง 302,500 บาท และจับกุมบริเวณแหล่งท่องเที่ยว 12 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 12 คน ยึดของกลาง 752 ชิ้น มูลค่าของกลาง 194,310 บาท

ในส่วนการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊สหัวเราะ จับกุม 3 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 3 คน ยึดของกลาง 2,334 ชิ้น มูลค่าของกลาง 100,000 บาทพล.ต.อ.ประจวบฯ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า และแก๊สหัวเราะ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย และต้องการเห็นผลการปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววัน ผบ.ตร. จึงได้กำชับ เน้นย้ำ และติดตามการขับเคลื่อนให้มีผลการปฏิบัติในทุกมิติ

  1. ให้ความสำคัญกับการปราบปราม กวาดล้าง การลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย การจำหน่าย การให้บริการ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไป X-ray ในพื้นที่รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มข้นในการกวดขัน ตรวจสอบ ทุกสถานที่ จุดล่อแหลม ซึ่งน่าจะเป็นที่ซุกซ่อนของบุหรี่ไฟฟ้า และสารตั้งต้น สารประกอบของแก๊สหัวเราะ ตลอดจนสิ่งของผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่า “ต่อไปจะต้องไม่มี หรือสามารถค้นหาได้โดยง่าย ว่าในพื้นมีการจำหน่าย หรือให้บริการ บุหรี่ไฟฟ้า หรือแก๊สหัวเราะ อย่างโจ่งแจ้ง”
  2. สาเหตุของการกระทำความผิดทั้งหลาย เพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่า คือ เงิน จากผลการระดมจับกุม พบว่า ของกลางและการยึดทรัพย์สินมีมูลค่าสูงมาก นี่คือแรงจูงใจให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างรัดกุมและเป็นแบบแผน การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามความผิดมูลฐานฟอกเงินที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องสำคัญ เน้นย้ำว่าต้องดำเนินการ สืบสาว ไปให้ถึงต้นตอเหตุทุกกรณี เพราะการกระทำผิดส่วนมาก มักเกี่ยวข้องกับ “เงิน” ในฐานะที่ พล.ต.อ.ประจวบฯ รับผิดชอบและเป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วย จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมบูรณาการการทำงานกับหน่วย เพื่อให้การปฏิบัติ มีความต่อเนื่อง เชื่อมโยง และเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และศักยภาพให้การทำงานประสบผลสำเร็จ อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ ได้เน้นย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความมุ่งมั่น จริงใจ ในการแก้ไขปัญหา ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเราจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ

ตำรวจภาค 5 จับกุมชาวต่างชาติลักลอบส่งกัญชาน้ำหนักรวม 100 กิโลกรัม.
ด้วยตำรวจภาค 5 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่สถานีตำรวจภูพิงค์ราชนิเวศน์.ตำรวจท่องเที่ยวสำนักงานศุลกากรภาค 3 ศูนย์ปราบปรามยาเสพติดภาคเหนือท่าอากาศยานเชียงใหม่กรมศุลกากรสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ด่านตรวจพืชท่าอากาศยานเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.

ได้ร่วมกันสกัดกั้นการส่งต่อช่อดอกกัญชาเมื่อวันที่ 2 และที่ 4 มีนาคม 2568 ณจุดตรวจค้นสัมภาระขาออกระหว่างประเทศภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่รวมจำนวน 3 คดีผู้ต้องหาชาวต่างชาติรวม 4 คนมีรายละเอียดแต่ละคดีดังนี้.เพราะดีที่ 1 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 18:00 น ผู้ต้องหาต่างชาติสัญชาติมาเลเซียเพศชายอายุ 23 ปีเดินทางจากเชียงใหม่ไปสุวรรณภูมิ.ดูไบ.ลอนดอน.พบมีการพยายามลักลอบขนช่อดอกกัญชาออกนอกประเทศโดยใส่ในกระเป๋าเดินทาง 1 ใบซึ่งช่อดอกกัญชาถูกบรรจุเป็นแพ็คในถุงพลาสติกใสจำนวน 40 ถุงน้ำหนักรวม 22.5 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 22,5000 บาทคดีที่ 2

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 09.40 นผู้ต้องหาต่างชาติสัญชาติอังกฤษเพศหญิงอายุ 19 ปีเดินทางจากดอนเมืองมาเชียงใหม่สุวรรณภูมิฮ่องกงและ.ลอนดอน.มีการลักลอบขนช่อดอกกัญชาออกนอกประเทศโดยใส่ในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบซึ่งช่อดอกกัญชาถูกบรรจุเป็นแพ็คใส่ถุงพลาสติกใสจำนวน 32 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 34.8 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 3480,000 บาทคดีที่ 3 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 17.0 นผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 2 คนเพศชายและหญิงสัญชาติมาเลเซียอายุ 35 ปีทั้ง 2 คนเดินทางจากสุวรรณภูมิ.มาเชียงใหม่สิงคโปร์.และลอนดอน.มีการพยายามลักลอบขนช่อดอกกัญชาออกนอกประเทศโดยใส่ในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบซึ่งช่อดอกกัญชาบรรจุเป็นแพ็คพลาสติกใสจำนวน 80 ถุงน้ำหนักประมาณ 45.4 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 4 5 4 0 00 บาทรวมช่อกัญชาที่ตรวจยึดได้น้ำหนักประมาณ 102.7 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 1027000บาท.

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 18:00 น เจ้าหน้าที่ตรวจยึดจับกุมได้พบความผิดปกติของสิ่งของภายในกระเป๋าเดินทางผู้โดยสารต่างชาติที่กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศจึงทำการขอตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทางผลการตรวจสอบพบว่าเป็นช่อดอกกัญชาบรรจุในถุงพลาสติกจำนวนมากจึงทำการตรวจยึดพร้อมกับดำเนินการตามขั้นตอนของบทกฎหมายต่อไปและมีการสั่งการเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยช่วยกันป้องกัน

เพื่อสกัดจับตรวจยึดพร้อมกับเฝ้าสังเกตพฤติกรรมที่อาจจะมีการลักลอบนำช่อดอกกัญชาออกนอกประเทศจีนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 09.40 นและ 17.00 นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดจับกลุ่มชาวต่างชาติที่กำลังจะเดินทางพร้อมกับช่อกัญชาเพื่อนำออกนอกประเทศได้อีกจำนวน 2 รายดังกล่าว…

สมจิตรแสงบัลลังก์ทีมข่าวบก. รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / โจรตีเนียนเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า แอบเข้ามาตัดสายไฟภายในปั๊มน้ำมันร่าง เด็กปั๊มมาเจอรีบจับโจรขับรถบึ่งหนีหายลอยนวล

***ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ สมร สุเทวา ได้โพสคลิปและข้อความลงบนเพจเฟสบุ๊คชื่อ ศรีสะเกษ SisaketToday กลุ่มเสรี ว่า ฝากเตือนภัยกับบุคคลอันตรายคนนี้ด้วยครับได้ไปขโมยตัดสายไฟที่ปั๊มเก่าบ้านเพียนามเก่าเส้นไปถนนอุทุมพรตอนนี้ทางตำรวจกำลังตามตัวอยู่ครับใครพบเจอแจ้งไปที่ส.ภศรีเกษด้วยครับขอบคุนครับ

***ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นปั๊มน้ำมัน ปตท. (ปั๊มเก่า) ซึ่งอยู่ที่บ้านเพียงนาม ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้พบกับ นางจีรณัฐ แสงทอง อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นเด็กปั๊มมันและเป็นหนึ่งในคนดูแลปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่คนร้ายในคลิปเข้ามาตัดสายไฟ และพาไปดูความเสียหายจากกลุ่มโจรที่เข้ามาขโมยทั้งสายไฟ เหล็ก และสิ่งของอื่นๆภายปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ซึ่งตั้งแต่ปั๊มน้ำมันแห่งนี้ปิดตัวลง มีโจรเข้ามาขโมยโดยไม่ขาดสาย

***นางจีรณัฐ เปิดเผยว่า ปั๊มน้ำมันแห่งนี้เป็นปั๊มน้ำมันเก่าที่ไม่ได้เปิดบริการแล้ว แต่เปิดเป็นที่พักให้กับเด็กปั๊มน้ำมันได้พักอาศัย และช่วยกันดูแลปั๊มน้ำมันแห่งนี้ โดยตอนเกิดเหตุ (วันที่ 4 มี.ค. 68) ช่วงประมาณ 12.00 น. ตนอยู่กับพี่ร่วมงานกัน 2 คน และกำลังจะนอนพักผ่อนกัน แต่อยู่ๆไฟฟ้าก็ดับ ตนเลยโทรศัพท์ไปแจ้งการไฟฟ้าว่าแถวนี้มีการดับไฟหรือไหม แต่การไฟฟ้าบอกว่าไม่มีการดับไฟฟ้าแถวนั้น รองไปดูตรงตู้ไฟดูว่าเบรกเกอร์ตัดหรือไหม ตนเลยเดินไปดูกับพี่ร่วมงานพอไปถึงก็ไปเจอรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110i จอดอยู่ และยังชายแปลกหน้ากำลังตัดสายไฟอยู่เลย ตนตระโกงตามกับชายแปลกหน้าว่าเป็นใครเข้ามาทำอะไร แต่ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวก็อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า มีคนให้มาตัดสายไฟ ตนพยายามจะให้ชายแปลกหน้าอยู่รอเจ้าหน้าที่ก่อน แต่ชายแปลกหน้าก็ได้รีบขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบออกไปจากจุดเกิดเหตุ

***เบื้องต้นพฤติกรรมของชายแปลกหน้าหน้าจะมีการชำนาญในการตัดสายไฟฟ้ามาก และหน้าจะเข้ามาขโมยสายไฟที่แห่งนี้หลายครั้ง จึงอยากจะของประชาสัมพันธ์ถ้าใครพบเห็นชายคนดังกล่าวสามารถแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ เพราะเป็นการช่วยกันจับกุมไม่ให้ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวไปก่อเหตุกับคนอื่นๆอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเก็บหลักฐาน และสายไฟที่ถูกตัดไปเป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งจะประสานเจ้าน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ให้เร่งติดตามชายแปลกหน้าคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรฐนิวส์ /‘ตำรวจภูธรภาค1’เข้มงานสายตรวจ ‘รองผบช.ภ.1’กำชับนโยบาย‘สภ.เมืองชัยนาท’

4 มีนาคม 2568 พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงษ์ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 มอบหมายนโยบายให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1)

ปฏิบัติภารกิจเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ในทุกๆด้านทุกๆมิติ โดยเฉพาะงานสายตรวจ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมให้กับประชาชน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.68

พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสายตรวจ สภ.เมืองชัยนาท ภ.จว.ชัยนาท โดยได้แนะแนวทางในการปฏิบัติงาน พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และ บช,ภ.1 โดยเคร่งครัด

นอกจากนี้ พล.ต.ต.โชคชัย ได้มอบรางวัลให้แก่สายตรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย 3 คดี และชมการสาธิตฝึกทบทวนการระงับเหตุบุคคลคลุ้มคลั่ง โดยมี พล.ต.ต.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ,

พ.ต.อ.นรากร บุญครอบ รอง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท , พ.ต.อ.สุรัตน์ เป้าทอง ผกก.สภ.เมืองชัยนาท , พ.ต.ท.ชัชวาล มหาศรานนท์ รอง ผกก.ป.ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ สภ.เมืองชัยนาท

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / M Studio และ ช่อง 3 นำทัพนักแสดง จัดงาน “Synergy Night” ขอบคุณสื่อและพันธมิตร พร้อมเผย ความเข้มข้น “ธี่หยด 3” พร้อมแง้มหนังใหม่น่าจับตา

M Studio และ ช่อง 3 นำทีมโดย คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M STUDIO และ คุณเทรซีแอนน์ มาลีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บมจ.บีอีซี เวิลด์ พร้อมด้วย คุณแป๊ป ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ และโปรดิวเซอร์ “ธี่หยด3” จัดงาน “Synergy Night” โดยมีนักแสดง

จากภาพยนตร์ “ธี่หยด” อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ ร่วมด้วย จูเนียร์-กาจบัณฑิต ใจดี,
เฟรนด์-พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, เดนิส-เจลีลชา คัปปุน, มิ้ม-รัตนวดี วงศ์ทอง, นีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน, ท็อป-ทศพล หมายสุข และ แฟรงค์-ธนัตถ์ศรันย์ ซำทองไหล เข้าร่วมงาน ณ CHANG CANVAS @ONE BANGKOK FORUM
เริ่มต้นเปิดงานโดยผู้บริหาร คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M STUDIO และ

คุณเทรซีแอนน์ มาลีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บมจ.บีอีซี เวิลด์ ขึ้นกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนและพันธมิตร กับการสนับสนุนที่ดีตลอดมา ตั้งแต่การจับมือร่วมกันในปี 2022 เริ่มตั้งแต่ บัวผันฟันยับ มานะแมน จนมาถึง ธี่หยด 1, 2 และ 3 ที่ กำลังจะเกิดขึ้น จากนั้นเชิญ คุณแป๊ป-ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ และโปรดิวเซอร์ “ธี่หยด3” ขึ้นพูดคุยถึง “ธี่หยด3”

ซึ่งเตรียมเข้าฉายในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ยังคงดำเนินเรื่องด้วยทีมงานเดิม นักแสดงเดิม รับรองความสนุกด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น คนเขียนบทคนเดิม อย่าง อาจารย์กอล์ฟ สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์

พร้อมด้วยนักแสดงนำครอบครัวตัว “ย” ก็มากันครบเซ็ทเช่นเดิมกับ ณเดชน์ คูกิมิยะ ร่วมด้วย จูเนียร์ กาจบัณฑิต ใจดี, เฟรนด์ พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, เดนิส เจลีลชา คัปปุน, มิ้ม รัตนวดี วงศ์ทอง และ นีน่า ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน ที่ขึ้นเวทีพูดคุยถึงความพร้อมในพาร์ทการแสดง ของ “ธี่หยด3”

พร้อมแง้มถึงภาพยนตร์ ที่เป็นภาค SPIN OFF ต่อจาก “ธี่หยด” อย่าง “สมิงเขาขวาง” ที่เตรียมเปิดกล้องในตุลาคม 2568 และพร้อมเข้าฉายในปีหน้า 2569 โดยสร้างจากบทประพันธ์ของ คุณกิตติ์ กฤตานนท์ และ อาจารย์กอล์ฟ สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์ รับหน้าที่เขียนบทเช่นเดิม รับประกันความสนุกแน่นอน

ก่อนจะปิดท้ายด้วยทีมผู้บริหารและนักแสดงถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก และรับประทานอาหารร่วมกัน ความสนุกของ “ธี่หยด3” จะสะพรึงครบรสแค่ไหน 8 ตุลาคมนี้ ไปพิสูจน์กันในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ!!!

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทหารเรือ นรข.ร่วมหน่วยความมั่นคงแถลงตรวจยึดยาไอซ์ 117 กก. รวบ2ผัวเมีย พร้อมของกลางริมถนนหลวง

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 มีงคง ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย สถานีเรือบึงกาฬ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานร่วมแถลงข่าว การตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 117 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้อง 2 ราย ของกลางยาไอซ์ รถกระบะ 1 คัน พร้อมด้วย น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ประกอบไปด้วย พ.อ.พิชัย ขันโททอง

หน.ฝนผ.กอ.รมน.จังหวัดบึงกาฬ นายธีรพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ว่าที่พ.ต.อ.จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ ผู้แทนตำรวจตชด.244 พ.ต.ต.ประชานารถ แดงเนียม สว.หน.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ ผู้แทน ป.ป.ส.ภาค 4 ผู้แทนกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และผู้แทน บก.อส.จ.บึงกาฬ ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 มี.ค. เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ แจ้งว่ามีสายรายงานสืบทราบมาว่าจะมีการขนลักลอบยาเสพติดข้ามฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่ บริเวณริมแม่น้ำโขง ได้รายงาน น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้ทราบ จึงสั่งการให้ ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ ร.ท.เพชรนคร ผิวขำ และ ร.ท.ไชยา เนียมแสง พร้อมเจ้าหน้าที่ นรข.ได้จัดชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ ออกวางกำลังเข้าตรวจในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนวคาดว่าจะมีการกระทำผิด ระหว่างห้วยดอกไม้ ไปจนถึง บ้านท่าโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ นอกจากนั้นยังมีการชุดสนับสนุนให้อยู่ที่ตั้ง

กระทั่งเวลา 20.30 น.ขณะที่แบ่งกำลังซุ่มอยู่ริมโขงบริเวณพื้นที่ปากห้วยบ้านห้วยดอกไม้ ติดริมแม่น้ำโขง ได้ตรวจพบรถกระบะต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณปากห้วยบ้านห้วยดอกไม้ ชุดปฏิบัติติการเฝ้าตรวจที่อยู่ที่บริเวณปากห้วยประสานไปยังชุดสนับสนุนให้เฝ้าติดตามรถกระบะคันดังกล่าว กระทั่งชุดเฝ้าตรวจสะกดรอยติดตามมาเรื่อยๆ จนมาถึงถนนหมายเลข 212 บึงกาฬ-นครพนม บ้านนาเจริญ ทำการส่งสัญญาณเพื่อให้รถคันดังกล่าวให้หยุดรถขอเข้าทำการตรวจค้น พบผู้ต้องสงสัย 2 ราย เป็นชาย 1 หญิง 1 และพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 3 กระสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วจึงได้นำของกลางกลับมายังสถานีเรือบึงกาฬตรวจสอบรายให้ละเอียดอีกครั้ง เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 117 กิโลกรัม จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ก่อนจะทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. กล่าวว่า สืบเนื่องจากเปิดแผนปฏิบัติการของรัฐบาลในการ ซิล สต๊อป เซฟ และนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ให้ นรข.ได้ร่วมบูรณาการกับหน่อยความมั่นคงในพื้นที่ในการสกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบลำเลียงนำเข้ายาเสพติดเข้าไปในพื้นที่ชั้นในของประเทศ การปฏิบัติวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่เราได้รับข่าวจากสายข่าวมีส่วนสำคัญในการนำมาซึ่งการจับกุมมีส่วนของการแถลงข่าววันนี้

ด้าน นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายปกครองได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานบูรณาการร่วมกันในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ในการแก้ปัญหาอีกส่วนหนึ่ง เมื่อครั้งที่แล้วได้แถลงข่าวจับยาบ้าไปล้านกว่าเม็ด ครั้งนี้เป็นยาไอซ์ก็แสดงว่ามีจุดเข้าของยาเสพติดในเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬยังคงมีตลอด ทั้งนี้เหมือนจะขยายเข้าพื้นที่ตอนในประเทศ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ก็เป็นห่วงเป็นใยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มาตรการ ซิล สต๊อป เซฟ ต้องเริ่มจากจังหวัดชายแดน ต้องขอบคุณกองกำลังไม่ว่าจะเป้นทหารเรือ ทหารบก ตำรวจ ความมั่นคงภายใน พี่น้อง อส.ซึ่งกระผมเองต้องเดินทางไปรับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนเราจะการสนับสนุนงบประมาณมาช่วย เพราะว่าการทำงานในพื้นที่ชายแดนต้องอาศัยสายข่าวค่อนข้างเยอะ หากวันนี้ไม่ได้สายข่าวจะไม่ได้จับกุมแน่นอน จึงต้องใช้งบประมาณมาสนับสนุนสายข่าวหาข่าว ส่วนการลงโทษผู้กระทำผิดให้อัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจลงโทษสถานหนักกับผู้ที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติด และประสานงานกันอย่างเคร่งครัด ต้องสกัดกั้นให้หมด ควบคุมระบาดในพื้นที่ตอนในได้ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจปัญหายาเสพติด และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบคือครอบครัว โดยจะกลับไปให้ข้อมูลที่ดีกับประชาชนให้ความร่วมมือลดละเลิกยาเสพติด
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล //บึงกาฬ 0645960906

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง