สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศอ.บต. ร่วมต้านภัยใบกระท่อมในเยาวชน ชี้ “เราไม่เล่น ยาเสพติดจะเล่นเรา”

     โรงเรียนจะนะวิทยาได้จัดกิจกรรมสำคัญในหัวข้อ “สร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญา ต้านภัยใบกระท่อม” ณ หอประชุมโรงเรียน เพื่อปลุกจิตสำนึกและให้ความรู้แก่เยาวชนถึงอันตรายของยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบกระท่อม ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในสังคม
     กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอิบรอเหม เบ็ญนา ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ ผอ.กสม. ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) ซึ่งได้ร่วมมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนที่ชนะการประกวดคลิปสั้นในหัวข้อ “การรณรงค์และแก้ปัญหาพืชกระท่อม” และได้กล่าวบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเป็นข้อคิดเตือนใจแก่นักเรียนทุกคน โดยมี ว่าที่ ร.ต.สิรภพ จิวานิจ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครูและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
   นายอิบรอเหม กล่าวถึงความสำคัญของการศึกษาว่า “ส่วนมากคนที่ทำผิดอยู่ในเรือนจำไม่รู้หนังสือ การศึกษาให้โอกาสแก่พวกเราได้สร้างอนาคต” พร้อมทั้งย้ำเตือนให้นักเรียนตั้งใจเรียน ตั้งใจศึกษา เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างอนาคตของตนเองให้สำเร็จตามที่ฝันไว้ ประเด็นสำคัญของการบรรยายอยู่ที่การเตือนภัยจากยาเสพติด โดยเฉพาะคำกล่าวที่ว่า "ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เล่นยาเสพติด แต่ยาเสพติดจะเล่นเรา" ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้เสพเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงคนรอบข้างและสังคมโดยรวม เนื่องจากเมื่อผู้เสพไม่มีเงินซื้อยา ก็จะเริ่มก่ออาชญากรรม ไม่ว่าจะเป็นการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือแม้แต่การทำร้ายผู้อื่นเพื่อต้องการเงินมาสนองความต้องการของตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างความไม่ปลอดภัยให้กับคนในชุมชน
  ก่อนจบการบรรยาย นายอิบรอเหมได้ทิ้งท้ายด้วยการขอให้นักเรียนทุกคนช่วยกันปกป้องตนเองและสังคมจากยาเสพติด หากพบเห็นผู้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติด ขอให้แจ้งผู้ปกครองหรือเจ้าหน้าที่ทันที และขอให้ทุกคนตั้งใจทำความดีเพื่อตนเอง พ่อแม่ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

ปัตตานี.- เลขาฯ ศอ.บต. ชี้ ‘การเยียวยา’ ไม่ใช่แค่เงิน แต่คือ ‘ความรู้สึก’ เน้นเร็ว-ต่อเนื่อง ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต-ชุมชน

 วันที่ 14 กย 68 พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวถึงภารกิจการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ว่าเป็นภารกิจสำคัญสูงสุดที่ต้องทำอย่างรวดเร็ว โดยย้ำว่าความสำคัญของการเยียวยาไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน แต่คือ "ความรู้สึก" ของการได้รับความดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐ 

  เลขาธิการ ศอ.บต. ระบุว่า ความรวดเร็วในการเข้าไปดูแลผู้ได้รับผลกระทบเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะประชาชนไม่ได้ต้องการให้เหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วรัฐต้องเข้าไปดูแลอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ สิ่งสำคัญรองลงมาคือ "ความต่อเนื่อง" โดยการเยียวยาจะต้องไม่เป็นการช่วยเหลือแล้วแยกย้ายกันไป แต่ต้องดูแลในเชิงคุณภาพชีวิต ความรู้สึก และสภาพจิตใจด้วย 

พันตำรวจโท วรรณพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ระดับบุคคลหรือครอบครัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงระดับชุมชนและพื้นที่อย่างมาก ทั้งในเรื่องของความเชื่อมั่นและความรู้สึกอบอุ่นในการอยู่ร่วมกัน  ดังนั้น การเยียวยาในความหมายของ ศอ.บต. จึงไม่ใช่แค่การดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น ชุมชน ที่ต้องได้รับการดูแลเยียวยาในรูปแบบที่เหมาะสมด้วย 

 นอกจากนี้ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ ยังได้กล่าวถึงแนวคิดของ "พื้นที่กลาง" ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ โดยพื้นที่กลางคือที่ที่ทุกคนมีโอกาส มีความสุข สามารถอยู่ร่วมกันและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ และรัฐจะต้องเข้าไปสนับสนุนสิ่งเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีความขัดแย้ง เขาเชื่อว่าหากทุกคนเข้าใจแนวคิดของพื้นที่กลางแล้ว จะสามารถนำไปสู่การอยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรมได้อย่างเต็มรูปแบบ แม้จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันก็ตาม

สื่อรัฐนิวส์สื่อรัฐทีวี / เสมอดาว เมาน์เทน เทรล “วิ่งนับดาว คืนฟื้นฟูป่า” ครั้งที่ 3งานวิ่งเทรลที่จะพาทุกก้าวกลับสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูป่า…เพื่อฮีลใจคุณ

วันที่ 15 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. นางณัติกานต์ บุญเจริญ หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดน่าน มอบหมายให้นายภัคพงศ์ ทองฟู ผู้ปฏิบัติงานสำนักงานจังหวัด และนายภัทร์ศรุต คล้ายสุบรรณ ผู้ปฏิบัติงานกลุ่มงานบริการ ลงพื้นที่อำเภอนาน้อย

เพื่อประชุมร่วมกับองค์กรเกษตรกร “โครงการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และด้านอื่นๆในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลงกรมบัญชีกลาง กิจกรรมที่ 2 สำนักงานสาขาจังหวัดติดตามประเมินผลการดำเนินงาน

โครงการที่ได้รับการสนับสนุนและพัฒนาปรับปรุงแผนและโครงการขององค์กรเกษตรกร” โดยมี ร.ต.อ.วินัย ก้อนสมบัติ รองประธานอนุกรรมการฯ คนที่ 2 จังหวัดน่าน เข้าร่วมด้วย ณ หอประชุมบ้านคลองชล ม.10 ต.นาน้อย อ.นาน้อย จ.น่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

เสมอดาว เมาน์เทน เทรล “วิ่งนับดาว คืนฟื้นฟูป่า” ครั้งที่ 3
งานวิ่งเทรลที่จะพาทุกก้าวกลับสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูป่า…เพื่อฮีลใจคุณ

สมาคมอุทยานแห่งชาติ ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ชวนทุกคนมาวิ่งสนามเทรลท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียวให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ในงาน “Samer Dao Mountain Trail” #3 “วิ่งนับดาว คืนฟื้นฟูป่า” โดยรายได้ 100 บาท จากค่าสมัครของทุกท่าน มอบให้สมาคมอุทยานแห่งชาติ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์ และโครงการคืนฟื้นฟูป่าประชาร่วมใจ จัดขึ้นในวันที่ 25 – 26 ตุลาคม 2568 ณ ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน

งานนี้ได้จัดมาต่อเนื่อง 2 ครั้งในปี 2567 ซึ่งทำให้ประชาชนตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สร้างรายได้ให้กับชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน และพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถดำเนินการจัดหาทุนโครงการคืนฟื้นฟูป่าประชาร่วมใจ เพื่อขอคืนผืนป่าจากประชาชนที่ทำกินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีน่านโดยสมัครใจแล้วกว่า 840 ไร่

ซึ่งงานในครั้งที่ 3 นี้จะพาทุกคนไปท่องเที่ยวด้วยสองเท้า ก้าวสู่อ้อมกอดธรรมชาติ ปลุกชีวิตให้มีชีวา ผ่าน ‘การอาบป่า’ (Shinrin-yoku) ที่โอบล้อมใจด้วยความสงบและสดชื่น พบกับ 4 ระยะวิ่งเทรล 40 KM / 20 KM / 10 KM และ 5 KM ผ่านเส้นทางวิ่งธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสนุกและท้าทาย ภายใต้สายหมอกที่ฟุ้งกระจาย และแสงทองอุ่น ๆ ยามเช้าที่จะมอบประสบการณ์สุดสดชื่นพร้อมเติมพลังบวกให้กับวันใหม่

สำหรับนักวิ่งที่ชอบความท้าท้ายและมีเป้าหมายในการแข่งขัน ระยะวิ่ง 40 KM 20 KM และ 10 KM มีการแข่งขันประเภทรุ่นอายุและรับโล่รางวัลทั้ง 3 ระยะทาง 4 รุ่น ๆ ละ 3 อันดับ ชายและหญิง ได้แก่ รุ่นอายุ 20 – 29 ปี, รุ่นอายุ 30 – 39 ปี, รุ่นอายุ 40 – 49 ปี และรุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไป รวมทั้งหมด 72 รางวัล
นอกจากการวิ่งเทรลแล้วยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมอาบป่า, ทัวร์รถรางเที่ยวนาน้อย, เยี่ยมชมพื้นที่โครงการคืนฟื้นฟูป่า ประชาร่วมใจ และกิจกรรมนอนแคมป์ดูดาวพร้อมเรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพดวงดาวอีกด้วย

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ พิเศษ! โปรโมชั่น จับคู่มาสมัคร ลดทันที 10% โดยนักวิ่งทั้ง 2 คน สามารถเลือกคละระยะสมัครได้ และอีกหนึ่งโปรโมชั่น ยกก๊วนสมัคร 5 คน ฟรี 1 คน ในระยะ 5 KM โดยนักวิ่งทั้ง 5 คน เลือกคละระยะสมัครได้ สำหรับผู้ที่สนใจสมัครแบบ VIP เลือกระยะวิ่งได้ ในราคา 3,2000 บาท พิเศษ!! ร่วมกิจกรรมนอนแคมป์ดูดาวพร้อมอาหารเย็น นอกจากนี้ยังสามารถสมัครแบบไม่ร่วมวิ่ง ราคา 2,000 บาท รับกระติกน้ำ Zojirushi ลายพิเศษจากสมาคมอุทยานแห่งชาติ พร้อมจัดส่งฟรี และสมัครแบบไม่ร่วมวิ่ง

ราคา 500 บาท จะได้รับเสื้อวิ่ง 1 ตัว (เลือกได้จากทุกระยะ) และผู้จัดสมทบเสื้อวิ่งอีก 1 ตัว เพื่อมอบให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน พร้อมจัดส่งฟรี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ค Samer Dao Mountain Trail เสมอดาว เมาน์เทน เทรล, ไลน์ออฟฟิศเชียล @inspirerunner หรือโทรศัพท์ 098-945-6568 สมัครได้ที่ www.runlah.com/th/sdmt2025

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / จัดกิจกรรม ” โครงการตรวจเยี่ยมบ้านคนพิการ มอบชุดยังชีพให้ ทหารผ่านศึก คนพิการ ผู้ยากไร้ 40 ราย อ.วังสะพุง จ.เลย

14 กันยายน 2568 : 09.00-11.00 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,คณะจิตอาสาพระราชทาน 904,พระครูปริยัติสิทธิญาณ เจ้าคณะตำบลวังสะพุง เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด

พร้อมด้วยคณะสงฆ์,นายนครินทร์ เทพรักษ์ รหส.ผศ.สนง.สงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตเลย มอบหมายให้ น.ส.ยุพาพิน สายศรีแก้ว ผช.หน.สนง.สงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตเลย และคณะ,ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จ.เลย และคณะ,นางจริยาพร พัฒนชัยกุล ประธานผู้ประสานงานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ จ.เลย

มอบหมายให้ นายณัฐกฤต สิมะลี เลขานุการ,พมจ.เลย และคณะ,ชมรมแม่บ้านดีเด่นระดับจังหวัด,นางฐานิดา อนุอัน นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลประจำจังหวัดกาฬสินธุ์,น.ส.ชญาภา เทียมเมฆ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลประจำจังหวัดบุรีรัมย์,ชมรมช่วยเหลือสังคม,นายธวัชชัย จิตต์เจริญ ที่ปรึกษาสมาคมคน

พิการฯ,ร.ต.อ.ชาญชัย วรรณโรจน์ คณะกรรมการผู้ไกล่เกลี่ย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ประสานงาน : ร่วมจัดกิจกรรม “โครงการตรวจเยี่ยมบ้านคนพิการตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง” มอบชุดยังชีพให้กับ ทหารผ่านศึก คนพิการ ผู้ยากไร้ จำนวน 40 ราย ณ บ้านเลขที่ 111 ม.7 ต.ปากปวน อ.วังสะพุง จ.เลย

*** ขอขอบคุณผู้ร่วมบริจาค มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ดังรายนามต่อไปนี้ ***สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล : บริจาคชุดยังชีพ จำนวน 20 ชุดชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จ.เลย : บริจาคชุดยังชีพ จำนวน 20 ราย และจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน

สส.เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล : บริจาคน้ำดื่ม จำนวน 50 โหลโรงแรมเซ็นธารา : บริจาคแปรงสีฟันและยาสีฟัน จำนวน 10 ลังสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตเลย คนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเลยชมรมช่วยเหลือสังคมทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่2ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่3ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่4

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เมืองพัทยาระดมสมองจัดตั้งชุมชนใหม่ เพื่อความทั่วถึงและเป็นระบบ

นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานการประชุมพิจารณาการจัดตั้งชุมชนใหม่ โดยมี ประธานสภาเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาเมืองพัทยา รองปลัดเมืองพัทยา และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากพื้นที่โครงการบ้านมั่นคงและบริเวณใกล้เคียงกับชุมชนชัยพรวิถี มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการบ้านมั่นคงจึงมีแนวคิดในการขอจัดตั้งเป็น “ชุมชนใหม่” เพื่อให้การดูแลประชาชนมีความทั่วถึงและเป็นระบบมากขึ้น

เมืองพัทยาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงมีข้อเสนอให้คณะกรรมการบ้านมั่นคงดำเนินการสำรวจข้อมูลจำนวนประชากร พร้อมนำข้อมูลเสนอต่อเจ้าหน้าที่เพื่อจัดประชุมประชาพิจารณ์ ร่วมกับประชาชน

ในพื้นที่ชุมชนชัยพรวิถีและพื้นที่ชุมชนใหม่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแบ่งเขต ตั้งแต่บริเวณถนนสุขุมวิท 21 ตลอดแนวคลองนาเกลือ ไปจนถึงพื้นที่โดยรอบโรงเรียนมารีวิทย์ พัทยา พร้อมการกำหนดชื่อชุมชน และการจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน

ทั้งนี้ การเปิดรับสมัครคณะกรรมการชุมชนจะต้องมีผู้สมัครไม่ต่ำกว่า 5 คน และไม่เกิน 9 คน หากมีผู้สมัครเกินจำนวนดังกล่าวจะต้องมีการเลือกตั้งเพื่อให้ได้คณะกรรมการที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง การจัดตั้งชุมชนใหม่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างกลไกในการดูแลประชาชนได้ครอบคลุมมากขึ้น อำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ และเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ต่อไป

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / ผู้ว่าประจวบฯฯ เปิดโครงการ “มหกรรมคนรักษ์ทะเล” ปกป้อง ฟื้นฟู และจัดการทรัพยากรทางทะเล /“เทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ครั้งที่ 24” นทท.ชิมซีฟู้ดแน่นหาด

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.68 ที่หาดบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “มหกรรมคนรักษ์ทะเล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” โดยมี พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นางสาวอาทิตา จุ้ยจู่เอี้ยม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ว่าที่ร้อยตรีสมนึก พรหมศร ประมงจังหวัด แขกผู้มีเกียรติ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายภาคีอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล

เข้าร่วมในพิธีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ ร่วมกับ สำนักงานประมงจังหวัดประจวบฯ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝังที่ 3 (เพชรบุรี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน “มหกรรมคนรักษ์ทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ด้วยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 246 กิโลเมตร ครอบคลุม 8 อำเภอ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น

สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจมากกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท และเป็นแหล่งทำการประมงที่สร้างมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาทต่อปี โดยมีเรือประมงพื้นบ้านกว่า 2,000 ลำ อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรทางทะเลกำลังเผชิญกับความเสื่อมโทรมจากมลพิษ การทำประมงเกินขนาด และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โครงการมหกรรมคนรักษ์ทะเลฯ จึงเกิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการปกป้อง ฟื้นฟู และจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยเน้นการลดขยะ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสิ่งแวดล้อม สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อรักษาสมดุลระบบนิเวศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Next Move Prachuap “ประจวบฯ ต้องไปต่อ” ที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการประมง ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สู่คุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นคงยั่งยืนของจังหวัดประจวบฯ
สำหรับโครงการ “มหกรรมคนรักษ์ทะเล จังทวัดประจวบฯ”

จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักแก่ประชาชน เยาวชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการปกป้อง ฟื้นฟู และจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างสมดุลและยั่งยืน สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด และนโยบาย Next Move Prachuap “ประจวบฯ ต้องไปต่อ” ที่เน้นการพัฒนาควบคู่กับการรักษาสภาพแวดล้อมให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน พัฒนาและขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ชุมชนท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

กิจกรรมในวันนี้ประกอบไปด้วยการเสวนา ในหัวข้อ “การจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ป่าชายเลน และการประมงอย่างยั่งยืน” โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ยังมีการมอบอุปกรณ์เก็บขยะชายหาด การมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าชายเลนตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “มหกรรมคนรักษ์ทะเล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”

เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการปกป้อง ฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง และการทำประมงอย่างยังยืนและปิดท้ายด้วยกิจกรรมการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและเต่าทะเล รวมถึงการมอบซั้งให้แก่กลุ่มประมงพื้นบ้าน.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

เริ่มแล้ว “เทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ครั้งที่ 24” นทท.ชิมซีฟู้ดแน่นหาด

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.68 ที่บริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี เป็นประธานเปิดงานเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ครั้งที่ 24 พร้อมด้วย นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ นายดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

สำนักงานเพชรบุรี นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก พ.ต.อ.อภิรักษ์ เพิ่มชัย ผกก.สภ.ชะอำ หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากให้การต้อนรับพร้อมชิมอาหารจานเด็ดจากเซฟโรงแรมชั้นนำในพื้นที่ชะอำโดยใช้ปลาหมึกสดที่ได้มาจากประมงพื้นบ้านแจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองทาน ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของนักท่องเที่ยวเข้าชมงานกันเป็นจำนวนมาก

เทศบาลเมืองชะอำ ร่วมกับ ททท.สำนักงานเพชรบุรี สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี และ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จัดงานเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 24 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-20 ก.ย.68 รวม 8 วัน 8 คืน ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย มีการออกร้านจำหน่ายอาหารทะเลสดเลิศรสที่ปรุงด้วยเมนูหมึกและหอยเป็นหลักและอาหารอื่น ๆ อีกหลากหลายจากโรงแรมและร้านอาหารชื่อดังใน อ.ชะอำและ จ.เพชรบุรี

กว่า 50 ร้านค้าคุณภาพในราคายุติธรรมและเหมาะสมคุณภาพ อีกทั้งยังจัดให้มีการแสดงดนตรีจากวงดนตรีที่ได้รับความนิยมทุกคืน การออกร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นบนถนนคนเดินรอบบริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ และยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่หาได้เฉพาะในงานเทศกาลนี้ 1 ปีมีครั้งเดียว กับบริการนำนักท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์การลงเรือตกหมึกกลางทะเลที่น่า

ตื่นเต้นประทับใจทุกวันในราคาถูกเป็นพิเศษเพียงท่านละ 100 บาท พร้อมอุปกรณ์ตกหมึก “โยธกา” ที่หาชมได้เฉพาะกิจกรรมนี้เท่านั้น จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเที่ยวชมงานตามวันดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก เรือศักดิ์มงคลชัย ครองถ้วยพระราชทานฯเงินรางวัล 120,000 บาท

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 สรุปผลการแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ประจำปี 2568 วันนี้(14 ก.ย. 68) การแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ประจำปี 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง ธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชน และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

บรมนาถบพิตร ที่มีต่อปวงชนชาวไทย และจังหวัดชุมพร และการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดชุมพร โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 -14 กันยายน 2568 ณ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

โดยมีนายวิชัย สุดสวาสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันฯ พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร, นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ร่วมมอบรางวัลการแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ประจำปี 2568

สำหรับผลการแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ประจำปี 2568 เรือยาวประเภท 32 ฝีพายผู้นำ ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ เรือศักดิ์มงคลชัย สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคา เงินรางวัล 120,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 1

เรือเทพชินกร สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา เงินรางวัล 100,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 2 เรือพรแม่ย่าเน้ย สังกัด เทศบาลตำบลบางหมาก เงินรางวัล 80,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 3 เรือสิงโตทอง สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำสิงห์ เงินรางวัล 60,000 บาท

เรือยาวประเภท 16 ฝีพายทั่วไป ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ เรือเพชรบ้านนา Good Design ป.นำโชค สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา เงินรางวัล 35,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 1 เรือจระเข้ท่าม่วง

สังกัด วัดหูรอ เงินรางวัล 30,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 2 เรือฤทธิ์เทวดาเพชร 5 แยก สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลพ้อแดง เงินรางวัล 25,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 3 เรืออนันตชัย สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม เงินรางวัล 20,000 บาท

เรือยาวประเภท 32 ฝีพายประชาชนทั่วไปภายในจังหวัด ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ เรือพลอยชมพู สังกัด Good design เงินรางวัล 50,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 1 เรือสะหัสชัย

สังกัด เทศบาลตำบลปากน้ำหลังสวน เงินรางวัล 40,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 2 เรือพระนเรศวร สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลพ้อแดง เงินรางวัล 30,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 3 เรือศักดิ์มงคลชัย สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคา เงินรางวัล 20,000 บาท

เรือยาวประเภท 8 ฝีพาย ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้แก่ เรือเพชรณภัทร สังกัด เทศบาลตำบลปากน้ำหลังสวน เงินรางวัล 15,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 1 เรือเจ้าแม่นาคราช เพชรอานุภาพ ฐิตะฐาน 2 สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา

เงินรางวัล 12,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 2 เรือป.รัตนชัย วัยรุ่นบ้านควน สังกัด วัดชลธารวดี เงินรางวัล 10,000 บาท, รองชนะเลิศ อันดับ 3 เรือสาวน้อยพนังตัก 2 เอเพ็กซ์ฟู้ด สังกัด เทศบาลตำบลนาชะอัง เงินรางวัล 8,000 บาท

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตามไปดู จ.แพร่ “จัดชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองฯ ร่วมออกตรวจสอบตู้คีบตุ๊กตา บริเวณห้างสรรพสินค้า ใน.จแพร่ “

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 จังหวัดแพร่ อำนวยการโดย นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายสมชาย อำพันกาญจน์ ปลัดจังหวัดแพร่ นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ สั่งการให้ นายธรรมนูญ กาญจนครุฑ

ป้องกันจังหวัดแพร่ นายอนุวัฒน์ สาน้ำอ่าง ผช.ป้องกันจังหวัดแพร่ นายปรีชา นุ่นปาน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ ฉก.หม้อห้อม (ร้อย.บก.บร.) และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแพร่ ฉก.ช่อแฮ (ร้อย.อส.อ.เมืองแพร่ 1)

บูรณาการร่วมกับ จนท.ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ทต.เมืองแพร่ ร่วมกันออกตรวจสอบตู้คีบตุ๊กตา บริเวณห้างสรรพสินค้ามาร์คโฟร์พลาซ่า บิ๊กซี และโลตัส ไม่พบการให้เข้าเล่นตู้คีบตุ๊กตาแต่อย่างใด และได้เข้าตรวจสอบตู้คีบตุ๊กตาบริเวณห้องเช่าภายในปั้มน้ำมันบางจาก ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ พบว่ามีตู้คีบตุ๊กตาสามารถให้ผู้ใช้บริการเข้าเล่นได้

เจ้าหน้าที่ ฯ จึงได้ทำการตรวจยึดของกลาง จำนวน 4 รายการ ดังนี้ 1. ตู้คีบตุ๊กตาสีฟ้า จำนวน 1 ตู้ 2. ตู้คีบตุ๊กตาสีเหลือง จำนวน 1 ตู้ 3. ตู้คีบตุ๊กตาสีชมพู จำนวน 1 ตู้ 4. ป้ายขั้นตอนประชาสัมพันธ์การแลกเหรียญและธนบัตรการเล่นตู้คีบตุ๊กตา จำนวน 1 ป้าย

จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางและแจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของปั้มน้ำมันดังกล่าวพร้อมนำของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวบก รายงาน ธีรพงษ์ #ธงออน/#แพร่

061-585-5297

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2 จัดหมูกระทะ 100 เตา เลี้ยงทหารกล้า 300 นาย ชาย​แดน​ไทย–กัมพูชา มอบเงินร่วม 1.2 แสน ซื้อรถไถพ่วง

เมื่อวันที่ 14 กันยายน​ 2568​ เวลา​ 12.00น. ที่ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ ช่องบก ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
น.ส.ธนชนก สุริยเดชสกุล ผู้แทนคณะนักศึกษาหลักสูตรคณะสัมพันธ์ ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 2 (พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2) พร้อมด้วย นายพัฒน์เกียรติขจร สายแวว

ผู้จัดการคันทรี่เฮ้าส์เชียงใหม่ นายอรรครัตน์ รัตนจันทร์ นายกสมาคมสื่อสารมวลชนไทยอินโดจีน และคณะส่วนราชการ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำ “หมูกระทะ 100 เตา” พร้อมขนมและเครื่องดื่ม มาจัดเลี้ยงแก่กำลังพลกว่า 300 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

ในโอกาสนี้ คณะยังได้มอบเงินจำนวน 119,900 บาท เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อรถไถพ่วงสำหรับใช้ขนส่งยุทธภัณฑ์ โดยมี พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับและเป็นผู้แทนรับมอบ

น.ส.ธนชนก กล่าวว่า การมาจัดเลี้ยงหมูกระทะในครั้งนี้เป็นการส่งมอบกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหารผู้ปกป้องผืนแผ่นดินไทย แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพี่น้องชาวไทยที่รวมพลังน้ำใจ ตอบแทนการเสียสละของกำลังพล และขอให้ทหารไทยทุกนายมีกำลังใจที่เต็มเปี่ยมในการปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ

นายอรรครัตน์ รัตนจันทร์ นายกสมาคมสื่อสารมวลชนไทยอินโดจีน กล่าวเสริมว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้เห็นถึงความทุ่มเทและเสียสละของทหารชายแดนไทย–กัมพูชา ครั้งนี้จึงขอมีส่วนร่วมในการแสดงน้ำใจและขอบคุณ ด้วยการจัดเลี้ยงหมูกระทะ มอบเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แนวชายแดน

ด้าน พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณคณะ พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2 และทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ได้ร่วมกันสร้างกำลังใจให้กับน้องๆ ทหารชายแดน พร้อมยืนยันว่า ทหารไทยทุกนายมีขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม และจะทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยด้วยความเข้มแข็งตลอดไป

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บริษัทใจบุญส่งตัวแทนช่วยเหลือครอบครับอดีตดูโอ้ดังยุค 90 “สมิทธิ์ วงสมิธแอนด์เชน ” ป่วยอัมพฤกษ์กว่า 10 ปี อยู่กับบิดาชราภาพคอยดูแลที่บ้านพักชลบุรี

มีรายงานว่าบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ได้ส่งตัวแทนลงพื้นที่บ้านพักอาศัยของนายปัญจรัตน์ (สุรัตน์) บัณฑิตย์ เลขที่ 68/24 หมู่บ้านคลองชเลรมย์ ถนนพระยาสัจจา ม.2 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบิดาของ “สมิทธิ์ บัณฑิตย์” หรือ สมิทธิ์ วงสมิธแอนด์เชน อดีตศิลปินดูโอ้ดังยุค 90 เพื่อให้การช่วยเหลือ หลังอดีตนักร้องดังป่วยเป็นอัมพฤกษ์มานานกว่า 10 ปี

เมื่อไปถึงพบ สมิทธิ์-สมิธแอนด์เชน อาศัยอยู่กับนายปัญจรัตน์ (สุรัตน์) บิดา ซึ่งมีอายุ 87 ปีแล้ว และพี่ชายอีกหนึ่งคน โดย สมิทธิ์-สมิธแอนด์เชน ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และเริ่มมีอาการหลงๆ ลืมๆ กำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงพยาบาล ทราบว่าต้องใช้รถวีลแชร์ในการเคลื่อนที่ไปไหนมาไหน โดยมีบิดาในวัยชราภาพและเพื่อนบ้านคอยพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล และรายได้ของทางบ้านก็ไม่เพียงพอ มีเพียงเพื่อนสนิทมิตรสหายวนเวียนมาช่วยเหลืออยู่บ้างเท่านั้น

ตัวแทนบริษัทดังกล่าว เผยว่า ได้รับมอบหมายหลังจากติดตามเรื่องราวของสมิทธิ์-สมิธแอนด์เชน อดีตดูโอ้ดังในอดีตที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์อาศัยโดยมีบิดาที่แก่ชราคอยดูแล โดยทางบริษัทให้ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลความต้องการ และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ด้วยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งพร้อมด้วยสมุนไพรธรรมชาติ โดยมอบให้นายปัญจรัตน์ (สุรัตน์) บิดาของนายสมิทธิ์ ไว้ใช้ตามความจำเป็น ก่อนบริษัทจะช่วยเหลืออย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็วๆ นี้

ด้าน นายปัญจรัตน์ (สุรัตน์) บิดาของนายสมิทธิ์ ได้กล่าวขอบคุณทางบริษัทดังกล่าว ก่อนเผยว่า ทุกวันนี้ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงให้พอมีรายได้ประทังชีวิต ในส่วนของสิ่งของจำเป็นของผู้ป่วย จำพวกผ้าอ้อมเอนกประสงค์สำหรับผู้ใหญ่ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อนสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาลนายสมิทธิ์นั้น ต้องคอยไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เชิญชวนเที่ยวงาน แซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี ประจำปี 2568 ตำนานเมืองขุขันธ์ การแสดง และริ้วขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่

***เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 กันยายน 2568 ที่ลานอนุสาวรีย์พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายพงษ์ธร จันทร์สวัสดิ์ นายอำเภอขุขันธ์ พร้อมด้วย นางณัฐนันท์ จันทร์สวัสดิ์ นายกกิ่งกาชาดอำเภอขุขันธ์ นางสมจันทร์ บัวเขียว นายกเทศมนตรีตำบลเมืองขุขันธ์ และ นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกันแถลงข่าว งานรำลึกพระยาไกรภักดีประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี ประจำปี 2568

โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 กันยายน 2568 เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมการประกอบพิธีกรรมเช่นไหว้บรรพบุรุษ ตามความเชื่อที่แสดงออกถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ส่งเสริมความรัก ความสามัคคีของชาวอำเภอขุขันธ์ตลอดจนการใช้ประเพณีให้เป็นสายใยผูกพันในครอบครัว เพื่อพัฒนาท้องถิ่นในด้านการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเปิดประตูให้สาธารณชนทั่วไปได้มีโอกาสเรียนรู้ โดยใช้มิติทางวัฒนธรรมเป็นสื่อ

***ทั้งนี้สำหรับงานในปีนี้ มีกิจกรรมที่เป็นจุดเด่นและสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจากนอกพื้นที่ และในพื้นที่เข้ามาเที่ยวชมงาน ไม่ว่าจะเป็น การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP “มหกรรมสินค้าอะไรก็ดีที่ศรีสะเกษ ที่ชาวอำเภอขุขันธ์ร่วมแรงร่วมใจผลิตสินค้าที่เป็นสินค้าพื้นบ้านในชุมชน มาให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายเลือกซื้อ การประกวดกล้วยงามเมืองขุขันธ์ การประกวดผ้าไหมและเสื้อแส่ว และการชมสารคดีประวัติศาสตร์ เล่นขานตำนานเมืองขุขันธ์ แสง สี เสียง สุดอลังการ

***โดยปีนี้การแสดงจะใช้ชื่อว่า “ขุขันธ์ เป็นเมืองเป็นชาติ ด้วยรอยบาทพระราชา ฝากคมศาตรา ขับล้างอดิราชแผ่นดิน” ซึ่งจะจัดแสดงดพียง 2 รอบคือช่วงค่ำของวันที่ 18 และ วันที่ 19 ก.ย. 68 โดยจะใช้นักแสดงกว่า 500 คน ที่เป็นคนอำเภอขุขันธ์ ทั้งหมด นอกจากนี้วันที่ 19 ก.ย. 68 จะมีขบวนแห่ของ 23 ตำบล 24 ขบวน ที่แต่ละตำบลจะนำเอกลักษณ์ของแต่ละตำบลมาจัดแสดง ให้ชม ไม่ว่าจะเป็น ขบวนแห่พระ ขบวนแห่จำลองสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของขุขันธ์ ขบวนจำลองวัฒนธรรมประเพณีของท่องถิ่นที่หาชมได้ยาก และไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหนอีกด้วย

***ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไป มาร่วมงาน ร่วมกิจกรรมงานรำลึกพระยาไกรภักดีประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี ประจำปี 2568 เพราะที่นี้คืออำเภอขุขันธ์ เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ ที่ทุกท่านไม่ควรพลาดที่เข้ามาสัมผัสงานในครั้งนี้ว
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง