สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สภ.ห้วยยาง ร่วมพิธีบวงสรวง และทำบุญให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ / เอสวีแอล กรุ๊ป ร่วมต้อนรับผู้ตรวจราชการฯ ส่งเสริมภาครัฐ โครงการ “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง”

วันนี้ 26 มิ.ย.2568 เวลา 09.09.น. พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.จตุพงษ์ แป้นเขียว รอง ผกก.สอบสวน.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.กฤษดา เหนี่ยวพึ่ง สวป.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ รัศมีสว.อก.สภ.ห้วยยาง น.ส.อุษณีย์ ทอดสนิทกำนัน ต.ห้วยยางพร้อมข้าราชการตำรวจ สภ.ห้วยยาง
และ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ประชาชนในตำบลห้วยยาง

เข้าร่วมพิธีบวงสรวง และทำบุญ ให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นศิริมงคล ณ วัดประชาสนธิ (น้ำตกห้วยยาง) ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จว.ประจวบคีรีขันธ์

/////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

เอสวีแอล กรุ๊ป ร่วมต้อนรับผู้ตรวจราชการฯ ส่งเสริมภาครัฐ โครงการ “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง”

เอสวีแอล กรุ๊ป (SVL Group) ร่วมให้การต้อนรับ นายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง เขต 4 ในโอกาสเดินทางลงพื้นที่พร้อมคณะกรรมการตรวจประเมินฯ ภายใต้โครงการคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวทาง “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” (หมู่บ้านอยู่เย็น) ประจำปี 2568 ระดับเขต เขตตรวจราชการที่ 4 ครอบคลุมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ซึ่งจัดขึ้น ณ ศาลาประชาคม หมู่ 4 บ้านระหาร ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ โดยมีนายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน พร้อมด้วยผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับคณะกรรมการฯ ในโอกาสที่บ้านระหาร ผ่านการคัดเลือกในระดับจังหวัดฯ
นางสาววันวิสาข์ หุ้นจิ้น ผู้จัดการส่วนชุมชนสัมพันธ์และพัฒนาชุมชน นำทีมในฐานะเป็นพี่เลี้ยงด้านงานพัฒนาชุมชน ในนามภาคเอกชน เอสวีแอล กรุ๊ป (SVL Group) ได้ร่วมดำเนินรายการตลอดงาน พร้อมถือโอกาสนำเสนอภาพรวมบทบาทของ SVL Group ผ่านบูธนิทรรศการที่สะท้อนความร่วมมือกับภาคประชาชนในมิติต่างๆ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโครงการสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้านอย่างยั่งยืน ที่ส่งเสริมงานพัฒนาชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง
การตรวจประเมินในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศักยภาพของชุมชน แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของ SVL Group ในการสนับสนุนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างมีส่วนร่วม ซึ่งได้รับความชื่นชมจากคณะผู้ตรวจราชการฯ โดยเฉพาะการเป็นพันธมิตรภาคเอกชนที่มีวิสัยทัศน์ร่วมสร้างชุมชนเข้มแข็งตามแนวทาง “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง”
นอกจากนี้ SVL Group ยังคงยึดมั่นในพันธกิจ “เติบโตเคียงข้างชุมชน” พร้อมเดินหน้าสนับสนุนและเสริมพลังให้ชุมชนไทยก้าวสู่ความเข้มแข็งในทุกมิติ ตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

/////////////////////

ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กิจกรรมเดินรณรงค์ ต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2568 พร้อมประกาศเจตนารมณ์และกล่าวคำปฏิญานตนต่อต้านยาเสพติด

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 16.00 น. นายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะ ผอ.ศป.ปส.อ.ทับสะแก นายทนงศักดิ์ รุ่งรัศมี ปลัด

อาวุโสอำเภอทับสะแก / รองผอ.ศป.ปส.อ.ทับสะแก(1) พ.ต.อ.สาโรจน์ พิมพ์คุณากร ผกก.สภ.ทับสะแก /รอง ผอ.ศป.ปส.อ.ทับสะแก(2) พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง/รองผอ.ศป.ปส.อ.ทับสะแก (3)

ร่วมจัดกิจกรรมเดินรณรงค์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2568 พร้อมประกาศเจตนารมณ์ และกล่าวคำปฏิญานตนต่อต้านยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ตามมติประชุมสมัชชาองค์การสหประชาชาติกำหนดให้

วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก ภายใต้แนวคิด “Stop Drugs Start Power สร้างพลังไทย หยุดภัยยาเสพติด”เพื่อรณรงค์สร้างกระแส และปลุกจิตสำนึกในการป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาอันเกิดจากยาเสพติด

โดยมี นายพงษ์พันธ์ เผ่าประทาน นายกเทศมนตรีตำบลทับสะแก นายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก นายวิบูลย์ เทียนทอง นายกอบต.ทับสะแก พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.

นักเรียน มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน เข้าร่วมการจัดกิจกรรม จำนวน 500 คน โดยได้ร่วมเดินรณรงค์ไปในตลาดอำเภอทับสะแกผ่านหน้าสถานีรถไฟและไปร่วมกล่าวปฏิญาณตนเจตนารมณ์การต่อต้านยาเสพติดที่หอประชุมอำเภอทับสะแก

///////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2568 วันเข้าพรรษาเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษา ณ มณฑลพิธีข่วงเมืองน่าน

วันนี้ (27 มิ.ย.2568) เวลา 8.30 น. ณ ข่วงเมืองน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีดังกล่าว โดยมีพระสุนทรมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดน่านเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2568

พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองน่าน นายวิสุทธิ์ ไชยวงศ์ ประธานสภาเทศบาลเมืองน่าน นายชลิน วิชาญ ประธานชมรมประธานกรรมการชุมชนและผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองน่าน พุทธศาสนิกชน ชุมชน นักท่องเที่ยว ตลอดจนคณะครูและนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองน่านร่วมพิธี

ซึ่งเทศบาลเมืองน่าน ได้กำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2568 ในระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 9 กรกฎาคม 2568 ณ มณฑลพิธีข่วงเมืองน่าน และวัดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน โดยกำหนดให้มีการประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษา ในวันศุกร์ ที่ 27 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 8.30 น.เป็นต้นไป ณ ข่วงเมืองน่าน จากนั้นเทศบาลเมืองน่านจัดสถานที่อำนวยความสะดวกให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมทำบุญหล่อเทียนพรรษา ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568

ณ ข่วงเมืองน่าน พุทธศาสนิกชนร่วมบูชาแผ่นเทียนและเครื่องอัฐบริขารตามจิตศรัทธา และกำหนดการถวายเทียนพรรษาไปยังวัดต่าง ๆ จำนวน 26 วัด ในเขตเทศบาลเมืองน่าน ระหว่างวันที่ 7-9 กรกฎาคม 2568 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้ทำบุญร่วมกัน มีส่วนร่วมสืบสานอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดี

งามของท้องถิ่นให้คงอยู่ถาวรสืบไป รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดน่านอานิสงค์ของการหล่อเทียนและถวายเทียนพรรษาเปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งปัญญา เจริญด้วยสติ ปัญญา อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ทุกประการ เทอญ

งานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายอำนวยการ
สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองน่าน โทร 0 54710 234 ต่อ 119
facebook เทศบาลเมืองน่าน www.nancity.go.th/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ”นายกป๊อก-วิทยา“ นายก อบจ.ชลบุรี ทำบุญแซยิดวันคล้ายวันเกิดครบ 60 ปี

วันที่ 27 มิ.ย.68 ที่วัดเมืองใหม่ จ.ชลบุรี ครอบครัวคุณปลื้ม โดย นายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี และ นางสิริลดา คุณปลื้ม ภรรยา ได้จัดพิธีทำบุญแซยิดวันคล้ายวันเกิดครบ 60 ปีบริบูรณ์ โดยพบว่ามีมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมแสดงความยินดีและร่วมอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดนายก อบจ.ชลบุรี กันเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีการออกร้านให้บริการอาหาร ทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มมาให้บริการแก่ผู้เข้าร่วมงานได้รับประทานกัน ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองเป็นอย่างมาก ทั้ง ตัวแทนภาครัฐ เอกชน ประชาชน นักการเมืองท้องถิ่น และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อบจ.เชียงราย เร่งเข้าช่วยผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก มอบน้ำอุปโภคบริโภค พร้อมลุยฟื้นฟูพื้นที่ ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย

วันที่ 27 มิถุนายน 2568 จากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากใน ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย ส่งผลให้บ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับ

ความเสียหายอย่างหนัก นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ในฐานะรองผู้อำนวยการจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจ

เร่งระดมกำลังและทรัพยากรเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน โดยมีนายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ

ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายอาทิตย์ รู้ทำนอง

สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเทิง เขต 1 นายสุชัด เสนคำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเทิง เขต 2 นายสุใจ เชื้อเมืองพาน

สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอพญาเม็งราย เขต 1 บุคลากรกองป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และกองสาธารสุของค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ในครั้งนี้

สถานการณ์น้ำป่าที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ประชาชนจำนวน

มากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค เนื่องจากระบบประปาได้รับความเสียหายและมีโคลนจำนวนมากทับถม

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้จัดส่งรถน้ำขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถนำน้ำไปใช้ในการอุปโภค

ล้างทำความสะอาดบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยโคลน และใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียม ถุงยังชีพ ซึ่งประกอบด้วยสิ่งของที่จำเป็น และที่สำคัญ

คือ น้ำดื่มสะอาด จำนวนมาก เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความขาดแคลนด้านปัจจัยพื้นฐาน

นอกจากทรัพยากรที่ส่งเข้าสนับสนุนแล้ว บุคลากรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ยังได้ลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์ ให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ในการสำรวจความเสียหาย

และวางแผนการฟื้นฟูในระยะต่อไป การช่วยเหลือในครั้งนี้มุ่งเน้นการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นอย่างครอบคลุม และรวดเร็วที่สุด

เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยทุกท่าน

และยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็น

ปกติสุขอบจเชียงรายเชียงราศูนย์บริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จนโยบายศูนย์บริหารจัดการสาธารณภัยแบบเบ็ดเสร็จ(PDOSS)

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ขนไม่พะยูง รับสารภาพได้ค่าจ้าง 15,000 บาท ต่อเที่ยว

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล, ร.ต.ต.ใจเทพ สาลี รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล, ด.ต.ธนพนธ์ เกิดเขาทะลุ ผบ.หมู่.ส.ทล.๔ กก.๒ บก.ทล. ส.ต.อ.มาตภูมิ รัตนคช ผบ.หมู่.ส.ทล.๔ กก.๒ บก.ทล. ร่วมกับ นามเจ้าพนักงานตำรวจ กก.5 บก.ปทส. นำโดย ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ สมบุญ รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล, ร.ต.ท.สมพร วิเศษสวัสดิ์ รอง สว.(ป.), ด.ต.วิสุท กันตังกุล ผบ.หมู่.ส.ทล.๔ กก.๒ บก.ทล. เจ้าพนักงานตำรวจ ปทส.ภ.จว.ชุมพร นำโดย ร.ต.อ.จำนง เต็งประยูร รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชพ. ,ร.ต.ต.ประสาน สุวรรณโณ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชพ. ,จ.ส.ต.ณัฐวุฒิ มึสติ ผบ.หมู่.กก.สส.ภ.จว.ชพ เจ้าพนักงานกอ.รมน.จว.ชพ. นำโดย พ.ต.กอบศักดิ์ นาคหาญ จนท.ฝ่ายการข่าวฯ ,จ.ส.อ.อรรถพล คลี่บำรุง ,จ.ส.อ.พงศ์ศิลป์ รุ่งอาญา ,จ.ส.อ.ธนวรรธน์ บรรจงศิริทัศน์

 ทำการจับ1.นายสมัย (สงวนนามสกุล)  อายุ 31 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1 1998 00083 53 4 บ้านเลขที่ 66 หมู่ 10 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยของกลาง ไม้พะยูง ความยาวประมาณ 2 เมตร รวมทั้งสิ้น 73 ท่อน(ไม้หวงห้ามประเภท ก.) .รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฌ 5915 กทม. เลขตัวถัง MP1TFR40JMT007548 หมายเลขเครื่องยนต์ 4JJ3WD6023 จำนวน 1 คัน  โทรศัพท์ ยี่ห้อเรดมี่ สีดำ ระบบทรูมูฟ หมายเลข 0957808116 จำนวน 1 เครื่อง เลขIMEI(ช่องซิม1) 865504060168585 เลขIMEI(ช่องซิม2)865504060168593
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำ รถวิทยุฯ 2406 ออกตรวจพื้นที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ขณะตรวจมาถึงบริเวณถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.470-471  (ขาเข้า กทม.) ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร  ได้พบรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฌ 5915 กทม. ได้ขับรถแซงรถวิทยุฯ 2406 ของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม มาในช่องทางเดินรถทางขวา ด้วยความเร็ว และมีเหตุสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการเปิดสัญญาณไฟวับวาบ เพื่อเรียกรถคันดังกล่าวให้หยุด เพื่อตรวจสอบและว่ากล่าวตักเตือน เมื่อรถคันดังกล่าวจอดชิดบริเวณขอบทางด้านซ้าย พบ นายสมัย เครือสีดา (ทราบชื่อภายหลัง)  เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบใบขับขี่ และสอบถามนายสมัยฯ ว่าตนได้บรรทุกสิ่งใดมา เบื้องต้น นายสมัยฯ แจ้งว่าบรรทุกทุเรียนมาจาก อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสังเกตเห็น นายสมัยฯ  แสดงอาการพิรุธ ลุกลี้ลุกลน จึงขอทำการตรวจสอบภายในรถ ก่อนจะทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ นายสมัยฯ ดูจนเป็นที่พอใจก่อนทำการตรวจค้นและนายสมัยฯ ยินยอมให้ตรวจค้น จากการตรวจสอบพบ  ท่อนไม้ซึ่งยังไม่ได้แปรรูป จำนวนหนึ่ง บรรทุกอยู่ภายในตู้ทึบของรถคันดังกล่าว ที่นายสมัยฯ ขับขี่มา จากการสอบถามนายสมัยฯ เบื้องต้นให้การว่า ท่อนไม้ที่บรรทุกมานั้น เป็นไม้พะยูง เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวนายสมัยฯและรถบรรทุกคันดังกล่าวพร้อมท่อนไม้ที่บรรทุกอยู่ในรถกระบะ มาทำการตรวจสอบโดยละเอียด ที่ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงท่าแซะ  เจ้าหน้าที่สอบถามนายสมัยฯ ให้การว่า ไม้ที่ตนบรรทุกมานั้น เป็นไม้พะยูง โดยตนได้บรรทุกมาจาก พื้นที  จังหวัดสงขลา ซึ่ง มีชายชาวมาเลเซีย จำนวน 4 คน พร้อมรถบรรทุกติดแผ่นป้ายทะเบียนมาเลเซีย(จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้) นำไม้พะยูงมาให้ตน ซึ่งนัดรับกั บริเวณริมป่าทึบข้างทางและไม่ทราบจุดที่แน่นอน ในพื้นที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และนำไปส่ง บริเวณ ริมแม่น้ำโขง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย โดยตนได้รับการว่าจ้างจาก จากนายชัยยพล ถาวรหิรัญพัทธ์ โดยได้ติดต่อและรับงานดังกล่าว ผ่านทางแอบพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งใช้ชื่อ”ขุนเดช” ได้รับค่าจ้างครั้งล่ะ 15,000 บาท  โดยค่าจ้างดังกล่าว ได้รับโอนผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี 0908287878 ชื่อบัญชี นายชัยยพล  ถาวรหิรัญพัทธ์ โดยนายสมัยฯ ให้การเพิ่มเติมว่าตนได้รับการว่าจ้างให้บรรทุกไม้พะยูง จากนายชัยยพลฯ มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 จนกระทำถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบและจับกุมในครั้งนี้ 

จากการตรวจสอบโดยละเอียด พบว่าไม้พะยูงขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 73 ท่อน เป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก.(ไม้หวงห้ามธรรมดา) ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530 ลำดับที่ 53 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ นำไม้หวงห้ามเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต(ไม่มีใบเบิกทาง) ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484

นายสมัย เล่าว่า บรรทุกมาจากสะเดาหาดใหญ่จะนำไปที่จังหวัดหนองคายโดย ได้รับค่าจ้างขนไม้มาเที่ยวละ 15,000 บาทโดยครั้งนี้ได้ขนไม้พะยูงมาเป็นครั้งที่ สี่ ส่วนเที่ยวที่ผ่านมาไปลงที่หนองคายในครั้งนี้จะไปที่โพนพิสัยบริเวณริมแม่น้ำโขง เพื่อนที่รับจ้าง แนะนำมาให้ไปขนไม้ปกติก็จะมีอาชีพรับจ้างทั่วไปขนข้าวขนของขนย้ายบ้านย้ายของให้กับชาวบ้าน อยู่ตลอดส่วนใหญ่ที่ผมเดินทางเข้าไปรับไม้ก็จะเป็นเที่ยวสุดท้ายตลอดส่วนไม้น่าจะมีจำนวนมากกว่านี้เยอะครับ
เจ้าหน้าที่ ตั้งข้อกล่าวหาว่า .

มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 วรรค2(2) นำไม้หวงห้ามเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต(ไม่มีใบเบิกทาง) ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 39 ผู้ถูกจับกุมทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับข้างต้นแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่ง พงส. สภ.ท่าแซะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สุดยิ่งใหญ่เปิดมหกรรมทุเรียนชุมพร Chumphon Durian Expo 2025

เมื่อเวลา 17.30 .วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ที่เวทีชั่วคราว ภายในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร นายเธียรชัย ชูกิตติ

วิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมทุเรียนคุณภาพ” (Chumphon Durian Expo 2025) โดยมี นายสุบรรณ์ รักษ์ทอง เกษตรจังหวัดชุมพร ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน

นายเธียรชัย กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดงานดังกล่าว เพื่อผลักดันจังหวัดชุมพรสู่การเป็น “ศูนย์กลางนวัตกรรมทุเรียน” ของประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมการผลิตทุเรียนคุณภาพ การดูแลรักษา และการควบคุมมาตรฐานสินค้า เพื่อยก

ระดับผลผลิตให้ตอบโจทย์ตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางรายได้แก่เกษตรกร

นายสุบรรณ์ กล่าวว่า จังหวัดชุมพรเป็นแหล่งผลิตทุเรียนสำคัญของภาคใต้ มีการขยายพื้นที่ปลูกอย่างต่อเนื่อง ในปี 2568 ชุมพรมีพื้นที่ปลูกกว่า 334,576 ไร่ ส่งออกทุเรียนไปสู่ประเทศจีนมากถึง 60%

งานมหกรรมทุเรียนคุณภาพชุมพร กำหนดจัดระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน 2568 มีกิจกรรมมากมาย เช่น กิจกรรมวิชาการเพื่อการผลิตทุเรียน การเสวนาวิชาการ

นิทรรศการนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร การสาธิตการดูแบรักษาทุเรียน การแปรรูปและเพิ่มมูลค่า กิจกรรมชิม ช้อป สินค้าทุเรียนและผลิตภัณฑ์แปรรูปทุเรียนจากชุมชน และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

เด็กไทยว่ายน้ำได้ เปิดฝึกทักษะว่ายน้ำเพื่อป้องกันการจมน้ำ ภายใต้โครง การฝึกทักษะว่ายน้ำเพื่อป้องกันการจมน้ำ
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

วันนี้ (25 มิ.ย. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้จังหวัดชุมพรประจำปี 2568 ในการฝึกทักษะว่ายน้ำเพื่อป้องกันการจมน้ำ ณ สระว่ายน้ำโรงเรียนมันตานุสรณ์ ตำบลตากแดด อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยมีเด็ก เยาวชน ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วม ฝึกอบรม จำนวน 140 คน ซึ่งโครงการฯดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชน มีทักษะการว่ายน้ำ สามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และรู้หลักการใช้อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางน้ำได้

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในกลุ่มเด็กอายุ 5 -14 ปี และเป็นอันดับต้นๆ ของเด็กไทยโดยรวม โดยในแต่ละวันมีคนไทยเสียชีวิตจากการจมน้ำประมาณ 10 คน ซึ่ง 1 ใน 5 เป็นเด็กอายุ ต่ำกว่า 15 ปีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่งในประเทศไทยได้ ร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการจมน้ำในเด็ก โดยเน้นย้ำ

ในประเด็นสำคัญ คือการสอนให้เด็กว่ายน้ำเป็น และมีทักษะด้านความปลอดภัยทางน้ำสำหรับเด็กวัยเรียน และในปัจจุบันมีสถานศึกษาต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการเรียนว่ายน้ำ และมีการสนับสนุนและบรรจุไว้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในโรงเรียน นับว่าเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากโรงเรียนทั้งภาครัฐบาล และ

เอกชน ทำให้นักเรียนในสังกัดได้มีโอกาสเรียนว่ายน้ำเพื่อเป็นนักกีฬา และสามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้อย่าง ปลอดภัยรวมทั้งรู้หลักการใช้อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทาง น้ำได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ และเป็นการส่งเสริมการป้องกัน และควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ชุมชนเป็นรากฐานในการสร้างสุขภาวะที่ดีในทุกพื้นที่

นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ได้ดำเนินงานโครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้จังหวัดชุมพร ประจำปี 2568 ฝึกทักษะว่ายน้ำเพื่อป้องกันการจมน้ำ ในกลุ่มเด็ก เยาวชน อายุ 6 – 14 ปี ระหว่างวันที่ 23 – 28 มิถุนายน 2568 มีผู้สมัครเข้าร่วม ฝึกอบรม จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 70 คน จำนวน 140 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชน มีทักษะการ ว่ายน้ำสามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และรู้หลักการใช้อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางน้ำ

ได้ ส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชน ได้นำเอาทักษะไปพัฒนาให้มีขีดความสามารถของตนเองให้สูงขึ้น ได้ใช้เวลาว่างด้วยการออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา และออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงอบายมุขสิ่งเสพติด และปัญหาเด็กติดเกมออนไลน์ ร่วมถึงการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นคนดี มีคุณภาพ รู้จักใช้ชีวิต ร่วมกับสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งการจัดโครงการในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก ภาครัฐ และเอกชน จังหวัดชุมพร กรมพลศึกษา และโรงเรียนมันตานุสรณ์ ได้ให้การสนับสนุนวิทยากร และสถานที่ในการจัดโครงการฯ อีกด้วย


สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ประชุม” ผลักดันการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนประเด็นการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบสร้างวัฒนธรรมจังหวัดแพร่

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ห้องประชุม จดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานการ ประชุมคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบ จังหวัดแพร่ โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการ ทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จังหวัดแพร่ จัดขึ้น เพื่อรายงานผลการขับเคลื่อนแผน ปฏิบัติกาฯ และผลการดำเนินงานโครงการเฝ้าระวังการทุจริตเชิงรุกในหน่วยงานภาครัฐประจำปี 2568

น ายศรัณ อภิสิทธิเวช ผูู้อำนวยการสำนักงางานป.ป.ช.แพร่ รายงานข้อมูลผลการดำเนินงานในปี 2568 จังหวัดแพร่มีเรื่องกล่าวหาร้องเรียน 52 เรื่อง ร้องเรียน
หน่วยงานราชการส่วนภูมิภาค 27 เรื่อง องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น 21 เรื่อง สถานศึกษา 3 เรื่อง และโรงพยาบาล 1 เรื่อง ซึ่งข้อกล่าวหาทีถูกต้องเรียนมากสุดคือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจ ในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบหรือสุจริต 36 เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้าง 10 เรื่อง ร่ำรวยผิดปกติ 3 เรื่อง การ ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วน รวม 2 เรื่อง และเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ 1 เรื่อง

“ในปี 2567 ผลการประเมินคะแนนความโปร่งใสและการทุจริตในภาพรวมของทั้งประเทศ โดยองค์กรระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือ พบว่า ประเทศไทยได้คะแนนต่ำสุดในรอบ 10 ปี แสดงให้เห็นว่า ในสายตาของต่างชาติมองประเทศไทยเรื่องการทุจริตในด้านลบค่อนข้างมากได้คะแนน 34 คะแนน อยู่ในอันดับ 107 จาก 180 ประเทศ”

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ปัจจุบันมีหน่วยงานภาคประชาชน ตั้งองค์กรอิสระเข้ามาตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง และส่วนราชการ
จำนวนมาก ดังนั้น ขอให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดแพร่ได้
ยึดมั่น ทำงานในอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ด้วยความ
ชื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใสและเป็นธรรม สร้างวัฒนธรรมค่า
นิยมสุจริต มีทัศนคติและพฤติกรรมในการต่อต้านการ
ทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อน
ระดับจังหวัดให้บรรลุเป้าหมายต่อไป

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ลพบุรี สภ.โคกสำโรง ภ. จว.ลพบุรี ร่วมกิจกรรมงานวันต่อต้านยาเสพติดโลก 2568

วันที่ 26 มิ.ย.68 เวลา 09.30 น. สภ. โคกสำโรง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.ฯ พ.ต.ท.มนตรี เล่ห์อิ่ม รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.องอาจ เนียมศรีเพชร สวป.ฯ โดย พ.ต.ต.ชยพล ตรีโอษฐ์ สวป.(ชส.)ฯ ร.ต.อ.โกวิทย์ พลั่วพันธ์ รอง สวป.(ชส.)ฯ ด.ต.พฤกษ เหมาะสมัย ผบ.หมู่(ป.)ฯ ส.ต.ต.ศรัณญ์ บุญภาพ ผบ.หมู่(ผช.พงส.)ฯ ร่วมกิจกรรม วันต่อต้านยาเสพติดโลก 26 มิ.ย.2568

กับโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลโคกสำโรง ด้วยการเดินรณรงค์ และบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด โดย มีนางสาวกัญญ์ดา ศรพรหมกุล รองปลัดเทศบาลตำบลโคกสำโรง รักษาการผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียน

อนุบาลเทศบาลตำบลโคกสำโรง คณะครู บุคลากร และนักเรียน หน่วยงาน ภาครัฐ ประชาชนชาวโคกสำโรง ร่วมกิจกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงโทษของยาเสพติด และการแก้ปัญหา ดังนี้

  1. เพื่อให้ประชาชน ชุมชน เยาวชน และหน่วยงานภาคี รับรู้และเห็นถึงความสำคัญของวันต่อต้านยาเสพติด ในการที่จะร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด
  2. เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคีของคนในชาติ ที่ร่วมเป็น “พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด”
  1. เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายในทุกภาคส่วนของสังคมเกิดความตระหนักถึงภัยจากยาเสพติดและเข้าร่วมในการ แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อการเอาชนะยาเสพติดให้ได้ผลอย่างยั่งยืน
  2. เพื่อให้วันที่ 26 มิถุนายน เป็นวันที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของการผนึกกำลังของคนในชาติ เพื่อร่วมแก้ไข ปัญหายาเสพติดให้หมด

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ. ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี
อนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “พลิกโฉมเมืองด้วยการจัดรูปที่ดิน ความร่วมมือรัฐ – ท้องถิ่น – ประชาชนขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเมืองน่านสู่อนาคต”

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานพิธีมอบโฉนดที่ดินและเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมี นางสาวจริยาพร จิตต์ใจมั่น รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ดร.มาร์ค เจริญวงศ์ อัยการจังหวัดน่าน นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นางบุญจิรา เจริญศักดิ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน นายสุนิรันดร์ ท้วมยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ร่วมมอบโฉนดที่ดิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ผู้บริหารทุกภาคส่วน ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน เข้าร่วมชื่นชมความสำเร็จ ซึ่งความสำเร็จนี้นำมาซึ่งความยินดีและความภาคภูมิใจที่พี่น้องชาวน่าน ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐผ่านโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดน่าน ระยะที่ 2 ในพื้นที่ 532 ไร่ 1 งาน 23.90 ตารางวา

โดยมีเจ้าของที่ดิน เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 146 ราย พัฒนาที่ดินและโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม ระหว่างถนนโครงการสาย ค5 และ ค8 ผ่านพื้นที่โครงการในแนวทิศตะวันออก ทิศตะวันตก เชื่อมระหว่างถนนมหายศและถนนโครงการเสนอแนะของกรมทางหลวง สภาพพื้นที่ ก่อนดำเนินโครงการ ที่ดินส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นา พื้นที่ว่าง ยังไม่มีถนนเข้าถึงแปลงที่ดิน จึงถูกทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ มีการใช้ประโยชน์เฉพาะพื้นที่ตอนใต้และทางตะวันออกของพื้นที่ตามแนวถนนปัจจุบันเท่านั้น ประกอบกับทางตอนใต้ของพื้นที่โครงการฯ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านจัดสรร จึงเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและเหมาะสมในการพัฒนาให้เป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของชุมชนในอนาคต สอดคล้องกับการวางผังเมืองและการพัฒนาตามผังถนนโครงการที่วางไว้เกิดการพัฒนาเมือง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นเมืองน่าอยู่ ป้องกันการขยายตัวของเมืองอย่างไร้ทิศทาง เพิ่มมูลค่าของที่ดิน และทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลังดำเนินโครงการแล้วเสร็จเจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง นำมาซึ่งประโยชน์แก่เจ้าของที่ดิน ชุมชน และเมือง ณ บริเวณพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า การจัดรูปที่ดิน Land Readjustment ถือเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและเป็นกลไกการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชนหรือประชาชน และเป็นภารกิจสำคัญที่จังหวัดน่านและกรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ที่มีปัญหาหรือเดือดร้อนจากการใช้ที่ดิน ให้สามารถมีส่วนร่วมกับรัฐ ในการพัฒนาที่ดินและคุณภาพชีวิตของตนและชุมชน โครงการนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมพัฒนาเมือง ให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้ตรงวัตถุประสงค์ มีสาธารณูปโภคที่เพียงพอและได้มาตรฐาน ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการภาครัฐ ถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาเมืองที่ตอบโจทย์กับยุคสมัย อีกทั้งเป็นวิธีการพัฒนาเมืองที่เจ้าของที่ดินยินยอมพร้อมใจเข้าร่วมโครงการฯ ร่วมคิดร่วมพัฒนาไปด้วยกัน ขอขอบคุณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าของที่ดิน ภาคเอกชน และทุกส่วนราชการที่ได้ร่วมกันผลักดัน และสนับสนุนการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดน่านตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบันนับว่าใกล้เสร็จสมบูรณ์และนำมาสู่การเปิดใช้ถนนในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการจัดรูปที่ดินจังหวัดน่านแห่งนี้จะเป็นตัวอย่างความสำเร็จของการร่วมกันพัฒนาพื้นที่ โดยภาคีต่างๆ และนำไปสู่การขยายผลการพัฒนาพื้นที่แห่งอื่นๆ ต่อไป

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง มุ่งเน้นการขับเคลื่อนผังเมืองสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม กรมฯ ได้นำวิธีการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่มาใช้เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการพัฒนาเมือง โดยการก่อสร้างถนนตามแนวเส้นทางที่กำหนดไว้ในผังเมืองแก้ปัญหาที่ดิน ที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ โดยการนำที่ดินหลายแปลงมารวมกัน แล้วดำเนินการจัดระเบียบและปรับรูปร่างแปลงให้เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ พร้อมกับวางโครงข่ายคมนาคม สร้างถนนเชื่อมโยงการเดินทางในพื้นที่ และจัดวางระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อาทิ ไฟฟ้า ประปา และระบบระบายน้ำ เพื่อให้พื้นที่นั้นพร้อมรองรับการขยายตัวของเมืองและเศรษฐกิจในอนาคต แนวทางนี้ช่วยให้การพัฒนาเกิดขึ้นอย่างมีทิศทาง เป็นธรรม และเกิดประโยชน์ร่วมกันแก่ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนเจ้าของที่ดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังไม่มีการพัฒนา เช่น พื้นที่ว่างใจกลางเมือง พื้นที่ชานเมืองที่มีศักยภาพจะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ สร้างความมั่นคงให้แก่ชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง

นางสาวจริยาพร จิตต์ใจมั่น รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวเน้นย้ำว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ดำเนินการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาพื้นที่เมืองและชุมชนโดยเชิญชวนให้ประชาชนเจ้าของที่ดินนาแปลงที่ดินมารวมกันและปันที่ดินของตนส่วนหนึ่ง เพื่อใช้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐาน เข้าถึงที่ดินทุกแปลงโดยไม่ต้องเวนคืนที่ดิน พร้อมกับการจัดรูปแปลงที่ดินใหม่ให้ใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น ปัจจุบันมีโครงการแล้วในพื้นที่ 54 จังหวัด 71 โครงการ ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ดิน 19,225 ไร่ คิดเป็นจำนวนแปลงที่ดินที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น 5,816 แปลง มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นเป็นเงิน 50,039 ล้านบาท ถนนได้รับการพัฒนา เป็นระยะทาง 217 กิโลเมตร ซึ่งทำให้รัฐประหยัดงบประมาณเวนคืนที่ดิน กว่า 2,772 ล้านบาท สำหรับโครงการจัดรูปที่ดิน เพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดน่าน ระยะที่ 2 ได้รับการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานและออกโฉนดที่ดินแปลงใหม่แล้วเสร็จ บนพื้นที่ 532 ไร่เศษ มีแปลงที่ดิน 185 แปลง เจ้าของที่ดิน 146 ราย ที่มีความพร้อมและยินดีเสียสละที่ดินให้กับโครงการ เพื่อให้ที่ดินได้รับการพัฒนาและมีระบบโครงข่ายคมนาคมที่สะดวก ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการก่อสร้างถนน ตามผังเมืองรวมเมืองน่านภายในโครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 125 ล้านบาท และได้เปิดเป็นทางสาธารณะให้ประชาชนใช้สัญจรอย่างสะดวกและเข้าถึงที่ดินทุกแปลง ซึ่งนับว่าการจัดรูปที่ดิน ได้มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ถือเป็นประโยชน์กับจังหวัดน่านเป็นอย่างยิ่ง

นางบุญจิรา เจริญศักดิ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน กล่าวทิ้งท้าย โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดน่าน ถือเป็นโครงการตัวอย่างของการพัฒนาเมือง โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน เกิดเป็นผลสำเร็จอย่างสูง โดยโครงการะยะที่ ๑ ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประเภทรางวัลสัมฤทธิ์ผลประชาชนมีส่วนร่วมจากสำนักงาน ก.พ.ร. ประจำปี พ.ศ. 2562 และสามารถขยายผลจนได้รับรางวัลในประเภทเลื่องลือขยายผล ระดับดีเด่น ประจำาปี พ.ศ. 2567 กรมโยธาธิการและผังเมือง และ จังหวัดน่าน จึงจัดพิธีมอบโฉนดที่ดินและเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดิน เพื่อเปิดการใช้ถนนอย่างเป็นทางการ รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วิธีการพัฒนาเมืองด้วยการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เพื่อให้เกิดการขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

“จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ : พัฒนาพื้นที่ พัฒนาเมือง พัฒนาคุณภาพชีวิต”/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื้อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง