สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ลุงพลอ่วม” ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ตัดสินลุงพลข้อหาหนัก ฆ่าโดยเจตนา – พรากเด็ก จำคุกรวม 26 ปี

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร นายอนามัย และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อกับแม่น้องชมพู่ได้เดินออกมาจากศาล แล้วให้สัมภาษณ์

ผู้สื่อข่าว รู้สึกดีใจและขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 4 มากที่ได้ให้ความเป็นธรรมกับน้องชมพู่ โดยมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกลุงพลในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและมีอัตราโทษโทษสูงขึ้น

นายพิสิษฐ์ ตรัยเจริญเมธากุล ทนายความโจทก์ร่วม เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษา ว่าจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลงโทษจำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร

ลงโทษจำคุกกระทงละ 10 ปี และกระทำการต่อศพหรือสภาพแวดล้อมก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ลงโทษจำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 26 ปี และให้

ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 เดี๋ยวแม่น้องชมพู่ จำนวน 1,350,000 บาท โจทก์ร่วมที่ 2 หรือพ่อน้องชมพู่ จำนวน 1,200,000 บาท

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สภ.โคกสำโรง ร่วมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ตรวจค้นหาผู้เสพยาเสพติด

วันที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น. พ.ต.อ. จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก. สภ. โคกสำโรง พร้อมข้าราชการตำรวจ และคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.โคกสำโรง ภจ.ว.ลพบุรี คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการคุ้ม ทุกคุ้ม ร่วมดำเนินโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืนเพื่อ “แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยการบำบัด”

ด้วยสถานีตำรวจภูธรโคกสำโรง ได้ดำเนินการโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืนเพื่อแก้ไข ปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568 เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ถึง 10 สิงหาคม 2568 ณ หมู่บ้านท่าม่วง หมู่ที่ 1 และบ้านใหม่พัฒนา

หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแขม อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี และได้ทำการสำรวจกลุ่มเปราะบาง (ผู้ป่วป่วยติดเตียง) ปรากฏว่า มีจำนวน 4 ราย และจะมีการมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงดังกล่าวให้ผู้ป่วย จึงเดินทางพร้อมคณะฯ เพื่อมอบสิ่งของหลายรายการให้กับทางผู้ป่วยในพื้นที่ดังนี้

  1. พื้นที่ บ้านท่าม่วง หมู่ที่ 1 จำนวน 2 ราย
  2. พื้นที่บ้านใหม่พัฒนา หมู่ที่ 2 จำนวน 2 ราย. และหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สุข แก่ผู้ป่วยบ้างไม่มากก็น้อย ผลการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดไม่พบสารเสพติดในจำนวน 21 คน และได้นำผู้บำบัดส่งต่อความยั่งยืนสู่ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม อบต.หนองแขม โดยมี นางพิมพ์พรรณี มีสุดเพียร นายก อบต.หนองแขม พร้อมคณะผู้บริหาร รับมอบไว้ดูแล และนัดหมายการร่วมทำกิจกรรมต่างๆหลังจากนี้ไปอีกให้ครบ 1 เดือน

สนอง แท่นสูงเนิน
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวฯ /คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จังหวัดลพบุรี. ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทีมเยาวชนศรีตรัง คว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอล 7 คน โครงการคนละลูกคัพ ครั้งที่ 9 ฟุตบอลทำความดีเพื่อแม่

ทีมเยาวชนศรีตรัง คว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอล 7 คน โครงการคนละลูกคัพ ครั้งที่ 9 ฟุตบอลทำความดีเพื่อแม่ ถ้วยเกียรติยศ คุณสุปราณี คุปตาสา อนุกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร อดีตผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สนามพอเพียงพอ จังหวัดตรัง นางวิณารัตน์ สุวรรรณมงคล ครูชำนาญการพิเศษ ประธานมอบรางวัล ผลการแข่งขัน

ทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีมเยาวชนศรีตรัง ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมสิเกาสตาร์คิดส์ ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมโรงเรียนธาดานุสรณ์ ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ ทีมพอเพียงพอ และนายวิโรจน์ นิตย์ใหม่ หัวหน้าสำนักงานโครงการคนละลูกจังหวัดตรัง มอบรางวัล ดาวซัลโว และรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมตำแหน่งดาวซัลโว ได้แก่ เด็กชายกรวิชญ์ แก้วศรี

ตำแหน่งนักฟุตบอลยอดเยี่ยม ได้แก่ เด็กหญิงจิติภา บุญเต็ม การแข่งขันฟุตบอล 7 คน โครงการคนละลูกคัพ ครั้งที่ 9 รุ่นอายุ 13 ปี ชาย จัดการแข่งขันวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ที่ จังหวัดตรังและจังหวัดปัตตานี โดยจัดการแข่งขันในรุ่น อายุ 13 ปี ชาย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนสนใจการเล่นฟุตบอล ห่างไกลยาเสพติด หวังเป็นอย่างยิ่งฟุตบอลรายการนี้

จะเป็นที่สนใจสำหรับเยาวชน ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ที่ให้การสนับสนุน
คุณสุปราณี คุปตาสา บริษัท กีล่า สปอร์ต จำกัด บริษัท ไทย.เจเพรส จำกัด บริษัท ยาขมตราใบห่อ จำกัด บริษัท วัน วัน ทำแต่ป้าย จำกัด บริษัท มิกาซ่าอินดัสตรี้ส์(ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เอเคพี ฟุตแวร์ จำกัด ผลิตภัณฑ์สนับแข้งJBN ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด Triple PJ และสำนักข่าวสื่อมวลชน ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาโดยตลอด

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / 12 สิงหาคม 2568 พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘

๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๗.๐๐ น. นายสิงหภณ ดีนาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต ๖ พรรคเพื่อไทย และภรรยา ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ณ บริเวณพิธีหอประชุมอำเภอชุมแพ โดยมี นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ เป็นประธานฯ

พร้อมนี้มีส่วนราชการในพื้นที่และองค์กรต่างๆ ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก อธิ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชุมแพ อัยการจังหวัดชุมแพ นายนคร สุพรรณ์ ปลัดอำเภออาวุโส

พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ นายโยธิน สิทธิ พัฒนาการอำเภอชุมแพ นายเสกสิทธิ์ สัธนะกุล นายกเทศมนตรีเมืองชุมแพ พร้อมด้วยนายเกรียงไกร วิริยะอาชา นางสาวรติมา ศิริวรพิทักษ์

นายอาทิตย์ ถนอมทุน รองนายกเทศมนตรีเมืองชุมแพ นายไตรภพ โฮมหงษ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชุมแพ พันจ่าตรีวัชกร หาญปราบ หัวหน้าสำนักปลัด

เทศบาล นางขาวเวียง เจียมศักดานุวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ, ผู้อำนวยการ รพ.สต.,ในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น

วินสื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดพิธีทำบุญตักบาตร วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันนี้ (12 ส.ค.68) เวลา 07.30 น. นาย เธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร และผู้บริหาร นำข้าราชการพลเรือน ศาล

ตุลาการ ทหาร ตำรวจ องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พุทธศาสนิกชน ชาวชุมพรทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา สมเด็จ

พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 วันแม่แห่งชาติ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงถึงความจงรักภักดี พร้อมตั้งจิตอธิษฐานแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ซึ่งมีประชาชนแต่งกายชุดโทนสีฟ้า ร่วมทำบุญตักบาตร โดยพระภิกษุสงฆ์และสามเณร ออกรับบิณฑบาต ข้าวสาร

อาหารแห้ง เครื่องอุปโภค บริโภค ของใช้ต่างๆ ณ บริเวณถนนปรมินทรมรรคา หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร นอกจากนี้ จังหวัดชุมพร ได้เชิญผู้นำทั้ง 3 ศาสนาในจังหวัดชุมพรร่วมประกอบพิธีทางศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ

พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ , ศาสนาอิสลาม ประกอบพิธีดุอาอ์ขอพร และศาสนาคริสต์ ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร เพื่อถวายพระราชกุศล และสร้างความสมานฉันท์ ระหว่างศาสนิกชนทุกศาสนา ในครั้งนี้อีกด้วย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ภูมิธรรม” นำข้าราชการ ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล 12 สิงหาคม 2568

วันนี้ (12 ส.ค. 68) เวลา 07:00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 94 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568

ณ มณฑลพิธี ท้องสนามหลวง โดยมี รองศาสตราจารย์อภิญญา เวชยชัย รองประธานคณะกรรมการคู่สมรสคณะรัฐมนตรี และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมพิธี

ต่อมาในเวลา 08:00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์อภิญญา เวชยชัย รองประธานคณะกรรมการคู่สมรสคณะรัฐมนตรี และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้ และลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 ในนามนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการคู่สมรสคณะรัฐมนตรี โดยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมทูลเกล้าฯ และลงนามถวายพระพรฯ ตามลำดับ

และในเวลา 08:30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะ

กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้ และลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ wellwishes.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 9 – 15 สิงหาคม 2568

“ภูมิธรรม” เปิดงาน “OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ภายใต้แนวคิด จากสองมือคนไทย…สู่หัวใจคนทั้งโลก (From Hand To Heart) พร้อมเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย วันที่ 9-17 ส.ค. 68 ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

.วันนี้ (11 ส.ค. 68) เวลา 15.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” โดยมี รศ.อภิญญา เวชยชัย รองประธานกรรมการคู่สมรสคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

คณะทูตานุทูตจากประเทศต่าง ๆ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม

ผู้ว่าราชการจังหวัด อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และประชาชนผู้เที่ยวชมงานกว่า 2,000 คน ร่วมพิธี ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

โอกาสนี้ นายภูมิธรรม และคณะ ร่วมรับชมการแสดงชุด “ศิลปาชีพมรดกภูมิปัญญาเหนือกาลเวลานิรันดร์กาล” บอกเล่าเรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริในการสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทยและหัตถกรรมไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืนถึงปัจจุบัน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า งาน “OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด จากสองมือคนไทย… สู่หัวใจคนทั้งโลก (From Hand To Heart) เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา โดยทรงอุทิศทุ่มเทพระวรกายประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ

เพื่ออนุรักษ์และสืบสานงานหัตถศิลป์ของไทยให้ดำรงเป็นความภาคภูมิใจของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยมี “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เป็นมูลนิธิที่ทรงก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ราษฎรไทยในภูมิภาคต่าง ๆ ผลิตงานศิลปหัตถกรรมเป็นอาชีพเสริม ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ชนบท และท้องถิ่นทุรกันดาร อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์และพัฒนาฝีมือและรังสรรค์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านให้ดียิ่งขึ้นจนเป็นที่รู้จักในวงกว้างและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

เพื่อสนองพระราชปณิธานในการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนแก่ประชาชนชาวไทย รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดำเนินการโครงการต่าง ๆ เพื่อขจัดความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นในทุกมิติ ด้วยการสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคกัน ซึ่ง OTOP เป็นโครงการที่เห็นผลความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในด้านการสร้างงานเพื่อขจัดความยากจน และสร้างรายได้ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน สะท้อนผ่านตลอดระยะเวลาของโครงการที่ผ่านมา เราได้เห็นพี่น้องในชนบทตั้งใจสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นตนเองให้มีคุณภาพมาตรฐาน และมีคุณลักษณะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการขยายผลโครงการ OTOP ด้วยการสนับสนุนและยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ตลอดจนเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น สินค้า OTOP บางประเภทที่ผู้ซื้อให้ความสำคัญกับงานฝีมือแบบโบราณ เช่น ผ้าทอมือ เครื่องเงินหรือเครื่องทองโบราณ ซึ่ง OTOP ก็มีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์งานศิลปะอันเกิดจากภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าให้คงอยู่สืบต่อไป และขณะเดียวกัน ยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายประเทศที่จำเป็นต้องมีการพัฒนารูปลักษณ์ สีสันหรือการออกแบบให้ทันสมัย เพื่อให้สินค้านั้นมีความร่วมสมัย

ซึ่งโครงการ OTOP ก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาต่อยอดสินค้าเหล่านั้นให้สามารถตอบสนองความต้องการและรสนิยมของคนรุ่นใหม่” นายภูมิธรรม กล่าว นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า OTOP เป็นโครงการที่นอกจากจะช่วยอนุรักษ์และสืบสานงานของคนในชุมชนและท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญงาน OTOP ถือเป็นตลาดที่รวบรวมผลิตภัณฑ์จากทั่วทุกภาคของประเทศไทยและชาวต่างชาติได้เลือกซื้อ อันจะเป็นการสร้างรายได้ สร้างรอยยิ้ม และสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ผลิตงาน

อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้แสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ของประเทศไทย เป็นการแสดงความตั้งใจในการสนับสนุนพลังสร้างสรรค์ (Soft Power) ของประเทศไทย เพื่อให้ความรู้ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย สามารถสร้างมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับคนไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทย กรมการพัฒนาชุมชน คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้ระดมทุกสรรพกำำลังเพื่อขับเคลื่อนโครงการ OTOP รวมถึงการจัดงานในครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเหล่าผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ตลอดมา

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน “OTOP ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี” ระหว่างวันที่ 9-17 ส.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อร่วมกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่นไทย และเป็นกำลังใจให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของดีของไทยอันเป็นการกระจายเม็ดเงินเข้าไปสู่ชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นายภูมิธรรม กล่าวในช่วงท้าย

ด้านนางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน ขับเคลื่อนผ่านโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกระจายรายได้สู่ชุมชน พร้อมผลักดัน Soft Power เพื่ออนุรักษ์ พื้นฟู และต่อยอดศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดมูลค่าเพิ่มและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล จึงเป็นที่มาของการจัดงาน “OTOP ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี” ระหว่างวันที่ 9-17 ส.ค. 68 รวม 9 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

“ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ 1) โซนเฉลิมพระเกียรติ ถ่ายทอดพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 2) โซน OTOP คัดสรรและชวนชิม ผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับ 3-5 ดาวกว่า 2,000 ราย พร้อมอาหารและเครื่องดื่มขึ้นชื่อกว่า 160 ร้านค้าจากประเทศ 3) โซน OTOP ออนไลน์ – Modern Trade และ OTOP Trader แสดงผลงานและพัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ 4) โซนศูนย์ศิลปาชีพและศิลปิน OTOP ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และผลงานศิลปินผู้สืบสานภูมิปัญญาไทย 5) โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก

ผ้าและเสื้อผ้าดีไซน์ร่วมสมัยจากทุกภูมิภาครวมถึงผลิตภัณฑ์จากเส้นไหม และเส้นใยธรรมชาติ 6) เวทีกิจกรรมและการแสดง การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมส่งเสริมการขาย และการแสดงจากศิลปินดารา ตลอดรายการ และที่สำคัญเป็นพิเศษ คือ โซนเครือข่าย OTOP ของผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ทุกครั้ง เราจะเปิดพื้นที่ให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆได้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นในการกระจายสินค้าและสร้างรายได้ โดยมียอดจำหน่ายในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 147 ล้านบาทเศษ จากเป้าที่กำหนดไว้ที่ 600 ล้านบาท สะท้อนถึงพลังการตลาดที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น

สำหรับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ร่วมในพิธีเปิดฯ ได้แก่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านกรมการปกครอง นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางสาวสุวรา ทวิชศรี ผู้ว่าการการประปานครหลวง นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค นายบูรณิศ ยุกตะนันทน์ ผู้อำนวยการองค์การตลาด และนางสุจิตรา ศรีนาม ที่ปรึกษานายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย

.กองสารนิเทศ สป.มท.ครั้งที่ 520/2568 วันที่ 11 ส.ค. 2568

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ดิอาท” ร่วมกับ VATANIKA CLASS จัดคลาสสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เสริมศักยภาพทีมผู้บริหารและทีมแพทย์สู่ระดับสากล

สั่งสมประสบการณ์จากการเปิดคลินิก “ดิอาท” ทั้ง 3 สาขา มาตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี สู่โรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งดิอาท (The Art Plastic Surgery Hospital) ย่านดอนเมือง

ที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการมา 3 เดือน และได้รับผลตอบรับจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ภายใต้สโลแกน “อย่าติดกับดักความสวยปานกลาง” เพราะทุกคนสามารถสวย หล่อ ได้อีกไม่มีวันสิ้นสุด

และเพื่อเป็นการยกระดับการบริการในก้าวสำคัญของโรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งความงามดิอาท The Art Plastic Surgery Hospital ได้ร่วมกับ VATANIKA CLASS จัดคลาสสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “The Art of Presence – Boost

your confidence and communication skills” คลาสพิเศษที่ออกแบบขึ้นเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ เพิ่มเสน่ห์ และทักษะการสื่อสาร เพิ่อเสริมความมั่นใจให้กับผู้บริหารและทีมแพทย์ ของ The Art Hospital ในการส่งมอบการบริการแบบมืออาชีพ มาตรฐานสากล ให้กับผู้รับบริการ

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ คือการร่วมงานกับ แบรนด์ VATANIKA ในการออกแบบ “ผ้าพันคอ The Art x Vatanika Limited Edition” ที่ถ่ายทอดแนวคิด “ความงาม

ที่ออกแบบได้ (Beauty by Design)” อันเป็นหัวใจสำคัญของ The Art Hospital มาโดยตลอด โดยแรงบันดาลใจของลวดลายผ้าพันคอ มาจาก “Facade” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของอาคาร

The Art Plastic Surgery Hospital ลวดลายที่ปรากฏบนผืนผ้าถูกถอดรหัสจากเส้นสายของ Facade หลากหลายรูปแบบที่ถักทอรวมกันอย่างพิถีพิถัน สะท้อนถึงพลังความงามที่หลากหลาย ที่ไม่ว่าคุณจะก้าวสู่ประตูบานไหน ก็ล้วนพาไปสู่ความงามในแบบเฉพาะตัว

นี่คือ “Doorways of Grace” จาก The Art และแบรนด์ VATANIKA ที่ต้องการให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความงามที่หลากหลาย และเชื่อมั่นในความสวยที่เป็นตัวตนของตนเอง หากใครกำลังมองหาข้อมูลหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการศัลยกรรม โดย

ทีมแพทย์ระดับมืออาชีพ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งความงามดิอาท ย่านดอนเมือง “ดิอาทคลินิก” สาขาลาดพร้าว (ระหว่างซอยลาดพร้าว 85 และ 87) และสาขาพัทยา เปิดบริการทุกวัน 09.00-20.00 น.

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ลงพื้นที่น่าน ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัย มอบเงินและเครื่องมือช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย น้ำท่วม มอบเงินสมทบซื้อเครื่องมือทางการแพทย์แก่ รพ.น่าน

วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมคณะ เดินทางมายังจังหวัดน่าน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงมอบอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยกิจกรรมที่วัดพญาภู ประกอบด้วย การกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ, การถวายเครื่องสักการะ, การกล่าวถวายการต้อนรับโดยคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และการถวายรายงาน

โดยพระสุมนฺฑมุนี เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน ซึ่งรายงานผลงานด้านสาธารณสงเคราะห์ เช่น การมอบพระกัณฑ์เทศน์, การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 13 ครัวเรือน และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยก่าว100 หลังคาเรือนในโอกาสนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค 6 พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้มอบเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อสมทบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลน่าน สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยัง

ได้มอบถุงยังชีพและปัจจัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมกว่า 200 ชุด พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจถึงพื้นที่ประสบปัญหา โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดหวัดน่าน พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง คณะสงฆ์จังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน

นายสุเมษ สายสูง ประธานมูลนิธิพระหลักเมืองน่าน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน พร้อมคณะ นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน พร้อมคณะสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ประธานชุมชนบ้านมิ่งเมืองให้การต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ ทั้งจากคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมต้อนรับและรับมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ /

บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/พ.อ.พยอม บุญทร/รต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ลงพื้นที่น่าน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย น้ำท่วมมอบปิยภัณฑ์ให้คณะสงฆ์จังหวัดน่าน มอบเงินสมทบซื้อเครื่องมือทางการแพทย์แก่ รพ.น่าน พร้อมร่วมกิจกรรมคณะสงฆ์จังหวัดน่าน

วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมคณะ เดินทางมายังจังหวัดน่าน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงมอบอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยกิจกรรมที่วัดพญาภู ประกอบด้วย การกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ, การถวายเครื่องสักการะ, การกล่าวถวายการต้อนรับโดยคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และการถวายรายงานโดยพระสุนทรมุนี เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน ซึ่งรายงานผลงานด้านสาธารณสงเคราะห์ เช่น

การมอบปิยภัณฑ์ให้กับคณะสงฆ์จังหวัดน่าน การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 13 ครัวเรือน และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกว่า100 หลังคาเรือน
ในโอกาสนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค 6 พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้มอบเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อสมทบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลน่าน สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยังได้มอบถุงยังชีพและปัจจัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมกว่า 200 ชุด

พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจถึงพื้นที่ประสบปัญหา โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดหวัดน่าน พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง คณะสงฆ์จังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายสุเมษ สายสูง ประธานมูลนิธิพระหลักเมืองน่าน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน พร้อมคณะ นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน พร้อมคณะสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน

ประธานชุมชนบ้านมิ่งเมืองให้การต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ ทั้งจากคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมต้อนรับและรับมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ /บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/พ.อ.พยอม บุญทร/รต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ขนมตราไก่ย่าง – เมล็ดฟักทองตรามือ ร่วม มูลนิธิพุทธภูมิธรรม สนับสนุนทหารช่วยชายแดน ไทย – กัมพูชา

บริษัท บี.เค.วาย. จำกัด ผู้ผลิต ขนมตราไก่ย่าง เป็ดย่าง – เมล็ดฟักทองตรามือ นำโดย คุณชาตรี – คุณมณีรัตน์ เหล่าวณิชย์วิทย์ พร้อมผู้บริหาร พนักงาน ร่วมทำบุญ 105,670 บาท เพื่อจัดซื้อตาข่ายป้องกัน เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมด้วยบริจาค เมล็ดฟักทองตรามือ ขนมตราไก่ย่าง-เป็ดย่าง รวม 50 ลัง

มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมมอบผ้ายันต์และวัตถุมงคล อธิษฐานจิตจาก หลวงพ่อวีระ วัดราชสิทธารามฯ (วัดพลับ) , ร่วมกองทุนช่วยทหารบาดเจ็บ (ก่อนหน้านี้)

ร่วมพลังบุญกับ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ นำโดย พลตรีกิตติ ประพิตรไพศาล ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ได้เดินทางไปมอบสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค ตาข่ายป้องกัน และวัตถุมงคล ที่ได้รับการสนับสนุน ให้กับกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ป้องกัน ชายแดน ที่ จ.สุรินทร์ และ จ.สระแก้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและสิริมงคล

ขออนุโมทนาบุญ และ ส่งผลบุญ ให้แด่กัลยาณมิตร สมปรารถนาในมงคล
และ ขอให้แผ่นดินไทย ขอให้ร่มเย็นเป็นสุข เป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา เผยแผ่ธรรม ช่วยมนุษย์สรรพสัตว์พ้นทุกข์ เทอญ…ข่าวสาร ธรรมทาน งานบุญ มูลนิธิพุทธภูมิธรรมสาธุๆๆอนุโมทามิฯมูลนิธิพุทธภูมิธรรมพุทธภูมิธรรมนำสุขทำบุญ #สุขใจที่ได้ทำบุญให้ทาน #ธรรมทาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มัสยิดแซ็คมูฮำหมัดอาลีซุกรี่ พัทยา จัดดื่มน้ำชาการกุศล ในงานสานสัมพันธ์มัสยิดฯ /รูดม่านปิดฉากแข่งเทควันโด เดอะ ฮีโร่ เทควันโด อินเตอร์เนชันแนล แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 8

วันที่ 10 ส.ค.68 มัสยิดแซ็คมูฮำหมัดอาลีซุกรี พัทยา โดย อิหม่ามสุมาน สุไลมาน อิหม่ามประจำมัสยิดแซ็คมูฮำหมัดอาลีซุกรี พัทยา และฮัจยีอาลี (ราชัย) ปาทาน ประธานจัดงานฯ ได้ให้การต้อนรับพี่น้องมุสลิมและแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมพิธีดื่มน้ำชาการกุศล ในงานสานสัมพันธ์มัสยิดแซ็คมูฮำหมัดอาลีซุกรี่ พัทยา ประจำปี 2568 โดยบรรยากาศในปีนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางพี่น้องชายไทยมุสลิมในพื้นที่ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

สำหรับงานสานสัมพันธ์มัสยิดแซ็คมูฮำหมัดอาลีซุกรี่ พัทยา ประจำปี 2568 นี้ จัดขึ้นเพื่อหารายได้บำรุงการศึกษาและกิจการของมัสยิด โดยในงานมีการจำหน่ายอาการฮาลาลการกุศล กิจกรรมของนักเรียนมุสลิม การดื่มน้ำชาการกุศล การอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน การดุอาขอพร และการเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ “ละหมาดคือพลังแห่งชีวิต นำไปสู่การพัฒนาตนเองและสังคม“

ในงานยังได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกุศลเป็นจำนวนมาก อาทิ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายมีชัย อินทร์พิทักษ์ ประธานคณะทำงานนายกเมืองพัทยา รวมทั้งตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สมาชิกสภาเมืองพัทยา สมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือ และอีกมากมายเข้าร่วมงานด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง

ฮัจยีอาลี (ราชัย) ปาทาน ประธานจัดงานสานสัมพันธ์มัสยิดแซ็คมูฮำหมัดอาลีซุกรี่ พัทยา ประจำปี 2568 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กิจกรรมดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายมุสลิมที่อาศัยในเมืองพัทยาจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายปีติดต่อกัน จนกลายเป็นกิจกรรมหลักที่ได้รับการตอบที่ดีจากทุกภาคส่วน ซึ่งในฐานะคณะจัดงานก็จะได้ตั้งใจทำในปีต่อๆ ไปเพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวมุสลิมทุกคนได้มาพบปะพูดคุยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อไป

รูดม่านปิดฉากแข่งเทควันโด เดอะ ฮีโร่ เทควันโด อินเตอร์เนชันแนล แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 8 ชื่นชมงานจัดยิ่งใหญ่ ประทับใจไม่รู้ลืม

ตามที่สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ Heroes Taekwondo เลือกเมืองพัทยาจัดการแข่งขันเทควันโดรายการ เดอะ ฮีโร่ เทควันโด อินเตอร์เนชันแนล แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 8 (The 8th Heroes Taekwondo International Championchip) ระหว่างวันที่ 9-10 สิงหาคม 2568 โดยมีนักกีฬาจาก 29 ประเทศ มีนักกีฬาร่วมแข่งขันกว่า 4,000 รายการ

ล่าสุด ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน วันที่ 10 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของงานยังเป็นไปอย่างคึกคักไม่ต่างจากวันแรก มีทั้งนักกีฬา ทีมงาน ทีมสตาร์ฟ ผู้ฝึกสอน รวมถึงครอบครัว เดินทางมาให้นักกีฬากันอย่างล้นหลามจนเต็มสเตเดี่ยมของอาคารกรีฑาในร่ม ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

โดยวันสุดท้ายของการแข่งขัน ในภาคเช้าจะเป็นการแข่งขันประเภทการต่อสู้ Kyorugi และ Poomsae ในรุ่นต่างๆ ตามช่วงอายุที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกำหนด ส่วนในภาคบ่ายจะพ่วงมาด้วยการแข่งขันประเภท Taekwondo Dance โดยแต่ละประเทศต่างส่งนักกีฬาตัวทีเด็ดลงมาร่วมชิงชัยกันอย่างสนุกสนาน

ในวันสุดท้ายของการแข่งขันเทควันโด เดอะ ฮีโร่ เทควันโด อินเตอร์เนชันแนล แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 8 (The 8th Heroes Taekwondo International Championchip) ได้รีบเกียรติจากนายไพโรจน์ มาอยู่ดี ผู้แทนจากสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ร่วมมอบเหรียญรางวัลให้ผู้ชนะเลิศการแข่งขันในประเภทต่างๆ ตลอดทั้งวัน ด้วยรอยยิ้มและมิตรไมตรีที่ดี

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้เข้าร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นการจัดงานแข่งขันเทควันโดที่ได้มาตรฐานและใหญ่ที่สุดที่เคยมีการจัดการแข่งขันมาในประเทศไทย ด้วยความพร้อมพร้อมของสถานที่ ระบบการดำเนินการของคณะผู้จัด ตลอดจนการวางแผนงานในเรื่องต่างๆ ทำให้งานออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างที่สุด แสดงให้เห็นว่าเมืองพัทยาคือเมืองท่องเที่ยวทางด้านกีฬาระดับโลกอย่างชัดเจน

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง