สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก. ภ. จว.ลพบุรี พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัดร่วมมอบทุนฯ

17 มิ.ย.2568 เวลา 16.30 น. พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วย รอง ผบก. ในสังกัด ภ.จว.ลพบุรี, ข้าราชการตำรวจ ในสังกัด สภ.โคกสำโรง สภ.หนองม่วง สภ.เพนียด, สภ.บ้านหมี่ สภ.โคกเจริญ สภ. สระ

โบสถ์ และคณะ กต.ตร.ภ.จว.ลพบุรี คณะ กต.ตร.สภ.โคกสำโรง ที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.โคกสำโรง ร่วมพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตร-ธิดา ของข้าราชการตำรวจ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจ

การร่วมมอบทุนการศึกษาใน “โครงการทุนการศึกษา บุตร-ธิดาข้าราชการตำรวจ สังกัด ภ.จว.ลพบุรี ประจำปี 2568” โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษา ลดภาระค่าใช้จ่าย และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กับบุตร-ธิดาข้าราชการตำรวจที่มีความประพฤติดีและมีผลการเรียนดี

โดยมุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน เพื่อเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต การสนับสนุน

ด้านการศึกษาถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีคุณภาพ เพราะการศึกษาคือกุญแจสู่ความสำเร็จและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

สนอง แท่นสูงเนิน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.สันติบาล จัดโครงการสร้างจิตสำนึก” รุ่นที่ 4 ประจำปี 2568 ณ รร.ยางชุมวิทยา ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ

วันนี้ (18 มิ.ย. 2568) เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.กฤษฎา จิณะไชย รองสารวัตร กก.4 บก.ส.1 และหัวหน้าสถานีตำรวจจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดกิจกรรมอบรม “โครงการสร้างจิตสำนึก” รุ่นที่ 4 ประจำปี 2568

ณ โรงเรียนยางชุมวิทยา ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมี นายนพพล เสียงกล่อม ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายก อบต.หาดขาม, กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่

เข้าร่วมกิจกรรม มีนักเรียนเข้าร่วมอบรมจำนวน 120 คน เนื้อหาการอบรมเน้นให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ มีวินัย และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความรับผิดชอบ

กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เคลื่อนที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข แก่ประชาชน และกิจกรรมปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์

วันที่( 18 มิ.ย.68 ) เวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนบ้านนาดง ตำบลนาดง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดโครงการ ปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการจังหวัดบึงกาฬเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

โดยมีนายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ นายภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วย นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด ฝ่ายปกครองอำเภอปากคาด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ และพี่น้องประชาชนชาวอำเภอปากคาด เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ได้รวมพลังกล่าวคำปฏิญาณถวายความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จังหวัดบึงกาฬ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอนุญาตจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัติยราชนารี ให้เป็นจังหวัด พอ.สว. ลำดับที่ 54 ในปี พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จังหวัดบึงกาฬ

จึงได้จัดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการจังหวัดบึงกาฬเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ โรงเรียนบ้านนาดง ตำบลนาดง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ เพื่อให้ความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลป้องกันโรค ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัย รวมถึงการนำบริการต่าง ๆ

จากภาครัฐและภาคเอกชน ไปให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ให้ได้รับบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และทั่วถึง โดยมีกิจกรรม เช่น การมอบสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค และทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส การออกหน่วยบริการแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. หน่วยบริการของส่วนราชการ/หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน การออกเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและฐานะยากจนในพื้นที่

นายภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ในนามของหัวหน้าชุดหน่วยแพทย์ พอ.สว. กล่าวว่า การปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ในวันนี้ เป็นการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เพื่อให้บริการประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ ที่ห่างไกลสถานบริการสาธารณสุข ได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยให้บริการ ด้านการรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค บริการทันตกรรม และการแพทย์แผนไทย การเข้าถึงบริการสาธารณสุข

ประชาชนในพื้นที่ตำบลดงบัง และหมู่บ้านใกล้เคียงเมื่อมีการเจ็บป่วย จะเดินทางไปรับบริการที่โรงพยาบาลปากคาด และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาดง ปัญหาด้านสุขภาพส่วนใหญ่ของประชาชน พบว่า ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไข้หวัด โรคเบาหวาน โรคผิวหนัง ปัญหาสุขภาพช่องปาก และฟัน เป็นต้น ซึ่งการออกปฏิบัติงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนสนใจรับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป 17 ราย บริการทันตกรรม 23 ราย บริการแพทย์แผนไทย 27 ราย และกายภาพบำบัด 25 ราย

บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก(self test) 10 ราย บริการคัดกรองภาวะซึมเศร้าและให้คำปรึกษา 9 ราย และรับผู้ป่วยเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 1 ราย รวมผู้รับบริการทั้งหมด 111 ราย และมีเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย ประชาชนทุกคน มีความซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตาให้ปวงประชามีสุขภาพดี ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎร โดยทรงจัดให้มีหน่วยแพทย์ พอ.สว.ไปบำบัดความทุกข์จากโรคภัยและดูแลสุขภาพของประชาชน ในท้องถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการออกบูธประชาสัมพันธ์และการจำหน่าย สินค้า OTOP สินค้าการเกษตรจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคในราคาที่เป็นธรรมอีกด้วย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล ผู้สื่อข่าวบึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจ PCT ภาค 5 บุกจับ “3หนุ่มจีนเทา” คาบ้านพักหรูย่านสันทราย เนียนเข้าไทยใช้วีซ่านักเรียน แอบกบดานทำเว็บพนันออนไลน์ ปั่นรายได้ฉ่ำ 5 ล้านบาท

โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.๕, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช. ภ.5, พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช. ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, และ พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่
ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าตำรวจชุด

จับกุมได้รับแจ้งว่ามีคนจีนการลักลอบพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จนเจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.๕ สืบทราบว่ามีการเช่าบ้านในโครงการแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมพยาน
หลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 แลพล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 พร้อมชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโยโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวผลการตรวจค้นพบ

  1. นายกง สงวนนามสกุล เชื้อชาติ-สัญชาติ จีน อายุ 30 ปี
  2. นายวู สงวนนามสกุล เชื้อชาติ-สัญชาติ จีน อายุ 30 ปี
  3. นายหวัง สงวนนามสกุล เชื้อชาติ-สัญชาติ จีน อายุ 34 ปี
    กำลังนั่งทำงานอยู่บริเวณห้องนอนชั้น2 เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมหมายค้น ทั้ง 3 คนรับยอมรับว่าทำหน้าที่เป็นแอดมินตอบคำถามแก้ไขปัญหาลูกค้าที่เข้าเล่นเว็บไซต์พนันออนไลน์จึงควบคุมตัว แล้วแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า
    “ร่วมจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดย ทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับ อนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๑๒”และนำตัวส่งพงส. สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
    จากการสอบถามทั้ง 3 คน ให้การว่าเป็นชาวเมืองเจ้อเจียง ประเทศจีน ใช้วีซ่าท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย จากนั้นสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนได้วีซ่านักศึกษาแล้วมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งเป็นสำนักงานทำเว็บพนันให้ลูกค้าชาวจีน โดยได้ค่าจ้างคนละ 50,000 บาทต่อเดือนโดยมีสมาชิกกว่า 4,000 คน โดยจะกลับไปรับเงินเดือนกับบอสชาวจีน 6เดือนต่อครั้งแล้วกลับมาทำงานใหม่ ยอมรับว่าทำมาประมาณ 1 ปี มีเงินเดือนหมุนเวียนหลายสิบล้านต่อเดือน

ตำรวจภาค5 #PCTภาค5 #จับกุม #พนันออนไลน์…สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน…

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พ่อเมืองประจวบฯ รณรงค์ให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นในวันดื่มนมโลก 2568/ ตร.สันติบาลจัดโครงการ ปันรัก ปันน้ำใจ ส่งความสุข สู่ความพอเพียง

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.68 ที่ลานอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมการรณรงค์บริโภคนมประจวบคีรีขันธ์ ประจำปี 2568

เนื่องในวันดื่มนมโลก ( World Milk Day 2025) เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นถึงคุณค่าประโยชน์ของการบริโภคนมและมีการบริโภคมากขึ้น อันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาทางด้านสุขภาพของประชาชน และช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมี นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ

นายสัตวแพทย์จามร ศักดินันท์ ปศุสัตว์จังหวัดฯ พร้อมด้วย สหกรณ์โคนมภายในจังหวัดจำนวน 6 สหกรณ์ อาทิ สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คห้วยสัตว์ใหญ่จำกัด / สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คประจวบคีรีขันธ์ จำกัด /สหกรณ์โคนมกุยบุรี จำกัด/ สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คอ่าวน้อย จำกัด /

สหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์คบ้านเนินดินแดง จำกัด และสหกรณ์โคนมบางสะพาน จำกัด องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.ภาคใต้ ปราณบุรี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งรูปแบบการจัดกิจกรรมในวันนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “นมไทยก้าวไกล มีคุณค่า ดื่มง่าย สุขภาพดี เริ่มที่ประจวบส่งถึงทุกครอบครัว Next Move Prachuap นมโคประจวบต้องไปต่อ”

ภายในงานมีการแจกนมให้กับเด็กนักเรียนและผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ดื่มฟรี และมีบูธจำหน่ายนมและผลิตภัณฑ์นมราคาถูกจากสหกรณ์โคนมในจังหวัดประจวบฯ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) และสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ตามที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) ได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันดื่มนมโลก ( World Milk Day) สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ

จึงได้ร่วมกับสหกรณ์โคนมภายในจังหวัดจำนวน 6 สหกรณ์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค. ภาคใต้ ปราณบุรี) คณะครู นักเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคนม เนื่องในวันดื่มนมโลก ประจำปี 2568 ขึ้น

เพื่อรณรงค์ให้คนประจวบฯและประชาชนคนไทยทั่วประเทศได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการดื่มนม เกิดการรับรู้และเข้าใจถึงคุณประโยชน์ของนมอันส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย อีกทั้งเป็นส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมนมและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้มีความมั่นคงทางด้านอาชีพอีกทางหนึ่งด้วย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ตร.สันติบาลจัดโครงการ ปันรัก ปันน้ำใจ ส่งความสุข สู่ความพอเพียง

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.วีรชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 พร้อมข้าราชการตำรวจสันติบาลจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสมุทรสงคราม

ร่วมกับข้าราชการครู อาจารย์ และนักเรียน กว่า100รายณ.โรงเรียนคุณหญิงเนื่องบุรี จัดกิจกรรมปันรัก ปันน้ำใจ ส่งความสุข สู่ความพอเพียง โดยมีการสร้างเยาวชนสู่อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer)

ประกวดสื่อโซเชียลสร้างสรรค์ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ในกิจกรรมมีนักเรียนจัดทำวิโอสั้นในการเผยแพร่พระราชกรณียกิจพระมหากษัตริย์ วิดีโอสั้น

การทำความดีเพื่อสังคม และมีการมอบรางวัลให้วิดิโอสั้น จำนวน 4 รางวัล และรางวัล รางวัล Popular Vote อีก 1 รางวัล
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วัดธรรมถาวร จ.ชุมพร มียอดเงินเหลือ 89 ล้านบาท ชี้แจงชาวบ้าน กรรมการ บริหารเงินวัด

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 น พระเทพสิริวชิรเวที เจ้าคณะภาค16 ธรรมยุต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับ พระครูถาวรสีลาจาร เจ้าคณะจังหวัดชุมพรธรรมยุต

พระครูถาวรธรรมนิเทศ เจ้าคณะอำเภอละแม ,ทุ่งตะโก พระครูวิสุทธิ์ธรรมโฆษิต เจ้าคณะตำบลทุ่งตะไคร ธรรมยุต พระครูจันทปัญโญภาส เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุสวี

ประชุม รับฟังจากคณะกรรมการเฉพาะกิจวัดธรรมถาวร ถึงแนวทางการบริหารจัดการ ดำเนินงาน ด้านการเงินและส่วนที่เกี่ยงข้อง ในวัดให้ไปตามระเบียบ ทีมีหน้าที่กำกับ ดูแลบริหารจัดการเงินและทรัพย์สินของวัดธรรมถาวร

จนกว่าจะมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาส และคณะกรรมการวัดชุดใหม่ โดยมี 1พระครูวิสุทธิ์ธรรมโมชิต ประธาน 2.นายธวัช เกษแก้ว กรรมการ 3.นายชุมพล เยาวละออง กรรมการ 4นายญานุวัตร สุวรรณวิหค กรรมการ 5.นายคงคา คงทอง กรรมการ 6นายพรหมาตย์ อิฐกอกรรมการ 7

นายเจียมรัตน์ บุญเกิด กรรมการ 8นายธวัชชัย อรุณโรจน์ กรรมการ 9.นายณรงค์ คงทอง กรรมการ 10.นายศุภชัย เกษแก้ว กรรมการ 11นายวิรัช คงทอง กรรมการ 12.นายกู้ชาติ จินาห้อง กรรมการ 13นางทิพวรรณ เนตรกลัด กรรมการ 14.นางสาวธัญทิพย์ สุขอาจ กรรมการ 15นางวรชยา อินทรักษ์ กรรมการ/เลยานุการ

นายกฤษณะ จารุประพาฬ และ ญานุวัฒน์ สุวรรณวิหค ชีแจ้งการทำงานคณะกรรมการ เฉพาะกิจ ได้ดำเนินการด้านการเงินและทรัพย์สินของวัดโดยจัดทำบัญชีที่มีรายชื่อเป็นของเจ้าอาวาสองค์ก่อนให้มาเป็นบัญชีของวัด และจัดการให้มีการเบิกถอนโดน

ให้มีชื่อเจ้าคณะจังหวัดชุมพร และกรรมการ อีก 3 ราย ในยอดที่มากกว่า 1แสนขี้น ไป และมีรายชื่อ เจ้าอาวาสรักษาการ และกรรมการ 3 รายในวงเงิน ไม่เกิน 1 แสนบาท รวมยอดเงินที่เป็นทรัพย์สินของวัดในปัจจุบันมียอด 89,256,750.80 บาท

พระเทพสิริวชิรเวที เจ้าคณะภาค16ธรรมยุต ให้แนวทางบริหารจัดการในวัดโดยสรุปทรัพย์สินของวัดก็ได้ดำเนินการไปในแนวทางที่ดีแล้วโดยจัดการให้เป็นทรัพย์สินของวัดธรรมถาวรให้คณะกรรมการและพี่น้องช่วยกันบริหารจัดการเพื่อที่จะซ่อมสร้างศาลาและสิ่งปลูกสร้างที่ยังค้างอยู่เช่นตึกสงฆ์

จึงขอให้ร่วมมือร่วมใจในการจัดสร้างและคณะกรรมการก็ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสรักษาการดำเนินการจัดตั้งแต่งตั้งคณะกรรมการของวัดส่วนกรรมการ

จัดสร้างอาคารสงก็ให้คณะกรรมการที่ดำเนินการอยู่ดำเนินการต่อไปจะได้ไม่เกิดการสะดุดส่วนคณะกรรมการที่ต้องแต่งตั้งใหม่ก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสรักษาการต่อไป

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ในโค กระบือ แพะ พื้นที่เสี่ยง

ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ให้แก่ โค กระบือ และแพะ ของเกษตรกรในหมู่บ้านชายแดนของ 4 อำเภอ แล้ว 2,152 ตัว

นายสัตวแพทย์ธีร์ พูดเพราะ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตามที่มีข่าวผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์ในจังหวัดมุกดาหาร กรมปศุสัตว์จึงสั่งการให้จังหวัดชายแดนได้เข้มงวดดำเนินการป้องกันโรคในสัตว์ เนื่องจากโรคแอนแทรกซ์เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

ที่ทำให้สัตว์ป่วยและตายกระทันหัน ซากจะนิ่ม เน่าอืดเร็ว โดยจะเริ่มแสดงอาการหายใจลำบาก เดินโซเซ กล้ามเนื้อสั่น และอาจจะเห็นมีเลือดออกทางปาก จมูก และทวาร ซึ่งเลือดจะมีกลิ่นเหม็นและไม่แข็งตัว โดยโรคนี้จะสามารถติดต่อได้จาก การหายใจเอาสปอร์ของเชื้อโรค การกินหญ้าที่มีสปอร์ของเชื้อโรค หรือการสัมผัสเชื้อโรคทางบาดแผล หรือผิวหนังเยื่ออ่อน

ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ พื้นที่ชายแดนทั้ง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอบุ่งคล้า และอำเภอบึงโขงหลง ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ให้แก่ โค กระบือ และแพะ ของเกษตรกรในหมู่บ้านชายแดน

ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2568 เป็นต้นมา เพื่อป้องกันการเกิดโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์ ซึ่งได้ฉีดวัคซีนให้แก่ โค กระบือ และแพะ ยอดสะสม ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2568 จำนวน 2,152 ตัว คิดเป็นร้อยละ 71.73 ของเป้าหมาย 3,000 ตัว โดยเป็นโคเนื้อ จำนวน 1,309 ตัว กระบือ จำนวน 821 ตัว และ แพะ จำนวน 22 ตัว และจะเร่งดำเนินการให้ครบตามเป้าหมายที่กำหนดโดยเร็ว เพื่อให้เกิดภูมิกันฝูงที่สามารถป้องกันโรคในสัตว์ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคสัตว์ติดคน แต่ไม่เคยมีรายงานการเกิดโรคในสัตว์ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ และจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้นและอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันก็ไม่พบการเกิดโรคในสัตว์แต่อย่างใด เพื่อความปลอดภัย จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬ

หากพบสัตว์ป่วยที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อาสาปศุสัตว์ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านโดยด่วน และขอให้บริโภคเนื้อสัตว์ที่มีการฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ที่มีใบอนุญาต ผ่านการตรวจจากพนักงานตรวจโรคสัตว์ประจำโรงฆ่าสัตว์แล้ว และสถานที่จำหน่ายสะอาดหรือได้รับการรับรองปศุสัตว์โอเค (ปศุสัตว์ OK) และบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกเท่านั้น

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล จ.บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดแล้ว! น้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ เล่นสไลเดอร์ธรรมชาติสนุก บรรยากาศดี สัมผัสธรรมชาติสีเขียว เล่นน้ำตกเย็น ๆ ถ่ายรูปชิค ๆ ได้หลายมุม

ชวนเที่ยวบึงกาฬจะพลาดน้ำตกถ้ำพระไม่ได้เลย โดยเฉพาะใครที่ยังไม่เคยมาที่นี่ แนะนำเลย อยากให้มาสัมผัสธรรมชาติที่นี่สักครั้ง มานั่งเล่นก็ได้ มาถ่ายรูปหรือจะมาเล่นน้ำตก อ้ายฉิงมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกก็นานมากแล้ว เลยมาเยือนอีกครั้งกับคุณเพื่อนสนิทเช่นเดิม

พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศเล็ก ๆ น้อย ๆ มารีวิวให้ทุกท่านได้ตามรอยกัน ความโดดเด่นของน้ำตกนี้คือมีสไลเดอร์ธรรมชาติด้วย เล่นได้จริง สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ว่าที่อ้ายฉิงไปล่าสุดมันก็ต้นหนาวแล้ว น้ำค่อนข้างน้อยแต่ยังสวยอยู่

การมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ จะไม่สามารถขับรถไปถึงได้เลย จะต้องนั่งเรือเข้าไป ซึ่งจะต้องไปขึ้นเรือตามท่าเรือต่าง ๆ จะมีท่าเรือ 1 ท่าเรือ 2 จะขึ้นท่าไหนก็ได้ตามสะดวกเลย ในบริเวณท่าเรือจะมีที่จอดรถฟรี มีบริการห้องน้ำฟรี และถ้าหิวก็มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม กินก่อนค่อยนั่งเรือเข้าน้ำตกก็ได้

สำหรับครั้งนี้บ่าวบึงกสฬขึ้นที่ท่าเรือ 2 จะมีค่าขึ้นเรือ คนละ 50 บาท จะไม่รวมกับค่าเข้าอุทยาน ฯ นะ จะต้องไปจ่ายอีกรอบเมื่อเข้าสู่เขตอุทยาน ฯ

เนื่องจากน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ มีอีกชื่อคือน้ำตกถ้ำพระภูวัว ตั้งอยู่ในเขตของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว นั่นเอง ค่าเข้าก็ไม่แพงอะไร เด็ก 20 บาท/คน ผู้ใหญ่ 30 บาท/คน เด็กชาวต่างชาติ 200 บาท/คน และ ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 400 บาท/คน ตามป้ายเลย

การเตรียมตัวเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ จ.บึงกาฬ หาข้อมูล ณ วันที่จะไปก่อนว่าน้ำตกเปิดให้เข้าเที่ยวชมได้หรือไม่ เพราะอาจมีบางช่วงเวลาที่ทางอุทยานปิดเพื่อความปลอดภัยและฟื้นฟูธรรมชาติ เตรียมงบค่าใช้จ่าย เช่น ค่านั่งเรือ ค่าเข้าอุทยาน ฯ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ วางแผนให้พร้อม

หากจะเล่นน้ำตก ควรเตรียมชุดให้พร้อมและเล่นในจุดที่เจ้าหน้าที่อนุญาตเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย อยากจะมีภาพความประทับใจกลับไป ก็หามุมถ่ายภาพได้ตามสะดวกเลย ควรปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของอุทยาน ฯ ให้ดี ห้ามอะไรก็ไม่ควรทำ เช่น ห้ามก่อไฟ ห้ามพกอาวุธ ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง ห้ามเข้าเที่ยวหลังเวลากำหนด ฯ เป็นต้น

กินข้าวให้อิ่มท้องก่อนเข้าไป ในน้ำตกไม่มีร้านขาย แต่พกน้ำเข้าไปด้วย เวลาหิวจะได้จิบได้ บางวันแดดร้อนมาก ๆ ทากันแดดให้เพียงพอ เพราะแดดแรงไม่เบาเหมือนกัน และใช้กันแดดที่ไม่เป็นภัยต่อธรรมชาติด้วยจะดีมาก
หากมีขยะติดตัวเข้าไปในน้ำตกควรถือติดตัวออกมาทิ้งข้างนอกที่ถังขยะทุกครั้ง

การเดินทางมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ เวลาจะมาเที่ยวปักหมุดท่าเรือก็ได้ เพราะถ้าหากปักหมุดน้ำตกเลย รถก็เข้าไปไม่ถึงอยู่ มันจะต้องนั่งเรือก่อน เดี๋ยวบ่าวบึงกาฬจะปักหมุดท่าเรือไว้ให้ด้วย เผื่อใครจะตามรอยจะได้ไม่ยากเลย วิ่งตาม GPS ไปเลย ถึงแน่นอน ไม่มีหลงทาง

GPS น้ำตก: https://maps.app.goo.gl/SRMkMcC1g2MUPVoTAGPS ท่าเรือ: https://maps.app.goo.gl/wNDu6Ew1id8xT9u4Aเวลาทำการ : 08.00 – 17.00 น.ที่ตั้ง : อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ.ถ้ำพระ ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬสอบถามข้อมูล ท่าเรือ 2
– คุณน้อย 087-9511717
– คุณจิ๋ว 098-6468808

ข่าว/ภาพ ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล จ.บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ภิบาลน่าน ลงพื้นที่สอดส่องโครงการอย่างไม่เป็นทางการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานพลังงานจังหวัดน่าน ต.ถืมตอง อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่16 ในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดน่านมอบหมาย

ให้พันจ่าอากาศเอก สินธ์ สนนา รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดน่านพร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดน่านประกอบด้วย นายบุญยงค์ สดสอาด นายอนุรักษ์ ไชยโย นายปรีชา รอดเพชร นายนิยม ขอคำ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และประชุมติดตามและสอดส่อง

โครงการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ณ ห้องประชุมสำนักงานพลังงานจังหวัดน่าน โดยได้ติดตาม สอดส่อง รับทราบปัญหาอุปสรรค ตลอดจนให้คำแนะนำ ในการดำเนินโครงบูรณาการสิ่งแวดล้อมและสาธารณภัย กิจกรรมหลัก ปลูกจิตสำนึกและสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 กิจกรรมย่อยที่ 2

การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยีพลังงาน (เตาเผาถ่านไบโอชาร์) เพื่อลดปัญหาหมอกควันและเพิ่มประสิทธิภาพอาสาสมัครพลังงานชุมชน เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีพลังงานชุมชน ซึ่งเป็นโครงการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน มอบหมายให้สำนักงานพลังงานจังหวัดน่าน เป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการ ประกอบไปด้วย กิจกรรมย่อยที่ 2.1 การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยีพลังงาน (เตาเผาถ่านไบโอชาร์)

เพื่อลดปัญหาหมอกควัน งบประมาณ 306,000 บาท (จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ 15 รุ่น) (ดำเนินการแล้วเสร็จ 8 รุ่น และอยู่ระหว่างดำเนินการ 7 รุ่น) กิจกรรมย่อยที่ 2.2 การเพิ่มประสิทธิภาพอาสาสมัครพลังงานชุมชน เพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีพลังงานชุมชน งบประมาณ 217,500 บาท (จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ 15 รุ่น) (ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ) รวมงบประมาณทั้งสิ้น 523,500 บาท (เบิกจ่ายไปแล้ว 164,200 บาท หรือ 31.37%)

ในที่ประชุม นายสุกิตติ เจดีย์วุฒิ พลังงานจังหวัดน่าน ได้นำเสนอผลการดำเนินงาน บรรยายถึงรูปแบบของกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ และปัญหาของการจัดทำโครงการ อาทิ การได้รับงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบบน 2 จัดสรรมาในช่วงเดือน พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน มีอุปสรรในการจัดอบรมในภาคปฏิบัติ จึงทำให้มีการเบิกจ่ายล่าช้า ส่วนทางด้าน พันจ่าอากาศเอก สินธ์ สนนา และคณะ ได้ให้ข้อแนะนำสำหรับโครงการฯ

เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจของหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี รวมทั้งส่งเสริมตามหลักคุณธรรม จริยธรรม หลักธรรมาภิบาล และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพลังงานจังหวัดน่าน ในการปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมการขับเคลื่อนด้านพลังงานแก่ชุมชน เกษตรกร และชาวบ้านที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงการพัฒนาโครงการของรัฐ

โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน ขอแสดงความยินดีกับ
น.ส.ธวัลรัตน์ อุตมีมั่ง น.ร. ม.4/10 ที่ได้รับการคัดเลือกรับรางวัลความประพฤติดี ระดับชาติ รับเข็มเชิดชูเกียรติ พร้อมรับเกียรติบัตร เป็นผู้ “มีความประพฤติดีดำรงตนตามหลักธรรมนูญชีวิต”จากพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรม

ราชูปถัมภ์ ที่มอบให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ทั่วราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.2568 จากศาสตราจารย์พิเศษ อรรถนิติ ดิฐอำนาจ องคมนตรี ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ เขตพญาไทย กรุงเทพมหานคร 14 มิ.ย.2568
โดยมีนางอิษฎาภรณ์ คุชบิล หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ครูที่ปรึกษา/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จักรวาลโคราช หนองคาย มุกดาหาร ทำถึงมาก!!มงลง ‘MISS UNIVERSE’ นครราชสีมา-หนองคาย-มุกดาหาร ปี2025 เริ่ดทั้ง 3 มง ปาย MUT หนองคาย , แอมมี่ MUTมุกดาหาร ,ตุ๊กตา MUT นครราชสีมา

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 บรรยากาศการประกวด Miss Universe จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดหนองคาย และจังหวัดมุกดาหาร 2025 ณ โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ เทอมินอล 21 โคราช ห้อง Centre Point Ballroom ชั้น 4 คึกคัก และน่าสนใจมากจากเหล่าสาวงามที่เข้าชิงมง และแขกผู้มีเกียรติ พร้อมด้วยเหล่าผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน บรรดาด้อม กองเชียร์ ทำให้ห้อง Centre Point Ballroom แน่นขึ้นถนัดตา

ด้วยความปังพลังเยอะมากๆของ คุณเอมมี่โกะ – ดร.วงศ์ฉัตรอมต คงพรรณศิริ ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์ส 3 จังหวัด นครราชสีมา หนองคาย มุกดาหาร 2025 พร้อด้วยสาวงามชื่อดัง โกโก้ อารยะ ศุภฤกษ์ ทำให้ค่ำคืนนี้สร้างสีสันแห่งจักรวาล โดยมี ม.ร.ว.ปณิธาน จรูญโรจน์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กองประกวด ฯขึ้นบนเวทีกล่าวเปิดงาน และเปิดตัวกรรมการตัดสิน ซึ่งมีสปอนเซอร์ โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ ,เทอมินอล 21,World Star Thailand และ อีกหลายแบรนด์ชั้นนำที่ให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้

การประกวด Miss Universe จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดหนองคาย และจังหวัดมุกดาหาร 2025 เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้สาวงามได้แสดงความสามารถและศักยภาพของตนเอง เพื่อคัดเลือกตัวแทนสาวงามระดับจังหวัด เข้าสู่การประกวดในระดับประเทศ คือ การประกวด Miss Universe Thailand ซึ่งผู้ชนะการประกวด จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดเวทีMiss Universe ในระดับนานาชาติ ต่อไป

สำหรับการประกวด Miss Universe จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดหนองคาย และจังหวัดมุกดาหาร 2025 มีการจัดประกวดรอบชุดว่ายน้ำ การประกวดรอบชุดราตรี นอกจากนี้ การประกวดครั้งนี้ได้สร้างความสนุกสนานและตื่นเต้นให้กับผู้ชม ผู้เชียร์ที่ส่งกำลังใจให้สาวงามบนเวที ร่วมลุ้นกันไปตั้งแต่ต้น จนถึงวินาที มงลง โดยเฉพาะรอบตอบคำถามที่สะท้อนถึงความงามและความสามารถแนวคิดพิสูจน์กึ๋นสาวงามแต่ละคน !

ตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สหนองคาย 2025 ปาย ปรียากร จีนดอน
ตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สมุกดาหาร 2025 แอมมี่ สุนีพร เจริญชัย
ตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สนครราชสีมา 2025 ตุ๊กตา จุฬาลักษณ์ พลเรือง
รองอันดับ1 มิสยูนิเวิร์สหนองคาย 2025 หงส์ ณัชชา ไชยชาติ
รองอันดับ1 มิสยูนิเวิร์สมุกดาหาร 2025 พิมพลอย ภัณฑิลา หวังชิวกลาง
รองอันดับ1 มิสยูนิเวิร์สนครราชสีมา 2025 เบล พลอยนภัส ปพรวพรรณนภาช์
ขอแสดงความยินดีกับมิสยูนิเวิร์สทั้ง 3 จังหวัด ซึ่งต้องเตรียมความงามให้พร้อม ผู้สนับสนุนให้เพียบ เพื่อไปประชันการประกวดในระดับประเทศ Miss Universe Thailand 2025

ผลการประกวดครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความเป็นสาวงามยุคใหม่ที่มีคุณสมบัติ หุ่นสวย หน้าสวย สมองดีมีวิสัยทัศน์ ขายของเก่ง
มาร่วมลุ้นร่วมเชียร์ ปาย MUT หนองคาย , แอมมี่ MUTมุกดาหาร ,ตุ๊กตา MUT นครราชสีมา ให้เข้ารอบลึก ไปต่อ เต็งมงใหญ่กัน!!

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง