สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สถานกาณ์เปิด-ปิด ด่านถาวรช่องสะงำ ยังปกติ กัมพูชายังไม่มีการแบนอาหารสด และผักผลไม้จากไทย

***ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่หน้าด่านถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 15.00 น. นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร และส่วนต่างๆ ได้ปิดประตูทางเข้าออกด่านตามเวลาที่มีคำสั่งของทหาร หลังประตูฝั่งประเทศไทยปิดลงได้ไม่กี่นาที ทางเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาปิดประตูผ่านแดนตามประเทศไทย ทั้งนี้บรรยากาศก่อนจะปิดด่านเข้าออกมีชาวกัมพูชาต่างทยอยเดินทางเข้ามาที่ด่านกันอยู่เรื่อย ๆ เช่นรถยนต์ชาวกัมพูชาที่เดินทางไปรักษา

ที่ฝั่งไทยจะต้องรีบไปและรีบกลับให้ทันเวลาด่านปิดบางรายที่กลับมาไม่ทันเวลาด่านปิดก็ต้องวางแผนพักที่ไทยข้ามวัน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหามากกับคนกัมพูชา ปัญหาอีกอย่างก็คือแรงงานคนกัมพูชาที่ข้ามมาทำงานเป็นลูกจ้างรายวันอยู่ฝั่งไทยต้องรีบกลับให้ทันด่านปิดนี้ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่ทำให้แรงงานกัมพูชาต้องขาดรายได้ไปอีก นอกจากนั้นก็ยังมีรถยนต์ขนสินค้าเข้าออกกันอย่างคึกคัก ซึ่งซื้อสินค้าส่วนมากจะเป็น เครื่องอุปโภค บริโภค อาหารแห้ง และน้ำดื่ม โดยชาวกัมพูชา หรือ พ่อค้าแม่ค้าฝั่งกัมพูชาข้ามฝั่งมาหาซื้อ แล้วขนข้ามฝั่งไปยังประเทศ กัมพูชา นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยว และนักพนันชาวไทยที่ข้ามไปเที่ยว และเล่นการพนันที่ฝั่งกัมพูชา ทยอยเดินทางกลับฝั่งไทยก่อนเวลาจะปิดด่านอีกด้วย

***ด้าน นาย เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในหนักพนันชาวไทยที่ข้ามไปเล่นพนันในฝั่งกัมพูชา เปิดเผยว่า ปกติตนและนักพนันชาวไทยจะข้ามฝั่งจากด่านช่องสะงำตรงนี้ไปเล่นพนันอยู่เป็นประจำ เพียงแค่เวลาเข้าออกจะต้องเข้าออกเป็นเวลากว่าทุกครั้ง เพราะทางด่านจะมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่าน ใหม่ แต่เข้าไปบรรยากาศข้างในก็เป็นปกติ

***ด้าน นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังปิดด่านว่า สถานการณ์โดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความตรึงเครียดเข้าใส่กัน เพราะจุดนี้ชาวไทยกับชาวกัมพูชายังคงรักกันดังพี่น้อง ส่วนปริมาณจำนวนผู้ใช้บริการถือว่า ลดลงประมาณ 30% แต่ก็ยังมีชาวกัมพูชาข้ามมาหาซื้อสินค้าประเภทอาหาร พืชผลทางการเกษตรกร ข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชาตามปกติ ซึ่งทางศุลกากรช่องสะงำยังมีการเพิ่มมาตการการตรวจสินค้าเข้มงวดกวดขันมากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล และกองทัพ โดยเฉพาะสินค้าที่มีความอ่อนไหวประเภทต่างๆ เช่น เกลือ สินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย งดการส่งออกสินค้าเพื่อการก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น ห้ามส่งออกปุ๋ยเคมี และห้ามพันธ์พืช พืชสงวน ส่งออกโดยเด็ดขาด แต่ภาพรวมด้านการค้าที่จุดนี้ยังพอไปได้
***นายด่านศุลกากรช่องสะงำ กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนกระแสที่มีประเทศกัมพูชาห้ามอาหารสดจากประเทศไทยเข้าประเทศกัมพูชา ยกเว้นอาหารแห้ง ปลากกระป๋อง บะหมี่ นั้น จากการตรวจสอบนั้นยังไม่มีรายงานว่าทางฝั่งกัมพูชาด่านถาวรช่องสะงำห้ามอาหารสดจากฝั่งไทยแต่อย่างใด หน้าจะเป็นการที่ฝั่งไทย และฝั่งกัมพูชา มีการตรวจเข้มงวดสินค้าที่ส่งออกเพิ่มมากขึ้น จึงให้พ่อค้าแม่ค้าอาจจะไม่เคยเจอจึงทำให้อาจจะเข้าใจผิดได้ ขณะที่กระแสประเทศกัมพูชาเตรียมรถบัสกว่า 400 คันไว้รับส่งชาวกัมพูชาจากชายแดนไทย หากสถานการณ์ระหว่างกัมพูชาและไทยทวีความรุนแรงมากขึ้น ตอนนี้ทางด่านถาวรช่องสะงำยังคงปกติยังไม่เห็นมีรถบัสมารอรับชาวกัมพูชากลับบ้านแต่อย่างได้

***นายด่านศุลกากรช่องสะงำ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า วันนี้ทางด่านศุลกากรได้มีการเชิญด้านควบคุมโรค ทางด้านโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ เข้ามาคุยทำความเข้าใจในกฎกติกาว่าตอนนี้ทางด่านมีการเข้มงวด กวดขัน การเข้าออก และการเปิด-ปิด มาก อย่างทางโรงพยาบาลได้มีการปรับตัว แล้วเดินไปด้วยกัน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

***ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม รวมภาพการค้าในช่องสะงำ ปีหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท แบ่งเป็นนำเข้า 8 ร้อยล้านบาท ส่งออก 1.2 พันล้านบาท แต่พเกิดสถานการณ์แบบนี้การค้าการส่งออกก็จะลดลงประมาณ 30% กระทบเล็กน้อยแต่ก็ถือว่ายังพอส่งออกได้คงยังไม่มีปัญหาอะไรมาก ทั้งนี้การปรับวันเวลาเข้าออกด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะด่านถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยตามประกาศได้มีการปรับวันและเวลา เปิด-ปิด คือจากเดิมจะเปิด-ปิด ทุกวัน เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 22.00 น.

โดยให้คนผ่านเข้า-ออกโดยใช้ Passport และ Border Pass สินค้าตามระเบียบศุลกากร ยานพาหนะผ่านได้ตามระเบียบ แต่ประกาศตัวใหม่ ให้ด่านชายแดนถาวรช่องสะงำ เริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น. ปิดเวลา 15.00 น. ซึ่งจะเปิด-ปิดด่านแค่วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ เพียงเท่านั้น โดยจะให้คนผ่านเข้า-ออกโดยใช้ Passport และ Border Pas จำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย งดการส่งออกสินค้าเพื่อการก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ ยานพาหนะ ผ่านได้ตามระเบียบ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เป็นไปตามระเบียบและหลักสากล โดยให้ปิดจุดผ่านแดน เมื่อมีการปะทะ บริเวณพื้นที่ชายแดน
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองฯ ถวายบุญแผ่นดินไทย / สภาสังคมสงเคราะห์ มอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก คนพิการ 30 ราย

13 มิถุนายน 2568 : 11.00-12.00 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,นางสุพิชชญา สาคร นายกสมาคม

สโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะผู้บริหารฯ,นางเอมอร แจ่มกระจ่าง รอง หส.ผศ.ตาก และคณะ,นายสมเกียรติ ชื่นอยู่ นายอำเภอเมืองตาก จ.ตาก,นายวุฒิชัย สุขเกษม นายก อบต.วังหิน และคณะผู้บริหาร,ร.อ.สุธีร์ พันธุ์เขียน ประธานเครือข่ายทหารผ่านศึก อ.เมืองตาก

และคณะ,ชมรมช่วยเหลือสังคม,นายธวัชชัย จิตต์เจริญ ที่ปรึกษาสมาคมคนพิการฯ,ผู้ใหญ่บ้าน,อสม.,นางมณฑา หาญปรีชาสวัสดิ์ ผอ.กองช่าง อบต.วังหิน ผู้ประสานงาน : ลงพื้นที่มอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก และคนพิการ จำนวน 30 ราย ณ ห้องประชุมเขาลาน้ำ อบต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก

*** ขอขอบคุณผู้ร่วมบริจาค มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ดังรายนามต่อไปนี้ ***ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุชสมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์

สมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตตากสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลชมรมช่วยเหลือสังคมทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่3ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่4พลังศรัทธาล้นหลาม! #คนแห่ร่วมแน่นขนัด #บวงสรวงศาลหลักเมือง #พลังศักดิ์สิทธิ์ค้ำจุนแผ่นดินไทย!! #สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้! #ฟ้าเปิดแดดจ้ากลางพิธีบวงสรวง!!

บุญของท่านสำเร็จแล้ว พิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองฯ ถวายบุญแผ่นดินไทย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 08.29 น. ณ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ถวายบุญแผ่นดินไทยแด่พระแม่ธรณี พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ค้ำชูแผ่นดิน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

โดยมี อาจารย์วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม เป็นผู้นำในพิธีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยพลังศรัทธาอันเปี่ยมล้น โดยมี พุทธศาสนิกชนหลายร้อยคน มาร่วมบุญกันอย่างเนืองแน่น เต็มพื้นที่ศาลหลักเมือง ตั้งใจร่วมกันถวายบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติ ต่อตนเองและครอบครัว รายชื่อร่วมหมื่นนำไปขึ้นโต๊ะบวงสรวงศักดิ์สิทธิ์

ในช่วงที่อาจารย์วิจักษณ์เริ่มประกอบพิธีและเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท้องฟ้าที่เคยมีเมฆครึ้มลมนิ่งกลับเปิดออก เผยให้เห็นแสงแดดอันเจิดจ้าสาดส่องลงมายังบริเวณพิธี ลมพัดโบกสะบัด ราวกับเป็นการยืนยันว่าการชุมนุมของเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดรับรู้ถึงแรงศรัทธาอันบริสุทธิ์ของผู้เข้าร่วมงานทุกคน ปรากฏการณ์นี้สร้างความปิติและอิ่มเอมใจให้แก่ผู้ร่วมพิธีเป็นอย่างยิ่ง ต่างเชื่อมั่นว่าบุญกุศลที่ได้กระทำในวันนี้จะส่งผลดีและคุ้มครองแผ่นดินไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข

หลังจากพิธีบวงสรวงที่ศาลหลักเมืองแล้ว คณะผู้ร่วมบุญยังได้เดินทางไปยังวัดพระแก้ว เพื่อกราบนมัสการพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ถือเป็นการปิดท้ายกิจกรรมบุญอันเป็นมงคลในวันนี้
พิธีครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรวมพลังศรัทธาของผู้คนจำนวนมาก แต่ยังเป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่แผ่นดินไทยและผู้ร่วมพิธีทุกท่าน ขอโมทนาสาธุการ😊

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สพอ.อรัญประเทศ ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนชุมชนขับเคลื่อนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต :กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการ

สพอ.อรัญประเทศ ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนชุมชนขับเคลื่อนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต :กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการ

วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภออรัญประเทศ ชั้น 2 จังหวัดสระแก้ว
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภออรัญประเทศ นำโดย นายกิตติ พิศงาม พัฒนาการอำเภออรัญประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จัดโครงการเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนชุมชนขับเคลื่อนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย คณะกรรมกรรมการเครือข่านกุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตอำเภออรัญประเทศและคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต จำนวน 20 คน โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการในครั้งนี้ ได้แก่

  1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการทราบบทบาทหน้าที่ของเครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตามระเบียบกรมการพัฒนาชุมชนว่าด้วยการส่งเสริมการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต พ.ศ.2555
  2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการทราบแนวทางการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพื่อให้มีการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล
  3. เพื่อให้ทราบทิศทางการส่งเสริมการออมภายใต้แนวคิด 3 พ
  4. 4. ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการสนับสนุนการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต

CDD Change for Good

  • ภาพ : ข่าว : สพอ.อรัญประเทศ รายงาน
  • กองทุนชุมชนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
  • กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภออรัญประเทศ
  • โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน
  • OTOP
  • กองทุนพัฒนาเด็กในชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
  • โคกหนองนาพัฒนาชุมชน
  • CDD
  • SEPtoSDGs

ผ้าไทยใส่ให้สนุก

otopสระแก้ว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โครงงานนวัตกรรม Super Sanitizing Filter Innovation ในเวทีนานาชาติ ITEX 2025

ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนโรงเรียนสตรีศรีน่านคว้ารางวัลเหรียญทอง โครงงานนวัตกรรม ITEX 2025 จากการนำเสนอโครงงานนวัตกรรม Super Sanitizing Filter Innovation ในเวทีนานาชาติ ITEX 2025 – The 36th International Invention, Innovation and Technology Exhibition

นักเรียนโรงเรียนสตรีศรีน่านคว้ารางวัลเหรียญทอง โครงงานนวัตกรรม ITEX 2025 จากการนำเสนอโครงงานนวัตกรรม Super Sanitizing Filter Innovation ในเวทีนานาชาติ ITEX 2025 – The 36th International Invention, Innovation and Technology Exhibition

จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม พ.ศ.2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐ โดยผลงานของนักเรียนได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการนานาชาติในด้านความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์
นักเรียนผู้ร่วมนำเสนอผลงาน จำนวน 5 คน ได้แก่

  1. นางสาวพอฤทัย วิชัยยา ม.5.1 (ห้องเรียนพิเศษ SMTE)
  2. นางสาวพิมพ์พิศา แสงแก้วสันติสุข ม.5.1 (ห้องเรียนพิเศษ SMTE)
  3. นางสาวอภิรญา ดีปินตา ม.6.2 (ห้องเรียนพิเศษวิชาการ)
  4. นางสาวธัญชนน ลิ้มประยูร ม.6.3 (ห้องเรียนพิเศษ IEP)
  5. นายปัญญากร คิดดี ม.6/1 (ห้องเรียนวิทยาศาสตร์พลังสิบ)
  6. ครูที่ปรึกษา จำนวน 2 คน ได้แก่
  7. นางปุณณดา ปราบริปู
  8. นายอัศวิน ธะนะปัด และได้รับความร่วมมือจากคณะครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรีศรีน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดเมืองแห่งสุขภาพ ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร พานักท่องเที่ยวแอ่วเชียงราย ตามโครงการพัฒนาเมืองเชียงราย เมืองแห่งสุขภาพ 2025

เชียงรายเปิดเมืองแห่งสุขภาพ #ให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร #พานักท่องเที่ยวแอ่วเชียงราย ตามโครงการพัฒนาเมืองเชียงราย เมืองแห่งสุขภาพ 2025 เชื่อมั่นเป็นมิติการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพกระตุ้น เศรษฐกิจชุมชนโดยมี เป้าหมายสุขภาพควบคู่กับการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่14มิถุนายน68 นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานเปิดงานเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ ณ อุทยานศิลปวัฒนธรรมไร่แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยมีนายเสริฐ นันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย และตัวแทนอุตสหกรรมการท่องเที่ยว ภาคเหนือ17จังหวัด ร่วมเทน้ำอบสมุนไพรอโรมา ลงในอ่างพิธีเปิดโครงการเชียงราย เมืองแห่งสุขภาพ chaingrai wellness city 2025

ท่ามกลางผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ร่วมงานและสื่อมวลชน ที่เป็นอินฟลู เอ็นเซอร์ จากภาคส่วนต่างๆจำนวนกว่า200คน โดยทางนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเปิดโครงการเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ ควบคู่การท่องเที่ยวอันเกิดประโยชน์กระตุ้นการท่องเที่ยวแบบรักสุขภาพ เป็นการท่องเที่ยวซึ่งจะได้ประโยชน์ต่อภาพรวมของการจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ โดยนำเสนอการใช้สมุนไพรบำบัดร่างกาย ให้เมืองเชียงรายแห่งสุขภาพและให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพตนเองในสภาวะสังคมผู้สูงอายุ

ในงานมีการออกบูธส์สินค้าเพื่อสุขภาพ สาธิตการนวดน้ำมัน ตอกเส้นคลายกล้ามเนื้อ สปาผ่อนคลาย ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำมันสกัดจากสมุนไพรพื้นบ้าน ตลอดถึงอาหารพื้นบ้านที่ทำจากสมุนไพรซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่ของการใช้นวรรตกรรมสมัยใหม่เข้าไปพัฒนาสมุนไพรไทย มีการสกัดสมุนไพรเป็นน้ำมัน หรืออบบดละเอียด เพื่อสะดวกกับการใช้ สปา บำบัดสุขภาพและคณะผู้ประกอบการด้านการท่อง

เที่ยวคณะสื่อมวลชนเชียงรายจะเริ่มออกฟร์ามทริปทัวร์ ไปยังสถานที่ต่างๆตามโปรแกรมการท่องเที่ยวและกีฬาได้วางไว้คลอบคลุมทุกจุดทั้งนี้เพื่อเป็นการแนะนำเส้นทางและเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวด้านสุขภาพแห่งเมืองเชียงรายโดยเริ่มที่ออนเซ็น สปาเท้าที่น้ำพุร้อนโป่งพระบาท ตำบลบ้านดู่เป็นต้นและอีกหลายจุดทั่วจังหวัดเชียงราย.

นายธกฤต #วรรมณี #รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร รวบร่วมธารน้ำใจส่งต่อพี่น้องชาวตำบลสะพลี 300 คน

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00น. นายนพพร อุสิทธิ์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรร่วมกับ ประธานกลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร ตำบล สะพลี จัดกิจกรรมรวบร่วมธารน้ำใจสู่พี่น้องชาวตำบลสะพลี กลุ่มพลังสตรีตำบลสะพลี มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 300คน

นางเพ็ญศรี จันทร์สุริย์ เลขา พลังสตรี อบจ. กล่าว ได้รับความร่วมมือจาก กลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร ร่วมกับ กลุ่มพี่น้อง พลังสตรี อบจ.ชุมพร ตำบลสะพลี มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนในตำบลสะพลี ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าสิ่งของที่นำมาในครั้งนี้

จะไม่มีค่ามากมายแต่เต็มไปด้วยน้ำใจ และความปรารถนาดีจาก กลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร ตำบลสะพลี ที่จะมอบให้ได้รวบรวมข้าวสารจำนวน 250 ถุง น้ำดื่ม 250 แพค และผงซักฟอกจำนวน 250 ถุงเพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลสะพลี

นาย นพพร อุสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาความเดือดร้อนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นจะประสานงานเข้ามาให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรได้รับรู้รับทราบแต่วันนี้ในส่วนของผู้นำยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิมแต่เราเพิ่มเติมกลุ่มพลังสตรีซึ่งวันนี้กลุ่มพลังสตรีจะมีเกือบทุกหมู่บ้านทุกตำบลในจังหวัดชุมพรเพราะฉะนั้นก็จะไม่แปลก

ที่จะร่วมกันส่งข่าวสารความเดือดร้อนต่างๆของพี่น้องประชาชนให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรได้เข้าดูแลและในวันนี้ก็มาที่นี่ตำบลสำลีวันนี้ก็ได้มีของแจกให้กับพวกเรามูลค่าคงไม่มากแต่ว่าน้ำจิตน้ำใจมีความประสงค์ที่จะช่วยกัน

วันนี้ปัญหาความเดือดร้อนบ้านเราโดยเฉพาะปัญหาของเรื่องเศรษฐกิจ จะเป็นปัญหาของพวกเราได้รับผลกระทบในวันนี้ผมขออนุญาตบอกพวกเรา ว่า วันนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเรา

ได้ตั้งศูนย์ยืมศูนย์ซ่อมอุปกรณ์ทางการแพทย์เพราะฉะนั้นเวลาเรามีปัญหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวีลแชร์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเตียงนอนของผู้ป่วยจะเป็นถังออกซิเจนเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆเมื่อก่อนเราอาจจะขอ

รอพ.ศ. ตอโดยตรงวันนี้ก็ได้โอนภารกิจมาอยู่ในการดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับเรื่องของสาธารณสุขจะมีปัญหาว่าบางครั้งบางคราวในชุมชนบางรพ.ศ. ตอไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์พวกเราก็จะเจอปัญหาว่าจะนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่

ไหนอย่างไรมาช่วยอันนี้ผมเลยตัดสินใจพระองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรร่วมกับ สปสช.ทำในเรื่องซุ้มยืมศูนย์ซ่อม อุปกรณ์ทางการแพทย์คาดการณ์ว่าไม่น่าเกินเดือนกันยาทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเพราะฉะนั้นเรามีปัญหาต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ถ้าเราไปหาหน่วยงานที่เราเคยใช้บริการแล้วปรากฏว่าไม่ประสบความสำเร็จท่านก็หวนกลับมาที่เรา รพสต

ของเราหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของเราจะพิจารณาสิ่งที่เราร้องขอมันตรงกับความต้องการเหมาะกับ พฤติกรรมที่เราจะต้องเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้หรือไม่ รพสต.จะเป็นหน่วยงานกรองแล้วก็ส่งเรื่องมายังที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรหลังจากนั้น อบจ.ชุมพร

ก็จะดำเนินการส่งอุปกรณ์เหล่านั้นไปถึงบ้านเรือนของพวกเราที่ร้องขอเป็นการเติมเต็มอีกเรื่องหนึ่ง จะเป็นการบอกให้กับพี่น้องชาวตำบลสะพลีในวันนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องระบบสาธารณสุขของพี่น้องในพื้นที่ตำบลสะพล

ธนากร โกศลเมธี ภาพ/ข่าว รายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วัดป่ากุดสมิง วัดดังแห่งวังพญานาค 5 ตระกูล มอบวัตถุมงคล มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์ ทหาร อ.เบ็ญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 6; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 7864320;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 38;

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 คณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ วัดป่ากุดสมิง อำเภอเบ็ญจลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ วัดดังแห่งวังพญานาค 5 ตระกูล ที่ญาติโยมศรัทธา มาขอพรและทำพิธีบวงสรวงอยู่ตลอด ในวันนี้พระปลัดสมนึก ปิยสีโล เจ้าอาวาสวัดป่ากุดสมิง พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 6; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 7864320;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 37;

ได้เดินทางออกจากวัด มุ่งหน้าไปที่ช่องบก เพื่อนำน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และมีสิ่งพิเศษมอบให้ทหารเพื่อปกปักรักษาป้องกันภัยคือ“มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์” โดยมี พันเอก สุรกิจ กาฬเนตร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่1 พร้อมด้วยมีนายทหาร ออกมาให้การต้อนรับ รับมอบ

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 6; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 7864320;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 43;

ซึ่งก่อนที่จะรับมอบวัตถุมงคล มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์ คณะสงฆ์ได้ประกอบพิธีสวดมนต์ เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย สวดมนต์เกราะกำบังกาย สวดขอพรจากเทพเทวาอารักษ์ เทพดาให้ปกปักรักษาทหารทุุกนาย วัตถุมงคล

หรือตะกรุดที่มอบให้ทหารนำติดตัวไว้เพื่อจะช่วยดูแล รักษา ให้ทหารทุกคนได้รับความปลอดภัย จากทุกสิ่งอย่าง หากจะเป็นต้องเกิดการสู้รบกัน จริงก็ขอให้ทหารทุกนาย แคล้วคลาดจากทั้งลูกปืน กระสุนปืน ระเบิด ให้ข้าศึกมองไม่เห็น และสามารถรักษาอธิปไตย รักษาผืนแผ่นดินไทย เอาไว้ให้ลูกหลานได้อย่างปลอดภัย ตลอดไป

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 0; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (0.9602384, 0.34941974);sceneMode: 2621440;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 42;

จากนั้นคณะพระสงฆ์ และลูกศิษย์พระอาจารย์ พระปลัด ได้ร่วมกันมอบน้ำดื่ม ข้าวของ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับนายทหาร โดยเฉพาะ “มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์” และผ้ายันต์วัดป่ากุดสมิง โดยวันนี้มอบให้ไปก่อน 2,000 ชิ้นอัน ที่พึ่งปลุกเสกแล้วเสร็จเมื่อคืน โดยบอกว่าหากยังไม่เพียงพอ ขอให้แจ้งไปที่วัดป่ากุดสมิง เพราะจากนั้น จะได้นั่งปรก

ประกอบพิธีปลุกเสกให้เพิ่มในทุกคืน ที่ลานหน้าองค์พญานาค ทั้ง 5 ตระกูล ทั้งองค์เพชรนาคราช, องค์ภุชงค์นาคราช, องค์ปู่ศรีสุโธ องค์แม่ย่า ปทุมมา, องค์แม่ย่าศรีกัลยานาคเทวี, องค์ปู่ใหญ่นาคา เทพประสิทธิ์ และองค์แม่ย่านาคี เทพประสิทธิ์ เป็นต้น

โดยในการเดินทางมาของ พระปลัดสมนึก ปิยสีโล เจ้าอาวาสวัดป่ากุดสมิง พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ ในช่วงเช้าของวันนี้ ได้สร้างขวัญ กำลังใจ ให้แก่เหล่าบรรดาทหารที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนได้เป็นอย่างดี
//////////////////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สพม.น่าน ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนจากโรงเรียนสตรีศรีน่าน ได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Award)

สพม.น่าน ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนจากโรงเรียนสตรีศรีน่าน ได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Award) ชื่อผลงาน Steril Nova งาน The 8th China (Shanghai) International Exhibition of Invention
นักเรียนผู้ร่วมนำเสนอผลงาน จำนวน 4 คน ได้แก่

  1. นางสาวพอฤทัย วิชัยยา ม.5.1
    (ห้องเรียนพิเศษ SMTE)
  2. นางสาวพิมพ์พิศา แสงแก้วสันติสุข ม.5.1 (ห้องเรียนพิเศษ SMTE)
  3. นางสาวอภิรญา ดีปินตา ม.6.2
    (ห้องเรียนพิเศษวิชาการ)
  1. นางสาวธัญชนน ลิ้มประยูร ม.6.3
    (ห้องเรียนพิเศษ IEP)
    ครูที่ปรึกษา จำนวน 2 คน ได้แก่
  2. นางปุณณดา ปราบริปู
  3. นายอัศวิน ธะนะปัด
    และได้รับความร่วมมือจากคณะครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรีศรีน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อาถรรพ์วันศุกร์ 13 คุมประพฤติประจวบฯ ร่วมกับ ตร.สืบจ.ประจวบฯ รวมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล

วันที่ 14 มิ.ย.68 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ครรชิต โชวัฒนชัย ผกก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.มานิตย์ ปลอดโปร่ง สว.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ร.ต.อ.สุเทพ เขียวประชุม ร.ต.ท.สรรชัย ประเสริฐสุข รอง สว.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ส.ต.รัชตะ กรุดจันทร์ ผบ.หมู่ งานสืบสวน ภ.จว.ประจวบ ร่วมบูรณาการประสานงานกับ นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมอบหมายให้ นายปิยชาติ ไฮ้คง พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ นายวรวุฒิ ใบแย้ม พนักงานขับรถยนต์ และนายณัฐธภพ พันสาย อาสาสมัครคุมประพฤติ จ.ประจวบฯ

ร่วมกันนำหมายค้นของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ ค.220/ 2568 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เพื่อค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลชัยเกษม อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีบุคคลที่มีหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พักอาศัยอยู่ เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวไม่พบนายบี ( นามสมมุติ ) แต่ได้ พบบุคคลในครอบครัวให้ถ้อยคำว่าบุคคลดังกล่าวได้อุปสมบทอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ในบริเวณวัดดังกล่าวจริง ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีดำ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แสดงหมายค้น และหมายจับ ของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้บุคคลดังกล่าวดูซึ่งรับว่าเป็นบุคคลตามหมายนี้จริงและยังไม่เคยถูกจับกลุ่มในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบว่าจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 322/2566 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 คดีอาญาหมายเลขดำที่ย2023/2566 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ ย2086 / 2566 ในความผิด ฐาน ต้องหาว่ากระทำผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนตามกฎหมาย จากนั้นนำตัวผู้ถูกจับกุมไปแจ้งต่อเจ้าอาวาส พร้อมนำตัวไปฝากควบคุมไว้ที่สถานีสถานีตำรวจภูธรทับสะแก และ ได้ดำเนินการตรวจสารเสพติดให้โทษในปัสสาวะบุคคลดังกล่าว พบสารเสพติดประเภทแอมเฟตามีนในร่างกายพบเป็นสีม่วง

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้เสพยาบ้าในคืนวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568 ภายหลังจากได้ลาสิขาบทในวันเดียวกัน ทั้งนี้ได้ดำเนินการนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอทับสะแกเพื่อควบคุมตัวไว้ เนื่องจากเป็นวันที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ปิดทำการและจะทำการนำตัวผู้ถูกจับกุมส่งศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในวันจันทร์ที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เปิดทำการเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

/////////////

ข่าว. ณัฐธภพ พันสาย. / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานประเพณีบุญบั้งไฟ ปี46 ประจำปี 2568 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน สืบสานประเพณีโบราณ คนอีสาน มาอาศัยปลายด้ามขวาน นราธิวาส

วันนี้ 14 มิ.ย.68 ณ ลานอเนกประสงค์บ้านโต๊ะโมะ หมู่ที่ 3 ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2568 ตามโครงการส่งเสริมและ

พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานปีที่ 46 ซึ่งมี หัวหน้าส่วนราชการนายอำเภอสุคิริน รักษาราชการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมฯ

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า
งานประเพณีบุญบั้งไฟสุคิริน หนึ่งเดียว ที่เดียวในภาคใต้ เป็นงานที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจากกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างพร้อมใจมาสัมผัสกับเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอีสานของไทยด้วยตนเอง เป็นยกระดับการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ขณะที่ จังหวัดนราธิวาสพร้อมสนับสนุนให้จัดกิจกรรมดีๆอย่างนี้ ต่อเนื่อง

สำหรับงานประเพณีบุญบั้งไฟ กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13 -15 มิ.ย. 68 กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย ขบวนแห่บั้งไฟ ของแต่ละชุมชน มีการแสดงฟ้อนของภาคอีสาน การรำวงเวียนครก การจุดบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟตะไล

และไฮไลท์ของงาน คือการแข่งขันบั้งไฟที่หาชมได้ยากในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนพื้นถิ่น ส่งผลให้บรรยากาศของงานเป็นไปอย่างสนุกสนาน อบอวลด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมทางภาคอีสานในพื้นที่ปลายด้ามขวาน และรอยยิ้มของชาวบ้านที่ร่วมกันสืบสานประเพณีฯ

โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง ที่ทำการปกครองอำเภอสุคิริน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ขึ้น เพื่อสืบสานประเพณีโบราณของ ประชาชนภาคอีสาน 8 หมู่บ้าน ที่มาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่อำเภอสุคิริน มาเป็นเวลานานสำหรับประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลภูเขาทอง

นับตั้งแต่ชาวภาคอีสานได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากอยู่ที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2518 โดยประชากรร้อยละ 98 เปอร์เซ็นเป็นชาวไทยจากภาคอีสาน โดยได้นำประเพณีอันดีงามของบรรพบุรุษติดตัวมาด้วย ปัจจุบันประเพณีบุญบั้งไฟที่นี่ได้รับการส่งเสริมจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะชาวบ้านตำบลภูเขาทองได้ร่วมกันอนุรักษ์และสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น นับเป็นงานบุญบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่แห่งเดียวในภาคใต้
////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง