สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานประเพณีบุญบั้งไฟ ปี46 ประจำปี 2568 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน สืบสานประเพณีโบราณ คนอีสาน มาอาศัยปลายด้ามขวาน นราธิวาส

วันนี้ 14 มิ.ย.68 ณ ลานอเนกประสงค์บ้านโต๊ะโมะ หมู่ที่ 3 ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2568 ตามโครงการส่งเสริมและ

พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานปีที่ 46 ซึ่งมี หัวหน้าส่วนราชการนายอำเภอสุคิริน รักษาราชการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมฯ

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า
งานประเพณีบุญบั้งไฟสุคิริน หนึ่งเดียว ที่เดียวในภาคใต้ เป็นงานที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจากกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างพร้อมใจมาสัมผัสกับเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอีสานของไทยด้วยตนเอง เป็นยกระดับการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ขณะที่ จังหวัดนราธิวาสพร้อมสนับสนุนให้จัดกิจกรรมดีๆอย่างนี้ ต่อเนื่อง

สำหรับงานประเพณีบุญบั้งไฟ กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13 -15 มิ.ย. 68 กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย ขบวนแห่บั้งไฟ ของแต่ละชุมชน มีการแสดงฟ้อนของภาคอีสาน การรำวงเวียนครก การจุดบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟตะไล

และไฮไลท์ของงาน คือการแข่งขันบั้งไฟที่หาชมได้ยากในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนพื้นถิ่น ส่งผลให้บรรยากาศของงานเป็นไปอย่างสนุกสนาน อบอวลด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมทางภาคอีสานในพื้นที่ปลายด้ามขวาน และรอยยิ้มของชาวบ้านที่ร่วมกันสืบสานประเพณีฯ

โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง ที่ทำการปกครองอำเภอสุคิริน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ขึ้น เพื่อสืบสานประเพณีโบราณของ ประชาชนภาคอีสาน 8 หมู่บ้าน ที่มาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่อำเภอสุคิริน มาเป็นเวลานานสำหรับประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลภูเขาทอง

นับตั้งแต่ชาวภาคอีสานได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากอยู่ที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2518 โดยประชากรร้อยละ 98 เปอร์เซ็นเป็นชาวไทยจากภาคอีสาน โดยได้นำประเพณีอันดีงามของบรรพบุรุษติดตัวมาด้วย ปัจจุบันประเพณีบุญบั้งไฟที่นี่ได้รับการส่งเสริมจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะชาวบ้านตำบลภูเขาทองได้ร่วมกันอนุรักษ์และสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น นับเป็นงานบุญบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่แห่งเดียวในภาคใต้
////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สสว.จัดงาน “Recharge Market 2025”ยกขบวนสินค้าท้องถิ่นกว่า 200 ร้านค้า บุกตลาดเซฟวัน โคราช

สสว. ร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เดินหน้าสนับสนุนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงปี 2567 จัดงานแสดงสินค้า Recharge Market 2025 ระหว่าง 13 -15 มิ.ย. 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ลานกิจกรรมตลาดเซฟวัน เมืองย่าโม คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2568 งานแถลงข่าวและพิธีเปิดงาน Recharge Market 2025 อย่างเป็นทางการ โดย นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ และได้รับเกียรติจาก นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน

นายกิตติศักดิ์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เผยว่า นครราชสีมา เป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในปี2567 นครราชสีมาได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยในหลายพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ การจัดงาน Recharge Market 2025 จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น ผู้ประกอบการในพื้นที่
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทน ผอ.สสว. เผยว่า

งาน Recharge Market 2025 ที่ สสว. จัดขึ้น ตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งดำเนินการจัดไปแล้วสามครั้ง ที่ภาคเหนือจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ และภาคตะวันออกจังหวัดระยอง โดยครั้งนี้ ถือว่า เป็นครั้งที่สี่ของการจัดงาน ที่จัดขึ้นที่ลานกิจกรรมตลาดเซฟวัน มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศเข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าทั้งหมด กว่า 1,000 ร้านค้า ครอบคลุมสินค้าและบริการหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ งานฝีมือ ของใช้ภายในบ้าน สินค้านวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ตลอดจนกิจกรรมบนเวทีและบรรยากาศความบันเทิงที่พร้อมสร้างความคึกคักตลอดทั้งงาน

รักษาการแทน ผอ.สสว. เผยอีกว่า ภายในงานยังพบกับกิจกรรมความบันเทิงมากมาย อาทิ การแสดงดนตรีสด การแสดงพื้นบ้าน และโชว์พิเศษจากศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง “แอน อรดี ” ซึ่งจะมาร่วมสร้างสีสันและความสนุกให้กับผู้เข้าร่วมงานในค่ำคืนพิเศษ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย การแจกของรางวัล และโซนกิจกรรมครอบครัวที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถร่วมสนุกได้อย่างเต็มที่
“สสว. และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เชื่อมั่นว่า การจัดงาน Recharge Market 2025 จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูทั้งในด้านรายได้และโอกาสทางธุรกิจ คาดว่า งานนี้ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท”

นางสาวปณิตา เผยอีกว่า งานครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความต่อเนื่องในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเชิงรุกที่ สสว.และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้ดำเนินการในหลายจังหวัดทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้สามารถยืนหยัด สร้างรายได้ และขยายตลาดได้อย่างยั่งยืน จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปและผู้สนใจเข้าร่วมงาน Recharge Market 2025 ณ บริเวณลานกิจกรรมตลาดเซฟวันอ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมเติมพลัง SME ไทย และร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยไปด้วยกันสอบถามเพิ่มเติมนายจานันท์ ศรีเกตุ นักวิชาการ SMEs 4 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
โทร. 021-429228นางสาวอภิญญา มีธรรม ฝ่ายประสานงานโครงการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย061-5561990สสว. เคียงข้าง SME คู่คิดที่ดีผู้ประกอบการไทย

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ”บิ๊กแป๊ะ-สนธยา“ จัดงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” วางกรอบ “บางละมุงโมเดล“ บูรณาการทำงานพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ

ค่ำวันที่ 14 มิ.ย.68 นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” ซึ่งเป็นงานเลี้ยงบุฟเฟต์อาหารค่ำและความบันเทิงเพื่อแสดงความยินดีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอบางละมุงทั้งหมดทุกเทศบาลรวมเมืองพัทยา ที่ได้รับการเลือกตั้งและได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. อย่างเป็นทางการ และเพื่อบูรณาการทำงานพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างไร้รอยต่อโดยมีคณะผู้บริหารและสมาชิกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเครือบ้านใหญ่ชลบุรี เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย เทศบาลเมืองหนองปรือ นำโดย นายวินัย อินทร์พิทักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ, เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ นำโดย นายไพรัตน์ ไตรศุภโชค นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยใหญ่, เทศบาลตำบลหนองปลาไหล นำโดย นายยศพงศ์ ลินทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองปลาไหล,

เทศบาลตำบลโป่ง นำโดย นายอนุชา เพียรใจ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโป่ง, เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย นำโดย นายมิตชัย ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย, เทศบาลตำบลบางละมุง นำโดย นายนราธิป ฟักฤกษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางละมุง, เมืองพัทยา นำโดย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ตลอดจนตัวแทนองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว ที่กำลังจะเปลี่ยนฐานะเป็นเทศบาลในเร็วๆ นี้ พร้อมกันนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ ธีระพรสถานนท์ นักธุรกิจชื่อดังเมืองพัทยา นายมีชัย อินทร์พิทักษ์ ประธานคณะทำงานนายกเมืองพัทยา และนายชาญยุทธ เฮงตระกูล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ร่วมสนับสนุนและแสดงความยินดี

รวมทั้ง คณะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และอำเภอบางละมุง นำโดย นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง คณะจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และข้าราชการในพื้นที่อำเภอบางละมุง เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก โดยสถานที่จัดขึ้นที่ห้องจัดเลี้ยง โรงแรมทรีซิกตี้ไฟว์ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งบรรยากาศของงานเป็นไปอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง

นายสนธยา คุณปลื้ม ในฐานะประธานจัดงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” กล่าวว่า คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเข้ามาทำงานพัฒนาท้องถิ่นรับใช้ประชาชนชาวอำเภอบางละมุง ทุกเทศบาลรวมทั้งเมืองพัทยา โดยจะมีการร่วมมือกันบูรณาการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นภาพรวมสู่การเป็นบางละมุงโมเดลที่มีการทำงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อพัฒนาอำเภอบางละมุง และจังหวัดชลบุรี ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / น้ำป่าหลากตัดขาดถนนสายหลักมุกดาหารจาก อ.ดงหลวงไป อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568​ นายพิเชษฐ์ ศรีมารุต นายอำเภอดงหลวง สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดงหลวง และเจ้าหน้าที่ ปภ. อบต.พังแดง

ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากอย่างต่อเนื่องในหลายวันที่ผ่านมาโดยพบว่า ทางหลวงหมายเลข 2287

ซึ่งเชื่อมระหว่าง อำเภอดงหลวง – อำเภอเขาวง ถูกน้ำซัดขาดหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณจุดก่อสร้างสะพานข้ามห้วยมะนนท์ (ต.พังแดง)

และสะพานข้ามห้วยอีเลิศ (บ้านติ้ว-พังแดง) เส้นทางเบี่ยงถูกตัดขาด ไม่สามารถสัญจรได้

ขณะที่บริเวณ บ้านโพนไฮ – โพนสว่าง (ต.หนองแคน) แม้ยังสามารถสัญจรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกน้ำกัดเซาะจนขาดเช่นกัน

นายอำเภอดงหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานรับผิดชอบเร่งเข้าซ่อมแซม

และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว โดยให้ใช้เส้นทางรองผ่านหมู่บ้านใกล้เคียงแทนเพื่อความปลอดภัย

น้ำป่าหลาก #ถนนขาดมุกดาหาร #ดงหลวง #เขาวง #กาฬสินธุ์ #ฝนตกหนัก #ภัยพิบัติธรรมชาติ #ข่าววันนี้​ ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เบล สุธาริณี” คว้ามง Miss Chinese International Thailand 2025 ภาคกลาง สุดอลังการ!

สุราลัย ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เนืองแน่นไปด้วยผู้คนเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในงานประกวด Miss Chinese International Thailand 2025 ภาคกลาง ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอย!

งานนี้จัดโดย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมกับ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม, สมาคมอุปรากรจีน, โรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษาสมุทรสาคร, มูลนิธินำเหยามาโจ้วเก็ง,

บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็มวี ทีวี (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมและฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Creative Commerce World โลกแห่งการค้าที่สร้างสรรค์”

ภายในงานเต็มไปด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและจีนที่ตระการตา ทั้งบทเพลงลูกกรุงและลูกทุ่ง การแสดงเชิดสิงโตมังกรทองสุดอลังการ การแสดง

หุ่นละครเล็กที่หาชมยาก และไฮไลท์สำคัญคือการประกวดรอบตัดสิน Miss Chinese International Thailand 2025 ภาคกลาง ที่ 15 สาวงามในชุดกี่เพ้าได้ประชันความงามและความสามารถกันอย่างเต็มที่

บรรยากาศในงานคึกคักเป็นพิเศษเมื่อเหล่าศิลปินนักแสดงชื่อดัง อาทิ หลิว อาจารียา, จอย บียอนด์, ดร.ชายแฮ็คส์ วโรดม, เล้ง-แสตมป์, กันต์ ฤทธิ์นันท์, ฝ้าย

ไทย ไหทองคำ และ หนึ่ง ภาณุวัฒน์ มาร่วมสร้างสีสันและความสนุกสนาน ร่วมด้วย พอร์ช พงษกร และ อีฟ อรวรรณ ผู้จัดการกองประกวดฯ โดยมี ตวง-สาวิกา กาญจมาศ และพีช พีชวิทย์ รับหน้าที่พิธีกรตลอดงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ธิดาดอนหอยหลอด 2568” นางสาวอภิญญา ศรีสง่ากุล “ขวัญใจรุ่งฤทธิ์” นางสาวขนิษฐา รักศิริ

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 คุณวิลาสินี โฆษิตชัยวัฒน์ MRS.THAILAND WORLD 2017 และผู้บริหาร VOWDA FACIAL & BODY MASSAGE CENTER พร้อมทั้ง ผอ.คนึงนิต รุ่งฤทธิเดช โรงเรียนรุ่งฤทธิ์วิทยาการสุขภาพและความงาม และโรงเรียนรุ่งฤทธิ์วิทยาการนวดแผนไทย ได้รับเกียรติในการเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวด “ธิดาดอนหอยหลอด” โครงการของดีเมืองแม่กลอง ตะวันรอนที่ดอนหอยหลอด ประจำปี2568 ณ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จ.สมุทรสงคราม

โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่ง “ธิดาดอนหอยหลอดประจำปี2568″ ได้แก่ นางสาวอภิญญา ศรีสง่ากุล สำหรับตำแหน่ง”ขวัญใจรุ่งฤทธิ์” ได้แก่ นางสาวขนิษฐา รักศิริ

ทั้งนี้ การประกวดธิดาดอนหอยหลอด ในงานตะวันรอนที่ดอนหอยหลอด จัดขึ้นเพื่อคัดเลือกและเปิดโอกาสให้แก่หญิงสาวที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นทูตประชาสัมพันธ์ของดี ของเด่น ของดัง ของจังหวัดสมุทรสงคราม ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงครามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักดอนหอยหลอด กันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดสมุทรสงคราม

vowda #รุ่งฤทธิ์ #ธิดาดอนหอยหลอด #สมุทรสงคราม

M Studio และ Mono Original ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมรับชมภาพยนตร์เรื่อง“ห่าก้อม”ภาพยนตร์สุดหลอนที่จะพาทุกคนมาเปิดประสบการณ์สุดสยอง“พญาผีปอบพร้อมออกอาละวาด
รอคอยวันกัดกินถึงจิตวิญญาณ”

ในวันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2568
ณ โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน
เวลา 18.30 น. ลงทะเบียน
เวลา 19.30 น. ร่วมรับชมภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์ : https://youtu.be/N9sNrbeu7ws?si=-zRLPcydF5cLbNf-

ลงทะเบียนสำรองที่นั่งได้ที่ลิงก์นี้ :
https://forms.gle/bdHJttSctoetAsdp6

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทุเรียนชุมพรยกระดับการส่งออกประทับใจคู่ค้าปลอดสาร Basic Yellow 2 ( BY2 )

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้เกียรติมาเป็นประธาน จัดงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ทุเรียนภาคใต้ ฤดูผลผลิตปี 2568 ณ บริษัท ศิริมงคล คอร์เปอเรท กรุ๊ป จำกัด กิจ Big cleaning day ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่โรงคัดบรรจุเรียกสั้นสั้นคือล้ม

ให้มีความสะอาดปลอดภัยทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูทุเรียนภาคใต้ที่จะมาถึงเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผลผลิตทุเรียนไทยและส่งเสริมสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคและผู้ประกอบการการรวมพลังกันในวันนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐเอกชนและชุมชนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมทุเรียนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

มีนายอภิชาต สารบัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้การต้อนรับพร้อมกับ นางสาวฉันทนาคงนครผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาเกษตรเขตที่เจ็ด นายสุบรรณ์ รักษ์ทอง เกษตร จ ชุมพรพร้อมด้วย นายปรีดา เยี่ยมสวัสดิ ประธานบริหารกรรมการ บริษัท ศิริมงคล คอร์เปอเรท กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการ ล้งทุเรียนชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ

นายอภิชาต สารบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรกล่าวต้อนรับรองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรนางสาวปรียานุชทิพยวัฒน์ ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Big cleaning day ของโรงคัดบรรจุทั่วทั้งจังหวัดชุมพรจะ ในวันนี้กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจังหวัดชุมพรจะได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานอื่นๆที่ผู้ประกอบการโรงรวบรวมและลงคัดบรรจุทั่วทั้งจังหวัดชุมพร

ทำความสะอาดครั้งใหญ่ไปพร้อมพร้อมกัน เป็นกิจกรรมที่ทรงพลังและมีความหมายต่อพวกเราที่เราจะผนึกกำลังกันเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและประกาศให้ตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศได้เห็นถึงความจริงใจและความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการไทยโดย

วันนี้จัดกิจกรรม Big cleaning day set Zero การใช้สารเคมีในวันนี้จึงเป็นมากกว่าแค่การทำความสะอาด แต่เป็นการชำระล้างสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นคำมั่นสัญญาของพวกเราทุกคนว่าต่อจากนี้ทุเรียนทุกลูกที่จะผ่านมือพวกเราไปจะต้องเป็นทุเรียนที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยเท่านั้น

นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาเกษตรเขตที่เจ็ด กล่าวทุเรียนเป็นสินค้าเกษตรที่มูลค่าสูงถือเป็นไม้ผลหลักที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้และยังเป็นพืชที่มีมูลค่าการส่งออกสูงโดยในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 157,000 ล้านบาทโดยเฉพาะการส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งต้องมีเงื่อนไขทางการค้าซึ่งในปัจจุบันจีนได้

เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเกษตรนำเข้าโดยเฉพาะการปนเปื้อนของสารบีวายทูในทุเรียนผลสดถือเป็นเงื่อนไขใหม่ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนอาจจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออกทุเรียนของไทย ในภาครวมได้การที่ทุเรียนไทยถูกตรวจพบว่าปนเปื้อนสารบีวายทูจึงส่งผลให้จีนปฏิเสธการนำเข้าสินค้าบางรัฐส่งผลทำให้โรงคัดบรรจุนั้นนั้นถูกระงับการส่งออกและสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในตลาด

จีนตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันแรกที่จีนได้ให้ทุเรียนทุกตู้ที่ส่งออกส่งใบรายงานเท็จรีพอร์ตผลการตรวจสอบไม่พบ ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ตรวจพบบีวายทูจากจีนแปดลงคัดภาคใต้ 13 ลงคัดตะวันออกเจ็ดโรงคัดรวม 20 ตู้และตรวจพบก่อนส่งออกเฉพาะภาคใต้แจ้งเตือน 30 ลงคัดระงับห้าลงคัด
ในจังหวัดชุมพรมีโรงคัดบรรจุ 487

โรงซึ่งทยอยเปิดดำเนินกิจการแล้ว 50 ลงคาดว่าจะเปิดเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับปริมาณผลผลิตทุเรียนที่มีมากขึ้นในเดือนกรกฎาคมการจัดกิจกรรม Big cleaning day ในโรงคัดบรรจุก่อนเปิดดำเนินการมีวัตถุประสงค์ลดความเสี่ยงการปนเปื้อนของสารบีวายทูที่จะติดไปกับทุเรียนส่งออก และลดความ เสียหายให้กับผู้ประกอบการจะได้สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ให้กับประเทศคู่ค้า

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการล้างทำความสะอาดบริเวณภาชนะอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการผลิตของโรงคัดบรรจุรวมทั้งการทำ Swap Test เพื่อ ควบคุมความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของสารบีวายทูให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประเทศคู่ค้าเป็นการยกระดับมาตรฐานทุเรียนไทยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและหน่วยงานตรวจสอบของจีนต่อคุณภาพและความปลอดภัยของทุเรียนจากประเทศไทย

นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกลียดอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Big cleaning day ของโรงบรรจุในจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของทุเรียนไทยและจัดขึ้นพร้อมกันในทุก โรงคัดบรรจุทั้งจังหวัดชุมพรจังหวัดชุมพรให้ความสำคัญกับการผลิตทุเรียนคุณภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาด

ต่างประเทศและป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อน ด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดมีการจัดตั้งคณะทำงานชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดและมีการประกาศมาตรการต่างๆที่เข้มงวดเช่นกำหนดประกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียน การดำเนินคดีแก่ผู้จำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพมีมาตรการตรวจก่อนตัดและการขึ้นทะเบียนนักตัดนักคัดทุเรียนก่อนทำเครื่องหมายผลทุเรียนด้อยคุณภาพในวันนี้

อนาคตและชื่อเสียงของทุเรียนไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญนั่นคือปัญหาการปนเปื้อนของ Basic Yellow 2สารบีวายทูรวมทั้งปัญหาการตรวจพบแคดเมียมในทุเรียนมีค่าเกินมาตรฐานที่จีนกำหนดปัญหาดังกล่าวได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงโดยทางจีนขอให้กรมวิชาการเกษตรระงับการส่งออกชั่วคราวกับโรงคัดบรรจุที่ ถูกแจ้งเตือนเพื่อสอบสวนสาเหตุและกำหนดมาตรการควบคุมทางการจีนพิจารณา

ซึ่งจังหวัดชุมพรกรมวิชาการเกษตรจึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีโรงคัดบรรจุตั้งอยู่เป็นจำนวนมากจำนวน 487 โรงคัดบรรจุให้รองคัดบรรจุทำ Big cleaning day Set Zero การใช้สารเคมีและปฏิบัติตามมาตรการสีไม่เพื่อส่งสัญญาณที่ชัดเจนและหนักแน่นไปยังประเทศคู่ค้าเรา

มุ่งมั่นที่จะผลิตคุณภาพที่ปลอดภัยเท่านั้นนอกจากนี้โรงคัดบรรจุต้องใช้ใบรับรองแหล่งผลิตพืช ใบคิวตามผลผลิตที่ได้รับมาเท่านั้นไม่ทำการสวมสิทธิ์ใบรับรองของเกษตรกรหากตรวจพบการกระทำความผิดกรมวิชาการเกษตรพิจารณาดำเนินการระงับหรือเพิกถอนหนังสือสำคัญการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตพืชตามประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่องหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนโรงผลิตสินค้าพืชฉบับที่สองพ.ศ. 2567

จึงหวังว่าขอให้ร่วมมือจากพี่น้องผู้ประกอบการทุกโรงคัดบรรจุร่วมทำความสะอาดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ครั้งใหญ่นี้อย่างจริงจังที่สุดขัดล้างอุปกรณ์ทุกชิ้นพื้นที่ผลิตทุกพื้นที่ซึ่งการทำความสะอาดต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีสารบีวายทูตกค้างอยู่และต่อให้การทำความสะอาดครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับมาตรฐาน การปฏิบัติงานที่จะดำเนินต่อไปอย่างเข้มแข็งตลอดฤดูกาลนี้

ธนากร โกศลเมธี ภาพ/ข่าว รายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พัฒนาศักยภาพเครือข่ายประชาสัมพันธ์ก้าวทันสื่อใหม่ ระดับจังหวัด สร้างเครือข่ายใหม่ ต่อยอดเครือข่ายเดิม ทันต่อยุคดิจิทัล

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายประชาสัมพันธ์ก้าวทันสื่อใหม่ ระดับจังหวัด เพื่อสร้างเครือข่ายใหม่และพัฒนาเครือข่ายเดิมทั่วประเทศให้เป็นเครือข่ายที่มีคุณภาพ โดยมี นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผวจ.บึงกาฬ

นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผวจ.บึงกาฬ นายพนมวัสส์ วุฒาพาณิชย์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ นายธนิต รามัญวงค์ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ, นายอนุชิต บุญชม ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ ตลอดจนผู้เข้าอบรม เข้าร่วม ที่ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

โครงการนี้จัดโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ ภายใต้กรมประชาสัมพันธ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ทั้งเครือข่ายเดิมและเครือข่ายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ให้สามารถสื่อสารข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคดิจิทัล โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 90 คน ประกอบด้วยเยาวชน สื่อมวลชน หอกระจายข่าว และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

เนื้อหาการอบรมครอบคลุมความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์นโยบายรัฐบาล การสื่อสารในภาวะวิกฤติ การรับมือข่าวปลอม กลยุทธ์สร้างการรับรู้ และการผลิตสื่อยุคใหม่ที่ดึงดูดใจ รวมถึงกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยมุ่งเน้นการ Re-skills, Up-skills และ New-skills ให้แก่ผู้เข้าร่วม

โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดอบรมใน 37 จังหวัดทั่วประเทศ ตลอดเดือนมิถุนายน 2568 ตามนโยบายของนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ผลักดันให้กรมประชาสัมพันธ์สร้างเครือข่ายการสื่อสารคุณภาพที่สามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นพลังสำคัญในการสื่อสารเพื่อประเทศต่อไป
ข่าว/ภาพ ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล จ.บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กฟผ.จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้า สู่ครู นักเรียน

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ที่โรงเรียนบ้านอ่างทอง ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวัชระ ถาวรวงศ์ หัวหน้ากองพัฒนาศักยภาพชุมชน ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์โครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้ากับนักเรียน คณะครู โรงเรียนบ้านอ่างทอง

โรงเรียนบ้านสีดางาม โรงเรียนบ้านทุ่งตาแก้ว และโรงเรียนบ้านหินเทิน รวม 20 คน โดยมี นางสาวศิริพร โพธิ์งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านอ่างทอง เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม นายมหยศ โกศิน ตัวแทนจากศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียน ให้การต้อนรับ

ตามที่ กฟผ. มีภารกิจด้านการผลิตไฟฟ้าควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพชุมชนซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของ กฟผ. จึงได้มีแนวทางในการพัฒนาส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชน ร่วมกับหน่วยงานท้องที่ ท้องถิ่น เครือข่ายภาครัฐ และภาคประชาสังคมในพื้นที่

การจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้คณะครู และนักเรียน มีความรู้ในการผูกผ้า และจับจีบผ้าในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้คณะครู และนักเรียนนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ ประดับตกแต่งงานกิจกรรมของโรงเรียน

งานประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่น อาทิ งานรัฐพิธี งานมงคล และงานอวมงคลในพื้นที่ เพื่อลดรายจ่ายของหน่วยงาน และหากพัฒนาทักษะจนชำนาญจะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับตนเองได้ ทั้งยังเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ และ กฟผ. อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 12-13 มิถุนายน 2568

/////////////////

ข่าว. ณัฐธภพ พันสาย. / จ.ประจวบคีรีขันธ์. 0649646443 ฅนเหล็กมินิมาราธอนมอบรายได้ศิริราชมูลนิธิ สนับสนุนบริการการแพทย์เพื่อผู้ป่วยยากไร้

นายผดุงศักดิ์ ปราณอุดมรัตน์ (กลาง) ผู้จัดการทั่วไป สำนักการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารกลุ่ม บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เป็นตัวแทนองค์กรร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลฅนเหล็กมินิมาราธอน 2024 (SSI, TCRSS NS BlueScope, NS-SUS, JSGT, G Steel, GJS) มอบเงินรายได้จากการจัดกิจกรรมฯ แก่นางสาวโสพิศ ชัยเรือง รองหัวหน้าสำนักงาน ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนภารกิจการให้บริการการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ พัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการบริการการแพทย์ของโรงพยาบาล และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้พอเพียงและทันสมัย ณ ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็วๆนี้
    
กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอน จัดขึ้นในรูปแบบจิตอาสาและการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และประชาชนทั่วไป เพื่อนำรายได้จากการจัดกิจกรรมมอบช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับการพัฒนาความสามารถ และดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างแข็งแกร่ง มีองค์กรร่วมจัดประกอบด้วยพันธมิตรในอุตสาหกรรมเหล็ก 7 องค์กร ได้แก่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) บริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ็นเอส-สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด บริษัท เจเอฟอี สตีล กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) และบริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน)
    
จากการดำเนินกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 รวมจำนวน 16 ครั้ง สามารถนำรายได้จากการจัดงานช่วยเหลือองค์กรการกุศลที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสแล้ว 40.5 ล้านบาท

////////////////

ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงาน 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ​เหล่ากาชาดมุกดาหาร จัดโครงการวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2568 รณรงค์และเสริมสร้างพลังคนรุ่นใหม่ / เตือนภัย!!​ อย่าหลงเชื่อหมอดูแขก อาละวาด ดูดวงแลกเงิน 599 บาท

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ หอประชุม 250 ปี มุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2568 ด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร

ร่วมกับโรงพยาบาลมุกดาหาร ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตตามโครงการวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2568 เพื่อเป็นการรณรงค์และเสริมสร้างพลังคนรุ่น

ใหม่ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นผู้บริจาคโลหิต โดยโลหิตที่ได้จะต้องเป็นโลหิตที่ปลอดภัย และเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย รวมทั้งยังเสริมสร้างคนรุ่นใหม่ เป็นผู้บริจาคโลหิตเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

ทั้งนี้ในวันที่ 14 มิถุนายน องค์กรต่างๆ ทั่วโลกจะร่วมกันเฉลิมฉลองวันผู้บริจาคโลหิตโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตต่ออุตสาหกรรมสุขภาพ

เนื่องจากโลหิตสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดด้วยพลาสมา การวิจัย หรือการใช้ในกรณีฉุกเฉิน การบริจาคโลหิตถือเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยเหลือโลกมาหลายครั้งแล้ว เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

มุกดาหาร-เตือนภัย!!​ อย่าหลงเชื่อหมอดูแขก อาละวาด ดูดวงแลกเงิน 599 บาท

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568​ เฟสบุ๊คกลุ่ม ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก จังหวัดมุกดาหารได้โพสต์เตือนภัยโดยระบุข้อความว่า ทุกคน เจอคนลักษณะหน้าตาออกไปทางแขก อย่าอนุญาตให้เข้าบ้าน,ร้านค้าเด็ดขาดนะคะ แจ้งความอย่างเดียว ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้ามาชี้เบาะแสพร้อมกับโพสต์แจ้งเกี่ยวเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่าตอนนี้มีกลุ่มชายคล้ายแขกเดินไปทั่วเมืองมุกดาหาร เพื่อดูดวงพร้อมกับแรกค่าครูดูดวง

ผู้สื่อข่าวได้กล้องวงจรปิดจากร้านกาแฟแห่งหนึ่งซึ่งเผยให้เห็นพฤติกรรมของชายคนหนึ่งหน้าตาคล้ายแขกชาวต่างชาติไว้หนวดเค้า ผมยาวมัดจุก ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีดำ ซึ่งเข้าไปในร้านแล้วได้พูดคุยกับ

พนักงาน โดยทางพนักงานเปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.43 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะที่เธออยู่ในร้านมีชายต่างด้าวลักษณะเหมือนคนแขก รูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในร้าน ก่อนจะมาทำทีจะสั่งเครื่องดื่มหน้า เคาน์เตอร์โต๊ะคิดเงิน พร้อมกับทักทายแนะนำตัวเองบอกว่าเป็นอาจารย์ ต่อมาก็ได้ทำการพูด

คุยเกี่ยวกับเรื่องโหงวเฮ้งบนใบหน้าชมไปต่างๆนานา เรื่องราวในอดีตย้อนหลังเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้ จนทำให้เรารู้สึกคุ้นเคยต่อมาก็ขอดูลายมือ พร้อมกับให้วางมือใส่ของชายคนนั้น​ และได้ทำการท่องคาถา สวดมนต์ของเขา อะไรไม่รู้

ต่อไปจะค้าขายเจริญรุ่งเรือง อวยพรให้หมดหนี้หมดสิน มีโชคมีลาภถูกหวย แต่ต้องให้ทำบุญ พอพูด​เสร็จก็ทำการเรียกเงินค่าครู ให้อาจารย์ได้เลย แต่เจ้าของร้านบอกว่าไม่มีเงินสดโอนได้ไหม​ ชายคนนั้นอึ้ง​อยู่พักนึง ก็บอกว่าไม่มีบัญชีโอน ก่อนที่หมอดูจะเดินกลับออกไปด้วยท่าทีไม่พอใจ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนอีกว่าตอนนี้มีชายที่หน้าตาคล้ายแขกออกเดินตามซอยต่างๆในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 68 ที่ผ่านมาโดยมีประมาณ 3 คนแยกกันเดินไปคนละเส้นทางซึ่งมีพฤติกรรมคล้ายกันคือหลอกให้ดูดวงแล้วเรียกเก็บเงิน บางรายเรียกสูงถึง 599 บาท

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​092-5259777

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง