สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / MBK เซ็นเตอร์ ชู Musical Joyride แต่งต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลานสุดน่ารักที่หมุนรอบๆ ตัว สร้างรอยยิ้มให้คนไทยและทัวริสต์

เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาส บรรยากาศแห่งความสุขเริ่มอบอวลไปทั่วกรุงเทพฯ ด้วยแสงวิบวับของไฟประดับต้นคริสต์มาสและผู้คนที่ออกมาถ่ายรูปเช็คอินสัมผัสสีสันของฤดูกาล “ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์” ก็พร้อมเนรมิตพื้นที่แห่งความสุขร่วมสร้างช่วงเวลาพิเศษให้ผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เก็บเกี่ยวโมเมนต์แห่งความประทับใจกลับไปด้วยรอยยิ้ม ภายใต้กิจกรรม MBK Center Sparkling Happiness ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นในคอนเซปต์ Musical Joyride มีการตกแต่ง ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน สีสันสดใสน่ารัก สื่อถึง “ความสุขที่หมุนอยู่รอบๆ ตัวของทุกคน เต็มไปด้วยความสนุกแสนอบอุ่นโอบกอดทุกคนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี สร้างแรงบันดาลใจและความหวังในการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในปีใหม่ที่กำลังมาถึง”

โดยในปีนี้ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ ศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ นางสาววิยดา อมรวัฒนคุณชัย หรือ Jumbo Jan ที่มีเอกลักษณ์ลายเส้นน่ารักทันสมัย มีผลงานปรากฏบนโซเชียลมีเดียและงานแสดง Illustration Fair ต่าง ๆ มาร่วมรังสรรค์ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน ในคอนเซ็ปต์ Musical Joyride สูงตระหง่านกลางลาน Sky Walk ด้านล่างของต้นคริสต์มาสเป็น เครื่องเล่นม้าหมุนไขลาน สีสันสดใสที่หมุนไปมาอย่างมีชีวิตชีวา เสมือนกล่องดนตรีขนาดใหญ่แห่งความสุข ม้าบางตัวเคลื่อนไหวโยกขึ้นลงได้ราวกับมีชีวิต รายล้อมด้วยม้าที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน โน้ตดนตรี และคำอวยพรที่เปี่ยมไปด้วยความหมายดี ๆ เช่น Happiness, Blissful, Merry เพื่อส่งต่อความปรารถนาดีให้แก่ผู้มาเยือน ยังมีตัวอักษร “MBK” ขนาดใหญ่ ติดตั้งอย่างโดดเด่น สื่อถึงความเป็นแลนด์มาร์กแห่งความสุขใจกลางกรุงเทพฯ ส่วนด้านบนของต้นคริสต์มาสประดับด้วย แกนไขลานขนาดใหญ่หมุนไปมาอย่างนุ่มนวล สื่อถึงพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่และความสุขที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ยอดของต้นคริสต์มาสประดับด้วยดวงดาวเรืองแสง ที่หมุนได้รอบด้าน สะท้อนแสงระยิบระยับงดงามในยามค่ำคืน เพิ่มเสน่ห์และชีวิตชีวาให้กับแลนด์มาร์กแห่งนี้

ในพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสสุดตระการตา MBK Center Sparkling Happiness Light Up Ceremony ผสมผสานศิลปะ แสง สี เสียง และจังหวะดนตรีอย่างกลมกล่อม ไฮไลต์ของการแสดงสุดพิเศษของ วงดนตรีออเคสตร้า ที่บรรเลงบทเพลงแห่งความสุขอย่างอ่อนโยนและสง่างาม สร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความอบอุ่นหัวใจ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากพันธมิตรภาครัฐร่วมเปิดไฟต้นคริสต์มาสอย่างเป็นทางการ นำโดย นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร นางสาวพุทธชาด ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ดร.เกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอภิชาติ กมลธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายกฎหมาย บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ว่าที่ร้อยตรี ปราโมทย์ เลิศจิตรการุณ ผู้อำนวยการสำนักนันทนาการกรมพลศึกษา นางศุภพิชญาณ์ ชาวบางรัก ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และ นางสาวพิมลพันธุ์ ฤทธิบุญไชย หัวหน้าฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ หอศิลปกรุงเทพฯ ร่วมพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ยังมีเหล่าศิลปินคนดังร่วมส่งมอบความสุข นำโดย ภูมิ – เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ พระเอกหนุ่มมากความสามารถจากช่อง 7HD พิ้งค์พลอย – ปภาวดี ชาญสมอน นางเอกดาวรุ่งจากช่อง 7HD ที่เป็นที่รู้จักจากบทบาทหลากหลาย เล้ง – ณัฐพล และ แสตมป์ – พรวศิน จากซีรีส์ฮิต “ลอยแก้ว” และ “วัยซ่าส์ท้ามิติ” มาร่วมเฉลิมฉลองและสร้างสีสันภายในงาน เพิ่มความพิเศษให้ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นปีใหม่เปี่ยมด้วยความสุข ความอบอุ่น และความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมงาน

นางสาวพุทธชาด ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูกาลแห่งความสุขอีกครั้ง ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ขอต้อนรับทุกท่านด้วยผลงานสุดสร้างสรรค์ถ่ายทอดความสุขและความสนุกที่อยู่รอบ ๆ ตัว กับ ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน ในคอนเซปต์ Musical Joyride เพื่อส่งมอบความสุขและความอบอุ่นให้กับผู้มาเยือนในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งปีนี้ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้ร่วมงานกับศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณวิยดา อมรวัฒนคุณชัย หรือ Jumbo Jan เจ้าของลายเส้นสุดน่ารักและทันสมัย มาร่วมถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านงานออกแบบตกแต่งต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน ที่หมุนได้อย่างมีชีวิตชีวา ไม่เพียงแต่ความสดใสน่ารักให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงความสุขที่ไม่สิ้นสุดและพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่ หมุนเวียนพาความสุขกลับมาอีกครั้งในทุกปี เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จะเป็น “ใจกลางความสุข” ของผู้คนที่มาชมงาน จุดรวมพลังแห่งรอยยิ้มและความสุขที่หมุนรอบ ๆ ตัวของทุกท่าน ขอให้ม้าหมุนแห่งความสุขนี้หมุนเรื่องราวดี ๆ เข้ามาในชีวิตและให้ปีใหม่ที่กำลังจะถึงเป็นปีแห่งรอยยิ้มของทุกท่าน ก็ขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสและสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน และสร้างบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักในฤดูกาลท่องเที่ยวและเทศกาลส่งท้ายปีค่ะ”

ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จัดเต็มของขวัญส่งท้ายปีกับกิจกรรม SPARKLING HAPPINESS ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 ยกขบวนความสุข ดังนี้
LUCKY CHRISTMAS TREE ต้นคริสต์มาสไขลาน มอบของขวัญสุดพิเศษ เพียงกดรับสิทธิ์ผ่าน MBK PLUS พร้อมแสดงใบเสร็จใช้จ่ายตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569

CULTURAL SHOW ตื่นตากับศิลปวัฒนธรรมไทยที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนี้ วันที่ 25 ธันวาคม บริเวณลาน Sky Walk ตระการตาการแสดง “โขน” นาฏยศาสตร์แห่งแผ่นดิน วันที่ 29 – 31 ธันวาคม ชมเพลินเชียร์มันส์กับศิลปะแม่ไม้มวยไทย การแข่งขันของมวยคู่เอก เดือดทุกคู่ในกิจกรรม MBK Center Muay Thai Fight Night

MUSICAL JOYRIDE ความสุขผ่านเสียงเพลงและความบันเทิงทั่วศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พบกับซานต้ากับผองเพื่อนที่จะนำความสุขไปส่งมอบให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยว ในกิจกรรม Orchestra & Santa ระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคม และ ความบันเทิงขั้นสุดกันแบบข้ามปีกับกิจกรรม Musical Troop ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 – วันที่ 1 มกราคม 2569 นอกจากนี้ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และ ศูนย์การค้าในเครือ (พาราไดซ์ พาร์ค, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์) จัดโปรโมชันฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี “SPARKLING HAPPINESS” #เทศกาลแห่งความสุขช้อปสนุกรับปีใหม่ เมื่อช้อปหรืออิ่มในศูนย์ฯ ลุ้นรางวัลรวมกว่า 7.6 ล้านบาท* ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 – วันที่ 4 มกราคม 2569 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ช้อปลุ้นโชค เพียงสะสมใบเสร็จช้อป-อิ่มในศูนย์ฯ ผ่าน LINE Official Account @mbkplus หรือจุดประชาสัมพันธ์ ครบทุก 1,000 บาท* รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 ที่พัก Dusit Thani Krabi Beach Resort (3 วัน 2 คืน) จำนวน 2 รางวัล (มูลค่า 34,000 บาท/ รางวัล) รางวัลที่ 2 บัตรกำนัลศูนย์ฯ มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท จำนวน 4 รางวัล

ช้อปรับเลย รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ รวมสูงสุด 300 บาท* รับฟรี บัตรกำนัลศูนย์ฯ มูลค่า 100 บาท* เมื่อช้อป-อิ่มในศูนย์ฯ ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด และ รับฟรี Sparkling Joyride Travel Set Exclusive by JUMBO JAN 1 เซต จำนวน 4 ใบ* (มูลค่า 3,500 บาท) เมื่อช้อป – อิ่ม ในศูนย์ฯ ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด
พิเศษเฉพาะศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และ พาราไดซ์ พาร์ค สำหรับสมาชิก Ocean Life ใช้ 1,000 OCHI COIN แลกรับบัตรกำนัลศูนย์ฯ 100 บาท (จำกัด 2 สิทธิ์ / หมายเลขบัตร / ตลอดรายการ, จำกัดรวม 100 สิทธิ์ / ตลอดรายการ)
สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ อาทิ พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ttb รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ สูงสุด 500 บาท* เมื่อใช้จ่ายครบตามเงื่อนไข* สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต GSB, KTC, ttb แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13 %*
โปรโมชันเฉพาะสมาชิก MBK PLUS เท่านั้น!! เมื่อสมัครสมาชิก MBK PLUS เพื่อรับสิทธิ์ใช้โปรโมชัน เพียงแค่เพิ่มเพื่อน LINE Official Account @mbkplus

ด้านศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ นางสาววิยดา อมรวัฒนคุณชัย หรือ Jumbo Jan ผู้ร่วมรังสรรค์ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลานกล่าวถึงความรู้สึกว่า “การได้ร่วมงานกับ MBK ถือเป็นความฝันของชีวิตเลยค่ะ เพราะแจนและครอบครัวผูกพันกับ MBK มาตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกวันอาทิตย์จะมาดูหนังและทานข้าวที่ MBK เสมอ พอวันนี้ได้มีโอกาสสร้างสรรค์งานตกแต่งต้นคริสต์มาสกับทางศูนย์ฯ ก็รู้สึกมีความสุขมาก ๆ และทางทีมงาน MBK ทุกคนก็น่ารักและใจดีมาก สามารถแปลงจากลายเส้นของแจนให้กลายเป็นผลงานชิ้นใหญ่ได้อย่างน่าประทับใจ ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ”
“ในปี 2569 เป็นปีนักษัตรม้า (มะเมีย) เลยใช้ theme เป็นม้าหมุนแห่งความสุข ต้นคริสต์มาสมีม้าที่มีลายแตกต่างกันอยู่ 8 ตัว ซึ่งนับเป็นเลขมงคล ม้า 8 ตัวเป็นตัวแทนของความสุขทั้ง 8 อย่าง ได้แก่ ความร่ำรวยมีสุข สุขภาพมั่งคั่ง การงานมั่นคง ครอบครัวสุขสันต์ มิตรภาพดีงาม ความรักบริบูรณ์ จิตใจสงบเย็น และ การเติบโตไม่หยุดนิ่ง รวมถึงการนำพาความเจริญทั้ง 8 ทิศมาสู่ลูกค้า ผู้ค้า และ ศูนย์การค้า MBK ในงานเทศกาลครั้งนี้ขอส่งมอบความสุขและความหวังดีให้ทุกคนนะคะ ขอให้ม้าหมุนแห่งความสุขนี้ หมุนเรื่องราวดี ๆ เข้ามาในชีวิตของทุกคนจากรอบทิศทางเลยนะคะ”

ห้ามพลาด!! สัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขแสนอบอุ่นเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ชมไฟประดับต้นคริสต์มาส Musical Joyride ที่เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ทั้งพาราไดซ์ พาร์ค เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 และ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ พร้อมของขวัญส่งท้ายปีกับโปรโมชันแคมเปญมากมาย สุดเอ็กซ์คลูซีฟดีไซน์น่ารักที่มีกลิ่นอายผลงานของ Jumbo Jan ศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศกับ Sparkling Joyride Travel Set Exclusive by JUMBO JAN
ติดตามกิจกรรมและโปรโมชันดี ๆ ของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้ที่ https://www.mbk-center.co.th/ หรือ เฟซบุ๊กเพจ mbkcenterth อินสตาแกรม mbkcenter

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กองทัพภาคที่ 2 พร้อมส่งกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย ช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่

พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งการส่งกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพลพัฒนาที่ 2 จำนวน 102 นาย ขนยุทโธปกรณ์ รถบรรทุกขนาดใหญ่ ครัวสนาม เครื่องปั่นไฟ เรือ สนับสนุนกองทัพภาคที่ 4 ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่

โดย พล.ต.กิติศักดิ์ ถาวร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 ตรวจความพร้อมของกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย ที่หน้ากองบัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนกองทัพภาคที่ 4 เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /”เข้าแล้ว ออกยาก” พุฒิพงษ์ นาคทอง ผกก. ผู้สร้าง 4 Kings และ วัยหนุ่ม 2544 เผยแรงบันดาลใจการทำภาพยนตร์เรื่อง “มือปืน” ชีวิตจริงของอาชีพมือปีน

default

งานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง “มือปืน” จัดขึ้นที่เมเจอร์รัชโยธิน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กทม. ฉายรอบสื่อมวลชน และแขกวีไอพี วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 มีผู้เข้าร่วมงานกันมากกมาย

ในตัวอย่างล่าสุด (Official Trailer) ได้เผยให้เห็นเรื่องราวของ “เพชร” มือปืนรับจ้างที่ต้องการออกจากวงการ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนรัก ทว่าอดีตกลับตามหลอกหลอน ด้วย “บุญคุณ” ที่ยังต้องชดใช้ และ “ความแค้น” ที่ยังรอการสะสาง ทำให้เขาต้องกลับมาเผชิญหน้ากับชะตากรรมอีกครั้ง ด้วยกระสุนนัดสุดท้ายที่อาจเปลี่ยนชีวิตทั้งหมด

“อาชีพมือปืนเป็นสิ่งที่ผมได้ยินและรู้จักมาตั้งแต่เด็กครับ มันเป็นโลกที่น่าค้นหา และอยากให้คนได้เห็นอีกมุมของพวกเขา ว่าชีวิตจริงต้องเจออะไรบ้าง จุดจบของเขาเป็นยังไง” พุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับภาพยนตร์ กล่าว

พุฒิพงษ์เผยว่า ก่อนจะลงมือทำหนังเรื่องนี้ เขาได้ทำการบ้านอย่างหนัก เดินทางไปสัมภาษณ์อดีตมือปืนจริงที่จังหวัดเพชรบุรี เพื่อทำความเข้าใจชีวิตของพวกเขาในมุมลึกที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน

“ผมไปรีเสิร์ชข้อมูลที่เพชรบุรีครับ ได้พูดคุยกับอดีตมือปืนจริง ๆ แล้วสิ่งที่เขาเล่าให้ฟัง มันโหดกว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก ชีวิตจริงของเขาไม่ได้เหมือนในหนังเลยครับ”

และสิ่งที่ค้นพบระหว่างการศึกษาข้อมูล ผู้กำกับเผยว่า สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “ความเป็นคนธรรมดา” ของคนในอาชีพนี้

“ก่อนจะไป ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะดูดุดัน เหมือนในหนัง แต่จริง ๆ แล้วไม่เลยครับ หลายคนสุภาพ เรียบร้อยด้วยซ้ำ เรามองผิวเผินไม่รู้เลยว่าคนไหนเป็นมือปืน เขาก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง และบางคนก็มีเหตุผลของการทำสิ่งที่เลือก”

และในภาพยนตร์ “มือปืน” ผู้กำกับยังได้สะท้อน “กฎเหล็ก” ของอาชีพนี้ไว้อย่างเข้มข้น“ส่วนใหญ่เขาจะไม่ทำผู้หญิงกับเด็กครับ และเขาไม่จำเป็นต้องรู้จักคนที่รับงาน ยิงเสร็จรับเงินจบ แต่มันก็มีความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่พูดออกมา ซึ่งเราจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้ครับ

default

.“มือปืน” จึงไม่เพียงเป็นภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญ แต่ยังเป็นการถ่ายทอดชีวิตของ “มนุษย์ในเงามืด” ที่ต้องดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากบาปและความแค้นในใจเตรียมพบกับภาพยนตร์ “มือปืน” เข้าฉาย 27 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

default

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รมว.กระทรวงมหาดไทย ประธานพิธีเจริญพระพระพุทธมนต์ วันคล้ายวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 256

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 100 รูป ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วันคล้ายวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2567 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ เนื่องในโอกาสวันประสูติครบ 100 ปี 24 พฤศจิกายน 2568

วันที่ 24 พ.ย. 68 เวลา 07.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเจริญพระพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 100 รูป ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา เนื่องในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2567 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา เนื่องในโอกาสวันประสูติครบ 100 ปี 24 พฤศจิกายน 2568

โดยมี หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคส่วนต่าง ๆ ประชาชนจิตอาสา และประชาชนร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก ณ วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม การนี้ พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ หลังจากนั้น สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ และคณะสงฆ์ รวม 100 รูป รับบิณฑบาต

รัฐบาลกำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2567 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดาเนื่องในโอกาสวันประสูติครบ 100 ปี 24 พฤศจิกายน 2568 ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในนามรัฐบาล ดำเนินการจัด 1. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล 2. พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า

และพิธีวางพุ่มดอกไม้ถวายสักการะสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา 3. การตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และพระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ

เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดาเพื่อเฉลิมพระเกียรติ และ 4. กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล ถวายพระราชกุศลถวายพระกุศล เพื่อแสดงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระกรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ระหว่างวันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2568
จำรัส ตุ้มท่าไม้ ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครปฐม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประจวบคีรีขันธ์ แถลงความพร้อมจัดงาน “ดินของพ่อ สานต่อของดีคีรีขันธ์” 29 พ.ย. – 8 ธ.ค. 2568

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “ดินของพ่อ สานต่อของดีคีรีขันธ์” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้เป้าหมายเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงเผยแพร่ความสำคัญของวันดินโลก ซึ่งสหประชาชาติรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันดินโลกอย่างเป็นทางการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดงานครั้งนี้ว่า เป็นการร่วมเฉลิมฉลองวันดินโลกและเผยแพร่บทบาทของพระมหากษัตริย์ไทยด้านการพัฒนาดิน น้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนสนับสนุนอัตลักษณ์สินค้าของดีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้เกษตรกร โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2568 รวม 10 วัน ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติหน้าศาลากลางจังหวัดด้านนายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงภาพรวมของกิจกรรมภายในงานว่า จะมีการจัดนิทรรศการวันดินโลก น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเพื่อสืบสานพระราชดำริในรัชกาลที่ 10 พร้อมทั้งนิทรรศการความโดดเด่นของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรมผ้าไทย ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี และนิทรรศการด้านดิน น้ำ พันธุ์พืช นวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของจังหวัด ทั้งยังมีร้านค้าสินค้าเกษตรจากทั้ง 8 อำเภอ สินค้าราคาประหยัด ธงฟ้า การตักกุ้งหรรษา เวทีเสวนา การประกวด การแข่งขัน และการแสดงไฟล้านดวงพร้อมคาราวานร้านเด็ดร้านดัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

ขณะที่นางศันสนีย์ เกษตรสินสมบัติ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงกิจกรรมประกวดและกิจกรรมบนเวทีว่า จะมีการประกวดผลผลิตทางการเกษตร อาทิ สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย สับปะรดพันธุ์ MD2 มะพร้าวแกง มะพร้าวน้ำหอม และขนุนยักษ์ รวมถึงกิจกรรมออกกำลังกายวิถีคนประจวบฯ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พร้อมทั้งจัดเวทีเสวนาวิชาการหลากหลาย เช่น หัวข้อ “ดินของพ่อสู่วันดินโลก” โดยสำนักงานพัฒนาที่ดิน การท่องเที่ยวยั่งยืนบนฐานชีวภาพของ BEDO การเสวนา Coco Next Gen พลิกอนาคตมะพร้าวไทย ตลอดจนเสวนาพระมหากรุณาธิคุณด้านหัตถกรรมผ้าไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นอกจากนี้ยังมีการสาธิตผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว การเดินสายไฟภายในอาคาร การทำอาหารเพื่อสุขภาพ และกิจกรรมชวนชิมกุ้ง–กระพงดินดีวิถีพ่อ โดยสำนักงานประมงจังหวัด รวมถึงการแสดงดนตรีแจ๊สบทเพลงพระราชนิพนธ์จากกองบิน 5ผู้จัดงานเชิญชวนเกษตรกรและประชาชนร่วมส่งผลงานเข้าประกวด พร้อมร่วมชม ชิม ช้อป และสัมผัสองค์ความรู้ด้านดิน น้ำ เกษตรกรรม เทคโนโลยี นวัตกรรม และสินค้าอัตลักษณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสใหม่ให้กับคนในจังหวัดอย่างยั่งยืน
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / น้ำท่วมใต้ สายธารน้ำใจหลั่งไหล ชาวหลังสวน รวมพลังช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร – สายธารน้ำใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอหลังสวน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนภูบดินทร์พิทยาลัย

โรงเรียนสวนศรีวิทยา โรงเรียนอนุบาลทอรัก ตลอดจนชาวบ้าน ร้านค้า ผู้ประกอบการ และภาคส่วนต่าง ๆ ต่างร่วมกันแสดงพลังแห่งความห่วงใยต่อผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ด้วยการร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็นจำนวนมาก

สำหรับการดำเนินการครั้งนี้ โรงเรียนภูบดินทร์พิทยาลัย และโรงเรียนสวนศรีวิทยา ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรับบริจาคสิ่งของจากประชาชน โดยรับบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ยารักษาโรคที่จำเป็น และน้ำดื่มชนิดต่าง ๆ

ทั้งนี้ สาเหตุของน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมาจากอิทธิพลของ ร่องมรสุมกำลังแรง และ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้

ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ระดับน้ำในลำน้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ถนนหลายสายขาด การสัญจรลำบาก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

ภายหลังการรวบรวมสิ่งของ สามารถบรรทุกได้เต็มจำนวน 1 คันรถสิบล้อ ก่อนเคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่หลังสวน เพื่อเดินทางไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและซับน้ำตาพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ตอนล่าง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เอกชนพัทยา รวมน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ปลายด้ามขวาน

ตามที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ส่งผลให้ทุกจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทยได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมบ้านเรือนสร้าง

ความเสียหายนับหมื่นล้านบาท ซึ่งทุกหนาวยงานทั่วประเทศต่างระดมกำลังหาแนวทางช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้นั้น

วันที่ 25 พ.ย.68 มีรายงานว่า ที่จุดบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี กลุ่มผู้ประกอบการเอกชนในเมืองพัทยา

นำโดย นางอำพร แก้วแสง ปธ.กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา ได้รวบรวมสิ่งจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม นำไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ทั้งนี้ ทางคณะได้รับเกียรติจากนายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานในการรับมอบสิ่งของบริจาคช่วย

เหลือน้ำท่วมภาคใต้ ก่อนจะประสานให้หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ฯ พัทยา นำไปช่วยเหลือช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยด่วนที่สุด

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มุกดาหารโชว์ผลงานเข้ม! นอภ.เมือง แท็กทีม ทหารพราน 2105 ยึดยาบ้า 1.9 แสนเม็ด ริมโขง สกัด “กองทัพมด” ทะลักช่วงปีใหม่

ฝ่ายปกครองเมืองมุกดาหาร ผนึกกำลัง ทหารพราน-ตชด. สกัดกั้นยาเสพติดข้ามชาติ ยึดยาบ้า 190,000 เม็ด ริมฝั่งโขง นายอำเภอเผยเข้มงวดตามวาระแห่งชาติ ด้านทหารพรานแฉแก๊งยาเปลี่ยนแผนใช้ “กองทัพมด” ทยอยขนเลี่ยงการจับกุมล็อตใหญ่

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ที่กองร้อยทหารพรานที่ 2105 อ.เมือง จ.มุกดาหาร นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร พร้อมด้วย ร.ท.วันชาติ เหมือนปืน ผู้

บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2105 (ผบ.ร้อย.ทพ.2105) และเจ้าหน้าที่จาก กอ.รมน., ตชด.234 ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองมุกดาหาร ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 190,000 เม็ด

นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหารได้ดำเนินการตามวาระแห่งชาติในการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น โดยในปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมยาบ้าตามแนวชายแดนได้สูงถึง 30 ล้านเม็ด

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด จึงได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ทั้งปกครอง ทหาร และตำรวจ ทำการ “ซีนชายแดน” (Seal) ปิดล้อมพื้นที่อย่างแน่นหนา

จนกระทั่งช่วงเย็น เวลาประมาณ 17.00 น. พบเรือเร็วจากฝั่งเพื่อนบ้านขับเข้ามาโยนสิ่งของทิ้งไว้ริมฝั่งแล้วรีบหลบหนีไป ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นยาบ้าจำนวนดังกล่าว

ด้าน ร.ท.วันชาติ เหมือนปืน ผบ.ร้อย.ทพ.2105 เปิดเผยถึงรายละเอียดปฏิบัติการว่า จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาเวียงแก ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร หลังจากคนร้ายโยนกระสอบปุ๋ย 2 ใบลงฝั่ง เจ้าหน้าที่ได้ดักซุ่มรอผลเพื่อจับกุมผู้มารับของนานกว่า 1 ชั่วโมง

ต่อมามีรถจักรยานยนต์ 2 คันขับเข้ามา แต่คนร้ายไหวตัวทันเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงรีบขับรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 190,000 เม็ด ซึ่งบรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน 2 กระสอบ ไว้เป็นของกลาง เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร.ท.วันชาติ ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดได้ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีจากเดิมที่ขนล็อตใหญ่หลักล้านเม็ด มาเป็นรูปแบบ “กองทัพมด” คือทยอยนำเข้าทีละ 1-2 แสนเม็ด มา

พักคอยไว้ตามจุดต่างๆ ตามแนวชายแดน เมื่อรวบรวมได้ครบจำนวนจึงจะให้นักบินมารับเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนักในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่

มุกดาหาร #นายอำเภอเมืองมุกดาหาร #ชายสิทธิ์สุวรรณโชติ #ทหารพราน2105 #จับยาบ้า #ยาบ้า190000เม็ด #ข่าวอาชญากรรม #ริมโขง #บ้านนาเวียงแก #นาสีนวน #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้_///ภาพ/ข่าว เดวิท -ธวัชชัย โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ดร.เนาวรัตน์ เลขาธิการวุฒิสภาสรุปประเด็น การคัดค้าน (ร่าง) พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับ….) พ.ศ…..จำนวน 3 ฉบับ

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและ
อุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) โดยร่วมกับสภาองค์การนายจ้างอีก 16 สภาองค์การนายจ้าง ได้ลงนามในหนังสือคัดค้าน
1. ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับ..) พ.ศ…สำเนาเลขรับ 157/2567 วันที่ 18 ธันวาคม 2567 (โดย นายจรัส คุ้มไข่น้ำ

  1. ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับ..) พ.ศ…สำเนาเลขรับ 158/2567 วันที่ 18 ธันวาคม 2567 (โดยน.ส.วรรณวิภา ไม้สน)
  2. ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่. ) พ.ศ.. เสนอโดย นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
  3. ข้อเสนอแนะและสรุปประเด็นปัญหาในข้อกฎหมายที่กระทบต่อสถานประกอบการ/นายจ้าง ตามที่ ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ประธานสภาองค์การนายจ้างฯ และคณะสภาองค์การนายจ้างอีก 16 สภาร่วมลงนาม แสดงความเห็นต่อท้าย ซึ่งได้สรุปสาระสำคัญที่เป็นเหตุผลการคัดค้าน ขอเสนอแนะ และสรุปประเด็นปัญหาในข้อกฎหมายที่กระทบ ต่อสถานประกอบกิจการเพื่อให้ท่านได้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่ข้าพเจ้าและคณะสภาองค์การนายจ้าง ได้นำเสนอมานี้

ฉบับที่ 1 (ร่าง) ฉบับที่มีเลขรับ 157/2567 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 เสนอโดย นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.พรรคประชาชนและคณะ
หลักการที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ดังต่อไปนี้แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาทำงานของลูกจ้าง (แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 23) จากเดิมทำงาน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ลดลงเป็น 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แก้ไขเพิ่มเติมวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้าง (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 28) เพิ่มวันหยุดประจำสัปดาห์ 1 วันเป็น 2 วัน แก้ไขเพิ่มเติมสิทธิการลาพักผ่อนประจำปีของลูกจ้าง (แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 30)

ฉบับที่ 1 ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ.…. ของ นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.พรรคประชาชน และคณะ
เหตุผลที่คัดค้าน ดังนี้สืบเนื่องจากการแก้ไขเพิ่มในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งมีสาระสำคัญในภาคบังคับใช้ ปัจจุบันนั้นเหมาะสมแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไข หากผลของการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับใช้ เป็นเหตุให้เกิดภาระและปัญหาการจ้างงานในหลายประการดังต่อไปนี้

  1. ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทำให้ต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้น กระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน
  2. มีผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบกิจการ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประเภท วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
    ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป็นส่วนมากของประเทศ อาจต้องปิดตัวลง
  3. ก่อให้เกิดการขาดสภาพคล่องในการลงทุนภายในประเทศ และจากการลงทุนของผู้ประกอบการต่างประเทศด้วย
  4. อาจเป็นปัญหาให้เกิดผลกระทบย้อนกลับไปถึงการจ้างงานของลูกจ้างในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบกิจการจะต้องแสวงหา
    รูปแบบการจ้างงานรูปแบบใหม่ที่เหมาะสมกว่าต่อไป เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ เช่นการนำ AI หรือนำหุ่นยนต์
    มาใช้แทนการจ้างงาน

ฉบับที่ 2 (ร่าง) ฉบับที่มีเลขรับ 158/2567 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 เสนอโดยนางสาววรรณวิภา ไม้สน สส. พรรคประชาชน
หลักการที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ดังต่อไปนี้
แก้ไขเพิ่มเติมในการจ้างงานที่มีความเท่าเทียมในทุกด้านให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างอย่างเท่าเทียมด้วย โดยไม่เลือกปฏิบัติ
(แก้ไขเพิ่มเติม ในมาตรา 15)
แก้ไขเพิ่มเติมให้การลาเนื่องจากมีประจำเดือน มิให้ถือว่าเป็นวันลาป่วย (เดิมมีสิทธิอยู่แล้ว 30 วันต่อปี)
(แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 32/3)

  1. กำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาไปดูแลบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นใดที่มีความใกล้ชิด (เพิ่มมาตรา32/1)
  2. กำหนดให้ต้องจัดให้มีสถานที่ที่เหมาะสมและอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็น เพื่อให้ลูกจ้างสามารถให้นมบุตรหรือ
    บีบน้ำนมในที่ทำงาน (เพิ่มมาตรา 39/2)
    กำหนดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีสิทธิลาเนื่องจากมีประจำเดือน (เพิ่มมาตรา 40/1)
    -2-ฉบับที่ 2 (ร่าง) ฉบับที่มีเลขรับ 158/2567 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 เสนอโดยนางสาววรรณวิภา ไม้สน สส. พรรคประชาชนเหตุผลที่คัดค้าน มีดังนี้การลาเนื่องจากมีประจำเดือน (3 วันต่อเดือน)สภาองค์การนายจ้างเห็นว่าเป็นการออกกฎหมายฉบับนี้เกินความจำเป็นการบัญญัติสิทธิลาพิเศษที่สำคัญสำหรับสตรีอาจจะถือเป็นการเลือกปฏิบัติภายใต้อนุสัญญาฉบับที่ 111 โดยถือเป็นเอกสิทธิ์ที่เกินกว่ามาตรการพิเศษเพื่อการคุ้มครองหรือความช่วยเหลือที่อนุสัญญา อนุญาตกำหนดไว้และยังอาจถือว่าไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาฉบับที่ 100 เนื่องจากส่งผลให้เกิดความไม่เท่าเทียมความเสมอภาคและเป็นธรรมระหว่างลูกจ้างชายและหญิง ดังนั้นควรให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้างตามกฎหมาย ในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ต่อไป
    2) ในส่วนการให้ลูกจ้างมีสิทธิลาไปดูแลบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่นใดที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด (ปีละไม่เกิน 15 วันทำงาน)
    สภาองค์การนายจ้างฯ เห็นว่าควรระบุให้ชัดเจนว่าเป็นใครบ้าง เพราะบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นใดที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เป็นถ้อยคำที่กว้างเกินไปทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติได้ ถ้อยคำที่สมควรใช้ต้องชัดเจนและแน่นอน เช่น บิดา มารดา บุตร สามี หรือภริยา เช่นเดียวกับถ้อยคำที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 193 ซึ่งกำหนดลักษณะของบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด
    3) การให้นายจ้างจัดพื้นที่ให้นมบุตรหรือบีบเก็บน้ำนม
    สภาองค์การนายจ้างเห็นว่าปัจจุบันผู้ประกอบการได้เข้าร่วมโครงการจัดตั้งมุมนมแม่ ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นจำนวนมาก ดังนั้นควรส่งเสริมความร่วมมือมากกว่าการออกกฎหมายบังคับและการออกกฎหมายเกินความจำเป็น โดยเฉพาะผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในกลุ่มแรงงาน ภาคเกษตร ภาคบริการ ร้านค้าปลีกและค้าส่ง ไม่สามารถปฏิบัติได้ เป็นต้น

ฉบับที่ 3 ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ …) พ.ศ.. เสนอโดย นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
เหตุผลที่คัดค้าน มีดังนี้
สาระสำคัญของร่างฯในข้อที่ 2
เกี่ยวกับการกําหนดให้ยกเลิกบทนิยามคําว่า “นายจ้าง” “วันลา” เพื่อขยายขอบเขตของบทนิยามให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดย “นายจ้าง” ให้หมายความครอบคลุมถึงการจ้างงานด้วยสัญญาต่างๆ
ในข้อ 2 สภาองค์การนายจ้างไม่เห็นด้วยสืบเนื่องจาก กฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มีการบังคับใช้
ซึ่งมีความเหมาะสมอยู่แล้ว

สาระสำคัญของร่างฯ ในข้อ 3 กําหนดให้เพิ่มบทนิยามคําว่า “การจ้างงานรายเดือน” เป็นการจ้างงานที่มีลักษณะ เป็นงานประจําและเต็มเวลา โดยลูกจ้างได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน
ในข้อ 3 สภาองค์การนายจ้างฯไม่เห็นด้วยเนื่องจาก การจ้างแรงงานในสภาพการทำงานที่เป็นจริง ปัจจุบันนี้
สมควรให้นายจ้างและลูกจ้างตกลงจ่ายค่าตอบแทนตามความเหมาะสมกันเองสาระสำคัญของ ร่างฯ ในข้อ 4 กําหนดให้การจ้างงานในสถานประกอบการ ให้ลูกจ้างได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนทั้งหมดโดยไม่เลือกปฏิบัติ
ในข้อ 4 สภาองค์การนายจ้างฯไม่เห็นด้วยในกรณีที่จะมาปรับ จากการจ้างงานรายวัน มาเป็นรายเดือน
ทั้งหมดไม่เห็นด้วยเพราะสาเหตุจาก สภาพของงานแตกต่างกัน เห็นควรให้เป็นทางเลือกของนายจ้างและ
ลูกจ้างตามสภาพงานที่เหมาะสม
และเห็นว่าการกำหนดให้เพิ่ม บทนิยามคำว่า “การจ้างงานรายเดือน” เป็นการจ้างงานที่มีลักษณะเป็นงานประจำ และเต็มเวลา โดยลูกจ้างได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน เป็นการกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลในการทำสัญญาจ้าง เพียงแบบเดียว

-3-
สาระสำคัญของร่างฯ ในช้อ 5 กําหนดให้คณะกรรมการค่าจ้างต้องปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มทุกปี
ในข้อที่ 5 สภาองค์การนายจ้างฯไม่เห็นด้วย ในเรื่องการกำหนดให้คณะกรรมการค่าจ้างต้องปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มทุกปี ไม่เห็นด้วยเพราะเนื่องจากเห็นว่าการปรับอัตราจ้างขั้นต่ำย่อมขึ้นอยู่กับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สะท้อนให้เห็นถึง ความสามารถในการจ่ายของนายจ้างและค่าครองชีพของลูกจ้างตามที่บัญญัติไว้แล้วในกฎหมายปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับคณะกรรมการค่าจ้างฯ คณะกรรมการไตรภาคีจังหวัด และหลักเกณฑ์ที่บังคับในมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เหมาะสมอยู่แล้ว

สาระสำคัญของร่างในข้อ 6 กําหนดให้เพิ่มบทกําหนดโทษในกรณีที่นายจ้างทําสัญญาในลักษณะอื่นใดกับลูกจ้างโดยมีเจตนาเพื่ออําพรางสัญญาจ้างแรงงาน (ร่างมาตรา 11)
ในข้อที่ 6 สภาองค์การนายจ้างฯ ไม่เห็นด้วยที่มีการกำหนดโทษทางอาญา
ข้อเสนอแนะ
ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ไม่เหมาะสมในหลายด้าน ซึ่งการลงทุนในประเภทกิจการค้าและอุตสาหกรรม ที่ต้องมีภาระ
เพิ่มขึ้นทำให้การค้าในประเทศเข้าสู่การแข่งขันได้ยากขึ้นในรูปแบบของกฎหมาย ทำให้การค้าในประเทศเข้าสู่การ
แข่งขันได้ยาก
สมควรให้ใช้มาตรการยืดหยุ่นในการเพิ่มคุณภาพชีวิตในการจ้างแรงงาน โดยให้นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันเอง
ตามความเหมาะสมของสภาพในการทำงานของแต่ละองค์กร จะได้มีการเสริมสร้างสันติสุขในการทำงานได้ดีกว่า
หลักการทำประชาพิจารณ์ขาดความโปร่งใสและไม่ทั่วถึง สามารถอ้างอิงได้ว่า ทางฝ่ายผู้ประกอบกิจการไม่มีส่วนร่วม
ที่เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นในการจัด ร่าง “แก้ไขเพิ่มเติม” พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในครั้งนี้
โดยหลักการปกติแล้ว จะมีผู้แทนจากสภาองค์การนายจ้าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าและคณะ
ต้องเป็นผู้รับภาระทางกฏหมายที่มีผลใช้บังคับในครั้งนี้
เหตุผลที่เป็นสาระสำคัญ ของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ฉบับที่ใช้ปัจจุบันนี้ ได้มีการปรับปรุงแก้ไข
มาแล้วหลายครั้ง จึงเป็นกฎหมายแรงงานที่ใช้บังคับได้เหมาะสมอยู่แล้ว และสอดคล้องกับบทบัญญัติขององค์
การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) อีกด้วย

ทั้งนี้ สภาองค์การนายจ้างได้ร่วมกันลงนามคัดค้านและยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย 

สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (สภา 1)
สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (สภา2)
สภาองค์การนายจ้างสภาอุตสาหกรรมเอ็สเอ็มอี แห่งประเทศไทย (สภา3)
สภาองค์การนายจ้างผู้ค้าและบริการเครื่องอุปโภคบริโภค (สภา4)
สภาองค์การนายจ้างแห่งชาติ (สภา 5)
สภาองค์การนายจ้างธุรกิจไทย (สภา 6)
สภาองค์การนายจ้างไทยสากล (สภา 7)
สภาองค์การนายจ้างการเกษตร ธุรกิจ อุตสาหกรรมไทย (สภา 8)
สภาองค์การนายจ้างธุรกิจ การค้าและบริการไทย (สภา 9)
สภาองค์การนายจ้างไทย (สภา 11)
สภาองค์การนายจ้าง ธุรกิจ และอุตสาหกรรมแห่งชาติ (สภา12)
สภาองค์การนายจ้างธุรกิจอุตสาหการไทย (สภา13)
สภาองค์การนายจ้าง เอส.เอ็ม.อี แห่งประเทศไทย (สภา 14)
สภาองค์การนายจ้างบริการไทย (สภา 15)
สภาองค์การนายจ้างธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว-ภาค 8 (สภา 16)
สภาองค์การนายจ้างเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สภา 17)
สภาองค์การนายจ้างเพื่อการลงทุนแห่งประเทศไทย (สภา 18)

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จิตอาสาบางปูรวมพลัง ร่วมทำความดีถวายพ่อหลวงรัชกาลที่ 6 ครบรอบ 100 ปี วันสวรรคต

เทศบาลตำบลบางปู จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ณ สวนสุขภาพเจริญสุข (วังปลา) ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น.

ที่ สวนสุขภาพเจริญสุข (วังปลา) ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการเทศบาลตำบลบางปู จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” กิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) โดยมีนาย ศุภมิตร ชินศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

ประธานในพิธีกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมด้วยนายธีรพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลบางปู นางสาวปารณีย์ นาคคำ ปลัดเทศบาลตำบลบางปู คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาล ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้าง หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอก ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่เทศบาลตำบลบางปู เข้าร่วมกิจกรรม

วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี หรือที่เรียกว่า “วันวชิราวุธ” และ “วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” โดยรัฐบาล

ได้ประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เป็นการจัดงานเฉลิมพระเกียรติครบรอบ 100 ปี แห่งการสวรรคต ส่วนราชการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อถวายเป็นสาธารณกุศล แสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทั้งนี้ เทศบาลตำบลบางปู ได้สืบสานพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พร้อมปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญในการเป็นจิตอาสาบำเพ็ญ

สาธารณประโยชน์เป็นพลังของชุมชน ต่อไป โดยส่งเสริมให้พนักงานเทศบาล ทุกคน และประชาชนในพื้นที่ มีส่วนร่วมในการดำเนิน กิจกรรมจิตอาสาสาพัฒนา ทำความสะอาดจัดเก็บขยะบริเวณโดยรอบสวนสุขภาพเจริญสุข การตัดแต่งต้นไม้ เก็บขยะวัชพืชทางน้ำ และเก็บขยะทางรถจักรยาน


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง