สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบช.ภ.1 สั่งการ ตร.ภาค 1 รับผิดชอบ 9 จ. กวาดล้างสถานบริการผิดกฎหมายยาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี อาชญากรรมข้ามชาติ ที่เป็นภัยต่อประชาชน

ผบช.ภ.1 สั่งการตำรวจภูธรภาค 1 ในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้ง 9 จังหวัด ระดมกวาดล้างสถานบริการผิดกฎหมายยาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี อาชญากรรมข้ามชาติ และการกระทำผิดกฎหมายที่เป็นภัยต่อประชาชน ทุกกฏหมายทุกประเภทกฎหมายพิเศษเฉพาะทาง

พร้อมเป็นเจ้าภาพหลักและสนับสนุนร่วมในการตรวจระดมกวาดล้างแบบบูรณาการหน่วยงานร่วมกัน รวมใจหน่วยงานความมั่นคงเป็นหนึ่งเดียวกัน จับมือไว้แล้วทำงานไปด้วยกัน พร้อมสายด่วนเเจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 กับระบบควบคุมสั่งการตรวจสอบด้วยระบบเทคโนโยลี เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค 1 และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 1 ควบคุม งานแถลงข่าวและประชาสัมพันธ์ข่าวตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า 1เปิดเผยว่า

ทางด้าน พลตำรวจโท สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ คณะผู้บริหารระดับสูง ได้สั่งการให้ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ก็คือ สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรีพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท ลพบุรีสระบุรี สิงห์บุรี

และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ระดมกวาดล้างและ จับกุม เป้าหมาย ที่มีการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 โดยเฉพาะ สถานบริการต่างๆ ซึ่งเปิดอย่างผิดกฎหมายและ มีเรื่องของยาเสพติดซึ่งทำลาย สุขภาพ ของประชาชน และเศรษฐกิจตลอดจนความมั่นคงของประเทศไทย

โดย หา ดประชาชน ท่านใด พบแต่ความผิดหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับ การกระทำความผิดต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทางภาค 1 สามารถแจ้งได้ที่ที่ทำการของ ตำรวจ ภูธร ณ สถานีนั้นๆหรือจังหวัดนั้นๆหรือสามารถโทรแจ้ง

สายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ได้ทุกที่ทุกจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในระบบจะมีการบันทึกการแจ้ง การกระทำความผิดต่างๆไว้ ด้วยเทคโนโลยีที่จะสามารถ

ตอบรับ การทำงานเข้าช่วยเหลือ เหตุต่างๆของประชาชนหรือรับ เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเบาะแสเพื่อดำเนินการ สืบสวนสอบสวนหาข่าวเข้าไปจับกลุ่ม อย่าง โดยด่วนที่สุดต่อไป

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศุลกากรมุกดาหาร ตรวจยึดยาอี 5 ถุง น้ำหนัก 8 กิโลกรัม

ตามนโยบาย นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ทปษ.ด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนางสาวลลิตา อรรถพิมล ผอ.ศภ.2 ให้เข้มงวดในการตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้สั่งการให้ นายสานุ ศิลปไชย ผอ.สคศ.และนายชวลิต จิระชนากุล ผอ.สบศ. ดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568​ เจ้าหน้าที่ ฝคต. สคศ. ด่านศุลกากรมุกดาหาร นำโดย นายปริญญา ผลมั่ง หน.ฝคต. ร่วมกับฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2​ ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม 2 ส่วนสืบสวนและปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม ร้อย.ทพ.2105​ ฉก.ทพ.21 ชปข.กอ.รมน.ภาค 2 ชุด สท.ที่ 8 (มุกดาหาร) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร้อย.ตชด.234 ด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร  ได้ร่วมกันตรวจสอบกล่องกระดาษ จำนวน 1 กล่อง วางอยู่บริเวณด่านพรมแดนมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดแสดงตนเป็นเจ้าของ ผลการตรวจสอบพบ วัตถุชนิดผง สีส้มแดง จำนวน 5 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 8 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษดังกล่าว ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจเป็นสิ่งของที่มีส่วนผสมหรือมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ จึงได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาตรวจสอบสารเสพติด ผลการตรวจสอบเชื่อได้ว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาอี) กรณีเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252  แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด///ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมาชิก”สุมหัวรักบ้านพ่อ“ร่วม ส่งกำลังใจให้ทหารที่อยู่แนวหน้าปลอดภัยทุกคน จัดกิจกรรมจิตอาสาทำความสะอาดบ้านพ่อ

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30น. นายพิทยา วงศ์สัมฤทธิ์ และ นางสุมิตา วงศ์สัมฤทธิ์เจ้าของบ้านสวยเฟอร์นิเจอร์จังหวัดชุมพร ได้นำกลุ่มสุมหัวทำความดีจำนวน 120 คนจัดกิจกรรมทำความดี ”สุมหัวรักบ้านพ่อ“ประจำเดือนสิงหาคม

ที่ ครัวพอเพียง โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ จังหวัดชุมพร โดยกลุ่มสุมหัวรักบ้านพ่อจะร่วมตัวจัดกิจกรรมทำความดี วันนี้มาทำความสะอาดที่บ้านพ่อเป็นประจำทุกเดือนเพื่อความสวยงามและปรับภูมิทัศน์ให้บ้านพ่อให้มีความสง่าและเชิญชวนให้กับพี่น้องประชาชนทั่วไปได้เข้ามาท่องเที่ยวยังบ้านพ่ออยู่ตลอด

นางสุมิตา วงศ์สัมฤทธิ์ กลุ่มซุ้มหัวรักบ้านพ่อได้จัดกิจกรรมประจำเดือนวันนี้รวมตัวมาทำความดีที่บ้านพ่อจำนวน 120 คนโดยมาทำความสะอาดที่บ้านพ่อและในวันนี้ได้จัดกิจกรรมส่งกำลังใจให้ทหารที่อยู่แนวหน้าปลอดภัยจากภยันอันตรายทุกคนและ
กลุ่มสมหัวทำความดีพร้อมประชาชนชาวจังหวัดชุมพร ขอสดุดีให้กับทหารกล้าทุกคนที่ เสียสละชีพ เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยให้ประชาชนที่อยู่แนวหลังได้อยู่อย่างสุขสบายขอขอบคุณมาก

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชูกิตติวิบูลย์ผู้ว่าฯ.จ.ชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดกิจกรรมกิจกรรม Chumphon Night Run Lighting in the City

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2568 เวลา 18.50 น. ณ บริเวณเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดกิจกรรมกิจกรรม Chumphon Night Run Lighting in the City

ร่วมกับ นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร พ.อ.สิทธิชัย โกศล รอง เสธ. มณฑลทหารบกที่ 44 ดร.สุรินทร์ เหล่าพัทรเกษม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร นายจาฏุพจน์. ไกรมาก ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร นางสุนทรี โพธิ์ทักษิณ วัฒนธรรมจังหวัดชุมพร , หัวหน้าส่วนราชการ

นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำชุมพร นักกีฬาผู้เข้าร่วม และสื่อมวลชน
นายกรวิทย์ ช่วยดู กล่าวการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ1. เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม น่าสนใจ มีเอกลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดชุมพร และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร 2. เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวในเขตเมือง ช่วยเพิ่มระยะเวลาการพำนักของนักท่องเที่ยว 3. เพื่อใช้กิจกรรมกีฬากระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดชุมพร

โดยนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 1,000 คน จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ ประเภท Fun Run และประเภท Fancy ระยะทาง 5 กิโลเมตร ประเภท Mini Marathon ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร กิจกรรมครั้งนี้ ประสบความสำเร็จด้วยดี ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ประกอบด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,เทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร องค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ,

สถานีตำรวจภูธรปากน้ำชุมพร,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร,องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร,โรงพยาบาลวิรัชศิลป์, โรงพยาบาลธนบุรี-ชุมพร,อาสาสมัครทุกท่าน ในครั้งนี้และหน่วยงานที่มิได้เอ่ยนาม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันและ พี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวที่มาร่วมเชียร์และให้กำลังใจในครั้งนี้ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์เปิดเผยว่า งานกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้ประชาชนรักสุขภาพผ่านการออกกำลังกาย แต่ยังเป็นเวทีที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างความสามัคคีในชุมชนอีกด้วยจังหวัดชุมพรเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมที่หลากหลาย และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่น่าหลงใหล งานไนท์รัน

ในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้แสดงศักยภาพของจังหวัดชุมพร ทั้งในด้านการจัดกิจกรรม การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร การต้อนรับนักท่องเที่ยว และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของชุมชนให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้

ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงอาสาสมัครและพี่น้องประชาชนที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของกิจกรรมนี้ สุดท้ายนี้ ขอให้นักวิ่งทุกท่านมีความสุขกับการวิ่งในค่ำคืนนี้ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง และเก็บเกี่ยวความประทับใจกลับไปอย่างเต็มเปี่ยม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / คืบหน้า “ส.ส.อรอุมา” จับมือไฟฟ้าเซกา แก้ปัญหาไฟฟ้าทางการเกษตร

วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอรอุมา บุญศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ เขต 2 พร้อมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาเซกา ลงพื้นที่บ้านโชคอำนวย หมู่ 16 ตำบลท่ากกแดง อำเภอเซกา เพื่อเร่งติดตั้งและขยายระบบไฟฟ้าบริเวณเส้นทางสัญจรในพื้นที่เกษตรกรรม ตามข้อร้องขอของประชาชน

โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการสัญจร และสนับสนุนการทำเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ชาวบ้านจากบ้านศรีอำนวยพร หมู่ 8 และบ้านโชคอำนวย หมู่ 18 ได้ร้องขอให้ ส.ส. ช่วยผลักดันการขยายเขตไฟฟ้าทางการเกษตร นำไปสู่การลงพื้นที่สำรวจร่วมกันระหว่าง ส.ส., กฟภ.สาขาเซกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายรามิล ปฐมบงกฎสกุล หัวหน้าแผนกบริการลูกค้า กฟภ.สาขาเซกา เปิดเผยว่า ถนนเส้นนี้ไม่เคยมีการยื่นเรื่องมาก่อน ขณะนี้ผู้นำชุมชนและ ส.ส. จะเร่งรวบรวมเอกสารจากผู้เดือดร้อนส่งให้ กฟภ. ภายในวันที่ 15 สิงหาคม หลังจากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อขออนุมัติงบประมาณโดยเร็วที่สุด

ด้านนางอรอุมา บุญศิริ ส.ส.บึงกาฬ เขต 2 กล่าวว่า อันดับแรกต้องขอบคุณความร่วมมือทุกฝ่าย การไฟฟ้าเซกา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่สะท้อนปัญหามา รู้สึกดีใจและการไฟฟ้าเซกาก็ตอบรับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที จากการได้พูดคุยกับทางไฟฟ้าเซกาทำให้เราเข้าใจในระบบของการทำงานของการไฟฟ้ามากขึ้นจุดไหนคือจุดไหน

จะได้นำการทำงานในลักษณะนี้มาชี้แจงให้ผู้นำชุมชนพี่น้องประชาชนทราบ ถ้าต้องการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว จะให้ความร่วมมืออย่างไรจัดเตรียมเอกสารอย่างไร หากทำตามที่การไฟฟ้าแนะนำจัดทำเอกสารให้ครบถ้วนตามขั้นตอน ปัญหาต่างๆจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล/บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร. สั่งการผู้บัญชาการศึกษาดูแลการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจ คุมเข้มทุกหน่วยสอบโปร่งใส ไร้ทุจริต

วันนี้ (10 สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการไปยัง พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ให้ดูแลตรวจสอบการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2568

ที่จัดขึ้นในวันนี้ เวลา 13.30 น. ให้คุมเข้มทุกหน่วยสอบทั่วประเทศไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เน้นย้ำต้องเป็นการสอบคัดเลือกที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน หากพบการทุจริตให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย

พล.ต.ท.นิธิธรฯ ขานรับนโยบาย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและกำกับดูแลการเตรียมความพร้อมการสอบคัดเลือก ฯ ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี พร้อมประชุมมอบนโยบาย ข้อห่วงใย และกำชับการปฏิบัติแก่ทุกหน่วยสอบ มติดตามสถานการณ์การสอบผ่านระบบ Zoom Meeting จากกองอำนวยการร่วมฯ

ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ย้ำมาตรการเข้มป้องกันการทุจริตทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้เข้าสอบและสังคม และได้กำชับไปยังทุกหน่วยสอบให้จัดจุดปฐมพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อดูแลอย่างทันท่วงทีกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากแต่ละหน่วยสอบมีผู้เข้าร่วมสอบจำนวนมาก โดยการสอบครั้งนี้จัดโดยกองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.)

ครอบคลุมหน่วยสอบ บช.ศ., ตำรวจภูธรภาค 1-9 และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) รวมทั้งสิ้น 11 หน่วยสอบ เพื่อคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี หรือวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ทั้งในชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน รวมจำนวน 155 อัตรา โดยมีผู้สนใจสมัครสอบในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 65,203 คน

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้กำชับเข้มงวดให้ บช.ศ.กำกับดูแลการจัดการสอบคัดเลือกในทุกหน่วยสอบต้องโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และคุณธรรม เข้าสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพ ซึ่ง บช.ศ.รับนโยบายมาขับเคลื่อนอย่างเคร่งครัด จะไม่ยอมให้มีการทุจริตหรือการเอื้อประโยชน์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงยืนยันมาตรการเข้มข้นในการคัดเลือกบุคลากร พร้อมพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการสอบแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้าราชการตำรวจที่มีคุณภาพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และอุทิศตนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

สมจิตร แสงบัลลังลค์ ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รมต.พงศ์กวิน ระดมทีมช่างกรมพัฒน์ 18 จังหวัด จัดหน่วยบริการ “ซ่อม สร้าง สุข” หลังน้ำลดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน่าน

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ วัดดอนมูล ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกิจกรรม “ซ่อม สร้าง สุข” พร้อมพบปะและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดน่าน

โดยมีนายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดน่าน ว่าที่ร้อยตรีสุเทพ วงศ์วิเศษ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน นายเดชา สงค์ประเสริฐ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน ร่วมให้การต้อนรับ

นายพงศ์กวิน เปิดเผยว่า จากเหตุพายุโซนร้อน “วิภา” ทำให้ฝนตกหนัก น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดน่าน 14 อำเภอ 84 ตำบล 695 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 33,681 ครัวเรือน รวม 90,208 คน พื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 141,795 ไร่ และเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน กระทรวงแรงงานได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งช่วยเหลือ และเมื่อสถานการณ์น้ำลด

จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดทีมช่างจากทั่วประเทศลงพื้นที่ซ่อมแซมบ้านเรือน รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และตรวจเช็กระบบไฟฟ้าภายในบ้าน พร้อมได้รับการสนับสนุนน้ำมันหล่อลื่นจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน และวัสดุไฟฟ้าจากบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด สำหรับภารกิจในวันนี้ ทีมช่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ให้บริการตรวจเช็กและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์จำนวน 300 คัน

ซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตรจำนวน 100 เครื่อง ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 300 รายการ และส่งมอบอุปกรณ์ที่ซ่อมเสร็จแล้วให้แก่ประชาชน รวมถึงสาธิตการประกอบอาหารจานด่วนเพื่อมอบให้ผู้ประสบภัย และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ประสพภัยซึ่งเป็นผู้พิการพร้อมมอบถุงยังชีพและตรวจเช็กความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดทีมช่างจากสถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 หน่วยงาน ครอบคลุม 18 จังหวัด ได้แก่ น่าน นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย ตาก พะเยา ลำพูน อุทัยธานี เพชรบูรณ์ แพร่ กำแพงเพชร แม่ฮ่องสอน พิจิตร สุโขทัย และอำนาจเจริญ โดยสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานน่านยังได้จัดตั้งโรงครัวทำอาหารกล่องเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครแรงงาน และประชาชน

โดยได้เปิดรับลงทะเบียนซ่อมอุปกรณ์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 และได้ดำเนินการซ่อมระหว่างวันที่ 8–9 สิงหาคม 2568 ซึ่งการออกหน่วยบริการครั้งนี้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมอุปกรณ์ สร้างรายได้เสริมจากการฝึกอบรม และเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้านของผู้ประสบภัย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รวบ “หัวเผือกบ้านนา” นักค้ายารายใหญ่พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 5 ล้านบาท / สนธิกำลังสแกนยาเสพติด ตามมาตรการสัปดาห์สีแดง

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ชุมพร สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน

ภาค 8 ร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.บ้านนา โดยสามารถจับกุม นายหัวเผือก (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ค้ายาเสพติดตัวการสำคัญ พร้อมยึดทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

ข่าวแจ้งว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายหัวเผือก หรือที่รู้จักในฉายา “หัวเผือกบ้านนา” เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับเยาวชนอายุระหว่าง 16-20 ปีในพื้นที่ จ.ชุมพรมาเป็นเวลานาน แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลายครั้งแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากนาย

หัวเผือกไม่ได้เสพยาเสพติดจึงไม่สามารถจับกุมได้ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับในข้อหา “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” ซึ่งศาลจังหวัดชุมพรได้อนุมัติหมายจับในที่สุด

จากนั้นใน เวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี พร้อมชุดสืบสวนภาค 8 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมนายหัวเผือกได้ที่บ้านพักหลังใหม่ในพื้นที่ ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมยึดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่า

ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย บ้าน 1 หลังพร้อมที่ดิน รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ทองคำหนัก 5 บาท เงินสด 120,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้กว่า 5 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายหัวเผือกพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สนธิกำลังสแกนยาเสพติด ตามมาตรการสัปดาห์สีแดง


ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร นายปารเมศ เห้งสวัสดิ์ นายอำเภอพะโต๊ะ

นายกิตติพงศ์ อินทรสุวรรณ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันมอบหมายให้ นายจักรกฤษณ์ มุณีน้อย เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.นายศุกรกานต์ ทิพย์บุญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.ร้อย อส.อ.พะโต๊ะ 8

กำนันต.ปังหวาน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติการค้นหาผู้เสพ ผู้ติด และผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray) ในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ตามมาตรการ “สัปดาห์สีแดง” (Intensive Days Screening Week) และการขับเคลื่อนนโยบายร่วมเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers”

เพื่อสร้างชุมชนปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ พบผู้เสพยาติดจำนวน 6 ราย จึงร่วมกันนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำ ต.ปังหวานต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สนง.ตำรวจแห่งชาติ จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดคอร์ส “รู้ทันภัยไซเบอร์” บน Thai MOOC เรียนฟรี พร้อมรับ 1 หน่วยกิต / ผบช.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ประชุมมอบนโยบาย แก่รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ หัวหน้า สภ. ในสังกัด

ภารกิจผู้บังคับบัญชาวันนี้ ( 9 ส.ค. 68 )เวลา 13.00 น.ภ.จว.ปทุมธานีพล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติรอง ผบช.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานีประชุมมอบนโยบายบริหารราชการ แก่รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ หัวหน้า สภ. ในสังกัด ภ.จว.ปทุมธานี โดยได้มีข้อราชการกำชับการปฏิบัติของกำลังพล ดังนี้

🔸1. ให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัย ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ และให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดมีความรัก สามัคคี ในหมู่คณะ

🔸2. กวดขันจับกุมและป้องกันลักลอบเล่นการพนัน สถานบริการ กำชับตำรวจไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือ เรียกรับผลประโยชน์

🔸3. ให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัด เร่งรัดและเข้มงวดกวดขันการตรวจสอบสถานบริการ ให้กำหนดเวลาปิด–เปิด ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ,ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด เข้าใช้บริการโดยเด็ดขาด และหากมีการมั่วสุมยาเสพติดทุกประเภท ภายในสถานบริการ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนทั้งผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง

🔸4. ให้ดำเนินการตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” ของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในทุกมิติ และทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด

“บิ๊กหน่อง/พล.ต.ต..ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เรียกประชุมมอบนโยบายการปฎิบัติ งานของตำรวจในสังกัด หลัง มารักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ” พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 และหัวหน้าฝ่าย อำนวยการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบงานแถลงข่าว และประชาสัมพันธ์ข่าวเปิดเผยว่า

สนง.ตำรวจแห่งชาติ จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดคอร์ส “รู้ทันภัยไซเบอร์” บน Thai MOOC เรียนฟรี พร้อมรับ 1 หน่วยกิต

วันนี้ (9 สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านระบบ Thai MOOC ภายใต้ชื่อ “รู้ทันภัยไซเบอร์” เพื่อยกระดับความรู้และทักษะในการป้องกันภัยคุกคามจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน

หลักสูตรนี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจพฤติกรรมของมิจฉาชีพออนไลน์ วิเคราะห์รูปแบบการโจมตี และเรียนรู้วิธีการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับใบประกาศนียบัตร และนับเป็นหน่วยกิตทางวิชาการได้ 1 หน่วยกิต โดยหลังสูตรดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รองผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ตอท. บช.สอท.) , พ.ต.อ.เกรียงไกร พุทไธสง ผู้กำกับการ กลุ่มงานสนับสนุนทางไซเบอร์ บก.ตอท.บช.สอท. และ พ.ต.ต.พากฤต กฤตยพงษ์ สารวัตรฝ่ายอำนวยการ บก.สอท.2

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่สามารถนำไปเทียบโอนเป็นหน่วยกิตในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้กับตนเองและครอบครัว สมัครเรียนฟรีผ่านระบบ Thai MOOC เว็บไซต์ https://thaimooc.ac.th คลิกเลือกหมวดหมู่รายวิชา “ทักษะชีวิตและการพัฒนาตนเอง” จากนั้นคลิกเลือกวิชา “อาชญากรรมทางเทคโนโลยีเบื้องต้น” หรือคลิกลิงก์ https://learn.thaimooc.ac.th/courses/course-v1:CU+00868+0/about

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายก.อบจ. ส่งแบคโฮ 3 คัน ผลักดันเรือมุกดาหารปริ้นท์เซสที่เกยตื้น กลับลงแม่น้ำโขง สำเร็จ / พี่ชายคลั่ง! ยิงดับน้องชายแท้ ๆ 5 นัด เหตุ “เมาแล้วชอบหาเรื่องขัดแย้ง”

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 สืบเนื่องจากเกิดเหตุเรือ “มุกดาหารปริ้นท์เซส” เกยตื้นบริเวณบันไดอาคารท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร ต่อมา นายภูมินทร์ สิเนหะวัฒนะ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร จึงได้ประสานความร่วมมือกับนายว

รายุทธ สงวนพวก เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ขอสนับสนุนรถแบคโฮของ อบจ.มุกดาหาร จำนวน 3 คัน เข้าทำการผลักดันเรือที่ติดอยู่กับพื้นถนนคอนกรีตเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง หน้าตลาดอินโดจีนมุกดาหาร

การปฏิบัติงานดำเนินไปในช่วงกลางคืน ท่ามกลางการทำงานอย่างระมัดระวังของเจ้าหน้าที่ โดยมีนายอดุลย์ ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองมุกดาหารร่วมปฏิบัติการด้วย

จนสามารถดันเรือหลุดออกจากฝั่งและลอยกลับลงสู่แม่น้ำโขงได้สำเร็จ ก่อนเคลื่อนย้ายไปจอดที่ท่าเทียบเรือถนนสำราญชายโขงเหนือ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร เพื่อความปลอดภัย

มุกดาหาร #เรือมุกดาหารปริ้นท์เซส #แม่น้ำโขง #กู้เรือ #ข่าวมุกดาหาร #องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร #เทศบาลเมืองมุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

พี่ชายคลั่ง! ยิงดับน้องชายแท้ ๆ 5 นัด เหตุ “เมาแล้วชอบหาเรื่องขัดแย้ง”

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.ประยุทธ​ เรือน​ทองคำ​ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 8 บ้านโคกสูงน้อย ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงสั่งการให้

พ.ต.ท.กิตติวัฒน์ คนหาญ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองมุกดาหาร เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพ นายอาทิตย์ อินธิแสน อายุ 42 ปี นอนตายใต้ถุนบ้าน บนโต๊ะแคร่ ถูกยิงด้วยปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด .32 จำนวน 5 นัด เข้าที่ลำตัว เสียชีวิตคาที่ ในลักษณะนอนหงาย

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายวุธ อินธิแสน อายุ 48 ปี พี่ชายแท้ ๆ ของผู้ตาย นั่งรอมอบตัวพร้อมอาวุธปืนของกลาง เบื้องต้นรับสารภาพว่าเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว เนื่องจากผู้ตายมักดื่มสุราจนเมาและก่อเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้งแล้วเอาอาวุธ

ปืนออกมาโชว์ ตนจึงบอกให้เอาไปเก็บโต้เถียงกันไปมา แล้วแย่งปืนกัน จนบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงน้องชายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง