สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ททท.เพชรบุรี ชวนเที่ยวงานฤดูหนาวพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน วาระ 100 ปี ตลอดเดือน ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.67 นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี เปิดเผยว่า ด้วยพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (ค่ายพระรามหก) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี กำหนดจัดงานฤดูหนาว พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน วาระ 100 ปี ณ สโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ทุกวันเสาร์ตลอดเดือนธันวาคม 67

เริ่มวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.67 เวลา 16.00 น.-18.00 น. ขอเชิญชมการแสดงกีต้าร์ Magical Melodies โดยศิลปิน ฮัคกี้ ไอเคิ้ลมานน์ (Hucky Eichelmann) มาบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และท่วงทำนองของไทยอื่นๆ พร้อมกับการอ่านบทพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา จากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบดนตรี (Madanabadha Suite) โดยศิลปินรับเชิญ ภัทราวดี มีชูธน (ศิลปินแห่งชาติ) อานันท์ นาคคง (ศิลปินศิลปาธร) อาทิตย์ ชีรวณิชย์กุล (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

วันเสาร์ที่ 14 ธ.ค.67 เชิญชมการแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ราชนาวี 25 ชิ้น (วง Light Music) กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ โดยการสนับสนุนของกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ร่วมด้วยกรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ ณ ท้องพระโรง พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน / เวลา 13.30 น. เปิดหน้าม่านโดยการแสดงลำตัดคณะลำตัดวงรากไทย โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จ.เพชรบุรี / เวลา 15.00 น.- 17.00 น. วงดุริยางค์ราชนาวี วันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.และวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.67 ชมการแสดงของสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา บทเพลงจากคีตนิพนธ์ร่วมสมัย รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเปิดโรง การขับเสภาและการอ่านทำนองเสนาะบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย กวินภพ ทองนาค (นิสิตปริญญามหาบัณฑิต จุฬาฯ) บทเสภาสามัคคีเสวก โคลงอารัมภกถาพระนลคำหลวง มงคลสูตรคำฉันท์ สยามานุสสติ สลับกับการอธิบายที่มาและความหมายของแต่ละบทโดย รศ.ดร.อาทิตย์ ชีรวณิชย์กุล (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ)

วันเสาร์ที่ 28 ธ.ค.67 ชมการแสดงของมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเปิดโรง วงดนตรีผู้หญิงล้วนแห่งเมืองเพชรบุรี ทั้งนี้การเข้าพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน บริจาคค่าเข้าชมตามอัตราปกติ ร่วมชมการแสดงไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสนับสนุนกิจกรรมโดยบริจาคสมทบทุนเพื่อการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี (ด้านดนตรีและการแสดง) มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตามจิตศรัทธา ติดต่อจองที่นั่งในท้องพระโรงในกล่องข้อความเพจ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน / Mrigadayavan Palace
ททท.สำนักงานเพชรบุรี จึงขอเชิญผู้ที่สนใจและนักท่องเที่ยวมาร่วมฟังดนตรีทุกบ่ายวันเสาร์ของเดือนธันวาคม 67 แล้วมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากร้านค้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รายได้เพื่อการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ให้คงอยู่สืบไป.

นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐนิวส์ / เวทีประชาธิปัตย์เดโมแครต ฟอรั่มแนะรัฐขจัดการผูกขาดลดทุจริตเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติปชป.เสนอ7นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเพิ่มศักยภาพประเทศลดเหลื่อมล้ำแก้จน

ในการจัดเสวนา เดโมแครต ฟอรั่ม (Democrat Forum) ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ “ขจัดการผูกขาด: ปฏิรูปเศรษฐกิจลดเหลื่อมล้ำแก้จน”
ที่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้เป็นการนำเสนอแนวทางในการขจัดการผูกขาดเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จากหลายหน่วยงาน อาทิ ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรมช.มหาดไทย ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ผศ. ดร. พรเทพ เบญญาอภิกุล ผู้อำนวยการโครงการเศรษฐศาสตร์บัณฑิต หลักสูตรนานาชาติ รศ. ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีนายพลีธรรม ตริยะเกษมทำหน้าที่พิธีกร

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นตัวแทนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน)เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษว่าการผูกขาดทางเศรษฐกิจเป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำและความยากจนของประเทศ
ตัวอย่างเช่นประเทศจีน ประธานาธิบดีสีจี้นผิงดำเนินการปราบทุจริตคอรัปชั่นอย่างเฉียบขาดและตั้งแต่ปี 2564 ได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาการผูกขาด และปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยให้เจ้าหน้าที่รัฐมุ่งต่อต้านการผูกขาดเพื่อนำไปสู่การแข่งขันที่เป็นธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมาย ‘ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน’ และลดความเหลื่อมล้ำที่พุ่งสูงขึ้นมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา แม้จะเป็นประเทศมหาอำนาจทั้งทางทหารและเศรษฐกิจแต่ก็ยังเผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ และประธานาธิบดีโจ ไบเดนถึงกับประกาศความเร่งด่วนในการแก้ปัญหาดังกล่าวเพราะคนระดับกลางหรือคนส่วนใหญ่ไม่สามารถสร้างฐานะได้เหมือนคนรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่กลุ่มรวยสุด 1% ของอเมริกากอบโกยประโยชน์ทางเศรษฐกิจ คิดเป็น 21% ของ GDP ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ของ GDP เมื่อปี 1979
ในขณะที่World Bank และ IMF ได้จัดสัมมนาประจำปี 2021 เรื่อง Taxation of the Wealthy in Developing Countries เพื่อมุ่งแก้ปัญหาความร่ำรวยสุดขั้วที่กระจุกอยู่บนยอดปิรามิด อันเป็นปัญหาร่วมที่รุนแรงมากขึ้นในหลายประเทศกำลังพัฒนา เพราะคนรวยสุด 10% ทั่วโลก ถือครองความมั่งคั่งในประเทศเฉลี่ย 60-80% แต่คนฐานะ 50% ล่างของสังคม ถือครองเพียงแค่ 5% ของความมั่งคั่ง

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยพบว่า
สินทรัพย์ของคนทั้งประเทศไทยมากกว่า 2ใน3กระจุกอยู่กับกลุ่มคนรวยที่มีสัดส่วนเพียง 10% ของประชากรทั้งหมด
คนไทย 10% หรือประมาณ 7 ล้านคน ยังมีชีวิตอยู่ใต้เส้นความยากจน
คนไทยมากกว่า 3 ใน 4
ไม่มีที่ดินของตัวเอง
โฉนดที่ดิน 61% ของประเทศไทยอยู่ในมือประชากร 10%

ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก 
และเป็นประเทศที่มีการกระจายรายได้ไม่เป็นธรรมสูงมาก อยู่ลำดับที่ 162 จาก 174 ประเทศ
“กฎหมายสู้ทุนผูกขาดไม่ได้
เรามีกฎหมายหลายฉบับเกี่ยวกับการป้องกันการค้ากำไรเกินควร ป้องกันการผูกขาด ซึ่งกฎหมายป้องกันผูกขาดมีมาตั้งแต่ปี2522 และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกพรบ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 และต่อมามีการปรับปรุงเป็น ฉบับแก้ไขพ.ศ.2560 ปรากฎว่า ไม่มีแม้แต่คดีเดียว ที่เกิดข้อพิพาทนำคดีขึ้นสู่ศาล จากการแข่งขันไม่เป็นธรรม 
จนประเทศไทยเป็นประเทศเสรีในการผูกขาด”
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า วันนี้
ทุนผูกขาดได้เข้ามามีอิทธิพลต่ออำนาจรัฐ เข้ามามีอิทธิพลสนับสนุนพรรคการเมืองจนท้ายที่สุดลงมาเล่นการเมือง มีตำแหน่งทางการเมืองด้วย จนต้องตั้งคำถามว่าปัญหาเหล่านี้จะสามารถจบลงในรุ่นเราได้หรือไม่ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่รับทุนสามานย์ผูกขาดทางการเมือง จึงมีการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนบริจาคภาษี 001 เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองที่เป็นอิสระไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนผูกขาด ทุนสามานย์ ทุนสีเทาทั้งหลาย และเป็นการบริจาคอย่างโปร่งใส เพื่อให้พรรคการเมืองนำเงินบริจาคดังกล่าวไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป

นายอลงกรณ์ยังนำเสนอแนวนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในการขจัดการผูกขาดลดความเหลื่อมล้ำประกอบไปด้วย การส่งเสริมระบบเศรษฐกิจเสรีที่เป็นธรรม การปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำ ปรับปรุงกฎหมายแข่งขันทางการค้า การกระจายอำนาจให้เป็นธรรมและทั่วถึง จำกัดการถือครองที่ดิน และการกำจัดคอรัปชั่นทุกรูปแบบ
ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า การผูกขาดเกิดขึ้นมานานตั้งแต่ในอดีต มีมหาเศรษฐีในประเทศไม่กี่ราย มาในยุคที่อำนาจทหารเรืองรองมีการตั้งรัฐวิสาหกิจขึ้นมามากมายถึง 140 แห่ง แม้วันนี้จะถูกแปรสภาพไปหมด แต่รัฐวิสาหกิจไทยในขณะนั้นได้ใช้ทรัพยากรของรัฐไปเป็นจำนวนมาก แต่ผลประโยชน์ไปตกอยู่กับผู้มีอำนาจและกลุ่มนายทุนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

“คนไทยในอดีตหากอยากรวย ถ้าไม่กอดปืนก็ต้องกอดคนมีอำนาจในขณะนั้น การกอดปืนหรือกอดอำนาจมีมาจนถึงทุกวันนี้เพียงแค่รูปแบบลดความชัดเจนลง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมากระบอกปืนกลับมามีอำนาจจึงเห็นกลุ่มคนที่มีอำนาจไปกอดปืนอีกรอบหนึ่ง ทำให้มีคนบางกลุ่มร่ำรวยแบบก้าวกระโดด ซึ่งหากดำเนินการตรวจสอบในวันนี้จะเห็นว่าหลายกลุ่มได้งานสัมปทานของรัฐแบบผิดกฎหมาย” ดร.มานะ กล่าว

พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า ธุรกิจที่เข้าสู่การผูกขาดจะมีลักษณะดังต่อไปนี้ มีอัตราการขยายตัวของ product ต่ำ มีศักยภาพการผลิตของอุตสาหกรรมต่ำเกินความเป็นจริง มียอดการส่งออกต่ำเนื่องจากมีฐานในต่างประเทศน้อย และมีการลงทุนต่ำเกินจริงเนื่องจากมีรัฐอุดหนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองน้อย แต่จะใช้สิ่งที่มีอยู่เพื่อกอบโกยเงินของหลวงให้มากที่สุด จากปรากฏการณ์ดังกล่าวถือเป็นการทำลายศักยภาพการพัฒนาประเทศ จนเกิดเป็นกับดักทางรายได้ของประเทศ เนื่องจากผลประโยชน์ไปตกอยู่กับคนกลุ่มเดียว

ด้าน ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง คุณภาพชีวิตของคนไทยวันนี้พัฒนาต่ำลง ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันให้กับชีวิต ที่ผ่านมาจากเหตุการณ์รถบัสไฟไหม้ ไปจนถึงสะพานถล่ม ทั้งที่ลาดกระบัง และล่าสุดพระราม 2 ล้วนเป็นภัยที่เริ่มใกล้ตัวมากกว่าที่คิด วันนี้ภาคประชาชนจึงได้เสนอกฎหมายความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อมีคนกลางเข้ามาทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ

“ผมอยากใช้เวทีนี้ซึ่งเป็นเวทีที่ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่เป็นการทำเวทีเพื่อให้บ้านเมืองหลุดพ้นเรื่องความเหลื่อมล้ำ เรื่องคอรัปชั่น จึงอยากให้มาร่วมกันสนับสนุนพระราชบัญญัติเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ให้เกิน 10,000 ชื่อ เพื่อให้มีเจ้าภาพคนกลางที่จะลงไปดูติดตามรายงานตรวจสอบและป้องกัน จะได้รู้สักทีว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุอะไร” ศ. ดร.สุชัชวีร์ กล่าว

ด้าน ผศ. ดร.พรเทพ เบญญาอภิกุล ผู้อำนวยการโครงการเศรษฐศาสตร์บัณฑิต หลักสูตรนานาชาติ ระบุว่า ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ จึงเห็นว่าการแข่งขันจะช่วยเพิ่มการจัดสรรทรัพยากร เป็นการเปลี่ยนจากตลาดผูกขาด เป็นตลาดแข่งขันจะทำให้ราคาสินค้ามีแนวโน้มถูกลง ทั้งเป็นการกระจายผลประโยชน์ ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้

นอกจากนี้ ผศ. ดร.พรเทพ ได้ยกตัวอย่างปัญหาการดำเนินการของ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) ขาดการทำงานเชิงรุกเพื่อยับยั้งป้องกันหรือเยียวยาผลกระทบการกระทำอันไม่เป็นธรรมทางการค้าผู้บริโภคไม่สามารถใช้สิทธิ์ในการร้องเรียนโดยตรงได้ ทั้งยังขาดศักยภาพทางวิชาการและแรงจูงใจ ดังนั้นเพื่อการกำกับดูแลการแข่งขันของไทยให้มีประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงบทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับการแข่งขันทางการค้า ตลอดจนพิจารณาเรื่องบทลงโทษทางอาญาด้วยเนื่องจากกระบวนการทางอาญาที่ใช้เวลานาน อีกนัยหนึ่งก็สามารถเป็นอุปสรรคในการกำกับดูแลเช่นกัน

สำหรับ รศ. ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้ระบุว่า อำนาจกับผลประโยชน์อยู่คู่กันมาโดยตลอด และมีพัฒนาการจากเดิมที่อำนาจและประโยชน์ทางเศรษฐกิจอยู่ในกลุ่มทหาร ปัจจุบันจะเห็นว่ากลุ่มทุนได้ย้ายมาอยู่เบื้องหลังพรรคการเมือง และสื่อมวลชน นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าไม่ได้มีแต่การผูกขาดเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังมีการผูกขาดทางการเมือง ไปจนถึงการผูกขาดทางทรัพยากร และลุกลามไปถึงการผูกขาดในกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย

รศ. ดร.เจิมศักดิ์ ยังได้ตั้งคำถามถึงผู้มีอำนาจในปัจจุบันว่า เมื่อพวกเขาเติบโตมาจากการผูกขาดการค้า ก็ย่อมจะเห็นประโยชน์ของการผูกขาด เมื่อผู้นำไม่รังเกียจการผูกขาด วิธีหนึ่งที่ทำได้คือการแจกเงินคนจน ซึ่งวิธีดังกล่าวยังเป็นการตอกย้ำระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทย จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากเรื่องความเหลื่อมล้ำที่เกิดจากการผูกขาดโดยรัฐแล้ว ยังมีปัญหาซ้ำเติมในเรื่องความเหลื่อมล้ำ และในอนาคตอันใกล้เมื่อประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จึงไม่ต่างจากระเบิดเวลาที่กำลังจะทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้

ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการสัมมนา ยังมีการเปิดเวทีให้ผู้เข้าชมได้แสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ อาทิ ดร.เพ็ญจันทร์ ล้อสีทอง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง นายปรพล อดิเรกสาร นายราม คุรุวาณิชย์ นายเมฆินทร์เอี่ยมสอาด กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิทเป็นต้น

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/ เรือนจำนราธิวาสนำผู้ต้องขังร่วมด้วยช่วยกันลงพื้นที่มอบน้ำดื่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.นราธิวาส

วันนี้ (2 ธันวาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามนโยบายของพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีนโยบายให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสหการ เพชรนรินทร์ ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส นำโดยนายสุรินทร์ จันทร์เทพ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส นำเจ้าหน้าที่ในสังกัดจำนวน 10 นาย และผู้ต้องขังกองงานสาธารณประโยชน์จำนวน 10 คน ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

ณ ศูนย์อพยพ วัดโคกงู ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่โดยรถทุกประเภท ต้องเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง แต่จำเป็นจะต้องเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือโดยได้ขึ้นเครื่องจักรทางการเกษตรของชาวบ้านเพื่อเข้าไปให้กำลังใจและนำน้ำดื่มไปให้กับผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 100 แพ็ค โดยมีเจ้าอาวาสวัดโคกงู เป็นตัวแทนผู้รับมอบ

สำหรับการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ สร้างความดีใจให้กับผู้ที่อพยพณ ศูนย์อพยพเป็นอย่างมาก โดยศูนย์ดังกล่าวมีผู้อพยพเข้าอาศัยอยู่ประมาณ 30-50 ครัวเรือนเนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตในบ้านของตนเองได้มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 – 3 เมตร และตามนโยบายดังกล่าว เรือนจำจังหวัดนราธิวาสจะเข้าไปยังพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยตามพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ผู้ต้องขังทุกคนได้ร่วมทำความดีเพื่อสังคม สร้างความภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าในตนเองในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น สร้างทัศนคติที่ดี เตรียมพร้อมทั้งกายและใจในการกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
//////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีทรงเปิดงาน โครงการหลวง 2567 ” ใต้ร่มพระบารมี 55 ปี

วันที่ 1 ธันวาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ The Royal Project Interbational Conference: From Alternative Development to Sustainable Development Goals และ

งานโครงการหลวง 2567 “Hats on Hills ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี 55 ปี โครงการหลวง โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

พร้อมด้วย นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 และคณะผู้บริหารสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนพสกนิกร เข้าร่วมรับเสด็จ ณ ห้องประชุม 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่…

บริษัทออแกไนซ์จัดงาน ขายพื้นแพงๆ เดือดร้อนผู้เช่า งานกาชาด จ.เชียงราย 25 มค. ถึง 5 กพ. 2568

.ที่นี่เชียงรายกลุ่มผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับผู้ประกอบการนอกพื้นที่จังหวัดเชียงรายบริษัทออแกไนซ์จัดงานโดยมีการใช้พื้นที่ส่วนรวมจัดล็อคขายของเกินความเป็นจริงทำให้พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่เชียงรายที่ทำการประกอบการค้าขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวและที่ผ่านมาต้องประสบภัยน้ำท่วมทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสโดยหวังว่าจะได้โอกาสจัดงานประเพณีประจำปีเป็นช่องทางหารายได้เลี้ยงครอบครัวแต่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ขายของ

ได้สืบเนื่องจากผู้ประกอบการนอกพื้นที่มาดำเนินการและผูกขาดในงานแต่ละครั้งที่ผ่านมาและมีการแบ่งพื้นที่ขายของในราคาสูงเกินความเป็นจริงสร้างความเดือดร้อนกับพ่อค้าแม่ค้าชาวเชียงรายยากจนและทุนน้อยในพื้นที่ถูกปิดกั้นโดยปริยายตัวอย่างเช่นประเพณีลอยกระทงที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างถิ่นได้ใช้พื้นที่ในส่วนของสนามฝึกรดตั้งเวทีคอนเสิร์ตจำหน่ายเหล้าเบียร์ใช้พื้นที่ถนนและลานออกกำลังกายบริเวณเดียวกันที่ผู้รับเหมาส่งมอบพื้นที่ให้กับเทศบาลนครเชียงรายเป็นสมบัติส่วนรวมทุกคนมาจับล็อคขายของ

ในราคาเมตรละ 4-5,000 บาทนอกจากนี้ได้ซอยแบ่งให้กับผู้รับเหมาอีกทอดหนึ่งนำไปจัดเพราะในราคาสูงทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อพ่อค้าแม่ค้าในท้องถิ่นจังหวัดเชียงรายบางรายต้องทนกับการเช่าล็อคแบบจำใจไม่มีทางเลือกอื่นมีประการหนึ่งเป็นที่ตั้งข้อสังเกตผู้เช่าพื้นที่ราชการไปนั้นไม่มีหน่วยงานใดออกมาชี้แจงเงินรายได้โดยเฉพาะเทศบาลนครเชียงรายแต่ละปีที่ผ่านมาโดยมีการชี้แจงบ้านเงินค่าเช่าเหมางานได้ตกอยู่

ในหน่วยงานใดและได้ขออนุญาตจัดงานจากหน่วยงานใดใครเป็นผู้รับผิดชอบรวม ถึงจอดรถหน่วยงานใดรับผิดชอบอันหนึ่งมีคนมีสี.เข้าไปเกี่ยวข้องอ้างตัวเป็นผู้รับเหมางานและอ้างตัวเป็นผู้รับผิดชอบมักอ้างคำว่านายไม่ทราบว่าเป็นผู้มีอำนาจใดๆดำเนินการใช้ระยะเวลานานผิดปกติเกินประเพณีทั่วไปในการจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินความเป็นจริงสืบเนื่องจากเพราะขายของแพงสินค้าก็ต้องแพงไปด้วยใช่หรือไม่ดังนั้นประเพณีลอยกระทงที่ผ่านมาเป็นประเพณีที่ให้ความสุขแต่สร้างความทุกข์มากกว่าสร้างความสุขส่งผลกระทบต่อกระเป๋าของประชาชนทราบว่าเงินเหมางานมียอดสูงถึง 4 ล้านบาท

ก็ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่มือใครข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตรวจสอบตรวจสั่งการแก้ไขปัญหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่าในขณะนี้มีผู้รับเหมาจากนอกพื้นที่เข้ามารับจัดงานพ่อขุนเม็งรายมหาราชงานกาชาดประจำปี 68 และมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 25 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568

มีการลงสื่อออนไลน์เป็นที่เรียบร้อยโดยถือว่ามีการปิดกั้นคนจังหวัดเชียงรายและประชาชนในพื้นที่บั่นทอนขวัญและกำลังใจเป็นอย่างมากหรือว่าคนเชียงรายไม่ได้รับความเป็นธรรมกับเรื่องดังกล่าว..พร้อมด้วยผู้จัดงานหรือผู้ได้รับความเดือดร้อนได้ส่งหนังสือไปยังผู้ว่าจังหวัดเชียงราย…โดยมีนายประเสริฐจิตรพลีชีพรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นคนรับเรื่องดังกล่าว …และหาแนวทางแก้ไขต่อไปเท่าที่ทราบมาว่างานนี้ผู้ได้รับความเดือดร้อนบอกว่าไม่ได้มีการประมูลงานใดๆทั้งสิ้น.
..#สมจิตร แสงบัลลังก์
..ทีมข่าวภาคเหนือรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นบ.ยส.24 จับยาเชิงรุก ยึดยาบ้าเกือบ 25 ล้านเม็ด ไอซ์พุ่ง 1.19 ตัน

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เปิดสถิติการจับกุม ตรวจยึดยาเสพติดในรอบ 2 เดือน (1 ต.ค.- 30 พ.ย.67)

พบมีการจับกุมผู้กระทำความผิดต่อเนื่อง เพื่อดำเนินคดี 366 ราย ถือเป็นวาระเร่งด่วนของ กองทัพภาคที่ 2 ได้ขับเคลื่อนทุกมิติอย่างจริงจังในด้านการปราบปราม ซึ่งมี นบ.ยส.24 เป็นหน่วยงานหลักในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ

สำหรับมาตรการการปราบปราม มีผลการปฏิบัติงานรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ตรวจยึดยาบ้าได้ทั้งหมด 24,855,578 เม็ด โดยปริมาณการตรวจยึดยาบ้า เดือนตุลาคม 2567 จำนวน 8,015,037 เม็ด ในเดือนพฤศจิกายน 16,840,541 เม็ด (โดยมียอดการตรวจยึดยาบ้าเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม

จำนวน 8,825,504 เม็ด) ส่วนไอซ์ ตรวจยึดของกลางได้ 1,193.55 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบปริมาณการตรวจยึดไอซ์ ช่วงเดือนตุลาคม 2567 จำนวน 648 กิโลกรัม ในเดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวน 545.548 กิโลกรัม (โดยมีการตรวจยึดไอซ์ลดลงจากเดือนตุลาคม จำนวน 102.452 กิโลกรัม)


ทั้งนี้ ภายใต้การบริหารราชการ ของ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วน นบ.ยส.24 จึงได้ประสานความร่วมมือ กับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จังหวัดภาคอีสาน

เพื่อบูรณาการ การทำงานอย่างเป็นระบบ และสร้างการรับรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ให้ทราบถึงปัญหาและเป้าหมายที่ต้องการ คือการปราบปรามยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งผู้ค้ารายย่อย ผู้เสพ ลดความรุนแรงของอาชญากรรมทุกประเภท และสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาให้แก่พี่น้องประชาชนกองทัพบกRoyalThaiArmy

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/ กราบสักการะพระอกแตก พระพุทธรูปเก่าแก่ ที่ทรงคุณค่าของชาวอุตรดิตถ์

ที่วัดบ้านแก่งใต้ หมู่ที่ 3 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ชาวบ้านได้นำดอกไม้ ธูปเทียน พวงมาลัย เข้ากราบสักการะองค์หลวงพ่อเพชรหรือพระอกแตก ภายในพระอุโบสถของทางวัด เมื่อเข้าไปภายในพระอุโบสถจะพบภาพวาดบนฝาผนั่ง เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของพระพุทธเจ้า

เป็นภาพวาดที่สวยงาม และภายในพระอุโบสถจะมีพระประธานชื่อว่า หลวงพ่อเพชร หรือ พระอกแตก เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ตั้งเด่นสง่าดูสวยสดงดงาม (สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏ) ซึ่งความโดดเด่นของหลวงพ่อเพชรก็คือ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเพชรองค์สีทองเหลือง บริเวณพระอุระ(ทรวงอก) จะมีพระพุทธรูปอีกองค์ซ้อนอยู่

พระครูปัญญาวัชรกิจ เจ้าอาวาสวัดบ้านแก่งใต้ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณปี 2555 พระประธานเกิดการชำรุด ชาวบ้านจึงให้ช่างจากจังหวัดพิจิตรเข้ามาซ่อมแซมพระประธานแห่งนี้ แต่ซ่อม

ไปซ่อมมาก็พบว่ามีปูนจำนวนมากร่วงลงมาบริเวณท้องของพระประธาน และก็ค้นพบว่ามีเศียรพระพุทธรูปอีกองค์ซ้อนอยู่ข้างในตรงพระอุระ (ทรวงอก) จึงทำให้ขนานนามกันว่า เป็นพระอกแตก โดยที่ไม่รู้ที่มาที่ไปว่าใครเป็นคนเอาพระใส่เข้าไปและมีกุศโลบายเกี่ยวกับพระนี้อย่างไร

นอกจากนี้พระอกแตกก็ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า พระพุดซ้อน ซึ่งก็ตรงกับลักษณะก็คือ มีพระสององค์ซ้อนกันในองค์เดียวนั่นเอง ขนาดของพระองค์นี้อยู่ที่ 3.8 เมตร และสูงกว่า 4.5 เมตร เรียกได้ว่าเป็นพระศูนย์รวมใจของชาวอุตรดิตถ์ และใครที่แวะเวียนผ่านมาก็ต้องมาแวะสักการะกันสักครั้ง

ภายหลังจากที่ชาวบ้านได้กราบสักการะหลวงพ่อเพ็รชหรือพระอกแตกแล้วต่างก็ได้พากันไปสักการะรูปปั้นของพระยาพิชัยดาบหัก ขนาดความสูง 1.เมตร 80 เซนติเมตร ที่ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านในพื้นที่และไกล้เคียงมักจะนำพวงมาลัย ดอกกุหลาบแดง น้ำแดง มาสักการะขอพรท่านเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่การงานกับท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหักที่นี้กันเป็นประจำ

วัดบ้านแก่งใต้ #อุตรดิตถ์

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /’สุเทียน’ จี้สอบ อ.เมืองมุกดาหาร ทำหลักฐานให้คนเดียวกันมี 2 เลขที่บัตร ปชช.

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ร้อยตำรวจตรี สุเทียน ทองโสม ประธานชมรมรักษ์มุกดาหาร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่อำเภอเมืองมุกดาหาร ได้จัดให้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน บ้านคำอาฮวน หมู่ที่ 15 แทนตำแหน่งที่ว่าง แต่จากการเฝ้าดูของผู้สังเกตการณ์ระหว่างมีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนปรากฏว่า พบนายพลร่ม พันธะ ซึ่งชาวบ้านจำได้ว่าอยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 11 บ้านนิคมสหกรณ์

แต่กลับมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 15 บ้านคำอาฮวน โดยกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งก็อนุญาตให้ลงคะแนนได้ ทั้งที่มีชาวบ้านทักท้วง จนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพิกเฉยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนส่อว่าอาจจะทำให้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

ร้อยตำรวจตรี สุเทียน กล่าวว่า ต่อมาทีมงานชมรมรักษ์มุกดาหาร ได้ตรวจสอบข้อมูลของนายพลร่ม พันธะ กลับพบพิรุธที่น่าตกใจโดยมีข้อมูลปรากฏในสำนักทะเบียนอำเภอเมืองมุกดาหาร ว่า นายพลร่ม ซึ่งเป็นลูกของนางไหลและนายชม คนเดียวกันแต่มีข้อมูลเกี่ยวกับบ้านและเลขบัตรประจำตัวประชาชน 2 หมายเลข 2 นามสกุล คือ นายพลร่ม พันธะ เลขบัตรประจำตัวประชาชนลงท้ายด้วย 9613 อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 11 เกิดเดือน พฤษภาคม 2511

กับนายพลร่ม พันทะ เลขประจำตัวประชาชนลงท้ายด้วย 9052 อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 15 เกิดเดือน พฤศจิกายน 2511 โดยเป็นการที่ เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองมุกดาหาร ออกหลักฐาน 2 ชุดข้อมูลให้แก่บุคคลเดียวกัน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อและนอกจากนายพลร่มแล้วยังมีอีกหลายคนหรือไม่ที่มีข้อมูลทางทะเบียน 2 ชุด

มีการทุจริตสวมทะเบียนหรือไม่ โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วนและเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบผลการตรวจสอบอย่างโปร่งใสและรวดเร็วต่อไปด้วย

กระทรวงมหาดไทย #กรมการปกครอง #จังหวัดมุกดาหาร #ปปช #ปปท #ที่ว่าการอำเภอเมืองมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา 2024 คาดเม็ดเงินทะลัก 2 พันล้าน

นายกพัทยาขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังดันจัดงานเทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา 2024 เปรี้ยงป้างสุดขีด คาดเม็ดเงินทะลัก 2 พันล้านตามที่เมืองพัทยาได้จัดงานเทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา 2024 อีเว้นต์การท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากหลายรางวัล ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29-30 พ.ย.67 ที่ผ่านมา

พบว่ากิจกรรมกรรมเป็นไปอย่างคุกคักทั้ง 2 วัน มีประชาชนนำครอบครัวและบุตรหลาน ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมชมความงามของพลุนานาชาตินับแสนคน ส่งผลเม็ดเงินท่องเที่ยวสะพัดกว่า 2,000 ล้านบาท

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ได้กล่าวว่า ขอขอบคุณนักท่องเที่ยวที่มาชม PATTAYA INTERNATIONAL FIREWORKS FESTIVAL หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทีมผู้จัดงานฯ และเจ้าหน้าที่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกท่าน ที่ทำให้งานสำเร็จไปด้วยดี

“สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ ขยายโอกาสให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวส่วนต่างๆตั้งแต่โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร พ่อค้า แม่ขาย คนตัวเล็กตัวน้อยมีพื้นที่ค้าขายตามนโยบายเปิดทำเลทอง ขยายพื้นที่ขายของเพื่อคนพัทยา แล้วพบกันใหม่ปีหน้านะครับ” นายกเมืองพัทยา กล่าวทิ้งท้าย

สื่อรัฐทีวี-และสื่อรัฐนิวส์ / ทสปช.เมืองนราธิวาส รร.นราการบริรักษ์ มอบธารน้ำใจแจกข้าวกล่องและน้ำดื่ม ช่วยน้ำท่วมใน จ.นราธิวาส

วันนี้ ( 1 ธันวาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.)ร่วมกับโรงเรียนนราการบริรักษ์ ลงพื้นที่ บ้านบูเก๊ะฆูนุ ม.1 ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

โดยสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติเมืองนราธิวาส (ทสปช.) ได้นำกำลังพลจำนวน 200 นาย กระจายกันลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อที่จะให้ครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อคลายความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นอกจากนี้โรงเรียนนราการบริรักษ์ ยังได้ส่งบุคลากรอาจารย์ผู้สอนลงพื้นที่ให้ความรู้ในเรื่องของการป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษในช่วงน้ำท่วม อีกทั้งยังส่งบุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องของการป้องกันสัตว์มีพิษ ลงพื้นที่เพื่อตรวจผู้ป่วยติดเตียงอีกด้วย


/////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อธิบดีกรมทางหลวงชนบท มอบนโยบายหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) และแขวงทางหลวงชนบทในสังกัด

(1 ธ.ค.67) นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วยนายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านสำรวจและออกแบบ) ลงพื้นที่ประชุมตรวจติดตามการดำเนินงานและแนวทางในการปฏิบัติงานของสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในสังกัด ซึ่งประกอบด้วย ขทช.เชียงใหม่ ขทช.ลำพูน ขทช.ลำปาง และ ขทช.แม่ฮ่องสอน

โดยได้รับฟังการเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และแผนดำเนินงานโครงการในอนาคต พร้อมมอบนโยบายให้แก่บุคลากรในเรื่องการบริหารงาน ความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง การรับมือช่วยเหลือประชาชนในช่วงอุทกภัยและภัยแล้ง รวมถึงได้กำชับในเรื่องการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ตลอดจนได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่อีกด้วย

จากนั้น อธิบดีฯ ได้ตรวจเยี่ยมบริเวณโดยรอบสำนักงานฯ อาคารทดสอบวัสดุ ซึ่งการตรวจเยี่ยมครั้งนี้มีผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบท (ผส.ทช.) นายธันว์ สินธวาลัย ผส.ทช.ที่ 8 รักษาราชการแทน ผส.ทช.ที่ 10 พร้อมวิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการกลุ่ม/ส่วน และผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทในสังกัด ให้การต้อนรับและสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวม..

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง