สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร. สั่งการผู้บัญชาการศึกษาดูแลการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจ คุมเข้มทุกหน่วยสอบโปร่งใส ไร้ทุจริต

วันนี้ (10 สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการไปยัง พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ให้ดูแลตรวจสอบการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2568

ที่จัดขึ้นในวันนี้ เวลา 13.30 น. ให้คุมเข้มทุกหน่วยสอบทั่วประเทศไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เน้นย้ำต้องเป็นการสอบคัดเลือกที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน หากพบการทุจริตให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย

พล.ต.ท.นิธิธรฯ ขานรับนโยบาย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและกำกับดูแลการเตรียมความพร้อมการสอบคัดเลือก ฯ ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี พร้อมประชุมมอบนโยบาย ข้อห่วงใย และกำชับการปฏิบัติแก่ทุกหน่วยสอบ มติดตามสถานการณ์การสอบผ่านระบบ Zoom Meeting จากกองอำนวยการร่วมฯ

ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ย้ำมาตรการเข้มป้องกันการทุจริตทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้เข้าสอบและสังคม และได้กำชับไปยังทุกหน่วยสอบให้จัดจุดปฐมพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อดูแลอย่างทันท่วงทีกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากแต่ละหน่วยสอบมีผู้เข้าร่วมสอบจำนวนมาก โดยการสอบครั้งนี้จัดโดยกองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.)

ครอบคลุมหน่วยสอบ บช.ศ., ตำรวจภูธรภาค 1-9 และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) รวมทั้งสิ้น 11 หน่วยสอบ เพื่อคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี หรือวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ทั้งในชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน รวมจำนวน 155 อัตรา โดยมีผู้สนใจสมัครสอบในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 65,203 คน

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้กำชับเข้มงวดให้ บช.ศ.กำกับดูแลการจัดการสอบคัดเลือกในทุกหน่วยสอบต้องโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และคุณธรรม เข้าสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพ ซึ่ง บช.ศ.รับนโยบายมาขับเคลื่อนอย่างเคร่งครัด จะไม่ยอมให้มีการทุจริตหรือการเอื้อประโยชน์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงยืนยันมาตรการเข้มข้นในการคัดเลือกบุคลากร พร้อมพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการสอบแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้าราชการตำรวจที่มีคุณภาพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และอุทิศตนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

สมจิตร แสงบัลลังลค์ ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รมต.พงศ์กวิน ระดมทีมช่างกรมพัฒน์ 18 จังหวัด จัดหน่วยบริการ “ซ่อม สร้าง สุข” หลังน้ำลดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน่าน

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ วัดดอนมูล ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกิจกรรม “ซ่อม สร้าง สุข” พร้อมพบปะและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดน่าน

โดยมีนายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดน่าน ว่าที่ร้อยตรีสุเทพ วงศ์วิเศษ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน นายเดชา สงค์ประเสริฐ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน ร่วมให้การต้อนรับ

นายพงศ์กวิน เปิดเผยว่า จากเหตุพายุโซนร้อน “วิภา” ทำให้ฝนตกหนัก น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดน่าน 14 อำเภอ 84 ตำบล 695 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 33,681 ครัวเรือน รวม 90,208 คน พื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 141,795 ไร่ และเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน กระทรวงแรงงานได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งช่วยเหลือ และเมื่อสถานการณ์น้ำลด

จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดทีมช่างจากทั่วประเทศลงพื้นที่ซ่อมแซมบ้านเรือน รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และตรวจเช็กระบบไฟฟ้าภายในบ้าน พร้อมได้รับการสนับสนุนน้ำมันหล่อลื่นจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน และวัสดุไฟฟ้าจากบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด สำหรับภารกิจในวันนี้ ทีมช่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ให้บริการตรวจเช็กและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์จำนวน 300 คัน

ซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตรจำนวน 100 เครื่อง ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 300 รายการ และส่งมอบอุปกรณ์ที่ซ่อมเสร็จแล้วให้แก่ประชาชน รวมถึงสาธิตการประกอบอาหารจานด่วนเพื่อมอบให้ผู้ประสบภัย และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ประสพภัยซึ่งเป็นผู้พิการพร้อมมอบถุงยังชีพและตรวจเช็กความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดทีมช่างจากสถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 หน่วยงาน ครอบคลุม 18 จังหวัด ได้แก่ น่าน นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย ตาก พะเยา ลำพูน อุทัยธานี เพชรบูรณ์ แพร่ กำแพงเพชร แม่ฮ่องสอน พิจิตร สุโขทัย และอำนาจเจริญ โดยสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานน่านยังได้จัดตั้งโรงครัวทำอาหารกล่องเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครแรงงาน และประชาชน

โดยได้เปิดรับลงทะเบียนซ่อมอุปกรณ์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 และได้ดำเนินการซ่อมระหว่างวันที่ 8–9 สิงหาคม 2568 ซึ่งการออกหน่วยบริการครั้งนี้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมอุปกรณ์ สร้างรายได้เสริมจากการฝึกอบรม และเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้านของผู้ประสบภัย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รวบ “หัวเผือกบ้านนา” นักค้ายารายใหญ่พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 5 ล้านบาท / สนธิกำลังสแกนยาเสพติด ตามมาตรการสัปดาห์สีแดง

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ชุมพร สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน

ภาค 8 ร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.บ้านนา โดยสามารถจับกุม นายหัวเผือก (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ค้ายาเสพติดตัวการสำคัญ พร้อมยึดทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

ข่าวแจ้งว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายหัวเผือก หรือที่รู้จักในฉายา “หัวเผือกบ้านนา” เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับเยาวชนอายุระหว่าง 16-20 ปีในพื้นที่ จ.ชุมพรมาเป็นเวลานาน แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลายครั้งแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากนาย

หัวเผือกไม่ได้เสพยาเสพติดจึงไม่สามารถจับกุมได้ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับในข้อหา “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” ซึ่งศาลจังหวัดชุมพรได้อนุมัติหมายจับในที่สุด

จากนั้นใน เวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี พร้อมชุดสืบสวนภาค 8 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมนายหัวเผือกได้ที่บ้านพักหลังใหม่ในพื้นที่ ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมยึดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่า

ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย บ้าน 1 หลังพร้อมที่ดิน รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ทองคำหนัก 5 บาท เงินสด 120,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้กว่า 5 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายหัวเผือกพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สนธิกำลังสแกนยาเสพติด ตามมาตรการสัปดาห์สีแดง


ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร นายปารเมศ เห้งสวัสดิ์ นายอำเภอพะโต๊ะ

นายกิตติพงศ์ อินทรสุวรรณ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันมอบหมายให้ นายจักรกฤษณ์ มุณีน้อย เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.นายศุกรกานต์ ทิพย์บุญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.ร้อย อส.อ.พะโต๊ะ 8

กำนันต.ปังหวาน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติการค้นหาผู้เสพ ผู้ติด และผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray) ในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ตามมาตรการ “สัปดาห์สีแดง” (Intensive Days Screening Week) และการขับเคลื่อนนโยบายร่วมเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers”

เพื่อสร้างชุมชนปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ พบผู้เสพยาติดจำนวน 6 ราย จึงร่วมกันนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำ ต.ปังหวานต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สนง.ตำรวจแห่งชาติ จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดคอร์ส “รู้ทันภัยไซเบอร์” บน Thai MOOC เรียนฟรี พร้อมรับ 1 หน่วยกิต / ผบช.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ประชุมมอบนโยบาย แก่รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ หัวหน้า สภ. ในสังกัด

ภารกิจผู้บังคับบัญชาวันนี้ ( 9 ส.ค. 68 )เวลา 13.00 น.ภ.จว.ปทุมธานีพล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติรอง ผบช.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานีประชุมมอบนโยบายบริหารราชการ แก่รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ หัวหน้า สภ. ในสังกัด ภ.จว.ปทุมธานี โดยได้มีข้อราชการกำชับการปฏิบัติของกำลังพล ดังนี้

🔸1. ให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัย ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ และให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดมีความรัก สามัคคี ในหมู่คณะ

🔸2. กวดขันจับกุมและป้องกันลักลอบเล่นการพนัน สถานบริการ กำชับตำรวจไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือ เรียกรับผลประโยชน์

🔸3. ให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัด เร่งรัดและเข้มงวดกวดขันการตรวจสอบสถานบริการ ให้กำหนดเวลาปิด–เปิด ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ,ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด เข้าใช้บริการโดยเด็ดขาด และหากมีการมั่วสุมยาเสพติดทุกประเภท ภายในสถานบริการ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนทั้งผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง

🔸4. ให้ดำเนินการตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” ของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในทุกมิติ และทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด

“บิ๊กหน่อง/พล.ต.ต..ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เรียกประชุมมอบนโยบายการปฎิบัติ งานของตำรวจในสังกัด หลัง มารักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ” พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 และหัวหน้าฝ่าย อำนวยการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบงานแถลงข่าว และประชาสัมพันธ์ข่าวเปิดเผยว่า

สนง.ตำรวจแห่งชาติ จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดคอร์ส “รู้ทันภัยไซเบอร์” บน Thai MOOC เรียนฟรี พร้อมรับ 1 หน่วยกิต

วันนี้ (9 สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านระบบ Thai MOOC ภายใต้ชื่อ “รู้ทันภัยไซเบอร์” เพื่อยกระดับความรู้และทักษะในการป้องกันภัยคุกคามจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน

หลักสูตรนี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจพฤติกรรมของมิจฉาชีพออนไลน์ วิเคราะห์รูปแบบการโจมตี และเรียนรู้วิธีการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับใบประกาศนียบัตร และนับเป็นหน่วยกิตทางวิชาการได้ 1 หน่วยกิต โดยหลังสูตรดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รองผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ตอท. บช.สอท.) , พ.ต.อ.เกรียงไกร พุทไธสง ผู้กำกับการ กลุ่มงานสนับสนุนทางไซเบอร์ บก.ตอท.บช.สอท. และ พ.ต.ต.พากฤต กฤตยพงษ์ สารวัตรฝ่ายอำนวยการ บก.สอท.2

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่สามารถนำไปเทียบโอนเป็นหน่วยกิตในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้กับตนเองและครอบครัว สมัครเรียนฟรีผ่านระบบ Thai MOOC เว็บไซต์ https://thaimooc.ac.th คลิกเลือกหมวดหมู่รายวิชา “ทักษะชีวิตและการพัฒนาตนเอง” จากนั้นคลิกเลือกวิชา “อาชญากรรมทางเทคโนโลยีเบื้องต้น” หรือคลิกลิงก์ https://learn.thaimooc.ac.th/courses/course-v1:CU+00868+0/about

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายก.อบจ. ส่งแบคโฮ 3 คัน ผลักดันเรือมุกดาหารปริ้นท์เซสที่เกยตื้น กลับลงแม่น้ำโขง สำเร็จ / พี่ชายคลั่ง! ยิงดับน้องชายแท้ ๆ 5 นัด เหตุ “เมาแล้วชอบหาเรื่องขัดแย้ง”

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 สืบเนื่องจากเกิดเหตุเรือ “มุกดาหารปริ้นท์เซส” เกยตื้นบริเวณบันไดอาคารท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร ต่อมา นายภูมินทร์ สิเนหะวัฒนะ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร จึงได้ประสานความร่วมมือกับนายว

รายุทธ สงวนพวก เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ขอสนับสนุนรถแบคโฮของ อบจ.มุกดาหาร จำนวน 3 คัน เข้าทำการผลักดันเรือที่ติดอยู่กับพื้นถนนคอนกรีตเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง หน้าตลาดอินโดจีนมุกดาหาร

การปฏิบัติงานดำเนินไปในช่วงกลางคืน ท่ามกลางการทำงานอย่างระมัดระวังของเจ้าหน้าที่ โดยมีนายอดุลย์ ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองมุกดาหารร่วมปฏิบัติการด้วย

จนสามารถดันเรือหลุดออกจากฝั่งและลอยกลับลงสู่แม่น้ำโขงได้สำเร็จ ก่อนเคลื่อนย้ายไปจอดที่ท่าเทียบเรือถนนสำราญชายโขงเหนือ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร เพื่อความปลอดภัย

มุกดาหาร #เรือมุกดาหารปริ้นท์เซส #แม่น้ำโขง #กู้เรือ #ข่าวมุกดาหาร #องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร #เทศบาลเมืองมุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

พี่ชายคลั่ง! ยิงดับน้องชายแท้ ๆ 5 นัด เหตุ “เมาแล้วชอบหาเรื่องขัดแย้ง”

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.ประยุทธ​ เรือน​ทองคำ​ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 8 บ้านโคกสูงน้อย ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงสั่งการให้

พ.ต.ท.กิตติวัฒน์ คนหาญ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองมุกดาหาร เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพ นายอาทิตย์ อินธิแสน อายุ 42 ปี นอนตายใต้ถุนบ้าน บนโต๊ะแคร่ ถูกยิงด้วยปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด .32 จำนวน 5 นัด เข้าที่ลำตัว เสียชีวิตคาที่ ในลักษณะนอนหงาย

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายวุธ อินธิแสน อายุ 48 ปี พี่ชายแท้ ๆ ของผู้ตาย นั่งรอมอบตัวพร้อมอาวุธปืนของกลาง เบื้องต้นรับสารภาพว่าเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว เนื่องจากผู้ตายมักดื่มสุราจนเมาและก่อเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้งแล้วเอาอาวุธ

ปืนออกมาโชว์ ตนจึงบอกให้เอาไปเก็บโต้เถียงกันไปมา แล้วแย่งปืนกัน จนบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงน้องชายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จัดกิจกรรมการประสานเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อพัฒนาความมั่นคงในพื้นที่ชุมชนชายแดนมุกดาหาร

พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี มอบหมายให้ พันเอก จักรพงษ์ โพธิ์นาแค รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เป็นผู้แทนในการเป็นประธานในกิจกรรมการประสานเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อพัฒนาความ

มั่นคงในพื้นที่ชุมชนชายแดน จังหวัดมุกดาหาร ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้ชื่อกิจกรรม “รวมพลังประชาชน” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจัดจาก เครือข่ายมวลชน ในพื้นที่ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร รวม 500 คน

ตามแผนงานโครงการของฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ประจำปี 2568 เป็นการดำเนินการประสานเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อพัฒนาความมั่นคงในพื้นที่ ด้านการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงไปสู่ประชาชนใน

พื้นที่ชายแดน โดยมี พันเอก ศิวดล ยาคล้าย ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 (ร.3) , นายชาคริต ชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล , ผู้อำนวยการโรงเรียนโพธิ์ไทรวิทยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนโพธิ์ไทรวิทยา ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

  โดย รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันปลูกจิตสำนึกให้การช่วยเหลือกันเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤต จากปัญหาภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ที่ต้องเผชิญ อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนพื้นที่ชายแดนเป็นเสริมสร้างจิตสำนึกด้านความมั่นคง ครอบคลุมถึงการป้องกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงปลอดภัยและการเป็นพลเมืองที่ดี โดยประชาชน ชุมชน องค์กรเอกชน และองค์กรของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมสร้างความตระหนักรู้ ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รวมถึงผลกระทบจากปัญหาภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่มีต่อประเทศชาติ และยึดมั่น ในสถาบันหลักของชาติ และตั้งปณิธานในการมีส่วนร่วม ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ในพื้นที่ชายแดน อันจะสร้างเกราะคุ้มกันให้กับประเทศชาติ 

ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้รับชมการแสดง การรณรงค์ปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน “สร้างคนดีด้วยประวัติศาสตร์ สร้างชาติด้วยอุดมการณ์” ซึ่งเป็นการแสดงของ ชุดปฏิบัติการพลเรือน กองพลทหารราบที่ 3 (ขุนศึก 21) ร่วมกับคณะครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการให้ความรู้กับนักเรียน และประชาชน โดยการ

บรรยายประกอบการแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้เป็นการสร้างการรับรู้ถึงความเป็นมาของการก่อสร้างบ้านเมือง อันจะนำไปสู่ความภาคภูมิใจ และหวงแหนแผ่นดิน ที่บรรพบุรุษของเราได้เสียสละเลือด เนื้อเพื่อพิทักษ์ปกป้องรักษา อีกทั้งพระปรีชาสามารถ ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ และพวกเราทุกคนจะต้องดูแลรักษาแผ่นดินผืนนี้สืบไป

จากนั้น รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพ สิ่งของอุปโภค-บริโภค และไม้เท้า ให้กับ ประชาชน และผู้สูงอายุ พร้อมทั้งได้มอบถุงยังชีพเพื่อการศึกษา , อุปกรณ์กีฬา , อุปกรณ์การเรียนการสอน ให้กับ โรงเรียนโพธิ์ไทรวิทยา ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร เพื่อนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนตามหลักสูตรของโรงเรียน ปลูก

ฝังให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ และใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด อีกทั้งยังเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ให้กับประชาชน และผู้ปกครองนักเรียน ได้อีกทางหนึ่ง กองทัพบกพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกโอกาส และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนชุมชน สังคมให้มีความเข้มแข็งต่อไป

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รพ.ในเครือ BDMS ภาคตะวันออก จัดประชุมวิชาการ BDMS Eastern Trauma Network’25 ภายใต้หัวข้อ “The Trauma Code: Mass Casualty Incident and Disaster”

ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ภาคตะวันออก โดยโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้จัดการประชุมวิชาการ “BDMS Eastern Trauma Network’25” ในหัวข้อ “The Trauma Code: Mass Casualty Incident and Disaster” เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์ภัยพิบัติและอุบัติเหตุหมู่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และทีมฉุกเฉินในภาคตะวันออก การประชุมจะจัดขึ้นในวันที่ 7 – 8 สิงหาคม 2568 เวลา 08.00 – 16.00 น. ณ ห้องประชุม Space 1-2 โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ จังหวัดชลบุรี

โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงและภาครัฐร่วมเป็นประธานในพิธี ได้แก่ นพ.สุทร บวรรัตนเวช ผู้อำนวยการใหญ่ศูนย์อุบัติเหตุและออร์โธปิดิกส์ในเครือบริษัท และผู้อำนวยการอาวุโสศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพ นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 3 และกลุ่ม 6 นางสุภัทรา ชลพนารักษ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานภายในสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และ นพ.รชติ ทองประยูร ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลผู้บาดเจ็บ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เข้าร่วม

การประชุมวิชาการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับศักยภาพของบุคลากรในเครือข่าย BDMS ภาคตะวันออก ให้มีความพร้อมสูงสุดในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่รุนแรงและซับซ้อน เช่น ภัยพิบัติธรรมชาติ อุบัติเหตุหมู่ และสถานการณ์ Mass Casualty Incident โดยมีการบรรยาย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา พร้อมทั้งการเน้น

การทำงานร่วมกันในเครือข่ายโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โรงพยาบาลกรุงเทพตราด โรงพยาบาลศรีระยอง โรงพยาบาลจอมเทียน โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา โรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี และโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เป็นต้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินในภูมิภาค

การบรรยายครอบคลุมหัวข้อสำคัญ อาทิ การจัดการผู้ป่วยอุบัติเหตุทางกระดูกและข้อ การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้และสารพิษ การสนับสนุนทางด้านสุขภาพจิตสำหรับผู้ประสบภัย การเตรียมความพร้อมของชุมชน การช่วยชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการจัดการและดูแลผู้ป่วยในเหตุการณ์ฉุกเฉิน

ทั้งนี้ ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ถือเป็นศูนย์กลางหลักของเครือข่าย BDMS Eastern Trauma Network และได้รับการรับรองมาตรฐาน CAMTS และ CAMTS EU ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่เน้นความปลอดภัยสูงสุด ในการเคลื่อนย้ายและดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินที่พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 38-259 999

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วันแม่แห่งชาติ 93 พรรษา 12 สิงหาคม พ.ศ.2568 ณ .รร.ชุมชนโนนหันวันครู อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

วันศุกร์ ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ น.นายบุญส่ง ทองมูล นายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน ประธานในพิธีกิจกรรมวันแม่แห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๓ พรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘

ณ อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนชุมชนโนนหันวันครู อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดร.สุขวัชร เทพปิน ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนโนนหันวันครู นางวีระญา บ้านเหล่า รองผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนโนนหันวันครู ให้การต้อนรับ หัวหน้าส่วนราชการท้องถิ่น

หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ใกล้เคียง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลโนนหัน องค์กรต่างๆ พร้อมผู้ปกครอง และร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกมะลิ นายบุญส่ง ทองมูล นายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน

ประกอบพิธีถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถวายพานพุ่มดอกมะลิ เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ กล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล

เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีพระแม่ไทย ลงนามถวายพระพรชัยมงคล เสร็จพิธีเทิดพระเกียรติ เวลาต่อเนื่องชมการแสดงของนักเรียนโรงเรียนชุมชนโนนหันวันครู ประกาศเกียรติคุณคุณแม่ดีเด่น มอบทุนการศึกษา

มีผู้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้จำนวนมาก อธิ นายอัมรินทร์ อารัมภ์วิโรจน์ รองนายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน นายสงวน สีน้ำอ้อม เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน นายสัญญพงศ์ จงแจ้ง ปลัดเทศบาลตำบลโนนหัน

(นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ผู้แทน นางพยงค์ ศรีภา ประธานพัฒนาสตรีระดับอำเภอชุมแพ/ประธานพัฒนาสตรีระดับตำบลโนนหัน ร่วมกิจกรรมครั้งนี้

นายอัมรินทร์ อารัมภ์วิโรจน์ รองนายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน ในฐานะประธานคณะกรรมการสถานศึกษา กล่าวขอบคุณ ผู้ปกครอง องค์กรภาครัฐ ภาคประชาชน ร่วมกิจกรรมวันแม่ครั้งนี้

วินสื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร.และนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ห่วงใย ตำรวจที่ประสบอุทกภัย ภาคเหนือตอนบน มอบเงิน 1,339,000 บาท “ครอบครัวตำรวจเราไม่ทิ้งกัน”


คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณจำนวน 1,339,000 บาท เพื่อจัดซื้อสิ่งของ เครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับข้าราชการตำรวจรวมจำนวน 1,339 นาย ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ น่าน เชียงราย พะเยา และแพร่ ที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยจากพายุ“วิภา” แม้ว่าครอบครัวตำรวจก็ประสบปัญหาอุทกภัยเช่นเดียวกัน

โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มอบหมายให้ คุณพจนารถ กรึงไกร ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับ
พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พร้อมด้วย คุณละมัย กัลยา ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดน่าน , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย

พร้อมด้วย แพทย์หญิงทรงพร เสนากูล ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ,พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย คุณมลธิชา ไชยบาล ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ,

พล.ต.ต.พงษ์เดช คำใจสู้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย คุณศุภรัตน์ การะเกตุ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ นำคณะข้าราชการตำรวจ – แม่บ้านตำรวจ

ร่วมดำเนินการบรรจุถุงยังชีพ และ ดำเนินการส่งมอบสิ่งของดังกล่าวให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัวในสังกัด ทั้งสิ้น 1,339 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 2 – 8 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวมีขวัญกำลังใจมากขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป
..สมจิตร แสงบัลลังค์ ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ชุมพร โครงการฝึกอบรมครูฝึกยิงปืน (ครู ค) ทหารเมียนม่า ปะทะ ทหารกระเหรี่ยง ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน อ.อท่าแซะ ช่องหินดาด

วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมครูฝึกยิงปืนต้นแบบระดับสถานีตำรวจ (ครู ค) สำหรับการฝึกทักษะการยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฎิบีตหน้าที่ป้องกันปราบปราม สืบสวน และจราจรในสถานีตำรวจ

ณ สนามยิงปืนชุมพร ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร โดยมี หน.สภ.ในสังกัด พร้อมด้วย ผกก.ฝอ.ภ.จว.ชุมพร และข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการเข้าร่วมพิธี มีครูฝึกต้นแบบระดับสถานีตำรวจ (ครู ค.) เข้าร่วมฝึกอบรม จำนวน 34 นา

มีการปะทะระหว่าง กองกำลังทหารเมียนมากับกองกำลังทหารกระเหรี่ยงในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านด้านอำเภอท่าแซะ ช่องหินดาด

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 ได้รับรายงานจาก ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ที่ 4102 ทราบว่าได้ยินเสียงการใช้อาวุธเครื่องยิงหนัก (ไม่ทราบชนิด) ยิงปะทะกันประมาณ ๒๐ นาที ในพื้นที่ระหว่าง บ.ยัวฮินลู กับ บ.เยยันตะ ๑ ต./ กิ่ง อ.กะระตุริ จว.ปกเปียน ด้านตรงข้าม ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จว.ช.พ. ทั้งนี้คาดว่าเป็นการยิงก่อกวนจากฝ่าย กกล.กอทูเล ( KTLA ) ดังนั้น ทมม.ฐานปฏิบัติการยัวฮินลู จึงยิงตอบโต้ ปัจจุบันสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ และไม่ได้รับรายงานการสูญเสียอย่างใด

ในขณะเดียวกัน นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ สั่งการกำนัน ทุกตำบล และผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้าน ติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับราษฎรไทยและติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอท่าแซะจึงให้ บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหน่วยงาน ความมั่นคงในพื้นที่ให้เป็นเอกภาพในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่อย่าตื่นตระหนก และหลงเชื่อข่าวเท็จที่อาจจะเกิดขึ้น

จากบุคคลไม่หวังดี และขอให้รับฟังข่าวสารจากหน่วยงานราชการเท่านั้น กรณีเกิดสถานการณ์ปะทะที่รุนแรงหรืออาจส่งผลกระทบขอให้อพยพราษฎรในพื้นที่เสี่ยง ไปอยู่ในที่ปลอดภัยและรายงานให้นายอำเภอท่าแซะ หรือปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงทราบโดยทันที กรณีปรากฏข่าวสารสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงบริเวณชายแดน ด้านอำเภอท่าแซะ ให้รายงานนายอำเภอท่าแซะ หรือปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงทราบโดยทันที หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑-๘๖๗๑๐๑๒, ๐๖๓-๙๐๓๔๘๙๐ และรายงานเป็นเอกสารให้อำเภอทราบด้ว

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง