สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ชาวบ้านเครียด! จนท. – ปศุสัตว์ บุกเก็บสิ่งของส่งตรวจหาเชื้อแอนแทรกซ์ แต่กลับปกปิดไม่แจ้งผลการตรวจ / พบติดติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 1 ราย จนท.ขึงรั้วตาข่ายกั้นพื้นที่จุดชำแหละซากวัว

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ว่า ในวันนี้ได้มีการนำดินมาถมบริเวณที่มีการชำแหละวัวในบริเวณสวนยาง บ้านโคกสว่าง หมู่ 6 ตำบลเหล่าหมีอำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

จนเป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์เสียชีวิต 1 ราย และเป็นผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 2 ราย เพื่อป้องกันไม่ให้สปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์แพร่กระจายออกไป โดยได้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอดอนตาล นำโซดาไฟมาผสมน้ำแล้วใส่ฝักบัวไปเทราดลงพื้นดินทั่วทั้งบริเวณที่มีการชำแหละวัว ก่อนที่จะให้รถขนดินนำดินมาถมแล้วใช้รถไถบดอัดจนได้ระดับความสูงระดับเหนือพื้นดินเดิม 50 เซนติเมตร

นายทัศนเทพ รักพิทักษ์กุล ผู้ใหญ่บ้านโคกสว่าง ม.6 ตำบลเหล่าหมี กล่าวว่า หลายวันที่ผ่านมานับตั้งแต่มีข่าวผู้เข้ามาชำแหละวัวในสวนยางบ้านโคกสว่างเสียชีวิต 1 คน และป่วยอีก 2 คน ด้วยโรคแอนแทรกซ์ จากนั้นก็ได้มีส่วนราชการจากหลายหน่วยงานเข้ามาในหมู่บ้านทั้งสาธารณสุข

ฝ่ายปกครอง และปศุสัตว์ ในตอนแรกชาวบ้านก็รู้สึกดีใจเพราะเห็นหลายหน่วยงานเข้าทำให้มีความมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ ขึ้นในตอนแรกทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ก็ได้มานำดินจากบริเวณจุดที่มีการชำแหละวัว และขอเนื้อวัวซึ่งได้มาจากการชำแหละวัวในวันที่ 28 เมษายน ที่ชาวบ้านแช่ไว้ในตู้เย็น

เพื่อส่งไปตรวจที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยมีข่าวว่าจะรู้ผลประมาณตรวจวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม แต่จนถึงวันนี้ซึ่งมีทั้งปศุสัตว์เขต 4 ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสุขภาพสัตว์และบำบัดโรคสัตว์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร และหัวหน้าด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร เข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านโคกสว่าง แต่กลับไม่มีผู้ใดหรือหน่วยงานใดแจ้งให้ชาวบ้านทราบถึงผลการตรวจดินบริเวณจุดชำแหละ

ตลอดจนสิ่งของที่เอาไปจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก อาทิ เนื้อวัวและเครื่องในวัวจากการชำแหละเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาที่ชาวบ้านเก็บไว้ในตู้เย็น เขียงและมีด ที่ใช้หั่นเนื้อ ว่าผลการตรวจเป็นอย่างไรบ้าง

โดยมีแต่เจ้าหน้าที่เข้ามาสั่งห้ามไม่ให้บริโภคของที่อยู่ในตู้เย็นโดยต้องเอาทิ้งและทำความสะอาดตู้เย็นให้ปลอดเชื้อ แต่กลับไม่บอกว่าสิ่งที่เอาไปติดเชื้อหรือไม่อย่างไร และสิ่งของที่ถูกเอาไปแม้กระทั่งเขียงและมีดจนถึงบัดนี้ก็ไม่ได้มีหน่วยงานใดออกมารับผิดชอบคืนใหเ้แก่ชาวบ้านแต่อย่างใด

การที่หน่วยราชการโดยเฉพาะปศุสัตว์แจ้งผลใดๆให้ชาวบ้านทราบ ทำให้ชาวบ้านต่างยิ่งต่างพากันวิตกกังวลและเกิดความเครียดซ้ำหนักขึ้นไปอีก ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพอนามัยของตัวชาวบ้าน จึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านควรจะได้รับทราบข่าว

สารของทางราชการแต่กลับถูกปิดบังอำพรางดังกล่าว จึงอยากเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และกรมปศุสัตว์ ช่วยสั่งการแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อน ความเดือดเนื้อร้อนใจและความเครียดของชาวบ้านในเรื่องดังกล่าวด้วย

ชาวบ้านเครียดหน่วยงานรัฐปกปิดไม่แจ้งผลการตรวจเชื้อแอนแทรกซ์ #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข #กรมปศุสัตว์ #จังหวัดมุกดาหาร #โรคแอนแทรกซ์มุกดาหาร ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ ​รายงาน​ 092-5259777​

พบติดติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 1 ราย จนท.ขึงรั้วตาข่ายกั้นพื้นที่จุดชำแหละซากวัว

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารในวันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้รายงานว่สพบผู้ป่วยยืนยันเป็นโรคแอนแทรกซ์เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย

ทำให้มียอดผู้ป่วยที่ยืนยันผลการตรวจแล้วทั้งสิ้น 4 ราย โดยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมุกดาหาร 2 ราย ที่โรงพยาบาลดอนตาล 1 ราย และเสียชีวิตแล้ว 1 ราย และมีผู้ป่วยที่อยู่ในระยะการเฝ้าระวังโรคทางผิวหนังและโรคทางเดินอาหารจำนวน 98 ราย

ส่วนในพื้นที่บ้านโคกสว่างหมู่ 6 ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยทั้ง 4 ราย

ที่เป็นโรคแอนแทรกซ์เคยใช้เป็นจุดชำแหละซากวัว เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วใส่ฝักบัวนำไปรดทั่วบริเวณโดยรอบ และทำการขึงรั้วตาข่ายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้าไปในพื้นที่อย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทางไปยังบริเวณริมลำห้วยบางทราย บ้านโคกสว่าง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ชำแหละซากวัวเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาได้นำเอาเศษซากวัวที่เหลือ

จากการชำแหละแล้วแบ่งปันให้กับคนในหมู่บ้านไปทิ้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วใส่ฝักบัวนำไปรดทั่วบริเวณที่เคยใช้ทิ้งซากวัวดังกล่าว ส่วนซากวัวเจ้าหน้าที่ได้นำไปฝังกลบในที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว

สถานการณ์โรคแอนแทรกซ์มุกดาหาร #จังหวัดมุกดาหาร​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

มุกดาหาร​ -​บุญบั้งไฟดอนตาลเป็นเหตุ ทหารพรานจ่อหัวยิงน้องเมียปางตาย

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ต.ต.เสกสรร คุณาวัน สว.(สอบสวน) สภ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุยิงกันอยู่ที่บ้านบ้านเลขที่ 222 หมู่ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปยังที่เกิดเหตุทราบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อนายสุธิวัฒน์ ทานะเวช 27 ปี พักอาศัยอยู่บ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงที่บริเวณศีรษะ 1 นัดและที่แขวนขวาอีก 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลดอนตาลและถูกส่งต่อไปโรงพยาบาลมุกดาหาร

ส่วนผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิงนายสุทธิวัฒน์ ชื่อ นายธวัชชัย พาลี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 11 ตำบลวังหลวง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย เป็นทหารพรานอยู่กรมทหารพราน 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีศักดิ์เป็นพี่เขยของผู้ถูกยิง ซึ่งหลังก่อเหตุไม่หนีไปไหน อยู่รอมอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมของกลางอาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอกและกระสุนอยู่ในรังเพลิง 1 นัด

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ก่อเหตุพร้มของกลางอาวุธปืนมาดำเนินคดีที่ สภ.ดอนตาล โดยผู้ก่อเหตุให้การยอมรับว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงน้องเมียจริง เนื่องจากตนกับกับน้องเมียไม่ค่อยลงรอยกันโดยมีสาเหตุทะเลาะกันเป็นประจำล่าสุดไปงานประเพณีบุญบั้งไฟที่อำเภอดอนตาล เมื่อกลับมาบ้านแล้วเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนทำให้ตนเกิดบันดาลโทสะจึงได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงนายสุธิวัฒน์ ดังกล่าว

บุญบั้งไฟดอนตาลเป็นเหตุทหารพรานจ่อหัวยิงน้องเมียปางตาย #จังหวัดมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สพม.น่าน เปิดเวที “NAN CREATOR” จุดประกาย Soft Power วิถีน่าน สู่ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน ให้เกียรติเป็นประธานเปิด การอบรมเชิงปฏิบัติการ “การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ เชื่อมโยงวัฒนธรรม ผ่าน Soft Power วิถีน่าน สู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน ผ่านสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (NAN CREATOR)” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–6 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรม ดิ อิมเพรส จังหวัดน่าน โดยมีครูและนักเรียนในสังกัดเข้าร่วมจำนวน 135 คน กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองเก่าน่าน, วิทยากรจากกลุ่ม ออริจิน่าน

และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ พัฒนาทักษะอาชีพแห่งอนาคต สู่การสร้างรายได้ระหว่างเรียน ภายใต้แนวคิด “SPARK 3 วิ เชิงลุก (LOOK)” พร้อมผลักดัน “น่านเมืองสร้างสรรค์ (Nan Creative City of Crafts and Folk Arts)” ให้เติบโตอย่างยั่งยืนผ่านพลังของครูและเยาวชนรุ่นใหม่



วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2568

  1. บรรยายเชิงปฏิบัติการ เรื่อง นำตั๋วเมือง เรียนรู้สู่วิถีน่าน โดยวิทยากร นายบุญโชติ สลีอ่อน
  2. บรรยายเชิงปฏิบัติการ การสร้างแรงบันดาลใจ เทคนิคการเล่าเรื่องการถ่ายภาพ และการถ่ายคลิปวิดีโอ และ Workshop การออกแบบการจัดการเรียนรู้
    2.1) เทคนิค และการเขียนเล่าเรื่อง สู่การนำเสนอเรื่องราวเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์จากวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยกิจกรรมกลุ่ม
    2.2) การสร้างแรงบันดาลใจ สู่การลงมือปฏิบัติเพื่อสร้างรายได้ผ่านรูปแบบออนไลน์
    วิทยากร คุณนันทวัฒน์ ศักยะธนาสิทธิ์ เจ้าของเพจ บาสทิ้งกรุงเข้าป่า
  3. กิจกรรมแบ่งกลุ่มปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
    3.1) นำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์ต่อยอดผลิตภัณฑ์
    3.2 )การทำงานร่วมกับชุมชนหัตกรรมจังหวัดน่าน
    3.3) การลงมือทำ และประสบการณ์การสร้างสรรค์ผลงานจากอัตลักษณ์ศิลปะพื้นบ้านเมืองน่าน
  1. การสร้างแรงบันดาลใจการนำอัตลักษณ์น่านสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์
  2. การแบ่งปันประสบการณ์การสร้างสรรค์สินค้าประเภท Art Toy การผสานอัตลักษณ์วัฒนธรรมกับของเล่น
    วิทยากรโดย คุณณัฐกร เงินวงค์นัย ประธานกรรมการ หจก. เดอะทรีซัคเซส และ คุณพงศกร บูรณเทศ เจ้าของแบรนด์ Yak Kiku Studio (Art toy)

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม 2568
1.แบ่งกลุ่มอภิปราย ประเด็น การพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปให้พร้อมสำหรับการออกสู่ตลาด

  1. การแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การขายสินค้าออนไลน์ และออนไซด์ (บ้านถั่วลิสง)
  2. แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนและตลาดสินค้าชุมชน โดยวิทยากร จำนวน 2 คน นายธีรยุทธ จันทร์คล้าย ประธานคลัสเตอร์เกษตรแปรรูปน่านอะโกร และนางสาวอารีย์ เพ็ชรรัตน์ กรรมการผู้จัดการบ้านถั่วลิสง จำกัด
  1. กิจกรรมแบ่งกลุ่ม สัมภาษณ์/เก็บข้อมูล / ประเมินความพร้อม และพัฒนา ผลิตภัณฑ์ของโรงเรียนเป็นฐานการเรียนรู้ วิทยากรโดย กลุ่มผู้ประกอบการ ออริจิน่าน
    ฐานที่ 1 ผลิตสื่อนำเสนอสินค้าอย่างสร้างสรรค์
    ฐานที่ 2 สร้างผลิตภัณฑ์สร้างแบรนด์ให้ทันสมัย
    ฐานที่ 3 เพิ่มมูลค่าสินค้าพัฒนาผลิตภัณฑ์
  2. เชื่อมโยงพหุปัญญาวิถีน่าน สู่การบูรณาการจัดการเรียนรู้ สร้างองค์ความรู้นำสู่ การปฏิบัติ ในสถานศึกษา โดย คณะผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน พิธิปิดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ

เรียนดีมีความสุข #สพฐ #สพม #น่าน #สพมน่าน #SESAONAN #ทีมน่านการศึกษา #NanOneTeam/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รร.วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม วิทยา (นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อุปถัมภ์) เปิดแล้วให้เรียนฟรี

วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสัวโร อรัญวาสีภิกขุ พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 พร้อมด้วย โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและภริยา เป็นประธาน

ในพิธีคุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ คุณสมฤทัย ปราสาททองโอสถ คุณอาริญา ปราสาททองโอสถ คุณสุมิตร คุณรุ่งนภา เพชราภิรัชต์ รองประธานมูลนิธิดอยเวียงแก้ว และภริยา และ คุณพัชระภรณ์ ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษามูลนิธิดอยเวียงแก้ว ได้ร่วมพิธีเปิดโรงเรียน

โดยโรงเรียนแห่งนี้จัดขึ้นตามดำริของพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ เพื่อ เป็นสถานศึกษาในพระพุทธศาสนา สำหรับภิกษุ สามเณร และเยาวชนผู้สนใจในธรรมะ โดยนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้มีจิตศรัทธาเป็นผู้อุปถัมภ์สนับสนุนการก่อสร้างถวาย

และร่วมฟังธรรมเทศนา โดย พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุได้ร่วมพิธี เปิดโรงเรียนวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสัวโร อรัญวาสีภิกษุ วิทยา ณ วัดพระครูบาบุญชุ่ม(วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว) ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และมีผู้เข้าร่วมพิธีเปิดครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

โรงเรียนวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม วิทยา (นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อุปถัมภ์) แห่งนี้ เป็นอาคารเรียน 3 ชั้น ประกอบด้วย
1.ห้องสมุดจำนวน 1 ห้อง 2.ห้องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 ห้อง 3.ห้องไหว้พระสวดมนต์ จำนวน 1 ห้อง 4.ห้องจัดนิทรรศการ จำนวน 2 ห้อง

5.ห้องจัดการเรียนการสอน จำนวน 5 ห้อง 6.ห้องบุคลากรจำนวน 2 ห้อง
7.ห้องน้ำ จำนวน 6 ห้อง และมีภิกษุสามเณร จำนวน 69 รูป ในช่วง ปีแรก อนาคตวันข้างหน้าจะมีภิกษุสสมเณรแห่มาเรียนกันเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญเรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

พงศกร ตันสุวรรณ ภาพ-ข่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี ยึดเฮโรอีน-ยาบ้า ขณะลักลอบนำข้ามโขงมาส่งมุกดาหาร/นบ.ยส.24 ปฏิบัติการ Seal Stop Safe ตรวจยึดของกลางยาบ้า จำนวน 355 มัด710,000 เม็ด อ.บ้านแพง จ.นครพนม

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ร.ต.กฤษดา มุลมาตย์ ผู้บังคับหมวดสกัดกั้นฯ ที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กกล.สุรศักดิ์มนตรี) ได้จัดกำลังออกซุ่มตามจุดเสี่ยงจุดล่อแหลม บริเวณ บ้านพาลุกา ม.4 ต.ชะโนด อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร

ได้ตรวจพบเรือแล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว เห็นคนบนเรือโยนกระสอบขนาดใหญ่ขึ้นมาไว้บริเวณริมตลิ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าไปตรวจสอบ แต่เมื่อคนที่อยู่บนเรือเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้รีบขับเรือแล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว

จากการตรวจสอบพบว่าภายในกระสอบเป็นยาเสพติดประเภทที่ 1(ยาบ้า) ที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษไข พิมพ์อักษร Y 1 มีถุงพลาสติกใส่ห่อหุ้มอีกชั้นหนึ่ง รวม 14 มัด จำนวน 86,000 เม็ด

และยังตรวจพบเฮโรอีน จำนวน 1 แพ็ค น้ำหนัก100กรัม จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทหารยึดเฮโรอีนยาบ้าขณะลักลอบนำข้ามแม่น้ำโขงส่งมุกดาหาร #จังหวัดมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

นบ.ยส.24 ปฏิบัติการ Seal Stop Safe ตรวจยึดของกลางยาบ้า จำนวน 355 มัด ประมาณ 710,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24)

ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อป้องกันยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลา 1500 อำนวยการให้ พันเอกอินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 (ผบ.ฉก.ทพ.21)

ซึ่งได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว มาพักคอยในพื้นที่เพื่อลำเลียงขนย้ายเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงสั่งการให้ ร้อยโทวันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 (ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2101 ฉก.ทพ.21)

จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าทำการเฝ้าตรวจพื้นที่ตามภาพข่าว บริเวณริมตลิ่งลำห้วยม่วง บ้านปากห้วยม่วง หมู่ที่ 2 ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ตรวจพบชายต้องสงสัย จำนวน 2 คน เดินแบกกระสอบสิ่งของต้องสงสัย

เดินมาตามเส้นทางในภูมิประเทศ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอตรวจสอบกระสอบสิ่งของต้องสงสัย เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ กลุ่มชายดังกล่าวได้ทิ้งสิ่งของและอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไป

จากการตรวจสอบพบภายในบรรจุยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 3 กระสอบ (ประมาณ 710,000 เม็ด) หน่วยจึงได้ประสานหน่วยงานความมั่นคง ในพื้นที่ ร่วมบันทึกภาพผลการตรวจพบ

และนำยาเสพติดของกลาง มายัง บก.ร้อย.ฉก.ทพ.2101 ฉก.ทพ.21 เพื่อทำการตรวจนับอย่างละเอียด และนายราชวัชร์ เพ็ชร์ไพรฑูรย์ นายอำเภอบ้านแพง เป็นประธานการแถลงข่าว

พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม เข้าร่วม ณ บก.ร้อย ฉก.ทพ.2101 ฉก.ทพ.21 บ.ปากห้วยม่วง ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม พร้อมทั้งได้นำของกลางทั้งหมดส่งให้ สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

เด​วิท​ ​โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สุดซาบซึ้ง! อาจารย์เมย์ ส่งทีมงานอบรม AI ช่วยชาวน้ำหนาว หนุ่มพิการใจสู้ถ่ายทอดความรู้ด้วยหัวใจเต็มร้อย

มีรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตร อำเภอน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เกิดเหตุการณ์แสนประทับใจเมื่อ อาจารย์เมย์ ดร.จินต์วยา เบญญจินดาพิศุทธ์ ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดัง จากบริษัท แฮปปี้ฮวงจุ้ย จำกัด ได้ส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI นำโดย นายวรากุล ภัคธัญญานนท์ ชายหนุ่มผู้พิการทางร่างกายแต่ใจแกร่ง มาถ่ายทอดความรู้ AI ChatGPT ถวายความรู้พระสงฆ์ และให้ความรู้ ข้าราชการ, เกษตรกร, กลุ่มวิสาหกิจชุมชน, ผู้สูงวัย และชาวบ้านกว่า 30 คน

งานนี้ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก พระครูพัชรคณาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอน้ำหนาว และเจ้าอาวาสวัดโคกมน ที่เมตตามาร่วมเรียนรู้ สร้างบรรยากาศอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม และความสุข

หลังจบกิจกรรม ผู้เข้าร่วม และทีมงานได้ร่วม ถ่ายภาพหมู่ เก็บความทรงจำแสนอบอุ่น โดยทาง สำนักงานเกษตร อำเภอน้ำหนาว และ กลุ่มเดินตามธรรม ได้บริการ บ๊ะจ่าง และจัดเลี้ยง ขนมจีนสุดอร่อย ให้ทุกคนได้อิ่มท้อง อิ่มใจ พูดคุยแบ่งปันความประทับใจและหัวเราะร่วมกันอย่างชื่นมื่น

นายวรากุล กล่าวด้วยน้ำเสียงปลื้มใจว่า ขอบพระคุณอาจารย์เมย์ ซินแสฮวงจุ้ย ที่มอบโอกาสดีๆ นี้ แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ แต่หัวใจเต็มร้อยความรู้ดีๆ ไม่มีขอบเขต และผว่หวังทุกท่านที่นี่จะสามารถนำไปต่อยอดชีวิตต่อไปได้แน่นอน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “อลงกรณ์-เอฟเคไอไอ.“ห่วงทรัมป์2.0ทำเศรษฐกิจโลกโตต่ำ3%กระทบไทยเร่งหาทางออกประเทศจัดเวที “โอกาสหรือวิกฤติใหม่เศรษฐกิจไทยภายใต้สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน“

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์(FKII Thailand)
เปิดเผยวันนี้ว่า ไอเอ็มเอฟ.ประเมินล่าสุดว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนกระทบทั่วโลกเป็นลูกโซ่จะส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลดลงจาก3.3%เหลือ 2.8% ส่วนมิติการค้านั้น การค้าระหว่างสองประเทศคิดเป็นสัดส่วน 3% ของตลาดการค้าโลกซึ่งมีมูลค่า24 ล้านล้านดอลลาร์โดยเมื่อปี 2024 มูลค่าการส่งออกนำเข้าของสหรัฐและจีนอยู่ที่ 582.4 พันล้านดอลลาร์ โดย สหรัฐส่งไปจีน 143.5 พันล้านดอลลสาร์ และจีนส่งไปสหรัฐ 438.9 พันล้านดอลลาร์

ซึ่งองค์การการค้าโลก(WTO)มองว่าถ้าสงครามการค้ายังสู้กันด้วยการขึ้นภาษีทำให้2ชาติมหาอำนาจยุติการค้าขายกันแต่ตลาดโลกอีก97%ก็ยังค้าขายต่อไปได้ นับเป็นตัวอย่างมุมมองที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามผลกระทบยังมีอีกหลายมิติไม่ใช่เพียงเรื่องเศรษฐกิจการค้าและเป็นทั้งโอกาสและวิกฤตขึ้นกับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของแต่ละประเทศอดีตรัฐมนตรีอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า
สำหรับประเทศไทยเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและการเมืองของทั้ง2มหาอำนาจและอยู่ในกลุ่มประเทศเสี่ยงลำดับต้นๆที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและนโยบายทรัมป์2.0ครั้งนี้ แต่จะรอดจะร่วงหรือจะรุ่งจะเป็นโอกาสหรือวิกฤตสำหรับก้าวต่อไปของประเทศไทยหาคำตอบได้ในงานเสวนาโต๊ะกลมของสถาบันเอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์ -FKII National Dialogue
“โอกาสหรือวิกฤติใหม่เศรษฐกิจไทยภายใต้สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน“

วันพุธที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 13.00-15.30 น. ณ TVA Hall สวนเสียงไผ่ สถาบันทิวา กรุงเทพมหานคร ขอเชิญร่วมแสดงความเห็นเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทยในสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน
พบกับวิทยากรร่วมเสวนา อาทิ 1.นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailand 2.นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานสถาบันทิวา (TVA) และผู้อำนวยการสถาบัน FKII Thailand ผู้เชี่ยวชาญด้านอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี
3.นายเกษมสันต์ วีระกุล ประธานซีเอ็ดนักวิชาการอิสระ สื่อมวลชน ผู้เชี่ยวชาญด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 4.ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน อดีตอัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงปักกิ่งผู้เชี่ยวชาญด้านจีนและผู้ร่วมเสวนาโต๊ะกลมลงทะเบียนด่วน!!! รับจำนวนจำกัด!!!ที่ LineOA FKII Thailand: https://lin.ee/BgPCPvdติดต่อสอบถาม
091-1805459(วรวุฒิ)
093-1252012(ลิต้า).

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่านร่วมกับผู้ใหญ่ใจดีมอบผ้าห่มกันหนาวให้ผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน ผู้สูงอายุ

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ร่วมกับผู้นำชุมชนประกอบด้วยนายธงชัย พุฒนา ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านไชยสถาน อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยละเบ้ายา

นายกมล อินถา ผู้ใหญ่บ้านไชยสถาน นายธนาชัย อินปัน อดีต ผอ.กองช่าง อบต.สะเนียน นางธัญนันท์ อุรา ผญบ.บ้านก้อด นายนิรันดิ์ สิทธิมงคล อดีต ผญบ.บ้านนาท่อ นายบูรณาศัดิ์ ณ ไชย นายสมพร สุทธิ ผช.ผญบ.บ้านปางค่า นางลำดวน เลาเหล็ก นางวีระ น้อยคง อสม.บ้านนาท่อ

นางจันทร์ตา สกุลแก้ว จิตอาสาบ้านค่าใหม่ไชยเจริญ มอบผ้าห่มกันหนาวให้กับผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน และผู้สูงอายุบ้านก้อด บ้านนาท่อหมู่1 บ้านนาท่อหมู่10 บ้านค้าใหม่ไชยเจริญ และบ้านปางค่า ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน กล่าวว่าเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้ครอบครัวผู้ป่วยนอกจากนั้นยังได้ให้กำลังใจครอบครัวของผู้ป่วย และผู้ป่วยบางรายที่ยังสื่อสารกันรู้เรื่องถึงกับดีใจจนน้ำตาซึมที่มีคนมาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน ผมต้องกราบขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ใจดี

ท่านพระสุนทรมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน คุณพิษณุ สุเทปิน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)หจก.แพร่ธำรงวิทย์(น่าน)จำกัด ที่มอบผ้าห่มให้กับสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่านเป็นตัวแทนนำไปมอบต่อให้ผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้านและผู้สูงอายุ มา ณ โอกาสนี้ เป็นอย่างสูงครับ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นักศึกษา ผู้บริหาร ด้านบูรณาการพัฒนากรุงเทพฯ (SIMD 1-2) รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 วพน.12 พอช.1 และ ISAB 8 /สภาสังคมสงเคราะห์ มอบชุดยังชีพคนพิการ 10 ราย

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 คณะนักศึกษาหลักสูตร ผู้บริหารระดับสูงด้านบูรณาการพัฒนากรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน (SIMD 1-2) รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 วพน.12 พอช.1 และ ISAB 8

พร้อมด้วยหน่วยราชการ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บช.ตชด. ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นำโดย คุณพินิจ จารุสมบัติ ประธานรุ่น วพน.12 พอช.1 พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ประธานรุ่น SIMD 1 พลเอกรุจ กสิวุฒิ พลเรือเอกชัยโรจน์ เพชร์รัตน์ พล.ต.ต.พินิจ มณีรัตน์

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล คุณวัฒน์ชชัย มงคลศรีสวัสด์ นาวาอากาศเอก พิเศษ อรกูลนาวาอากาศเอก(หญิง) จิรายุ ด้วงนุ้ย ผู้แทนกองทัพอากาศ คุณศรัณร์กษ์ ประสานพรรณ ผู้แทน SIMD 2 คุณอณุษา โย้จิ้ว ผู้แทน ISAB 8

และพล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรังได้ร่วมกันเป็นจิตอาสาจัดกิจกรรมตอบแทนสังคม (CSR) โดยได้มอบอุปกรณ์การศึกษา การกีฬาพร้อมทุนการศึกษาให้กับน้องๆ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน ภายในจังหวัดตรัง 2 โรงเรียน เด็กนักเรียน 200 คน

และ โรงเรียนบ้านคลองย่าหนัด ตำบลเกาะกลาง อำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค ปันน้ำใจให้แก่พี่น้องประชาชนในชุมชนใกล้เคียงที่ยากไร้ ในพื้นที่ จังหวัดตรัง จำนวน 100 ครอบครัว ถุงยังชีพ 100 ชุด

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,ชมรมช่วยเหลือสังคม

1 พฤษภาคม 2568 : 13.30 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,ชมรมช่วยเหลือสังคม,นายอุดม พาขุนทด กำนัน ต.หนองบัวตะเกียด,นางรัตนา เหิมขุนทด

ผอ.กองสวัสดิการสังคม ทต.หนองบัวตะเกียด,น.ส.ชญานันท์ คุณปิติวัฒน์ ผอ.รพ.สต.,นายสุกิจ เปียสันเทียะ ผญบ.ม.10,นางลักขณา ชนะเกียรติ แพทย์ประจำตำบล,นางวาสนา ผดุงตาล กรรมการบริหารสมาคมส่งเสริมผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส,นายสมศักดิ์ ฤาชา

ตัวแทนทหารผ่านศึก อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ,นางศศิธร อาจกล้า จิตอาสา อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ : ลงพื้นที่มอบชุดยังชีพ และบรรยายให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ให้กับคนพิการ จำนวน 10 ราย ณ ศาลากลางบ้าน ม.10 ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

*** ขอขอบคุณ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล บริจาคชุดยังชีพ จำนวน 10 ชุด มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ***สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลชมรมช่วยเหลือสังคมทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่3

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จนท.ทหาร ตรวจเข้มรถเข้าออกด่านมุกดาหาร ขณะหน่วยงานกังขาเหตุใดศุลกากรปล่อยคนขับรถขนบุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า ที่ด่านพรมแดนมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน 2105 และเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังสุรนารี เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร -สะหวันนะเขต) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจตรารถโดยสารที่วิ่งเข้าออกสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะรถโดยสารประจำทางที่วิ่งระหว่างประเทศ สายมุกดาหาร-สะหวันนะเขต โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตรวจพบว่ารถโดยสารระหว่างประเทศสายมุกดาหาร-สะหวันนะเขต หมายเลขทะเบียน 10-0716 มุกดาหาร ได้มีการดัดแปลงพื้นที่ด้านหลังห้องโดยสารทำเป็นช่องลับและใช้ซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าและของผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้กว่า 4,000 แท่ง และสินค้าหนีภาษีศุลกากรอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ คดีตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวยังสร้างความกังขาให้กับหน่วยงานที่ตรวจยึดว่า เหตุใดด่านศุลกากรมุกดาหาร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในเรื่องการปราบปรามดำเนินคดีเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร และสินค้าหนีภาษี กลับไม่ดำเนินคดีกับพนักงานขับรถโดยสารคันดังกล่าว ทั้งที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าอาจมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนในการกระทำความผิด

เนื่องจากการนำเอาสิ่งของซึ่งเป็นกระสอบและกล่องขนาดใหญ่เข้ามาไว้ในรถโดยสาร ทั้งยังนำไปซุกซ่อนไว้ในบริเวณที่ถูกดัดแปลงให้เป็นช่องลับ โดยปกติการนำพัสดุหรือสิ่งของใดๆขึ้นมาบนรถย่อมจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานขับรถซึ่งเป็นผู้ควบคุมรถ อีกทั้ง บขส. ยังมีระเบียบขั้นตอนการส่งพัสดุภัณฑ์ ว่าต้องกรอกใบฝากส่งพัสดุภัณฑ์ ระบุที่อยู่ผู้รับและผู้ส่ง หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับและผู้ส่ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพัสดุภัณฑ์เพื่อป้องกันสิ่งของผิดกฎหมายหรือยาเสพติด ไว้ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างชัดเจน

ดังนั้น การที่ด่านศุลกากรมุกดาหารไม่ดำเนินคดีกับพนักงานขับรถโดยสารที่บรรทุกบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักรดังกล่าว ย่อมอาจทำให้สังคมเกิดข้อครหาถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างโปร่งใสหรือมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

ด่านศุลกากรมุกดาหารไม่ดำเนินคดีกับพนักงานขับรถโดยสารบรรทุกบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักร #ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่โปร่งใส #ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ #จังหวัดมุกดาหาร #บขส #ปปช #ปปท #กรมศุลกากร #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พ่อเมืองประจวบฯ นำเดินแบบผ้าไทยตระการตา ในงาน “มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว” รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก /สุดยิ่งใหญ่ ‘งานเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง’ ศิลปินนานาชาติร่วมสืบสานมรดกภูมิปัญญา

ช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ค.68 ที่เวทีกลางงานท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว และงานกาชาด ประจำปี 2568 บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยแพทย์หญิงบุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานพิธีเปิดและร่วมเดินแบบในงาน ผ้าไทยใส่ให้สนุก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ “เส้นด้าย…เดินทาง ครั้งที่ 7″

จัดโดย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ โดยมี นางสาวกุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมกิจกรรมการเดินแบบอย่างคับคั่ง พร้อมด้วย “ปลายฟ้า” น.ส.ปลายฟ้า ทองดอนพุ่ม นางสาวไทยประจวบคีรีขันธ์ 2568

และ “น้องอาอีฟ” เด็กหญิงกัญญ์วรา ปานเพ็ชร์ หนูน้อยยุวทูตแฟชั่นผ้าไทยใส่ให้สนุก 2568 ร่วมสร้างสีสรรค์ในการแสดงเดินแบบในครั้งนี้ ตามด้วย นายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ และเดินปิดท้ายฟินาเล่จากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ในชุดโขมพัสตร์ และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ ในชุดไทยบรมพิมานประยุกต์ อย่างสวยงามตระการตา ซึ่งก็ได้รับความสนใจเรียกเสียงเชียร์จากประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ร่วมชม

โดยรายได้จากการเดินแบบในครั้งนี้ส่วนหนึ่งจะนำไปมอบให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ และกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมป์ เพื่อนำไปใช้จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยต่างๆ โอกาสนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มอบเงินสมทบจำนวน 10,000 บาท ให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ด้วย จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มอบของที่ระลึกแก่ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเดินแบบในครั้งนี้ด้วย


สำหรับ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เป็นพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่มีพระประสงค์ให้เป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายผ้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย และยังเผยแพร่ภูมิปัญญาผ้าไทยให้เห็นว่าสามารถนำไปสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และสามารถนำมาประยุกต์

เป็นเครื่องแต่งกายให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างสวยงาม ทันสมัย และสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย สามารถยกระดับคุณภาพและความสวยงามของเครื่องแต่งกายแบบไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล รวมถึงเป็นการสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย อนุรักษ์เอกลักษณ์ผ้าพื้นถิ่น สนับสนุนกลุ่มอาชีพ/ผู้ประกอบการ OTOP เเละวิสาหกิจชุมชนให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืน.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพฯ

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.68 ที่วัดสุขสำราญ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมได้รับพระเมตตาจาก พระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก

เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ

นายทวีสิน พัฒนาภิรัส ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบฯ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่า องค์กรภาคีเครือข่ายและพุทธศาสนิกชน

เข้าร่วมประกอบพิธี เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล แสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และธำรงรักษาไว้ให้มั่นคงสืบไป และเนื่องด้วยในวันที่ 2 เมษายน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

ในการนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่ง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ จึงได้ร่วมกับวัดสุขสำราญ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุชศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

เริ่มแล้ว!! สุดยิ่งใหญ่ ‘งานเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง’ ศิลปินนานาชาติร่วมสืบสานมรดกภูมิปัญญา

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่บริเวณลานหน้าพระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) มณฑลทหารบกที่ 15 อ.เมือง จ.เพชรบุรี ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี เป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง Phetchaburi Harmony Puppet Festival 2025 มี พลตรี กรกานต์ นาเวชวนิชกุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 ดร.สุรัชสานุ์ ทองมี ผอ.สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ภาคกลาง)

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) น.ส.สุวิมล วิมลกาญจนา ผอ.ศูนย์เครือข่ายสัมพันธ์และแหล่งทุน สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม นางกัญญพัชร นางาม วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี นางดวงใจ คุ้มสอาด ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี นายนิมิตร พิพิธกุล ประธานมูลนิธิหุ่นสายเสมา ศิลปะเพื่อสังคม เจ้าของลิขสิทธิ์ Hormony Puppet Thailand พร้อมด้วยผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนนักท่องเที่ยวร่วมในพิธี

ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ กล่าวว่า เพชรบุรี เป็นเมืองที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและศิลปะที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปะหุ่นเงา “หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย” และ “หนังตะลุงเมืองเพชร” ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาไทยอันล้ำค่า การจัดเทศกาลครั้งนี้

เป็นการรวมพลังของศิลปินจากทั่วโลกและคณะหุ่นหนังตะลุงกว่า 35 คณะ เพื่อร่วมกันเชิดชูและต่อยอดศิลปะการแสดงหุ่นทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย พร้อมแสดงความภาคภูมิใจที่เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนังได้รับรางวัล Asia Local and Traditional Art Festival – Tangible Heritage ประจำปี 2025 จากสมาคม IFEA Asia

ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดฯ ในการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดงานอันทรงคุณค่านี้ขึ้นบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักและน่าสนใจ

มีการแสดงหุ่นหลากหลายรูปแบบจากศิลปินทั้งไทยและต่างชาติ อาทิ หนังใหญ่วัดพลับพลาชัยอันสง่างาม การแสดงหุ่นสายศึกพรหมาสตร์ หุ่นกระบอกไทยท้องถิ่น และหุ่นเงาจากนานาชาติถึง 10 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ญี่ปุ่น เม็กซิโก อินโดนีเซีย เวียดนาม ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และสิงคโปร์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการ การเสวนา และกิจกรรมเวิร์กช็อปที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เรียนรู้และสัมผัสศิลปะหุ่นอย่างใกล้ชิด เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง Phetchaburi Harmony Puppet Festival ๒๐๒๕ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤษภาคม 2568 ณ บริเวณถนนดำรงรักษ์ พระรามราชนิเวศน์ บริเวณวัดพลับพลาชัย และบริเวณถนนมีชีวิตพานิชเจริญ อำเภอเมืองเพชรบุรี โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและยกระดับศิลปะหุ่นเงาไทย

ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ตลอดจนสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมการแสดงและกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงาน พลาดไม่ได้!

กับการรวมตัวของสุดยอดศิลปินหุ่นไทยและนานาชาติ พร้อมชมการแสดงอันตระการตาของหนังใหญ่วัดพลับพลาชัย หนังตะลุงเมืองเพชร และหุ่นเงาจากหลากหลายวัฒนธรรม ที่จะมาสร้างความสุขและเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับทุกท่าน ณ “เมืองหนัง” เพชรบุรี
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

เรียกตรวจเพราะห่วงปาล์มร่วง! ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เจอยาบ้า 543 เม็ดซุกกระเป๋า หนุ่มคนขับรถกระบะถึงกับลนลาน

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.ประวิทย์ ภู่ทอง รอง สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ได้นำรถวิทยุตรวจการณ์หมายเลขข้างรถ 2304 ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ โดยมี ด.ต.อมรเทพ อ่อนจ้อย, จ.ส.ต.รุจโรจน์ ประกอบศุขราษฎร์ และ จ.ส.ต.อดิศร สุนทร ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ร่วมปฏิบัติหน้าที่

กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เดินทางถึงบริเวณ กม.287 ถนนเพชรเกษม (ทล.4) ขาขึ้น ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถยนต์กระบะสีแดง หมายเลขทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์  บรรทุกพืชผลทางการเกษตร เป็นผลปาล์มน้ำมันมาในรถ วิ่งผ่านมุ่งหน้าทิศเหนือ โดยไม่ปิดคลุมด้วยผ้าใบ ผลปาล์มอาจร่วงหล่น ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ถนนรายอื่นได้ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ

เมื่อรถจอด เจ้าหน้าที่พบว่า นายทศวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาว ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตาม ขณะพูดคุย นายทศวัฒน์มีอาการลุกลี้ลุกลน น่าสงสัยว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่

เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้น โดยได้ชี้แจงจุดประสงค์และแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ถูกตรวจสอบทราบจนเป็นที่พอใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะยินยอมให้ตรวจค้น

ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 543 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าผ้าสะพาย สีเขียวแบบมีซิป วางอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ เมื่อตรวจสอบเบื้องต้น นายทศวัฒน์ยอมรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนจริง

หลังการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยขณะมีสารเสพติดของยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งการจับกุมแก่ฝ่ายปกครองและอัยการทราบแล้ว รวมถึงบันทึกภาพและอัพโหลดข้อมูลเข้าสู่ระบบ CIB-CCOC ตามขั้นตอนต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง