สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นักศึกษา ผู้บริหาร ด้านบูรณาการพัฒนากรุงเทพฯ (SIMD 1-2) รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 วพน.12 พอช.1 และ ISAB 8 /สภาสังคมสงเคราะห์ มอบชุดยังชีพคนพิการ 10 ราย

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 คณะนักศึกษาหลักสูตร ผู้บริหารระดับสูงด้านบูรณาการพัฒนากรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน (SIMD 1-2) รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 วพน.12 พอช.1 และ ISAB 8

พร้อมด้วยหน่วยราชการ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บช.ตชด. ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นำโดย คุณพินิจ จารุสมบัติ ประธานรุ่น วพน.12 พอช.1 พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ประธานรุ่น SIMD 1 พลเอกรุจ กสิวุฒิ พลเรือเอกชัยโรจน์ เพชร์รัตน์ พล.ต.ต.พินิจ มณีรัตน์

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล คุณวัฒน์ชชัย มงคลศรีสวัสด์ นาวาอากาศเอก พิเศษ อรกูลนาวาอากาศเอก(หญิง) จิรายุ ด้วงนุ้ย ผู้แทนกองทัพอากาศ คุณศรัณร์กษ์ ประสานพรรณ ผู้แทน SIMD 2 คุณอณุษา โย้จิ้ว ผู้แทน ISAB 8

และพล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรังได้ร่วมกันเป็นจิตอาสาจัดกิจกรรมตอบแทนสังคม (CSR) โดยได้มอบอุปกรณ์การศึกษา การกีฬาพร้อมทุนการศึกษาให้กับน้องๆ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน ภายในจังหวัดตรัง 2 โรงเรียน เด็กนักเรียน 200 คน

และ โรงเรียนบ้านคลองย่าหนัด ตำบลเกาะกลาง อำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค ปันน้ำใจให้แก่พี่น้องประชาชนในชุมชนใกล้เคียงที่ยากไร้ ในพื้นที่ จังหวัดตรัง จำนวน 100 ครอบครัว ถุงยังชีพ 100 ชุด

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,ชมรมช่วยเหลือสังคม

1 พฤษภาคม 2568 : 13.30 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,ชมรมช่วยเหลือสังคม,นายอุดม พาขุนทด กำนัน ต.หนองบัวตะเกียด,นางรัตนา เหิมขุนทด

ผอ.กองสวัสดิการสังคม ทต.หนองบัวตะเกียด,น.ส.ชญานันท์ คุณปิติวัฒน์ ผอ.รพ.สต.,นายสุกิจ เปียสันเทียะ ผญบ.ม.10,นางลักขณา ชนะเกียรติ แพทย์ประจำตำบล,นางวาสนา ผดุงตาล กรรมการบริหารสมาคมส่งเสริมผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส,นายสมศักดิ์ ฤาชา

ตัวแทนทหารผ่านศึก อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ,นางศศิธร อาจกล้า จิตอาสา อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ : ลงพื้นที่มอบชุดยังชีพ และบรรยายให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ให้กับคนพิการ จำนวน 10 ราย ณ ศาลากลางบ้าน ม.10 ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

*** ขอขอบคุณ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล บริจาคชุดยังชีพ จำนวน 10 ชุด มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ***สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลชมรมช่วยเหลือสังคมทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่3

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จนท.ทหาร ตรวจเข้มรถเข้าออกด่านมุกดาหาร ขณะหน่วยงานกังขาเหตุใดศุลกากรปล่อยคนขับรถขนบุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า ที่ด่านพรมแดนมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน 2105 และเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังสุรนารี เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร -สะหวันนะเขต) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจตรารถโดยสารที่วิ่งเข้าออกสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะรถโดยสารประจำทางที่วิ่งระหว่างประเทศ สายมุกดาหาร-สะหวันนะเขต โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตรวจพบว่ารถโดยสารระหว่างประเทศสายมุกดาหาร-สะหวันนะเขต หมายเลขทะเบียน 10-0716 มุกดาหาร ได้มีการดัดแปลงพื้นที่ด้านหลังห้องโดยสารทำเป็นช่องลับและใช้ซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าและของผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้กว่า 4,000 แท่ง และสินค้าหนีภาษีศุลกากรอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ คดีตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวยังสร้างความกังขาให้กับหน่วยงานที่ตรวจยึดว่า เหตุใดด่านศุลกากรมุกดาหาร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในเรื่องการปราบปรามดำเนินคดีเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร และสินค้าหนีภาษี กลับไม่ดำเนินคดีกับพนักงานขับรถโดยสารคันดังกล่าว ทั้งที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าอาจมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนในการกระทำความผิด

เนื่องจากการนำเอาสิ่งของซึ่งเป็นกระสอบและกล่องขนาดใหญ่เข้ามาไว้ในรถโดยสาร ทั้งยังนำไปซุกซ่อนไว้ในบริเวณที่ถูกดัดแปลงให้เป็นช่องลับ โดยปกติการนำพัสดุหรือสิ่งของใดๆขึ้นมาบนรถย่อมจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานขับรถซึ่งเป็นผู้ควบคุมรถ อีกทั้ง บขส. ยังมีระเบียบขั้นตอนการส่งพัสดุภัณฑ์ ว่าต้องกรอกใบฝากส่งพัสดุภัณฑ์ ระบุที่อยู่ผู้รับและผู้ส่ง หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับและผู้ส่ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพัสดุภัณฑ์เพื่อป้องกันสิ่งของผิดกฎหมายหรือยาเสพติด ไว้ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างชัดเจน

ดังนั้น การที่ด่านศุลกากรมุกดาหารไม่ดำเนินคดีกับพนักงานขับรถโดยสารที่บรรทุกบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักรดังกล่าว ย่อมอาจทำให้สังคมเกิดข้อครหาถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างโปร่งใสหรือมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

ด่านศุลกากรมุกดาหารไม่ดำเนินคดีกับพนักงานขับรถโดยสารบรรทุกบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักร #ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่โปร่งใส #ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ #จังหวัดมุกดาหาร #บขส #ปปช #ปปท #กรมศุลกากร #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พ่อเมืองประจวบฯ นำเดินแบบผ้าไทยตระการตา ในงาน “มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว” รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก /สุดยิ่งใหญ่ ‘งานเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง’ ศิลปินนานาชาติร่วมสืบสานมรดกภูมิปัญญา

ช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ค.68 ที่เวทีกลางงานท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว และงานกาชาด ประจำปี 2568 บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยแพทย์หญิงบุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานพิธีเปิดและร่วมเดินแบบในงาน ผ้าไทยใส่ให้สนุก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ “เส้นด้าย…เดินทาง ครั้งที่ 7″

จัดโดย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ โดยมี นางสาวกุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมกิจกรรมการเดินแบบอย่างคับคั่ง พร้อมด้วย “ปลายฟ้า” น.ส.ปลายฟ้า ทองดอนพุ่ม นางสาวไทยประจวบคีรีขันธ์ 2568

และ “น้องอาอีฟ” เด็กหญิงกัญญ์วรา ปานเพ็ชร์ หนูน้อยยุวทูตแฟชั่นผ้าไทยใส่ให้สนุก 2568 ร่วมสร้างสีสรรค์ในการแสดงเดินแบบในครั้งนี้ ตามด้วย นายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ และเดินปิดท้ายฟินาเล่จากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ในชุดโขมพัสตร์ และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ ในชุดไทยบรมพิมานประยุกต์ อย่างสวยงามตระการตา ซึ่งก็ได้รับความสนใจเรียกเสียงเชียร์จากประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ร่วมชม

โดยรายได้จากการเดินแบบในครั้งนี้ส่วนหนึ่งจะนำไปมอบให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ และกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมป์ เพื่อนำไปใช้จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยต่างๆ โอกาสนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มอบเงินสมทบจำนวน 10,000 บาท ให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ด้วย จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มอบของที่ระลึกแก่ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเดินแบบในครั้งนี้ด้วย


สำหรับ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เป็นพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่มีพระประสงค์ให้เป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายผ้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย และยังเผยแพร่ภูมิปัญญาผ้าไทยให้เห็นว่าสามารถนำไปสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และสามารถนำมาประยุกต์

เป็นเครื่องแต่งกายให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างสวยงาม ทันสมัย และสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย สามารถยกระดับคุณภาพและความสวยงามของเครื่องแต่งกายแบบไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล รวมถึงเป็นการสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย อนุรักษ์เอกลักษณ์ผ้าพื้นถิ่น สนับสนุนกลุ่มอาชีพ/ผู้ประกอบการ OTOP เเละวิสาหกิจชุมชนให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืน.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพฯ

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.68 ที่วัดสุขสำราญ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมได้รับพระเมตตาจาก พระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก

เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ

นายทวีสิน พัฒนาภิรัส ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบฯ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่า องค์กรภาคีเครือข่ายและพุทธศาสนิกชน

เข้าร่วมประกอบพิธี เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล แสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และธำรงรักษาไว้ให้มั่นคงสืบไป และเนื่องด้วยในวันที่ 2 เมษายน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

ในการนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่ง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ จึงได้ร่วมกับวัดสุขสำราญ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุชศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

เริ่มแล้ว!! สุดยิ่งใหญ่ ‘งานเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง’ ศิลปินนานาชาติร่วมสืบสานมรดกภูมิปัญญา

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่บริเวณลานหน้าพระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) มณฑลทหารบกที่ 15 อ.เมือง จ.เพชรบุรี ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี เป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง Phetchaburi Harmony Puppet Festival 2025 มี พลตรี กรกานต์ นาเวชวนิชกุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 ดร.สุรัชสานุ์ ทองมี ผอ.สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ภาคกลาง)

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) น.ส.สุวิมล วิมลกาญจนา ผอ.ศูนย์เครือข่ายสัมพันธ์และแหล่งทุน สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม นางกัญญพัชร นางาม วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี นางดวงใจ คุ้มสอาด ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี นายนิมิตร พิพิธกุล ประธานมูลนิธิหุ่นสายเสมา ศิลปะเพื่อสังคม เจ้าของลิขสิทธิ์ Hormony Puppet Thailand พร้อมด้วยผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนนักท่องเที่ยวร่วมในพิธี

ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ กล่าวว่า เพชรบุรี เป็นเมืองที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและศิลปะที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปะหุ่นเงา “หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย” และ “หนังตะลุงเมืองเพชร” ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาไทยอันล้ำค่า การจัดเทศกาลครั้งนี้

เป็นการรวมพลังของศิลปินจากทั่วโลกและคณะหุ่นหนังตะลุงกว่า 35 คณะ เพื่อร่วมกันเชิดชูและต่อยอดศิลปะการแสดงหุ่นทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย พร้อมแสดงความภาคภูมิใจที่เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนังได้รับรางวัล Asia Local and Traditional Art Festival – Tangible Heritage ประจำปี 2025 จากสมาคม IFEA Asia

ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดฯ ในการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดงานอันทรงคุณค่านี้ขึ้นบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักและน่าสนใจ

มีการแสดงหุ่นหลากหลายรูปแบบจากศิลปินทั้งไทยและต่างชาติ อาทิ หนังใหญ่วัดพลับพลาชัยอันสง่างาม การแสดงหุ่นสายศึกพรหมาสตร์ หุ่นกระบอกไทยท้องถิ่น และหุ่นเงาจากนานาชาติถึง 10 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ญี่ปุ่น เม็กซิโก อินโดนีเซีย เวียดนาม ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และสิงคโปร์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการ การเสวนา และกิจกรรมเวิร์กช็อปที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เรียนรู้และสัมผัสศิลปะหุ่นอย่างใกล้ชิด เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง Phetchaburi Harmony Puppet Festival ๒๐๒๕ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤษภาคม 2568 ณ บริเวณถนนดำรงรักษ์ พระรามราชนิเวศน์ บริเวณวัดพลับพลาชัย และบริเวณถนนมีชีวิตพานิชเจริญ อำเภอเมืองเพชรบุรี โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและยกระดับศิลปะหุ่นเงาไทย

ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ตลอดจนสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมการแสดงและกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงาน พลาดไม่ได้!

กับการรวมตัวของสุดยอดศิลปินหุ่นไทยและนานาชาติ พร้อมชมการแสดงอันตระการตาของหนังใหญ่วัดพลับพลาชัย หนังตะลุงเมืองเพชร และหุ่นเงาจากหลากหลายวัฒนธรรม ที่จะมาสร้างความสุขและเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับทุกท่าน ณ “เมืองหนัง” เพชรบุรี
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

เรียกตรวจเพราะห่วงปาล์มร่วง! ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เจอยาบ้า 543 เม็ดซุกกระเป๋า หนุ่มคนขับรถกระบะถึงกับลนลาน

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.ประวิทย์ ภู่ทอง รอง สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ได้นำรถวิทยุตรวจการณ์หมายเลขข้างรถ 2304 ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ โดยมี ด.ต.อมรเทพ อ่อนจ้อย, จ.ส.ต.รุจโรจน์ ประกอบศุขราษฎร์ และ จ.ส.ต.อดิศร สุนทร ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ร่วมปฏิบัติหน้าที่

กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เดินทางถึงบริเวณ กม.287 ถนนเพชรเกษม (ทล.4) ขาขึ้น ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถยนต์กระบะสีแดง หมายเลขทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์  บรรทุกพืชผลทางการเกษตร เป็นผลปาล์มน้ำมันมาในรถ วิ่งผ่านมุ่งหน้าทิศเหนือ โดยไม่ปิดคลุมด้วยผ้าใบ ผลปาล์มอาจร่วงหล่น ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ถนนรายอื่นได้ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ

เมื่อรถจอด เจ้าหน้าที่พบว่า นายทศวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาว ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตาม ขณะพูดคุย นายทศวัฒน์มีอาการลุกลี้ลุกลน น่าสงสัยว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่

เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้น โดยได้ชี้แจงจุดประสงค์และแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ถูกตรวจสอบทราบจนเป็นที่พอใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะยินยอมให้ตรวจค้น

ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 543 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าผ้าสะพาย สีเขียวแบบมีซิป วางอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ เมื่อตรวจสอบเบื้องต้น นายทศวัฒน์ยอมรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนจริง

หลังการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยขณะมีสารเสพติดของยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งการจับกุมแก่ฝ่ายปกครองและอัยการทราบแล้ว รวมถึงบันทึกภาพและอัพโหลดข้อมูลเข้าสู่ระบบ CIB-CCOC ตามขั้นตอนต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ซาบีดา รมช.มหาดไทยเปิดมหกรรมตาดีดาสัมพันธ์เทศบาลตำบลรือเสาะ สืบสานประเพณีท้องถิ่น แสดงอยู่ร่วมกัน ทุกศาสนาอย่างสันติสุข

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิดอัลฮีดายะห์ บ้านบือแนยาโมง ม.2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดมหกรรมตาดีดาสัมพันธ์เทศบาลตำบลรือเสาะ ครั้งที่ 12

โดยมีวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอามีร ซาริคาน นายก เทศมนตรีตำบลรือเสาะ ดร.ซาการียา สะอิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนราธิวาสเขต 4 ตลอดจนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมมหกรรมในครั้งนี้

ทั้งนี้เทศบาลตำบลรือเสาะได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ตลอดจนสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อดำรงไว้ซึ่ง ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่ดีงามของท้องถิ่น โดยการจัดงานครั้งนี้เพื่อให้โรงเรียนตาดีกาเป็นสถาบันการศึกษาที่ส่งเสริมเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ให้คำสอนหลักการศาสนาที่ถูกต้อง

และร่วมกิจกรรมในการเสริมสร้าง พัฒนาการที่ดีให้กับเด็กๆและเยาวชนในพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนการสอน และ สนับสนุนทุกกิจกรรมในชุมชน เพื่อสร้างความสามัคคีในชุมชนและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่นที่ดีงาม เพื่อส่งเสริมนักเรียนตาดีกา ได้แสดงออกในทางที่สร้างสรรค์

โดยการจัดงานในครั้งนี้มีหลากหลายกิจกรรม อาทิเช่น การแข่งขันกีฬาสากล กิจกรรมภาควิชาการ และกิจกรรมภาคเวที ของโรงเรียนตาดีกา ทั้ง 6 ตาดีกา ในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ ประกอบด้วย

  1. ตาดีกาอัลฮีดายะห์ ชุมชนบือแนยาโมงชุมสาย 2. ตาดีกายุมอียะห์ ชุมชนมัสยิดกลาง 3.ตาดีกาเดรารำใบ ชุมชนราแมวิทยา
    4.ตาดีกาอัลนาซีอีน ชุมชนกำปงยะบะ 5.ตาดีการาวฎอตุลยันนะห์ ชุมชนบาเละ 6.และตาดีกานูรุลญิฮาด ชุมชนปราลีหลังสถานี ซึ่งโรงเรียนตาดีกาเป็นสถาบันการศึกษาหนึ่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานการศึกษาเอกชน ถือเป็นสถาบันการศึกษาที่ปลูกฝังในเรื่องการส่งเสริม คุณธรรมจริยธรรม และให้ความรู้เรื่องหลักคำสอนศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ถือได้ว่าเป็น สิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากมีโรงเรียนตาดีกา จำนวน 6 โรง แล้วยังมี ตัวแทนโรงเรียนตาดีกาในแต่ละตำบลของอำเภอรือเสาะอีก 9 ตำบล มาร่วมในการเดินขบวนพาเหรด รวมกับพี่น้องในเขตเทศบาลทั้ง 13 ชุมชน เพื่อสร้างสีสันและแสดงถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น รวมทั้งการแสดงพลังความรัก ความสามัคคี ของพี่น้องในพื้นที่ทุกภาคส่วน

พื้นที่อำเภอรือเสาะ เทศบาลตำบลรือเสาะ ซึ่งเป็นพื้นที่พหุวัฒนธรรมมีพี่น้องที่นับถือ ศาสนาพุทธ ไทยมุสลิม พี่น้องไทยเชื้อสายจีน และพี่น้องไทยเชื้อสายปากีสถาน ซึ่งความหลากหลายดังกล่าวไม่ใช่อุปสรรคในการอยู่ร่วมกัน ความแตกต่างไม่ใช่ความแตกแยก ซึ่งจะเห็นได้ว่ากิจกรรมในวันนี้มีพี่น้องทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มวัย ทุกศาสนา มารวมแสดงออกถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข บนความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของเทศบาลตำบลรือเสาะ สร้างสังคมพหุวัฒนธรรม นำสู่เมืองน่าอยู่ ผู้คนมีสุข

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าสำหรับการจัดงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรักความสามัคคีของคนในชุมชน และน้องนักเรียนสามารถที่จะมีเวทีในการกล้าแสดงออกในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแข่งขันทางด้านกีฬา และการแข่งขันต่างๆ ที่จะเป็นการรวมชุมชนของเราให้มีพลานุภาพให้เป็นเอกภาพ สิ่งสำคัญที่ชุมชนสามารถสะท้อนให้เห็นได้ว่าความรักความสามัคคีความเข้มแข็งของชุมชนนั้นมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไร

ซึ่งการที่เราจะเป็นบุคคลที่มีคุณภาพการที่เราจะเป็นบุคคลที่สามารถสร้างบ้านเมืองได้ สิ่งแรกก็คือเรื่องของศาสนาเรื่องของจริยธรรมต่างๆซึ่งเป็นรากฐานเป็นแนวทางที่ถูกต้องให้กับพวกเรา และการอยู่ร่วมกันในสังคมมีคุณธรรมจริยธรรมก็เป็นเรื่องสำคัญในการช่วยเหลือในการแบ่งปันกับผู้คนในสังคมช่วยเหลือโดยไม่แบ่งแยกชาติศาสนา เราสามารถช่วยเหลือได้เพราะว่าในสังคมของพหุวัฒนธรรมความรักความสามัคคี การจัดงานในวันนี้ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
/////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /“หมอกี้ มาดามพลังงาน” ขอปั้น “MUT SMART QUEEN”เปิดตัวแคมเปญการประกวด มิสยูนิเวิร์สระยอง 2025

“มาดามพลังงาน” หมอกี้ ดร. อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ หัวเรือใหญ่แห่ง บริษัท รีเจน สมาร์ทซิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ REGEN SMART CITY (THAILAND) CO.,LTD ทุ่มงบจัดงานแถลงข่าวครั้งใหญ่ในฐานะผู้ถือสิทธิ์การประกวด MISS UNIVERSE RAYONG 2025 (มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025) เพื่อเฟ้นหาสาวงาม ตัวแทนจังหวัดระยอง เข้าร่วมประชันความงามอันทรงคุณค่าบนเวทีการประกวด MISS UNIVERSE THAILAND 2025 (มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025) ภายใต้แนวคิด ส่งเสริมความงามผ่านนิยามคำว่า “SMART QUEEN (สมาร์ท ควีน)” สะท้อนภาพลักษณ์ผู้หญิงยุคใหม่ที่มีพร้อมทั้งความงาม ความฉลาด และ ใส่ใจต่อสังคม โดยได้รับแรงสนับสนุนจากทางภาครัฐ และ เอกชนในจังหวัดระยอง ร่วมผลักดันแคมเปญการประกวด เพื่อยกระดับจังหวัดระยองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ส่งเสริมประเทศไทยในระดับสากล อย่างจริงจัง ณ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) อ.วังจันทร์ จ.ระยอง

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางสาวสลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ ความสำคัญและศักยภาพของจังหวัดระยอง , การสนับสนุนพลังผู้หญิง ในการขับเคลื่อนสังคม , การขับเคลื่อนสินค้า Otop ผ่านการประกวดนางงาม ,ทางด้าน ดร.วุฒิ ด่านกิตติกุล ผู้อำนวยการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) กล่าวถึง ภารกิจของหน่วยงาน EECi ความสำคัญและทิศทางของนวัตกรรมไทย ,การเข้าถึงนวัตกรรมของประชาชนทั่วไป จากการส่งเสริมของภาครัฐ ปิดท้ายด้วย ดร.อภิชาติบุตร รอดยัง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ( Depa ) เขตพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ผู้เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน และ อนาคตของประเทศไทย กล่าวถึงการพัฒนาไทยให้เป็น smart city ส่งผลดีอะไรบ้าง อุปสรรคที่เจอในปัจจุบัน ในการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ พร้อมเชิญชวนคนไทยเรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน นอกจากนี้ ทีมบริหารหอการค้าจังหวัดระยอง ให้เกียรติร่วมงานและแสดงความยินดีกับ PD คนเก่ง

จากนั้นพิธีกร แชมป์ สกุล ลิมปภานนท์ นำชมแฟชั่นโชว์ ผ้าหมักโคลนทะเล (eco)…ความงามจากธรรมชาติสู่แฟชั่น สินค้าพื้นถิ่น อำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง ก่อนเปิดตัว มาดามพลังงาน ดร. อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ ผู้อำนวยการกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025 เผยแคมปญเพื่อค้น “SMART QUEEN” ในปีนี้ ได้ริเริ่มโครงการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับจังหวัดระยองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) พร้อมผลักดัน การสร้างภาพลักษณ์ของไทยในระดับสากล ผ่านการใช้ เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Smart Health) มาดูแลผู้เข้าร่วมประกวด ทั้งเก็บข้อมูลสุขภาพ ความปลอดภัย และระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) นอกจากนี้ ผู้จัดฯยังให้ความสำคัญกับการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ผลักดัน Soft Power ของระยอง ผ่านวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวสู่สายตาชาวโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดระยองในฐานะแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพระดับสากล

จากนั้นวินาทีที่แฟนนางงามรอคอย ทั้งที่เดินทางมาเชียร์ภายในงาน และ ที่กำลังรับชมผ่านทาง Live Streaming on FACEBOOK : MISS UNIVERSE THAILAND เปิดตัวผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025 อย่างเป็นทางการ เดินอวดโฉมแนะนำตัวเอง ต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติ และ สื่อมวลชน ก่อนจะได้ชมความงามของมงกุฎ MUT Rayong 2025 “The Crown of Lumina” (ลูมิน่า) สื่อความหมาย ราชินีที่เป็นแสงนำทาง มีวิสัยทัศน์ชาญฉลาด เปล่งประกายทั้งภายในและภายนอก จากนั้นต้อนรับการมาเยือนเวทีนางงามอย่างเป็นทางการของ นางเอก-นักธุรกิจสาวสวย ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ CEO UZI Cosmetic ร่วมเป็น Beauty Coach เสริมเติมแต่งให้ผู้เข้าประกวดเป็นผู้หญิงสวยที่สมบูรณ์แบบ และอีกบทบาทสำคัญครั้งใหม่ของ เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ รองอันดับ1 มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025 ร่วมเทรนด์การพูดและการตอบคำถาม (Public Speaking Coach) ให้กับผู้เข้าประกวดตลอดการเก็บตัวในครั้งนี้ ที่สำคัญนอกจากโอกาสในการเป็นตัวแทน มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025 และโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตแล้ว มาดามพลังงาน ยังทุ่มรางวัลสำหรับผู้ชนะกว่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียว จัดหนักกับ 2 แคมเปญใหญ่

  1. Building the Future ,A Journey to Dubai รางวัลสำหรับผู้ที่ทำยอดขายครบ 100,000 บาท เตรียมบิดลัดฟ้าไปร่วมงาน Event ที่ประเทศดูไบ และสัมผัสเมืองต้นแบบ Smart City ของโลก
  2. Beyond Beauty,Beyond Luxury ผู้ที่ทำยอดขายครบ 50,000 บาท จะได้ร่วมถ่ายแบบเครื่องเพชรโดย Beauty Gems ลงบนปกนิตยสาร HOWE

สำหรับกิจกรรมสำคัญของการประกวด มิสยูเวิร์สระยอง 2025 จะเก็บตัวระหว่างวันที่ 4-7 มิถุนายน ก่อนจะประกวดรอบตัดสินในคืนวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ณ Passione Shopping Destination อ.เมือง จ.ระยอง
หมายเหตุ ภาพ-ข่าว อยู่ใน Link นี้ : https://drive.google.com/drive/folders/117OP1mdJCjNjwdAQHhgbGc8OIpdKZFNt?usp=sharing

ติดตามทุกกิจกรรมได้จากทุกช่องทาง
Facebook : มิสยูนิเวิร์สระยอง – Miss Universe Rayong

MissUniverseRayong #MissUniverseRayong2025 #MissUniverseThailand #MissUniverseThailland2025 #MUTRayong #MUTRayong2025 #MUT #MUT2025 #TheNewEraOfMUT#MGIxMUT #The74thMissUniverse #MissUniverse #มิสยูนิเวิร์สระยอง2025

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2025 #RegenSmartCity #Shakira #หมอกี้ชากีร่า #BeyondBeautyBuildingTheFuture #SmartQueen #SmartCity #SmartCityThailand #RayongSmartCity

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เฉพาะกิจ มิสยูนิเวิร์สระยอง 2025 Tel:0623955642

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /“แน็ก ชาลี” เปิดคลาสสอนไลฟ์ครั้งแรก! จับมือ “โค้ชเบลล์” ถ่ายทอดสด “เต๊ะ ศตวรรษ” เรียนจริง “เบิ้ล – แอมป์” ร่วมสังเกตการณ์

29 เมษายน 2568 – แพลตฟอร์ม SLR – Social Life Republic คึกคักตั้งแต่คลาสแรก เมื่อ “แน็ก ชาลี” เปิดตัวในบทบาทใหม่ สอนเทคนิคการไลฟ์ขายของผ่านมือถือ จับคู่ “โค้ชเบลล์” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ถ่ายทอดประสบการณ์แบบสด ๆ ให้กับผู้เรียนทั้งในห้องและออนไลน์

“เต๊ะ – ศตวรรษ เศรษฐกร” นักแสดงรุ่นใหญ่ขอร่วมเรียนจริง พร้อมร่วมเข้าซีนไลฟ์กับแน้ก ขณะเดียวกันสองคนดัง “เบิ้ล ปทุมราช” และ “แอมป์ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์” ก็เข้าร่วมคลาสในฐานะผู้สังเกตการณ์ ร่วมซึมซับแนวคิดการสร้างรายได้จากมือถือเครื่องเดียว

โดยในห้องเรียน ยังมีเหล่า ศิลปินดารา ยุค 90 คับคั่ง อทิ อะตอม ….บรรยากาศภายในคลาสเต็มไปด้วยความสนุก ความรู้ และแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นหัวใจของแคมเปญ “Thailand LIVE for LIFE – ประเทศไทยต้องไปต่อ” ที่ SLR มุ่งมั่นสร้างพื้นที่แห่งโอกาสให้คนไทยทุกคนเริ่มต้นอาชีพใหม่ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสุธรรม ศรีเมฆานนท์ CEO SLR กล่าวย้ำว่า

“SLR ไม่ใช่แค่พื้นที่เรียนรู้ แต่คือจุดเปลี่ยนชีวิต — เราให้เครื่องมือที่ใช้ได้จริง และคนธรรมดาทุกคนเริ่มต้นได้ทันที”

นอกจากนี้ ยังมีอดีตรองนางสาวไทย “เมย์ – กุณฑีรา สัตตบงกช” และกลุ่มนักแสดงยุค 90 เข้าร่วมสังเกตการณ์ในงานนี้ เพื่อร่วมส่งต่อพลังบวกให้กับสังคมไทยยุคดิจิทัล


ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นสร้างอาชีพยุคใหม่
แสกน QR Code เพื่อเข้าร่วม Line OpenChat
หรือสมัครเรียนฟรีได้ที่: www.socialliferepublic.com
Line Official: @socialliferepublic

แน็กชาลี #เต๊ะศตวรรษ #เบิ้ลปทุมราช #แอมป์พีรวัศ #SLRPlatform #ThailandLiveForLife #ประเทศไทยต้องไปต่อ #สอนสร้างรายได้ออนไลน์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “พลเอก ประยุทธ์ องคมนตรี” ประธาน ปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการกองทุนการศึกษา เครือข่ายด้านคุณธรรม จริยธรรม แพร่ – น่าน

“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี” เป็นประธานปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา และโรงเรียนเครือข่ายด้านคุณธรรม จริยธรรม จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน

วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 นางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน พร้อมด้วย นางพัทธนันท์ พิพิธนวงค์ รองผู้อำนวยการฯ

เข้าร่วมพิธีปิด การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา และโรงเรียนเครือข่ายด้านคุณธรรม จริยธรรม จังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน ณ โรงแรมเทวราช อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นประธานในพิธี กล่าวให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้เข้าอบรม มอบวุฒิบัตร และกล่าวปิดการอบรมอย่างเป็นทางการ


การอบรมครั้งนี้จัดโดย ศูนย์ประสานงานโครงการกองทุนการศึกษา จังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2568 เพื่อพัฒนาทักษะครูและผู้บริหารในการจัดกิจกรรมบูรณาการ “ตัวชี้วัดคุณธรรม 12 ประการ” ร่วมกับสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน นำไปสู่การเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล และเหมาะสมกับบริบทพื้นที

เรียนดีมีความสุข #สพฐ #สพม #น่าน #สพมน่าน #SESAONAN #ทีมน่านการศึกษา #NanOneTeam/บุญยงค์ สดสอาก นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าประจวบฯ นำพุทธศาสนิกชนร่วมแสดงมุทิตาสักการะ เจ้าคณะภาค 15 เป็นสมัยที่ 2/“หัวหิน” คึกคัก เดินรณรงค์โค้งสุดท้าย ชวนประชาชนเลือกตั้งเทศบาล

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.68 ที่หอประชุมสงฆ์ วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ อ่านพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้ พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะภาค 15 เป็นสมัยที่ 2

โดยมี พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี พร้อมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ศิษยานุศิษย์พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมแสดงมุทิตาสักการะ

ทั้งนี้ พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยรายนามพระสังมาธิการ ที่เสนอแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะภาค วาระการดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2568 – 2572 โดยได้เข้ารับพระบัญชาสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันพุธที่ 30 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหาคร ในวันนี้จึงได้จัดพิธีต้อนรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมพิธีและแสดงมุทิตาสักการะพระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15

พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ นามเดิมชื่อ ละเอียด วงษ์เณร เกิดวันที่ 8 พ.ย.2489 บิดานายวอน วงษ์เณร มารดานางแช่ม วงษ์เณร ภูมิลำเนาบ้านทางหวาย หมู่ที่ 3 ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบฯ อุปสมบทเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2510 ณ วัดคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบฯ พระอุปัชฌาย์ได้แก่ พระครูศรัทธาโศภิต (หวล สุขิโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ และอดีตเจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ การศึกษา พ.ศ.2505 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านคลองวาฬ พ.ศ.2517 สอบได้นักธรรมชั้นเอก

สำนักเรียนวัดคลองวาฬ ตำแหน่งการปกครอง พ.ศ.2516 รองเจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ (ขณะนั้นวัดยังไม่เป็นพระอารามหลวง) พ.ศ.2528 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดคลองวาฬ พ.ศ.2529 ผู้รักษาแทนเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดคลองวาฬ พ.ศ.2530 เจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดคลองวาฬ พ.ศ.2542 รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (รูปแรกของ จ.ประจวบฯ) พ.ศ.2543 ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ.2544 เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ.2564 – 2572 เจ้าคณะภาค 15.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

“หัวหิน” คึกคัก เดินรณรงค์โค้งสุดท้ายเชิญชวนประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลนครหัวหิน จ.ประจวบฯ นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานในกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครหัวหิน (สท.) และนายกเทศมนตรีนครหัวหิน (Big Day) โดยมี นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลนครหัวหิน / ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครหัวหิน นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน / ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครหัวหิน

คณะกรรมการการเลือกตั้งฯ หัวหน้าส่วนงาน หน่วยงานต่าง ๆ นักเรียน นักศึกษา และผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน ในพิธีเปิดมีการแสดงเชิงสัญลักษณ์โดยการหย่อนบัตรเลือกตั้งจำลองลงในหีบเลือกตั้งจำลอง พร้อมร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งจากบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลนครหัวหิน ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเพื่อเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครหัวหินและนายกเทศมนตรีนครหัวหิน ในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.68 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีชื่ออยู่

นายประสูตร หอมบรรเทิง กล่าวว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งในครั้งนี้มีความสำคัญต่อประชาชนชาวเทศบาลนครหัวหินทุกคน เป็นเครื่องมือกระตุ้นเตือนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ ให้เป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส และชอบด้วยกฎหมาย จึงขอเชิญชวนผู้มีสิทธิออกมาใช้สิทธิ ใช้เสียง ด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้แทนท้องถิ่นที่จะเข้ามาบริหารพัฒนาท้องถิ่นของเราให้เจริญก้าวหน้าตามความต้องการของพี่น้องประชาชนโดยแท้จริง


นายจีรวัฒน์ พราหมณี กล่าวว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีนครหัวหิน แบ่งเป็น 4 เขต เขตละ 15 หน่วย รวมทั้งสิ้น 60 หน่วยเลือกตั้ง เลือกสมาชิกสภาเทศบาล ได้เขตละ 6 คน เลือกนายกเทศมนตรีได้ 1 คน จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล 44,577 คน และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 44,823 คน จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2564 จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหัวหิน 3 เขตเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น 44,857 คน มีผู้มาแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวนทั้งสิ้น 26,700 คน  คิดเป็นร้อยละ 59.52 จำนวนบัตรเสีย 1,582 บัตร และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน 44,994 คน

มีผู้มาแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวนทั้งสิ้น 26,867 คน คิดเป็นร้อยละ 59.71 จำนวนบัตรเสีย 661 บัตร ซึ่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีในครั้งนี้ ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของเทศบาลนครหัวหิน และมีกรอบระยะเวลาเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ท้าทายความสามารถในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามแผนและประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งก็คือการทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากกว่าครั้งก่อน และลดจำนวนบัตรเสียให้มากที่สุด.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ผู้ว่าประจวบฯ เปิดกิจกรรมโค้งสุดท้ายรณรงค์ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งเทศบาลเมืองประจวบฯ

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม “โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ (Big Day) มี นางรัชนีวรรณ พรมเล็ก ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ท้องถิ่นจังหวัดฯ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดฯ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ คณะกรรมการชุมชนในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ ทั้ง 15 ชุมชน และประชาชนทุกภาคส่วน เข้าร่วมจำนวนกว่า 200 คน เพื่อรณรงค์ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้ ให้มากที่สุด และมีบัตรเสียน้อยที่สุด โดยมีการเดินขบวนรณรงค์ไปตามเส้นทางในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ

ทั้งนี้ ในส่วนของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 3 เขตเลือกตั้ง มีจำนวนสมาชิกสภาเทศบาลได้เขตเลือกตั้งละ 6 คน รวมทั้งหมด 18 คน และนายกเทศมนตรี 1 คน ขณะที่ในภาพรวมของจังหวัดมีจำนวนเทศบาลทั้งหมด 16 เทศบาล แบ่งเป็นเทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 1 แห่ง และเทศบาลตำบล 14 แห่ง มีจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล จำนวน 415 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี จำนวน 28 คน  ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อของตนเองและหน่วยเลือกตั้งที่ใช้สิทธิ์ได้จากหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน หรือบัญชีรายชื่อที่ปิดประกาศไว้

ณ ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเทศบาลทุกแห่ง หรือทางแอปพลิเคชั่นสมาร์ท โหวต โดยหลักฐานที่ต้องนำมายืนยันตัวตนเพื่อใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง คือบัตรประจำตัวประชาชน บัตรหมดอายุก็ใช้ได้ หรือสามารถใช้เอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้โดยมีรูปถ่ายของตนเอง และเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เมื่อเข้าคูหาจะได้รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล สีเขียว และบัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรี สีเหลือง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถใช้สิทธิ์ได้ในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ร่วมกันใช้สิทธิ์เพื่อเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปทำหน้าที่บริหารพัฒนาท้องถิ่น.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

“ครัวอิ่มอกอิ่มใจ” คว้าสุดยอด “แกงคั่วสับปะรด” ในงานท่องเที่ยวประจวบฯ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.68 ที่เวทีกลางสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ ให้เกียรติมอบรางวัลและเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะการประกวดเมนูสร้างสรรค์ “แกงคั่วสับปะรด”

ซึ่งเป็นเมนูพื้นถิ่นประจำจังหวัดประจวบฯ จัดโดย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ เพื่อส่งเสริมนโยบาย Prachuap Next Move ภายใต้หัวข้อ Gastronomy ในงาน “ท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว และงานกาชาด” ประจำปี 2568 โดยมีร้านอาหารที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขัน รวม 5 ทีม

ตัดสินโดยชมรมเชฟหัวหิน-ชะอำ ที่มีประสบการณ์ด้านอาหารเกือบ 20 ปี โดยมีแพทย์หญิงบุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ นางสาวกุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ ประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมชมและเป็นสักขีพยาน

ผลการตัดสินเป็นเอกฉันท์ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “แกงคั่วสับปะรดไข่แมงดา” จาก ร้านอาหารอิ่มอกอิ่มใจปราณบุรี ซีฟู้ดแอนด์คาเฟ่ รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร /

รางวัลที่ 2 ได้แก่ แกงคั่วสับปะรด จากทีมอามานทุ่งมะเม่า จาก ทูลานี รีสอร์ท กุยบุรี รับเงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และ รางวัลที่ 3 ได้แก่ แกงคั่วสับปะรดสามอ่าว จาก ทีมครัวชมทะเล รับเงินรางวัล 2,000 บาท


นอกจากนี้ นางสาวกุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ ยังได้นำขบวนร้านอาหารอิสลาม สินค้าเกษตร และสินค้า OTOP มาจัดจำหน่ายภายในงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ออกมาจับ จ่าย ใช้ สอย และเยี่ยมชมกิจกรรมสาธิตต่างๆ

ที่มาจัดแสดงภายในโซนนิทรรศการของหน่วยงานราชการและสินค้า OTOP เมืองประจวบฯ จากทั้ง 19 กระทรวง อีกทั้งยังมีกิจกรรมการแสดงของน้องๆ เยาวชนจากแต่ละโรงเรียน ขึ้นมาแสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวที ให้ผู้เข้าเที่ยวงานได้ชมอีกด้วย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /สซาบีดา มอบโฉนดที่ดินพร้อมเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน

วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00 น. ที่บริเวณพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินฯในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบโฉนดที่ดินและเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ โดยมีนายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นางสาวอัญชลี ตันวานิช ที่ปรึกษาด้านการผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง นายปารเมศ โพธารากุล เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเกิดศักดิ์ ยะโสธร รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสามารถ สุวรรณมณี รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางสาวสุภัทรา ชัยเทวารัณย์ ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง นายว่าศักดิ์ เจิมจิระ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนราธิวาส นายสุนิรันดร์ ท้วมยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ นายรุสลัน โตะแปเราะ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ผู้บริหารทุกภาคส่วน นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ดร.ซาการียา สะอิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนในพื่นที่ เข้าร่วมชื่นชมความสำเร็จในครั้งนี้

ทั้งนี้ความสำเร็จนี้นำมาซึ่งความยินดีและความภาคภูมิใจที่พี่น้องชาวสุไหงโก-ลกได้เข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐ ผ่านโครงการพัฒนาที่ดินและโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม ระหว่างถนนสายหลัก คือ ถนนสายเอเชีย 18 กับทางหลวงชนบท นธ 4031 (ถนนตามผังเมืองสาย ข7) นับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพต่อการพัฒนาเพราะมีองค์ประกอบของโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ อยู่ใกล้กับสถานีขนส่งสุไหงโก-ลก สนามกีฬาของเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ทำการไปรษณีย์ อยู่ใกล้กับด่านชายแดน และศูนย์กลางเมืองสุไหงโก-ลก หลังดำเนินโครงการแล้วเสร็จเจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง นำมาซึ่งประโยชน์แก่เจ้าของที่ดิน ชุมชน และเมือง ณ บริเวณพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเห็นถึงความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่มีที่ดินตาบอด ไม่มีทางเข้าออก จึงได้นำวิธีการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่มาใช้ โดยทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการทำโครงการ ช่วยกันออกแบบบ้านและชุมชนของตนให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจากที่บางแปลงถนนเข้าไม่ถึงก็สามารถเข้าถึงได้ บางแปลงมีรูปร่างหลายเหลี่ยมหรือเป็นเสี้ยว ก็ปรับเปลี่ยนรูปแปลงที่ดินให้เป็นสี่เหลี่ยมสวยงาม ช่วยเพิ่มมูลค่าและสามารถใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น หลักการเพียงแค่พี่น้องประชาชนร่วมกันปันที่ดินออกมาเพื่อก่อสร้างถนน และเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอื่นที่จำเป็น ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับมีมากกว่าหลายเท่าตัว นอกจากนี้การจัดรูปที่ดินยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยที่ดินถือเป็นต้นทุนพื้นฐานในการที่ประชาชนจะสามารถสร้างอาชีพ ทำประโยชน์ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ จะเห็นได้ว่าประโยชน์ต่าง ๆ เกิดทั้งในส่วนของเจ้าของที่ดิน สามารถได้ใช้ประโยชน์ที่ดินของตนเองอย่างเต็มประสิทธิภาพ ชุมชนก็ได้ประโยชน์ และรัฐเองก็ได้ประโยชน์ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย นอกจากกรมโยธาธิการและผังเมืองแล้ว ยังมีหน่วยงานที่บูรณาการความร่วมมือในการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้สำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ได้แก่ กรมที่ดิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้า และการประปา เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อความสุขอย่างยั่งยืน มาร่วมกันพัฒนาชุมชนของท่านไปด้วยกันกับโครงการจัดรูปที่ดินฯ

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการจัดรูปที่ดินเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่กรมโยธาธิการและผังเมืองขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันดำเนินโครงการฯ ไปแล้ว 71 โครงการ 54 จังหวัด ถือเป็นก้าวแห่งความสำเร็จในการพัฒนาเมืองแบบราษฎร์ – รัฐ ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ดินด้วยการ “ปัน” เพื่อ “เปลี่ยน” สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในคราวเดียวทั้งบริเวณ สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้ตรงตามวัตถุประสงค์ผู้ใช้ สอดคล้องตามที่ผังเมืองกำหนด เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม เปิดพื้นที่ตาบอดให้สามารถเข้าถึงและมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการที่ได้มาตรฐาน เกิดความปลอดภัย ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดี และการพัฒนาสิ่งดีดีให้เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองสุไหงโก-ลก


นางสาวอัญชลี ตันวานิช ที่ปรึกษาด้านการผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดนราธิวาสได้ดำเนินโครงการจัดรูป ฯ โครงการที่ 1 ณ บริเวณเทศบาลเมืองนราธิวาส อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส แล้วเสร็จในปี 2564 เพื่อรองรับอุตสาหกรรมชุมชน และสะพานปลากิจกรรมต่อเนื่องจากการประมง เกิดการจ้างงาน ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นโครงการนำร่องเพื่อขยายผลสู่โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส (โครงการ 2) ดำเนินการโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โครงการมีพื้นที่โครงการประมาณ 194 ไร่ แปลงที่ดิน 143 แปลง เจ้าของที่ดิน 58 ราย กรมโยธาธิการและผังเมืองสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินการก่อสร้างถนนสายหลัก สาธารณูปโภค และสาธารณูปการ ถนนตามผังเมืองสาย ข7 ขนาดเขตทาง 18 เมตร ความยาว 1,005 เมตร จำนวนเงิน 67,285,000 บาท เชื่อมถนนสายเอเชีย 18 กับทางหลวงชนบท นธ 4031 (ถนนตามผังเมืองสาย ข7) ก่อสร้างถนนสายรอง จำนวน 9 สาย ความยาวรวม 1,639 เมตร ขนาดเขตทาง 12 เมตร จำนวน 7 สาย ความยาว 1,606 เมตร และขนาดเขตทาง 9.00 เมตร จำนวน 2 สาย ความยาว 33.00 เมตร ดำเนินการโดยใช้งบประมาณจาก 2 แหล่ง ประกอบด้วย 1) เงินจากการจำหน่ายที่ดินจัดหาประโยชน์ ใช้สำหรับดำเนินการสร้างถนนลูกรังและระบบระบายน้ำ 2) งบประมาณจากเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งใช้ดำเนินการในส่วนผิวจราจร ระบบไฟฟ้า และระบบประปา โดยได้นำเข้าแผนของเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ปีงบประมาณ 2568 เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างถนนลูกรังและระบบระบายน้ำ ใช้งบประมาณจากการจำหน่ายที่ดินจัดหาประโยชน์ เป็นจำนวนเงิน 23,130,000 บาท เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ก่อนดำเนินโครงการมีที่ดินสาธารณประโยชน์ประมาณ 12 ไร่ หลังดำเนินโครงการมีที่ดินสาธารณประโยชน์เพิ่มขึ้น 23 ไร่ โดยเป็นสวนสาธารณะ 48.68 ตารางวา ผลจากการดำเนินโครงการทำให้มีพื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเพิ่มขึ้นถึง 11 ไร่ มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น 4.17 เท่า จากเดิมราคาประเมินที่ดินอยู่ที่ 960,000 บาท/ไร่ ปัจจุบันราคา 4,000,000 บาท/ไร่ และยังประหยัดงบประมาณภาครัฐในการเวนคืน 11,176,128 บาท

นายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวเสริม เมืองสุไหงโก-ลก ถือเป็นเมืองการค้าชายแดนของภาคใต้ที่เชื่อมต่อประเทศมาเลเซีย ประชากรมีความเป็นอยู่ที่กระจุก บางพื้นที่ก็กระจาย เมื่อดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ก็สามารถปรับโครงสร้างการอยู่อาศัยและด้านการค้าของประชาชน สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคม การขนส่ง มีความสะดวกมากขึ้น ผลสัมฤทธิ์จากการที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ประชาชน ยอมเสียสละพื้นที่ส่วนตัว เพื่อสร้างพื้นที่ส่วนรวมร่วมกัน เปลี่ยนพื้นที่ตาบอดไปสู่พื้นที่ทำเลทองไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาให้เฉพาะเจ้าของที่ดิน แต่เป็นการวางรากฐานขยายเมืองสู่อนาคตที่ยั่งยืน คือภาพแห่งความสำเร็จในวันนี้ที่ทุกฝ่ายร่วมใจ ร่วมพัฒนาเมืองไปด้วยกัน

//////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กิจกรรมอบรม “วิถีคล้า วิถีคน” ใช้ต้นคล้าสร้างประติมากรรมแห่งศรัทธา เชื่อมโยงตำนานพญานาค สู่การขับเคลื่อน Soft Power ด้านการท่องเที่ยว-โค้งสุดท้ายรณรงค์การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงกาฬและนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ วิทยาลัยนวัตกรรมแห่งบึงกาฬ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ได้มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้ชื่อ “การใช้ต้นคล้าในการสร้างสรรค์ประติมากรรมแห่งศรัทธา วิถีคล้า วิถีคน” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ส่งเสริม Soft Power ด้านการท่องเที่ยว ให้เกิดการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่” ภายใต้กิจกรรม “มหัศจรรย์ศิลป์คล้า เล่าขานตำนานพญานาค สู่อัตลักษณ์ท่องเที่ยวบึงกาฬ”


ภายในพิธีเปิด ได้รับเกียรติจาก นายขัตติยา ชัยมณี วัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธี และ นายณรงค์ศักดิ์ คุรุพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงานถึงความเป็นมาของโครงการ พร้อมด้วยนายเฉลิมเกียรติ แผนกิจเจริญ พัฒนาการจังหวัดบึงกาฬ นายนริศ อาจหาญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งคล้า นายสันทัศน์ ทันนิธิ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัดบึงกาฬ ผู้แทนจากชุมชน และผู้ประกอบการ ร่วมพิธี โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมกว่า 100 คน โดยกิจกรรมมุ่งเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นให้สามารถนำไปต่อยอดในเชิงอาชีพและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการ ส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และ การใช้ทรัพยากรพื้นบ้านอย่างต้นคล้า ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านความยืดหยุ่นและความคงทน มาใช้เป็นวัสดุหลักในการสร้างสรรค์ “ประติมากรรมแห่งศรัทธา” ที่เชื่อมโยงกับตำนานพญานาค ซึ่งเป็นความเชื่อสำคัญของประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขงและถือเป็นอัตลักษณ์สำคัญของจังหวัดบึงกาฬ

วัตถุประสงค์ของการอบรมในครั้งนี้ ได้แก่

  1. เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการใช้ต้นคล้าในการสร้างสรรค์ผลงาน
  2. เพื่อถ่ายทอดความรู้ในการออกแบบและเทคนิคการสร้างประติมากรรม
  3. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนเกิดความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น
  4. เพื่อพัฒนาอาชีพและต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมสู่ตลาดในอนาคต

ในการอบรมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน ได้แก่

  • ดร.ธรรมศาสตร์ ศรีสารคาม อาจารย์ประจำสาขาทัศนศิลป์และการออกแบบ
  • นายณัฐวัชร เดชมาลา อาจารย์จากสำนักวิชาศึกษาทั่วไป
    .
    ทั้งสองท่านได้ร่วมถ่ายทอดทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้แก่ผู้เข้าอบรมอย่างเข้มข้น โดยเนื้อหาครอบคลุมการเลือกใช้วัสดุ เทคนิคการสร้างสรรค์งานศิลป์ การออกแบบรูปทรงที่สะท้อนความเชื่อทางวัฒนธรรม ตลอดจนแนวทางในการพัฒนาผลงานให้สามารถตอบโจทย์ตลาดด้านศิลปะและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในอนาคต
    กิจกรรมนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของจังหวัดบึงกาฬในการขับเคลื่อน Soft Power ด้วยทุนทางวัฒนธรรมพื้นถิ่น สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างพื้นที่การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างภาครัฐ นักวิชาการ และชุมชน อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง ..

ข่าว/ภาพ ณัฏฐ์ ณฐพรหม บึงกาฬ

บึงกาฬจัดกิจกรรม โค้งสุดท้ายรณรงค์การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงกาฬและนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ กระตุ้นประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้ง 11 พฤษภาคม 2568

วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นางกรองแก้ว ธัญญาลาภ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมือบึงกาฬ พร้อมด้วย นายเชิดชัย เจริญดี รองปลัดเทศบาลเมืองบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬ ร่วมงานโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์

การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงกาฬและนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ ภายใต้กิจกรรม “โค้งสุดท้ายรณรงค์การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงกาฬและนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ” ซึ่งจัดขึ้นโดยเทศบาลเมืองบึงกาฬ ที่บริเวณรอบเมืองบึงกาฬ และถนนข้าวเม่าริมโขง จังหวัดบึงกาฬ

กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงสื่อมวลชน ร่วมมือกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมทั้งปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความตื่นตัว และตระหนักถึงความสำคัญของ

การใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างสุจริตและโปร่งใส และเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬอย่างพร้อมเพรียงกันในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีชื่ออยู่

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง