แถลงข่าว จัดประชุม ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ครั้งที่ 61

สโมสรไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ร่วมกับเมืองพัทยา แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการจัดประชุม ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ครั้งที่ 61 คาดมีผู้เข้าร่วมประชุมทั่วโลกเดินทางเข้าเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีกว่า 8,000 คน

( 20 ก.ย.67 ) ณ ห้อง The Prosperity บ้านสุขาวดี พัทยา ไลออน รศ.ดร. วีระ ลาดหนองขุ่น ประธานจัดการประชุม OSEAL Forum Pattaya, นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา, นายชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้แทนสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคตะวันออก , นางสาวอุไร มุกประดับทอง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพัทยา ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมจัดการประชุม” ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ครั้งที่ 61 หรือ OSEAL Forum Pattaya (โอซีล ฟอรัม พัทยา) โดยมีคณะมวลหมู่สมาชิกสโมสรไลออนส์ ตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมงาน

สโมสรไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ร่วมกับเมืองพัทยา ได้ดำเนินประจำปี ไลออนส์ภาคพื้นบูรพา และเอเชียอาดเนย์ ครั้งที่ 61 (The 61″ ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ) หรือ”OSEAL” เพื่อให้มวลสมาชิกสโมสรไลออนส์ได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สร้างความสัมพันธไมตรี มิตรภาพ เรียนรู้ แลกเปลี่ยนขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุม และผู้ติดตาม การประชุมโอซีล ฟอรั่ม พัทยา มากกว่า 8,000 คน จากสมาชิก 16 ประเทศ ที่จะเกิดขึ้นช่วง 15-17 พฤศจิกายน และได้จัดงานลอยกระทงในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ณ บ้านสุขาวดี ลาน 93 ปี ดร.ปัญญา โชติเววัญ ที่จะแขกร่วมงานกว่า 4,500 คน อีกด้วย

“พล.ต.ท.ประจวบฯ” ลงพื้นที่พะเยา ตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญตำรวจประสบอุทกภัย

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจเยี่ยม และมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับข้าราชการตำรวจในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จว.พะเยา ณ ภ.จว.พะเยา โดยมี พล.ต.ต.พิทักษ์ นาสมวาส ผบก.ภ.จว.พะเยา, พ.ต.อ.พรเทพ น้องการ รอง ผบก.ภ.จว.พะเยา, ผกก.ในสังกัด ภ.จว.พะเยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รอรับการตรวจเยี่ยม และรับมอบสิ่งของบำรุงขวัญและหมวกนิรภัย


พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า จังหวัดพะเยาได้เกิดเหตุอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลัน มีข้าราชการตำรวจในสังกัดได้รับผลกระทบ บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย จำนวน 49 นาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใย จึงเดินทางมาตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญเพื่อเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบให้พ้นวิกฤต และเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ ปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย



รรท.รอง ผบ.ตร. ยังกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตราป้องกันเหตุอันเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อำนวยความสะดวกและจัดระบบการจราจรในพื้นที่ที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สมจิตร แสงบัลลังก์ แมวคาบข่าว รายงาน

ร้อย.ฉก.ทพ.2103 กกล.สุรศักดิ์มนตรี จับกุมสองหนุ่มสาวค้ายาบ้าที่ป่าสวนยางพารา พื้นที่ ม.7 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

เมื่อ​วันที่​ 20 กันยายน 2567 เวลา 10.30น ร.อ.ธนากร นาเหล็ก ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2103 ได้สั่งการให้ ร.ท.นิรุต แสงโสดา รอง ผบ.ร้อย./เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.หมายเลข 6702253 จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับ ชป.สกัดกั้นฯ บก.ควบคุมที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนำยาเสพติดหรือยาบ้ามาส่งมอบกันที่บริเวณป่าสวนยางพาราเขตพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

จึงจัดกำลังเข้าทำการซุ่มเฝ้าตรวจตามสถานที่ดังกล่าวต่อมามีชายหญิงขับรถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณดังกล่าวเจ้าที่จึงแสดงตัวเรียกทำการตรวจสอบจากนั้นทำการขอตรวจค้นตัวและรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวผลการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีชมพู ตรวจนับภายหลัง 179 เม็ด ตรวจยึดโทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับมาส่งยาเสพติดไว้เป็นของกลาง ทั้งสองให้การยอมรับว่ากำลังจะนำยาบ้ามาส่งให้กับ บุคคลในพื้นที่ที่สั่งซื้อจริง ส่วนทั้งสองเป็นสามีภรรยากันยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา​ นายอนุชา คำลือ อายุ 40 ปี
และ​ นางพัชฎาภรณ์ พรมจร อายุ 36 ปี

ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย​ ของกลาง ยาบ้า จำนวน 179 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถจักรยาน 1 คัน หน่วยได้ทำการบันทึกภาพและวิดีโอผู้ถูกควบคุมตัว ตามมาตรา 23 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2556 ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจัดทำบันทึกการจับ เรียบร้อยแล้ว จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #กองทัพบกroyalthaiarmy #กองทัพภาคที่2 #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

มทร.อีสาน ร่วม กองทัพภาคที่ 2 ส่งมอบสิ่งของจากประชาชนช่วยน้ำท่วมพี่น้องอีสาน

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 ปล่อยขบวนรถช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยร่วมกับ รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา บุคลากร และนักศึกษา ณ ลานมรกต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดยสิ่งของประกอบด้วยน้ำดื่ม ยารักษาโรค อาหารแห้ง เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่ มทร.อีสาน นครราชสีมา เปิดรับบริจาคจากประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

อ.สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มทร.อีสาน นครราชสีมา ได้รับการบริจาคสิ่งของจากประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาเป็นจำนวนมาก ต้องขอบพระคุณพลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ได้จัดส่งรถบรรทุกพร้อมกำลังพล นำของบริจาคทั้งหมด ประกอบด้วยน้ำดื่มกว่า 40,000 ขวด ข้าวสาร อาหารแห้ง สิ่งของเครื่องใช้ จำนวนมาก ต้องใช้รถบรรทุกขนส่งน้ำใจจากพี่น้อง จ.นครราชสีมา ถึง 12 คัน ในการนำส่ง และขอบพระคุณพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาที่ร่วมบริจาคสิ่งของทั้งหลายเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ รวมทั้งเงินบริจาคตั้งแต่วันที่ 13 – 19 กันยายน 2567 รวมกว่า 250,000 บาท ซึ่งจะได้ส่งมอบเงินบริจาคในขั้นตอนต่อไป

กันตินันท์ เรืองประโคน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค นครราชสีมา

กองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจวบฯ ยกระดับศักยภาพ แกนนำเด็กและเยาวชนป้องกันภัยคุกคามยาเสพติด ยุคดิจิทัล

วันที่ 20 ก.ย.67 ที่ศาลาเอนกประสงค์ บ้านทางสาย หมู่ที่ 9 ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการยกระดับศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนป้องกันภัยคุกคามยาเสพติดในยุคดิจิทัลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะว่าที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา พร้อม นายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายทวีศักดิ์ จุลเนียม ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินอำเภอทับสะแก นางกิตติมา เย็นกาย รอง ผอ.สพป.ปข.1 และคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน คณะศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเก้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียนในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการ

นายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ยาเสพติดทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งในยุคดิจิทัลปัจจุบันเริ่มพบการแพร่ระบาดของยาเสพติดแบบผสมหลายชนิดและการแพร่ระบาดอย่างหนักของบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกระตุ้นให้เกิดการค้ายาเสพติดผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งการติดต่อสื่อสารและการขนส่งมีหลายช่องทาง ผู้เสพสามารถเข้าถึงยาเสพติดได้สะดวกมากยิ่งขึ้นและเด็กถูกล่อลวงได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ในการนี้เครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินอำเภอบางสะพานจึงจัดโครงการ ยกระดับศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนป้องกันภัยคุกคามจากยาเสพติดในยุคดิจิทัลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ให้สามารถยืนหยัดในสังคมปัจจุบันได้อย่างปลอดภัยและมีส่วนช่วยป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่

น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะว่าที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดี เป็นประโยชน์ต่อเด็ก และเยาวชนมาก ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ตรงจุดกับสถานการณ์ปัญหาของเด็กและเยาวชนในปัจจุบันนี้ และตอนนี้ยาเสพติดได้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว ผ่านการใช้มือถือผ่านหลายๆแอพพลิเคชั่น ที่คนใกล้ตัว ซึ่งบางทีคนในบ้านยังไม่ทันได้รู้เลยว่าลูกหลาน เข้าไปยุ่งเกี่ยวตอนไหน และในฐานะที่ในอนาคต จะได้เข้าไปทำงานในคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้หลากหลายทางสังคม ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการที่จะเข้ามาทำงานในด้านนี้โดยตรงด้วย เด็กและเยาวชนคือเป็นหลักที่อยากจะเข้าไปดูแลด้วย ที่ผ่านมาสมาชิกวุฒิสภาก็มีหลายท่านได้อภิปรายและพูดถึงในเรื่องตรงนี้บ้างแล้ว เดี๋ยวรอให้เป็นคณะกรรมาธิการอย่างเป็นทางการ ก็จะนำเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปสู่ชั้นกรรมาธิการเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเยาวชนกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งปัจจุบัน หาซื้อใช้กันได้ง่ายมาก น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภากล่าว
/////////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

นายวิชัย ศิริโพธาวานิชกุล ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาชุมแพ เป็นประธานเปิดงานมุทิตาจิตผู้เกษียณอายุ

สายใยแห่งความรัก มิตรภาพอันอบอุ่นจากวันที่พากเพียรสู่วันเกษียนที่ภาคภูมิ นายวิชัย ศิริโพธาวานิชกุล ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาชุมแพ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานมุทิตาจิตผู้เกษียณอายุการไฟส่วนภูมิภาคประจำปี 2567 ณ.โรงแรมเมเจอร์แกรนด์ ถนนชุมแพ-ภูเขียว อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 19.00 น.นายวิชัย ศิริโพธาวานิชกุล ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาชุมแพ ให้เกียรติเป็นประธานงานเชิดชูเกียรติผู้เกษียณอายุราชการ สำนักงานไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชุมแพ ซึ่งปี 2567มีผู้เกษียณจำวน 6 ท่าน ประธานได้กล่าวชื่นชม ขอบคุณผู้เกษียณทุกท่านที่ได้ทุ่มเทแรงกาย ความรู้ความสามรถรับผิดชอบเสียสละต่อหน้าที่และทำประโยชน์มากมาย

ขอให้ทุกท่านดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข พักผ่อนดูแลสุขภาพเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานตามอัตภาพ ต่อจากนั้นประธานได้มอบสิ่งของที่ระรึก ของชำร่วยแก่ผู้เกษียณทั้ง 6 ท่าน แขกเหรื่อร่วมอวยพรร้องเพลงสนุกสนานกันพอหอมปากหอมคอ ได้เวลาพอสมควรประธานจึงได้กล่าวปิดงาน

ค้าน ! ขึ้นค่าแรง 400 บาท พร้อมกันทั่วประเทศ 17 สภาองค์การนายจ้าง ร่วมกันคัดค้าน การขึ้นค่าแรง 400 บาท


เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2567 ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (สภา2) ร่วมกับสภาองค์การนายจ้างอีก 16 สภา ประชุมหารือประเด็นปัญหาต่างๆ แสดงจุดยืนร่วมกัน คัดค้านการขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ที่จะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค. 2567 เตรียมยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและปลัดกระทรวงแรงาน ข้อเสนอแนะที่รัฐต้องคำนึงถึง รัฐควรคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและความพร้อมที่แตกต่างกัน การพิจารณานโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี ตามหลักกฎหมาย ซึ่งบัญญัติไว้ใน ม. 87 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 คณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นด้วย ต้องคำนึงถึงดัชนีค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิต ราคาของสินค้าและบริการ ผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ และสภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความสามารถของประเภทธุรกิจ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน หากการปรับอัตราค่าจ้างที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย ทำให้เกิดความไม่มั่นใจถึงต้นทุนของการทำธุรกิจและนโยบายภาครัฐ ถึงแม้ว่าการปรับค่าจ้าง จะใช้บังคับ เฉพาะโรงงานที่สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ก็ยังไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกันเพราะยังขาดหลักการพิจารณาที่เหมาะสม สภาองค์นายจ้าง จึงได้ร่วมกันลงนามคัดค้านและเสนอแนะ เพื่อให้กระทรวงแรงงานได้รับ ทราบและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่สภาองค์การนายจ้างเห็นร่วมกัน เพื่อนำเสนอต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
และท่านปลัดกระทรวงแรงงาน โดยมีรายนามประกอบด้วย

  1. สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (สภา 1)
  2. สภาองค์การนายจ้างสภาอุตสาหกรรมเอ็สเอ็มอี แห่งประเทศไทย (สภา3)
  3. สภาองค์การนายจ้างผู้ค้าและบริการเครื่องอุปโภคบริโภค (สภา4)
  4. สภาองค์การนายจ้างแห่งชาติ (สภา 5)
  5. สภาองค์การนายจ้างธุรกิจไทย (สภา 6)
  6. สภาองค์การนายจ้างไทยสากล (สภา 7)
  7. สภาองค์การนายจ้างการเกษตร ธุรกิจ อุตสาหกรรมไทย (สภา 8)
  8. สภาองค์การนายจ้างธุรกิจ การค้าและบริการไทย (สภา 9)
  9. สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าไทย (สภา 10)
  10. สภาองค์การนายจ้างไทย (สภา 11)
  11. สภาองค์การนายจ้าง ธุรกิจ และอุตสาหกรรมแห่งชาติ (สภา12)
  12. สภาองค์การนายจ้างธุรกิจอุตสาหการไทย (สภา13)
  13. สภาองค์การนายจ้าง เอส.เอ็ม.อี แห่งประเทศไทย (สภา 14)
  14. สภาองค์การนายจ้างบริการไทย (สภา 15)
  15. สภาองค์การนายจ้างธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว-ภาค 8 (สภา 16)
  16. สภาองค์การนายจ้างเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สภา 17)

สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย #สภาองค์การนายจ้าง #กระทรวงแรงงาน #นายจ้าง #ขึ้นค่าแรง400บาท

ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับ ยาบ้า 226 ล้านเม็ด – ไอซ์ 1,910 กก. เฮโรอีน 305 กก. – เคตามีน 52 กก. ฝิ่น 270 กก. ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด 2,088 ล้านบาท

ตำรวจภาค 5 แถลงข่าว วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 11.00 น.
ตามนโยบายรัฐบาลสั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการอำนวยการของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์, พล.ต.อ.ธนา ชูวงค์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ มทภ.3 ได้รับบัญชาและข้อสั่งการนำไปสู่การปฏิบัติ
ตำรวจภูธรภาค 5

โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์,พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร, พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ประจำฯ ช่วยราชการ ภ.5, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง และพล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 โดย พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.นบ.ยส.35 ฝ่ายปกครอง โดย นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผวจ.ลำปางสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 โดย นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญ ปปส.ภาค 5


คดีที่ 1 ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่พริก จว.ลำปาง ได้สืบสวนทราบว่า กลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้สืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมาย
ต่อมาวันที่ 11 ก.ย.2567 พบรถยนต์ทั้งสองคัน วิ่งนำ – ตามกันมา ออกจาก อ.เมืองเชียงราย เข้าสู่ตอนในของประเทศ จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฟอร์ด เอเวอร์เรส ทะเบียน 9229 พิษณุโลก ขับมาถึงด่านตรวจ จึงได้เรียกเพื่อจะตรวจค้นและขอให้คนขับลงจากรถแต่คนขับได้ขับรถหลบหนีออกไปจากด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถติดตามไปและพบรถไปจอดทิ้งไว้บริเวณข้างถนน ในหมู่บ้านแม่เชียงรายบน อ.แม่พริก จว.ลำปาง ไม่พบผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถพบกระสอบ 10 ใบ บรรจุยาบ้า จำนวนประมาณ 2,006,000 เม็ด

ต่อมาวันที่ 12 ก.ย.2567 ได้ติดตามจับกุมนายชาญณรงค์ฯ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์ นำทาง/สำรวจเส้นทาง พร้อมรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียน กธ 3673 ประจวบคีรีขันธ์ ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี จว.นครสวรรค์
ได้ขยายผลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ราย และต่อมาเมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 ได้ร่วมกับ บก.ป. จับกุม นายไพศาล ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จว.นนทบุรี ได้ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน รถยนต์ของกลาง 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท

คดีที่ 2 ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก จว.ลำปาง สืบสวนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่จังหวัดเชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้สืบสวนติดตามความเคลื่อนไหว ของรถยนต์เป้าหมาย 2 คัน คือ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ เอ็มจี ทะเบียน 3ฒธ 5914 กทม. และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ทะเบียน กท 5722 อุตรดิตถ์ ต่อมาวันที่ 15 ก.ย.67 พบรถยนต์เป้าหมายออกจาก จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงได้เฝ้าติดตาม จนกระทั่ง ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. รถยนต์เป้าหมายคันที่ 1 รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า สีขาว เลขทะเบียน กท 5722 อุตรดิตถ์ ขับมาถึงด่านตรวจ จึงได้เรียกเพื่อจะทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นเบื้องต้านไม่พบสิ่งของ ผิดกฎหมาย จึงขอนำรถยนต์เข้าทำการสแกนที่อุโมงค์เอ็กซ์เรย์ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ปล่อยไป

ต่อมาเป้าหมายคันที่ 2 รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ เอ็มจี ทะเบียน 3ฒธ 5914 กทม. เข้ามาถึงด่านตรวจ ผลการตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงนำรถยนต์เข้าทำการสแกนที่อุโมงค์เอ็กซ์เรย์ เมื่อมาถึงจุดพักคอยนายสัมฤทธิ์ฯ คนขับรถ ได้เปิดประตูทางฝั่งผู้โดยสารและวิ่งหลบหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิ่งไล่ติดตาม และจับกุมตัวได้ที่บริเวณข้างแม่น้ำวัง บ้านวังสำราญ ต.แม่พริกฯ และได้นำรถยนต์ของนายสัมฤทธิ์ฯ เข้าทำการ สแกนที่อุโมงค์เอ็กซ์เรย์ พบยาบ้า จำนวน 637 ก้อน รวมประมาณ 1,274,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ตรงบริเวณด้านใน
ของแผ่นรองท้ายกระบะ และยางอะไหล่ใต้ท้องรถ จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 13.20 น. ได้สกัดจับรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า กท 5722 อุตรดิตถ์ ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ จับกุมตัวนายสิทธิศักดิ์ฯ และ น.ส.อรพินท์ฯ รับว่าเป็นรถนำทาง/สำรวจเส้นทาง จริง
ได้ตรวจยึดและอายัดทรัพย์สิน รถยนต์ของกลาง 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, อายัดเงินในบัญชี ของผู้ต้องหา จำนวน 26,231 บาท รวมมูลค่าทรัพย์ที่ตรวจยึดและอายัด ประมาณ 1 ล้านบาท


สรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.66 – 19 ก.ย.67จับกุมคดียาเสพติด – จำนวน 24,985 คดี – เป็นคดีรายสำคัญ 197 คดีตรวจยึดของกลางยาเสพติด – ยาบ้า 226 ล้านเม็ด – ไอซ์ 1,910 กิโลกรัมเฮโรอีน 305 กิโลกรัม – เคตามีน 52 กิโลกรัมฝิ่น 270 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด – มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,088 ล้านบาท
..สมจิตร แสงบัลลังก์ ทีมข่าวภาคเหนือรายงาน

ฉลองครบขวบปี Sky Park Lucean Jomtien Pattaya เผยเฟสที่ 1-2 ขายแล้ว 35%

ค่ำวันที่ 19 ก.ย.67 ที่โรงแรมเรเนซองท์ พัทยา จ.ชลบุรี ได้จัดงาน Sky Agent Awards 2004 1st Anniversary ภายใต้บริษัท Lunique Real Estate ฉลองครบรอบ 1 ปี แห่งความสำเร็จของคอนโดมิเนี่ยมหรูริมหาดจอมเทียน โครงการ Sky Park Lucean Jomtien Pattaya

ภายในงาน น.ส.อุรดี กุลกีรติยุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท Lunique Real Estate ในฐานะผู้บริหารโครงการ เผยว่า โครงการ Sky Park Lucean Jomtien Pattaya เป็นโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนี่ยมหรูริมหาดจอมเทียน ซึ่งตั้งอยู่ ริมถนนจอมเทียนสาย 2 ห่างจากชายหาด 200 เมตร. ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 4,500 ล้านบาท เป็นอาคารที่พักอาศัยรวม 3 ตึก

แบ่งการก่อสร้างเป็น 3 เฟส เฟสแรกเป็นทาวเวอร์ A ความสูง 60 ชั้น เป็นแบบ Luxury Sea-view Condo และอาคารทาวเวอร์ B ความสูง 31 ชั้น แบบ Hotel Service Condo มีทั้งห้องสตูดิโอ พื้นที่ตั้งแต่ 28-39 ตร.ม. ห้องขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 40.80-47.50 ตร.ม. ห้องขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 86-89.80 ตร.ม. ห้องขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ 94.6 ตร.ม. และห้อง Penthouse พื้นที่ 130 ตร.ม. โดยการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2029

ส่วนเฟสที่ 3 จะสร้างเป็นอาคารทาวเวอร์ C ความสูง 60 ชั้น โดยขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วในเฟสแรก โดยมียอดขายไปแล้ว 35% และในปี 2026 จะเริ่มขายในเฟสที่ 2 และ 3 ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างอาคารทาวเวอร์ C ที่มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ซึ่งผ่าน EIA แล้วและจะเริ่มก่อสร้างในปี 2029 ต่อไป

กลุ่มเหล็กสหวิริยาสร้างโอกาสวาดอนาคตเยาวชนหนุนระบบทวิภาคีว.การอาชีพบางสะพาน

กลุ่มเหล็กสหวิริยา (SSI-TCRSS-WCE-TCS-PPC-BSBM) เข้าร่วมโครงการ “การพัฒนาแผนฝึกอาชีพบูรณาการร่วมกับการทำงานสู่การมีงานทำ” ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งจัดโดยวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยได้รับเกียรติจาก นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน นายนิมิตร ศรียาภัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน ผู้แทนจากสถานประกอบการ รวมถึงครูฝึกในสถานประกอบการ จำนวน 80 คน ให้เกียรติเข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมสัมมนา บ้านกรูด อาร์คาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ในการนี้ นายผดุงศักดิ์ ปราณอุดมรัตน์ ผู้บริหารกลุ่มเหล็กสหวิริยา ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ระหว่างวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน และ กลุ่มเหล็กสหวิริยา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน โดยส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและพัฒนาบุคลากร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ ปวส. ให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 10 ปี (นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2568-2577) ภายใต้โครงการ“ทวิภาคีพัฒนาบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรมเหล็ก” ของกลุ่มเหล็กสหวิริยา

นอกจากนี้ ผู้แทนบริษัทในกลุ่มเหล็กสหวิริยา ประกอบด้วย บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI บริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TCRSS บริษัท เหล็กแผ่นเคลือบไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TCS และ บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ WCE ได้ร่วมรับมอบ “โล่ประกาศเกียรติคุณ” จากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีด้วยดีเสมอมา โดยมีครูฝึกจากบริษัทในกลุ่มเหล็กสหวิริยา เข้าร่วมรับมอบ “ใบรับรองการเป็นครูฝึกในสถานประกอบการ” ในครั้งนี้ด้วย
โครงการส่งเสริมการศึกษาระบบทวิภาคี เป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมการในพัฒนาชุมชนสังคม เพื่อพัฒนาศักยภาพ และสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพที่มั่นคงให้กับเยาวชนในพื้นที่บริษัทประกอบการในอนคต

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง