สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / พิธีเปิดโครงการ Chumphon Street Art คิงภูมิพล 25.2 ผลงานลำดับที่ 37

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เวลา08.30 น ณ ตึก NT ถนนศาลาแดง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธาน

พิธีเปิดโครงการ Chumphon Street Art คิงภูมิพล ร่วมกับ นายชวัส จำปาแสน (ครูอะไหล่) ศิลปินผู้ก่อตั้งโครงการสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล นายศรีชัย วีระนรพานิชนายกเทศมลตรีเมืองชุมพร ดร.สุรินทร์ เหล่าพัทรเกษมประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร นายจาฏุพจน์ ไกรมาก

ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร นางเพ็ญลดา สายสวัสดิ์ คลังจังหวัดชุมพร นายพิทยา มินชาติ โทรคมนาคมจังหวัดชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มธนาคารสมองชุมพร นายธรรมนูญ เศวตเวชประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดชุมพร นายพิทยา วงศ์สัมฤทธิ์ ประธาน กลุ่มสุมหัวรักบ้านพ่อ และพี่น้องชาวจังหวัดชุมพร

เนื่องในวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปวงชนชาวไทยต่าง น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะชาวชุมพร ที่ได้รับพระราชทานพระราชดำริ

“โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ แก้มลิงชุมพร” ซึ่งช่วย ป้องกันภัยน้ำท่วม สร้างประโยชน์ให้เกษตรกร และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจนถึงทุกวันนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ชาวชุมพร มูลนิธิสานต่อที่พ่อ ทำ ร่วมกับจังหวัดชุมพร ภาครัฐ

ภาคเอกชน และประชาชน/ได้จัดทำ โครงการสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล จังหวัดที่ 25.2 ผลงานลำดับที่ 37 บนผนังอาคาร NT ถนนศาลาแดงตำบลท่าตะเภา จังหวัดชุมพร โดยภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ครั้งนี้มีชื่อว่า “น้ำพระทัย ปราบภัยน้ำท่วม”
นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์

ในนามของจังหวัดชุมพร ขอต้อนรับและขอบคุณศิลปินทุกท่านจากมูลนิธิสานต่อที่พ่อทำ และทีมงานโครงการสตรีทอาร์ต คิงภูมิพล ที่ได้มาร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะบนผนังอาคาร NT ถนนศาลาแดง อำเภอเมืองชุมพร ในครั้งนี้ การสร้างสรรค์ภาพวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ครั้งนี้ เป็นรูปที่ ๒ ของจังหวัดชุมพร ภายใต้ชื่อภาพ “แก้มลิง”

ภาพนี้ไม่เพียงถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในการคิดค้น “โครงการแก้มลิง” เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนหากยังสะท้อนพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกร โดยเฉพาะพี่น้องชาวจังหวัดชุมพร ที่เคยประสบกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำจาก ให้ได้รับการบรรเทาความเดือดร้อนจากแนวพระราชดำริดังกล่าวอย่างแท้จริง จังหวัดชุมพร

ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะชิ้นสำคัญนี้ซึ่งมีใช่เพียงสร้างความสวยงามให้แก่เมือง แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวพระราชกรณียกิจและหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่๙ ให้ปรากฏสู่สายตาชาชนและเยาวชนรุ่นหลัง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของความพอเพียงและการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล

ในนามของพี่น้องชาวจังหวัดชุมพร ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ ต่อคณะศิลปินและทีมงานทุกท่าน ที่ได้มอบคุณค่าและความหมายผ่านงานศิลป์อันทรงพลังนี้และหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอีกพลังหนึ่งในการสืบสาน รักษา และต่อยอด สิ่งที่พ่อได้ทำ เพื่อความผาสุกของประชาชนตลอดไป

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / พิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บังคับการ กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ณ ค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส โดย นาวาเอก บัญญัติ วงศ์จำปา ผู้บังคับบัญชาคนใหม่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณลานกองบังคับการกองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่และมอบการบังคับบัญชา ระหว่าง นาวาเอก สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน

กองทัพเรือ/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ (คนเก่า) กับ นาวาเอก บัญญัติ วงศ์จำปา (คนใหม่) ตามคำสั่งปรับย้ายนายทหารประจำปีของกองทัพเรือ โดยมีการลงนามเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ และมอบธงประจำหน่วย ท่ามกลางผู้บังคับบัญชาระดับรอง ผู้ใต้บังคับบัญชา และกำลังพลจากหน่วยนาวิกโยธิน หน่วยทหารพรานนาวิกโยธิน และหน่วยรบพิเศษนาวิกโยธิน ร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียง

นาวาเอก สันติ เกศศรีพงษ์ศา กล่าวอำลาตำแหน่ง โดยขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ การดูแลบุคคลสำคัญ ตลอดจนการปกป้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ให้มีความสงบสุข พร้อมฝากข้อคิดให้ทุกนายรักษาวินัยและความมุ่งมั่น พร้อมเชื่อมั่นว่าผู้บังคับบัญชาคนใหม่จะนำหน่วยไปสู่ความสำเร็จและเป็นที่พึ่งพาของประชาชนเช่นเดิม

ด้าน นาวาเอก บัญญัติ วงศ์จำปา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 คนใหม่ ยืนยันว่า แม้จะมีการเปลี่ยนตัวผู้บังคับบัญชา แต่ภารกิจหลักของนาวิกโยธินในพื้นที่จะยังคงเดินหน้าด้วยความเข้มแข็งเช่นเดิม โดยเน้นการบูรณา

การทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน สร้างความเข้าใจกับประชาชน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด พร้อมประกาศเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ เพื่อให้กองทัพเรือเป็นที่พึ่งของประชาชนและสร้างความภาคภูมิใจแก่กำลังพล

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กำลังพลของนาวิกโยธินและกองทัพเรือที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน สนับสนุนการปฏิบัติงานในภาพรวม และปฏิบัติตามคำสั่งจากกองทัพภาคที่ 4 รวมถึงหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสอย่างเคร่งครัด

ส่วนเรื่องการปรับเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติ คงต้องขึ้นอยู่กับหน่วยเหนือว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ในระดับหน่วย เรายังคงดำรงภารกิจหลัก คือดูแลประชาชน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม

ซึ่งความปลอดภัยของกำลังพลอยู่ที่การทำงานเป็นทีม การรักษาวินัย และความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทหารเพียงลำพังไม่สามารถทำงานได้สำเร็จ จำเป็นต้องบูรณาการร่วมกับประชาชนและทุกภาคส่วน ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อความสำเร็จของภารกิจ สำหรับหน่วยเอง เรามุ่งเน้นดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงคุ้มครองพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ

และกลไกความร่วมมือกับประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องสร้างความเข้าใจและเข้าถึงประชาชน รวมถึงการทำงานและพัฒนาพื้นที่ไปพร้อมกัน สิ่งเหล่านี้คือกุญแจสู่ความสำเร็จตามแนวทางที่หน่วยเหนือกำหนดไว้ ผมตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้นาวิกโยธินเป็นที่พึ่งของประชาชน และเป็น
กองทัพเรือที่ประชาชนยึดมั่นและไว้วางใจได้อย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของเรา
///////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าฯจ.ลพบุรี นางสุวจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดลพบุรี เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ ผู้ว่าลพบุรี คนที่ 51

วันที่ 1 ตุลาคม 2568 นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นางสุวจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี เดินทางสักการะพระเถระชั้นผู้ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดลพบุรี โดยได้กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี

ซึ่งประกอบด้วย พระพุทธรูปประจำจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ศาลพระภูมิ จากนั้นเดินทางไปกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี

พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ตั้งอยู่ใจกลางวงเวียนเทพสตรี และ กราบลาเจ้าพ่อพระกาฬ เทพอารักษ์ประจำเมืองลพบุรี ณ ศาลพระกาฬ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดลพบุรี

โดยในเวลาต่อมา ได้เดินทางไปกราบลา พระธรรมวชิรสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เจ้าอาวาสวัดกวิศรารามราชวรวิหาร และ พระภาวนาวชิรมงคล วิ. รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ โดยก่อนเดินทางออกจากจังหวัดลพบุรี มีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชนและนักเรียนโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ แห่งที่ 2 ร่วมมอบดอกกุหลาบแสดงมุทิตาจิต

นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ประวัติด้านการศึกษา เข้าศึกษาคณะรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจบการศึกษาได้รับ (เกียรตินิยมอันดับสอง) ประวัติการทำงาน เริ่มบรรจุเข้ารับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอจังหวัดนครสวรรค์ ปี พ.ศ.2531 จากนั้นได้ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี

และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่ 2 โดยใน ปี พ.ศ. 2563 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก และย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565

จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี คนที่ 51 ที่ผ่านมานายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าฯ ที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนลิงรบกวนในเขตเมืองเก่าลพบุรี อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศึกเลือกตั้งสมรภูมิโคราชเดือด “บุญจง ภูมิใจไทย” หวังกวาดที่นั่ง สส. โคราช

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เวลา 11.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอหนองบุนมาก จ.นครราชสีมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าที่จะมาถึงนี้ พรรคภูมิใจไทย หวังว่าที่นั่งในพื้นที่โคราชเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

พร้อมทั้งได้เตรียมตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่ดีมีคุณภาพเอาไว้พร้อมแล้ว เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนในนามพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่อำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เพื่อพบปะกำนันผู้ใหญ่บ้าน กว่า 400 คน

ให้แนวทางนโยบายโครงการคนละครึ่ง ตามนโยบายรัฐบาล ยุคนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรี ที่มอบโครงการคนละครึ่งคนละ 2,000 บาทให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ให้ความรู้ความเข้าใจ

ให้กับกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เป็นตัวแทนไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ชาวอำเภอหนองบุญมาก ที่จะได้เงินคนละครึ่ง เพื่อเป็นเงินช่วยเหลืือรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป

ด้าน นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อไปว่ารัฐบาลชุดนี้มีเวลาทำงานได้เพียง 4 เดือน หรือ120 วันก็จะทำการยุบสภา และ แก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตนเองในฐานะอดีต สส.นครราชสีมา และ สังกัดพรรคภูมิใจไทย คงอาสาพี่น้องประชาชนชาวอำเภอหนองบุญมาก

เพื่อให้สนับสนุนตนอีกครั้ง และขณะนี้มีผู้ประสงค์เข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พร้อมส่งลงเลือกตั้ง สส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต มีความคาดหวังว่าพรรคภูมิใจไทย จะสามารถกวาด สส.นครราชสีมาเข้ามาได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และจะพัฒนาโคราชให้เจริญเติบโตต่อไป

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / สภ.โคกสำโรง ภ.จว.ลพบุรี ร่วมพิธีวันพระราชทานธงชาติไทย

วันนี้ 29 ก.ย.68 เวลา 08.00 น. ณ ที่หน้าว่าการอำเภอโคกสำโรง
นายเจตพงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรง ประธานพิธี พร้อมด้วย นางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง

พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.ฯ พ.ต.ท.มนตรี เล่ห์อิ่ม รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ต.ชยพล ตรีโอษฐ์ สวป.(ชส.)ฯ พร้อมข้าราชการ
ตำรวจ ผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน 2568

28 กันยายน วันพระราชทานธงชาติไทย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตราพระราชบัญญัติธงขึ้นใหม่ในพุทธศักราช 2460 เนื่องจากในสมัยนั้นไทยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับประเทศสัมพันธมิตร ซึ่งส่วนใหญ่ธงจะมีสามสี ธงชาติไทยในสมัยนั้นจึงเป็นรูปสี่เหลี่ยมรี ขนาดกว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน

มีแถบสีน้ำเงินแก่กว้าง 1 ส่วน ซึ่งแบ่ง 3 ของขนาดกว้างแห่งธงอยู่กลาง มีแถบขาวกว้าง 1 ส่วน ซึ่งแบ่ง 6 ของขนาดความกว้างแห่งธงข้างละแถบ แล้วมีแถบสีแดงกว้างเท่าแถบขาวประกอบชั้นนอกอีกข้างละแถบ และเรียกธงนี้ว่า “ธงไตรรงค์” และทรงกำหนดความหมายของสีธงชาติไว้ว่า สีแดง หมายถึง ชาติ คือประชาชน สีขาว หมายถึง ศาสนา

และสีน้ำเงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ ซึ่งธงไตรรงค์ หรือธงชาติไทย ถือเป็นสัญลักษณ์อันสูงสุดของชาติเป็นสิ่งเตือนใจให้อนุชนได้รำลึกถึงการเสียสละเลือดเนื้อของบรรพบุรุษเพื่อรักษาไว้ซึ่งแผ่นดิน และร้อยดวงใจคนทั้งชาติให้เป็นหนึ่ง หล่อหลอมความรักสามัคคี สร้างเสริมความภูมิใจในความเป็นชาติ ก่อเกิดเป็นพลังยิ่งใหญ่ในการพัฒนาชาติไทยให้วัฒนาสถาพร

คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 ได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปีเป็นวันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) และเริ่มในวันที่ 28 กันยายน 2560 เป็นวันแรก

(โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ) รวมทั้งกำหนดให้มีการชักและประดับธงชาติไทยในวันดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติและเป็นการน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย

และวันที่ 28 กันยายน 2563 นับเป็นวันครบรอบ 103 ปีของการพระราชทานธงชาติไทย สำหรับประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่ 54 ของโลก ที่มีวันธงชาติ

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เทศกาลหนัง 3 วัย” เชื่อมโยงทุกช่วงวัยผ่านโลกภาพยนตร์ ณ วัดใหญ่ท่าเสา

เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 29 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดใหญ่ท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงาน เทศกาลหนัง 3 วัย : เชื่อมโยงทุกช่วงวัยผ่านโลกภาพยนตร์ (งานวัดกลางเมืองอุตรดิตถ์)

โดยมีนายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวรายงาน และนาย เฉลิมพงษ์ เรือนเย็น ผู้แทนอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวถึงการสนับสนุนงบประมาณ พร้อมด้วยผู้บริหารจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ เครือข่ายทางวัฒนธรรม และประชาชนเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ดัมมี่ ไอเดีย

โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดงานเทศกาลหนัง 3 วัย เชื่อมโยงทุกช่วงวัยผ่านโลกภาพยนต์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ

  1. สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ :
    ให้ผู้ชมทุกช่วงวัยได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำความเข้าใจมุมมองที่แตกต่างกัน
  2. ส่งเสริมการชมภาพยนตร์คุณภาพ :
    คัดสรรภาพยนตร์หลากหลายแนว ทั้งภาพยนตร์คลาสสิกภาพยนตร์ร่วมสมัย ภาพยนตร์จากต่างประเทศและภาพยนตร์ไทย ที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์และส่งเสริมคุณค่าทาสังคม
  3. กระตุ้นการสร้างสรรค์และวิพากษ์วิจารณ์ : ส่งเสริมให้ผู้ชม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การวิพากษ์วิจารณ์ และการนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์
  4. สร้างความบันเทิงและสันทนาการ :
    จัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์และสนุกสนานควบคู่ไปกับการฉายภาพยนตร์เพื่อให้เทศกาลเป็นแหล่งรวมตัวของคนรัหนัง
  5. เชื่อมโยงชุมชน : ส่งเสริมความร่วมมีอระหว่างภาคส่วนต่างๆในการจัดกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของชุมชน
    กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย
  6. การฉายภาพยนตร์ 3 วัย
  7. กิจกรรม SHOWCASE
    ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์
  8. การประกวดคอสเพลย์ตัวละครจากภาพยนตร์และการจัดทำโปสเตอร์หนัง
  9. การเสวนาเกี่ยวภาพยนตร์
    เวิร์คช็อปการสร้างภาพยนตร์เบื้องต้น
    และการเล่าเรื่องจากภาพยนตร์
  10. การจัดนิทรรศการโปสเตอร์ภาพยนตร์ย้อนยุค และอุกรณ์เกี่ยวกับ
    การสร้างภาพยนตร์
  11. การแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรีประกอบภาพยนตร์
  12. กิจกรรมการออกร้านค้าของเครือข่ายทางวัฒนธรรม ในจังหวัดอุตรดิตถ์
  13. กิจกรรมแนะนำพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การฉายภาพยนตร์ 3 วัย การประกวดคอสเพลย์และการทำโปสเตอร์หนัง เวิร์กช็อปการสร้างภาพยนตร์และการเสวนา การแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรีประกอบภาพยนตร์ นิทรรศการโปสเตอร์ภาพยนตร์ย้อนยุคและอุปกรณ์ถ่ายทำ

งาน “เทศกาลหนัง 3 วัย” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 1 ตุลาคม 2568 ณ วัดใหญ่ท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเป็น Soft Power เชื่อมโยงทุกช่วงวัย และสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ

ภาพ/ข่าว นาคา คะเลิศรัมย์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โครงการคัดเลือกครอบครัวส่งเสริมคุณธรรม วัยเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2569 / สภาสังคมสงเคราะห์ฯ จัดพิธีทอดผ้าป่า และมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคณะญาติธรรม

วันที่ 30 กันยายน 2568 เวลา 08.00 น. ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ รับมอบเงินจำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)

เพื่อดำเนินโครงการคัดเลือกครอบครัวส่งเสริมคุณธรรมในวัยเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2569 สภาสังคมสงเคราะห์ฯ

โดย คุณมีนา ศุภวิวรรธน์ กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้มอบ

ณ ห้องรับรอง ห้องพลังไทย 1 อาคาร 1 ชั้น 3 สำนักงานใหญ่ ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต จตุจักร กรุงเทพฯ

บุญของท่านสำเร็จแล้ว! สาธุๆๆ! ✨ทอดผ้าป่ากับหลวงปู่คลาด ครุธัมโม 2 กองบุญใหญ่ เพื่อการกุศลอันยิ่งใหญ่ ส่งเสริมพุทธศาสนา และช่วยเหลือชีวิต 🕊️
​🟡 ซ่อมแซมเสนาสนะวัดป่าบ้านใหม่
​🤝 ร่วมสาธารณกุศลกับมูลนิธิพุทธภูมิธรรม

​📅 วันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 มูลนิธิพุทธภูมิธรรม จัดพิธีทอดผ้าป่า และมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคณะญาติธรรม ได้เป็นตัวแทนท่านใส่บาตร, ถวายภัตตาหาร, ถวายพระพุทธรูป, ผ้าไตรจีวร, สังฆทาน แด่ หลวงปู่คลาด ครุธัมโม และคณะสงฆ์ วัดป่าบ้านใหม่ จ.อุดรธานีเพื่อร่วมบุญกับวัดป่าบ้านใหม่และสมทบทุน

การดำเนินงานสาธารณกุศลของ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม โดย:
​😇 ถวายผ้าป่า ซ่อมแซมเสนาสนะวัดป่าบ้านใหม่ 50,540 บาท
​🌍 ร่วมสาธารณกุศลกับมูลนิธิพุทธภูมิธรรม เพื่อขับเคลื่อนสาธารณกุศล 30,000 บาท

พร้อมรายชื่อผู้ร่วมบุญ ซึ่งหลวงปู่คลาด ครุธัมโม เมตตาอำนวยอวยพรทุกท่าน และแสดงธรรม พร้อมเจิมป้ายเปิดศูนย์อำนวยการ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม เพื่อความเป็นสิริมงคล
​โดยมี ที่ปรึกษามูลนิธิฯ ประธานมูลนิธิฯ เลขานุการมูลนิธิฯ และคณะทำงาน ตลอดจนกลุ่มบุญภาคีเครือข่าย ร่วมถวายผ้าป่า

​📍 ณ ศูนย์อำนวยการมูลนิธิพุทธภูมิธรรม
ซอยพหลโยธิน 48 แยก 17/1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

กราบอนุโมทนาสาธุบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมบุญ และนำบุญฝากกัลยาณมิตรทุกๆท่าน สาธุๆๆ อนุโมทามิฯ 🙏

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตชด.ไร้รอยต่อ ส่งมอบหน้าที่ “ช้างศึก 1”

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มีพิธีรับ – ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

โดย พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด.ให้แก่ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. ซึ่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็น ผบช.ตชด.คนใหม่

โดยมีพิธีตรวจแถวกองเกียรติยศ ส่งมอบธงประจำตำแหน่ง และแสดงมุทิตาจิตแก่ พล.ต.ท.นิตินัย และ คุณสุวรรณยา หลังยา

หน่าย ประธานชมรมแม่บ้าน ตชด. โดยมี รอง ผบช.ตชด., ผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ แม่บ้าน ตชด. และข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมพิธี

ตํารวจตระเวนชายแดน///ภาพ/ข่าว ร.ต.ท.พุทธกาล ไชยบุบผา ////เดวิท โชคชัย รายงาน

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / สภ.เมืองชุมพร และ ภ.จว.ชุมพร ทำพิธีรับ-ส่งมอบงาน ผบก.ภ.จว.ชุมพร จัดงานแด่ข้าราชการตำรวจ ที่เกษียณ สายสัมพันธ์ไม่สิ้นสุด สุภาพบุรุษ เมืองชุมพร ปี 2568

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 วันที่ 30 กันยายน 2568 พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธานร่วมแสดงมุทิตาจิตแด่ ข้าราชการตำรวจ สภ.เมือง

ชุมพร ที่เกษียณอายุราชการ และเข้าโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นายจรินทร์ ก๋งม้า ประธานสภาทนายความจังหวัดชุมพร กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร

นายธนากร โกศลเมธี กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.ปราโมทย์ กุ้งทอง

สว.อก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.นฤพล นิลพันธ์ สว.ฝอ.ภ.จว.ชุมพร/ปฏิบัติหน้าที่สวป.ฯ พ.ต.ต.ปิยพล ฉัตรภูมิ สวป.สภ.เมืองชุมพร/ปฏิบัติหน้าที่ด้านงานสืบสวน พ.ต.ต.ประคอง แก้วประสม สวป.(ชส.)สภ.เมืองชุมพร

และข้าราชการตำรวจในสังกัด เข้าร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมชั้น 4 และบริเวณลานหน้าอาคารที่ทำการสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร รายชื่อข้าราชการตำรวจเกษียน ที่ร่วมงาน 1 ร.ต.อ. สุไลมานง มะยี่แต นางกัลยา มะยีแต 2

ร.ต.อ..เพิ่มยศ มังคละเสถียร นางสุภาจรรณ 3 ร.ต.อ. ภิญโญ พรหมเรือง 4 ร.ต.อ .มโน นาควิเธียร 5 ร.ต.อ. สุเมธ สุพรรณธนพงษ์ 6 ร.ต.อ ทนงศักดิ์ ภู่ขันเงิน นางลักษพร 7 ร.ต.ท.ศุภภณ แสงสุริย์ 8 ร.ต.อ. มาโนช กาลพัฒน์ นาง สุชาดา

กำลังพลร่วมพิธีไหว้พระภูมิเจ้าที่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ หน้าศาลภูมิ และอนุสาวรีย์ ส.ต.ท.เต็ม ศรีสุวรรณ หลังจากนั้น ร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป ณ หน้า สภ.เมืองชุมพร ร่วมกันรับฟังพระธรรมเทศนา และรับพร พร้อมวัตถุมงคล จากเจ้าอาวาสวัดดอนทรายแก้ว ณ ห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองชุมพร

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี มอบรางวัล และของที่ระลึก แก่ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการประจำปี 2568 และมอบประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจดีเด่นประจำปี 2568 หลังจาดเสร็จพิธีอำลาเกษียณอายุราชการตำรวจ เข้าร่วมกันรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน

ภ.จว.ชุมพร ทำพิธีรับ-ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร และพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน จาก พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ทำพิธีรับ-ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร และพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ของ ภ.จว.ชุมพร ในวันที่ 29 ก.ย.68 เวลา 14.30 น. พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร และคุณดรุณี โพธิ์ศรี ประธานแม่บ้านตำรวจ เดินทางมาทำพิธีรับ-ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร

และพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยได้สักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ส่งมอบธงนายพลตำรวจ และธงราชเดช ให้กับ พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร

ตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงวันที่ 21 มีนาคมพ.ศ. 2568 แจ้งรายชื่อข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรที่มีมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์และพ้นจากราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณพุทธศักราช 2568 จำนวน 43 นาย

และโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลรุ่นที่ 27 มีข้าราชการตำรวจเข้าร่วมโครงการ 11 นายมีผลทั้งนี้ตั้งแต่วันที่หนึ่งตุลาคมพ.ศ. 2568 รวมมีข้าราชการตำรวจที่จะต้องพ้นจากราชการ 54 นายโดยมีข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการและผู้เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลมาร่วม

ในวันนี้ 28 นายและคู่สมรส 17 ราย รวมทั้งหมด 45 รายจากกันจัดงานให้แก่ผู้เกษียณอายุราชการและผู้เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลของตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร

มีการดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปีวัดวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อเป็นการขอบคุณทุกๆท่านที่ได้ปฏิบัติงานมาเป็นระยะเวลานานจนกระทั่งครบเกษียณอายุราชการนับเป็นผู้มีความ

แข็งแกร่งมีความมานะบากบั่นและปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยซึ่งสมควรได้รับการยกย่องและถือเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับราชการตำรวจที่ยังรับราชการอยู่สืบไป

จากนั้น พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร ให้กับ พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร และเริ่มพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

และมอบธงพิทักษ์สันติราษฎร์ ให้กับ พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ร่วมร้องเพลงมาร์ช ตำรวจและร่วมถ่ายรูปที่ระลึก โดยมี พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร,

พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, หน.สภ.ในสังกัด, ข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และข้าราชการตำรวจในสังกัด เข้าร่วมพิธี ณ ลานที่ทำการ ภ.จว.ชุมพร

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ธี่หยด 3” กาล่าพรีเมียร์สุดยิ่งใหญ่!!!เปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2568 ก่อนสะพรึงเต็มตา 1 ตุลาคมนี้

สมศักดิ์ศรีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จาก ช่อง 3 และ M Studio เมื่อ “ธี่หยด 3” ได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์เปิดเทศกาล (opening film) ของงาน Bangkok Internationnal Film Festival 2025 (BKKIFF 2025) โดยจัดฉายรอบกาล่าพรีเมียร์สุดอลังการ ณ THE PINNACLE HALL ICONSIAM

งานนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก นำทีมโดยผู้บริหารและทีมสร้าง ได้แก่ คุณเทรซีแอนน์ มาลีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บมจ.บีอีซี เวิลด์, คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M Studio ผู้อำนวยการสร้าง , ผู้กำกับภาพยนตร์ แป๊ป-ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์, ต้อม-ธนเดช ประดิษฐ์ และผู้เขียนบท สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์

พร้อมด้วยทัพนักแสดงอย่างคับคั่ง อาทิ ณเดชน์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา, นีน่า ณัฐชา, จูเนียร์ กาจบัณฑิต, เฟรนด์ พีระกฤตย์, มิ้ม รัตนวดี, แฉะ องอาจ, แพรว เฌอมาวีร์, แก๊ป จักริน, ออม มานิตา, เพียว ดวงใจ, โซเฟีย ทิพปภา และ น้ำมนต์ พัสมนตร์ ที่ร่วมเดินพรมแดงสุดอลังการ เรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ได้อย่างล้นหลาม

ภายในงานยังมีไฮไลต์พิเศษของค่ำคืนคือการแสดงสดจากวงร็อกชื่อดัง Bodyslam ที่มอบบทเพลง “คิดถึง” ถ่ายทอดความรู้สึกของ “พี่ยักษ์” (ณเดชน์ คูกิมิยะ) และเพลงฮิต “แสงสุดท้าย” ก่อนเชิญทีมงานและนักแสดงจากภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” มาร่วมพูดคุย กับการเผชิญหน้าสู่บทสรุปสุดท้าย… ที่มีความสยองยิ่งกว่าครั้งไหน เพราะผีร้ายกำลังกลับมาเอาคืน! สร้างบรรยากาศเข้มข้นและประทับใจก่อนร่วมรับชมภาพยนตร์ไปพร้อมกัน

เรื่องย่อ หลังจากเหตุการณ์ร้ายผ่านไป ครอบครัวตัว ย. ได้กลับมามีชีวิตปกติสุขอีกครั้ง “ยักษ์” เริ่มนึกถึงการกลับไปทำในสิ่งที่ตนเองรัก คือการเป็นทหาร แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ “ยี่” น้องสาวคนเล็กของบ้าน โดนจับตัวไปโดยพวกผีที่ยักษ์ไม่เคยพบเจอมาก่อน ครั้งนี้ ยักษ์และจ่าปพันธ์ต้องรีบออกเดินทางตามหายี่กลับมา

ก่อนที่เรื่องเลวร้ายจะเกิดขึ้น แต่การเดินทางครั้งใหม่นี้จะพาพวกเขาไปเจอกับจุดเริ่มต้นของความสยองเกินคาดเดา ผ่านหนทางสุดลึกลับและอันตรายกว่าที่เคย! ธี่หยด 3 | 1 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ พร้อมสัมผัสความสยองเต็มรูปแบบ ทั้งระบบปกติ , ระบบเสียง IMAX ด้วยสัดส่วนภาพ IMAX 1.9:1 เต็มจอตลอดเรื่อง พร้อมด้วยระบบเสียง IMAX 12-Channel Sound และ DOLBY ATMOS

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง