คลังเก็บหมวดหมู่: กิจกรรมเพื่อสังคม

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิด “มหกรรมเทศกาลอาหารลุ่มน้ำโขง” ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่นรับ นทท. ช่วงสงกรานต์ และ ชมรมศิษย์เก่า มุกดาหารรุ่น 24 จัดกิจกรรม สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรครูบาอาจารย์ในวันสงกรานต์

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568​ จังหวัดมุกดาหารยกระดับ Soft Power เพื่อให้สอดรับกับวิสัยทัศน์ของจังหวัดมุกดาหารที่ว่า “เมืองการค้าทันสมัย เกษตรคุณภาพสูง ท่องเที่ยวชายโขง เชื่อมโยงสู่สากล”

ประกอบกับเป็นห้วงเวลาช่วงเทศกาลสงกรานต์ จังหวัดมุกดาหารจึงได้ขานรับนโยบาย Soft Power ผลักดันอาหาร ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น ด้วยการจัดงาน “มหกรรมเทศกาลอาหารลุ่มน้ำโขง” (Mekhong Food Festival) และ งานมหาสงกรานต์ 2568 ขึ้นในระหว่างวันที่ 13–15 เมษายน​นี้

ที่บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร (หลังเก่า) อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร รวบรวมร้านค้าร้านอาหารปลอดภัย ของคนเมืองมุก มากกว่า 50 ร้านค้า รวมถึงการแข่งขันประกวด ทำอาหาร รวม 52 ตำบล 52 ทีม

กับการประกวดหมูหัน การประกวดส้มตำลีลา และการประกวด สำรับอาหารจากปลาแม่น้ำโขง รวมเงินรางวัล กว่า 72,000 บาท พร้อมการจัดงานแบบบูรณาการสุดยิ่งใหญ่ ” เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์​ Muk-Savan Fun & Fin Festival “

นายวรญาณ​ บุญณราช เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเทศกาลอาหารลุ่มน้ำโขง” (Mekhong Food Festival) ประจำปี 2568 พร้อมขานรับนโยบาย Soft Power หนึ่งในนั้นคือด้านอาหารที่ทางจังหวัดมุกดาหาร มีความหลากหลาย และมีของดีประจำเมืองมากมาย เช่นหมูหันขึ้นชื่อ

สำหรับอาหารปลาน้ำโขง ส้มตำเลิศรส และอื่นๆอีกมากมาย ที่เป็นอัตลักษณ์ประจำเมืองมุกดาหาร อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม รวมทั้งแหล่งรวมศรัทธามนต์ขลังพญานาค 3 พิภพ

ซึ่งจังหวัดมุกดาหาร เป็นพื้นที่ติดริมแม่น้ำโขงที่มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับพญานาคที่เกี่ยวพันกับแม่น้ำโขงมาอย่างช้านาน ด้วยความพร้อมพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการของจังหวัดมุกดาหาร

จึงผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค และที่สำคัญได้มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเชื่อมโยงไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

และประเทศเวียดนาม เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ การสร้างรายได้และกระจายรายได้สู่ชุมชน ให้มีความอยู่ดีกินดีต่อไป

มหกรรมเทศกาลอาหารลุ่มน้ำโขง #จังหวัดมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

ชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนมุกดาหารรุ่น 24 จัดกิจกรรม สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรครูบาอาจารย์ในวันสงกรานต์

ณ ร้านอาหารริเวอร์วิว นายปรีดา​ ชุติพร ประธานชมรม ศิษย์เก่าโรงเรียนมุกดาหาร รุ่น 24 คณะกรรมการ และ พระอาจารย์ประชุม สำนักสงฆ์ส่างโดน แจกวัตถุมงคลและของดี ผู้มาร่วมงาน

จัดกิจกรรม สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรครูบาอาจารย์ ที่เคยสั่งสอนมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักเรียนมัธยมปลาย และไปศึกษาต่อ จนจบการศึกษาออกมาทำงาน บางคนก็เป็นครู ตำรวจ ทหาร และรับราชการในหน่วยงานต่างๆ

จึงรู้สึกสำนึกในบุญคุณครูบาอาจารย์ที่เคยสั่งสอนมา จึงจัดกิจกรรมรดน้ำขอพรเนื่องในวันสงกรานต์เป็นประเพณีโบราณที่สืบทอดต่อกันมา โดยลูกศิษย์แต่ละคนมอบมาลัยกร รดน้ำขอพร ครูอาจารย์

เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว และถวายอาหารพระเพล ณ วัดศรีบุญเรือง อำเภอเมือง​ จังหวัดมุกดาหาร เสร็จ กิจกรรมรับประทานอาหารร่วมกัน ที่จัดขึ้น โดยมีน้ำเป็นสัญลักษณ์ของความชุ่มชื่นเย็นฉ่ำ เด็กๆ รดน้ำผู้ใหญ่​เพื่อแสดงความรำลึก ความกตัญญูกตเวทิตา และผู้ใหญ่ก็จะให้พรกลับไป

นายสมบูรณ์ พรหมสุ้ย ตัวแทนครูอาจารย์กล่าว ให้พรอันประเสริฐใดๆ ในหล้าโลก ขอจงมีแก่ลูกศิษย์ทุกคน ทั้งตัวแทนและคนที่ไม่ได้มาในวันนี้ ขอให้ทุกหนทางที่ก้าวเดินไป ราบรื่น สุข สมหวัง สมดังใจปรารถทุกๆ ประการ และทุกๆ คนเทอญ​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สงกรานต์ ขนทรายเข้าวัด-ปักตุงทำบุญปีใหม่เพื่อเสริมสิริมงคลในช่วงปี๋ใหม่เมือง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมืองน่าน

แชร์เนื้อหานี้

จังหวัดน่าน สงกรานต์เริ่มแล้ว ประชาชน นักท่องเที่ยว ขนทรายเข้าวัด-ปักตุงทำบุญปีใหม่เมือง บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดน่านเริ่มคึกคัก วัดหลายแห่งเตรียมความพร้อมต้อนรับประชาชน และนักท่องเที่ยว ร่วมทำบุญเสริมสิริมงคลในช่วงปี๋ใหม่เมือง อย่างที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมืองน่าน

ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานน่าน จัดกิจกรรมสรงน้ำพระ บูชาตุง ข่วงสะหรีปี๋ใหม่เมืองน่าน จัดทำเจดีย์ทรายโดยใช้ไม้ไผ่สานมาขดให้เป็นวงกลม เพื่อให้ประชาชนชาวน่าน พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยว ได้ขนทรายมาใส่ให้เต็มเป็นชั้น ๆ และปักตุง 12 ราศี และสรงน้ำพระพุทธรูป

เพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นหนึ่งในประเพณีที่ชาวเหนือ ชาวล้านนายึดถือกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมีความเชื่อว่าการปักตุงจะเป็นการช่วยเหลือญาติที่อยู่ในภพภูมิชั้นที่ต่ำกว่า ให้สามารถเกาะชายตุงขึ้นมาชั้นภพภูมิที่ดีกว่า ส่วนการขนทรายเข้าวัด เป็นการนำทรายมาทดแทนส่วนที่ติดเท้าออกไปจากวัด

เพื่อให้วัดได้ใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดและปฏิบัติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือ ปี๋ใหม่เมือง นายโยธิน ทับทิมทอง ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานน่าน กล่าวว่า ประเพณีสงกรานต์หรือปี๋ใหม่เมืองชาวเหนือ ได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถสะท้อนอัตลักษณ์

ประเพณี และวัฒนธรรมไทยสู่สายตาสากล อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่รัฐบาลไทยต้องการนำเสนอสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก หลังจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียน สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกโลกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เป็นประเพณีที่ทรงคุณค่าที่ขอเชิญชวนชาวไทยทุกท่านร่วมกันอนุรักษ์รักษาไว้

สำหรับจังหวัดน่านจัดงานมหาสงกรานต์ยิ่งใหญ่ “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568 ตั้งแต่วันที่ 11 -16 เมษายน 2568 ทั้งภาครัฐและเอกชนได้จัดกิจกรรมหลากหลาย เพื่อเป็นการสืบสานงานประเพณีและวัฒนธรรมของไทย และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว และการกระจายตัวของการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของเพณีสงกรานต์

ที่ยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมาแต่โบราณตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเหนือต่างๆ มากมาย อาทิเช่น การทำบุญไหว้พระสรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิกดิ์สิทธิ์, การปักตุงก่อเจดีย์ทรายเสริมสิริมงคล ,พิธีสงเคราะห์สะตวงหลวงเมืองน่าน ชมขบวนน้ำสรงพระราชทานฯ สรงน้ำพระหลักเมืองน่าน และขบวนแห่พระเจ้าแวดเวียงน่าน ขบวนนางสงกรานต์ ชมการแสดงตีกลองปูจา กลองแอว ประชันจิสะโป็ก กิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์การแสดงดนตรี ของเยาวชนจังหวัดน่าน และการแสดงมินิคอนเสิร์ต ที่ถนนข้าวแต๋น

จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านร่วมกิจกรรมต่างๆ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของชาวเหนือ ความสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจจากการแสดงดนตรีสด ดนตรีพื้นบ้าน ได้เติมเต็มความสุขและผ่อนคลาย ในช่วงประเพณีสงกรานต์ ปี๋ใหม่เมืองนี้/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เริ่มแล้ว.ประเพณีสงกรานต์และเทศกาลอาหารดี ดนตรีสนุก เมืองสวรรคโลก (หวันโลก Food & Fun) ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้


เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันที่11เมษายน2568 ณ. บริเวณสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เขตเทศบาลเมืองสวรรคโลกตรงข้ามที่ว่าการอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีสงกรานต์และเทศกาลอาหารดี ดนตรีสนุก เมืองสวรรคโลก (หวันโลก Food & Fun) ประจำปี 2568

โดยมี พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา นางนงลักษณ์ ก้านเขียว สมาชิกวุฒิสภา นางสาวสรินรัตน์ เกิดสกุลรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย

นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเอนก วิทยาพิรุณทอง นายอำเภอสวรรคโลก หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น

บุคลากรเทศบาลเมืองสวรรคโลก และประชาชนเข้าร่วมในพิธี ในการนี้ นายชาตรีวัฏฐ์ อินทร์บุหรั่น ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองสวรรรคโลก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน

งานประเพณีสงกรานต์และเทศกาลอาหารดี ดนตรีสนุก เมืองสวรรคโลก (หวันโลก Food & Fun) ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2568 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ

ในการอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในอำเภอสวรรคโลก บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก

มีประชาชนชาวสวรรคโลกและพื้นที่ใกล้เคียงให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อพบปะครอบครัวและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งนี้ภายในงานได้จัดเป็นซุ้มขายอาหารและจัดโต๊ะทานอาหารไว้บริการประชาชนที่เข้ามาเที่ยวชมงานชมการแสดงบนเวทีในทุกค่ำคืนอีกด้วย
กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี/มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ มอบอาหารกล่องให้ทีมกู้ภัย และอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ

แชร์เนื้อหานี้

10 เมษายน 2568 : 15.30-16.30 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/ประธานมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์,พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,ทีมงาน พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ : ลงพื้นที่มอบอาหารกล่องให้กับหน่วยงานทีมกู้ภัย และอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้มาร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดพิธีสรงน้ำพระราชทาน พระพุทธมหามุนี หรือ หลวงพ่อโต พระคู่เมืองศรีสะเกษ

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (10 เม.ย. 68) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานน้ำสรง เพื่อเชิญไปสรงพระพุทธมหามุนี (หลวงพ่อโต) ในงานนมัสการและสรงน้ำหลวงพ่อโต “บูชาพระใหญ่ ไหว์ตรุษสงกรานต์ สนานธรรมราช” ประจำปี 2568 ณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ

ระหว่างวันที่ 10 – 16 เมษายน 2568 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้นมัสการและสรงน้ำหลวงพ่อโต เป็นการรักษาไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม ตลอดจนเป็นการสร้างความสามัคคีของชุมชน วัด และส่วนราชการ

โดยมี พระพรหมวชิรดม เจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายฆาราวาส นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม นายธาตรี สิริรุ่งวนิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมในพิธีเป็นเจ้านวนมาก

พระพุทธมหามุนี หรือ หลวงพ่อโต เป็นพระนามของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ชาวบ้านชาวเมืองศรีสะเกษและพุทธบริษัททั่วไปเรียกขานจนติดปากถึงทุกวันนี้ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ปางมารวิชัย ศิลปะแบบนครจำปาสัก สกุลช่างเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก สร้างเมื่อราวปี พ.ศ. 2328 สร้างด้วยก่ออิฐฉาบปูน

หรือหล่อด้วยปูน หรือแกะสลักหิน ยังสันนิษฐานไม่ถนัดนัก มีขนาดตั้งแต่รากฐานถึงยอดพระเมาลีสูง 6.85 เมตร หน้าตักกว้าง 3.5 เมตร เฉพาะพระพาหา (แขน) ไม่สามารถจะโอบรอบได้ พุทธลักษณะงดงามตามยุคสมัย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายในวิหารวัดมหาพุทธารามหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่ได้รับการเคารพ สักการะบูชา และยกย่องเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองศรีสะเกษ มาตั้งแต่สมัยเมืองศรีนครเขต จนถึงปัจจุบัน มีอายุราว 240 ปี (พ.ศ.2568)

ภาพ)ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าว แห่นาคมหาโหด หนึ่งในพิธีกรรมที่แปลกที่สุดแห่งเดียวในภาคอีสาน

แชร์เนื้อหานี้

พิธีจัดแถลงข่าวแห่นาคมหาโหดหนึ่งในพิธีกรรมที่แปลกที่สุดแห่งเดียวในภาคอีสาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อการบวชซึ่งเอกลักษณ์อันลือชื่อแห่งบ้านโนนเสลาและสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นมายาวนาน โดยนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธาน

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 16.00 น.นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอภูเขียว พ.ต.อ.สมิต นันท์นฤมิตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภูเขียว

นายวิษณุ ชัยมีเขียว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตูม น.ส.วรวรรณ ปราณีตพลกรัง รองผู้อำนวยการ ททท.นครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผอ.รพ.สต.โนนเสลาและนางธิดารัตน์ อากรตน ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ

ร่วมกันจัดแถลงข่าวประเพณีแห่นาคมหาโหดซึ่งเป็นพิธีกรรมเก่าแก่ซึ่งสืบทอดกันมายาวนาน การแห่นาคของหมู่บ้านโนนเสลาเป็นการทดสอบกำลังใจ ความอดทนสุขภาพร่างกายของนาคก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

โดยนาคจะนั่งบนแคร่ไม้ไผ่ซึ่งมีเพื่อนฝูงแบกหามแคร่ไปตามถนนในหมู่บ้าน ระหว่างทางจะมีการโยนนาคขึ้นลงเป็นระยะอย่างรุนแรงเป็นที่น่าหวาดเสียวและเป็นการฝึกจิตใจของนาคให้แข็งแกร่งพร้อมจะละทิ้งทางโลก

เพื่อเข้าสู่เพศสมณะและเป็นการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ กำหนดงานระหว่าง 1-2 พฤษภาคม 2568 ณ.วัดตาแขก บ้านโนนเสลา ตำบลหนองตูม อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ

ภาพ/ข่าว กบชุมแพ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / หลายหน่วยงาน รุดช่วยเหลือลูกจ้าง เหยื่ออุบัติเหตุจากการทำงาน และถูกนายจ้างปัดความรับผิดชอบ

แชร์เนื้อหานี้


***ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มี นายสมบัติ ศรีฟ้า อยู่บ้านเลขที่ 146 ม.2 ต.สุขสวัสดิ์ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ป่วยติดเตียง หลังถูกว่าจ้างให้ไปรื้อถอนห้องแถว แต่เกิดอุบัติเหตุถูกกระเช่ารถเครนหล่นมาทับจนต้องนอนป่วยติดเตียง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 และนายจ้างก็ไม่เข้ามาดูแลช่วยเหลือไม่สนใจนานนับปี ก่อนจะข่าวออกไปตามสื่อสารมวลชน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 นายฉลาด ชิดชม นายอำเภอไพรบึง ในนามประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ มอบหมายให้ นางสาวพรรษา ปัญญาคม ปลัดอำเภอไพรบึง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล และเข้าทำการช่วยเหลือ โดยมี นายสุริยัน แจ่มแจ้ง นายก อบต.สุขสวัสดิ์ นางสาวศรีสมบูรณ์ คำผง สาธารณสุขอำเภอไพรบึง ผอ.รพสต.พะแวะ ตำบลสุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่นิตกร อบต.สุขสวัสดิ์ ร่วมเยี่ยมช่วยเหลือในครั้งนี้

***เบื้องต้นทางอำเภอไพรบึง ได้มีการแนะนำสิทธิด้านต่างๆ และขั้นตอนการไปขอรับสิทธิต่างๆจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การขอรถเข็น สิทธิขอรถรับส่งผู้ป่วย และอื่นๆ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจาก กองทุนคนไพรบึงไม่ทิ้งกัน จำนวน 3,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน นอกจากนี้ นายสุริยัน แจ่มแจ้ง นายก อบต.สุขสวัสดิ์ ได้นำถุงยังชีวิตมามอบให้ พร้อม ให้ นิติกร อบต.สุขสวัสดิ์ เข้าแนะนำช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย โดยได้แนะนำให้ภรรยา หรือ บุตร ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.วังจันทร์ จังหวัดระยอง เพื่อนำใบแจ้งความมารับสิทธิเงินช่วยเหลือจากยุติธรรมจังหวัด และเข้าระบบกระบวนการไกล่เกลี่ย ในขั้นตอนต่อไป

***ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม อีกว่าหากผู้ใจบุญท่านใดอยากจะเข้ามาช่วยเหลือ ครอบครัวนี้ สามารถโทรศัพท์เข้ามาสอบได้ที่ เบอร์ 091-0377535 นางเลียง ศรีฟ้า ภรรยาของ นายสมบัติ ศรีฟ้า (ผู้ป่วยติดเตียง) หรือ สามารถโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. สาขาไพรบึง ชื่อบัญชี นางเลียง ศรีฟ้า เลขบัญชี 020221670286 โดยเงินบัญชีที่มีทั้งหมดล่าสุดมีติดบัญชีเพียง 757.33 บาท
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีเปิดชุมชนวัดไพรพัฒนา 1 ใน 10 “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” งานเทศกาลสงกรานต์ “สรงน้ำหลวงปู่สรวง” ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นานาชาติ วัดไพรพัฒนา ครั้งที่ 2 จ.ศรีสะเกษ

แชร์เนื้อหานี้


***เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดชุมชนวัดไพรพัฒนา 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” งานเทศกาลสงกรานต์ “สรงน้ำหลวงปู่สรวง” และศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นานาชาติ วัดไพรพัฒนา นานาชาติ ครั้งที่ 2 โดยมี นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ นายสำเร็จ ไพรบึง นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายทางวัฒนธรรม ผู้แทนนานาชาติ 8 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา ไทย เนปาล บังคลาเทศ พม่า ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และอินเดีย เข้าเป็นเกียรติในพิธี

***นางศศิฑอณร์ กล่าวว่า ชุมชนวัดไพรพัฒนา เป็นชุมชนที่ 5 ที่ วธ. ดำเนินการเปิดเที่ยวชุมชน ยลวิถีชุมชน จากทั้งหมด 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งสำหรับชุมชนวัดไพรพัฒนาเป็นชุมชนที่มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา ผู้คนทั้งสองประเทศเชื่อมสัมพันธไมตรีอย่างต่อเนื่อง มีจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำสู่ “นครวัด นครธม” ประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เขมร

และมีการแต่งกายที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นที่มีความสวยงาม โดย วัดไพรพัฒนา ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจผู้คน และการจัดกิจกรรมทางศาสนาของชุมชนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา ตลอดจนนานาชาติ นอกจากนี้ภายในมณฑปปราสาทมีสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง พระเกจิอาจารย์ผู้ได้รับความศรัทธา ผู้คนมักเรียกท่านว่า “เทวดาเดินดิน” ดังนั้นการมาเยือนชุมชนวัดไพรพัฒนา ถือเป็นสิริมงคล และเริ่มต้นด้วยการเข้ากราบไหว้ขอพรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง ด้วยเครื่องสักการะบูชา กรวยดอกไม้ ขันธ์ 5 ขันธ์ 8

***สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสเสน่ห์ยลวิถีโดยนั่งรถรางรับส่งฟรีตลอดทั้งวัน ระหว่างวัดไพรพัฒนาและตลาดชุมชนยลวิถี ถนนสายวัฒนธรรมวัดไพรพัฒนา ช้อปสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม เช่น ผ้าไหมตรานกยูงทองพระราชทาน น้ำผึ้งโพรงจากธรรมชาติ ยาสมุนไพร อาหารพื้นถิ่น อาทิ แกงหยวกกล้วย แกงขนุน และขนมพื้นถิ่น เช่น ข้าวต้มด่าง (อันซอมกะบ็อง) ข้าวต้มใบมะพร้าว (อันซอมสะเลิกโดง) และน้ำสมุนไพรอัญชัน

นอกจากนี้มีจุดชมวิวผาพญากูปรี มีป่าเขาลำเนาไพร ห้วยสำราญ น้ำตกห้วยสำโรง วัดป่าถ้ำผึ้งดาวดึงส์ และ ค่ายมวย ว.เทคโนหลวงปู่สรวง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ชุมชนวัดไพรพัฒนามีผู้นำและเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมเข้มแข็ง คนในชุมชนมีความสุข ความรักความสามัคคี อนุรักษ์สืบสาน รักษา ต่อยอดวัฒนธรรมของท้องถิ่นไว้อย่างดียิ่ง มีความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเป็นอย่างดี

***หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปอีกว่า วธ. ดำเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ชุมชนมาต่อเนื่อง คัดเลือกชุมชนต้นแบบระดับจังหวัดที่มีศักยภาพ ยกย่องเชิดชูเกียรติตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 ปัจจุบันมีสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” รวม 40 ชุมชนทั่วประเทศ โดยหลังจากการประกาศแล้ว วธ. มีการต่อยอดด้วยการสนับสนุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาศักยภาพคนในชุมชนผ่านการอบรมผู้นำชุมชน นักเล่าเรื่องและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและต่างประเทศมาเยี่ยมชมและเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนจัดทำแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน

“เที่ยวเท่ ๆ เสน่ห์เมืองไทย” ให้นักท่องเที่ยวค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวแต่ละชุมชนได้อย่างสะดวก รวดเร็วมีความแม่นยำ ตามนโยบายกระทรวงวัฒนธรรม ที่มุ่งขับเคลื่อน Soft Power โดยเฉพาะด้านเฟสติวัล – เทศกาลประเพณีและด้านท่องเที่ยวสนองนโยบายของรัฐบาล และ วธ.มีเป้าหมายส่งเสริมคุณค่าและมูลค่าเทศกาลประเพณีของชาติและเทศกาลอื่นๆ ด้านวัฒนธรรมให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย ที่สำคัญมุ่งส่งเสริมเทศกาลประเพณีไทย เพื่อยกระดับสู่ระดับชาติและนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดงานนมัสการพระพุทธมิ่งมงคลมุนีศรีมุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 5 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มอบหมายให้นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ

นายอำเภอเมืองมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดงานนมัสการ “พระพุทธมิ่งมงคลมุนีศรีมุกดาหาร”

ณ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร โดยมี พระวิฑูรวชิรโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร

เจ้าอาวาสวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยนายอนุชิต ชนะวัฒน์ปัญญา วัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร คณะกรรมการจัดงาน หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

งานนมัสการจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแสดงออกถึงความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การสรงน้ำพระ

การแสดงศิลปวัฒนธรรม นิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธมิ่งมงคลมุนีศรีมุกดาหาร การจัดจำหน่ายสินค้า GI และกิจกรรม Work shop ที่สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น​ งานนี้จัดระหว่างวันที่ 5-7 เมษายน 2568

โดยความร่วมมือของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์วัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความภาคภูมิใจของประชาชนในท้องถิ่น

งานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสดีที่ทุกคนได้ร่วมกันสืบสานประเพณีและเสริมสร้างความสามัคคีในสังคมไทย
ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีสดุดีวันคล้ายวันถึงแก่พิราลัย พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63

แชร์เนื้อหานี้

วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 ณ มณฑลพิธีพระอนุสาวรีย์พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ หน้าค่ายสุริยพงษ์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน พลตรี วรเทพ บุญญะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีถวายสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันถึงแก่พิราลัยของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63 ซึ่งเวียนมาบรรจบครบ 107 ปี

ในพิธี ได้มีการกล่าวสดุดีสดับพระเกียรติคุณของพระองค์ ผู้ทรงเป็นอัจฉริยบุรุษเปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงประกอบพระกรณียกิจที่เป็นคุณูปการต่อบ้านเมืองอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทั้งในด้านการทหาร การปกครอง การศึกษา และการศาสนา ด้านการทหาร พระองค์ได้ทำนุบำรุงกิจการทหารอย่างเข้มแข็ง รวบรวมและฝึกฝนกำลังพล พร้อมจัดตั้งยุ้งฉางสะสมเสบียงและกระสุนดินดำจำนวนมาก ทรงมีบทบาทสำคัญในการช่วยปราบฮ่อที่เมืองหลวงพระบาง และปราบกบฏเงี้ยวหัวเมืองฝ่ายเหนือ ร่วมกับเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ทั้งยังทรงเป็นกำลังหลักในการสนับสนุนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการปกป้องหัวเมืองฝ่ายเหนือจากภัยของจักรวรรดินิยมตะวันตก

ด้านการปกครอง พระองค์ทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยเมตตาธรรม โปรดให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต และวางผังเมืองใหม่ พร้อมขยายถนนให้กว้างขวางสะดวกแก่ประชาชน ด้านการศึกษา ในปี พ.ศ. 2450 พระองค์ได้สละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จัดตั้งโรงเรียนสอนหนังสือภาษาไทยแห่งแรกในเมืองน่าน ในนาม “โรงเรียนสุริยานุเคราะห์” ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารในปัจจุบัน

ด้านการศาสนา พระองค์ทรงสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ส่งพระสงฆ์ไปเรียนที่กรุงเทพฯ และบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามและปูชนียสถานหลายแห่ง พร้อมสร้างหอพระไตรปิฎกหลังใหญ่ที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร โดยจารึกอักษรไว้หน้าอาคารถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 5 ซึ่งแสดงถึงความจงรักภักดีอันแรงกล้า

ด้วยพระกรณียกิจอันเลื่องลือเหล่านี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็น “พระเจ้านครน่าน” โดยพระนามเต็มตามพระสุพรรณบัฏว่า “พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช กุลเชษฐมหันต์ ไชยนันทบุรีมหาวงษาธิบดี สุจริตจารีราชานุภาวรักษ์ วิบูลยศักดิ์กิติไพศาล ภูบาลบพิตร สถิตนันทราชวงศ์พระเจ้าน่าน”

ในการนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขออัญเชิญดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ หากแม้นสถิต ณ สรวงสวรรค์ชั้นฟ้า ขอได้ทรงรับเครื่องสักการะจากข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และขอจงทรงพระเกษมสำราญในทิพยวิมาน ตราบชั่วนิรันดร์กาล
/ภาพข่าว/พ.อ.พยอม บุญทร/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน /สถิตย์ ศรีประสม/ วิสุทธิ์ ศรีเมือง รายงาน