คลังเก็บหมวดหมู่: กิจกรรมเพื่อสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายอ.โคกสำโรง เปิดโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 2,000 คน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 10.30 น. นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรง นางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอโคกสำโรง พ.ต.อ. จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก. สภ.

โคกสำโรง พ. ต. อ. มาโนช จันเที่ยง ผกก. สภ. เพนียด นายกองตรี กรวี กิจรัตนกาญจน์ พ.ต.ท.มนตรี เล่ห์อิ่ม รอง ผกก.ป.ฯ ร.ต.อ.โกวิทย์ พลั่วพันธ์ รอง สวป.(ชส.)ฯ ด.ต.พฤกษ เหมาะสมัย ผบ.หมู่(ป.)ฯ ส.ต.ต.ศรัณญ์ บุญภาพ ผบ.หมู่(ผช.พงส.)ฯ

พร้อมด้วยส่วนราชการ ผู้อำนวยการโรงเรียน นายกเทศมนตรีตำบลโคกสำโรง นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกตำบล ประธาน กต.ตร. พร้อมคณะ กต. ตร. สถานีตำรวจภูธธรโคกสำโรง และประธาน กต.ตร. สถานีตำรวจเพนียด
กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

ด้วยอำเภอโคกสำโรง ภายใต้การดำเนินการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศป.ปส.อ.โคกสำโรง) จัดทำโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อให้สถานศึกษามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อำเภอโคกสำโรง เพื่อเป็นกระบวนการการแก้ไขปัญหาแบบองค์รวมในการป้องกันเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่นักเรียนเพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา อำเภอโคกสำโรง
จังหวัดลพบุรี เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร ตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหาผู้เสพในชุมชนและสถานศึกษาเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ตลอดจนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด อำเภอโคกสำโรง จึงได้จัดทำโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา และดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา กำหนดมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนก่อนวัยเสี่ยงและในวัยเสี่ยงไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เรียนรู้ถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด รู้จักวิธีปฏิเสธหลีกเลี่ยงยาเสพติดและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการหมกมุ่น มั่วสุ่มกับยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า และอบายมุขอื่นฯ โดยได้กำหนดการอบรม ในห้วงเดือนมิถุนายน 2568 โดยมีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้นจำนวน 2,030 คน จำนวน 6 รุ่น โดยมาจาก นักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่อำเภอโคกสำโรง จำนวน 5 โรงเรียนประกอบด้วย
  1. โรงเรียนโคกสำโรงวิทยา จำนวน 1,000 คน
  2. วิทยาเทคนิคลพบุรี จำนวน 300 คน
  3. วิทยาเทคนิคโคกสำโรง จำนวน 400 คน
  4. โรงเรียนบ้านสะแกราบ จำนวน 130 คน
  5. โรงเรียนโคกสำโรง จำนวน 200 คน
    รวมทั้งสิ้น 2,030 คน

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ. ศูนย์ข่าวฯ
อนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เเถลงข่าวกิจกรรมวัฒนธรรมสองเเผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย เชื่อมสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

แชร์เนื้อหานี้

ที่โรงเเรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานงาน เเถลงข่าวโครงการส่งเสริมและยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ชายแดนใต้ กิจกรรมวัฒนธรรมสองเเผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย

โดยมี นายอำเภอระเเงะ นายกสมาคมการท่องเที่ยวศิลปะและวัฒนธรรมรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส และผู้เเทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่ากิจกรรมวัฒนธรรมสองเเผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย จัดขึ้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ที่ถือเป็นเมืองหน้าด่าน ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย ให้เดินทางเข้ามาเยือนในพื้นที่มากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่กิจกรรมลักษณะนี้ไม่เพียงแค่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ยังเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสองประเทศ และสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อีกด้วย

สำหรับโครงการฯ ดังกล่าว กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย 68 ณ สวนสิรินธร อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ภายในงานพบกับการเเสดงแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรมและศิลปะพื้นบ้านอันทรงคุณค่าจากทั้งสองประเทศ ร่วมสนุกกับศิลปินชื่อดัง อาทิ Jugg Chawin, ปราโมทย์ วิเลปะนะ, แอ๊นท์ Emotion Town, R-Leaf Pandora, คาร์มัส คาร์มัรร์อาลี บินดาโอ๊ะ, วงFin และ Z.Zamri อิ่มอร่อยกับอาหารฮาลาล อาหารจานเด็ด และร่วมช็อปสินค้า OTOP ของดีชายเเดนใต้ ด้วย

นอกจากนี้ วันที่ 20-22 มิ.ย.68 มีการจัดกิจกรรมการเเข่งขัน OFFROAD ณ ชุมชนตันหยงมัสเก่า อ.ระเเงะ จ.นราธิวาส กำหนดจัดการเเข่งขันใน 2 ประเภท คือ ประเภท 3 คันและประเภทปีกนก ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2 เเสนบาท เพื่อมอบความสุขแก่ชาวนราธิวาส ตลอดทั้งการจัดงาน
/////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เจ้าเงาะป่าทำถึง สีสันขบวนแห่งานบุญบั้งไฟ อบต.ตาโกน ด้านชาวบ้านแห่ส่องเลขธูปหลังพิธีไหว้ หลักบ้าน อายุกว่า 200 ปี ก่อนทำพิธีจุดบั้งไฟ

แชร์เนื้อหานี้

***เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 68 ที่วัดตาโกน ตำบลตาโกน อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ นายทวีศักดิ์ ทรงอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดงานบุญประเพณีบุญบั้งไฟ อำเภอเมืองจันทร์ ซึ่ง อบต.ตาโกน ร่วม ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 7-9 มิ.ย. 68 เพื่อเป็นการบวงสรวง สร้างความสนุกสนาน และสร้างความสมัครสมานสามัคคีของพี่น้องประชาชนในพื้นที่

เป็นการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวอีสาน เอาไว้ให้สืบทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน และสื่อสานประเพณีความเชื่อในเรื่องขอฝนของชาวอีสานที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน รวมถึงเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรในการทำเกษตร โดยมี นายสมศักดิ์ เอ่งฉ้วน นายอำเภอเมืองจันทร์ นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สส.ศรีสะเกษ เขต 8 พรรคภูมิใจไทย นายเเท่ง สุระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาโกน และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

***ทั้งนี้งานบุญประเพณีบั้งไฟ นับเป็นประเพณีความเชื่อ ที่มีความสำคัญ สำหรับชาวตำบลตาโกน และนิยมทำกันในเดือน 6 ของทุกทุกปี ดังนั้น ชาวตำบลตาโกน จึงถือว่าประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญมาก เพราะมีความเชื่อแต่ตั้งเดิมจวบจนปัจจุบันว่า หากไม่จัดงานบุญบั้งไฟก็อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติ ในการจุดบั้งไฟเป็นพิธีกรรมเพื่อบูชาขอพรพญาแถน เพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ พืชไร่ พืชสวนเจริญงอกงาม มีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ

***โดยกิจกรรมวันนี้มีการขบวนแห่แต่ละชุมชน ที่แต่ละขบวนประดับประดาไปผลผลิต พืชพันธ์ ต่างๆ โดยเฉพาะส้มโอหวาน ของดีอำเภอเมืองจันทร์ ขบวนนางรำที่แต่ละขบวนจัดเต็มทั้งชุด และการแสดง นอกจากนี้แต่เจ้าเงาะป่า ผมขาว ทาตัวสีดำ เดินหารจนา (สาวงาม) ตามขบวนแห่ โดยจะมีคนค่อยเต็ม (เต็มสีดำตามตัว) อยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นสีสันของขบวนแห่งานบุญบั้งไฟในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีพิธีไหว้และผูกผ้า 7 สี

ที่เป็นสิมหรือเสาเอกของอุโบสถเก่า ที่มีอายุมากกว่า 200 ปีที่ชาวบ้านเชื่อถือกราบไหว้ถือเป็นภูมิบ้านที่สืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น ก่อนที่ นายก อบต.ตาโกง จะจุดธูปเลขเสี่ยดวง ให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมได้นำไปเสี่ยโชคที่จะถึงนี้ ซึ่งเลขที่ได้คือเลข 469 โดยมีชาวบ้านต่างพากันแห่มาดูเลขเด็ดกันคึกคัด ทั้งนี้การจุดบั้งไฟจะมีการจุดขึ้นในวันที่ 8-9 มิ.ย. 68 ซึ่งเป็นบั้งไฟขนาดท่อ 2-3 โดยมีการขออนุญาติถูกต้องตามระบบ
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 0; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 2621440;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 35;

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /แถลงข่าวกิจกรรมงานบุญบั้งไฟ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ปีที่ 46 สืบสานประเพณีโบราณอันดีงามของชาวภาคอีสานที่ปลายด้ามขวาน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ที่โรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาสว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม อ.สุคิริน จ.นราธิวาส(กิจกรรมงานบุญบั้งไฟสุคิริน) โดยมีนายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอนิรุทร บัวอ่อน ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายธีรศักดิ์ สังขโชติ นายอำเภอสุคิริน นายมนัส ตั้งใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง นางสาวภาชินี พฤกษาพิทักษ์ รักษาราชการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส นางสาวนวพร ชัวชมเกตุ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนราธิวาส ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า กิจกรรมงานบุญ บั้งไฟสุคิริน หนึ่งเดียวในภาคใต้ เป็นงานที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาจากกรุงเทพ และพื้นที่ใกล้เคียง และท่อและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย อาทิ ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 500 คน ซึ่งจะได้มาสัมผัสกับเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอีสานของไทย โดยในพื้นที่ดังกล่าวเป็นคนจากภาคอีสานที่ย้ายถิ่นฐานมาทำงานที่ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จำนวน 8 หมู่บ้าน

โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะผลักดันให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดนราธิวาส เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งในช่วงวันหยุดยาว การจัดกิจกรรมงานบุญบั้งไฟสุคิรินนั้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดีให้แก่จังหวัด นราธิวาส และหวังว่าจะเกิดกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ต่อเนื่องไป

ทั้งนี้กิจกรรมงานบุญบั้งไฟไม่ได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมทางวัฒนธรรมธรรมดา แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน เพราะไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง แต่รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาร่วมกิจกรรม ซึ่งมีกำหนดจัดงาน 3 วัน คาดการณ์เงินสะพัดประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งจะมีบริการที่พักและสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นรายได้เสริมที่สำคัญสำหรับครัวเรือน และในส่วนของความปลอดภัยจะมีการ บูรณาการระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตลอดจนหน่วยงานในพื้นที่ช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยโดยจะมีการตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาร่วมงานบุญบ้านไฟในครั้งนี้

สำหรับงานประเพณีบุญบั้งไฟ ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน ได้จัดติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 46 ซึ่งจะจัดในช่วงเดือนมิถุนายน เพื่อเป็นการบูชาเทพแห่งฝน ขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล และเป็นการสืบสานประเพณีโบราณของประชาชนภาคอีสานที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส โดยชาวอีสานได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากอยู่ที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2518 โดยประชากรร้อยละ 98 เป็นชาวไทยจากภาคอีสาน และได้นำประเพณีอันดีงามของบรรพบุรุษติดตัวมาด้วย ปัจจุบันประเพณีบุญบั้งไฟตำบลภูเขาทอง ได้รับการส่งเสริมจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะชาวบ้านตำบลภูเขาทองได้ร่วมกันอนุรักษ์และสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้เด็กรุ่นหลังไม่ลืมร้างเหง้าของตนเอง นับเป็นงานบุญบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่แห่งเดียวในภาคใต้

โดยกิจกรรมงานบุญบั้งไฟ ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน กำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 13-15 มิถุนายน 2568 โดยในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เป็นวันรับลงทะเบียนหางบั้งไฟ จุดบั้งไฟแข่งขัน กำหนดพิธีเปิดงานยิ่งใหญ่ในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ผู้ที่ไปเที่ยวชม “กิจกรรมงานบุญบั้งไฟสุคิริน” นอกจากชมประเพณีวิถีชีวิตถิ่นอีสานแล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ท่ามกลางหุบเขาชายแดนใต้ ที่ตำบลภูเขาทอง อำเภอ สุคิริน จังหวัดนราธิวาส อีกด้วย
//////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 3 มิถุนายน 2568 เวลา 18.00 น. ณ หอประชุมอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

นายสำราญ ศรีภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขต 3 อำเภอชุมแพ ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ วางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนชัยถวาย

พระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

โดยมีนางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ เป็นประธานในพิธีฯ นำหัวหน้าส่วนราชการ

ข้าราชการทั้งท้องที่และท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายตุลาการ องค์กรประชาชน

เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได

วินสื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อบจ.น่าน จัดประชุมคณะทำงานพัฒนาระบบสาธารณูปโภค

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน นายนพรัตน์ ถาวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ครั้งที่ 2/2568

โดยมีวาระสำคัญหลายวาระ ประกอบด้วยแนวทางการเสนอผลงาน/โครงการ ที่จะขอรับการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2570 นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาการกำหนดแนวทางการดำเนินงานของคณะทำงานฯ ในปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งการติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานฯ ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลดงพญา อ.บ่อเกลือ

ทั้งโครงการปรับปรุงระบบน้ำประปาภูเขาจุดห้วยกลาง – ห้วยแคะ (บ้านป่าก๋อ) และบ้านสะปัน หมู่ที่ 1 และโครงการก่อสร้างรางระบายน้ำพร้อมฝาตะแกรงเหล็ก บ้านสะปัน หมู่ที่ 1 (บริเวณแยกทางเข้าวัดสะปัน – ที่พักสะปันออนเซน) ตลอดจนติดตามผลการดำเนินงานโครงการซ่อมแซม/

ปรับปรุงถังเก็บน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กทั้ง 5 หมู่บ้านในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลสกาด อ.ปัว จ.น่าน นอกจากนี้ยังติดตามผลการดำเนินงานงานก่อสร้างเพิ่มไหล่ทาง งานเสริมผิวแอสฟัลต์ทางหลวง งานติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างและงานติดตั้งราวกันอันตรายในเขตทางหลวงสายต่างๆ จากแขวงทางหลวงน่าน ที่ 2 ส่วนโครงการชลประทานน่าน ได้รายงานความคืบหน้าและผลการดำเนินงานโครงการฝายบ้านห้วยโทนพร้อมระบบส่งน้ำ

จัดหาน้ำเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงบ่อเกลือ ส่วนในช่วงท้ายของการประชุมมีการแจ้งผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตและยังไม่ได้ยื่นคำขออนุญาตภายในระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 และเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการต่างๆ อย่างสูงสุด/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังกวคดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เพชรบุรี” จัดใหญ่! แข่งขันวัวเทียมเกวียนบ้านลาด 108 ปี หนึ่งเดียวในโลก

แชร์เนื้อหานี้

ช่วงค่ำวันที่ 28 พ.ค.68 ที่บริเวณศูนย์วิสาหกิจชุมชน บ้านโป่งสลอด หมู่ 6 ต.หนองกะปุ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี เป็นประธาน พร้อมด้วย นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ นายชัยพล ภูต้องลม รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี

นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ส.ส.เพชรบุรี จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล ส.ส.เพชรบุรี นายชัยยะ อังกินันทน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี, นายปรีชา อนันต์วรนาถ นายอำเภอบ้านลาด หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันวัวเทียมเกวียนและบ้านลาด 108 ปี

พร้อมร่วมขบวนแห่วัวเทียมเกวียน 108 เล่ม ซึ่งเป็นไฮไลต์ของงาน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 108 ปี ของอำเภอบ้านลาด ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเทียวจำนวนมากร่วมชมงาน

จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ อำเภอบ้านลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเพชรบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี และภาคีเครือข่าย จัดการแข่งขันวัวเทียมเกวียนและบ้านลาด 108 ปี ขึ้น ระหว่างวันที่ 28 พ.ค. – 1 มิ.ย.68

เพื่อสืบสานประเพณีไทยที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก สานต่อประเพณีที่สำคัญไม่ให้เลือนหายไป โดยวัวเทียมเกวียนเป็นประเพณีท้องถิ่นโบราณของชาวเพชรบุรี ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ระหว่างคนกับวัวในอดีต อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ภายในงานตลอด 5 วันเต็ม

พบกับกิจกรรมที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันวัวเทียมเกวียนทั้งประเภทความเร็วและประเภทสวยงาม การแข่งขันวัววิ่งลู่ การแข่งขันล้มวัวด้วยมือเปล่า สนุกกับการแข่งขันพื้นบ้านอย่างเช่น การจับหมู การเฉาะตาล การกินตาล การประกวดทะลายตาล นอกจากนี้ยังมีซุ้มแสดงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตบ้านลาด รวมถึงลานของกิน ของดีบ้านลาด ที่รวบรวมสินค้าและอาหารอร่อย ๆ จากชุมชนมาให้ได้เลือกซื้อเลือกชิมกันอย่างเต็มที่ และพลาดไม่ได้กับการแสดงพื้นบ้าน

“ไทยทรงดำ” ที่สวยงาม รวมถึงนิทรรศการมรดกภูมิปัญญาวัวเทียมเกวียนให้ได้เรียนรู้กันด้วย ในช่วงค่ำคืนยังมีการแสดงให้ได้ชมทั้งการแข่งขันวัวลาน รำวงย้อนยุค การแสดงดนตรี และมหรสพต่าง ๆ อีกมากมาย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมชมการแข่งขันวัวเทียมเกวียนและบ้านลาด 108 ปี ได้ตามวันดังกล่าว.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เตรียมจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ แปลกใหม่เย็นฉ่ำ พร้อมชม ชิม ช้อป อย่างสุขใจ ทุเรียนภูเขา

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้( 29 พ.ค.68) ที่บริเวณสวนทุเรียนจันหอม ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้จับมือส่วนราชการและภาคเอกชน ประกอบด้วย นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ และ นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและผู้สนใจได้รับรู้ถึงความพร้อม

เตรียมจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปีนี้จัดแปลกใหม่ภายในโดมเย็นฉ่ำ พร้อมชม ชิม ช้อป อย่างสุขใจกับอัตลักษณ์และรสชาติทุเรียนภูเขาไฟ GI ศรีสะเกษแท้ๆ เนื้อทุเรียนแห้ง เส้นใยละเอียด หวานละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมาก คาดการณ์ว่าปีนี้ จะมีทุเรียนเกือบ 20,000 ตัน โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 8,000 ตัน หรือมากกว่าร้อยละ 60

โดยผลผลิตทุเรียนหากเฉลี่ยต่อไร่จะอยู่ที่ 1,500 กิโลกรัม ผลผลิตทุเรียนจะตัดออกตลาดแบ่งเป็นหลายรุ่น เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงปลายเดือนสิงหาคม ผลผลิตจะออกมากที่สุด ในช่วงเดือนปลายเดือนมิถุนายน ประมาณร้อยละ 30 และ ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมอีกราวๆ ร้อยละ 20 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 2534 และจัดมาอย่างต่อเนื่องมาทุกปี สร้างรายได้ให้ชาวสวน และ สร้างรายได้เข้าจังหวัดศรีสะเกษปีละหลายร้อยล้านบาท

สำหรับปีนี้จังหวัดศรีสะเกษกำหนดจัดงาน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี 2568” ระหว่างวันที่ 19 – 23 มิถุนายน 2568 รวม 5 วัน ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ความพิเศษเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟปีนี้ โดมจะติดแอร์เย็นชุมฉ่ำ ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจได้ “ ชม ชิม ช้อป อย่างสุขใจ”

พร้อมการต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวชมงาน รับประกันความปลอดภัย พร้อมความสุขใจ และประทับใจ ที่สำคัญ เมื่อเกิดประทับใจแล้ว อย่าลืมนำไปบอกต่อความประทับใจแก่กับคนที่เรารู้จัก เป็นการช่วยเชิญชวนให้เขาได้มาเที่ยวชมเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษด้วยตัวเองให้ได้นั่นเองขณะเดียวกัน

ภายในงาน ยังมีเจ้าหน้าที่สารวัตรทุเรียนคอยอำนวยความสะดวก และ ให้คำแนะนำในการเลือกซื้อทุเรียนแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ยังไม่พอ ยังมีบริการรับส่งทุเรียนของบริษัท ไปรษณีย์ไทย สาขาศรีสะเกษ สามารถจัดส่งทุเรียนไปทั่วประเทศได้อย่างมั่นใจอีกด้วย

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / หมอเดว เข้ารับประทานรางวัล พระเกี้ยวธรรมจักร ประจำปี 2568 / สภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก และคนพิการ จำนวน 6 ราย ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดหนองหอย ต.หลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

แชร์เนื้อหานี้

27 พฤษภาคม 2568 รศ. นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม เข้ารับประทานรางวัล จาก พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จเป็นองค์ประธาน พิธีประทานรางวัล “พระเกี้ยวธรรมจักร” ประจำปี 2568 ณ หอประชุม มวก 48 พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

รางวัลพระเกี้ยวธรรมจักร จัดขึ้นโดยมูลนิธิศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อเป็นการยกย่องให้กำลังใจ และประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลผู้ที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพการงานและการดำรงตน ส่งเสริมพระพุทศาสนา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมและจริยธรรม และเป็น

บุคคลผู้นำหลักพุทธธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ประเทศชาติ และพระพุทธศาสนาให้ปรากฎสืบไป
.ภาพ/ข่าว: กลุ่มงานสื่อสารและรณรงค์ทางสังคมศูนย์คุณธรรม #ทำดีไม่ต้องเดี๋ยว #คนดีมีพื้นที่ยืน #ความดีมีพื้นที่ในสังคม #กระทรวงวัฒนธรรมติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
🌐 Facebook : ศูนย์คุณธรรม Moral Center Thailand
🎥 YouTube : Moral Channel

สภาสังคมสงเคราะห์ฯมอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก และคนพิการ จำนวน 6 ราย ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดหนองหอย ต.หลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

26 พฤษภาคม 2568 : 16.00 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล ร่วมกับ

พล.อ.ทวี ณ ชาตรี รอง หส.ผศ.ลบ. และคณะ,พ.อ.พิเศษ สมภพ สีสมุทร หน.เครือข่ายทหารผ่านศึก อ.โคกสำโรง และคณะ,พ.ต.เฉลิม อินจำปา รอง หน.เครือข่ายทหารผ่านศึก อ.โคกสำโรง

ผู้ประสานงาน,จิตอาสาทหารปืนใหญ่ รุ่น 8/25 : ลงพื้นที่มอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก และคนพิการ จำนวน 6 ราย ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดหนองหอย ต.หลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

*** ขอขอบคุณ ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช บริจาคชุดเยี่ยม จำนวน 6 ชุด มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ***สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรีสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่3 ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่4

​สื่อรัฐทีวี-สื่รัฐนิวส์ / นอภ.นิคมคำสร้อย นำ จนท. ร่วมให้กำลังใจครอบครัว “ภูมิลา” หลังสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุต้นไม้ล้มทับรถ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายวิรัตน์ เจริญจิตร์ นายอำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจแก่ครอบครัว “ภูมิลา” ณ บ้านเลขที่ 117 หมู่ 4 บ้านหนองนกเขียน ตำบลร่มเกล้า

หลังเกิดเหตุสลดใจจากอุบัติเหตุต้นไม้หักโค่นล้มทับรถยนต์ช่วงเช้าของวันเดียวกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ได้แก่ นายสุพจน์ ภูมิลา อายุ 54 ปี และนางทองเลข ภูมิลา อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของครอบครัว ขณะที่ลูกสาว นางสาวศิริรัตน์ ภูมิลา อายุ 17 ปีซึ่งนั่งอยู่ในแคปด้านหลังของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงพักฟื้นและยังคงมีอาการโศกเศร้าจากการสูญเสียเสาหลักของครอบครัว

โดยนายอำเภอนิคมคำสร้อยได้เป็นตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมกระเช้าสิ่งของให้แก่นางสาวศิริรัตน์ เพื่อเป็นการปลอบขวัญและเยียวยาจิตใจในเบื้องต้น ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดของญาติพี่น้องและชาวบ้านในชุมชนทั้งนี้ ครอบครัวของผู้สูญเสียมีอยู่ด้วยกัน 4 คนประกอบด้วย นายสุพจน์ ภูมิลา อายุ 54 ปี นางทองเลข ภูมิลา อายุ 49 ปี เป็นพ่อและแม่ นายอาทร ภูมิลา อายุ 29 ปี ลูกชายปัจจุบันมีครอบครัวและพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ

และนางสาวศิริรัตน์ ภูมิลา อายุ 17 ปี ลูกสาวซึ่งอยู่ในรถคันเกิดเหตุและได้รับบาดเจ็บด้วย ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนร่มเกล้าพิทยาสรรค์ ทั้งนี้ชาวบ้านต่างแสดงความชื่นชมนายอำเภอนิคมคำสร้อยและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข -โรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ที่ออกปลอบขวัญให้กำลังใจ เยียวยาแก่ ครอบครัวผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างรวดเร็วอุบัติเหตุต้นไม้ล้ม #ส่งกำลังใจให้น้องศิริรัตน์ #นิคมคำสร้อย #ข่าวเศร้า #ร่วมแสดงความเสียใจ #เยียวยาจิตใจ #เราจะไม่ทิ้งกัน #น้ำใจชาวมุกดาหาร​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​