คลังเก็บหมวดหมู่: กิจกรรมเพื่อสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มีดแรกของฤดูกาลตัดทุเรียนชุมพร ผู้ว่าฯ ชุมพร เปิดงานวันเก็บเกี่ยวทุเรียนคึกคัก กงสุลจีนร่วมยินดี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 18 มิถุนายน 2568 ณ แปลงใหญ่ทุเรียน ตำบลถ้ำสิงห์ หมู่ที่ 1 อำเภอเมืองชุมพร ได้มีการจัด “งานวันเปิดฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนชุมพร” ประจำปี 2568 อย่างเป็นทางการ โดยมี นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิด

งานนี้ได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมี นายคลองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร มาร่วมเป็นเกียรติในงาน และที่สำคัญคือได้รับเกียรติจาก นายวัง จื้อเจียง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา ที่ได้เดินทางมาร่วมงานและพบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนอย่างใกล้ชิด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทุเรียนชุมพรในตลาดต่างประเทศ

โดยเฉพาะตลาดจีน การจัดงานในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประกาศเริ่มต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว แต่ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในจังหวัดชุมพร พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้คึกคักอีกด้วย นายปรีชา เสนแก้ว ประธานแปลงใหญ่ทุเรียน ตำบลถ้ำสิงห์-วังใหม่ ในนามพี่น้องเกษตรกร ชาวบ้านควนจำปา ตำบลถ้ำสิงห์

มีความยินดีอย่างยิ่งที่ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ท่านกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดสงขลา ท่านหัวหน้าส่วนราชการ และท่านผู้มีเกียรติ ที่ได้ให้เกียรติ มาเยี่ยมเยือนตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมืองชุมพร ในวันนี้ครับ วันนี้เป็นวันเปิดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน ประจำปี 2568 ของ จังหวัดชุมพร ถือเป็นวันที่มีความหมายสำคัญยิ่งต่อชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ของเรา

ซึ่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตนั้น ถือเป็นผลแห่งความอุตสาหะ ความขยันหมั่นเพียร
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ชาวสวนทุกท่าน ได้ดูแลการผลิตทุเรียนด้วยความเอาใจใส่ตั้งแต่การเตรียมดิน การใส่ปุ๋ย การรดน้ำ การป้องกันศัตรูพืช จนกระทั่งให้ผลผลิต เพื่อให้ได้ผลผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด และถึงมือผู้บริโภค

ทุเรียนถ้ำสิงห์ของเราได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ รสชาติหวานหอม เนื้อเหลือง และส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นี้ที่มีดินดี และสภาพอากาศเหมาะสม ผลผลิตของเราไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในท้องถิ่น แต่ยังได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วประเทศ และสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้อีกด้วย และความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ทั้งชาวสวน สถาบันเกษตรกร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และเอกชน ที่ได้ทำงานเป็นทีม แลกเปลี่ยนความรู้ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อให้เกิด

ห่วงโซ่มูลค่าของทุเรียนที่สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนตำบลถ้ำสิงห์ และตำบลวังใหม่ได้รวมกลุ่มและจัดตั้งเป็นแปลงใหญ่ทุเรียนขึ้น ในปี 2567 ในนาม แปลงใหญ่ทุเรียน ตำบลถ้ำสิงห์-วังใหม่ โดยมีกระผมเป็นประธานของกลุ่ม

ปัจจุบันมีสมาชิก 53 คน พื้นที่รวมกว่า 730 ไร่ โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นพัฒนาด้านการบริหารจัดการกลุ่ม ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและการบริหารจัดการด้านการตลาดร่วมกัน สมาชิกมีการผลิตทุเรียนตามมาตรฐานเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ทุเรียนทุกผล มีอายุการเก็บเกี่ยวที่ 120 วัน หลังดอกบาน ทำให้มั่นใจได้ว่า เป็นทุเรียนแก่จัด มีคุณภาพ หวาน มัน เหมาะแก่การบริโภค

นายสุบรรณ์ รักษ์ทอง เกษตรจังหวัดชุมพร ยินดีและเป็นเกียรติ
อย่างยิ่ง ที่ท่านได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน วันเปิดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน ประจำปี 2568 จังหวัดชุมพรนับเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกทุเรียนที่สำคัญของประเทศไทย มีสภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของผลไม้ในเขตเมืองร้อน

เนื่องมาจากดินอุดมสมบูรณ์ และสภาพภูมิอากาศ เหมาะสมในการผลิตทุเรียน จึงทำให้ปัจจุบันจังหวัดชุมพรถือเป็นแหล่งผลิตไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งเกษตรกรมีประสบการณ์ในการผลิตทุเรียน และมีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ทำให้ทุเรียนจังหวัดชุมพรเป็นที่รู้จักในด้านรสชาติและคุณภาพ นอกจากนี้ จังหวัดชุมพรยังเป็น
แหล่งรวบรวมผลผลิตที่สำคัญสำหรับการส่งออกไปต่างประเทศและในประเทศอีกด้วย


การผลิตทุเรียนของจังหวัดชุมพร มีแนวโน้มขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 มีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นจากการปลูกทดแทนพืชชนิดอื่น และจากความต้องการบริโภคทุเรียนของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ สาธารณรัฐประชาชน

จีน ซึ่งนำเข้าทุเรียนผลสดจากประเทศไทยมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี โดยปัจจุบันจังหวัดชุมพร มีเนื้อที่ปลูกทุเรียน 334,576 ไร่ ซึ่งให้ผลผลิตแล้ว 240,775 ไร่ และคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาด 302,739 ตัน ซึ่งให้ผลผลิตในช่วงเดือนพฤษภาคม และกระจายถึงเดือนธันวาคม ส่วนช่วงที่ผลผลิตออกมากคือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม สร้างรายได้ให้กับจังหวัดชุมพรมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท

เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการผลิต และประชาสัมพันธ์คุณภาพของผลผลิตทุเรียนจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นไม้ผล อัตลักษณ์ที่สำคัญ รวมถึงเป็นมาตรการในการควบคุมป้องกัน แก้ไขปัญหาการตัดทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด เพื่อให้ทุเรียนที่ออกจาก สวนเกษตรกร ได้คุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ได้รับประทานทุเรียนที่อร่อย และพึงพอใจต่อสินค้าทุเรียนของ จังหวัดชุมพร

จึงได้จัดกิจกรรมวันเปิดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน ประจำปี 2568 ในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ณ แปลงใหญ่ทุเรียน ตำบลถ้ำสิงห์-วังใหม่ หมู่ที่ 3 ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร โดยภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม การเปิดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน (ตัดทุเรียนลูกแรก) การชิมทุเรียนและผลิตภัณฑ์จากทุเรียน นอกจากนี้ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชนตำบลถ้ำสิงห์

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ จังหวัดชุมพรถือเป็นแหล่งปลูกทุเรียนคุณภาพที่สำคัญของภาคใต้และของประเทศไทย ด้วยสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสม ทำให้ทุเรียนชุมพรมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรสชาติหวานมัน เนื้อละเอียด และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนมีการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพผลผลิตทุเรียน มีกระบวนการส่งออกที่รักษาคุณภาพจนถึงผู้บริโภค และมีมาตรการป้องกันควบคุม ป้องกัน แก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ จนได้รับการยอมรับให้เป็นสินค้าเกษตรที่เป็นที่ต้องการของตลาด สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร

จังหวัดชุมพรจึงได้จัดกิจกรรมวันเปิดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน ประจำปี 2568 ในครั้งนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ตลอดจนนักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดชุมพร ได้รับทราบถึงการเริ่มฤดูกาลทุเรียนของจังหวัดชุมพร และเป็นการสร้างมั่นใจให้ผู้บริโภคได้ว่า จังหวัดชุมพรของเราผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพ มีรสชาติหวานมัน กรอบอร่อย ท้ายที่สุดนี้ กระผมขอขอบคุณคณะผู้จัดทุกคน และขออวยพรให้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สส. อนุชา สะสมทรัพย์ พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

แชร์เนื้อหานี้

นครปฐม(กลุ่มชาวบ้าน) และผู้นำส่วนท้องถิ่น ได้เข้าเยี่ยมโรงพยาบาลนครชัยศรี เพื่อร่วมกันหารือในการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบโรงพยาบาล พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาฯ

พร้อมกันนี้ กลุ่มคนรักอนุชา ทีมงานคุณหนิงชัยศรี และ สจ. บรรทูล สนน้อย ( สจ.จั้น) ได้ร่วมกันนำอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาล ซึ่งมีจำนวนมาก

และขอขอบคุณโรงพยาบาลนครชัยศรี ที่อำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรม และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อประชาชนครับ
สมคิด พรมมี ผู้สื่อข่าว นครปฐม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พ่อเมืองประจวบฯ รณรงค์ให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นในวันดื่มนมโลก 2568/ ตร.สันติบาลจัดโครงการ ปันรัก ปันน้ำใจ ส่งความสุข สู่ความพอเพียง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.68 ที่ลานอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมการรณรงค์บริโภคนมประจวบคีรีขันธ์ ประจำปี 2568

เนื่องในวันดื่มนมโลก ( World Milk Day 2025) เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นถึงคุณค่าประโยชน์ของการบริโภคนมและมีการบริโภคมากขึ้น อันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาทางด้านสุขภาพของประชาชน และช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมี นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ

นายสัตวแพทย์จามร ศักดินันท์ ปศุสัตว์จังหวัดฯ พร้อมด้วย สหกรณ์โคนมภายในจังหวัดจำนวน 6 สหกรณ์ อาทิ สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คห้วยสัตว์ใหญ่จำกัด / สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คประจวบคีรีขันธ์ จำกัด /สหกรณ์โคนมกุยบุรี จำกัด/ สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คอ่าวน้อย จำกัด /

สหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์คบ้านเนินดินแดง จำกัด และสหกรณ์โคนมบางสะพาน จำกัด องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.ภาคใต้ ปราณบุรี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งรูปแบบการจัดกิจกรรมในวันนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “นมไทยก้าวไกล มีคุณค่า ดื่มง่าย สุขภาพดี เริ่มที่ประจวบส่งถึงทุกครอบครัว Next Move Prachuap นมโคประจวบต้องไปต่อ”

ภายในงานมีการแจกนมให้กับเด็กนักเรียนและผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ดื่มฟรี และมีบูธจำหน่ายนมและผลิตภัณฑ์นมราคาถูกจากสหกรณ์โคนมในจังหวัดประจวบฯ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) และสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ตามที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) ได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันดื่มนมโลก ( World Milk Day) สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ

จึงได้ร่วมกับสหกรณ์โคนมภายในจังหวัดจำนวน 6 สหกรณ์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค. ภาคใต้ ปราณบุรี) คณะครู นักเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคนม เนื่องในวันดื่มนมโลก ประจำปี 2568 ขึ้น

เพื่อรณรงค์ให้คนประจวบฯและประชาชนคนไทยทั่วประเทศได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการดื่มนม เกิดการรับรู้และเข้าใจถึงคุณประโยชน์ของนมอันส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย อีกทั้งเป็นส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมนมและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้มีความมั่นคงทางด้านอาชีพอีกทางหนึ่งด้วย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ตร.สันติบาลจัดโครงการ ปันรัก ปันน้ำใจ ส่งความสุข สู่ความพอเพียง

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.วีรชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 พร้อมข้าราชการตำรวจสันติบาลจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสมุทรสงคราม

ร่วมกับข้าราชการครู อาจารย์ และนักเรียน กว่า100รายณ.โรงเรียนคุณหญิงเนื่องบุรี จัดกิจกรรมปันรัก ปันน้ำใจ ส่งความสุข สู่ความพอเพียง โดยมีการสร้างเยาวชนสู่อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer)

ประกวดสื่อโซเชียลสร้างสรรค์ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ในกิจกรรมมีนักเรียนจัดทำวิโอสั้นในการเผยแพร่พระราชกรณียกิจพระมหากษัตริย์ วิดีโอสั้น

การทำความดีเพื่อสังคม และมีการมอบรางวัลให้วิดิโอสั้น จำนวน 4 รางวัล และรางวัล รางวัล Popular Vote อีก 1 รางวัล
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดเมืองแห่งสุขภาพ ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร พานักท่องเที่ยวแอ่วเชียงราย ตามโครงการพัฒนาเมืองเชียงราย เมืองแห่งสุขภาพ 2025

แชร์เนื้อหานี้

เชียงรายเปิดเมืองแห่งสุขภาพ #ให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร #พานักท่องเที่ยวแอ่วเชียงราย ตามโครงการพัฒนาเมืองเชียงราย เมืองแห่งสุขภาพ 2025 เชื่อมั่นเป็นมิติการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพกระตุ้น เศรษฐกิจชุมชนโดยมี เป้าหมายสุขภาพควบคู่กับการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่14มิถุนายน68 นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานเปิดงานเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ ณ อุทยานศิลปวัฒนธรรมไร่แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยมีนายเสริฐ นันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย และตัวแทนอุตสหกรรมการท่องเที่ยว ภาคเหนือ17จังหวัด ร่วมเทน้ำอบสมุนไพรอโรมา ลงในอ่างพิธีเปิดโครงการเชียงราย เมืองแห่งสุขภาพ chaingrai wellness city 2025

ท่ามกลางผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ร่วมงานและสื่อมวลชน ที่เป็นอินฟลู เอ็นเซอร์ จากภาคส่วนต่างๆจำนวนกว่า200คน โดยทางนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเปิดโครงการเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ ควบคู่การท่องเที่ยวอันเกิดประโยชน์กระตุ้นการท่องเที่ยวแบบรักสุขภาพ เป็นการท่องเที่ยวซึ่งจะได้ประโยชน์ต่อภาพรวมของการจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ โดยนำเสนอการใช้สมุนไพรบำบัดร่างกาย ให้เมืองเชียงรายแห่งสุขภาพและให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพตนเองในสภาวะสังคมผู้สูงอายุ

ในงานมีการออกบูธส์สินค้าเพื่อสุขภาพ สาธิตการนวดน้ำมัน ตอกเส้นคลายกล้ามเนื้อ สปาผ่อนคลาย ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำมันสกัดจากสมุนไพรพื้นบ้าน ตลอดถึงอาหารพื้นบ้านที่ทำจากสมุนไพรซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่ของการใช้นวรรตกรรมสมัยใหม่เข้าไปพัฒนาสมุนไพรไทย มีการสกัดสมุนไพรเป็นน้ำมัน หรืออบบดละเอียด เพื่อสะดวกกับการใช้ สปา บำบัดสุขภาพและคณะผู้ประกอบการด้านการท่อง

เที่ยวคณะสื่อมวลชนเชียงรายจะเริ่มออกฟร์ามทริปทัวร์ ไปยังสถานที่ต่างๆตามโปรแกรมการท่องเที่ยวและกีฬาได้วางไว้คลอบคลุมทุกจุดทั้งนี้เพื่อเป็นการแนะนำเส้นทางและเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวด้านสุขภาพแห่งเมืองเชียงรายโดยเริ่มที่ออนเซ็น สปาเท้าที่น้ำพุร้อนโป่งพระบาท ตำบลบ้านดู่เป็นต้นและอีกหลายจุดทั่วจังหวัดเชียงราย.

นายธกฤต #วรรมณี #รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร รวบร่วมธารน้ำใจส่งต่อพี่น้องชาวตำบลสะพลี 300 คน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00น. นายนพพร อุสิทธิ์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรร่วมกับ ประธานกลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร ตำบล สะพลี จัดกิจกรรมรวบร่วมธารน้ำใจสู่พี่น้องชาวตำบลสะพลี กลุ่มพลังสตรีตำบลสะพลี มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 300คน

นางเพ็ญศรี จันทร์สุริย์ เลขา พลังสตรี อบจ. กล่าว ได้รับความร่วมมือจาก กลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร ร่วมกับ กลุ่มพี่น้อง พลังสตรี อบจ.ชุมพร ตำบลสะพลี มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนในตำบลสะพลี ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าสิ่งของที่นำมาในครั้งนี้

จะไม่มีค่ามากมายแต่เต็มไปด้วยน้ำใจ และความปรารถนาดีจาก กลุ่มพลังสตรี อบจ.ชุมพร ตำบลสะพลี ที่จะมอบให้ได้รวบรวมข้าวสารจำนวน 250 ถุง น้ำดื่ม 250 แพค และผงซักฟอกจำนวน 250 ถุงเพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลสะพลี

นาย นพพร อุสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาความเดือดร้อนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นจะประสานงานเข้ามาให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรได้รับรู้รับทราบแต่วันนี้ในส่วนของผู้นำยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิมแต่เราเพิ่มเติมกลุ่มพลังสตรีซึ่งวันนี้กลุ่มพลังสตรีจะมีเกือบทุกหมู่บ้านทุกตำบลในจังหวัดชุมพรเพราะฉะนั้นก็จะไม่แปลก

ที่จะร่วมกันส่งข่าวสารความเดือดร้อนต่างๆของพี่น้องประชาชนให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรได้เข้าดูแลและในวันนี้ก็มาที่นี่ตำบลสำลีวันนี้ก็ได้มีของแจกให้กับพวกเรามูลค่าคงไม่มากแต่ว่าน้ำจิตน้ำใจมีความประสงค์ที่จะช่วยกัน

วันนี้ปัญหาความเดือดร้อนบ้านเราโดยเฉพาะปัญหาของเรื่องเศรษฐกิจ จะเป็นปัญหาของพวกเราได้รับผลกระทบในวันนี้ผมขออนุญาตบอกพวกเรา ว่า วันนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเรา

ได้ตั้งศูนย์ยืมศูนย์ซ่อมอุปกรณ์ทางการแพทย์เพราะฉะนั้นเวลาเรามีปัญหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวีลแชร์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเตียงนอนของผู้ป่วยจะเป็นถังออกซิเจนเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆเมื่อก่อนเราอาจจะขอ

รอพ.ศ. ตอโดยตรงวันนี้ก็ได้โอนภารกิจมาอยู่ในการดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับเรื่องของสาธารณสุขจะมีปัญหาว่าบางครั้งบางคราวในชุมชนบางรพ.ศ. ตอไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์พวกเราก็จะเจอปัญหาว่าจะนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่

ไหนอย่างไรมาช่วยอันนี้ผมเลยตัดสินใจพระองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรร่วมกับ สปสช.ทำในเรื่องซุ้มยืมศูนย์ซ่อม อุปกรณ์ทางการแพทย์คาดการณ์ว่าไม่น่าเกินเดือนกันยาทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเพราะฉะนั้นเรามีปัญหาต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ถ้าเราไปหาหน่วยงานที่เราเคยใช้บริการแล้วปรากฏว่าไม่ประสบความสำเร็จท่านก็หวนกลับมาที่เรา รพสต

ของเราหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของเราจะพิจารณาสิ่งที่เราร้องขอมันตรงกับความต้องการเหมาะกับ พฤติกรรมที่เราจะต้องเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้หรือไม่ รพสต.จะเป็นหน่วยงานกรองแล้วก็ส่งเรื่องมายังที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรหลังจากนั้น อบจ.ชุมพร

ก็จะดำเนินการส่งอุปกรณ์เหล่านั้นไปถึงบ้านเรือนของพวกเราที่ร้องขอเป็นการเติมเต็มอีกเรื่องหนึ่ง จะเป็นการบอกให้กับพี่น้องชาวตำบลสะพลีในวันนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องระบบสาธารณสุขของพี่น้องในพื้นที่ตำบลสะพล

ธนากร โกศลเมธี ภาพ/ข่าว รายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานประเพณีบุญบั้งไฟ ปี46 ประจำปี 2568 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน สืบสานประเพณีโบราณ คนอีสาน มาอาศัยปลายด้ามขวาน นราธิวาส

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ 14 มิ.ย.68 ณ ลานอเนกประสงค์บ้านโต๊ะโมะ หมู่ที่ 3 ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2568 ตามโครงการส่งเสริมและ

พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานปีที่ 46 ซึ่งมี หัวหน้าส่วนราชการนายอำเภอสุคิริน รักษาราชการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมฯ

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า
งานประเพณีบุญบั้งไฟสุคิริน หนึ่งเดียว ที่เดียวในภาคใต้ เป็นงานที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจากกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างพร้อมใจมาสัมผัสกับเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอีสานของไทยด้วยตนเอง เป็นยกระดับการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ขณะที่ จังหวัดนราธิวาสพร้อมสนับสนุนให้จัดกิจกรรมดีๆอย่างนี้ ต่อเนื่อง

สำหรับงานประเพณีบุญบั้งไฟ กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13 -15 มิ.ย. 68 กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย ขบวนแห่บั้งไฟ ของแต่ละชุมชน มีการแสดงฟ้อนของภาคอีสาน การรำวงเวียนครก การจุดบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟตะไล

และไฮไลท์ของงาน คือการแข่งขันบั้งไฟที่หาชมได้ยากในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนพื้นถิ่น ส่งผลให้บรรยากาศของงานเป็นไปอย่างสนุกสนาน อบอวลด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมทางภาคอีสานในพื้นที่ปลายด้ามขวาน และรอยยิ้มของชาวบ้านที่ร่วมกันสืบสานประเพณีฯ

โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง ที่ทำการปกครองอำเภอสุคิริน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ขึ้น เพื่อสืบสานประเพณีโบราณของ ประชาชนภาคอีสาน 8 หมู่บ้าน ที่มาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่อำเภอสุคิริน มาเป็นเวลานานสำหรับประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลภูเขาทอง

นับตั้งแต่ชาวภาคอีสานได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากอยู่ที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2518 โดยประชากรร้อยละ 98 เปอร์เซ็นเป็นชาวไทยจากภาคอีสาน โดยได้นำประเพณีอันดีงามของบรรพบุรุษติดตัวมาด้วย ปัจจุบันประเพณีบุญบั้งไฟที่นี่ได้รับการส่งเสริมจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะชาวบ้านตำบลภูเขาทองได้ร่วมกันอนุรักษ์และสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น นับเป็นงานบุญบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่แห่งเดียวในภาคใต้
////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ”บิ๊กแป๊ะ-สนธยา“ จัดงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” วางกรอบ “บางละมุงโมเดล“ บูรณาการทำงานพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ

แชร์เนื้อหานี้

ค่ำวันที่ 14 มิ.ย.68 นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” ซึ่งเป็นงานเลี้ยงบุฟเฟต์อาหารค่ำและความบันเทิงเพื่อแสดงความยินดีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอบางละมุงทั้งหมดทุกเทศบาลรวมเมืองพัทยา ที่ได้รับการเลือกตั้งและได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. อย่างเป็นทางการ และเพื่อบูรณาการทำงานพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างไร้รอยต่อโดยมีคณะผู้บริหารและสมาชิกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเครือบ้านใหญ่ชลบุรี เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย เทศบาลเมืองหนองปรือ นำโดย นายวินัย อินทร์พิทักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ, เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ นำโดย นายไพรัตน์ ไตรศุภโชค นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยใหญ่, เทศบาลตำบลหนองปลาไหล นำโดย นายยศพงศ์ ลินทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองปลาไหล,

เทศบาลตำบลโป่ง นำโดย นายอนุชา เพียรใจ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโป่ง, เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย นำโดย นายมิตชัย ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย, เทศบาลตำบลบางละมุง นำโดย นายนราธิป ฟักฤกษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางละมุง, เมืองพัทยา นำโดย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ตลอดจนตัวแทนองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว ที่กำลังจะเปลี่ยนฐานะเป็นเทศบาลในเร็วๆ นี้ พร้อมกันนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ ธีระพรสถานนท์ นักธุรกิจชื่อดังเมืองพัทยา นายมีชัย อินทร์พิทักษ์ ประธานคณะทำงานนายกเมืองพัทยา และนายชาญยุทธ เฮงตระกูล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ร่วมสนับสนุนและแสดงความยินดี

รวมทั้ง คณะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และอำเภอบางละมุง นำโดย นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง คณะจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และข้าราชการในพื้นที่อำเภอบางละมุง เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก โดยสถานที่จัดขึ้นที่ห้องจัดเลี้ยง โรงแรมทรีซิกตี้ไฟว์ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งบรรยากาศของงานเป็นไปอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง

นายสนธยา คุณปลื้ม ในฐานะประธานจัดงาน “รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” กล่าวว่า คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเข้ามาทำงานพัฒนาท้องถิ่นรับใช้ประชาชนชาวอำเภอบางละมุง ทุกเทศบาลรวมทั้งเมืองพัทยา โดยจะมีการร่วมมือกันบูรณาการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นภาพรวมสู่การเป็นบางละมุงโมเดลที่มีการทำงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อพัฒนาอำเภอบางละมุง และจังหวัดชลบุรี ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ​เหล่ากาชาดมุกดาหาร จัดโครงการวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2568 รณรงค์และเสริมสร้างพลังคนรุ่นใหม่ / เตือนภัย!!​ อย่าหลงเชื่อหมอดูแขก อาละวาด ดูดวงแลกเงิน 599 บาท

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ หอประชุม 250 ปี มุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2568 ด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร

ร่วมกับโรงพยาบาลมุกดาหาร ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตตามโครงการวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2568 เพื่อเป็นการรณรงค์และเสริมสร้างพลังคนรุ่น

ใหม่ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นผู้บริจาคโลหิต โดยโลหิตที่ได้จะต้องเป็นโลหิตที่ปลอดภัย และเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย รวมทั้งยังเสริมสร้างคนรุ่นใหม่ เป็นผู้บริจาคโลหิตเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

ทั้งนี้ในวันที่ 14 มิถุนายน องค์กรต่างๆ ทั่วโลกจะร่วมกันเฉลิมฉลองวันผู้บริจาคโลหิตโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตต่ออุตสาหกรรมสุขภาพ

เนื่องจากโลหิตสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดด้วยพลาสมา การวิจัย หรือการใช้ในกรณีฉุกเฉิน การบริจาคโลหิตถือเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยเหลือโลกมาหลายครั้งแล้ว เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

มุกดาหาร-เตือนภัย!!​ อย่าหลงเชื่อหมอดูแขก อาละวาด ดูดวงแลกเงิน 599 บาท

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568​ เฟสบุ๊คกลุ่ม ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก จังหวัดมุกดาหารได้โพสต์เตือนภัยโดยระบุข้อความว่า ทุกคน เจอคนลักษณะหน้าตาออกไปทางแขก อย่าอนุญาตให้เข้าบ้าน,ร้านค้าเด็ดขาดนะคะ แจ้งความอย่างเดียว ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้ามาชี้เบาะแสพร้อมกับโพสต์แจ้งเกี่ยวเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่าตอนนี้มีกลุ่มชายคล้ายแขกเดินไปทั่วเมืองมุกดาหาร เพื่อดูดวงพร้อมกับแรกค่าครูดูดวง

ผู้สื่อข่าวได้กล้องวงจรปิดจากร้านกาแฟแห่งหนึ่งซึ่งเผยให้เห็นพฤติกรรมของชายคนหนึ่งหน้าตาคล้ายแขกชาวต่างชาติไว้หนวดเค้า ผมยาวมัดจุก ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีดำ ซึ่งเข้าไปในร้านแล้วได้พูดคุยกับ

พนักงาน โดยทางพนักงานเปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.43 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะที่เธออยู่ในร้านมีชายต่างด้าวลักษณะเหมือนคนแขก รูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในร้าน ก่อนจะมาทำทีจะสั่งเครื่องดื่มหน้า เคาน์เตอร์โต๊ะคิดเงิน พร้อมกับทักทายแนะนำตัวเองบอกว่าเป็นอาจารย์ ต่อมาก็ได้ทำการพูด

คุยเกี่ยวกับเรื่องโหงวเฮ้งบนใบหน้าชมไปต่างๆนานา เรื่องราวในอดีตย้อนหลังเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้ จนทำให้เรารู้สึกคุ้นเคยต่อมาก็ขอดูลายมือ พร้อมกับให้วางมือใส่ของชายคนนั้น​ และได้ทำการท่องคาถา สวดมนต์ของเขา อะไรไม่รู้

ต่อไปจะค้าขายเจริญรุ่งเรือง อวยพรให้หมดหนี้หมดสิน มีโชคมีลาภถูกหวย แต่ต้องให้ทำบุญ พอพูด​เสร็จก็ทำการเรียกเงินค่าครู ให้อาจารย์ได้เลย แต่เจ้าของร้านบอกว่าไม่มีเงินสดโอนได้ไหม​ ชายคนนั้นอึ้ง​อยู่พักนึง ก็บอกว่าไม่มีบัญชีโอน ก่อนที่หมอดูจะเดินกลับออกไปด้วยท่าทีไม่พอใจ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนอีกว่าตอนนี้มีชายที่หน้าตาคล้ายแขกออกเดินตามซอยต่างๆในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 68 ที่ผ่านมาโดยมีประมาณ 3 คนแยกกันเดินไปคนละเส้นทางซึ่งมีพฤติกรรมคล้ายกันคือหลอกให้ดูดวงแล้วเรียกเก็บเงิน บางรายเรียกสูงถึง 599 บาท

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​092-5259777

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รมช.คลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ โครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” สร้างความมั่นคงด้านที่ดินให้ประชาชนแม่สาย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชร.1154 ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ตามโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์”

ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน ภายในงานมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด

เชียงราย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติในพิธี และร่วมมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับประชาชนในพื้นที่

ในการนี้ มีประชาชนผู้ถือครองที่ดินในเขตอำเภอแม่สาย จำนวน 196 ราย ได้รับสัญญาเช่าอย่างเป็นทางการ รวมถึงมีการมอบเพิ่มเติมอีก 4 ราย รวมทั้งสิ้น 200

ราย คิดเป็นพื้นที่รวมประมาณ 31 ไร่ 3 งาน 90 ตารางวา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
โครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์”

เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินราชพัสดุ โดยเฉพาะในกลุ่มราษฎรที่มีการครอบครองก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546

และยินยอมเข้าสู่กระบวนการเช่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้อัตราที่เหมาะสม ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และเสริมสร้างความมั่นคงของประชาชน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและท้องถิ่น ที่ร่วมผลักดันโครงการให้สำเร็จลุล่วง พร้อมเน้นย้ำ

เจตนารมณ์ของกระทรวงการคลังในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยเฉพาะในด้านการอยู่อาศัย การเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน และโอกาสทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง

ในโอกาสเดียวกัน นายเผ่าภูมิ และคณะยังได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เพื่อติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้างคันกั้นน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนป้องกันและลดความเสี่ยงจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในระยะยาว

พงศกร ตันสุวรรณ ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯโคราช สานพลังภาครัฐ บ้าน วัด โรงเรียน รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 %

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ (13 มิ.ย.68) เวลา 08.30 น. ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการมอบหมวกนิรภัยให้กับประชาชน โดยมี พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และนักเรียน เข้าร่วม

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า อำเภอวังน้ำเขียวได้จัดทำโครงการ “อำเภอวังน้ำเขียวห่วงใย สวมหมวกนิรภัย 100%” ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดหาหมวกนิรภัยให้กับผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,471 ใบ ได้รับการบริจาคจากประชาชนชาวอำเภอวังน้ำเขียว จำนวน 530 ใบ กรมการขนส่งทางบกสนับสนุน จำนวน 200 ใบ

ได้รับความอนุเคราะห์จากหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมราม จำนวน 741 ใบ โดยมีผู้เข้ารับมอบหมวกนิรภัยเป็นประชาชนจาก 5 ตำบล 83 หมู่บ้าน ของอำเภอวังน้ำเขียว จำนวน 852 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาและประถมศึกษา จำนวน 419 คน นักเรียนมัธยมศึกษาสังกัด อบจ.นม. จำนวน 200 คนอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์

เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และนำไปสู่การสูญเสียต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยร่วมกับการสวมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งอย่างหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อกในทุกการเดินทาง ทั้งระยะใกล้และไกล เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรให้ความสำคัญ

เพราะช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ เพราะหมวกนิรภัย ถูกออกแบบมาสำหรับรองรับแรงกระแทกโดยเฉพาะ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ การสวมหมวกนิรภัยช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งหวังที่จะให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยเป็นการสานพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ บ้าน วัด โรงเรียน ร่วมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 %

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน