คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวสังคม

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีเปิดงาน มหกรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษ ประจำปี 2568 มีเชฟดังกับ เมนูพิเศษ แกงมัสมั่นตุ๋นเนื้อน่องลาย / โจรขโมยรถจากศูนย์ฟอร์ดอุบล ขับรถหลบหนี ขู่เติมน้ำมัน ชิงลอตเตอรี่ ยังจับตัวไม่ได้

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 17.30 น.นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษประจำปี 2568 นายสัตวแพทย์นัทธ์เวโรจน์ บูชาพัฒน์ ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ หน่วยงานดำเนินการจัดงาน กล่าวรายงาน จังหวัดศรี สะเกษเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตโคเนื้อที่สำคัญของประเทศไทย มีเกษตรกรผู้เลี้ยง โคเนื้อกว่า 105,500 ราย และมีโคเนื้อมากกว่า 511,213 ตัว คิดเป็น ๔๑.๙96

ของจำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทั้งหมด การพัฒนาอุตสาหกรรมโคเนื้อจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด และเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นระบบ การจัดงานครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ ได้แก่1.การเชื่อมโยงตลาด เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการร่วมมือระหว่างเกษตรกรและผู้ประกอบการ รวมถึงการเจรจา การค้ากับร้านอาหาร โรงแรม และตลาดค้าปลีก
2.การส่งเสริมคุณภาพโคเนื้อ พัฒนามาตรฐานการเลี้ยงและกระบวนการผลิต โดยสนับสนุนการปรับปรุงสายพันธุ์

การบริหารจัดการฟาร์มตามมาตรฐาน GFM (Good Farming Management) และเทคนิคการขุนโคเพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อ3.การสร้างแบรนด์ “เนื้อดีศรีสะเกษ / Srisaket Premium Beef”เพื่อผลักดันให้เนื้อโคศรีสะเกษเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับประเทศ โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการสร้างเมนูพิเศษที่ดึงดูดผู้บริโภค

;

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่กิจกรรมเชฟเทเบิลสุดพิเศษ นำเสนอสุดยอดเมนูจากเนื้อโคศรีสะเกษ ผ่านการรังสรรค์ของเชฟชื่อดังกิจกรรมเวิร์กช็อป ผู้เข้าร่วมจะได้รับการส่งเสริมความรู้และทักษะ ด้านการทำอาหาร การแปรรูปเครื่องหนัง ซึ่งสามารถนำไปต่อยอด เป็นผลิตภัตภัณฑ์แฮนด์เมดเพื่อจำหน่ายกิจกรรม Business Matching

;

เชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและเพิ่มโอกาสทางการค้า โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การสร้างความร่วมมือเพื่อขยายตลาดโคเนื้อศรีสะเกษให้เติบโตอย่างยังยืนเพราะตลาดที่ดีเริ่มต้นจากเครือข่าย ที่แข็งแกร่ง Business Matching ครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการขยายโอกาสให้กับโคเนื้อศรีสะเกษการแสดงและกิจกรรมความบันเทิง


;

นอกจากกิจกรรมเชิงธุรกิจ และความรู้แล้ว งานมหกรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษ 2568 ยังมีกิจกรรมการแสดงและกิจกรรมความบันเทิง ที่ช่วยสร้างบรรยากาศความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกกลุ่มเป้าหมายกิจกรรมในพิธีเปิด วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งภายในงานดำเนินกิจกรรมลงนาม MOU ข้อตกลงความร่วมมือซื้อขายโคระยะต้นน้ำ ระหว่างประธานสหกรณ์โคเนื้อดอกลำดวนจำกัด กับ

กลุ่มวิสวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน บนเวที รวมทั้งกิจกรรม Shef’s Table Fine Ding รังสรรค์เมนุพิเศษ กับเมนูมัสมั่นตุ๋นเนื้อน่องลาย สำหรับประธาน แขกรับผู้มีเกียรติ จำนวน 100 ท่าน และผู้โชคดีที่ร่วมกิจกรรมบนแฟนเพจFacebook มหกรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษ จำนวน 30 คน ซึ่งนำวัตถุดิบจากจากเกษตรตรกรจังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง เน็ค นฤพล พร้อมทั้งเยี่ยมขมร้านค้าที่มาออกบูธจำหน่ายสินค้า 40 ร้านกิจกรรมจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568 ที่สวนสาธารณะลานออดหลอด อนุสรณ์ 238 ปีจังหวัดศรีสะเกษ
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

โจรขโมยรถจากศูนย์ฟอร์ดอุบล ขับรถหลบหนี ขู่เติมน้ำมัน ชิงลอตเตอรี่ ยังจับตัวไม่ได้

***เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนขับรถกระบะ 4 ประตู มาเติมน้ำมันแล้วไม่ยอมจ่าย พร้อมขู่จะยิงคนในปั๊มน้ำมันยกปั๊ม inก่อนจะขับรถหลบหนีไปด้วยไม่จ่ายเงินค้าน้ำมันที่เติม เหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ พ.ต.ท. ประดิษฐ์ อบอุ่น สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เข้าเก็บหลังฐาน สอบปากคำ และตรวจดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ

***จากการสอบถาม นายทิวา (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเด็กปั๊ม เล่าให้ฟังว่า รถยนต์คันก่อเหตุคันดังกล่าวเป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีดำเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีชายอายุประมาณ 55-60 ปี ขับมาจอดที่ช่องเติมน้ำมันช่องที่ 1 ขอเติมน้ำมันดีเซล B7 เต็มถัง

เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. ซึ่งเด็กปั๊มก็เติมน้ำมันให้เต็มถังเป็นเงิน 2,610 บาท ก่อนจะเดินลงจากรถมาขอเงินไปกินข้าวอีก 1,000 บาท ตอนนั้นตนคิดว่าพูดเล่น และก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร ก่อนที่ชายคนดังกล่าวก็เดินไปที่รถไปเอากระเป๋าคาดเอว และกุญแจมือ มาขู่เด็กปั๊มอีกครั้งว่าถ้าไม่ให้จะยิงให้ตายยกปั๊ม พร้อมกับอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษ ก่อนจะเดินไปที่รถแล้วขับรถหลบหนีไปเลย

***ทั้งนี้จากรายงาน ชายคนดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (28 ก.พ. 68) ได้ไปขโมยรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อฟอร์ด ที่ขับมาก่อนี้จากโชว์รูมรถยนต์ฟอร์ด ซึ่งเป็นรถยนต์ของคนที่นำรถมาเข้าศูนย์ ก่อนจะขับมาที่อำเภอกันทรารมย์ และพยายามจะขู่เด็กปั๊มให้เติมน้ำมัน แต่เด็กปั๊มไม่ได้เติมให้ ก่อนจะขับมาที่ปั๊มในตำบลโพธิ์ (ปั๊มที่เกิดเหตุ) และมาก่อเหตุดังกล่าว

ต่อมาผู้ก่อเหตุยังขับรถยนต์คันดังกล่าวไปก่อเหตุขโมยขนมในร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันในตำบลหนองครก อำเภอเมือง อีกด้วย ต่อมาผู้ก่อเหตุขับรถมุ่งหน้าจากถนนศรีสะเกษ-ขุขันธ์ ผ่านอำเภอวังหิน ระหว่างทางผู้ก่อเหตุแวะที่ตลาดไทอำเภอวังหิน ผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นตำรวจขู่จะยิงแล้วชิงลอตเตอรี่ 2 แผง ขึ้นรถขับมุ่งหน้าไปยังอำเภอขุขันธ์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตั้งด่านสกัดจับรถยนต์ต้องสงสัยแล้ว คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฤกษ์มงคล ครบ 72 ปี คล้ายวันเกิด “#เฮียซุ้ย”ร่วมพิธีเปิดป้าย โครงการน้ำทองน่าน ธุรกิจซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ในเมืองน่าน / “สว.เจ ภิญญาพัชญ์” ปลุกพลัง “สตรี” สร้างความเชื่อมั่น “ผู้หญิง”พัฒนาตัวเองได้

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สำนักงานขาย บริษัท #น้ำทองน่าน จำกัด ต.ไชยสถาน อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายทวีศักดิ์ ล้อบุณยารักษ์ และ นางมณีนุช ล้อบุณยารักษ์ พร้อมญาติพี่น้องตระกูลล้อ นักธุรกิจในจังหวัดน่านและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมตัดริ้บบิ้นพิธีเปิดป้ายสำนักงานขาย บริษัท น้ำทองน่าน จำกัด โดยในช่วงเช้ามี #พิธีสงฆ์ ทำบุญสำนักงานแห่งใหม่ การ #ฟ้อนรำล้านนาไทย และ #การเชิดสิงโต ขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทยเชื้อสายจีน

หลังจากนั้นช่วงกลางวัน มีงานเลี้ยงอาหารโต๊ะจีน ฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ นายทวีศักดิ์ ล้อบุณยารักษ์ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่ร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรมน้ำทองน่าน

สำหรับ #ชีวประวัติ ของ #นักธุรกิจชื่อดัง โครงการน้ำทองน่าน “เฮียซุ้ย” พอสังเขปมีดังนี้ นายทวีศักดิ์ ล้อบุณยารักษ์ ชื่อเดิมสมัยเด็กๆ เด็กชายจิ้นซุ้ย แซ่ล้อ ภูมิลำเนาเป็นคนแพร่โดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2496 ครอบครัวของเฮียซุ้ยมีพี่น้อง จำนวน 9 คน เป็นบุตรชายคนที่ 6 ของ #ตระกูลแซ่ล้อ โดยมีบิดาเป็นผู้บุกเบิกหอบเสื่อผืนหมอนใบจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ในอดีต เริ่มแรกจาก “ลูกจ้างนึ่งเส้นก๋วยเตี๋ยว” สู่ต้นกำเนิด #โรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยว เฮียซุ้ย ในปัจจุบัน

และอีกอาชีพหนึ่งของครอบครัวนี้ในอดีตเตี่ย (บิดา) ปั่นรถซาเล็บน้ำแข็งน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ ที่เรียกว่า “ลูก” มาจากโรงน้ำแข็งแล้วจึงนำมาแบ่งโดยการเลื่อยเป็น “กั๊ก” และจากกั๊กเป็น “มือ” ขายปลีกทั่วตลาดเมืองแพร่ สมัยนั้นยังไม่มีน้ำแข็งหลอด เหมือนสมัยนี้ ร้านขายโอเลี้ยงต่างๆ

ก็ต้องซื้อน้ำแข็ง ซึ่งเฮียซุ้ยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่ทำงานในแผนกนี้คือ “#คนเลื่อยน้ำแข็ง” จากน้ำแข็งเป็นลูกๆ สู่กั๊กจากกั๊กสู่มือ สมัยนั้นที่คนแถวนั้นยังจำกันได้ก็คือจะมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งใส่กางเกงขาสั้นถอดเสื้อ ก้มหน้าก้มตา ยืนเลื่อยน้ำแข็งอย่างขยันขันแข็ง ตั้งแต่เช้ายันเย็นไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยคนผู้นั้นก็คือ “#เฮียซุ้ย” นั่นเอง

เฮียซุยเริ่มต้นหาลู่ทางการทำธุรกิจ “#หาเงิน #หาทอง” ร่วมกับเฮียกิม (ผู้พี่) พี่น้องร่วมสาบาน แรกเริ่มจาก #ห้องแถว หรือชื่อเรียก “#อาคารพาณิชย์” ในปัจจุบัน ในบริเวณตลาดชมภูมิ่ง จ.แพร่ เมื่อปี พ.ศ.2532

โดยเริ่มขายห้องละไม่กี่แสนบาท ประมาณ 10 ห้อง ผลปรากฏว่าการตอบรับดีเยี่ยม ขายหมดในเวลาไม่นาน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่มาของ #โครงการน้ำทองแพร่ และ #โครงการน้ำทองน่าน ในปัจจุบัน/เครดิตเบส/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

“สว.เจ ภิญญาพัชญ์” ปลุกพลัง “สตรี” สร้างความเชื่อมั่น ดึงศักยภาพพัฒนาตัวเอง ชี้ ทัศนคติที่ดีทำ “ผู้หญิง”พัฒนาตัวเองได้

วันนี้ (28 ก.พ.) ที่โรงแรมเมธาวลัย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นางสาวภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้บรรยายเรื่องการสร้างความเชื่อมั่น เสริมสร้างความรู้ ทักษะ ศักยภาพในการพัฒนาตนเองของสตรี เพื่อเป็นฐานพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรี โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 200 คน

โดยนางสาวภิญญาพัชญ์ หรือ สว.เจ กล่าวช่วงหนึ่งว่า การพัฒนาศักยภาพสตรีได้ ต้องมีเป้าหมายที่ดี หรือ Smart Goals ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน วัดผลได้ ทำได้จริง ที่สำคัญคือทุกคนล้วนเคยเผชิญอุปสรรค แต่ต้องสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จและทำให้มีความสุขในชีวิต

อีกทั้งความเชื่อมั่นในตัวเอง จะทำให้เรากล้าตัดสินใจและลงมือทำสิ่งต่างๆ โดยไม่กลัวความล้มเหลว รวมถึงกล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ

นางสาวภิญญาพัชญ์ (สว.เจ) กล่าวต่อว่า “ความมั่นใจในตัวเอง จะทำให้เรามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ทำให้ผู้หญิงสามารถเติบโตและพัฒนาตนได้อย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ การสร้างสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยให้เราสื่อสารได้ดีขึ้น รวมถึงการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกได้อย่างเหมาะสมด้วย/บุญยฃค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /เริ่มแล้ว! งานเทศกาลว่าวนานาชาติ 2025/พัทยาจัดงานมหาศิวาราตรี ชาวต่างชาติร่วมพิธีคึกคัก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 26 ก.พ.68 ที่ชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้ทรงคุณวุฒิเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดงาน Pattaya International Kite Festival 2025 โดยมี นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์

นายอำเภอบางละมุง น.ส.มัลลิกา สุดเสน่ห์ รอง ผอ.ททท.สำนักงานพัทยา นายเอกราช คันธโร ผอ.เจ้าท่า สำนักงานพัทยา และนายขวัญชัย บุญอารีย์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยา เข้าร่วมพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ

งาน Pattaya International Kite Festival 2025 มีกำหนดจัดงานบริเวณชายหาดพัทยากลาง บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยา จ.ชลบุรี เป็นอีเว้นท์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเรียกสีสันบนชายหาดพัทยา โดยปีนี้ถือว่าจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 แล้ว

สำหรับเทศกาลว่าวนานาชาติในปีนี้ มีไฮไลต์พิเศษว่าว Snoopy และว่าวยักษ์หลากหลายรูปทรงและสีสัน รังสรรค์โดยนักเล่นว่าวมืออาชีพจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งจะเติมสีสันให้ท้องฟ้าพัทยาสวยงามยิ่งขึ้นท่ามกลางบรรยากาศริมชายหาดสุดคลาสสิก 

นอกจากนี้ยังมีการแสดงว่าว LED ยามค่ำคืน, การแสดง Sport Kite จากไต้หวัน, การแสดงทางวัฒนธรรมที่สะท้อนเสน่ห์ไทย, เวิร์กช็อปสอนทำว่าวและการบังคับว่าว รวมทั้งตลาดสินค้ากว่า 50 ร้าน จำหน่ายว่าวและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยพบว่าในวันแรกของงานมีผู้เข้าร่วมงานอย่างคึกคักและสนุกสนาน

พัทยาจัดงานมหาศิวาราตรี ชาวต่างชาติร่วมพิธีคึกคัก

ค่ำวันที่ 26 ก.พ.68 ที่เทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี นางอำพร แก้วแสง ผู้บุกเบิกการสร้างเทวาลัยฯ ได้ร่วมกับสมาคมวิศวะฮินดูปาริชาต โดย ดร.ดีโอ กูมาร์ ซิงห์ รองนายกสมาคมฯ

ได้จัดงานมหาศิวาราตรี (Maha Shivaratri) ซึ่งเป็นวันสำคัญประจำปีของชาวฮินดู โดยมี ผู้เข้าร่วมงานทั้งนักท่องเที่ยวเชื้อสายฮินดู และคนไทยที่นับถือ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ด้วยเมืองพัทยาเป็นสถานที่ท่องเทีายวที่มีความหลากหลายทั้งเชื่อชาติและวัฒนธรรม ในพื้นที่เมืองพัทยาเองก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวเชื้อสายฮินดูมาพักผ่อนและอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี จึงได้จัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้ศรัทธาได้มาปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและความเชื่ิอ

อนึ่ง งานมหาศิวาราตรี (Maha Shivaratri) หรือ “ราตรีแห่งพระศิวะ” ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ (บ้าง 14 ค่ำ) ในเดือน “ผลคุณ” ตามปฏิทินจันทรคติฮินดู หรือเดือน “มาฆะ”

ในพุทธศาสนา ชาวฮินดูจะจัดงานเฉลิมฉลองแด่ พระศิวะ หรือ พระอิศวร เป็นประเพณียามค่ำคืนที่ลากยาวจนถึงเช้าวันใหม่ จึงเรียกว่า “มหาศิวาราตรี” หรือ ค่ำคืนอันยิ่งใหญ่แห่งพระศิวะมหาเทพตามความเชื่อของชาวฮินดู

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /จ.น่าน-ผนึกกำลังป้องกันและควบคุมไฟป่าอบต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน

แชร์เนื้อหานี้

โดยวันนี้ 26 ก.พ. 68 นายนพพร เรืองสว่าง นายอำเภอเมืองน่าน มอบหมายให้ นายกิตติพร ธังศิริ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองน่าน เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการป้องกันและควบคุมไฟป่า (จัดทำแนวกันไฟ) ประจำปี พ.ศ. 2568

ณ บริเวณอารามสงฆ์ห้วยส้มป่อย บ้านห้วยส้มป่อย หมู่ที่ 2 ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมี นายรุ่งโรจน์ ขจรพงศ์กีรติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.ผาสิงห์ และ ประชาชนในพื้นที่ตำบลผาสิงห์ เข้าร่วมกิจกรรมฯ


โดย นายกิตติพร ธังศิริ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมโครงการป้องกันและควบคุมไฟป่า (จัดทำแนวกันไฟ) ประจำปี พ.ศ. 2568 มีวัตถุประสงค์ในการจัดทำแนวกันไฟ เพื่อให้ประชาชนที่มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านการปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ควบคู่ไปกับการฝึกทักษะการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า ตลอดจนการทำหน้าที่

กรรมการควบคุมการเผาระดับหมู่บ้าน สามารถประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ราษฎรในหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมไฟป่า มีความพร้อมที่จะปฏิบัติการดับไฟป่าด้วยตนเอง รวมทั้งเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถปฏิบัติงานดับไฟป้าร่วมกันเป็นหมู่คณะได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ด้าน นายรุ่งโรจน์ ขจรพงศ์กีรติ กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยฝุ่นละอองและควันพิษจะทำให้ประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ เกิดการระคายเคือง และหมอกควันจากไฟยังทำให้เกิดทัศนวิสัยที่ไม่เหมาะสมต่อการจราจรทางอากาศ ทั้งยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภัยแล้งตามมา ประกอบกับในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นช่วงที่ตรวจพบการเผามากที่สุด ทำให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัญหาไฟป่าส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมากในหลายๆ ด้านองค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์

จึงได้ดำเนินการโครงการป้องกันและควบคุมไฟป่า (จัดทำแนวกันไฟ) ขึ้น เพื่อฝึกทักษะการควบคุมป้องกันไฟป่าให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งในระดับตำบลและหมู่บ้าน ตลอดจนเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ร้านซีน่า พิซซ่าฮาลาล พัทยา ธุรกิจในเครือโบว่า กรุ๊ป มอบอินทผลัมพร้อมน้ำดื่มให้ 12 มัสยิด รับเทศกาลถือศีลอดเดือนรอมฎอน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 26 ก.พ.68 ร้านซีน่าพิซซ่าฮาลาล พัทยา ธุรกิจในเครือโบว่า กรุ๊ป ชุมชนต้นกระบก นาเกลือพัทยา ฮัจยีอาลีราชัย ปาทาน ผู้บริหารโบว่า กรุ๊ป ได้ส่งมอบอินทผลัมจำนวน 12 ลัง พร้อมน้ำดื่มจำนวน 120 แพ็ค ให้กับตัวแทนมัสยิดที่อยู่ในเขตพื้นที่เมืองพัทยาและเทศบาลเมืองหนองปรือ รวม 12 แห่ง เพื่อสนับสนุนการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นเดือนที่ชาวมุสลิมทั่วโลกถือศีลอดตลอดทั้งเดือน ฮัจยีอาลี (ราชัย) ปาทาน ผู้บริหารโบว่า กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนบวชถือศีลอด หรือช่วงรอมฎอน พี่น้องชาวมุสลิมจะต้องปฏิบัติตามศาสนบัญญัติ ด้วยการงดดื่มน้ำและงดอาหารทุกชนิดในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ 

ทั้งนี้ ทางร้านซีน่า พิซซ่า ฮาลาล ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือธุรกิจของโบว่า กรุ๊ป จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในสนับสนุนการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่เมืองพัทยาและเทศบาลเมืองหนองปรือ ซึ่งทางโบว่า กรุ๊ป ต้องขอขอบคุณทางคณะสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือที่ช่วยในการประสานงานเพื่อส่งมอบอินทผาลัมให้พี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้บัญญัติไว้ว่าสามารถละศีลอดด้วยการกินอินทผาลัม แทนการดื่มน้ำได้ เพื่อช่วยลดอาการอ่อนเพลียในช่วงอดอาหาร

สื่อรัฐทีวี- สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าเพชรฯ นำเดินแบบผ้าไทย ‘ตระการตาผ้าไทย สไตล์พริบพรี’ ในงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 38

แชร์เนื้อหานี้

ช่วงค่ำวันที่ 24 ก.พ.68 ร้อยตำรวจโทภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี จ่าอากาศเอก อภิชาติ แก้วโกศล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพชรบุรี เขต 3 พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ปลัดจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชน ร่วมกิจกรรมเดินแบบผ้าไทยการกุศล “ตระการตาผ้าไทย สไตล์พริบพรี ธีมมนต์เสน่ห์แห่งสีสัน” ที่เวทีกลางในงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 38

โดยจังหวัดเพชรบุรี สานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีพระราชดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”

คือ ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะ หัตถกรรมไทย และเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน ตลอดจนส่งเสริมกระตุ้นผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากล นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันหารายได้ผ่านการเดินแบบผ้าไทย โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผ่านสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี และสมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเพชรบุรี อีกด้วย

สำหรับการจัดกิจกรรมเดินแบบผ้าไทยครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้เห็น หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ ผู้แทนภาคเอกชนในจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยเดินแบบ

พร้อมกับเด็กๆ และยังสามารถปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนที่มาร่วมเดินแบบรวมถึงที่ติดตามผู้ปกครองมาร่วมชมงานได้ชื่นชอบผ้าไทย และรักในอัตลักษณ์ความเป็นไทย.


นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / บึงกาฬ จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่เผาหยุดสร้างหมอกควัน ลดฝุ่นPM 2.5 ในเขต สปก.

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ (25 ก.พ. 68) ที่วัดสามัคคีประชาสงเคราะห์ บ้านโสกพอก ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่เผาหยุดสร้างหมอกควัน ลดฝุ่นPM 2.5 ในเขต ส.ป.ก.และมอบโฉนดที่ดิน ส.ป.ก.ให้กับประชาชน โดยมี นายจุมพฏ วรรณฉัตรศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานพิธี มีนางสาวสงกรานต์ ตะนนท์

ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ นายเฉลิมเกียรติ แผนกิจเจริญ พัฒนาการจังหวัดบึงกาฬ นายสัตวแพทย์ ธีร์ พูดเพราะ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ นายกฤษฎา พลสิทธิ์ เกษตรจังหวัดบึงกาฬ นายพงษ์เทพ จันทร์ชิต ประมงจังหวัดบึงกาฬ นางจีรสุดา ศรีกุล หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์บึงกาฬ นายทวี ชินณรงค์ นายอำเภอบึงโขงหลง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนทั่วไป ให้การต้อนรับ

นางสงกรานต์ ตะนันท์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า อำเภอบึงโขงหลง มีพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน 4 ตำบล ตำบลบึงโขงหลง ตำบลดงบัง ตำบลท่าดอกคำ และตำบลโพธิ์หมากแข้ง มีประชากร จำนวน 37,000 คน มีพื้นที่ประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน 79,627 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกยางพารา ทั้งนี้ยังการทำนา ปศุสัตว์ ประมง อำเภอบึงโขงหลง ตระหนักรู้ถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมากมาย

แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก เช่น ปู่อือลือถ้ำนาคา ชายหาดคำสมบูรณ์ น้ำตก ซึ่งสามารถยกระดับรายได้ของคนในพื้นที่ ทำให้มีความอยู่ดีกินดีสมกับคำขวัญจังหวัดบึงกาฬที่ว่า ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำยางพารางามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการหลวงพ่อใหญ่ ศูนย์รวมใจศาลสองนาง จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่เผา ให้ประชาชนได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมลพิษทางอากาศ หยุดสร้างหมอกควัน ลดฝุ่นละอองมลพิษ PM 2.5 พื้นที่เกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดิน

นายจุมพฏ วรรณฉัตรศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และได้กำหนดให้การลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญ โดยมีเป้าหมาย ที่จะลดปริมาณการเผาอย่างเป็นรูปธรรม จังหวัดบึงกาฬ ได้มีประกาศ เรื่อง ห้ามการเผาในที่โล่งทุกประเภทเพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ ประจำปี พ.ศ.2568 รวมทั้งดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ

เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรหยุดการเผาและหันมาใช้เทคโนโลยี และวิธีการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเผาในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นปัญหาที่มีความสลับซับซ้อน และท้าทายอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหา จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องเกษตรกรทุกท่าน การที่ ส.ป.ก.บึงกาฬ ได้จัดงานในวันนี้ถือว่าเป็นการให้คำสัตย์ปฏิญาณว่าจะไม่มีการเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งเป็นรูปแบบกิจกรรมที่เป็นการสร้างการมีส่วนร่วม และเพิ่มประสิทธิภาพ

ด้านนางนิตยา โคตทาริน เกษตรกรบ้านคำสมบูรณ์ หมู่ 3 ตำบลบึงโขงหลง หนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับโฉนดที่ดิน ส.ป.ก. กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้โฉนด ส.ป.ก. มีที่ทำกินเกษตรทั้งหมด 14 ไร่ ได้มาแล้วก็ทำนาปลูกข้าว ปลูกยางพารา พืชผักสวนครัว จึงขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับเกษตรกร ชาวบ้านจะได้สร้างชีวิตที่ดีขึ้นเพิ่มมูลค่าในที่ดินผืนนี้ได้

นอกจากนี้ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ ได้มอบโฉนดที่ดิน ส.ป.ก.ที่ทำกินให้เกษตรกรชาวอำเภอบึงโขงหลง ทั้ง 4 ตำบล จำนวน 340 ราย สร้างความดีใจให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยให้เกษตรกรที่ได้รับโฉนดที่ดิน สปก.ได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมลพิษจากการเผา พร้อมเน้นย้ำว่า “ท่านเผา ส.ป.ก. ยึดที่ดินคืน”

นายณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พัทยาขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยสู่ Smart Senior /เซ็นทรัลพัทยารวบรวมร้านอร่อยในงาน Pattaya Street Food 2025 x Pattaya International Kite On The Beach 2025

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 25 ก.พ.68 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมสำหรับผู้สูงอายุเมืองพัทยา ในกิจกรรมนันทนากาีและกีฬาสัมพันธ์สร้างสุขผู้สูงวัย โดยมี นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา นายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา ว่าที่ร้อยตรี ชาญยุทธ ยังปรีดา คณะทำงานนายกเมืองพัทยา นายกรณ์ พัฒนสิน ผู้ช่วยเลขานุการนายกเมืองพัทยา ร่วมพิธีที่อาคารอเนกประสงค์ โรงยอม โรงเรียนเมืองพัทยา 2 (เจริญราษฎร์อุทิศ)

ดร.ศิวัช บุญเกิด ปลัดเมืองพัทยา กล่าวถึงโครงการนี้ว่า เป็นตามนโยบาย Better Pattaya ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยเป็น “Smart Seniorior” ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคนในทุกช่วงวัยให้มีสุขภาวะที่ดี มีความพร้อมด้านกาย ใจ สติปัญญา มีจิตสาธารณะ โดยส่งเสริมให้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างสุขภาวะที่ดี เพื่อเตรียมความพร้อมของประชากรเพื่อวัยสุงอายที่มีคุณภาพ

ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ ส่วนส่งเสริมสุขภาพ สำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เมืองพัทยาจึงจัดกิจกรรมนันทนาการและกีฬาสัมทันธ์สร้างสูงวัย” ขึ้น เพื่อส่งสริมการออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับวัย ช่วยเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุมีสมรรถนะร่างกายแข็งแรง เกิดการผ่อนคลาย ลดความจ็บป่วย และมีความเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน โดยกิจกรรมประกอบด้วย การอบรมหลักการส่งเสริมสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกายและกีฬาสัมพันธ์ ดังคำขวัญที่ว่า “สร้างสุข สุขภาพดี สานสัมพันธไมตรี Smart Senior พัทยา”

ทั้งนี้กีฬาสัมพันธ์ผู้สูงอายุเมืองพัทยาได้แบ่งออกเป็น 2 สี ได้แก่ สีชมพู และสีเขียว สีละ 50 คน แข่งขันในกีฬา 2 ประเภท คือ กีฬาสากล ได้แก่ แชร์บอล และกีฬามหาสนุก 7 ชนิด รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้แสดงถึงศักยภาพในการรวมกลุ่มแสดงโชว์กองเชียร์ และโชว์ขบวนพาเหรด ซึ่งบรรยากาษเป็นไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเอง

เซ็นทรัลพัทยารวบรวมร้านอร่อยในงาน Pattaya Street Food 2025 x Pattaya International Kite On The Beach 2025 ชวนมาชิมเมนูเด็ดสตรีทฟู้ดไทยกว่า 500 รายกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยา จ.ชลบุรี ได้จัดกิจกรรมสร้างสีสันการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้การจัดงาน Pattaya Street Food 2025 x Pattaya International Kite On The Beach 2025 ระหว่างวันที่ 23 ก.พ.- 9 มี.ค.68 นี้ ที่ลานกิจกรรมซันเคน ฝั่งทะเล

ด้วยการรวบรวมร้านเด็ดเมนูดังสตรีทฟู้ดที่ขึ้นชื่อกว่า 500 เมนู มากกว่า 30 ร้านค้ามาบริการ ด้วยบรรยายกาศ Outdoor ชิม ชิลล์ ริมทะเล พร้อมฟังดนตรีสด รับชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นของเมืองพัทยา อาทิ ร้าน Talaythai รวมเด็ดซีฟู๊ด หอยนางรม หอยเชลล์อบชีส กุ้งแม่น้ำ, ร้านซี่โครงหมูสุพรรณ ที่หอม นุ่ม อร่อยเข้าเนื้อ,

ร้านมาดามหมูกรอบ ที่พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้มสุดแซ่บ, ร้าน Grilled thai fish อาหารทะเลนึ่ง แจงรอน (ปลาจับไม้) เมนูเด็ดชลบุรี, ร้านเต็ง 1 ปลาหมึกทาโกะ ทอดซอสและไข่ปลาหมึกแสนอร่อย และร้านอื่นๆ อีกมากมาย

สื่อรัฐนิวส์-สื่อรัฐนิวส์ /นักธุรกิจชาวสวิส” สัญญาใจเพื่อนรัก “เสก โลโซ” จัดแถลงข่าวงานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya หารายได้ให้การกุศล

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 24 ก.พ.68 ที่ บจก.สวิสสยาม เทรดดิ้ง 78/27 ม.10 หมู่บ้านสยามรอยัลวิว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการแถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรมการกุศลภายใต้งานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya โดยมี คุณชนิลทร เอเกอร์เทอร์ ผู้จัดงาน นายอรรถชยา โทนุศิษย์ ผู้จัดการเสก โลโซ และศิลปิน MMY Maxim ร่วมแถลงข่าวท่ามกลางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ นำโดย นายอัมพร แสงแก้ว นายกสมาคมนักข่าวพัทยา และนายสามารถ ทองรอด อุปนายกสมาคมนักข่าวพัทยา

นายเอเดรี้ยน เคิร์ท เอเกอร์เทอร์ นักธุรกิจชาวสวิสเซอร์แลนด์ ในฐานะประธานจัดงาน เปิดเผยว่า งานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya จัดขึ้นตามคำสัญญาลูกผู้ชายของตนเองและเสก โลโซ ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมกัน และเคยทำงานร่วมกันที่เกาะช้าง จ.ตราด ก่อนจะสัญญาใจกันว่าจะมาจัดงานคอนเสิร์ตการกุศลที่พัทยาเพื่อตอบแทนบุญคุณประเทศไทยที่ตนเองได้อยู่อาศัยมานานกว่า 50 ปี โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนกิจกรรมการกุศลในพื้นที่

งานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya กำหนดจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 3 พ.ค.68 นี้ ที่อาคารกรีฑาในร่ม ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยจะมีศิลปินชื่อดังมากมาย นำโดย เสก โลโซ, คาราบาว, หินเหล็กไฟ,หมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ,TG Tiger, Luster, MMY Maxim และ Sek Swiss

สนใจจองบัตรได้ที่ Allticket เค้าน์เตอร์เซอร์วิส เซเว่นอิเลฟเว่นทุกสาขา บัตร Early Bird ราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 1-28 ก.พ.68 จากบัตร 1,800 บาท เหลือ 1,500 บาท, บัตร 1,500 บาท เหลือ 1,200 บาท, บัตร 1,000 บาท เหลือ 800 บาท และบัตร 800 บาท เหลือ 650 บาทจากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.68 จำหน่ายราคาปกติ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ – ปัญหาย้าย บ้านบานปลาย3 ชุมชน รวมตัว จวกเทศบาลผิดพลาดตั้งแต่ต้น 3,579 คนยันไม่ย้ายจากเทศบาลนครเชียงราย

แชร์เนื้อหานี้

เชียงรายเผือกร้อน ปัญหาย้ายทะเบียนบ้านบานปลาย3 ชุมชนรวมตัว จวกเทศบาลผิดพลาดตั้งแต่ต้น 3,579 คนยันไม่ย้ายจากเทศบาลนครเชียงราย หมายศาลลงผิดบ้านสร้างความเดือนร้อนให้ประชาชน เทศบาลนครเชียงรายไม่ร่วมเสวนา รองผู้ว่าเชียงราย อึ้ง! ไม่ขอตอบคำถามขอเป็นผู้รับฟังแทน หลังบรรยากาศการประชุมเสีย ส่อรุนแรงสส.พรรคประชนชน ย้ำต้องฟังเสียงประชาชน รับเรื่องผ่านกรรมาธิการฯเข้าสู่สภา ให้มท.ชี้แจง กำนันตำบลแม่ยาวจ้อที่ประชุมยันไม่เอาประชาการเพิ่มปกครองไม่ไหว หลังกรมทะเบียนกลางโอนย้ายประชากรไปสองตำบล แม่ยาว-บ้านดู่ กกต.เชียงรายยันชัดประชาชนสามารถใช้สิทธิ์สมัครและลงคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นได้ตามปกติ ไม่ขัดต่อระเบียบการย้ายตามเงื่อนไข

ที่ห้องประชุมพบโชคคอมเพล็กซ์ บ้านห้วยกั้ง เวลา13.00 น.วันทีา23ก.พ2568ที่ผ่านมา ประชาชน3ชุมชน ห้วยกั้ง ชุมชนทวีรัตน์ ชุมบ้านดอย จำนวนนับพันคนได้รวมตัวลงลายมือชื่อเข้าร่วมประชุมและยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการการเมืองการปกครองพรรคประชาชนที่ได้เข้าร่วมรับฟังเนื่องคำสั่งทางปกครอง กรณีการย้ายประชากรของเทศบาลนครเชียงราย 3,579 คนไปยังตำบลบ้านดู่และตำบลแม่ยาวทำให้ประชากรที่ถูกย้ายโดยฐานทะเบียนกลาง เกิดความไม่พอใจและได้คัดค้านกรณีดังกล่าวได้เรียกร้องและยื่นหนังสือคัดค้านผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการตามกระบวนการไปก่อนหน้านี้

ในวันดังกล่าวมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย นายบุญญพันธ์ พุทธิโชติอนันต์ ปลัดเทศบาลตำบลบ้านดู่ ชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้ถูกเชิญร่วมเวทีเสวนาหาทางออก โดยมีนายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ หรือสส.ปั๋น สส.พรรคประชาชนจังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังมีว่าที่ร้อยตรีสมชาติ เตชถาวรเจริญ กรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองท้องถิ่นและการบริหารรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎรเข้ามารับเรื่อง เพื่อบรรจุปัญหาเรื่องเรื่องดังกล่าวอย่สงเร่งด่วนเพื่อให้ทันปิดสมัยประชุมก่อน วันที่10เมษายน2568

บรรยากาศการชุมชุมโดยภาพรวมช่วงแรกทางผู้ได้รับเชิญได้ขึ้นนั่งรับฟังตอบข้อซักถามโดยทางแกนนำผู้นำรายการ ทางนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผ้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้กล่าวทักทายประชาชนที่มาร่วมประชุม โดยมอบหมายให้นายเขตณรงค์ อินกัน ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย เป็นผู้ตอบปัญหาที่มาทีาไปของการย้ายฐานทะเบียนราษฎร์ ของประชากรชุมชนห้วยปลากั้ง ชุมชนทวีรัตน์ ชุมชนบ้านดอย เนื่องจากปัจจุบันราชกฤษฎีกา การเปลี่ยนแปลงเทศบาลเมืองเชียงรายฉบับที่3 พ.ศ.2538 ลงวันที่23 ก.ย.2538ฉบับ ล่าสุดแนวเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงรายที่ประกาศ ขอบเขตการบริหารงานปกครองท้องถิ่น ไม่ตรงกับแนวเขตที่ประกาศไว้ โดยเกิดความผิดพลาดด้านการออกออกเอกสารทะเบียนราษฎรมาตั้งแต่ต้น และเมื่อปัจจุบันมีการตรวจสอบแนวเขตอย่างชัดเจนปรากฎว่า ชุมชนทั้งสามชุมชนอยู่ในเขตปกครองของตำบลแม่ยาว แบะตำบลบ้านดู่ จึงเป็นที่มาของการดำเนินการย้ายทะเบียนราษฎร์ประชากรเพื่อใหตรงกับข้อเท็จจริงกับแนวเขตถือเป็นการปรับปรุงข้อมูลปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประชุมดำเนินไปชั่วระยะหนึ่งด้านนายบุญญพันธ์ พุทธิโชติอนันต์ ในฐานะนายทะเบียนท้องถิ่นตำบลบ้านดู่ได้กล่าวถึงเรื่องการย้ายข้อมูลประชากรของเทศบาลครั้งนี้ว่าเทศบาลตำบลบ้านดู่ได้รับการโอนย้ายประชากร1,500กว่าคนเข้ามาอยู่เขตปกครองหมู่ที่14 ต.บ้านดู่ จึงทำให้ประชากรเพิ่มขึ้นมากเท่าตัวจากเดิม โดยทางด้านนายชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย ได้ตอบคำถามจากผู้เข้าร่วมประชุมประเด็นการรับสมัครลงเลือกตั้งสท.ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค 2568ว่าจะลงสมัครในเขตเทศบาลนครเชียงรายได้หรือไม่ โดยทางผอ.กกต.ตอบว่าผู้สมัครสามารถลงสมัครได้ในเขตทะเบียนบ้านปรากฏอยู่และอยู่ในระเบียบของคุณสมบัติคุณสมบัติของผู้สมัคร ส่วนเรื่องของสิทธิของการเลือกตั้ง ยังเหมือนเดิมคือสามารถใช้สิทธิตามปกติ ไม่ขัดเงื่อนไขการย้ายถิ่นฐานที่อยู่ เป็นเพียงการปรับปรุงข้อมูลให้ตรงกับแนวเขตการปกครองเป็นปัจจุบัน

ในเวลาการดำเนินรายการไปประมาณ1ชั่วโมงตัวแทนจากประชาชนได้จับไมค์ถามรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเกี่ยวกับการขอระงับยับยั้งการย้ายทะเบียนราษฎร์ ครั้งนี้ได้หรือไม่?และรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาได้หรือไม่? โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้พูดสั้นๆว่าเรื่องราวดังกล่าวตนได้รับเรื่องได้เจอประชาชนที่เข้าไปเรียกร้อง2ครั้งแล้ว ระหว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายพูด มีเสียงตะโกนเสียงดังจากชายคนหนึ่ง ในห้องประชุมว่าไม่ย้ายปฏิเสธการไม่ย้าย โดยมีเสียงผู้หญิงตะโกนจากนอกหน้าต่างเป็นระยะๆ เหมือนจะปูกม็อบ ทำให้สถานการณ์การประชุมส่อแววไม่สงบ เนื่องจากเริ่มมีประชาชนเริ่ม ออกมาถือไมค์พูดหน้าเวทีปฏิเสธการไม่ย้ายด้วยเหตุผล ความยุ่งยากกับเอกสารอันมีพาสปอร์ตและเอกสารทางราชการ ด้านสาธารณสุข เป็นต้น รวมถึงต่อว่าทางราชการกระทำโดยไม่ผ่านความคิดเห็นของประชาชน ปราศจากความยินยอม
ด้วยสาเหตุนี้รองผู้ว่าราชการเชียงรายจึงอึ้ง! ชั่วหนึ่งและพูดต่อที่ประชุมว่าวันนี้

ไม่ขอตอบแต่”ขอเป็นรับฟังแทน” ประเด็นนี้ผู้สื่อข่าวสังเกตุบรรยากาศเริ่มปะทุความดุเดือด โดยภายนอกห้องประชุมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตุการณ์ด้านนอกห้องประชุม โดยที่ประชุม นายปรัฐกร การเร็ว กำนันตำบลแม่ยาวได้ออกมาถือไมค์พูดแนวปฏิเสธว่าตำบลแม่ยาวไม่ขอรับประชากรเพิ่มเนื่องจาก ตำบลแม่ยาวมีประชากรมากพอแล้วอาจปกครองไม่ทั่วถึง ขอให้อยู่ที่เดิมเมื่อบรรยากาศการประชุม ดำเนินด้วยอุณหภูมิที่เริ่มร้อนแรง ทางด้านผู้ดำเนินรายงานจึงสรุปขอให้ประชาชนลงมติ ไม่ย้ายฐานะเบียนราษฎร์และขอให้ทางราชการไปขอมติที่ประชุม ตำบลแม่ยาว และตำบลบ้านดู่ และร่วมกันลงรายชื่อยื่นหนังสือไปถึงกรรมาธิการกระจายอำนาจปกครองท้องถิ่น โดยสิ้นสุดกันอยู่ที่ประชาชนที่ร่วมประชุม ร่วมกันยื่นหนังสือ ภายหลังจากปิดประชุมหวั่นเกรงบานปลาย โดยมีว่าที่ร้อยตรีสมชาติ เตชถาวรเจริญ กรรมาธิการฯ พรรคประชาชน ที่เชิญมารับเรื่องดังกล่าวไว้และจะนำไปบรรจุเป็นวาระเข้าที่ประชุมกรรมาธิการฯให้ทันสมัยปิดประชุมวันที่10เมษายน2568

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางอัมพร ฟองคำ ชาวบ้านชุมชนห้วยปลากั้งที่มาประชุมว่าได้รับความเดือนร้อน เนื่องจาก มีหมายศาลส่งถึงหน้าบ้านระบุที่อยู่เลขที่บ้าน เดียวกันของผู้ถูกฟ้องคดี แต่บ้านที่ส่งเอกสาร ไม่ใช่คู่กรณีผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด จึงเดือดร้อนต้องวิ่งไปติดต่อศาล เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย อันเป็นส่วนหนึ่งของการออกเลขที่บ้านซ้ำซ้อนหรือไม่ ? โดยเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวจะได้ติดตามกับสำนักทะเบียนราษฎร์ที่ออกเอกสารทะเบียนบ้านต่อไป .

ทีมข่าวเชียงราย รายงาน