คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมสว่างนครน่านรวมใจจัดพิธีทำบุญเปิดผ้าแพรคลุมป้ายอาคารสำนักงานเพื่อความเป็นสิริมงคล

แชร์เนื้อหานี้

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลา 9:00 น ณ ที่ตั้งสมาคมสว่างนครน่านรวมใจ เลขที่ 101 ถนนเจ้าฟ้าตำบลในเวียงอำเภอเมืองน่านจังหวัดน่าน ในนาม”หน่วยกู้ภัยในเครือสมาคมพุทธมามกะสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทย” โดยมีนางสาวฐานวีร์ ธนัญชัยนิษฐ์ นายกสมาคมสว่างนครน่านรวมใจได้จัดพิธีเปิดผ้าแพรคลุมป้ายอาคารสำนักงาน “สมาคมสว่างนครน่านรวมใจ” โดยมีพระราชศาสนาภิบาล

เจ้าคณะจังหวัดน่านเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ในพิธีเปิดแพรคุมป้ายและมีนายวิสิทธิ์ ชวลิตนิติธรรม นายกสมาคมพุทธมามกะสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.พิเชษฐ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติร่วมกันกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายและผู้แทนของท่านผู้มีเกียรติที่มาจากพื้นที่ต่างๆ

และในพื้นที่จังหวัดน่าน จำนวน 24 คน ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดผ้าแพรคลุมป้ายอาคารสำนักงานซึ่งมีสมาชิกเครือข่ายของหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธมามกะสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทยกว่า

70 แห่งทั่วประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้มีผู้ร่วมงานกว่า 600 คน การดำเนินงานโดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติและผู้ประสบโรคอุบัติใหม่ทุกกรณีตามกำลังความรู้ความสามารถของบุคลากร

รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดน่านให้มีความปลอดภัยในร่างกายชีวิตและทรัพย์สินและเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของภัยพิบัติจากหนักให้เบาลงและเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้

ประชาชนมีความอบอุ่นใจซึ่งสมาคมสว่างนครน่านรวมใจจะร่วมกับภาคส่วนต่างๆบูรณาการร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในจังหวัดน่านโดยเฉพาะผู้ประสบภัยพิบัติด้านต่างๆรวมถึงโรคอุบัติใหม่มา

โดยตลอดการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดีขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้โปรดบันดาลดลให้ผู้ร่วมพิธีและพี่น้องประชาชนทุกคนมีความสุขความปลอดภัยในร่างกายชีวิตและทรัพย์สินขอให้ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงด้วยดี

โดยร่วมกันเป็นพลังในการช่วยกันแก้ไขปัญหาร่วมกันแบบบูรณาการที่มีส่วนร่วมสร้างความสุขในสังคมร่วมกันตลอดไปและสมาคมสว่างนครน่านรวมใจจะอยู่เคียงข้างกับประชาชนชาวจังหวัดน่านตลอดไป/ภาพ/.พ.อ.พยอม บุญท/ ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชมรมโฮปฯ ร่วมกับผู้ใจบุญ มอบเครื่องผลิตออกซิเจน ช่วยต่อลมหายใจผู้ป่วยยากไร้

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2568 นางสาวปิยนุช(หรือแนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา พร้อมอาสาสมัคร เดินทางไปมอบ เครื่องผลิตออกซิเจน ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม มาม่า ปลากระป๋อง และขนมปี๊บ ให้แก่ นายเกียรติพงษ์ บัวบาล อายุ 54 ปี

ชาวตำบลบางปิ้ง ซึ่งป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ และอยู่ในความดูแลของชมรมโฮปฯ โดยมีการสาธิตวิธีการใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างถูกต้องป้าตา ภรรยาของ นายเกียรติพงษ์ บอกว่า ดีใจ จะได้ไม่ต้องลำบากช่วงกลางคืน

เพราะจะหายใจไม่ออก บางทีต้องทุบหลัง บางครั้งใช้พิมเสนทา วันนี้ทางคุณแนนเอาเครื่องผลิตออกซิเจนมา รู้สึกว่าเขาใส่แล้วดีขึ้นเยอะ ขอขอบคุณ คุณแนน และทางชมรมโฮป และผู้ใจบุญทุกๆคน ที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนในครั้งนี้

นางสาวปิยนุช(หรือแนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา กล่าวว่า วันนี้ทางชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา กับโครงการออกซิเจน

ต่อลมหายใจ วันนี้ได้นำเครื่องผลิตออกซิเจน ที่มีผู้ร่วมบุญคือ คุณภัทราณิษฐ์ วรัณวงศ์เจริญและคุณธีรวัจน์ อิทธิโชติวัฒน์ ที่ร่วมบุญกับทางชมรมโฮปฯ ซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจ

ป้าตา ภรรยาของ นายเกียรติพงษ์ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณทางชมรมที่ช่วยต่อลมหายใจ ต่อชีวิต ให้กับคนในครอบครัวตน และขอขอบพระคุณทุกคนที่ช่วยเหลือมาในครั้งนี้

ชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้และผู้ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและเติมเต็มกำลังใจให้กับผู้ป่วยในชุมชน


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดใหญ่เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ประจำปี 2568 “แสงจันทร์แห่งศรัทธา เทิดเจ้าแม่กวนอิม” สืบสานประเพณี กระตุันเศรษฐกิจท่องเที่ยว

แชร์เนื้อหานี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 8 ตุลาคม 2568 เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ณ ศาลเจ้าแม่กวนอิมยะลา ได้มีการจัดพิธีเปิดงานประเพณีไหว้พระจันทร์ประจำปี 2568 ภายใต้ชื่องาน “แสงจันทร์แห่งศรัทธา เทิดเจ้าแม่กวนอิม” เพื่อสืบสานวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาวไทยเชื้อสายจีน

และเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน โดยได้รับเกียรติจาก นายสิรภพ ดวงสอดศรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมนำชาวไืทยเชื้อสายจีน ประกอบพิธีไหว้พระจันทร์ เพื่อบูชาเทพเจ้า มีการไหว้พระจันทร์ด้วยขนมเปี๊ยะ สาคู ขนมโก้ ส้ม องุ่น ฯลฯ รวมทั้งได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล

สำหรับ งานประเพณีไหว้พระจันทร์ ณ ศาลเจ้าแม่กวนอิมยะลา ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อธำรงรักษาขนบธรรมเนียมที่ดีงาม สร้างขวัญกำลังใจ และนำพาความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่พี่น้องประชาชน

สำหรับปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 ตุลาคม 2568 ณ บริเวณชุมชนหลังโรงเรียนจีน จังหวัดยะลา ตลอดการจัดงานได้รวบรวมกิจกรรมที่น่าสนใจไว้มากมาย โดยมุ่งเน้นทั้งด้านจิตวิญญาณและเศรษฐกิจรวมพลังศรัทธาและกิจกรรมเพื่อชุมชน

กิจกรรมภายในงานเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ประกอบด้วย พิธีไหว้พระจันทร์ ตามประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน การเขียนการ์ดขอพรพระจันทร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่สร้างความผูกพันในครอบครัว

รวมถึงการจัด กิจกรรมสาธารณกุศล ต่างๆ เพื่อคืนประโยชน์สู่สังคม นอกจากนี้ยังมีการเปิด ถนนคนเดิน “Yala China Town” ซึ่งเต็มไปด้วยการออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น สินค้า และการแสดงศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่ สร้างสีสันและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างคึกคัก

นายสิรภพ ดวงสอดศรี ประธานในพิธี ได้กล่าวถึงความสำคัญของงานว่า ประเพณีไหว้พระจันทร์เป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่ง ความสมบูรณ์ ความสามัคคี และความกตัญญู ซึ่งแฝงไว้ด้วยคุณค่าทางจิตใจและสร้างความผูกพันในครอบครัวและชุมชน การจัดงานครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการสืบสานวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการ เชื่อมโยงผู้คนในสังคม ให้มีความรัก ความสามัคคี และความศรัทธาร่วมกัน

นายสิรภพฯ ยังเน้นย้ำถึงมิติทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน โดยระบุว่า งานนี้มีส่วนช่วย สร้างสีสันทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีพื้นที่ในการแสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรม รวมถึงการร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดยะลาในหลายมิติ

การจัดงาน “แสงจันทร์แห่งศรัทธา เทิดเจ้าแม่กวนอิม” ครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความร่วมมืออันเข้มแข็งจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน ซึ่ง นายสิรภพฯ ได้กล่าวชื่นชมคณะกรรมการจัดงานศาลเจ้าแม่กวนอิมยะลา และทุกภาคส่วนที่

ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานให้ สมเกียรติ สมศรัทธา และงดงามสมกับเป็นประเพณีอันทรงคุณค่า ทั้งนี้ การจัดงานไหว้พระจันทร์ที่จังหวัดยะลาในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งศรัทธาและความสามัคคีในชุมชนได้เป็นอย่างดี และเป็นตัวอย่างของการสืบสานประเพณีที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไปพร้อมกัน // ตอริก สหสันติวรกุล //

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมส่งเสริมความรัก ความสามัคคี จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมของดีท้องถิ่นปัตตานี ครั้งที่ 25 จ.ปัตตานี

แชร์เนื้อหานี้

จังหวัดปัตตานี อำเภอโคกโพธิ์ สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมส่งเสริมความรัก ความสามัคคี จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมของดีท้องถิ่นปัตตานี ครั้งที่ 25 วันที่ 7 ตุลาคม 2568 เวลา 16.00 น.

ที่ บริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมของดีท้องถิ่นปัตตานี ครั้งที่ 25 ในงานประเพณีชักพระอำเภอโคกโพธิ์ ครั้งที่ 76

มี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายอำเภอโคกโพธิ์ หัวหน้าส่วนราชการ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเครือข่ายประชาชนชาวอำเภอโคกโพธิ์ เข้าร่วมในพิธีอย่างคับคั่ง

ในการนี้ อำเภอโคกโพธิ์ ร่วมกับ สถาบันสงฆ์ สภาวัฒนธรรมอำเภอโคกโพธิ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้กำหนดจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมของดีท้องถิ่นปัตตานี ครั้งที่ 25

ประจำปี 2568 และ งานประเพณีชักพระ อำเภอโคกโพธิ์ ครั้งที่ 76 ระหว่างวันที่ 3 -14 ตุลาคม 2568 เพื่ออนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจัดทำเรือพระ และสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม

ด้านการดำรงอยู่ แบบผสมผสานวิถีชีวิต ของพี่น้องประชาชนในอดีตถึงปัจจุบัน รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด และประชาสัมพันธ์สินค้าชุมชน และกลุ่มอาชีพต่างๆ ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ

สร้างรายได้และพัฒนามูลค่าเพิ่ม ให้แก่ผลิตภัณฑ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นทั้งยังเป็นกิจกรรมที่แสดงถึงความรัก ความสามัคคีของชุมชนอีกด้วย

นอกจากนี้ ภายในงานมีการเดินขบวนแห่โชว์สินค้าของดีประจำถิ่นของแต่ละตำบล การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อำเภอโคกโพธิ์

การประกวดขบวนของดีท้องถิ่น การแสดงจากน้องๆนักเรียนโรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา การแสดงประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นของชุมชน

การออกร้านแสดงนิทรรศการ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป สินค้าอุปโภคบริโภคจากตำบล ท้องถิ่น อีกด้วย
// ตอริก สหสันติวรกุล ปัตตานี //

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานมหกรรมวันออมแห่งชาติ 2568 ระดมเงินออม 3 หมื่นล้านบาท นายกรัฐมนตรีร่วมเปิดงานยิ่งใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมวันออมแห่งชาติ ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “พลังสหกรณ์ ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย” (The Power of Cooperatives for Thai Financial Security) ตั้งเป้าระดมเงินออมกว่า 30,000 ล้านบาท

งานดังกล่าวจัดโดย ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ชสอ.) ร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร และเขตพื้นที่สหกรณ์สมาชิกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี ดร.มะณู บุญศรีมณีชัย ประธานกรรมการ ชสอ., นายวีระพงษ์ ทองผา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ข้าราชการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธีแถลงข่าว ณ ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร

กิจกรรมหลักจะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยได้รับเกียรติสูงสุดจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน เพื่อรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมการออมและตอกย้ำบทบาทของขบวนการสหกรณ์ในฐานะ “เสาหลักแห่งความมั่นคงทางการเงินของประชาชน”

ปัจจุบันขบวนการสหกรณ์ไทยประกอบด้วยกว่า 9,107 สหกรณ์ มีสมาชิกกว่า 11.86 ล้านคน ทั่วประเทศ รวมทุนดำเนินงานในระบบกว่า 4.099 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างวินัยการออมและความมั่นคงทางเศรษฐกิจระดับฐานราก

ดร.มะณู บุญศรีมณีชัย ประธาน ชสอ. กล่าวว่า“พลังการออมของสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศกว่า 2.8 ล้านล้านบาท คือเครื่องพิสูจน์ของแนวคิด ‘พลังสหกรณ์ ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย’ เงินเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในบัญชี แต่คือความมั่นคงของชีวิตสมาชิก คือทุนการศึกษาของลูกหลาน และคือหลักประกันในยามเกษียณ”

ภายในงาน “มหกรรมวันออมแห่งชาติ ประจำปี 2568” จะมีกิจกรรมตลอดทั้งวัน ภาคเช้า: กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ “Mekong Savings Run & Ride 2025” ภาคกลางวัน: สัมมนาวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคค่ำ: งานเลี้ยง “Cooperative Power Night” รวมพลังสหกรณ์ทั่วประเทศ

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหารรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับประเทศ และเป็นเกียรติสูงสุดที่จะได้ต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรี งานนี้จะเป็นพลังสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดอย่างมหาศาล

นายวีระพงษ์ ทองผา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ยืนยันความพร้อมเต็มที่ในการทำหน้าที่เจ้าบ้าน อบจ.มุกดาหารไม่เพียงเป็นผู้สนับสนุน แต่เป็นผู้ประสานพลังทุกภาคส่วน ทั้งราชการ เอกชน และประชาชน เพื่อให้การจัดงานเป็นไปอย่างราบรื่น สมเกียรติ และปลอดภัย

องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารจึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมงาน มหกรรมวันออมแห่งชาติ 2568 ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร เพื่อร่วมกันสร้างวัฒนธรรมการออมให้เข้มแข็งและยั่งยืน

มหกรรมวันออมแห่งชาติ2568​ #มุกดาหารเจ้าภาพ​ #พลังสหกรณ์​ #ThePowerOfCooperatives​ #MukdahanSavingsDay​ #อนุทินชาญวีรกูล​ #ชสอ​ #วันออมแห่งชาติ​ #สร้างวินัยการออม​ #เศรษฐกิจฐานราก​ #ข่าวด่วน​ #ข่าววันนี้​///ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชมรมโฮปฯ มอบข้าวสารและปลากระป๋อง ให้สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ นำไปช่วย ในโครงการอาหารกลางวันโรงเรียน ตชด.

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2568 ที่ สำนักงานชมรมโฮป สะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา ภายในวัดมหาวงษ์ ปากน้ำ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวปิยนุช(หรือแนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปฯ ได้มอบข้าวสาร จำนวน 100 ถุง และ ปลากระป๋องอีก จำนวน 5 ลัง

ให้กับทาง สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ เพื่อนำไปช่วยเหลือครูและนักเรียนของโรงเรียน ตชด. ตะโกปิดทอง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวอยู่บนยอดเขาห่างจากชายแดน ไทย พม่า ประมาณ 4 กิโลเมตร ในเบื้องต้น มีครูตำรวจ 8 ท่าน ครูพล เรือน 5 ท่าน โดยมีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวนของนักเรียน 250 คน และนักเรียนประมาณ 70 คน จะพักอยู่ที่โรงเรียนประจำ

ซึ่งทางโรงเรียนจะต้องทำอาหารเลี้ยงทั้ง 3 มื้อ ส่วนที่กลับบ้านจะได้รับ ประทานอาหาร กรณีมาเรียน 1 มื้อ โดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวกะเหรี่ยง จากการสำรวจและสอบถามพบว่า ทาง โรงเรียนต้องการสิ่งของหลายอย่าง โดยทางสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ จะนำทุนทรัพย์และสิ่งของไปมอบให้ใน วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ทางสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ

จึงขอความอนุเคราะห์จากผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วม สนับสนุน ทุนทรัพย์ และสิ่งของต่างๆ โดยรายละเอียดที่ทางโรงเรียนต้องการจะมีดังนี้ 1.เครื่องครัว เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำส้มสายชูฯ / 2.อาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงสัตว์ เช่น อาหารเม็ดไก่ไข่ เป็ดไข่ และปลาดุก / 3.เสื้อผ้าเด็กตั้งแต่ 3 ขวบ – 15 ขวบ ของเล่นเด็ก จักรยาน เครื่องกีฬาฯ / 4.เครื่องปริ้นเอกสาร

นางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮป สะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา กล่าวว่า วันนี้ทางชมรมโฮปฯ ได้ร่วมกับสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ บริจาคข้าวสาร 100 ถุง และปลากระป๋อง 5 ลัง เพื่อนำไปช่วย ในโครงการอาหารกลางวันโรงเรียนน ตชด. ที่จังหวัดราชบุรี และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทางชมรมร่วมกับสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ นำไปช่วยเหลือเด็ก ๆ

นายณัฐพงษ์ บุตรน้อย (อาร์ม กาโตะ) เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ กล่าวว่า เราจะนำสิ่งของไปมอบให้กับทางโรงเรียน ตชด. ซึ่งอยู่ใน อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ในวันที่ 11 ตุลาคม 2568 โครงการนี้ได้จัดเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วมปีที่แล้ว เราได้รับความอนุเคราะห์ข้าวสาร จากทางชมรมโฮปฯ สมทบไปช่วยเหลือเด็กและคุณครูบนภูเขา สิ่งที่ทางโรงเรียนยังขาดแคนก็มีหลายอย่าง ถ้าเป็นคุณครู ก็เป็นเครื่องปริ้นและกระดาษเอสี ไว้

สำหรับจัดทำเอกสารการเรียนการสอบและเอกสารต่าง ๆ ส่วนของเด็ก ๆ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ต้องการผ้าอนามัย และก็อุปกรณ์การเขียน อุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ เพราะเด็กบางคนเขาก็ไม่ได้กลับบ้านแบบอาศัยอยู่ที่โรงเรียน และต้องการอาหารที่ไว้สำหรับเลี้ยงสัตว์เกษตรกร ไก่ไข่ เป็ดไข่ โรงเรียน ตชด. เป็นโรงเรียนที่อยู่ติดกับชายแดน ไทยกับพม่า ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขา ไม่ค่อยได้ลงมาที่ตัวเมืองเนื่องจากการขึ้นลงลำบาก ต้องขึ้นเขาหลายโค้งและระยะทางค่อนข้างไกล และอีกอย่างของบางอย่างก็ค่อนข้างหายาก เราจึงต้องหาขึ้นไปให้เขา


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยจังหวัดน่าน ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๘ จังหวัดน่านจัดประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยจังหวัดน่าน ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ ณ ห้องประชุมสิริศึกษา

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ประธานคณะอนุกรรมการฯ ได้มอบหมายให้นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน

เป็นประธานการประชุมฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัดในปีงบประมาณ 2568 และแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กปฐมวัยในระดับพื้นที่ 6 อำเภอในจังหวัดน่าน

ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนจาก กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา

วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ สถาบันรักลูก (เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีศึกษาธิการจัหวัดน่านเป็นคณะอนุกรรมการและเลขาฯ มติที่ประชุมขอให้จังหวัดนำนโยบาย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม

และการส่งเสริมพัฒนาทักษะสมอง EF เด็กปฐมวัย เป็นวาระของจังหวัดน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / SVL กรุ๊ป สานพลังรัฐ-ชุมชน ดูแลสิ่งแวดล้อม ปลูกต้นไม้กว่า 600 ต้น ปลูกป่าเพิ่มเย็น อ.บางสะพาน

แชร์เนื้อหานี้

เอสวีแอล กรุ๊ป (SVL Group) จัดโครงการ “ปลูกป่าเพิ่มเย็น” ปี 2568 ร่วมกับภาครัฐและชุมชน ปลูกต้นไม้ทั้งป่าบกและป่าชายเลนรวมกว่า 600 ต้น

สร้างสมดุลธรรมชาติและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้โครงการ “ปลูกป่าเพิ่มเย็น” ปี 2568 ณ พื้นที่สาธารณะ หมู่ 7 บ้านหนองมงคล ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความสมดุลทางธรรมชาติ และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรกับชุมชนในพื้นที่โดยได้รับเกียรติจาก นายจิรศักดิ์ ติณสุวรรณ

ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง (ปลัดอาวุโส) อำเภอบางสะพาน เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยผู้บริหารจาก เอสวีแอล กรุ๊ป นำโดย นายอุดม สดใส กรรมการผู้จัดการ บจก.ไลน์ ทรานสปอร์ต และ นายชัชวาลย์ อิ่มบัญชร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมภายนอก

รวมถึงทีมพนักงาน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 150 คน พร้อมร่วมกันปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด ทั้งในพื้นที่ป่าบกและป่าชายเลน โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์ไม้จากศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และศูนย์เพาะชำกล้าไม้จังหวัดชุมพร

การปลูกป่าในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ แต่ยังช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำในอนาคต โครงการ “ปลูกป่าเพิ่มเย็น” ตอกย้ำพันธกิจของ เอสวีแอล กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืน

ให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ โดยเชื่อว่าการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนคือพลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติอย่างสมดุล
///////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เชฟบุญมีจากแบรนด์มาสเตอร์เค้กมอบตำราสูตรลับให้ผู้ต้องขังหญิง

แชร์เนื้อหานี้

เรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม เชิญเชฟระดับประเทศคือเชฟ บุญมี จากแบรนด์ มาสเตอร์ เค้กสัญจรทั่วไทย มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ แบบหมดเปลือกกับผู้ต้องขังหญิงกว่า40คน ได้นำสูตรลับของเชฟระดับประเทศไปถ่ายทอดสร้างอาชีพหลังพ้นโทษ

นายนพรัตน์ หมอกมืด ตำแหน่งเจ้าพนักงานอบรมและฝึกวิชาชีพอาวุโส เรือนจำกลางจังหหวัดนครปฐม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเรือนจำมีนโยบายที่จะฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังทั้งชายและหญิง เพื่อเมื่อเวลาพ้นโทษออกเรือนจำไปแล้วจะได้มีวิชานำไปประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้ ทั้งนี้ต้องรับนโยบายมาจากผู้บัญชาการเรือนจำที่รับมาจากกรมราชทัณน์อีก

ที่หนึ่งที่ต้องการจะให้ผู้ต้องขังได้ฝึกอาชีพหลังพ้นโทษ และเน้นไปที่การฝึกอาชีพได้จริงนำไปประกอบอาชีพได้จริง และการฝึกอาชีพด้านการทำเบเกอร์รี่ ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทางตลาดมีความต้องการมาก วันนี้ตนจึงได้เรียนเชิญวิทยากรที่โด่งดังระดับประเทศอยู่ในขณะนี้ คือเชฟ บุญมี เจ้าของแบรนด์ มาสเตอร์ เค้กสัญจร ทั่วไทยมาเป็นวิทยากรฝึกทำอาชีพ เบเกอร์รี่ ในวันนี้ที่เรือนจำจังหวัดนครปฐม ในเรือนจำนักโทษหญิง

นายนพรัตน์เผยต่อไปอีกว่าที่เรือนจำจังหวัดนครปฐมแห่งนี้ เรามักจะฝึกอาชีพที่หลากหลาย อาทิ การฝึกแกะสลักช่างไม้ การฝึกอาชีพทอผ้า การฝึกอาชีพด้านการซักรีดที่รับจากบุคคลภายนอกเข้ามาซักและบริการ การฝึกการปรุงอาหารและเบเกอร์รี่ นอกจากนี้เรายังมีครัวเพื่อยกระดับมาตรฐาน และได้ระดับมาตรฐาน (SAN)

พร้อมจัดเบรค จัดงานเลี้ยงต่างๆ และฝีมือของผู้ต้องขังนับว่าไม่แพ้ภัตตาคารข้างนอกเลย นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟอยู่3ที่ จุดที่1 บริการญาตผู้มาเยี่ยม จุดที่2 เป็นร้านคอฟฟี่ที่อยู่เรือนจำชายและ จุดที่3 อยู่ที่แดน7ของผู้ต้องขังหญิง นอกจากนี้ทางเรือนจำยังมีศูนย์แคร์เพื่อคอยติดตามผู้ที่ฝึกอาชีพออกไปแล้วสามารถ ดูแลตนเองได้หรือไม่ คอยให้คำแนะนำอยู๋ตลอดเวลาเพื่อให้เขาสามารถเลี้ยงชีพตนเองและมีชีวิตที่ดีหลังพ้นโทษไปแล้ว นายนพรัตน์กล่าว

ทางด้านเชพบุญมี อาสาสร เจ้าของเค้กแบรนด์ดังมาสเตอร์เค้กสัญจร กล่าวว่าตนยินดีและตอบรับอย่างเร็วมากเนื่องจากอยากนำความรู้ที่ตนได้เรียนไปถ่ายทอดให้กับน้องๆผู้ต้องขัง ได้นำไปประกอบอาชีพหากพ้นโทษออกไปอยู่ภายนอกแล้วแล้วตนอยากถ่ายทอดวิชาความรู้ที่ตนเองสั่งสมมาเป็นบุญเป็นกุศลให้พวกเขาเหล่านี้ได้นำไปประกอบวิชาชีพในชีวิตต่อไป แล้ววันนี้

ตนก็ได้ นำสูตรลับความอร่อยของตนเองนำมามอบให้กับเรือนจำนครปฐม แห่งนี้แบบหมดเปลือกพร้อมสอนสูตรตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบกระบวนการทีเดียว แบบไม่มีกั๊กเอาไว้ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมแข่งขันประสบการณ์ความรู้ที่เรามีให้กับน้องๆผู้ต้องขังในวันนี้

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานมุทิตาจิตเกษียนอายุราชการ นายทินพล เฉลิมพสุธา นายอ.คอนุสาร อำลาชีวิตราชการแล้ว

แชร์เนื้อหานี้

งานมุทิตาจิตเกษียนอายุราชการเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีตลอดจนมุ่งมั่นเสียสละอุทิศตน

เพื่อราชการ แด่นายทินพล เฉลิมพสุธา นายอำเภอคอนุสาร ก่อนอำลาชีวิตราชการ ประจำปี 2568

11:36 จ่ากบ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 เวลา 18.00 น. พิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อต่อแขน นายทินพล เฉลิมวสุธา นายอำเภอ

คอนสาร ก่อนอำลาชีวิตราชการและย่องคุณงามความดี ประวัติรับราชการผลงานเด่นเป็นที่รักใคร่แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาและประชาชน

เป็นบุคคลที่อุทิศตนเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ สังคมมาโดยตลอดซึ่งกำลังจะเข้าสู่ชีวิตแบบอิสระ ต่อจากนั้นนายทินพลฯได้

กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานตบท้ายด้วยการมอบของชำร่วยและดอกกุหลาบแดงสด

บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน โดยมีแขกผู้มีเกียรติร่วมงานล้วนระดับวีไอพี นายอำเภอ

ผู้กำกับการ คหบดี ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารท้องถิ่น องค์การบริหาร เทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ กำนัน

ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนร่วมงานมากมาย ณ.หอประชุมอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ 11:36 จ่ากบ แก้ตก/ และยกย่องคุณงามความดี