คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิกาญจนบารมี จัดโครงการคัดกรองมะเร็งนรีเวชในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติฯ

แชร์เนื้อหานี้

มูลนิธิกาญจนบารมี จัดหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ และโครงการคัดกรองมะเร็งนรีเวชในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อค้นหาผู้ป่วย ให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม และมะเร็งรีเวช

***เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 68 ที่สนามหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลคำเนียม ตำบลคำเนียม อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ นายทวีศักดิ์ ทรงอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหา

มงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 67 ซึ่งโครงการดังกล่าว มูลนิธิกาญจนบารมี ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลคำเนียม จัดขึ้นเพื่อค้นหาคัดกรองผู้ป่วย ให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเล็งเต้านม และมะเล็งนรีเวช สร้างความตระหนักการคัดกรองตรวจเต้านมด้วยตนเอง และให้ประชาชนที่มี อายุ 40 ปี ขึ้นไป ได้รับการตรวจเต้านมจากบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้สามารถพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น โดยมี นายนพนันท์ บุญคล้าย นายอำเภอกันทรารมย์ พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

;

***นายวิจิตร บัวจูม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคำเนียม เปิดเผยว่า มะเร็งเต้านม และมะเร็งนรีเวช เป็นโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศหญิง มักเกิดกับผู้หญิงทีมอายุ 40 ปี ขึ้นไป หรือ ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม แต่ทั้งนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การดีมสุรา การรับประทานอาหารไขมันสูง

และขาดการออกกําลังกาย ก็ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งโรคมะเร็งเต้านมสามารถป้องกันได้ ด้วยการออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาที ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไป ไม่บริโภคอาหารไขมันสูง นอกจากนีผู้หญิงทุกคนควรที่จะฝึกคล้าเต้านมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ

***โดยองค์การบริหารส่วนตําบลคําเนียม เล็งเห็นความสําคัญของการคัดกรอง การตรวจเต้านมด้วยตนเอง จึงได้จัดกิจกรรมคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ ในสตรีกลุ่มเสียงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งโครงการจัดขึ้น ระหว่าง วันที่ 25-26 มิถุนายน 2568 โดยมีประชาชนน เพศหญิงเข้ารับบริการ จำนวน 670 คน
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เฮง เฮง รับซื้อ หรือ เช่าอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด ชลบุรี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 23 มิถุนายน 2568เฮง เฮง พร็อพเพอร์ตี้นาย ภูวดล พุทธ์เทศน์ ( เฮงกรรมการผู้จัดการบริษัทฝากขาย – ซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด

นางสาว นทัยวรรณ ถิ่นถาวรซื้อทาวน์เฮ้าส์สองชั้น พฤกษาวิลล์ 74 บางพระ
392/41 ม.10 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จะ.ชลบุรี

สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา เสี่ย เฮงๆ จัดให้ท่านใดสนใจอยากได้บ้านมือสองบ้านสวยๆ ( แถวศรีราชา ) เสี่ย ( เฮง เฮง ) มีทีมงานครบวงจรสนใจ

ติดต่อเบอร์โทรนี้ได้ – 0917432784
– 0813291222
( เฮง เฮง )

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีปิดโครงการอบรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองชุมพร รุ่นที่ 9 และมอบประกาศนียบัตรนักเรียนผู้สูงอายุ

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (23 มิ.ย. 68) เวลา 10.00น. ณ ห้องทับทิม โรงแรมชุมพรการ์เด้นส์ นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีปิดโครงการอบรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองชุมพร รุ่นที่ 9 และพิธีมอบประกาศนียบัตรนักเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองชุมพร ร่วมด้วย

นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร นายวิบูลย์ศักดิ์ โพธิ์ธารส รองนายกเทศมนตรีฯ นายณัฐวัฒน์ โชติกสถิตย์ ประธานสภาเทศบาลเมืองชุมพร พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลฯ นายสุพจน์ บุปผา ปลัดเทศบาลเมืองชุมพร นายเจริญ โพธิ์ศรีทอง รองปลัดเทศบาลฯ นายสายันย์ หัสรินทร์ รองปลัดเทศบาลฯ และหัวหน้าส่วนการงาน ร่วมเป็นเกียรติใน

นางวรางคณา สรรเสริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนผู้สูงอายุ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดโครงการ เพื่ออบรมส่งเสริมฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพกาย จิตใจ สังคมเศรษฐกิจและรายได้ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้ พัฒนาทักษะในการดูแลตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี คงความแข็ง

แรงไว้ให้นานที่สุด โดยหลักการดำเนินการ อยู่บนพื้นฐานแนวคิดที่ว่า ผู้สูงอายุมีคุณค่า มีศักยภาพและมีศักดิ์ศรี ควรได้รับการส่งเสริม สนับสนุนให้มีส่วนร่วมทำประโยชน์ให้สังคม และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ผู้สูงอายุ โดยเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของผู้สูงอายุและสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ในการอบรมครั้งนี้ ใช้งบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลเมืองชุมพร มีนักเรียนผู้สูงอายุเข้าร่วมรับการอบรมจำนวน 230 คน และมีจิตอาสาร่วมเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนโรงเรียน จำนวน 25 คน ระยะเวลาการอบรม 3 เดือน ทุกวันพฤหัสบดี หลักสูตรการอบรม เรียนรู้การส่งเสริม ฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพกาย จิตใจ สังคมเศรษฐกิจและการส่งเสริมรายได้ การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพิ่มทักษะชีวิตแก่ผู้สูงอายุ ตลอดจนการเป็นคลังปัญญาให้ลูกหลาน

ด้านนายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร กล่าวว่า โครงการอบรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองชุมพร เป็นการเตรียมการรองรับสถานการณ์และสังคมผู้สูงอายุ ของประชากรในเขตเทศบาลเมืองชุมพร โดยการส่งเสริมความรู้และเรียนรู้การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เรียนรู้และพัฒนาทักษะในการดูแลตนเอง จะนำไปสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานดูแลคุณภาพชีวิตของประชากรในเขตของเทศบาลเมืองชุมพร

ได้มีการดึงภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ เข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมสร้าง ร่วมดำเนินงานในการดูแลส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้สูงอายุ และใช้ชุมชนเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการ ยึดหลักแนวคิดทำให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีคุณค่า เข้าสู่วัยชราอย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี และส่งต่อภูมิปัญญาสืบสานประเพณีวัฒนธรรมให้ลูกหลานต่อไป

และผมขอชื่นชมจิตอาสาร่วมเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนโรงเรียนผู้สูงอายุ จำนวน 25 คน ที่เสียสละเวลาและกำลังกายในการดำเนินงานโรงเรียนผู้สูงอายุของเทศบาลเมืองชุมพร ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักเรียนผู้สูงอายุทุกท่านในที่นี้ จะได้รับประโยชน์จากการมาเป็นนักเรียนผู้สูงอายุของเทศบาลเมืองชุมพรในครั้งนี้

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เสน่ห์กาแฟน่าน Charming Nan Coffee” ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

แชร์เนื้อหานี้

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ #ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เสน่ห์กาแฟน่าน Charming Nan Coffee” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน โดยมีเครือข่ายและผู้ประกอบการกาแฟ มาร่วมออกร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟ และมีภาคส่วนราชการ และประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568 เวลา 17.00 น. ณ ข่วงเมืองน่าน (ข่วงน้อย) จังหวัดน่าน

นางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน กล่าวว่า #สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน ได้จัดงาน “งานเสน่ห์กาแฟน่าน Charming Nan Coffee” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการ ท่องเที่ยวเชิงเกษตรสร้างสรรค์ มูลค่าสูง สู่การพัฒนากาแฟน่าน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเสน่ห์ของกาแฟคุณภาพจากผืนดินน่าน

และขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน ซึ่ง กาแฟน่าน ขณะนี้ เป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพ ทั้งรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ กาแฟจากน่านสามารถคว้ารางวัลจากเวทีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาด ทั้งในและต่างประเทศ

#จังหวัดน่าน ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากาแฟในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูก การตลาด ตลอดจนการเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งโครงการนี้ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากจังหวัดน่าน และดำเนินการโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพของชุมชน พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวสายกาแฟ และสร้างรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

โดยก่อนหน้านี้ โครงการฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อวางรากฐานและประชาสัมพันธ์เส้นทางกาแฟของจังหวัดน่าน ได้แก่ การจัด Workshop การจัดกิจกรรม Blogger Fam Trip การรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของแหล่งกาแฟ และการจัดทำคู่มือเส้นทางท่องเที่ยวกาแฟ เพื่อสร้างความเข้าใจและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับวิถีชีวิตของชาวน่านอย่างแท้จริง

สำหรับ “งานเสน่ห์กาแฟน่าน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–21มิถุนายน 2568 โดยภายในงานพบกับกิจกรรมมากมาย อาทิ บูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกาแฟ เมล็ดกาแฟคุณภาพ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกาแฟ และสินค้า OTOP การสาธิตและ

Workshop การชงกาแฟ โดยผู้เชี่ยวชาญ การแสดงดนตรีเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนความตั้งใจของจังหวัดน่าน ในการผลักดันกาแฟให้เป็นมากกว่าสินค้าเกษตร แต่คือเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในอนาคต/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่”ยกระดับ” พลังความร่วมมือแนวทาง CSR / “หมอรุ่ง” ณัฐ วังกาวรรณ นายกทต.สวนเขื่อนแถลงนโยบายต่อสภา ก่อนเข้ารับตำแหน่งฯ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์ปฏิบัติการวิชาชีพแก้วกาสะลอง วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มอบหมายให้ นายสง่า แต่เชื้อสาย รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในพิธีรับมอบศูนย์การเรียนรู้ “ยกระดับพลังความร่วมมือกับบริษัท 21

ซันแพชชั่น (Partnership college)” และมอบนโยบายด้านการศึกษาและแนวทาง CSR ร่วมกัน โดยมี นายอนรรฆ ชนาธินาถพงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ พร้อมคณะผู้บริหารฯ ครู-อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ ให้การต้อนรับ โดยมีแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายบุญธรรม เกี้ยวฝั้น ผู้อำนวยการสถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 2 คณะกรรมการการศึกษาร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง

โดยกิจกรรมดังกล่าว วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ ได้ดำเนินการจัดทำบันทึกความร่วมมือกับบริษัท 21 ซันแพชชั่น เพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนนโยบาย “ยกระดับพลังความร่วมมือกับบริษัท 21 ซันแพชชั่น (Partnership college)” ภายใต้แนวทางการทำงานที่เน้น “เรียนดี มีความสุข” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการบริหารจัดการร่วม

พัฒนา และสนับสนุนสถานศึกษารวมถึงการพัฒนาคุณภาพและรังสรรค์นวัตกรรมการบริหารจัดการของสถานศึกษาเพื่อให้สถานศึกษาได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างทั่วถึง นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและการเรียนรู้ที่สร้างความสุขให้ผู้เรียน โดยได้รับสนับสนุน 5 ด้าน ได้แก่ 1.สนับสนุนทุนการศึกษา 2.พัฒนาห้องเรียนต้นแบบช่วยจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยี 3.ส่งบุคลากรจากสถานประกอบการร่วมสอน 4.ออกแบบหลักสูตรที่ตอบโจทย์เทรนด์ตลาดแรงงาน และ 5.สร้างเส้นทางอาชีพ ฝึกงาน – จ้างงานจริง

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

“หมอรุ่ง” ณัฐ วังกาวรรณ นายกทต.สวนเขื่อนแถลงนโยบายต่อสภา ก่อนเข้ารับตำแหน่งฯ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 มิถุนายน 2568 เทศบาลตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้จัดการประชุมสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปีพ.ศ.2568 ครั้งที่ 1 ณ.ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน ซึ่งมี นางชลดา หม้อกรอง ประธานสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน นางสาวนงเยาว์ สวนสง่า เลขานุการ และสมาชิกสภาทั้ง 2 เขต นางยุพิน ทองเทพ ปลัดเทศบาลตำบลสวนเขื่อน ผู้อำนวยการ กองต่างๆ เข้าร่วม

ทั้งนี้ “หมอรุ่ง” นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน พร้อมคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย ร.ต.อ.สมฤทธิ์ เขื่อนแก้ว รองนายกเทศ
มนตรี (คนที่ 1) นายธีรภพ เขื่อนสี่ รองนายกเทศมนตรี (คนที่ 2) นายเสถียร เขื่อนเก้า เลขานุการนายกเทศมนตรี นางกัญฐณา สิริกรวัฒนกุล ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี เข้าร่วมการประชุมด้วย

ในการนี้ “หมอรุ่ง” นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน ได้แถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน 7 ด้านฯ เพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนตำบลสวนเขื่อน

“หมอรุ่ง” นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน กล่าวว่า 4 ปี หรือ 48 เดือน ต่อจากจากนี้ไปผมพร้อมผู้บริหารจะทำหน้าที่ตามระเบียบของทางราชการ คงจะไม่ตามใจพี่น้องประชาชนอย่างที่ผ่านมา เพราะว่า 4 ปีก็จะครบ 2 วาระของผม กลังจากนั้น ผมต้องวางมือจากการเมือง ผมมีความตั้งใจจะทำหน้าที่ผู้บริหารเทศบาลตำบลสวนเขื่อนเต็มความสามารถ ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภา ฝ่ายข้าราชการฯ เทศบาลตำบลสวนเขื่อน ฝ่ายปกครองในตำบลสวนเขื่อน

ในโอกาสนี้ นางยุพิน ทองเทพ ปลัดเทศบาลตำบลสวนเขื่อนได้มอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดีแด่ นายณัฐ วังกาวรรณ ที่ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาลตำบลสวนเขื่อน ร่วมแสดงความยินดีด้วย และทางฝ่ายสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน
นำโดย นางชลดา หม้อกรอง ประธานสภาเทศบาลตำบลสวนเขื่อน พร้อมสมาชิกสภาได้มอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดีแด่ นายณัฐ วังกาวรรณ ที่ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อนด้วย

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

เมียสุดทน ผัวหึงไม่รู้สาเหตุ จึงคว้ามีแทง ร้อนถึงตำรวจมาไกล่เกลี่ย ลงท้ายด้วยการหอมแก้ม

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ศูนย์วิทยุ “เวียงโกศัย” สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท เมียแทงผัว เหตุเกิดที่ข้างโรงสี ม.7 บ้านดอนดี ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังรับแจ้งทางร.ต.ท.พีรศักดิ์ กองรัตน์ ร้อยเวร 20 สภ.เมืองแพร่ ร่วมกับสายตรวจ ต.กาญจนา ออกตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้ง ร่วมศูนย์กู้ชีพ เทศบาลตำบลสวนเขื่อน

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านชั้นเดียว มีนายสุรินทร์ ยวงแก้ว อายุ 57 ปี บ้านหมู่ 7 ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่แคร่ใต้เพิงหน้าบ้านด้วยอาการเมา พร้อมชี้บาดแผลที่ถูก นางสุรีรัตน์ ไกยสวน อายุ 46 ปี ภรรยา แทงที่บริเวณ ข้างเท้าด้านในขาซ้าย มีรอยเลือดเล็กน้อย จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ต.สวนเขื่อน ปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ระหว่างนั้น นายสุรินทร์ฯเปรยกับเจ้าหน้าที่ว่า สู้เมียไม่ได้เลย บ้านอื่นเมืองอื่น มีแต่ ผัวตีเมีย บ้านนี้ เมียตีผัว มีเรื่องกันครั้งใด แพ้ตลอด จนทำให้ตนเองกลัวหมด ไม่กล้าหือ วันนี้ก่อนเกิดเหตุ ทะเลาะกัน เมียได้ขึ้นไปเอามีดจากบนบ้านมา มาขึ้นคล่มตีจนตนเองโดนแทงเข้าที่เท้า จึงได้บอกพี่ชาย และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางด้าน นางสุรีรัตน์ฯ ภรรยา เผยว่า วันนี้น้องสาวจากบ้านเวียงทองพาแฟนมาเที่ยวหา จึงตั้งวงกันตั้งแต่เช้า เมื่อต่างคนต่างเมา นายสุรินทร์ฯ จึงมีอาการหึงหวงตนเองกับแฟนน้องสาว พูดอย่างนั้นอย่างนี้ ตนเองทนไม่ไหว จึงได้มีเรื่องกัน และตนเองเอามีดมาขู่ เพื่อให้สามีหยุดการหึงหวง แต่พลาดไปโดยเท้า เข้านิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยพูดคุยให้ทั้ง สองคนดีกัน เพราะเป็นคู่กันแล้ว อย่าให้มีเรื่องมีราวกัน อยู่กันอย่างสันติ รักกัน ก่อนที่จะให้ทั้ง 2 คน มาแสดงความรัก ด้วยการหอมแก้มให้อภัยกัน จบความบาดหมางหึงหวงในวงเหล้า ก่อนจะออกบ้านเกิดเหตุ ทั้งคู่ ได้ ยกมือไหว้ขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ที่มาช่วยเหลือ และไกล่เกลี่ยให้รักกันเหมือนเดิม

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.สันติบาล จัดโครงการสร้างจิตสำนึก” รุ่นที่ 4 ประจำปี 2568 ณ รร.ยางชุมวิทยา ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (18 มิ.ย. 2568) เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.กฤษฎา จิณะไชย รองสารวัตร กก.4 บก.ส.1 และหัวหน้าสถานีตำรวจจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดกิจกรรมอบรม “โครงการสร้างจิตสำนึก” รุ่นที่ 4 ประจำปี 2568

ณ โรงเรียนยางชุมวิทยา ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมี นายนพพล เสียงกล่อม ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายก อบต.หาดขาม, กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่

เข้าร่วมกิจกรรม มีนักเรียนเข้าร่วมอบรมจำนวน 120 คน เนื้อหาการอบรมเน้นให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ มีวินัย และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความรับผิดชอบ

กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เคลื่อนที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข แก่ประชาชน และกิจกรรมปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์

แชร์เนื้อหานี้

วันที่( 18 มิ.ย.68 ) เวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนบ้านนาดง ตำบลนาดง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดโครงการ ปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการจังหวัดบึงกาฬเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

โดยมีนายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ นายภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วย นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด ฝ่ายปกครองอำเภอปากคาด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ และพี่น้องประชาชนชาวอำเภอปากคาด เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ได้รวมพลังกล่าวคำปฏิญาณถวายความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จังหวัดบึงกาฬ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอนุญาตจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัติยราชนารี ให้เป็นจังหวัด พอ.สว. ลำดับที่ 54 ในปี พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จังหวัดบึงกาฬ

จึงได้จัดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการจังหวัดบึงกาฬเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ โรงเรียนบ้านนาดง ตำบลนาดง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ เพื่อให้ความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลป้องกันโรค ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัย รวมถึงการนำบริการต่าง ๆ

จากภาครัฐและภาคเอกชน ไปให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ให้ได้รับบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และทั่วถึง โดยมีกิจกรรม เช่น การมอบสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค และทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส การออกหน่วยบริการแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. หน่วยบริการของส่วนราชการ/หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน การออกเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและฐานะยากจนในพื้นที่

นายภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ในนามของหัวหน้าชุดหน่วยแพทย์ พอ.สว. กล่าวว่า การปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ในวันนี้ เป็นการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เพื่อให้บริการประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ ที่ห่างไกลสถานบริการสาธารณสุข ได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยให้บริการ ด้านการรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค บริการทันตกรรม และการแพทย์แผนไทย การเข้าถึงบริการสาธารณสุข

ประชาชนในพื้นที่ตำบลดงบัง และหมู่บ้านใกล้เคียงเมื่อมีการเจ็บป่วย จะเดินทางไปรับบริการที่โรงพยาบาลปากคาด และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาดง ปัญหาด้านสุขภาพส่วนใหญ่ของประชาชน พบว่า ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไข้หวัด โรคเบาหวาน โรคผิวหนัง ปัญหาสุขภาพช่องปาก และฟัน เป็นต้น ซึ่งการออกปฏิบัติงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนสนใจรับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป 17 ราย บริการทันตกรรม 23 ราย บริการแพทย์แผนไทย 27 ราย และกายภาพบำบัด 25 ราย

บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก(self test) 10 ราย บริการคัดกรองภาวะซึมเศร้าและให้คำปรึกษา 9 ราย และรับผู้ป่วยเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 1 ราย รวมผู้รับบริการทั้งหมด 111 ราย และมีเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย ประชาชนทุกคน มีความซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตาให้ปวงประชามีสุขภาพดี ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎร โดยทรงจัดให้มีหน่วยแพทย์ พอ.สว.ไปบำบัดความทุกข์จากโรคภัยและดูแลสุขภาพของประชาชน ในท้องถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการออกบูธประชาสัมพันธ์และการจำหน่าย สินค้า OTOP สินค้าการเกษตรจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคในราคาที่เป็นธรรมอีกด้วย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล ผู้สื่อข่าวบึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดแล้ว! น้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ เล่นสไลเดอร์ธรรมชาติสนุก บรรยากาศดี สัมผัสธรรมชาติสีเขียว เล่นน้ำตกเย็น ๆ ถ่ายรูปชิค ๆ ได้หลายมุม

แชร์เนื้อหานี้

ชวนเที่ยวบึงกาฬจะพลาดน้ำตกถ้ำพระไม่ได้เลย โดยเฉพาะใครที่ยังไม่เคยมาที่นี่ แนะนำเลย อยากให้มาสัมผัสธรรมชาติที่นี่สักครั้ง มานั่งเล่นก็ได้ มาถ่ายรูปหรือจะมาเล่นน้ำตก อ้ายฉิงมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกก็นานมากแล้ว เลยมาเยือนอีกครั้งกับคุณเพื่อนสนิทเช่นเดิม

พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศเล็ก ๆ น้อย ๆ มารีวิวให้ทุกท่านได้ตามรอยกัน ความโดดเด่นของน้ำตกนี้คือมีสไลเดอร์ธรรมชาติด้วย เล่นได้จริง สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ว่าที่อ้ายฉิงไปล่าสุดมันก็ต้นหนาวแล้ว น้ำค่อนข้างน้อยแต่ยังสวยอยู่

การมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ จะไม่สามารถขับรถไปถึงได้เลย จะต้องนั่งเรือเข้าไป ซึ่งจะต้องไปขึ้นเรือตามท่าเรือต่าง ๆ จะมีท่าเรือ 1 ท่าเรือ 2 จะขึ้นท่าไหนก็ได้ตามสะดวกเลย ในบริเวณท่าเรือจะมีที่จอดรถฟรี มีบริการห้องน้ำฟรี และถ้าหิวก็มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม กินก่อนค่อยนั่งเรือเข้าน้ำตกก็ได้

สำหรับครั้งนี้บ่าวบึงกสฬขึ้นที่ท่าเรือ 2 จะมีค่าขึ้นเรือ คนละ 50 บาท จะไม่รวมกับค่าเข้าอุทยาน ฯ นะ จะต้องไปจ่ายอีกรอบเมื่อเข้าสู่เขตอุทยาน ฯ

เนื่องจากน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ มีอีกชื่อคือน้ำตกถ้ำพระภูวัว ตั้งอยู่ในเขตของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว นั่นเอง ค่าเข้าก็ไม่แพงอะไร เด็ก 20 บาท/คน ผู้ใหญ่ 30 บาท/คน เด็กชาวต่างชาติ 200 บาท/คน และ ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 400 บาท/คน ตามป้ายเลย

การเตรียมตัวเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ จ.บึงกาฬ หาข้อมูล ณ วันที่จะไปก่อนว่าน้ำตกเปิดให้เข้าเที่ยวชมได้หรือไม่ เพราะอาจมีบางช่วงเวลาที่ทางอุทยานปิดเพื่อความปลอดภัยและฟื้นฟูธรรมชาติ เตรียมงบค่าใช้จ่าย เช่น ค่านั่งเรือ ค่าเข้าอุทยาน ฯ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ วางแผนให้พร้อม

หากจะเล่นน้ำตก ควรเตรียมชุดให้พร้อมและเล่นในจุดที่เจ้าหน้าที่อนุญาตเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย อยากจะมีภาพความประทับใจกลับไป ก็หามุมถ่ายภาพได้ตามสะดวกเลย ควรปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของอุทยาน ฯ ให้ดี ห้ามอะไรก็ไม่ควรทำ เช่น ห้ามก่อไฟ ห้ามพกอาวุธ ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง ห้ามเข้าเที่ยวหลังเวลากำหนด ฯ เป็นต้น

กินข้าวให้อิ่มท้องก่อนเข้าไป ในน้ำตกไม่มีร้านขาย แต่พกน้ำเข้าไปด้วย เวลาหิวจะได้จิบได้ บางวันแดดร้อนมาก ๆ ทากันแดดให้เพียงพอ เพราะแดดแรงไม่เบาเหมือนกัน และใช้กันแดดที่ไม่เป็นภัยต่อธรรมชาติด้วยจะดีมาก
หากมีขยะติดตัวเข้าไปในน้ำตกควรถือติดตัวออกมาทิ้งข้างนอกที่ถังขยะทุกครั้ง

การเดินทางมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ เวลาจะมาเที่ยวปักหมุดท่าเรือก็ได้ เพราะถ้าหากปักหมุดน้ำตกเลย รถก็เข้าไปไม่ถึงอยู่ มันจะต้องนั่งเรือก่อน เดี๋ยวบ่าวบึงกาฬจะปักหมุดท่าเรือไว้ให้ด้วย เผื่อใครจะตามรอยจะได้ไม่ยากเลย วิ่งตาม GPS ไปเลย ถึงแน่นอน ไม่มีหลงทาง

GPS น้ำตก: https://maps.app.goo.gl/SRMkMcC1g2MUPVoTAGPS ท่าเรือ: https://maps.app.goo.gl/wNDu6Ew1id8xT9u4Aเวลาทำการ : 08.00 – 17.00 น.ที่ตั้ง : อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ.ถ้ำพระ ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬสอบถามข้อมูล ท่าเรือ 2
– คุณน้อย 087-9511717
– คุณจิ๋ว 098-6468808

ข่าว/ภาพ ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล จ.บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / น่านเปิดบ้านต้อนรับคาราวานตามรอยตำนาน 17 จังหวัดภาคเหนือ

แชร์เนื้อหานี้

น่าน–วันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 18.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเทวราช จังหวัดน่าน ได้มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะ “คาราวานตามรอยตำนาน 17 จังหวัดภาคเหนือ” โดยมีนางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการกล่าวต้อนรับและเป็นตัวแทนจากนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ภายในงานมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, หัวหน้าส่วนราชการ, นายสาธิต บุญทอง นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวน่าน, คณะคาราวาน และสื่อมวลชนจากหลายพื้นที่

นางวิไลวรรณ กล่าวต้อนรับด้วยความยินดี พร้อมแนะนำจังหวัดน่านว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์จากธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตเรียบง่าย โดยเฉพาะในช่วง Green Season ซึ่งเหมาะแก่การท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติที่เขียวชอุ่มและงดงามทั้งนี้ จังหวัดน่านยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองสร้างสรรค์ เมืองเก่าที่มีชีวิต สู่การเป็นเมืองมรดกโลก และยังได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ เช่น Green Destination Gold Award 2024 และ Best Tourism Village 2024


รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้กล่าวปิดท้ายด้วยความหวังว่าผู้ร่วมคาราวานจะได้รับความประทับใจจากการเดินทางครั้งนี้ และจะกลับมาเยือนเมืองน่านอีกในอนาคต บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง สะท้อนถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวน่านในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศคณะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดน่าน

ครั้งนี้ได้มาที่วัดภูมินทร์ซึ่งเป็นตำนานของปู่ม่านย่าม่านกระซิบรักบันลือโลก ทุกคนมาจะต้องามถ่ายรูปกับภาพของปู่ม่านย่าม่านกระซิบรัก พร้อมกับนั่งรถรางชมเมืองยามค่ำคืนที่มีสีสันยามค่ำคืนที่สวยงามและเยี่ยมชมสินค้า OTOP โรงงานผลิตเครื่องเงินดอยซิลเวอร์ที่อำเภอปัว ที่เป็นโรงงานผลิตเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดน่านเป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตเครื่องเงินและเป็นสินค้าส่งออกต่างประเทศสร้างรายได้อีกด้วย/ข่าว/พ.อ.พยอม บุญทร/ บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กฟผ.จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้า สู่ครู นักเรียน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ที่โรงเรียนบ้านอ่างทอง ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวัชระ ถาวรวงศ์ หัวหน้ากองพัฒนาศักยภาพชุมชน ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์โครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้ากับนักเรียน คณะครู โรงเรียนบ้านอ่างทอง

โรงเรียนบ้านสีดางาม โรงเรียนบ้านทุ่งตาแก้ว และโรงเรียนบ้านหินเทิน รวม 20 คน โดยมี นางสาวศิริพร โพธิ์งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านอ่างทอง เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม นายมหยศ โกศิน ตัวแทนจากศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียน ให้การต้อนรับ

ตามที่ กฟผ. มีภารกิจด้านการผลิตไฟฟ้าควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพชุมชนซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของ กฟผ. จึงได้มีแนวทางในการพัฒนาส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชน ร่วมกับหน่วยงานท้องที่ ท้องถิ่น เครือข่ายภาครัฐ และภาคประชาสังคมในพื้นที่

การจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้คณะครู และนักเรียน มีความรู้ในการผูกผ้า และจับจีบผ้าในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้คณะครู และนักเรียนนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ ประดับตกแต่งงานกิจกรรมของโรงเรียน

งานประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่น อาทิ งานรัฐพิธี งานมงคล และงานอวมงคลในพื้นที่ เพื่อลดรายจ่ายของหน่วยงาน และหากพัฒนาทักษะจนชำนาญจะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับตนเองได้ ทั้งยังเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ และ กฟผ. อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 12-13 มิถุนายน 2568

/////////////////

ข่าว. ณัฐธภพ พันสาย. / จ.ประจวบคีรีขันธ์. 0649646443 ฅนเหล็กมินิมาราธอนมอบรายได้ศิริราชมูลนิธิ สนับสนุนบริการการแพทย์เพื่อผู้ป่วยยากไร้

นายผดุงศักดิ์ ปราณอุดมรัตน์ (กลาง) ผู้จัดการทั่วไป สำนักการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารกลุ่ม บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เป็นตัวแทนองค์กรร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลฅนเหล็กมินิมาราธอน 2024 (SSI, TCRSS NS BlueScope, NS-SUS, JSGT, G Steel, GJS) มอบเงินรายได้จากการจัดกิจกรรมฯ แก่นางสาวโสพิศ ชัยเรือง รองหัวหน้าสำนักงาน ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนภารกิจการให้บริการการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ พัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการบริการการแพทย์ของโรงพยาบาล และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้พอเพียงและทันสมัย ณ ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็วๆนี้
    
กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอน จัดขึ้นในรูปแบบจิตอาสาและการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และประชาชนทั่วไป เพื่อนำรายได้จากการจัดกิจกรรมมอบช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับการพัฒนาความสามารถ และดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างแข็งแกร่ง มีองค์กรร่วมจัดประกอบด้วยพันธมิตรในอุตสาหกรรมเหล็ก 7 องค์กร ได้แก่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) บริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ็นเอส-สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด บริษัท เจเอฟอี สตีล กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) และบริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน)
    
จากการดำเนินกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 รวมจำนวน 16 ครั้ง สามารถนำรายได้จากการจัดงานช่วยเหลือองค์กรการกุศลที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสแล้ว 40.5 ล้านบาท

////////////////

ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงาน 0649646443