คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๘ เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกอบรมการจัดตั้งชุดรักษาความปลอดภัย

แชร์เนื้อหานี้

๒๖ มีนาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ น.พันโท สงบ สุรินราช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๘ เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกอบรมการจัดตั้งชุดรักษาความปลอดภัย เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ การฝึกอบรมดังกล่าวมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพด้านการรักษาความปลอดภัย และเสริมสร้างความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

นายสมคิด ชำนิกุล ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กล่าวรายงานพิธีเปิดการอบรม นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ มอบหมายนายนคร สุพรรณ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารปกครอง เป็นประธานในพิธีเปิด
โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ กิจกรรมฝึกอบรมจัดตั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ชรบ.)

เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีผู้ร่วมอบรมครั้งนี้ ๕ ตำบล ตำบลนาหนองทุ่ม ตำบลวังหินลาด ตำบลหนองเขียด ตำบลโนนหัน ตำบลนาเพียง จำนวน ๑๘๐ คน ๖๐ หมู่บ้าน ๑๐.๐๐-๑๑.๐๐ น. ระเบียบ มท.ว่าด้วยการช่วยเหลือเจ้าพนักงานของหน่วยกำลังคุ้มครองและรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน พ.ศ.๒๕๕๑ โดยนายนคร สุพรรณ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ๑๑.๐๐-๑๒.๐๐ น.

การรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน แผนรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน โดยนายนคร สุพรรณ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง
๑๓.๐๐-๑๔.๐๐ น.การควบคุมผู้มีอาการทางจิต การปฐมพยาบาลและผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน

เศร้า!!อภิธรมศพ บุตรชาย.!!
วันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 18.00 แขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธีสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพนายดรัสพงษ์ ดีบุญมี ณ.ชุมแพ โดยมีญาติๆ และผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เช่น

นายสำราญ ศรีภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขต 3 อำเภอชุมแพ นาย​ นิโรจน์​ แพ่ง​ศรี​สาร​ นายก​องค์การ​บริหาร​ส่วน​ตำบล​โนน​หัน​ นาง​ อรุณ​ศรี​ ยิ่ง​ยืน​ ผู้อำนวยการ​โรงเรียน​โนน​หัน​วิทยา​ยน​

นาย​ สุทธิ​รักษ์​ เมือง​สอน​ นายก​เทศมนตรี​เทศบาล​ตำบล​โนน​หัน​พร้อมด้วย​นาง​ สุภา​นันท์​ เมือง​สอน​ กำนัน​ตำบล​โนน​หัน​ นางพยงค์ ศรีภา ผู้บริหารสถาบันอาชีวศึกษาในเครือมหานคร

นายขุนทอง ดีบุญมี ณ ชุมแพ (อดีตกำนันแหนบทองตำบลโนนหัน)กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมพิธีสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพนายดรัสพงษ์ ดีบุญมี ณ.ชุมแพ บุตรชายตน

โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชุมแพ ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น.อำนาจในการจับกุมและตรวจค้นของพนักงานฝ่ายปกครอง และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ โดย นายสมคิด ชำนิกุล ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง

วินสื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์/ขอนแก่น

สื่อรัฐทีวี-สื่อรับนิวส์ / ชุดควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ 50 นาย เข้าสกัดไฟป่าที่ลุกลามมาจากตำบลห้วยแก้ว

แชร์เนื้อหานี้

นายสุทธิชัย ตรีศิลป์สัตย์ นายอำเภอแม่ออน ได้สั่งการให้ทีมอาสาดับไฟป่าตำบลบ้านสหกรณ์ นำโดย นายดำรงชัย สุขติ๊บ กำนันตำบลบ้านสหกรณ์ นายประเสริฐ ตันคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสหกรณ์ และทีมงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชม.9 ดอยสะเก็ด ชุดควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เข้าสกัดไฟป่าที่ลุกลามมาจากตำบลห้วยแก้ว โดยได้ทำการสกัดกั้นและดับได้เวลา 15.00 น.

ทั้งนี้ ชุดควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ ได้นำโดรนขึ้นบินเพื่อสำรวจแนวไฟ และความกว้างของไฟ จึงทำให้สามารถปฏิบัติงานได้รวดเร็วขึ้นและรู้จุดพิกัดได้แม่นยำมากขึ้น ต้องขอบคุณทีมควบคุมไฟป่าเชียงใหม่มา ณ ที่นี้ด้วย

ไถ่ชีวิตโคกระบือที่กำลังจะถูกเชืuดต่อลมหายใจให้ชีวิตใหม่อานิสงส์สุขภาพร่างกายแข็งแรง! #โปรดช่วยกันแชร์!

มหาบุญใหญ่ในวันเดียว! เปิดบารมีชีวิตรุ่งเรืองรับปีใหม่ไทย
🙏 รวมพลังศรัทธา 4 มหากุศล
🔥 กองบุญที่ 1: “ทอดผ้าป่า” ทำบุญอุทิศให้วิญญาณเร่ร่อน-เด็กแท้ง 🔥
เปลี่ยนชีวิตติดขัดให้คล่องตัว! เปิดทางรุ่งโรจน์ ล้างกรรมทันที!

🐃 กองบุญที่ 2: ไถ่ชีวิตกระบือ มหาทานแห่งอิสรภาพ สู่สุขภาพร่างที่แข็งแรง🐃

🧹 กองบุญที่ 3: ล้างห้องน้ำวัด – ล้างปัญหา อุปสรรคชีวิต 🧹

🙏 กองบุญที่ 4: ร่วมบุญสาธารณกุศลกับมูลนิธิพุทธภูมิธรรม 🙏

ณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร 🙏 เชิญร่วมงาน วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 | เวลา 08.00 – 12.00 น.


กิจกรรมมหามงคลภายในงาน:
📿 สวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ เสริมสิริมงคลชีวิต
🍚 ถวายภัตตาหาร สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์
🕯️ น้อมพลังพุทธบารมีส่งบุญให้เหล่าจิตวิญญาณ
💐 พิธีพิเศษรับพรจากพระเถระผู้ใหญ่


⭐ ร่วมสร้างมหากุศลสี่ประการในวันเดียว! ⭐
วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 | เวลา 08.00 – 12.00 น. ณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร


💰 ร่วมบุญ 💰
ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี: 131-3-83404-9 ชื่อบัญชี: มูลนิธิพุทธภูมิธรรม

ส่งหลักฐานการร่วมบุญมาได้ที่

Line Official Account : มูลนิธิพุทธภูมิธรรม กด⬇️
https://lin.ee/VDGS28X
คณะทำงานจะพริ้นท์ชื่อนำเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์


📞 ติดต่อสอบถาม หรือ แจ้งความประสงค์ออกโรงทานที่ 📞
พลตรีฉัตรไชย ประจุศิลป โทร: 089-200-2866


ขออานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลประทานพรให้ท่านพร้อมครอบครัวจงประสบแต่ความสุขความเจริญ สัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่พึงปรารถนาในทุกสรรพมงคล เทอญ

โปรดช่วยกันแชร์ #บุญใหญ่ #วัดระฆังโฆสิตาราม #ไถ่ชีวิตกระบือ #ทำบุญอุทิศส่วนกุศล #มหาบุญปีใหม่ไทย

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าเมืองเพชรฯ ชวนเที่ยวงานสงกรานต์บนหลังเกวียนครั้งแรกในไทย /ตร.ทางหลวง เดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรม รวบ 2 ผู้ต้องหา / ผู้ว่าประจวบฯประกาศสงครามยาเสพติดทุกพื้นที่

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.68 ที่ทุ่งนาบ้านถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานประเพณีมหาสงกรานต์ “มรดกถ้ำรงค์ ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “ทุ่งนา ป่าตาล ตำนานทวารวดี ยลวิถีถ้ำรงค์” พร้อมด้วย นายบรรพต กำไลแก้ว นายก อบต.ถ้ำรงค์ ผช.ศ.ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี นางสาวเมทินี จันทร์บุญนะ รักษาการวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี นางสาวมิ่งขวัญ บุญโภคัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี นางดวงใจ คุ้มสะอาด ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี

ร่วมแถลงข่าว ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับฟัง ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ กล่าวว่า จากการที่ ยูเนสโก้ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียน ”สงกรานต์ไทย” เป็นมรดกโลกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เมื่อปี 2566 (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) สงกรานต์เป็นประเพณีไทยที่ถูกสืบทอดมาอย่างยาวนาน เป็นประเพณีที่มีคุณค่าและสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย

ทั้งนี้ ประเทศไทยเคยได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมมาแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ โขน (2561) นวดไทย (2562) และ โนรา (2564) โดยจังหวัดเพชรบุรีกำหนดให้แต่ละพื้นที่ร่วมจัดกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทย 13 เม.ย.68 โดยให้มีกิจกรรมสำคัญที่เน้นเอกลักษณ์อันโดดเด่น เช่น ขบวนแห่นางสงกรานต์จาก 8 อำเภอ ประเพณีรดน้ำดำขอพรหัวผู้ใหญ่เพื่อแสดงความกตัญญูและเคารพนบนอบต่อผู้ที่เคารพนับถือและผู้มีพระคุณ และประเพณีสรงน้ำพระวัดสำคัญ ๆ ในเมืองเพชรบุรี

จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำรงค์ วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี ได้ร่วมกันจัดงานงานประเพณีมหาสงกรานต์ “มรดกถ้ำรงค์ ประจำปี 2568” ขึ้น ภายใต้แนวคิด “ทุ่งนา ป่าตาล ตำนานทวารวดี ยลวิถีถ้ำรงค์” ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.68 ณ ทุ่งนาบ้านถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด เพื่ออนุรักษ์ สืบสานและส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ที่ดีงามและทรงคุณค่าของไทยมาแต่โบราณให้คงอยู่สืบไป อีกทั้งอำเภอบ้านลาดที่เน้นวิถีชาวเมืองเพชรอันมีกิจกรรมวัวลาน วัวเทียมเกวียนเป็นอัตลักษณ์ โดยไฮไลต์ของงานคือจัดเล่นสงกรานต์บนหลังเกวียนขึ้นเป็นครั้งแรกของ จ.เพชรบุรี และของไทย

นอกจากนี้ ในพื้นที่อื่นๆ ของ จ.เพชรบุรี ก็มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ที่น่าสนใจ อาทิ ถนนสายข้าวแช่เมืองเพชรบุรี, งาน Songkran at Cha-Am Beach ณ ชายหาดชะอำ มีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป ขบวนแห่นางสงกรานต์ และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ, อำเภอท่ายาง มีการสรงน้ำพระพุทธรูป ขบวนแห่นางสงกรานต์ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ แข่งขันเปตอง แข่งขันหมากรุก, ที่วัดเขาบันไดอิฐ อำเภอเมืองเพชรบุรี จัดให้มีประเพณีสงกรานต์ สร้างสรรค์สุขภาพ และที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อำเภอเมืองเพชรบุรี

มีงานอนุรักษ์ส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำรงค์ โทร. 032-491 467 / ประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองเพชรบุรี โทร. 032-403 888 / ประชาสัมพันธ์ อบต.ท่ายาง โทร. 032-463 000-2 / ประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองชะอำ โทร. 032-472 550 / ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร. 032-471 005-6 หรือที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ตร.ทางหลวงประจวบฯ เดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรม รวบ 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดียักยอกทรัพย์และยาเสพติด

วันที่ 24 มีนาคม 2568 – ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรมทั่วไปและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา มุ่งมั่นติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สวญ.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. และ ว่าที่ พ.ต.ท.พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.คมสัน วรรณสกุล สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. นำกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการเข้าจับกุม หญิงวัย 33 ปี ชาวตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ในข้อหา ยักยอกทรัพย์ หลังจากที่เจ้าตัวหลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวและจับกุมได้ภายในโรงแรมชื่อดังในอำเภอหัวหิน ก่อนนำตัวส่งศาลจังหวัดหัวหินเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ร.ต.อ.ประวิทย์ ภู่ทอง รอง สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. พร้อมกำลังพลจากหน่วยบริการเกาะหลักและกุยบุรี ได้ร่วมกันจับกุม ชายวัย 34 ปี ชาวตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ ก่อนควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ยังคงเดินหน้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ รวมถึงปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง.


นับถอยหลัง30วันผู้ว่าประจวบฯเอาจริงสั่งทุกหน่วยงานประกาศสงครามยาเสพติดทุกพื้นที่ใน จ.ประจวบฯต้องหมดไป

วันนี้ 24 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายสัญชาติเมียนมา(ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง)มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มแรงงานต่างด้าวในพื้นที่พร้อมนัดส่งยาบ้าให้กับสายลับที่บริเวณวัดเก่าเขาน้อย ม.2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ เวฟ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำเรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบและทำการวางแผน นำโดย พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ โพธิสุทธิ์ รอง.ผกก.สส.สภ.ปากน้ำปราณ เป็นหัวหน้าชุดจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เดินทางไปที่วัดเก่าเขาน้อย ตามที่สายลับได้แจ้งเมื่อไปถึง พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ เวฟ สีดำ ตรงตามที่สายลับแจ้งจอดอยู่ตรงบริเวณลานวัดเก่าเขาน้อยและเห็นนายโก เปียว ชาวเมียนมา(ผู้ถูกจับทราบชื่อภายหลัง)กำลังนั่งอยู่บนแท่นหินใกล้กับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายโก เปียว ก็ได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ไล่ติดตาม และสามารถควบคุมตัวพร้อมของกลางยาบ้าทั้งสิ้น 10,860 เม็ดอาวุธปืนพกสั้น สีดำ ขนาด 9 มม.  ออโตเมติค ยี่ห้อ  นอรินโก้ หมายเลขประจำปืน  กจ.2/10786 มูลค่าประมาณ 30,000 บาทจำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 18 นัดโดยแจ้งข้อกล่าวหามียาบ้าไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร4.เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รอง มทภ.4 มอบชุดรายอและชุดสงกรานต์ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอสานต่อเทศกาลสงกรานต์สร้างความสุข และรอยยิ้มให้เด็กและประชาชนในพื้นที่

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่อาคารเฉลิมพระเกียวด สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 72 พรรษา หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง บ้านรอตันบาตู ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรีวรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดงานต้อนรับเทศกาลฮารีรายอ สานต่อเทศกาลสงกรานต์ โดยมีนายรุสดี ปูรียา นายอำเภอเมืองนราธิวาส น.อ.ยุทธนา สระดี รองผอ.รมน.จ.นราธิวาส (ฝ่ายทหาร) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

สำหรับหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และฟาร์มตัวอย่าง บ้านรอตันบาตู ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชเสาวณีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่มีฐานะยากจน ให้มีการสร้างงาน โดยการให้ความรู้ ให้การฝึกอบรมความสามารถทางเทคนิค ในการสร้างสรรค์งานศิลปะและหัตถกรรม

ซึ่งสามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งและที่สำคัญคือการสนับสนุนให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ และอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจำนวน 150 ครัวเรือน 451 คน ได้ทำงานในสิ่งแวดล้อมที่ ปลอดภัยกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันได้รับความดูแลจากศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเป็นศูนย์ประสานงานของมูลนิธิผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยวันนี้เยาวชนที่เป็นเด็กกำพร้า ประชาชนในหมู่บ้าน และผู้ป่วยติดเตียง จะได้รับชุดรายอ ชุดสงกรานต์ รวมทั้งสิ้น จำนวน 253 คน ซึ่งทุกคนต่างดีใจ และมีขวัญกำลังใจ ที่ผู้ใหญ่ทุกท่านไม่เคยทอดทิ้ง และมาสร้างความสุข สร้างรอยยิ้มให้กันในทุกๆปี จัด ร่วมกันส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์อันดีของเจ้าหน้าที่และประชาชน

ด้านพลตรีวรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่าสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องไทยมุสลิม ในห้วงเดือนรอมฎอน ประจำปี ฮิจเราะห์ศักราช 1446 โดยได้มีโอกาสไปร่วมพบปะกับผู้นำ ศาสนา

และร่วมละศีลอดกับพี่น้องประชาชน ในหลากหลายพื้นที่ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และในวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ผมและผู้แทนหน่วยงานได้มาร่วมมอบชุดรายอให้กับเยาวชน และ ประชาชนมุสลิมที่ได้รับผลกระทบฯ เพื่อเตรียมการฉลองวันตรุษอีฎิลฟิตรี(เทศกาลฮารีรายอ) ที่ใกล้จะมาถึง และถือโอกาสมอบชุดสงกรานต์ให้กับเยาวชน และประชาชนไทยพุทธเพื่อสืบสาน ประเพณีสงกรานต์อย่างพร้อมเพรียงกัน

โดยต้องขอบคุณมูลนิธิสตรีผู้ได้รับผลกระทบฯที่ได้ช่วยประสานงานดูแลเยาวชนและประชาชนในความรับผิดชอบตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบให้ความรัก ความอบอุ่นเป็นครอบครัวบุญธรรมให้กับเยาวชนและส่งเสริมการศึกษาทั้งสายสามัญ และ ศาสนาแก่เยาวชนเหล่านี้และคาดหวังว่าน้องๆเยาวชนจะตั้งใ ศึกษาเล่าเรียน เติบโตเป็นบุคลากรของรัฐที่มีคุณภาพร่วมกัน รักษาอัตลักษณ์ ส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดให้มีความเจริญ รุ่งเรือง ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะร่วมหนุนเสริมภารกิจของมูลนิธิฯและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
//////////////////
ข่าว/อาอีซะห์/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯ แพร่ เรียกประชุมด่วน “ศูนย์วอร์รุมไฟป่า” หลังพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้น

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมเวียงโกศัย ชั้น 2 อาคาร
1 ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เรียกประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแพร่ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ขนาดเล็ก หลังพบว่า ค่า PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน (ค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัม/ ลูกบาศก์เมตร) ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ(สีแดง) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และทิศทางสูงขึ้นในระดับวิกฤต ข้อมูล วันนี้(24 มี.ค.68)

เมื่อเวลา 14.00 น. สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ 116.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรจึงมีข้อสั่งการเร่งด่วน ให้แจ้งเตือนประชาชนทุกพื้นที่ ทุกช่องทาง ให้งดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงนี้ หาก มีความจำเป็น ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเองทุกครั้งเช่น สวมหน้ากากป้องกัน PM2.5 หรือหากมีอาการผิดปกติ เหนื่อยง่าย แขนขาอ่อนแรง และ
แน่นหน้าอก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้มีโรคประจำตัว โรคระบบทางเดินหายใจ ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ เตรียมยา และอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่าง เคร่งครัด ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ได้ให้โรงพยาบาลประจำตำบล(รพ.สต.)

ทุกแห่ง เฝ้าติดตามกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันทีจากการวิเคราะห์ สาเหตุการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกิดจาก 1. การเผาในพื้นที่เขตป่า 2. หมอกควันจากพื้นที่ใกล้ เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน จากการเปลี่ยนทิศทางลม

ดังนั้น เพื่อยกระดับมาตรการเข้มข้นทุกมิติ จังหวัดได้ประสานขอกำลังทหารลาด
ตระเวนพื้นที่เสี่ยง ในตำบลช่อแฮ ตำบลสวนเขื่อน ตำบลป่าแดง จัดชุดลาดตระเวนเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิด พร้อมใช้โดรนประสิทธิภาพสูง
จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 13 บินสำรวจเพื่อป้องปรามผู้กระทำผิด ที่ประชุมยังได้พิจารณาขึ้นทะเบียนพรานป่า หรือผู้เก็บหาของป่า 1,470 คนทั่วจังหวัดแพร่ และหากเกิด เหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเกินกำลังความสามารถกำลัง
พลในพื้นที่ ให้อำเภอ และ อปท.ทุกแห่งสนับสนุนกำลังพลดับไฟเข้าช่วยเหลือได้ทัน ท่วงที

สมจิตรแสงบัลลังก์ทีมข่าวภาคเหนือรายงาน

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กองทุนฟื้นฟูฯ จัดสัมมนาภาคเหนือ วางแผนยุทธศาสตร์-เสริมบทบาทอนุกรรมการจังหวัด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จัดโครงการสัมมนาจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด ปีงบประมาณ 2568 และสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรระดับจังหวัด ภาคเหนือ

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนา โดยมีนายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับ

พร้อมด้วยนายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร และคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมกว่า 395 คน เข้าร่วม

นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนดำเนินงานระดับประเทศ โดยแบ่งการสัมมนาออกเป็น 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่น ภาคใต้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคกลาง

ที่จังหวัดเพชรบุรี และภาคเหนือ ที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นเวทีสุดท้ายของโครงการ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้คณะอนุกรรมการฯ มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ตามระเบียบและประกาศที่เกี่ยวข้อง สามารถกำหนดแนวทางดำเนินงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ด้านนายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกมีเกษตรกรเป็นประชากรหลัก โดยมีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรกว่า 270,622 ครัวเรือน พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา

นอกจากนี้ ยังมีองค์กรเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 857 องค์กร และมีสมาชิกขึ้นทะเบียนหนี้สินเพื่อขอรับการแก้ไขปัญหากว่า 10,465 ราย รวมมูลหนี้กว่า 3,088 ล้านบาท ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยให้คณะอนุกรรมการฯ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในโอกาสนี้ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้ดำเนินการมอบเช็คชำระหนี้แทนเกษตรกร จำนวน 6 ราย จาก 6 สหกรณ์ รวมมูลค่ากว่า 5.2 ล้านบาท ช่วยรักษาที่ดินทำกินของเกษตรกรได้รวม 24 ไร่ 2 งาน 22.6 ตารางวา โดยเกษตรกรที่ได้รับการชำระหนี้แทนต่างกล่าวขอบคุณภาครัฐที่ช่วยเหลือและให้โอกาสได้กลับมาประกอบอาชีพต่อไป

การสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนากลไกการบริหารกองทุนฟื้นฟูฯ ระดับจังหวัด เพื่อให้การดำเนินงานมีทิศทางที่ชัดเจนและสามารถช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาหนี้สินได้อย่างเป็นระบบ/บุญยวึ์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยป่าไม้ นายอำเภอเวียงสา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เพื่อหารือแนวทาง ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 พื้นที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน หลังพบว่าปัจจุบันมีจุดความร้อนสะสมแล้ว 1,698 จุด ซึ่ง อำเภอเวียงสา เป็นพื้นที่ที่พบจุดความร้อนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง

ที่ประชุมจึงได้กำหนดมาตรการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหา ได้แก่
✅ นโยบาย “เคาะประตูบ้าน” โดยให้นายอำเภอ ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดเผา
✅ประกาศ “ปิดป่า” จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หากผู้ใดฝ่าฝืนย้ำลงโทษอย่างเด็ดขาด
✅ ตั้ง “ด่านสกัด” ร่วมกับชุมชน บริเวณทางเข้าอุทยานฯ เขตป่า เพื่อตรวจสอบ ควบคุม และป้องกันการลักลอบเผาอย่างเข้มงวด

จังหวัดน่าน ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาหากพบเห็นไฟป่าหรือการลักลอบเผาป่า สามารถแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ทันที เพื่อลดปัญหาไฟป่าและมลพิษทางอากาศ สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิตของทุกคน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /ผู้ว่าฯศรีสะเกษ มอบใบประกาศเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ ข้าราชการดีเด่น ปี 2567 / ตร.ภาค 3 รุดตรวจด่านช่องสะงำ ตรวจเยี่ยม “Seal Stop Safe” สางปัญหายาเสพติด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๘.๐๐ น. องค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง มอบหมายให้ นางวิลาสินี ไพรสิน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง, นางสาวลักสมี พันธ์ภักดี หัวหน้าสำนักปลัด, นายสรนนท์ ขจรเจริญกุล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ, นายประดับพันธ์ บุตรไชย นิติกรปฏิบัติการ และนายฐิรศิลป์ อินทรบุตร นักวิชาการตรวจสอบภายในปฏิบัติการ

เข้าร่วมกิจกรรมวันท้องถิ่นไทย ณ บริเวณลานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ ๑๘ มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันท้องถิ่นไทย” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะ ตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม

เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๘ ถือเป็น “ปฐมบทแห่งการปกครองท้องถิ่นไทย” และเป็นรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น และในการนี้ได้มีการมอบใบประกาศเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ ข้าราชการดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๗ ระดับจังหวัด โดยท่านอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานมอบให้กับ นางสาวลักสมี พันธ์ภักดี หัวหน้าสำนักงานปลัด ในประเภทข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบล กลุ่มที่ ๒ และนายสรนนท์ ขจรเจริญกุล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ในประเภทข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบล กลุ่มที่ ๓

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดศรีสะเกษ

องค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง ได้รับการประเมินรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๔.๓๐ น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง องค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง ได้ตอนรับคณะศึกษาดูงานจากศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอไพรบึง (สกร.) จำนวน ๓๐ คน

เพื่อมาศึกษาดูงานโครงการบริหารจัดการขยะชุมชนเพื่อต่อยอดนวัตกรรมจัดการขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน ซึ่งเป็นโครงการนวัตกรรมท้องถิ่น ที่องค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง ใช้ในการประเมินรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ และได้รับรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลคะแนนผ่านเกณฑ์การประเมินในรอบการประเมินของสถาบันการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 รุดตรวจด่านช่องสะงำ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” สางปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว ปัญหาการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์

วันที่ 18 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช รองจเรตำรวจ ช่วยราชการ ภูธรภาค3 ,พล.ต.ต.พิษณุ วัตถุ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ

ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ชายแดน ตามนโยบายของรัฐบาล เปิดปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” สางปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว ปัญหาการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ หรือปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยนายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ให้การต้อนรับ

พล.ต.ท. วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า การลงพื้นที่ด่านช่องสะงำวันนี้ เป็นพื้นที่ที่มีแนวเขตติดกับประเทศกัมพูชา โดยขณะนี้ได้บูรณาการร่วมกันในพื้นที่ร่วมหาแนวทาง เพื่อสกัดกั้น ไม่เพียงปัญหายาเสพติด ยังปัญหาแรงงานต่างด้าว ที่อาจมาก่ออาชญากรรมในพื้นที่ประเทศไทย ได้กำชับสั่งการเดินหน้ากวดขัน ซึ่งดำเนินการตามยุทธการ Seal Stop Save ที่เป็นแนวทางเดียวกับการปราบปรามยาเสพติดที่ตำรวจภูธรภาค 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังเร่งดำเนินการ

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้ได้เดินทางลงมาพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยของจังหวัดศรีสะเกษ ที่มีรายงานความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล ป้องกันยาเสพติด แรงงานต่างด้าว และปัญหาอาชญากรรมเกี่ยวกับไซเบอร์ ทุกหน่วยมีความพร้อมในการปฏิบัติ ทั้งฝ่ายปกครอง ทหารจากกองกำลังสุรนารีได้ร่วมมือกับกองกำลังทหารพราน และประชาชนให้ความร่วมมือไม่ว่าจะเป็นการแจ้งข่าวต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้า Stop

ในเรื่องของพื้นที่ชั้นใน ทางแนวชายแดน Seal ทางภาคทหารและหน่วยความมั่นคงต่างๆในการหาข่าว มีความพร้อม รวมทั้งหน่วย Save ก็คือทางปกครอง แบ่งหน้าที่กันปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล สำหรับการเดินทางผ่านเข้า-ออก ของนักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชนผ่านทางจุดผ่านแดนถาวร

ด่านช่องสะงำนี้ ก็ยังไม่มีปัญหาใด แต่สำหรับปัญหาที่เฝ้าห่วงคือปัญหาการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ หรือปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทางจังหวัดศรีสะเกษมีความพร้อมในการดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ หนุ่ม คิดสั้น วิ่งราวทอง ได้ไป 3 บาท ไม่ถึงนาทีถูกจับทันควัน

หนุ่มวัยเบจญเพศ คิดสั้น บุกวิ่งราวทอง ได้ไป 3 บาท ออกมาถึงหน้าร้านกำลังสตาร์ทรถจักรยานยนต์ เตรียมหลบหนี สุดซวย ถูกเจ้าของร้านทองกระโดดจับตัว มิหนำซ้ำใกล้กัน พบตำรวจสายตรวจอยู่ใกล้ที่เกิด สุดท้ายถูกจับ คอตกเข้าซังเต

เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 18 มีนาคม 2568 ร.ต.อ. นิพนธ์ ท้าวบุญเรือง พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายชิงทรัพย์ ที่ร้านทองเยาวราชราษี ตำบลเมืองคง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ หลังทราบเรื่อง ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิด ซึ่งเป็นร้านทองตั้งอยู่ใจกลางอำเภอราษีไศล มีผู้คนพลุกพล่านและมีร้านค้าจำนวนมาก

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จะเห็นว่าคนร้าย เพศชาย สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีขาว สวมรองเท้าแตะ เข้ามาภายในร้านทอง มี เจ้าของร้านทองอยู่ภายในลูกกรงร้านทองเพื่อขายทองให้ ซึ่งคนร้ายขอลองสร้อยทอง จำนวน 3 บาท โดยทางเจ้าของร้านทอง นำมาให้ลองจำนวน 2 ลาย แต่ปรากฏว่า เมื่อคนร้ายได้นำทองไปสวมใส่ที่คอแล้ว ก็อาศัยจังหวะ วิ่งออกจากร้านทองอย่างรวดเร็ว โดยมี เจ้าของร้านทองวิ่งตามอย่างติดๆ

จากการสอบถาม เจ้าของร้านทอง ( ไม่ขอเอ่ยชื่อนามสกุล และเปิดเผยใบหน้า) ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนสังเกตความผิดปกติในพฤติกรรมของคนร้าย ตั้งแต่เดินทางเข้ามาภายในร้านทอง ที่มีอาการไม่นิ่ง และมองซ้ายขวาตลอดเวลา แต่ด้วยตนความยังไม่แน่ใจ ว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จึงให้คนร้าย ลองสร้อยทองตามปกติ ซึ่งตนพยายามบอกให้คนร้าย

ถอดสร้อยทองออกจากคอแล้ว แต่คนร้ายทำนิ่งเฉย และสุดท้าย จึงวิ่งหนีไป ตนเห็นเช่นนั้น จึงวิ่งตามไปติดๆ ซึ่งตนร้ายจอดจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนไว้หน้าร้าน และในขณะที่กำลังจะสตาร์ทรถเพื่อเตรียมหลบหนี ตนได้กระโดดคว้าตัวคนร้าย จนคนร้ายล้มลง แต่คนร้ายพยายามดิ้นสู้ แต่เคราะห์ดี บริเวณดีนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และสายตรวจ อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงมาช่วยจับตัวคนร้ายได้สำเร็จ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ราษีไศล ได้ควบคุมตัวคนร้าย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายอนิรุต ม่วงศรี อายุ 25 ปี ชาวตำบลวังจุฬา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คนร้ายที่ก่อเหตุ มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล เพื่อดำเนินการสอบสวน
จากการสอบสวน เบื้องต้น นายอนิรุต คนร้าย ให้การว่า ตนเดินทางมาจากพระนครศรีอยุธยา มาอาศัยกับพ่อ ที่อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เกือบ 1 เดือนแล้ว โดยก่อนก่อเหตุ ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ ของญาติในบ้านออกมา แบบไม่มีเหตุผล และขับรถจักรยานยนต์มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเจอร้านทองแห่งนี้ ที่อำเภอราษีไศล โดยที่ไม่ได้วางแผน แต่อย่างใด ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และไม่ได้คิดอะไรมาก ซึ่งสาเหตุที่ตนก่อเหตุในครั้งนี้ ต้องการนำทองไปขาย เพื่อนำเงินใช้หนี้ เพื่อน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ไปยืมเงินเพื่อนมา จำนวน 40,000 บาท เพื่อมาใช่จ่ายส่วนตัว ซึ่งสิ่งที่ตนกระทำนั้น เป็นสิ่งที่คิดสั้น และทำแบบไร้ความคิดเป็นอย่างมาก

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล ได้ตั้งข้อหา กระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ หลังจากนั้นจะได้ดำเนินการสอบสวนขยายผลในเรื่องนี้ ต่อไป/////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวศรีสะเกษ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมนักธุรกิจไทยอินเดียพัทยา และสมาคมอินเดียพัทยา เตรียมจัดงานเทศกาลโฮลี 2025 / ผู้ว่าฯททท.-นอภ.บางละมุง-นายกพัทยา เดินเท้าพบปะพี่น้องธุรกิจเอนเตอร์เทรนเท้นต์ภารตะกลางวอล์กกิ้งสตรีท

แชร์เนื้อหานี้

เวลา 13.30 น. วันที่ 10 มี.ค.2568 นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงาน Amazing. Thailand Grand Holi Festival Pattaya 2025
พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ตามไท ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยา ประกอบด้วยสมาชิกสภาเมืองพัทยา ผู้แทนจากสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้แทนจากสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย TIPBA และสมาคมอินเดียพัทยา นำเสนอรูปแบบการจัดงาน ณ ห้องประชุม 221 ศาลาว่าการเมืองพัทยา

เมืองพัทยา ร่วมกับสมาคมนักธุรกิจไทยอินเดียพัทยา และสมาคมอินเดียพัทยากำหนดจัดงาน Amazing. Thailand Grand Holi Festival Pattaya 2025
ในระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค. 2568 ณ ถนนชายหาดพัทยา ฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยา เพื่อให้พี่น้องชาวไทย-อินเดีย และนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสเทศกาลแห่งสีสันที่มีพื้นเพมาจากความเชื่อในศาสนาฮินดู เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการเฉลิมฉลองโดยการสาดสีสัน ป้ายสี ซึ่งเป็นสีฝุ่นผงออแกนิกใส่กันอย่างสนุกสนาน ด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป ตามความเชื่อของชาวอินเดีย ซึ่งคล้ายกับเทศกาลวันสงกรานต์ของไทย

โดยในวันนี้คณะผู้จัดงานนำโดย นายประเสริฐ ศักดิ์จิระพงศ์ เลขาสมาคมนักธุรกิจไทย -อินเดีย นำเสนอรูปแบบการจัดงานเพื่อร่วมกันพิจารณาในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร, ด้านการพยาบาล, ตลอดจนกิจกรรมภายในงาน นอกเหนือจากการสาดสี ยังมีการแสดงดนตรีของศิลปินไทย(F.HERO) และศิลปินจากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานคือวันที่ 15 มี.ค.นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในการสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานและมีสีสัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเศรษฐกิจในพัทยา และภาพลักษณ์ที่ดีต่อไป

คณะสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย ร่วมแสดงความยินดีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีป้ายแดง

วันที่ 13 มี.ค.68 มีรายงานว่า นายสุขราช กาลรา นายกสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย พร้อมคณะได้ร่วมแสดงความยินดีกับนายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี คณะบริหารฯ และสมาชิกสภาฯ หลังได้รับการประกาศรับรองจาก กกต. และรับมอบตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

นายสุขราช กาลรา นายกสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย กล่าวว่า ในนามสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย ขอแสดงความยินดีในโอกาสที่นายวิทยา คุณปลื้ม ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีอีกหนึ่งสมัย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา อบจ.ชลบุรี ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองท่องเที่ยวให้เข้มแข็ง ในฐานะสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานเพื่อความยั่งยืนของบ้านเมืองนี้ต่อไปด้วย

‘ดีแคทลอน’ ปักหมุดพัทยา เปิด Experience Store สาขาแรกในภาคตะวันออก ตอบโจทย์คอกีฬา

วันที่ 14 มี.ค.68 ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับ ดีแคทลอน แบรนด์กีฬาเมืองน้ำหอมชื่อดังระดับโลก ได้เปิดสโตร์ใหม่ในเมืองพัทยา เป็นสาขาแรกในภาคตะวันออก บนพื้นที่ 3,500 ตร.ม. ริมสุขุมวิทพัทยา ปากซอยเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ จ.ชลบุรี โดยมี นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมือง ตัวแทน ททท. กองทัพเรือ และผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติในงาน

มร.ดีเรน เชตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแคทลอน ประเทศไทย เผยว่า สำหรับสาขาพัทยานี้เปิดเป็น Experience Store สาขาแรกในภาคตะวันออก ที่ตอบโจทย์ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้งครบทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งที่เลือกเปิดตัวสาขาพัทยาในครั้งนี้เพื่อตอบรับกระแสกีฬาซีเกมส์ มี่จะมีขึ้นในจังหวัดชลบุรี ในช่วงปลายปีนี้

ภายในเป็นพื้นที่สโตร์และเพลย์กราวด์ขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์กรฬาครอบคลุมกว่า 60 ประเภทกีฬา รวมทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมทางน้ำที่ครบครันสำหรับชาวภาคตะวันออกซึ่งมีพื้นที่ชายฝั่งติดทะเล ที่สำคัญเมืองพัทยาเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำเพราะเป็นเมืองทะเล ที่แต่ละปีมีอีเว้นต์การแข่งขันระดับชาติและระดับโลกมากมาย ตอกย้ำความเป็น Sport Destination อย่างแท้จริง

เปิดแล้ว! งาน Amazing Thailand Grand Holi Festival Pattaya 2025 กระตุ้นสีสันท่องเที่ยวด้วยวัฒนธรรมระดับชาติ

วันที่ 14 มี.ค.68 ที่บริเวณปะรำพิธีชายหาดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นางสาวฐานปนี เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานในพิธีเปิดงาน Amazing Thailand Grand Holi Festival Pattaya 2025 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค.68

โดย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ได้กล่าวต้อนรับและมอบกระเช้าให้กับนายนาเคศ สิงห์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ที่ให้เกียรติเดินทางมากล่าวสุนทรพจน์และกล่าวอวยพร นายสุขราช กาลรา ในฐานะนายกสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย นายลักษมัน ซิงห์ นายกสมาคมอินเดียพัทยา ตลอดจนตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ

ด้วยเมืองพัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพราะมีผู้คนหลายเชื้อชาติ ศาสนา จากหลายประเทศมาพักผ่อนและอยู่อาศัย งาน Amazing Thailand Grand Holi Festival Pattaya 2025 หรืองานเทศกาลโฮลี เปรียบเสมือนเป็นการเปิดพื้นที่สร้างสีสันการท่องเที่ยวด้วยวัฒนธรรม ซึ่งเทศกาลโฮลี เป็นเทศกาลระดับชาติของชาวอินเดียที่มีมาอย่างยาวนานเช่นกัน

เทศกาลโฮลี หรือเทศกาลแห่งสีสันของชาวอินเดีย คล้ายกับเทศกาลสงกรานต์ของชาวไทย ที่ผู้คนจะเฉลิมฉลองสร้างความสนุกสนานด้วยการเล่นสาดผงสี ซึ่งเป็นสีที่ได้จากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย นำมาสาดเล่นกัน เป็นประจำทุกช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี นับเป็นเทศกาลแห่งมิตรภาพที่ญาติสนิทมิตรหาย และเพื่อนฝูง ได้มาพบปะและร่วมสนุกสนานกัน

ภายในงาน Amazing Thailand Grand Holi Festival Pattaya 2025 นอกจากมีการเล่นสาดสีแล้ว ยังมีการจัดแสดงต่างๆ ตามแนวทางกิจกรรมเฉลิมฉลองของชาวอินเดีย มีการเปิดพื้นที่ให้พี่น้องชาวเชื้อสายอินเดีย ตลอดจนนักท่องเที่ยวอินเดียได้มีพื้นที่กิจกรรมสนุกสนานร่วมสร้างสีสันการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาร่วมกันต่อไป

ผู้ว่าฯททท.-นอภ.บางละมุง-นายกพัทยา เดินเท้าพบปะพี่น้องธุรกิจเอนเตอร์เทรนเท้นต์ภารตะกลางวอล์กกิ้งสตรีท

มีรายงานว่า นางสาวฐานปนี เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา และผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินเท้าริมฟาตปาธชายทะเลตั้งแต่พัทยากลางถึงโครงการถนนคนเดินพัทยาใต้ หรือโครงการวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา รวมระยะทางกว่า 1 กม. เพื่อเยี่ยมชมบรรยากาศการท่องเที่ยวและพยปะผู้ประกอบการยามค่ำคืนของเมืองพัทยา

ทั้งนี้ ทางคณะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เดินทักทายผู้ประกอบการตลอดถนนวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา ก่อนจะเดินทางไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปปฏิบัติราชการต่อที่จังหวัดระยอง โดยทางผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้สร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดโครงการถนนคนเดินพัทยาใต้

ด้าน นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดงานเทศกาลโฮลีพัทยา ทางคณะผู้ว่าฯ ททท. ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอินเดีย ที่มีการเติบโตมากขึ้น ตลอดจนทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวให้เมืองพัทยา ซึ่งบรรยากาศต้อนรับเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง

เปิดร้านแซ่บไฮน์ อีสาน บิสโทร สาขา 2 ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และช็อปสินค้าที่ระลึกจากที่ราบสูง

วันที่ 15 มี.ค.68 ได้มีพิธี Grand Opening เปิดเป็นทางการสำหรับร้านแซ่บไฮน์ อีสาน บิสโทร สาขา 2 ริมถนนพัทยาสาย 3 เยื้องโรงพยาบาลเมืองพัทยา โดยพบว่ามีแขกเหรื่อเข้าร่วมแสดงความยินดีกับนายพงษ์ชาณัท เรืองรุ่ง และ น.ส.สิริกัญญา กังศิริกุล ผู้บริหารฯ กันอย่างคึกคัก

ร้านแซ่บไฮน์ อีสาน บิสโทร สาขานี้ ถือเป็นสาขาที่ 2 ซึ่ลงทุนด้วยงบประมาณ 15 ล้านบาท ตกแต่งด้วยค็อนเซ็ปต์อีสานโมเดิร์นคลาสสิก บริการอาหารอีสาน เครื่องดื่ม Thai Style และทั่วไปในมุมม่วนจอยบาร์ อีกทั้งยังมีช็อปสินค้าที่ระลึกจากภาคอีสานในมุมเฮือนพวนชวนคราฟท์

ทั้งนี้ ร้านแซ่บไฮน์ อีสาน บิสโทร สาขา 2 จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 น.- 22.00 น. โดยสามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้ 140 คน กลุ่มเป้าหมาย เป็นกลุ่มครอบครัว และนักท่องเที่ยวทั่วไป โทรศัพท์สำรองที่นั่งได้ที่หมายเลข 062-607 3398

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าเพชรฯ นำทีมซับน้ำตาผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่ อ.ชะอำ /นักวิ่งคึกคักในชุดบิกีนี่เซ็กซี่แน่นหาด งาน ‘CHA-AM BIKINI BEACH RUN 2025’

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี นางณัฐฐินีย์ คงบูชาเกียรติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ปลัดจังหวัดฯ นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ สิ่งของอุปโภคบริโภค

และเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบวาตภัยพายุงวงช้างในพื้นที่หมู่บ้านหนองโพและหมู่บ้านหนองคาง ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ส่งผลให้หลังคาบ้านเรือน ร้านค้า และป้ายโฆษณาได้รับความเสียหายรวม 27 หลังคาเรือน และมีต้นไม้หักโค่นในบางจุด ซึ่งทางอำเภอชะอำและเทศบาลเมืองชะอำได้สำรวจความเสียหายทั้งหมดแล้ว โดยเบื้องต้นจะใช้งบประมาณของเทศบาลเมืองชะอำช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนก่อน

หากไม่เพียงพอจะต้องเสนอขอใช้งบประมาณจากอำเภอชะอำและจังหวัดเพชรบุรีต่อไป ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี ได้กล่าวแสดงความห่วงใยและได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับให้ความช่วยอย่างเร่งด่วน หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมสามารถแจ้งที่นายอำเภอชะอำได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงในพื้นที่หมู่บ้านหนองโพ หมู่บ้านหนอง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จากนั้นได้เกิดพายุงวงช้างขนาดใหญ่ตามมาพัดหลังคาบ้านและป้ายโฆษณา ตกลงใส่บ้านเรือนของประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้รับความเสียหายไปหลายหลังคาเรือน และยังส่งผลให้ต้นไม้ล้มหักโค่นอีกหลายแห่ง

เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ต่อมา นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยในเบื้องต้นแล้ว.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

นักวิ่งคึกคักในชุดบิกีนี่เซ็กซี่แน่นหาด งาน ‘CHA-AM BIKINI BEACH RUN 2025’

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานวิ่งแข่งขันมินิมาราธอน CHA-AM BIKINI BEACH RUN 2025 “ชะอำ บิกินี บีช รัน ครั้งที่ 16” ประจำปี 2568 ณ ชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักวิ่งหญิงและชายทั้งชาวไทยและต่างชาติในชุดบิกินี่ ชุดเซ็กซี่เข้าร่วมงานกว่า 1,500 คน ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย หาดทรายชายทะเลยามเช้าที่งดงาม

โดยมี นายณัฐวุฒิ เพชรพรหมศร อดีตผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี เป็นประธานเปิดงานและปล่อยตัวจุดเริ่มต้นและเส้นชัยบริเวณหน้าชายหาดโรงแรมลองบีช ชะอำ พร้อมด้วย นางทนาดา วิจักขณะ รอง ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากเข้าร่วมงาน

นายณัฐวุฒิ เพชรพรหมศร กล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Thailand Sports Tourism) โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ให้จัดรายการแข่งขันมหกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว ทุกประเภทกีฬาที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี เพื่อกระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเมืองรอง ทั้งนี้ หาดชะอำ เมืองท่องเที่ยวทางทะเลสำคัญของไทย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย การเดินทางสะดวก เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จากความสำเร็จในการจัดการแข่งขันวิ่งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวรายการ “หาดชะอำ 14K” ต่อเนื่องมาหลายปี ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อรายการเป็น “หาดชะอำ บิกินีบีชรัน” โดยมีการวิ่งในประเภทบิกินี เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งประเภทของการแข่งขัน และจัดต่อเนื่อง 14 ปีผ่านมา โดยความร่วมมือของ จังหวัดเพชรบุรี, เทศบาลเมืองชะอำ, สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก, สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี,

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี, หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี, โดย JOG&JOY ฝ่ายจัดการแข่งขันได้พัฒนาปรับปรุงรายการแข่งขันนี้อย่างต่อเนื่อง ต่อมาได้เพิ่มประเภทระยะทางวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ระยะ 21.1 KM ขึ้นมาเพื่อสร้างให้สนามนี้เป็นสนามวิ่งระยะไกลนานาชาติมากกว่าเดิม โดยในแต่ละปีก็มีผู้สนับสนุนภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวสลับสับเปลี่ยนไปจนกลายเป็นงานวิ่งที่นักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างชาติสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าประจวบฯ เปิดโครงการจังหวัดเคลื่อน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พื้นที่ ต.อ่างทอง

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ 12 มี.ค. 2568 ที่ศาลาประชุมหมู่บ้านสีดางาม ม.3 ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย แพทย์หญิงบุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” หรือ โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายสินาทร โอ่เอี่ยม นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัด นางสาวจีรประภา สาระประจวบ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด

นายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก นายบังเอิญ พึ่งโพธิ์ทอง นายกอบต.อ่างทอง นายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก นายชลิต เพชรดี กำนันตำบลอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่อำเภอทับสะแก ข้าราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี ในการนี้ ได้รับเมตตาจาก พระครูผาสุกวิหารการ เจ้าคณะอำเภอทับสะแก วัดอ่างสุวรรณ ได้กล่าวสัมโมทนียกถา ให้ศีลให้พรแก่ประชาชน จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ กล่าวเปิดโครงการ และชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่ตำบลอ่างทอง ช่วงถนนอ่างทอง-หนองมะค่า ม.1,ม.5 และ

ถนนสายหนองหอย-มรสวบ ม.5,ม.8 เชื่อมตำบลชัยเกษม พร้อมทั้งระบุว่า จากที่ได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพื้นที่ ต.อ่างทอง ได้ประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน เร่งดำเนินการแก้ปัญหาการบริหารจัดการขยะ ขุดลอกคูคลอง นอกจากนี้ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ได้ประชาสัมพันธ์ในเรื่องการขอรับบริจาคเลือดแก่กาชาด เพื่อนำไปช่วยผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือ ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ประกาศวาระ “Next Move Prachuap ประจวบต้องไปต่อ” 10 หัวข้อ รวมถึงกลยุทธการสร้าง Wellness Economy 8 หัวข้อที่จะเป็นการเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ร่วมกับคณะผู้บริหารจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้มงคลภายในบริเวณศาลาหมู่บ้าน และได้เดินเยี่ยมชมบูธจากหน่วยงานต่างๆที่อยู่ในบริเวณที่จัดงาน ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐมาร่วมออกให้บริการประชาชนเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อราชการ ณ สถานที่ตั้ง รวมทั้งได้มอบพันธุ์ปลาน้ำจืดให้กับผู้นำท้องที่ และมอบเเตนเบียนบราคอนให้แก่ผู้แทนเกษตรและผู้นำชุมชนเพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน และร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค โดยมาจากพระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี 100 ชุด จากสถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ 100 ชุด และจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดฯ 100 ชุด รวมจำนวน 300 ชุด มอบให้แก่ประชาชน

ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงเวลา 08.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและพบปะผู้บริหาร คณะครู บุคลากร และนักเรียนโรงเรียนบ้านสีดางาม เพื่อมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียน พร้อมกับได้แนะนำแนวทางด้านการศึกษาแก่เด็กนักเรียน โดยชี้ให้เห็นความสำคัญด้านวิชาการ เช่น คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ เทคโนโลยี และความรู้ด้าน AI ซึ่งเป็นเรื่องที่มีบทบาทมากในปัจจุบัน เด็กๆก็ได้แสดงความเห็นในเรื่องอาชีพที่ใฝ่ฝันในอนาคต เช่น อยากเป็นผู้พิพากษา และจากนั้น ได้ลงพื้นที่เยี่ยมครัวเรือนผู้พิการ และได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนที่บ้านใน ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จำนวน 2 หลังอีกด้วย

สภาพและข้อมูลพื้นฐาน ตำบลอ่างทอง ทิศเหนือจรดตำบลนาหูกวาง ทิศใต้จรดตำบลชัยเกษมและตำบลธงชัย ทิศตะวันออกจรดอ่าวไทย ทิศตะวันตกจรดสหภาพพม่า มีพื้นที่ทั้งหมด 104 ตารางกิโลเมตร หรือ 65,000 ไร่ เป็นพื้นที่ลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก มีภูเขาสูงทางทิศตะวันตก และมีที่ราบส่วนใหญ่สลับภูเขาเล็กน้อย อาชีพหลักชาวบ้านได้แก่ ทำสวน ทำไร่ ประมง สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ วัดอ่างทอง วัดวังยาง วัดอ่างสุวรรณ ชายหาดลับทับสะแก เกาะรำร่า เป็นต้น และมีปัญหาหลักที่สำคัญในพื้นที่ ได้แก่ ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาศัตรูมะพร้าวและปัญหาชายฝั่งกัดเซาะ
/////////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

SSIร่วมสร้างสรรค์สังคมเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน รับรางวัลองค์กรต้นแบบสุขภาวะดีเด่นระดับก้าวหน้า

นางสาวสุริยา ดวงมณี (ที่ 3 จากขวา) หัวหน้าสายทรัพยากรบุคคลและธุรการ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ เป็นผู้แทนบริษัทฯ รับรางวัล “องค์กรสุขภาวะดีเด่นระดับก้าวหน้า ในโครงการส่งเสริมงานสุขภาวะในองค์กรเพื่อคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี” จากนายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ (กลาง) ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น เมื่อเร็วๆ นี้

โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของสสส.และสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร เพื่อส่งเสริมการมีวิถีชีวิตสุขภาวะทั้ง 4 มิติ (กาย ใจ สังคม และจิตปัญญา) และดูแลคุณภาพชีวิตบุคลากรในองค์กร ทั้งนี้ เอสเอสไอได้นำแนวคิดการสร้างองค์กรสุขภาวะ (Happy workplace) และความสุข 8 ประการ (Happy 8) มาสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานของพนักงานซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมของเอสเอสไอ iFacts+ (คนเก่ง ดี มีใจ) ส่งเสริมให้บุคลากรมีความพร้อม และร่วมสร้างสรรค์การดำเนินงานและสังคมที่ดีเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน

เอสวีแอล กรุ๊ป เสริมสร้างความรู้เยาวชน สร้างแกนนำคัดแยกขยะ เพื่อดูแลธรรมชาติอย่างยั่งยืน

เอสวีแอล กรุ๊ป โดยทีมชุมชนสัมพันธ์และพัฒนาชุมชน ร่วมกับเครือข่ายชุมชนต้นแบบ บ้านทางสาย บ้านระหาร และอาสาชวนน้องรักษ์โลก จัดกิจกรรมเรียนรู้การคัดแยกขยะที่ถูกต้อง ภายใต้แนวคิด “อ่านป้ายก่อนทิ้งลงถัง” โดยมีเยาวชนจาก 8 โรงเรียน ได้แก่ รร.บ้านห้วยทรายขาว, รร.บ้านดอนทอง, รร.บ้านดอนสง่า, รร.วัดนาผักขวง, รร.วัดดอนยาง, รร.บ้านหนองมงคล, รร.บ้านถ้ำเขาน้อย และ รร.อนุบาลบางสะพาน รวมกว่า 300 คน เข้าร่วมในโครงการ “กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือและเนตรนารี” ประจำปี 2568 เอสวีแอล กรุ๊ป(SVL Group) มุ่งเน้นการปลูกฝังความรู้ด้านการจัดการขยะและสร้างแกนนำเยาวชน เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยจัดขึ้นที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านห้วยทรายขาว ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ _ หลายหน่วยงานร่วมกิจกรรม โครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี งบประมาณ 2568

วันที่ 12 มี.ค.68 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ (สส./ปส.) มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.สหธัญ กำบิลดีลิราช รอง ผกก.ป.สภ.ห้วยยาง ว่าที่ พ.ต.ท.กฤษดา เหนี่ยวพึ่ง สวป.สภ.ห้วยยาง ชป.ตำบลยั่งยืน สภ.ห้วยยางพร้อมด้วยภาคีเครือข่ายและผู้นำชุมชน ประกอบด้วย พระมหาสัญญา สิทฺธิญาโณ เจ้าคณะตำบลห้วยยาง

นายฉัตรชัย ค้างาม ปลัดอำเภอทับสะแกฝ่ายความมั่นคง นางณุกานดา จันทรภรณ์ สาธารณสุขอำเภอทับสะแก นายภัทรดนัย สมศรี กำนันตำบลแสงอรุณ นายสุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายก อบต.แสงอรุณ นางวิภาภรณ์ ภัทรภิญโญ ผอ.สกร.อำเภอทับสะแก นางรัตนากร ศรวัฒนา พัฒนาการอำเภอทับสะแก นายชาตรี วณิชวรสกุล ประธาน กต.ตร.สภ.ห้วยยาง ผอ.รพ.สต.บ้านหินเทิน ผญ.บ้านไร่ใน ม.1 และ ผญ.บ้านแสงทอง ม.2 ต.แสงอรุณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน,อสม.,ชรบ.,อส., ทหารชุดเฉพาะกิจ ฉก.จงอางศึก พร้อมด้วย ประชาชนบ้านไร่ในและบ้านแสงทอง

ร่วม kick off เปิดโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ณ ศาลาประชาคมบ้านไร่ใน ม.1 ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนี้ได้ร่วมกันลงนามข้อตกลงการดำเนินโครงการฯ (MOU) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมี นายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก เป็นประธานในพิธี
////////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

กลุ่มตัวแทนผู้ที่สอบผ่านจำนวนกว่า 50 คน รวมตัวหน้ากระทรวงมหาดไทยเพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังสอบผ่าน

วันพุธที่ 12 มีนาคม 2568 กลุ่มตัวแทนผู้ที่สอบผ่านจำนวนกว่า 50 คน รวมตัวบริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทยเพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม
โดยมีคุณ นิชานันท์ ทรัพย์สมบูรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานร้องทุกข์สำนักรัฐมนตรี
ร่วมกับ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย โดยกระทรวงมหาดไทย ขอประสานให้กลุ่มตัวแทนจำนวน10 คน เข้าพบ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขามท.1 และ อ.มนัส สุวรรณรินทร์ ผู้ตรวจการกระทรวงมหาดไทย (โฆษกกระทรวงมหาดไทย)

โดยกลุ่มตัวแทนได้นำเสนอข้อมูลปัญหาสถานะปัจจุบันปัญหาของการสรรหาสายบริหารท้องถิ่นจังหวัดสมุทรปราการ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการทุจริตปัญหาข้อสอบที่ผิดพลาดหรือการตรวจสอบรายงานปัญหาจากมหาวิทยาลัยธัญบุรี ตลอดจนข้อมูลสรุปผลการประชุมการออกเสียง 4:3 เสียง ของคณะอนุสรรหา

พร้อมชี้แจงเหตุผลที่จังหวัดสมุทรปราการแจ้งว่าข้อสอบไม่ได้มาตรฐานนั่นกลุ่มผู้ยื่นเรื่องได้ให้ข้อสังเกตุว่ามหาลัยผู้ออกข้อสอบก็ชี้แจงเรื่องนี้แล้ว ประกอบกับอีก 8 จังหวัดที่ใช้ข้อสอบและกระบวนการเดียวกัน ไม่ได้มีปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขามท.1 โทรศัพท์สายตรงกับผวจ.สมุทรปราการ ได้ข้อสรุปว่า วันที่ 13 มีนาคม 2568 จะมีข้อสรุปในที่ประชุม ก.จังหวัดที่ชัดเจนสรุปโดยจะไม่โยนเรื่องส่งต่อไปมาให้หน่วยงานอื่นใดพิจารณาอีก ไม่ว่าจะเป็นการประกาศผลการขึ้นบัญชีหรือประกาศยกเลิกผลการสอบก็ตาม

ล่าสุด การประชุม กทจ.และก.อบต จังหวัดสมุทรปราการ ในช่วงเช้าวันที่ 13 มีนาคม 2568 นี้ มีผลสรุปมติในที่ประชุมตรงกันคื ในการประชุมคณะอนุสรรหาสายงานผู้บริหารของจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมานั้น มติการโหวตให้ประกาศผลการขึ้นบัญชีสายงานผู้บริหาร มีความถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เห็นควรประกาศผลลำดับบัญชีได้เลย สามารถเสนอเอกสารผลลำดับบัญชี ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามเพื่อประกาศได้เลย โดยไม่ต้องมีการประชุมคณะอนุสรรหาเพิ่มเติมแต่อย่างใด

/////////////////////

ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน