ค่ำวันที่ 9 พ.ย.67 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดงานทศกาลดีวาลี พัทยา ประจำปี 2567 DIWALI Festival Pattaya 2024 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย.67 เทศกาลแห่งแสงสว่างที่พี่น้องชาวอินเดียทั่วโลกจัดเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ที่บริเวณการจัดงานริมชายหาดพัทยากลาง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และนักท่องเที่ยวเชื้อสายไทยซิกข์ เข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก
ในงานประธานในพิธีได้ร่วมสวดอาตีขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะขึ้นเวทีกล่าวเปิดงาน DIWALI Festival Pattaya 2024 อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสกล ผลลูกอินทร์ นายนคร ผลลูกอินทร์ สมาชิก อบจ.ชลบุรี นายชัยวัฒน์ ตามไท ผู้อำนวยการ ททท.พัทยา นายสุขราช กาลรา นายกสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย (พัทยา) นายดิโอ้ ซิงห์ นายกสมาคมอินเดียชลบุรี และสมาคมอินเดียพัทยา ร่วมจุดเทียนชัยแห่งแสงสว่าง
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ได้กล่าวแสดงความยินดีกับการจัดงาน DIWALI Festival Pattaya 2024 ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 และเป็นนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือร่วมใจของ 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย สมาคมอินเดียชลบุรี และสมาคมอินเดียพัทยา ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการเห็นในความร่วมมือที่ดีนี้ให้เกิดในเมืองพัทยา สิ่งสำคัญคืองานดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ภายใต้แนวนโยบายซอล์ฟเพาเวอร์ของรัฐบาลอีกด้วย
สวนนงนุชพัทยา ให้ความสำคัญด้านการศึกษา ภาคภูมิใจเปิดโรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพและกีฬา อาณาจักรแห่งการเรียนรู้ อย่างเป็นทางการ
วันที่ 11 พ.ย.67 ที่สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี โดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้จัดพิธีเปิดโรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพและกีฬา อย่างเป็นทางการ โดยมีแขกผู้มีเกียรติ รวมทั้งบุคลากรด้านการศึกษาในพื้นที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในพิธีได้จัดพิธีทางศาสนา พระเถรานุเถระจำนวน 9 รูป ร่วมเจริญภาวนาสงดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อผู้เข้าร่วทพิธีเปิดโรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพและกีฬา ถือเป็นสถานศึกษาอห่งใหม่ในจังหวัดชลบุรีอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ โรงเรียนนงนุชพัฒนาทักษะอาชีพและกีฬา เปิดการเรียนการสอนรวม 6 หลักสูตร คือ หลักสูตรวิชาอาหารไทย หลักสูตรวิชามวยไทย หลักสูตรภาษาต่างประเทศ หลักสูตรวิชานาฏศิลป์ไทย หลักสูตรพัฒนาแม่บ้านมืออาชีพ และหลักสูตรจัดดอกไม้
“ไพรม์มัส พัทยา” เพิ่มศักยภาพบริการซ่อมสีและตัวถังรถ EV ผงาดสู่มาตรฐานระดับสูงสุด Mercedes-Benz
นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บจก.ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายของ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ที่มุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายอย่างเต็มประสิทธิภาพและครอบคลุมในทุกมิติ จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเป็นอันดับแรก ควบคู่กับการคัดสรรเครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีอันสมัย เพื่อยกระดับการบริการและรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
ล่าสุด “ไพรม์มัส พัทยา” ได้ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการซ่อมสีและตัวถังของ Mercedes-Benz ด้วยการเพิ่มศักยภาพ ให้แก่ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ โดยเข้ารับการอบรมทักษะงานซ่อมสีและตัวถังยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมาตรฐานระดับสูงสุดของ Mercedes-Benz ด้วยการฝึกทักษะความชำนาญการถอด ตัด เชื่อม ต่อ โครงสร้างตัวถังหลัก ทั้งแบบเหล็ก อลูมิเนียม และโลหะอื่น ทำให้บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจวัสดุ โครงสร้างตัวถัง ระบบการทำงาน และเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน
พร้อมกันนี้ ทาง “ไพรม์มัส พัทยา” ได้เลือกสรรอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษมาตรฐานสูงสำหรับงานซ่อมสี-ตัวถัง โดยเฉพาะ อาทิ ชุดเครื่องมือ Car-O-Liner, ชุดตรวจวัดตัวถังระบบคอมพิวเตอร์, ชุดแท่นดึงตัวถัง CELETTE X-ONE, ห้องอบ-พ่นสี NOVA VERTA และระบบอบสีแขนกลอินฟราเรด TECOPOINT พร้อมใช้ผลิตภัณฑ์สีน้ำที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ ทุกชิ้นงานจะผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ด้วยเครื่องมือตรวจวัดค่าสี ภายใต้อุโมงค์ไฟส่องสว่างสูงถึง 1,500 Lux ทำให้ทุกงานซ่อมมีคุณภาพและสมบูรณ์แบบมากสุด ทั้งรองรับงานซ่อมหนัก-เบาของรถยนต์ Mercedes-Benz ครอบคลุมได้ทุกรุ่น ทุกซัพแบรนด์อีกด้ว
ปัจจุบัน ศูนย์บริการรถยนต์ Mercedes-Benz ของ ไพรม์มัส พัทยา” ด้านงานซ่อมสีและตัวถัง ตั้งอยู่ที่พัทยา-นาจอมเทียน มีช่องซ่อมทั้งหมด 17 ช่องซ่อม รองรับรถยนต์เข้ารับบริการได้มากกว่า 200 คันต่อเดือน ด้วยบริการที่หลากหลายและครบวงจรสำหรับรองรับรถยนต์ทั้งแบบเครื่องยนต์ และแบบไฟฟ้า ทุกรุ่น ทุกซัพแบรนด์ และรับงานซ่อมจากบริษัทประกันภัยชั้นนำทุกแห่ง โดยมีทีมฉพาะสำหรับประสานงานและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าบริษัทประกันภัย เมื่อนำรถยนต์เข้ารับบริการเคลมซ่อมสี-ตัวถัง ที่ ไพรม์มัส พัทยา” ทั้งมีบริการนัดหมายล่วงหน้า และติดตามสถานะการซ่อมในทุกขั้นตอนอีกด้วย
สัปดาห์หน้า! เมืองพัทยารับปากเตรียมปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะ หลังชาวบ้านร้องสัตว์มีพิษชุกชุม
ตามที่มีประชาชนที่พักอาศัยภายในเจ๊ะมะดีแมนชั่น ซอยสุขุมวิท 28 (ตัดโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา) กับสื่อมวลชน อยากให้เมืองพัทยาส่งเจ้าหน้าที่มาทำการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะหลังห้องเช่า ซึ่งรกร้าง และอาจเกิดอันตรายจากสัตว์มีพิษที่ชุกชุมในช่วงที่มีฝนตก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่อกรณีดังกล่าวว่า ด้วยพื้นที่สาธารณะดังกล่าวเป็นพื้นที่ของเอกชนที่มอบให้กับทางเมืองพัทยาเป็นที่สาธารณะมานานแล้ว แต่เนื่องด้วยเป็นซอยตัน เมืองพัทยาจึงพิจารณาว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะดำเนินการทำถนน แต่ในปัจจุบันความเจริญมากขึ้น จึงเห็นควรจะต้องมีการเสนองบประมาณเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน
ที่ผ่านมาเมืองพัทยาเคยเข้าไปจัดการพื้นที่ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ต่อมามีการปิดทางเข้าจึงไม่ได้เข้าไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันพบว่าได้เปิดพื้นที่ทางเข้าแล้ว และจะได้ส่งเจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาลเข้าไปดำเนินการเคลียร์พื้นที่ในเบื้องต้นก่อนในวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เพื่อแก้ไขปัญหาให้ขาวบ้านในการเบื้องต้น ส่วนของโครงการทำถนนเส้นดังกล่าว เมืองพัทยาจะเสนอตั้งงบประมาณในปี 2568 ต่อไป