คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / 4โจร!! ปล้นอุกอาจกลางเมืองสะหวันนะเขต สปป.ลาว! อาวุธสงครามครบมือ กวาดทองกว่า 300บาท ตม.มุกดาหารคุมเข้ม! สกัดคนร้ายปล้นร้านทองสะหวันนะเขต

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 15:40 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุระทึกกลางเมืองสะหวันนะเขต สปป.ลาว คนร้าย 4 คนแต่งชุดดำ สวมหน้ากากอำพรางใบหน้า ใช้อาวุธสงครามบุกปล้นร้านคำ(ทอง) “มาลัย” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าคิวรถโดยสารประจำทาง

ผู้ก่อเหตุลงมืออย่างอุกอาจในช่วงกลางวันแสก ๆ ก่อนหลบหนีขึ้นรถยนต์ Chevrolet สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มุ่งหน้าออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว

ล่าสุด เจ้าของร้านทอง “มาลัย” ประกาศตั้งรางวัลนำจับสูงถึง 500 ล้านกีบ สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ พร้อมทองรูปพรรณที่ถูกปล้นไป

ความคืบหน้าคดีปล้นร้านคำ(ทอง)มาลัย บริเวณหน้าคิวรถโดยสารนครไกสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เมื่อเวลา 15:40 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2568

ล่าสุด เจ้าหน้าที่พบ รถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ถูกจอดทิ้งและ จุดไฟเผา เพื่อทำลายหลักฐาน ที่บริเวณ สวนยาง ใกล้วัดพระธาตุอิงฮัง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง

ขณะนี้ คนร้ายทั้ง 4 คนยังคงหลบหนีอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ลาวได้กระจายกำลังไล่ล่าทั่วพื้นที่ เผารถหนี! โจรปล้นทองสะหวันนะเขต จุดไฟเผารถทิ้งใกล้พระธาตุอิงฮัง – หนีลอยนวล!

ตม.มุกดาหารคุมเข้ม! สกัดคนร้ายปล้นร้านทองสะหวันนะเขต

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.พิทักษ์พงษ์ เจริญกุล ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุปล้นร้านทองในแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่งานตรวจบุคคลและพาหนะ เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าฝั่งไทย เพื่อป้องกันการหลบหนีของผู้ก่อเหตุและการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายข้ามแดน

โดยให้ตรวจสอบรถโดยสารระหว่างประเทศขาเข้า อย่างละเอียด เพื่อป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการซุกซ่อนสิ่งของผิดกฎหมายสัมภาษณ์และคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า เพื่อประเมินพฤติกรรมที่น่าสงสัย ตรวจสัมภาระผู้โดยสารทุกรายผ่านเครื่องเอกซเรย์ของศุลกากร เพื่อค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี

นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการด้านการข่าวและการสืบสวน โดยมีการ บูรณาการข้อมูลร่วมกับฝ่ายลาว ได้แก่ ตม.ลาว และตำรวจแขวงสะหวันนะเขต เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ต้องสงสัย รวมถึงการประชาสัมพันธ์รูปภาพและข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้หน่วยงานความมั่นคงของไทยตามแนวชายแดนรับทราบ

พร้อมกันนี้ ยังสั่งการให้ ตรวจสอบรายชื่อและติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลต้องสงสัยหรือผู้มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงในพื้นที่ อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดหลบหนีหรือซ่อนตัวในประเทศไทย

ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร #ชายแดนมุกดาหาร #ปล้นร้านทองลาว #สะหวันนะเขต #ข่าวลาวไทย #ชายแดนเข้ม #ตรวจเข้มชายแดน #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้ #มุกดาหาร #ลาวไทย #ด่านพรมแดนมุกดาหาร​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส เฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันนี้ (19 ก.ค. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีปลงผมในกิจกรรมบรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของพุทธศาสนิกชน

โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และญาติพี่น้องผู้มีจิตศรัทธา ร่วมพิธีปลงผม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมอุปสมบท จำนวน 10 คน ณ วัดพรุใหญ่ หมู่ที่ 6 ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชุมพรร่วมกับคณะสงฆ์ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในจังหวัด

ได้ร่วมจัดกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้โครงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรของรัฐ ภาคี

เครือข่ายภาคเอกชน และประชาชน ได้มีโอกาสร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนในพระศาสนา มาปรับใช้เป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน อันจะนำไปสู่การอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างสันติสุข ตลอดจนเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามของไทย

สำหรับกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ กำหนดระหว่างวันที่ 19 – 30 กรกฎาคม รวมระยะเวลา จำนวน 12 วัน เมื่อบรรพชาอุปสมบทเรียบร้อยแล้ว จะจำวัดปฏิบัติธรรม ณ วัดพรุใหญ่ หมู่ที่ 6 ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

โดยได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากพระครูสถิตญาณปยุต เจ้าคณะตำบลทะเลทรัพย์ เจ้าอาวาสวัดพรุใหญ่ อำนวยความสะดวกด้านสถานที่ พระวิทยากร ภัตตาหารและน้ำปานะ อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาเป็นอย่างดียิ่ง

เร่งตรวจสอบซากสุนัขจรจัดตายหลายตัว

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพี เปิดเผยว่า นายนิกร คอนกำลัง นายก อบต.สะพลี ได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่งานกฎหมายและคดี และเจ้าหน้าที่ อบต.สะพลี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่

ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีสุนัขจรจัดเสียชีวิตหลายตัวในช่วงนี้ จึงเกรงว่าสุนัขอาจเป็นโรคติดต่อหรือโรคพิษสุนัขบ้า โดย อบต.สะพลีได้ประสานกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร ปศุสัตว์อำเภอปะทิว ผู้ใหญ่บ้าน และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ต.สะพลี อ.ปะทิว

ออกตรวจสอบและพบว่า สุนัขทุกตัวที่เสียชีวิตมีสาเหตุจากการติดเชื้อโรคหัดสุนัข แต่ไม่ได้เป็นโรคพิษสุนัขบ้าแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าของสุนัขที่เกรงว่าสุนัขของตนอาจติดเชื้อด้วย สามารถป้องกันการติดต่อได้โดยการนำสุนัขไปฉีดวัคซีน พร้อมกันนั้น อบต.สะพลียังได้ประชาสัมพันธ์

ให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุช่วยกันสังเกตสุนัขและสัตว์เลี้ยงของตน หากมีอาการป่วยหรือซึมผิดปกติ ต้องรีบพาไปพบสัตว์แพทย์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ

ส่วนสุนัขจรจัดที่เสียชีวิตก็ขอให้ฝังซากและพ่นยากำจัดเชื้อโรค อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบข้อมูลว่าโรคหัดสุนัขสามารถติดต่อหรือระบาดสู่คนได้ แต่เพื่อความปลอดภัยก็ควรมีการป้องกันไว้ก่อน

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ รับรางวัลหมวดชุดรักษาความปบอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) ดีเด่น รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในวันชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ประจำปี 2568”

แชร์เนื้อหานี้

16 กรกฎาคม 2568  เวลา 09.00 น. นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ  นำชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านแสนสุข หมู่ 5 ตำบลโนนสะอาด เข้ารับรางวัล “ หมวดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ขรบ.) ดีเด่น  รางวัลรองชนะเลิศอัน 2 จาก นายคารม  คำพูิทูรย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น  พร้อมกันนี้ได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.)ของอำเภอชุมแพ มาร่วมแสดงเนื่องในวันชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ประจำปี 2568   ณ ห้องประชุมแก่นเมือง  ศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น

สื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์ ขอนแก่น สื่อสร้างสรรค์ข่าวสารเพื่อท้องถิ่น

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กอ.รมน.จ. ส.ท. ลงพื้นที่มอบของช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย ในพื้นที่ อ.สวรรคโลก จว.ส.ท.

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อ เวลา 09.00ของวันที่17ก.ค.2568 พ.อ.พิทยา ราชะพริ้ง รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ท. (ท.) มอบหมายให้ พ.ท.ดุสิต อยู่นิ่ม หน.ฝ่ายนโยบายและแผนฯ พรัอมด้วย จนท.กอ.รมน.จังหวัด ส.ท. ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือครอบครัวของ พลทหารอัสนีย์ สีแดงสุวรรณ​ สังกัด​ ร้อย.ซ​บร​.1​ พัน.ซ​บร​.23​ บ​ชร​.3​ อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.8 ต.คลองยาง อ.สวรรคโลก จว.ส.ท. ได้รับผลกระทบจากวาตภัยเมื่อวันที่ 15 ก.ค.68 ทำให้หลังคาบ้านบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัย และครอบครัว พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบต่อไป
กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พาณิชย์ศรีสะเกษ ชวนชม ชิม ช้อป FUN FOOD FEST ตลาดเขียว โขง ชี มูล 2025 ศรีสะเกษ

แชร์เนื้อหานี้

***เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดงาน FUN FOOD FEST ตลาดเขียว โขง ชี มูล 2025 ศรีสะเกษ โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์

ซึ่งพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ภาครัฐและภาคเอกชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค. 68 เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ และสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์ของกลุ่มจังหวัด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

***นายจีระศักดิ์ ศรีเพชร พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญของ
ภาคและประเทศ

จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมตลาดสินค้าปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์ ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย และสินค้าเกษตรอินทร์ทรีย์ ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 จำนวน 45 ราย ประกอบด้วย จังหวัดศรีสะเกษ 29 ราย จังหวัดอุบลราชธานี 5 ราย

จังหวัดอำนาจเจริญ 6 ราย Food Truck 2 ค้น และกิจกรรมรณรงค์ การบริโภคผลไม้ ชื่องาน “Thai Fruits Festival 2025 @SISAKET” โดยมีผลไม้มังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ทุเรียนภูเขาจากศรีสะเกษ กิจกรรมส่งเสริมการขาย และการแสดงดนตรี

ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนที่ใครชอบชม ชิม ช้อป สามารถเดินเข้ามาในงาน FUN FOOD FEST ตลาดเขียว โขง ชี มูล 2025 ศรีสะเกษ ได้ที่ บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค. 68 นี้
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จนท.ปักธงแดงเตือนภัย หลังลำห้วยบังอี่น้ำแตะระดับวิกฤต – พบน้ำท่วมโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ลงพื้นที่สอดส่องโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมห้วยบังอี่ บริเวณสะพานข้ามห้วย

ในพื้นที่ตำบลหนองแวง และตำบลนากอก อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พบว่าในช่วงเวลานี้มีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในลำห้วยเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว จนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนของโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง

ขณะที่เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานมุกดาหาร ได้ติดตั้งป้ายแจ้งเตือนระดับน้ำและปักธงแดงบริเวณจุดเฝ้าระวังบ้านห้วยกอก สะพานข้ามห้วยบังอี่ หลังระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับวิกฤต (มากกว่า 7.00 เมตร)

โดยธงแดงถือเป็นสัญญาณแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมระดับวิกฤต โดยระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์วิกฤตเริ่มล้นตลิ่ง ให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ระวังภัยที่เกิดจากน้ำ และให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

อนึ่งขณะนี้ ได้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตตำบลหนองแวง และนากอก บางส่วนแล้ว

น้ำท่วมมุกดาหาร #ห้วยบังอี่ #ปักธงแดง #เตือนภัยน้ำท่วม #ธงแดงวิกฤต #ลำห้วยบังอี่ #นากอก #หนองแวง #นิคมคำสร้อย #น้ำหลาก #มุกดาหารวันนี้ #ข่าวน้ำท่วม2568 #ธรรมาภิบาลจังหวัดมุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /「พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หารือ UNODC ส่งเสริมความร่วมมือต้านยาเสพติดในภูมิภาค」

แชร์เนื้อหานี้

(15 กรกฎาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงยุติธรรม แจ้งวัฒนะ ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ นายเบเนดิกต์ ฮอฟมันน์ (Mr. Benedikt Hofmann) รักษาการผู้แทนสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิก (United Nations Office on Drugs and Crime Regional Representative ad interim for Southeast Asia and the Pacific) พร้อมคณะ

เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและหารือแนวทางความร่วมมือในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาค โดยมี นางยศวันต์ บริบูรณ์ธนา รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และนายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วม ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 11

ในการประชุมฯ ดังกล่าว ที่ประชุมได้หารือกันในประเด็นสำคัญ อาทิ การควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในไทยและในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ การพัฒนาความสอดคล้องของการบังคับใช้กฎหมายด้านยาเสพติด และมาตรการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในภูมิภาค การควบคุมกัญชาและกระท่อม ซึ่งยังไม่ได้อยู่ในบัญชีควบคุมตามอนุสัญญาระหว่างประเทศของ UNODC ตลอดจนสถานการณ์ผู้ต้องขังในคดียาเสพติดในประเทศไทยที่มีจำนวนมากกว่า 200,000 ราย

นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เชิญ UNODC ร่วมให้ความเห็นและมีบทบาทในการประชุมวิชาการสารเสพติดนานาชาติ ว่าด้วยยาบ้า เมทแอมเฟตามีน และยาเสพติดสังเคราะห์ (2025 International Conference on Drug Policy: Yaba, Methamphetamine, and Synthetic Drugs) ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 6 – 8 สิงหาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร โดย UNODC ยินดีสนับสนุนองค์ความรู้ในการประชุมดังกล่าว โดยเฉพาะข้อท้าทายในการพัฒนาความสอดคล้องของการบังคับใช้กฎหมายด้านยาเสพติด และมาตรการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในภูมิภาค

ในการนี้ UNODC ได้กล่าวชื่นชมบทบาทของไทยในการควบคุมยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้า ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญในระดับภูมิภาค รวมถึงการจัดการปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ในภูมิภาค ทั้งนี้ UNODC ได้เน้นย้ำว่าคณะอนุกรรมการควบคุมสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายในการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ อันจะส่งผลให้การแก้ปัญหายาเสพติดเกิดประสิทธิผลอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ UNODC มีกำหนดจัดการประชุมทางเทคนิคระหว่างประเทศว่าด้วยการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ (Regional Technical Meeting on Chemical Control) ณ กรุงเทพมหานคร โดยจะเรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานเปิดการประชุมฯ และร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานการจัดการสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เพืือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต้นแบบที่ดีของไทยให้กับประเทศต่างๆ ต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐทีวี/ ศึกษาธิการจ.น่าน จัดประชุมติดตามความก้าวหน้าการนำแผนพัฒนาการศึกษาจ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน จัดประชุมติดตามความก้าวหน้าการนำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดน่าน (พ.ศ.2566-2570) และแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดน่าน (พ.ศ.2566-2570) สู่การปฏิบัติของหน่วยงานทางการศึกษา
ในพื้นที่จังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 8.30 น. ณ ห้องประชุมศุภโชค ชั้น 3 อาคารอำนวยการวิทยาลัยการอาชีพเวียงสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยมี นายศิริโชค พิพัฒน์เสฐียรกุล ศึกษาธิการจังหวัดน่าน เป็นประธาน
การประชุม พร้อมบรรยายเป้าหมายการติดตามความก้าวหน้าการนำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดน่าน ฉบับทบทวน

พ.ศ.2568 แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดน่าน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 25 68 และคณะกรรมการติดตามความก้าวหน้าฯ ประกอบด้วย ว่าที่ร้อยตรีสมเดช อภิชยกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคประชาชน นายบุญยงค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน นางปิยะนุช ไชยสมทิพย์ ผอ.กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผล

นางสกนธรัตน์ วงศ์สิริโชตน์ ผอ.กลุ่มนโยบายและแผน นางพสชณันท์ พรหมจรรย์ และผู้รายงานผลการดำเนินงาน ประกอบด้วย นายสุทธิพงษ์ โชติพิสุทธิ์เมธี ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคน่าน นางสาวศศิรินทร์ มหาวงษนันท์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพเวียงสา นางสาววริทธิ์นันท์ จันทรมนตรี ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างน่าน และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของอาชีวศึกษาจังหวัดน่าน 4 แห่ง

ได้นำเสนอผลการดำเนินงาน สภาพปัญหา ความต้องการ และข้อเสนอแนวทางการดำเนินงาน ต่อจากนั้นคณะกรรมการร่วมกับที่ประชุมได้ระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายรายงานให้กระทรวงศึกษาธิการและที่เกี่ยวของให้ได้รับทราบต่อไป และในช่วงบ่ายคณะกรรมการได้เดินทางไปที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ วิทยาลัยน่าน ตำบลทุ่งศรีทอง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

เพื่อประชุมติดตามความก้าวหน้าการนำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดน่าน และแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดน่านดังกล่าว โดยมี นายภูดิท เรืองรอง คณบดี อาจารย์นิลุบล ศรีเทพ อาจารย์อิทธิโชตน์ โชติกุณพันธ์ และคณะ ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน

สภาพปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนวทางการดำเนินงาน ระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอ เชิงนโยบายรายงานให้กระทรวงศึกษาธิการและที่เกี่ยวของให้ได้รับทราบต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านสบปืน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ร่วมงานชุมนุมยุวเกษตรกร ระดับประเทศ ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นางสาวกัลยา เจนจิจะ ครูที่ปรึกษาและสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านสบปืน เข้าร่วมรับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน

ทรงเป็นองค์ประธานเปิดงานชุมนุมยุวเกษตรกร ระดับประเทศ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด ❝ ยุวเกษตรกรนวัตกรรม : สร้างสรรค์เกษตรยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืน ❞ (Innovative Farm Youth : Mindful Creativity for Sustainability)

โดยมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกร ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร

เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานยุวเกษตรกร วิทยากรและคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กว่า 500 คน เฝ้า ฯ รับเสด็จ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

โดยในพิธีเปิดมีการจัดนิทรรศการของกลุ่มยุวเกษตรกรต้นแบบที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จำนวน 12 นิทรรศการ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้กับการดำเนินงานพัฒนายุวเกษตรกรทั่วประเทศต่อไป ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตร ได้พัฒนายุวเกษตรกรไปแล้วมากกว่า 5,100 กลุ่ม

มีสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรในสถาบันการศึกษา กลุ่มยุวเกษตรกรนอกสถาบันการศึกษา และกลุ่มยุวเกษตรกรแบบผสม มากกว่า 67,000 คน ยุวเกษตรกรที่ผ่านการพัฒนาล้วนเกิดภาคภูมิใจ

และมีแรงจูงใจที่จะพัฒนาตนเอง นำไปสู่การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ภาคการเกษตรในอนาคต/บุญยงค์ สดสอาด น่ยกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

จัดทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ฯ ตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. นางณัติกานต์ บุญเจริญ หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดน่าน ลงพื้นที่เพื่อร่วมสนับสนุนการจัดทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ฯ ตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 วันที่ 14 มีนาคม 2566 วันที่ 11 ธันวาคม 2567 และวันที่ 8 เมษายน 2568 สถาบันเจ้าหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จำนวน 2 ราย ณ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาน่าน ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และผ่อนชำระเงินต้นคงค้างครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย สำหรับการชดเชยเงินต้นร้อยละ 50 และดอกเบี้ยในส่วนที่เกษตรกรไม่ต้องรับภาระ และค่าใช้จ่ายต่างๆ รัฐบาลจะรับภาระจัดสรรชดเชยให้กับธนาคารฯ เมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว

ทั้งนี้การดำเนินการจัดทำสัญญาตามโครงการฯ เป็นการดำเนินการ ตามมติคณะรัฐมนตรี เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

ข่าวประชาสัมพันธ์จากเกษตรอำเภอเชียงกลาง :
เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวลำไยเมืองเชียงกลาง! ที่ 1 ไม่แพ้ใคร ลำไยยืน 1 ต้องเชียงกลาง ชวนลิ้มลองความหวาน กรอบ อร่อยไม่เหมือนใคร !!

นายเรวัต พรมสาส์น เกษตรอำเภอเชียงกลาง “ประกาศ !!! เริ่มต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยอำเภอเชียงกลาง” โดยอำเภอเชียงกลาง มีพื้นที่ปลูกลำไยมากกว่า 8,000 ไร่ มีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดมากกว่า 6,000 ตัน พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสกับความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของลำไยเชียงกลางจากแหล่งผลิตคุณภาพของเรา!

…ลำไยเชียงกลาง… ความอร่อยที่เหนือกว่า หลายท่านอาจคุ้นเคยกับลำไย แต่ผมอยากจะบอกว่า ลำไยจากอำเภอเชียงกลางของเรามีความพิเศษไม่เหมือนใคร ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ดินที่เหมาะสม และอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ลำไยที่นี่มีรสชาติโดดเด่น คือ เนื้อหนา ไม่ฉ่ำน้ำ เม็ดเล็ก กลิ่นหอม รสชาติหวานกำลังดี และที่สำคัญคือ “ความกรอบ” อันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อได้ลิ้มลองแล้วจะติดใจจนวางไม่ลง

เกษตรกรอำเภอเชียงกลางปลูกลำไยด้วยความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลบำรุงรักษาต้นลำไยอย่างพิถีพิถัน การให้น้ำให้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวในระยะที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าลำไยทุกลูกที่ออกจากสวนของเราเป็นลำไยที่มีคุณภาพ พร้อมส่งตรงถึงมือผู้บริโภค

….สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงกลาง ขอเชิญชวนทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นชาวเชียงกลางเอง หรือผู้ที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาลิ้มลองความอร่อยของลำไยสดๆ จากสวนของเกษตรกรได้แล้ววันนี้! การสนับสนุนของท่านไม่เพียงแต่จะทำให้ได้สัมผัสกับลำไยคุณภาพดีเยี่ยมในราคาที่เป็นธรรม แต่ยังเป็นการช่วยสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องเกษตรกรของเราอีกด้วย

สามารถสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยได้ที่แปลงใหญ่ลำไยตำบลพญาแก้ว แปลงใหญ่ลำไยบ้านตึ๊ดใหม่ แปลงใหญ่ลำไยตำบลเชียงกลาง และแปลงใหญ่ลำไยตำบลพระพุทธบาท หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงกลาง 054-797103/เครดิต/ชาตรี ทำงาม สมาชิกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/บุญ ยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศุลกากรสนธิ​กำลัง​นรข.สกัดจับรถกระบะขนอะโวคาโดเถื่อน 140 ลัง​ น้ำหนัก​ 3,500 กิโลกรัม​ กลางปั๊มดังมุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนและปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ภายใต้การอำนวยการของนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และการสั่งการของนายภาคภูมิ เลิศวัฒนารักษ์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนฯ และนางสาวกัญญูณัฐ พิพัฒน์กิจไพศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนฯ ได้รับแจ้งเบาะแสว่าจะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในพื้นที่ตำบลผึ่งแดด อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ต่อมานายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร จึงได้มอบหมายให้นายสมชาย โชคเฉลิมวงศ์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ส่วนสืบสวนและปราบปราม ๑ กองสืบสวนและปราบปราม สนธิกำลังกับ นาวาโท รุ่งเรือง มาสุทธิ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ออกตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้รับ

เมื่อไปถึงบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาผึ่งแดด เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน บน 6275 นครพนม ซึ่งมีคอกเหล็กบรรทุกสิ่งของต้องสงสัยอยู่ด้านท้ายรถ โดยมีนายเจษฎา พุทธรักษา ชาวอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นผู้ขับขี่

เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจค้น พบผลไม้ชนิดอะโวคาโดจำนวน​ 1​40​ ลัง น้ำหนักประมาณ 3,500 กิโลกรัม ไม่มีเอกสารผ่านพิธีการศุลกากรที่ถูกต้อง และมีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ เมื่อตรวจสอบเบื้องต้น นายเจษฎาให้การว่าได้รับว่าจ้างให้ขนสินค้าจากตัวเมืองมุกดาหาร ไปส่งยังตลาดในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยไม่ทราบว่าของดังกล่าวมีแหล่งที่มาอย่างไร

เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมรถกระบะที่ใช้ในการกระทำความผิด ส่งมอบให้ด่านศุลกากรมุกดาหารดำเนินคดีตามกฎหมายศุลกากรต่อไป

ศุลกากร​มุกดาหาร​ #นรข. #สถานีเรือมุกดาหาร #จับของเถื่อน #อะโวคาโดเถื่อน #ของกลาง #นำเข้าไม่ได้เสียภาษี #ข่าวมุกดาหาร #จับกลางปั๊ม #ขนของผิดกฎหมาย #ข่าวภาคอีสาน #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​