คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว

ดร.ฉวีวรรณ คำพา นำผ้าพระกฐินพระราชทาน ร.10 ทอดถวาย ณ วัดใหญ่อินทาราม อ.เมือง จ.ชลบุรี

แชร์เนื้อหานี้

นำผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายพระสงฆ์ จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดใหญ่อินทาราม เป็นอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย โดยมีพระราชวัชรสิทธิสุนทร เจ้าอาวาส เป็นประธานสงฆ์รับผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ด้วย

โดยมีนางสาวฐิติลักษณ์ คำพา รอง ผวจ.ชลบุรี ร่วมเชิญผ้าไตรพระราชทานในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ โดยเสด็จเป็นพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ มีผู้จิตศรัทธาและพุทธศาสนิกชนชาวพุทธ ร่วมทำบุญสมทบ เป็นจำนวนเงิน 5 ล้าน กว่าบาท

ซึ่งการนำผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ซึ่งผู้ที่จะขอพระอนุญาตไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นหน่วยงานราชการ ขอให้เป็นผู้ที่ตั้งมั่นในบวรพระพุทธศาสนาและเป็นสุจริตชน ไม่ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติพระองค์ท่านก็จะพระราชทานให้นำผ้ากฐินพระราชทาน

ไปทอดถวายพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ ได้ ซึ่งได้มีข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ของ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ในพระบรมราชูปถัมป์ และ พนักงาน บริษัท ฉวีวรรณกรุ๊ป ตลอดจนประชาชนทั่วไปจำนวนมาก ได้มาร่วมกันทอดผ้ากฐินพระราชทานเพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

การทอดกฐิน คือ การถวายผ้ากฐินแก่พระสงฆ์ผู้จำพรรษาอยู่วัดใดวัดหนึ่งหรือสถานที่ใดที่หนึ่งครบ 3 เดือน เพื่อให้พระได้มีผ้าเปลี่ยนใหม่ โดยใน 1 ปี แต่ละวัดจะมีการรับกฐินเพียง 1 ครั้ง และจะต้องทำภายในเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันออกพรรษา

ผู้ทอดกฐินมีความเชื่อว่า การทอดกฐินเป็นพิธีบุญที่อานิสงส์แรง ได้บุญมาก เชื่อ่วาจะทำให้เกิดความมั่งคั่ง มั่นคงในโภคทรัพย์สมบัติและหน้าที่การงาน เป็นคนรูปงาม ผิวพรรณงาม เป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป และเป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส

สำหรับ กฐินพระราชทาน เป็นผ้าพระกฐินพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน และเครื่องกฐินแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ส่วนราชการ หน่วยงาน สมาคม หรือเอกชน ให้ไปทอดยังพระอารามหลวงต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งในปัจจุบันกรมการศาสนารับผิดชอบจัดผ้าพระกฐินและเครื่องกฐินถวาย

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รองนายกฯ พิชัย ประชุมบอร์ดกองทุนฯ อนุมัติ งบปี 68 กว่า 1,579 ลบ. ช่วยเหลือเกษตรกร ฟื้นฟู อาชีพหนี้เร่งด่วน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 20 ตึก 150 ปี กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ครั้งที่ 3/2567 พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศ. ดร. นฤมล ภิญโญสินวัตน์ รองประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เข้าร่วมประชุม โดยนายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้นำเสนอวาระที่สำคัญต่อที่ประชุม ดังนี้

วาระเพื่อพิจารณา ที่ประชุมเห็นชอบและอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณตามกรอบและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 วงเงินรวม 1,579,968,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในการบริหารสำนักงาน การฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร การจัดการหนี้ของเกษตรกร การซื้อทรัพย์ NPA คืนตามมติคณะรัฐมนตรี การใช้จ่ายเพื่อภารกิจฉุกเฉินของ กฟก. หรือตามคำพิพากษาถึงที่สุด รายจ่ายที่มีภาระผูกพันและเงินคงเหลือเพื่อดำเนินการอื่น ๆ

เห็นชอบปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง และมอบหมายให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร รายงานผลการดำเนินงานและขอปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบและมีมติต่อไปโดยเร็ว

เห็นชอบให้คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ตามอำนาจหน้าที่ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนหนี้ ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 กันยายน 2567 จำนวน 6,014 ราย 16,586 บัญชี มูลหนี้ 4,660,819,477.14 บาทเห็นชอบรายชื่อเกษตรกรที่เป็นหนี้ NPA (เพิ่มเติม) และอนุมัติซื้อทรัพย์ NPA คืนให้เกษตรกรจำนวน 24 ราย จำนวนทรัพย์สิน 33 แปลง ยอดเงินรวม 37,025,000 บาท

เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้โครงการส่งเสริมของรัฐ โดยให้เกษตรกรสมาชิกที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประเภทหนี้โครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร (คปร.) และโครงการแผนฟื้นฟูการเกษตร (ผกก.) เข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้ตามแนวทางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอดำเนินการ และให้สำนักงานแจ้งเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวได้รับทราบและเตรียมเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด รายงาน

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดยสำนักงานอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัด จัดแสดงผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ จากนักออกแบบรุ่นใหม่ พร้อมทดสอบตลาด ภายใต้ชื่องาน Meet The Designer : Eastern Lanna Fashion Show 2024 หวังสร้างและพัฒนานักออกแบบป้อนวงการแฟชั่นล้านนาตะวันออก เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคปัจจุบัน


เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น. ณ บริเวณลานข่วงน้อย ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน นางจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงานจัดแสดงผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ จากนักออกแบบรุ่นใหม่ พร้อมทดสอบตลาด ภายใต้ชื่องาน Meet The Designer : Eastern Lanna Fashion Show 2024 จัดโดยกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

ซึ่งประกอบไปด้วย จังหวัดน่าน แพร่ พะเยา และเชียงราย หรือเรียกว่ากลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออก มีกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ซึ่งมีศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากผ้าท้องถิ่นอันเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัด ซึ่งจำเป็นจะต้องพัฒนายกระดับการผลิตดังกล่าวในกลุ่มล้านนาตะวันออกให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต นักออกแบบ นักการตลาด สถาบันการศึกษา ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกันไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นล้านนาตะวันออก โดยการสร้างขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่มีความหลากหลาย ให้เกิดความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการผลิตและส่งออกสู่ตลาดสากล ทั้งในรูปแบบ Online และ Offline

การที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดยสำนักงานอุตสาหกรรมทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน แพร่ พะเยา และเชียงราย ได้ร่วมกันทำโครงการยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นล้านนาตะวันออกสู่ตลาดสากล กิจกรรมการสร้างนักออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแฟชั่นล้านนาตะวันออก จึงเป็นการเสริมสร้างความเข็มแข็งและขีดความสามารถให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นล้านนาตะวันออก ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากผ้าท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาภาคเหนือ พ.ศ. 2566-2570
ด้านนางสาวนิลเนตร โลหะพจน์พิลาศ อุตสาหกรรมจังหวัดน่าน กล่าวว่า กิจกรรมการสร้างนักออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแฟชั่นล้านนาตะวันออก มี

วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักออกแบบสำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจ ให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ มาตรฐานสู่ตลาดสากล ปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ตามความต้องการของตลาด ซึ่งมีกิจกรรมของโครงการ ได้แก่ 1) การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องการพัฒนาองค์ความรู้และออกแบบผลิตภัณฑ์แฟชั่นล้านนาตะวันออก และกิจกรรมเข้าค่ายพัฒนาสร้างนักออกแบบ 2) กิจกรรมออกแบบ และพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแฟชั่นล้านนาตะวันออก โดยการลงพื้นที่ให้คำปรึกษาด้านการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ และจัดทำผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 3) จัดแสดงผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ และจัดประกวดผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบ พร้อมทดสอบตลาด ซึ่งได้แก่การจัดงานในครั้งนี้


สำหรับการจัดกิจกรรมแสดงผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ พร้อมทดสอบตลาดในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมสุดท้ายของโครงการ กำหนดจัดในระหว่างวันที่ 1 – 3 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณลานข่วงเมืองน่าน ทั้งนี้เพื่อนำผลิตภัณฑ์ต้นแบบแฟชั่นล้านนาตะวันออก ทั้งเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ จากนักออกแบบจังหวัดน่าน แพร่ พะเยา และเชียงราย ที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 41 ราย/ผลงาน มาจัดแสดงเพื่อทำการทดสอบตลาด ภายใต้ชื่องาน Meet The Designer : Eastern Lanna Fashion Show 2024 โดยการจัดทำแบบสอบถามผู้เข้าร่วมชมงานเป็นรายผลิตภัณฑ์ และนำข้อมูลที่ได้มาประมวลวิเคราะห์ในเชิงสถิติ และสรุปผลนำเสนอแก่เจ้าของผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป

นอกจากนี้ยังกิจกรรมในงาน ได้แก่ การจัดประกวดผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์จากผู้เข้าร่วมโครงการ/ การจัดแสดงแฟชั่นโชว์ผลงานที่ได้รับการพัฒนา โดยนายแบบนางแบบมืออาชีพ / กิจกรรม Business Matching ซึ่งจะเป็นการพบปะเจรจาระหว่างนักออกแบบของโครงการ กับผู้ประกอบการที่ต้องการหานักออกแบบสินค้าแฟชั่น เพื่อร่วมมือสร้างสรรค์งานแฟชั่นล้านนาในอนาคต ซึ่งได้แก่กิจกรรม Meet the Designer /การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของนักออกแบบ และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 20 บูธ / และการแสดง ดนตรีเพื่อความบันเทิงเป็นประจำทุกวันนางจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นกิจกรรมที่สำคัญเพราะจะเป็นการพบปะระหว่างนักออกแบบรุ่นใหม่ กับกลุ่มผู้ประกอบการ Meet The Designer นักออกแบบจะได้มีโอกาสนำเสนอผลงาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นสอบถามถึงผลงานที่ตัวเองได้สร้างสรรค์ จากองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเมื่อนำผลงานมาทำการทดสอบตลาดจาก ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคที่มาร่วมชมงาน

จะทำให้ทราบว่าาผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามา ตรงกับความต้องการหรือไม่ และ/หรือจะมีข้อเสนอแนะในการพัฒนาอย่างไรหรือไม่ ซึ่งข้อมูลจากการทดสอบตลาดที่ได้ สามารถนำไปประกอบการพัฒนาการออกแบบและพัฒนาแฟชั่นของตนเองต่อไป นอกจากนี้การจัดแสดงผลงานและทดสอบตลาดในครั้งนี้ ยังจะเป็นการประชาสัมพันธ์แฟชั่นล้านนาให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และขยายช่องทางการตลาดให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายต่อไปอีกด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อาคันตุกะเจ้าเมืองบางแก้ว นานาชาติ เทศบาลเมืองบางแก้ว ร่วมกับ PTT Park Mall หนามแดง สมุทรปราการ

แชร์เนื้อหานี้


นายบุญชู กรานรอด รองนายกเทศมนตรีรักษาการ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว และนายกฤษฏากรณ์ หวังพาณิชย์สกุล ผู้บริหารPTT Parkmall ร่วมตอบสนองนโยบายSoft Powerส่งเสริมประเพณีลอยกระทง กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยววิถีพุทธ จัดโครงการ ^งานประเพณีลอยกระทงนานาชาติ เทศบาลเมืองบางแก้ว ร่วมกับPTT ปาร์คมอลล์^

ในวันที่15-24 พฤศจิกายน(10วัน) โดยมีไฮไลท์ 7 กิจกรรม 2 คอนเสริ์ท กล่าวคืองาน 4 วัน 15,16,17,23 พฤศจิกายน2567 สมัครล่วงหน้า😇ประกวดหนูน้อยนพมาศ ชิงมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยรางวัล เงินรางวัล เกียรติบัตรจากเทศบาลเมืองบางแก้วและptt park mall ,วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน2567
ประกวดหนูน้อยนพมาศ( Junior4-9 ปี(senior10-16ปี) ,วันที่16 พย ประกวดนพมาศนานาชาติได้รับการตอบรับอาทิประเทศต่างๆดังนี้ ไชปรัสเหนือ อิตาลี่ อินโดนีเชีย เกาหลี เนปาล อินเดีย ศรีลังกา กัมพูชา บังกลาเทศ ตุรกี พร้อมการแสดงทางวัฒนธรรมนานาชาติ ,

วันที่17 พย ประกวดนพมาศสาวน้อย(นพมาศอาวุโสอายุ 45-90ปี )+ประกวดนพมาศสัตว์เลี้ยง ( น้องหมาแมว) ,วันที่23 พย ประกวดเทพบุตรหนุ่มนพมาศ( ชายแท้+ชายทอมบอย อายุ 13-45 ปี) ทั้งนี้ได้ชิงเงินรางวัล เงินสดมงกุฎสายสะพายและรางวัลอื่นๆรวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท ทั้งนี้ ยังมีคอนเสิร์ตในวันที่ 20 พย ศิลปินเนสกาแฟ ศรีนคร,ในวันที่ 22 พย ศิลปินวงเสียงอีสาน
ภายในงาน ยังมีการออกบูธจากร้านผลิตภัณฑ์โอท๊อป ของดีจากบางแก้ว อาหารและเครื่องดื่มและช้อปปิ้งต่างๆ นักแสดงนำจากค่ายมหามงคลฟิล์ม , แพรว AF , สิตางคุ์ บัวทอง กรรมการตัดสิน น้องหมาแมวนพมาศ มากมาย

ท่านนายบุญชู กรานรอด นายกเทศมนตรีรักษาราชการนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ‘‘รู้สึกเป็นเกียรติที่ทางบางแก้วจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานประเพณีลอยกระทงซึ่งในปีนี้ได้จัดอย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายนถึงวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายนโดยมีไฮไลท์กิจกรรมหลักๆทั้งหมด7 กิจกรรมและ2 คอนเสิร์ต กล่าวคือมีทั้งกิจกรรมด้านการออกร้านผลิตภัณฑ์ โอท๊อปของชาวบางแก้วและคอนเสิร์ตและมีกิจกรรมการประกวดต่างๆอาทิการประกวดหนูน้อยนพมาศ การประกวดกระทงสวยงาม

การประกวดนพมาศสัตว์เลี้ยง การประกวดนพมาศสาวน้อย การประกวดเทพบุตรหนุ่มนพมาศและยังมีการแสดงทางวัฒนธรรมจากนานาชาติ ได้เข้าร่วมกว่า 10 ประเทศ ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีอันดีงามที่มีมาตามพุทธประวัติ และถือเป็นประเพณีที่ทั่วโลกรู้จัก ในปีนี้ เทศบาลเมืองบางแก้วจะจัดยิ่งใหญ่และเป็นกิจกรรมที่จะจัดหลักทุกปีเพื่อให้สืบสานประเพณีด้านวัฒนธรรมลอยกระทงนั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกตลอดไป ’’

   นายกฤษฎากรณ์ หวังพาณิชย์สกุล กล่าวอีกว่า ‘ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ทางท่านรองนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้วได้ตอบรับและสนับสนุน กิจกรรมของทางโครงการพีทีทีปาร์คมอลล์ โครงการเราเป็นคอมมูลนิตี้มอล์ลที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบางแก้ว เป็นศูนย์รวมกิจกรรมในย่านนี้มีทั้งปั๊มน้ำมัน ปตท ตลาดสด สวนสาธารณะ ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต เซเว่น คาเฟ่อเมซอน รวมถึงแลนด์มาร์คต่างๆ และร้านอาหารแอร์บัสเครื่องบินที่มีความน่าสนใจ เราเคยจัดงานลอยกระทง ประกวดหนูน้อยและนางนพมาศปีก่อนๆ ก็ได้รับความสนใจจากชาวบางแก้วและคนต่างพื้นที่ ในโครงการเรามีพื้นที่ในการจัดกิจกรรมลอยกระทงที่พร้อม ต้อนรับแขกท้องถิ่นและขอเชิญทุกท่านเป็นอาคันตุกะร่วมกับโครงการในการต้อนรับนานาชาติกว่า 300 คน
ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย และในปีนี้เราได้จัดงานขึ้นอีกครั้งโดยได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งผมคาดคะเนว่าในแต่ละวัน คนจะเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 2,000 ถึง 3000 คน ส่วนด้านการดูแลความปลอดภัยก็จะมีหน่วยงานของรัฐเช่นสภ. บางแก้วมาดูแล และเรายังจัดสถานที่จอดรถกว่า9 ไร่ข้างปั้ม ไว้สำหรับรถที่เข้ามาร่วมงานลอยกระทงในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานในครั้งนี้จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนจะจดจำความประทับใจและร่วมภาคภูมิใจกับการจัดงานโครงการประเพณีลอยกระทงนานาชาติเมืองบางแก้วด้วยครับ
    
ซึ่งงานในครั้งนี้ได้มอบหมายให้กับบริษัท มหามงคลฟิล์ม สตูดิโอ โปรดักชั่นจำกัด ผู้ผลิตละครเทิดพระเกียรติ ฯทางช่อง9Mcot เป็นผู้จัดกิจกรรมในงานส่วนไฮไลท์ ^ผมได้รับเกียรติจาก คุณ กฤษฎากรณ์ หวังพานิชย์สกุล ผู้บริหารที่ไว้วางใจในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งปีก่อนๆ ผมเคยร่วมกิจกรรมและนำกองถ่าย ผลิตละครเทิดพระเกียรติและละครธรรม ทางช่อง9 MCOT มาถ่ายทำที่โครง

PTT Park mall มากกว่า 10 โลเคชั่น และ ผมก็เคยได้เข้ามาร่วมกิจกรรมของการประกวดนพมาศที่นี่ในปีก่อนๆ และในปีนี้ผมได้รับการไว้วางใจที่จะมาดูกิจกรรมของโครงการในครั้งนี้เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่ที่สุด และเรายังเป็นแมวมองที่จะพิจารณาคนเข้าประกวดในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนูน้อย หนุ่มหล่อ สาวสวย หรือแม้แต่ สาวน้อยอาวุโส ที่มาปรากฏทั้งหมดในการมีส่วนร่วมกับการทำละครของบริษัทในครั้งต่อๆไป
ในครั้งนี้ได้แต่งตััง นักแสดงต้นแบบจากค่ายมหามงคลฟิล์ม สตูดิโอ โปรดักชั่น ทั้งหมดเป็นระดับพระเอกนางเอกของละครเทิดพระเกียรติ และละครสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทางช่อง9 MCOT ทั้ง4 ท่านได้แก่ น้องคากิ ชนชญา งามเจริญ , น้องแอนโทนี่ แอนโทนีโอ จุลพงษ์ โกเมซ, น้องแพรไหม ศิวาพัชญ์ เบญจไตรพัฒน์ , น้องนักรบ ก้องภพ สว่างเรือง สนใจสอบถามรายละเอียดการประกวดได้ที่ 083-0055-484 id-line Harajuku999 หรือรับใบสมัคร ได้ที่เทศบาลเมืองบางแก้ว 02-7102784ฝ่ายกิจกรรม / โครงการพีทีทีปาร์คมอลล์ หนามแดง 062-0497774
น้อง ปุ๊กกี้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฉก.ตร.นราธิวาส 93 สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีไทยร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีวัดขวัญไม้งามสืบสานประเพณี

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (20 ตุลาคม 2567) ที่วัดขวัญไม้งาม ม.10 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทศม ม่วงเกษม ผบ.ฉก.ตร.นธ.93 มอบหมายให้
พ.ต.ท.สุเทพ สังวรกิตติวุฒิ รองผบ.ฉก.ตร.นธ.93 ผบ.ร้อย932 ผบ.ร้อย933 ชป.กร. ร่วมกิจกรรมกิจกรรมทอดกฐิน โดยมีพระครูสิทธิคุณาทร เจ้าอาวาสวัดขวัญไม้งาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

คุณพ่อเล็ก ผุดผ่อง / คุณเเม่ปิ่น ผุดผ่อง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและประชาชนทั่วไปทอดกฐินสามัคคีเพื่อถวายปัจจัยบูรณะโบสถ์เพื่อใช้ประโยชน์ในการบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างอุโบสถให้กับทางวัดได้ใช้ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาตามประเพณีชาวพุทธที่ถือปฏิบัติกันมาทุกปีหลังออกพรรษา

ด้วยพุทธบริษัทบ้านไม้งาม และพุทธบริษัททั้งหลายได้นำผ้ากฐินมาทอดถวาย เพื่อให้พระภิกษุได้รับอานิสงค์แห่งการจำพรรษาตามพระวินัยบัญญัติ และเพื่อนำปัจจัยที่ได้รับจากการอนุโมทนาร่วมบุญในการทอดกฐินในครั้งนี้ นำไปสร้างอุโบสถที่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมงานบุญทอดกฐิน โดยความพร้อมเพรียงกัน

โดยการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธ และส่งเสริมอัตลักษณ์ในพื้นถิ่น สำหรับวัดขวัญไม้งามเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนชาวพุทธในพื้นที่มาอย่างยาวนาน เพื่อเป็นการสืบทอดอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการทำบุญทอดกฐิน และเป็นการปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่และประชาชนเกิดความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามตลอดจนเพื่อจรรโลงไว้ให้ชนรุ่นลูกรุ่นหลานได้นับถือสืบทอดตลอดไป

สำหรับการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี เพื่อร่วมกันสืบทอดอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการทำบุญและปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม โดยปัจจัยที่ได้จากบริวารกฐิน ทั้งนี้ทางวัดจะนำปัจจัยดังกล่าวไปใช้พัฒนาวัดต่อไป
/////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศึกรวมใจชาวหนองปรือ และ ศึกวัน อบต.พีท + จิตรเมืองนนท์

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ศึกรวมใจชาวหนองปรือ ประธานจัดการแข่งขัน นายสุเมธ วิทยะประสาท(ผู้ใหญ่โขง) และผู้สนับสนุน นายกมล ธันยาวาท และนายพิสิษฐ์ ธนบุญเกียรติ และขาดไม่ได้ถ้าไม่มี 2โปรโมเตอร์ อบต.พีท คิวโชควิทยา จัดมวยมันๆ15คู่ให้ชมฟรี ศึกรวมใจชาวหนองปรือ และทีมงานผู้ใหญ่บ้านได้นำกับข้าวขนมจีนมาให้รับประทานเฟรีอีกด้วย ณ ตลาดหนองปรือ ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

วันที่ 25 ตุลาคม 2567
ศึกวัน อบต.พีท + จิตรเมืองนนท์
นายจิรวัฒน์ ลออรุ่งเรืองกิจ (กำนันตำบลหนองไผ่แก้ว)
ประธานจัดการแข่งขัน และผู้สนับสนุน นายทนงศักดิ์ ผลเจริญสมบูรณ์ นายก อบต.หนองไผ่แก้วและ สมจิตร แว่นแก้ว เจ้าของค่ายมวยจิตเมืองนนท์ และซ้อเอ๋ จิตเมืองนนท์ ได้นำมวยดีๆมาชกในรายการนี้ให้แฟนมวยรับชม และศึกครั้งนี้ขาดไม่ได้ถ้าไม่มี 2 โปรโมเตอร์นี้ คิว โชควิทยา และอบต พีท จัดรายการมวยดีๆให้(ชมฟรี 15 คู่)ให้แฟนมวยได้รับชมกันอย่างจุใจและแฟนมวยมาชมศึกนี้กันอย่างมากมายในการจัดงานในครั้งนี้ ณ.เวทีมวยชั่วคราวป่ายุบนอก ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
เอ คนข่าวรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดแถลงข่าว การขับเคลื่อนการพัฒนา จ.น่าน งานตามนโยบายและแผนพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว เยี่ยวยาผู้ประสบอุทกภัย

แชร์เนื้อหานี้


วันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตรวรปัญโญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ สัสดีแพง ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน เป็นประธานในการแถลงข่าวประจำเดือนตุลาคม 2567 ต่อสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในแต่ละเดือน พร้อมนำเสนอผลการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และการให้ความช่วยเหลือเยี่ยวยาผู้ประสบอุทกภัยด้านนางภัทรภร ชัยวัฒนกุล วัฒนธรรมจังหวัดน่าน ได้นำเสนอการจัดการประกวดเรือสวยงาม การประกวดเรือแข่งจำลอง ในงานประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน 26 – 27 ตุลาคม 2567 หลักเกณฑ์การตัดสินเรือสวยงาม ประจำปี 2567คุณสมบัติเรือที่จะส่งเข้าร่วมประกวดเรือประเภทสวยงาม

ต้องเป็นเรือแข่งเมืองน่าน ที่มีองค์ประกอบตามประกาศของสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน การตัดสินเรือแข่งจำลองเมืองน่าน ประจำปี 2567 คุณสมบัติเรือแข่งจำลองเมืองน่านที่จะส่งเข้าร่วมประกวด เรือแข่งจำลองเมืองน่านที่ส่งเข้าประกวดต้องส่งเป็นลำ มีขนาดความยาวไม่เกิน 1.50 เมตร โดยมีองค์ประกอบ เช่น ทำจากไม้ (วัสดุธรรมชาติ) ห้ามใช้ไม้สังเคราะห์ เรือแข่งจำลองเมืองน่าน ต้องแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของเรือแข่งเมืองน่าน มีหัวเรือ หางเรือ แกะสลักลวดลายให้มีความประณีตงดงาม มีองค์ประกอบครบตามแบบเรือน่าน เป็นต้น และกิจกรรมตักบาตรเติมบุญ หน้าคุ้มหลวงนครน่าน ทุกเช้าวันศุกร์ โดยจะเริ่มกิจกรรม ครั้งที่ 1 ในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม

และวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดน่าน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้ร่วมทำบุญตักบาตร เพื่อการสืบทอดพระพุทธศาสนา การอนุรักษ์สืบสานวิถีชีวิต ชาวน่านในอดีต ที่จะทำบุญตักบาตรหน้าบริเวณคุ้มหลวงนครน่านแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ใจกลางเมืองเก่าน่าน พื้นที่ประวัติศาสตร์หน้าคุ้มเจ้าหลวงเมืองน่านเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดน่าน กิจกรรม ทำบุญตักบาตร เติมบุญ หน้าคุ้มหลวงนครน่าน ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ทางจังหวัดได้กำหนดจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองเก่าน่าน ที่จะขับเคลื่อนเมืองเเก่าน่าน สู่เมืองมรดกโลก ควบคู่กับ สปป.ลาว จัดโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน


ด้านนางศุภรดา กานดิศยยากุล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองเก่าน่าน กล่าวถึง จังหวัดน่าน "เมืองเก่าที่มีชีวิต" คว้าเหรียญทองแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก Green Destinations Award 2024 เหรียญทองแรกของอาเซียน และเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย. พร้อมทั้งเร็วๆนี้ทาง อพท.จัดกิจกรรมเชิญชวนชาวน่าน มาชิม มาช๊อป เชื่อมโยงกับเหล่า CREATORS อาหาร ผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมหลากหลายไอเดียของเมืองน่าน NAN CONNECT : ป๊ะกั๋น ปั้นเมือง ในวันเสาร์ - อาทิตย์ 26 - 27 ตุลาคม 2567 เวลา 13.00 - 18.00 น ณ ลานต่อสุข (ข้างเฮือนฮังต่อ) 
นายแพทย์ภุชงค์ ชื่นชม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวถึง สถานการณ์โรคสเตรปโตคอกคัส ซูอิส จ.น่าน หรือสถานการณ์โรคไข้หูดับในพื้นที่จังหวัดน่าน สถานการณโรคสเตรปโตคอกคัส ซูอิส จ.น่าน ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 16 ตุลาคม 2567 สสจ.น่าน ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคนี้ จํานวน ทั้งสิ้น 8 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 1.67 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย (อ.ภูเพียง) ทั้งนี้สาเหตุการเกิดโรค การรับประทานลาบหมูดิบ ลาบเนื้อดิบ(ควาย) และรับประทานเนื้อหมูสุกๆดิบๆ ผลการสอบสวนโรคผู้ป่วยสเตรปโตคอกคัส ซูอิส จ.น่าน ปี 2567 (ผู้ป่วยเสียชีวิต) ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 65 ปี มีโรคประจําตัวคือโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง อาชีพรับจ้าง (ช่างทาสี) บ้านหัวเวียงเหนือ ตําบลฝายแก้ว อําเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

คําแนะนำสําหรับประชาชนทั่วไปหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ หมูที่ป่วยหรือตายจากโรค การปรุงอาหาร ควรนําเนื้อสุกรมาปรุงสุกเท่านั้นไม่ควรบริโภคเนื้อสุกร เลือด และอวัยวะภายในที่ดิบๆ หรือปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ หลู้ เป็นต้น เลือกบริโภคเนื้อหมูที่มาจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน หมูที่ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์ปลอดจากเชื้อโรคไม่ใช้เขียงหมูดิบในการหั่นอาหารอื่นที่จะรับประทานโดยไม่ปรุงสุกเพิ่ม เช่น ผักสด ผลไม้สด หรืออาหารอื่นที่สุกแล้ว เพราะจะทําให้มีการปนเปื้อนเชื้อโรค การเลือกซื้อเนื้อสุกรเพื่อบริโภคควรเป็นเนื้อสุกรที่สด ไม่มีสีแดงคลํ้าหรือมีเลือดคั่งมากๆหรือเนื้อแดงมีเลือดปนผิดปกติ โดยล้างมือก่อนและหลังสัมผัสเนื้อหรืออวัยวะของสุกรที่จําหน่าย โดยเฉพาะหากมีบาดแผลบริเวณที่สัมผัส
นอกจากนี้ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่านกล่าวเชิญชวนชาวน่าน ร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่2 พฤศจิกายน 2567ณ หนองน้ำครก ตำบลลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่านรีบสมัครก่อน วันที่ 25 ตุลาคม 2567 โดยสมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

   ด้านนายวรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวถึง เรื่องเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 9,000 บาท ทั้งนี้ได้มีการสรุปข้อมูลผู้ประสบภัยจังหวัดน่านยื่นขอรับความช่วยเหลือตามมติ ครม. ข้อมูล ณ 16 ต.ค.67 มีผู้ประสบภัยยื่นคำขอ ทั้งหมด 17,708 หลัง ตรวจเอกสารครบถ้วน 11,517 หลัง อยู่ระหว่างตรวจ 5,715 หลัง รอดำเนินการ 156 หลัง ในรอบที่ 1 อำเภอที่ไม่มีผู้อื่นคำขอรับการช่วยเหลือ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอนาหมื่น อำเภอบ่อเกลือ อำเภอแม่จริม และอ๋าเภอสันติสุข
ด้านผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน กล่าวถึงประเด็นความคืบหน้าการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางจากอุทกภัยที่ผ่านมา พร้อมแจ้งช่องทางรับ (เอกสารหลักฐานประกอบ)  เบื้องต้นช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์แล้ว จำนวน 188 ราย
ด้านนายสายัณห์ ไชยยศ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาน่าน กล่าวถึงคาดการณ์สภาพภูมิอากาศการเข้าสู่ฤดูหนาว คาดหมายลักษณะอากาศประเทศไทยตอนบนและจังหวัดน่าน แต่ละช่วงในฤดูหนาว ช่วงปลายสัปดาห์ที่3ของเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับมีอากาศหนาว บางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค และมีหมอกในตอนเข้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของ พื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม อากาศจะหนาวเย็นมากขึ้น โดยมีอากาศหนาวเย็น เกือบทั่วไป และมีอาศหนาวจัดโดยเฉพาะบริเวณตอนของภาค
  ด้านนายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานน่าน รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวน่าน หลังช่วงฟื้นฟู และการเตรียมพร้อมช่วงไฮซีชัน ประมาณการสถานการณ์ช่วงวันหยุดยาววันที่ 12 - 14 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา อัตราการพักเฉลี่ย 80% ผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 23,000 คน รายได้ประมาณ 40.57 ล้านบาท  ประมาณการจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในปี 2567 แนวโน้มการเติบโตคงที่ประมาณการ : 1,589,295 (คน-ครั้ง) ประมาณการรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2567 แนวโน้มการเติบโตคงที่ ประมาณการ : 4,621.58 ล้านบาท
โอกาสด้านการท่องเที่ยวจังหวัดน่านอยู่ในกระแสหลักของการท่องเที่ยวเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วง High Season นี้น่านมีความพร้อมในการฟื้นตัวของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พักและเส้นทางเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season นี้ในช่วง High Season มีการเพิ่มเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกเป็นจำนวน 10 เที่ยวบิน/วัน
มาตรการ 'แอ่วเหนือคนละครึ่ง'เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหลังภาคเหนือเผชิญน้ำท่วมหนัก ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างรวบรวมสินค้าและแพ็กเกจท่องเที่ยวต่างๆ ลงบนแอปพลิเคชันเบส (Application Base) ของ ททท. เพื่อให้โรงแรม
ที่พัก และร้านค้าต่างๆ สามารถเข้าร่วมโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งได้โดยประชาชนที่สนใจสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชันเบสเพื่อรับสิทธิได้เลย ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในวันที่ 1 พ.ย. 2567 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวภาคเหนือหลังน้ำลด โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนด้วยการจ่ายค่าสินค้าท่องเที่ยว 400 บาท/คน/ทริป ส่วนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจ่ายอีก 400 บาท/คน/ทริป หากใช้จ่ายมากกว่านั้น ประชาชนจะต้องเป็นผู้จ่ายเอง/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/

ทีมข่าวสมาคม รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รรท.สภ.สามกระทาย มอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานข้าราชการ ตำรวจ/ทำบุญออกพรรษา ขับรถประสานงากัน เสียชีวิต 1 ราย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 18 ตุลาคม 2567 พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน รักษาราชการแทน ( รรท. ) .สภ.สามกระทาย อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “วันตำรวจ” พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน รรท.สภ.สามกระทาย  จัดให้มีการอ่านสารของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรและธิดาของข้าราชการตำรวจ สภ.สามกระทาย จำนวน 10 ทุนๆ ละ 1,000 บาท โดยได้รับการสนับสนุน จาก ร้อยตำรวจโท ทนงศักดิ์ ทองแก้ว รอง สว (ป)กก.5 บก.ปทส.เป็นผู้สนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจ

นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีการทำบุญเลี้ยงพระ และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพศรัทธาของตำรวจ และประชาชน ในพื้นที่ สภ.สามกระทาย

ทำบุญออกพรรษา ขับรถประสานงากัน เสียชีวิต 1 ราย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 ตุลาคม 2567 ร.ต.ท.ณัฐพร จุลเพ็ชร รอง สวส.สภ.ห้วยยาง ช่วยราชการ สภ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม – ตะแบกโพรง โค้งปากทางเข้าวัดวังยาง หมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จึงพร้อมด้วยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบ รถยนต์ กระบะโตโยต้า ตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บท 4561 ประจวบฯ ชนประสานงากับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีขาวดำ ทะเบียน 1 กข 4800 ประจวบฯ จนรถจักรยานยนต์ มุดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถกระบะได้รับความเสียหายยับเยินฝั่งซ้ายขาออกถนนเพชรเกษม ผู้บาดเจ็บกระเด็นไปห่างกว่า 5 เมตร ทราบชื่อภายหลัง น.ส.อารีย์ หนูถึง อายุประมาณ 52 ปี โดยได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าบวมปูด ขาข้างซ้ายหักผิดรูป มีเลือดไหลนองพื้น เจ้าหน้าที่มูลนิธิเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทำ CPR เนื่องจากผุ้ได้รับบาดเจ็บมีชีพจรอ่อนลง จากนั้นเร่งนำตัวส่งยัง รพ.ทับสะแก แต่เสียชีวิตระหว่างทาง

จากการสอบถาม นายปราโทย์ ทองห่อ อายุ 64 ปี ให้การว่า ตนเองได้ไปทำบุญตักบาตรที่วัดบ้านตะแบกโพรงมา กำลังจะออกไปทำบุญอีกวัดหนึ่ง ก็ขับรถมาปกติ เมื่อมาถึงทางโค้งหักศอก ผู้บาดเจ็บซึ่งจะเข้าไปทำบุญที่วัดวังยาง ได้เลี้ยวขวาจะเข้าไปทางวัดวังยาง ตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ทำให้เกินประสานงากันจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงโค้งแยกเข้าวัดวังยาง เป็นโคงหักศอกอันตรายมาก มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วหลายราย ผู้ที่มาจากถนนเพชรเกษม จะเลี้ยวขวาเข้าไปทางวัดวังยางจะต้องเลยไปให้เห็นรถทางฝั่งตรงข้ามก่อนแล้วค่อยเลี้ยว เพื่อความปลอดภัย

///////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทีมฟุตซอล อนุบาลหนองปรือ ขอพรศาลตายาย สู้ศึกกีฬา นร.ท้องถิ่นระดับภาคตะวันออก

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 09:00 น. วันนี้ ( 17 ต.ค. ) ทีมฟุตซอลโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ เตรียมตัวออกเดินทางไปสู้ศึกการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นระดับภาคตะวันออก ครั้งที่ 39 ที่ อำเภอวังน้ำเย็นน้ำ จังหวัดสระแก้ว ในรายการ “ วังน้ำเย็นเกมส์” โดยก่อนออกเดินทางนักกีฬาฟุตซอลได้จุดธูปเทียน กราบขอพรศาลตายาย ไหว้พระประจำโรงเรียนเพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางตลอดจนการแข่งขันในครั้งนี้

นอกจากนั้นนายประวิทย์ สอนลา รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ ได้ให้ โอวาทและ กำลังใจ ให้กับนักกีฬาฟุตซอลทั้งประเภทชายและหญิง รวมถึงนักกีฬาประเภทอื่นๆอีกด้วย โดยเน้นย้ำการแข่งขันต้องมีน้ำใจนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะให้อภัย และขอให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อก้าวต่อไประดับประเทศที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะแข่งขันประมาณปลายเดือนมกราคม 2568 

นักกีฬาฟุตซอลที่ส่งเข้าร่วมแข่งขันมีนักกีฬาทั้งสิ้น 46 คน โดยส่งแข่งขันระดับอายุ 12 ปี 14 ปี ทั้งชายและหญิง โดยมีนายวิศรุต เย็นฉ่ำ หรือครูบาส นำทีมไปสู้กันครั้งนี้ นอกจากนั้นยังมีโค้ชจุ๋ม  ครูมานะ และอาจารย์ท่านอื่นร่วมเดินทางไปดูแลตลอดการแข่งขัน

การแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นท่าดาวออกครั้งที่ 39 วังน้ำเย็นเกมส์ จังหวัดสระแก้ว ทางโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันจำนวนกว่า 80ฑา แบตมินตัน และ กีฬาสาธิต

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) พาผู้เสียหาย ร้องเรียนอัยการ!!เปิดประวัติ “ครูปู” ทีมงาน Thitipu รำพื้นบ้าน จ.สระแก้ว

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย แก้วสุทธิ นายกสมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) นายสมพงษ์ มีน้อย เลขาฯสมาคม ร.ต.ท บรรดิษฐ์ ชมผาสาท รองนายกสมาคมฯ ได้นำตัว นางปราณี เจ้าทุกข์ที่ถูกถอนเงินโอนจากบัญชีถูกลักทรัพย์ เข้าพบอัยการ คุ้มครองสิทธิฯ จ.ปราจีนบุรี สอบถามเพิ่มเติมแจ้งข้อเท็จจริงพร้อมยื่นเอกสารเพิ่มเติมประกอบ

ทั้งนี้ สมาคมฯเพียงเป็นสื่อกลางให้ประชาชนและภาครัฐ เข้าใจตรงกันสังคมจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข.

เปิดประวัติ “ครูปู” ทีมงาน Thitipu รำพื้นบ้าน จ.สระแก้ว ที่ใครๆในสระแก้ว ก็รู้จักกัน ขึ้นชื่อว่าที่ 1 ในสระแก้วที่ไม่แพ้ใคร เกี่ยวกับ “รำพื้นบ้าน” ภูมิปัญญาชาวบ้าน ก่อตั้งมาเกือบ 7 ปี เปิดประวัติ “ครูปู” ที่ใครๆในสระแก้ว ก็รู้จักกัน ขึ้นชื่อว่าที่ 1 ในสระแก้วที่ไม่แพ้ใคร เกี่ยวกับ “รำพื้นบ้าน” ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สานต่อจาก “ครูแอ้” มาเกือบ 7 ปี ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมของไทยที่มีมาแต่ยาวนาน

โดยครูปู..เล่าว่า การที่มาเปิดสอนเพราะใจรักและอยากสอนชาวบ้าน ได้สานต่อจาก “ครูแอ้” ซึ่งเป็นคนริเริ่มรำอยู่แล้วในพื้นที่ บ้านหนองกะพ้อ ด้วยอายุมากครูแอ้เลยพักผ่อน และ ได้มอบเรื่องการรำพื้นบ้าน ให้กับ “ครูปู” ได้สานต่อเพื่อไว้ออกงานรำเอาบุญแต่ไม่นึกว่าจะรำแบบเป็นมืออาชีพรับงาน จนมีคนรู้จักเยอะและมาติดต่อจนปัจจุบันงานมีตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าผ่านมาแล้วกว่า 100 งาน ปัจจุบันมีทั้ง งานบวงสรวงพิธีต่างๆ งานรำแห่งานมงคลทุกประเภท งานรำหน้าไฟ งานรำงานบวช งานนำงานแต่ง เป็นต้น.

สามารถติดต่อจองคิวรำได้ที่
โทร.089-010-0342 (ครูปู)

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ประเพณีแข่งเรือ ชิงถ้วยพระราชทาน วันออกพรรษา ตานก๋วยสลาก วัดบุญยืน พระอารามหลวง อ.เวียงสา จ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้


16/10/2567 จังหวัดน่าน จัดงานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสา ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567

วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ณ สะพานข้ามแม่น้ำน่าน (ท่าน้ำบ้านป่ากล้วย) อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณี แข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสาชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567

โดยมี นายอำเภอเวียงสา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกสมาคมเรือแข่งจังหวัดน่าน ประธานชมรมเรือแข่งอำเภอเวียงสา คณะกรรมการจัดงาน ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมพิธีฯ

งานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสาชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567 ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาในวันออกพรรษาเป็นระยะเวลายาวนานนับร้อยปี มีเอกลักษณ์เป็นลักษณะเรือขุดจากไม้ท่อนแกะสลักหัวเป็นรูปพญานาค อ้าปาก ชูคอ มีเขี้ยวโง้งอน สง่างาม การแข่งเรือและทานสลากภัตจึงถือเป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวจังหวัดน่าน และเป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอเวียงสา ที่ได้จัดให้มีขึ้นทุกๆ ปี

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความมีวินัย ในหมู่คณะ ส่งเสริมและปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดี และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ซนะ รู้อภัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเสริมสร้างเอกลักษณ์ของอำเภอเวียงสา ตลอดจนจังหวัดน่าน ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปและชาวต่างชาติ

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งมีหมู่บ้านในเขตอำเภอเวียงสาและอำเภอใกล้เคียง ได้ส่งเรือยาวเข้าร่วมแข่งขันรวมทั้งสิ้น 18 ลำ โดยแยกประเภทการแข่งขันออกเป็น ประเภทเรือเล็ก 5 ลำ ประเภทเรือกลาง จำนวน 4 ลำ ประเภทเรือใหญ่ จำนวน 5 ลำ และประเภทเรือเอกลักษณ์น่าน จำนวน 4 ลำ นอกจากนี้ ยังมีการโชว์เรือสวยงาม จำนวน 4 ลำ และกองเชียร์ 3 หมู่บ้าน

โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงาน เทศบาลตำบลเวียงสา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สสส. และพ่อค้า ประชาชน หน่วยงานอื่นๆ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,000,000 บาท/บุญยวค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมข่าวรายงาน