คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองฯ ถวายบุญแผ่นดินไทย / สภาสังคมสงเคราะห์ มอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก คนพิการ 30 ราย

แชร์เนื้อหานี้

13 มิถุนายน 2568 : 11.00-12.00 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,นางสุพิชชญา สาคร นายกสมาคม

สโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะผู้บริหารฯ,นางเอมอร แจ่มกระจ่าง รอง หส.ผศ.ตาก และคณะ,นายสมเกียรติ ชื่นอยู่ นายอำเภอเมืองตาก จ.ตาก,นายวุฒิชัย สุขเกษม นายก อบต.วังหิน และคณะผู้บริหาร,ร.อ.สุธีร์ พันธุ์เขียน ประธานเครือข่ายทหารผ่านศึก อ.เมืองตาก

และคณะ,ชมรมช่วยเหลือสังคม,นายธวัชชัย จิตต์เจริญ ที่ปรึกษาสมาคมคนพิการฯ,ผู้ใหญ่บ้าน,อสม.,นางมณฑา หาญปรีชาสวัสดิ์ ผอ.กองช่าง อบต.วังหิน ผู้ประสานงาน : ลงพื้นที่มอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก และคนพิการ จำนวน 30 ราย ณ ห้องประชุมเขาลาน้ำ อบต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก

*** ขอขอบคุณผู้ร่วมบริจาค มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ดังรายนามต่อไปนี้ ***ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุชสมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์

สมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิงในพระบรมราชินูปถัมภ์สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตตากสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลชมรมช่วยเหลือสังคมทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่3ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่4พลังศรัทธาล้นหลาม! #คนแห่ร่วมแน่นขนัด #บวงสรวงศาลหลักเมือง #พลังศักดิ์สิทธิ์ค้ำจุนแผ่นดินไทย!! #สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้! #ฟ้าเปิดแดดจ้ากลางพิธีบวงสรวง!!

บุญของท่านสำเร็จแล้ว พิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองฯ ถวายบุญแผ่นดินไทย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 08.29 น. ณ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ถวายบุญแผ่นดินไทยแด่พระแม่ธรณี พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ค้ำชูแผ่นดิน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

โดยมี อาจารย์วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม เป็นผู้นำในพิธีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยพลังศรัทธาอันเปี่ยมล้น โดยมี พุทธศาสนิกชนหลายร้อยคน มาร่วมบุญกันอย่างเนืองแน่น เต็มพื้นที่ศาลหลักเมือง ตั้งใจร่วมกันถวายบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติ ต่อตนเองและครอบครัว รายชื่อร่วมหมื่นนำไปขึ้นโต๊ะบวงสรวงศักดิ์สิทธิ์

ในช่วงที่อาจารย์วิจักษณ์เริ่มประกอบพิธีและเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท้องฟ้าที่เคยมีเมฆครึ้มลมนิ่งกลับเปิดออก เผยให้เห็นแสงแดดอันเจิดจ้าสาดส่องลงมายังบริเวณพิธี ลมพัดโบกสะบัด ราวกับเป็นการยืนยันว่าการชุมนุมของเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดรับรู้ถึงแรงศรัทธาอันบริสุทธิ์ของผู้เข้าร่วมงานทุกคน ปรากฏการณ์นี้สร้างความปิติและอิ่มเอมใจให้แก่ผู้ร่วมพิธีเป็นอย่างยิ่ง ต่างเชื่อมั่นว่าบุญกุศลที่ได้กระทำในวันนี้จะส่งผลดีและคุ้มครองแผ่นดินไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข

หลังจากพิธีบวงสรวงที่ศาลหลักเมืองแล้ว คณะผู้ร่วมบุญยังได้เดินทางไปยังวัดพระแก้ว เพื่อกราบนมัสการพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ถือเป็นการปิดท้ายกิจกรรมบุญอันเป็นมงคลในวันนี้
พิธีครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรวมพลังศรัทธาของผู้คนจำนวนมาก แต่ยังเป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่แผ่นดินไทยและผู้ร่วมพิธีทุกท่าน ขอโมทนาสาธุการ😊

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สพม.น่าน ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนจากโรงเรียนสตรีศรีน่าน ได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Award)

แชร์เนื้อหานี้

สพม.น่าน ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนจากโรงเรียนสตรีศรีน่าน ได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Award) ชื่อผลงาน Steril Nova งาน The 8th China (Shanghai) International Exhibition of Invention
นักเรียนผู้ร่วมนำเสนอผลงาน จำนวน 4 คน ได้แก่

  1. นางสาวพอฤทัย วิชัยยา ม.5.1
    (ห้องเรียนพิเศษ SMTE)
  2. นางสาวพิมพ์พิศา แสงแก้วสันติสุข ม.5.1 (ห้องเรียนพิเศษ SMTE)
  3. นางสาวอภิรญา ดีปินตา ม.6.2
    (ห้องเรียนพิเศษวิชาการ)
  1. นางสาวธัญชนน ลิ้มประยูร ม.6.3
    (ห้องเรียนพิเศษ IEP)
    ครูที่ปรึกษา จำนวน 2 คน ได้แก่
  2. นางปุณณดา ปราบริปู
  3. นายอัศวิน ธะนะปัด
    และได้รับความร่วมมือจากคณะครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรีศรีน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สสว.จัดงาน “Recharge Market 2025”ยกขบวนสินค้าท้องถิ่นกว่า 200 ร้านค้า บุกตลาดเซฟวัน โคราช

แชร์เนื้อหานี้

สสว. ร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เดินหน้าสนับสนุนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงปี 2567 จัดงานแสดงสินค้า Recharge Market 2025 ระหว่าง 13 -15 มิ.ย. 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ลานกิจกรรมตลาดเซฟวัน เมืองย่าโม คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2568 งานแถลงข่าวและพิธีเปิดงาน Recharge Market 2025 อย่างเป็นทางการ โดย นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ และได้รับเกียรติจาก นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน

นายกิตติศักดิ์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เผยว่า นครราชสีมา เป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในปี2567 นครราชสีมาได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยในหลายพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ การจัดงาน Recharge Market 2025 จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น ผู้ประกอบการในพื้นที่
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทน ผอ.สสว. เผยว่า

งาน Recharge Market 2025 ที่ สสว. จัดขึ้น ตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งดำเนินการจัดไปแล้วสามครั้ง ที่ภาคเหนือจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ และภาคตะวันออกจังหวัดระยอง โดยครั้งนี้ ถือว่า เป็นครั้งที่สี่ของการจัดงาน ที่จัดขึ้นที่ลานกิจกรรมตลาดเซฟวัน มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศเข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าทั้งหมด กว่า 1,000 ร้านค้า ครอบคลุมสินค้าและบริการหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ งานฝีมือ ของใช้ภายในบ้าน สินค้านวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ตลอดจนกิจกรรมบนเวทีและบรรยากาศความบันเทิงที่พร้อมสร้างความคึกคักตลอดทั้งงาน

รักษาการแทน ผอ.สสว. เผยอีกว่า ภายในงานยังพบกับกิจกรรมความบันเทิงมากมาย อาทิ การแสดงดนตรีสด การแสดงพื้นบ้าน และโชว์พิเศษจากศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง “แอน อรดี ” ซึ่งจะมาร่วมสร้างสีสันและความสนุกให้กับผู้เข้าร่วมงานในค่ำคืนพิเศษ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย การแจกของรางวัล และโซนกิจกรรมครอบครัวที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถร่วมสนุกได้อย่างเต็มที่
“สสว. และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เชื่อมั่นว่า การจัดงาน Recharge Market 2025 จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูทั้งในด้านรายได้และโอกาสทางธุรกิจ คาดว่า งานนี้ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท”

นางสาวปณิตา เผยอีกว่า งานครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความต่อเนื่องในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเชิงรุกที่ สสว.และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้ดำเนินการในหลายจังหวัดทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้สามารถยืนหยัด สร้างรายได้ และขยายตลาดได้อย่างยั่งยืน จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปและผู้สนใจเข้าร่วมงาน Recharge Market 2025 ณ บริเวณลานกิจกรรมตลาดเซฟวันอ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมเติมพลัง SME ไทย และร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยไปด้วยกันสอบถามเพิ่มเติมนายจานันท์ ศรีเกตุ นักวิชาการ SMEs 4 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
โทร. 021-429228นางสาวอภิญญา มีธรรม ฝ่ายประสานงานโครงการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย061-5561990สสว. เคียงข้าง SME คู่คิดที่ดีผู้ประกอบการไทย

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทุเรียนชุมพรยกระดับการส่งออกประทับใจคู่ค้าปลอดสาร Basic Yellow 2 ( BY2 )

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้เกียรติมาเป็นประธาน จัดงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ทุเรียนภาคใต้ ฤดูผลผลิตปี 2568 ณ บริษัท ศิริมงคล คอร์เปอเรท กรุ๊ป จำกัด กิจ Big cleaning day ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่โรงคัดบรรจุเรียกสั้นสั้นคือล้ม

ให้มีความสะอาดปลอดภัยทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูทุเรียนภาคใต้ที่จะมาถึงเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผลผลิตทุเรียนไทยและส่งเสริมสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคและผู้ประกอบการการรวมพลังกันในวันนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐเอกชนและชุมชนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมทุเรียนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

มีนายอภิชาต สารบัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้การต้อนรับพร้อมกับ นางสาวฉันทนาคงนครผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาเกษตรเขตที่เจ็ด นายสุบรรณ์ รักษ์ทอง เกษตร จ ชุมพรพร้อมด้วย นายปรีดา เยี่ยมสวัสดิ ประธานบริหารกรรมการ บริษัท ศิริมงคล คอร์เปอเรท กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการ ล้งทุเรียนชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ

นายอภิชาต สารบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรกล่าวต้อนรับรองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรนางสาวปรียานุชทิพยวัฒน์ ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Big cleaning day ของโรงคัดบรรจุทั่วทั้งจังหวัดชุมพรจะ ในวันนี้กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจังหวัดชุมพรจะได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานอื่นๆที่ผู้ประกอบการโรงรวบรวมและลงคัดบรรจุทั่วทั้งจังหวัดชุมพร

ทำความสะอาดครั้งใหญ่ไปพร้อมพร้อมกัน เป็นกิจกรรมที่ทรงพลังและมีความหมายต่อพวกเราที่เราจะผนึกกำลังกันเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและประกาศให้ตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศได้เห็นถึงความจริงใจและความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการไทยโดย

วันนี้จัดกิจกรรม Big cleaning day set Zero การใช้สารเคมีในวันนี้จึงเป็นมากกว่าแค่การทำความสะอาด แต่เป็นการชำระล้างสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นคำมั่นสัญญาของพวกเราทุกคนว่าต่อจากนี้ทุเรียนทุกลูกที่จะผ่านมือพวกเราไปจะต้องเป็นทุเรียนที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยเท่านั้น

นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาเกษตรเขตที่เจ็ด กล่าวทุเรียนเป็นสินค้าเกษตรที่มูลค่าสูงถือเป็นไม้ผลหลักที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้และยังเป็นพืชที่มีมูลค่าการส่งออกสูงโดยในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 157,000 ล้านบาทโดยเฉพาะการส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งต้องมีเงื่อนไขทางการค้าซึ่งในปัจจุบันจีนได้

เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเกษตรนำเข้าโดยเฉพาะการปนเปื้อนของสารบีวายทูในทุเรียนผลสดถือเป็นเงื่อนไขใหม่ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนอาจจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออกทุเรียนของไทย ในภาครวมได้การที่ทุเรียนไทยถูกตรวจพบว่าปนเปื้อนสารบีวายทูจึงส่งผลให้จีนปฏิเสธการนำเข้าสินค้าบางรัฐส่งผลทำให้โรงคัดบรรจุนั้นนั้นถูกระงับการส่งออกและสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในตลาด

จีนตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันแรกที่จีนได้ให้ทุเรียนทุกตู้ที่ส่งออกส่งใบรายงานเท็จรีพอร์ตผลการตรวจสอบไม่พบ ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ตรวจพบบีวายทูจากจีนแปดลงคัดภาคใต้ 13 ลงคัดตะวันออกเจ็ดโรงคัดรวม 20 ตู้และตรวจพบก่อนส่งออกเฉพาะภาคใต้แจ้งเตือน 30 ลงคัดระงับห้าลงคัด
ในจังหวัดชุมพรมีโรงคัดบรรจุ 487

โรงซึ่งทยอยเปิดดำเนินกิจการแล้ว 50 ลงคาดว่าจะเปิดเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับปริมาณผลผลิตทุเรียนที่มีมากขึ้นในเดือนกรกฎาคมการจัดกิจกรรม Big cleaning day ในโรงคัดบรรจุก่อนเปิดดำเนินการมีวัตถุประสงค์ลดความเสี่ยงการปนเปื้อนของสารบีวายทูที่จะติดไปกับทุเรียนส่งออก และลดความ เสียหายให้กับผู้ประกอบการจะได้สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ให้กับประเทศคู่ค้า

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการล้างทำความสะอาดบริเวณภาชนะอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการผลิตของโรงคัดบรรจุรวมทั้งการทำ Swap Test เพื่อ ควบคุมความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของสารบีวายทูให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประเทศคู่ค้าเป็นการยกระดับมาตรฐานทุเรียนไทยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและหน่วยงานตรวจสอบของจีนต่อคุณภาพและความปลอดภัยของทุเรียนจากประเทศไทย

นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกลียดอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Big cleaning day ของโรงบรรจุในจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของทุเรียนไทยและจัดขึ้นพร้อมกันในทุก โรงคัดบรรจุทั้งจังหวัดชุมพรจังหวัดชุมพรให้ความสำคัญกับการผลิตทุเรียนคุณภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาด

ต่างประเทศและป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อน ด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดมีการจัดตั้งคณะทำงานชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดและมีการประกาศมาตรการต่างๆที่เข้มงวดเช่นกำหนดประกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียน การดำเนินคดีแก่ผู้จำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพมีมาตรการตรวจก่อนตัดและการขึ้นทะเบียนนักตัดนักคัดทุเรียนก่อนทำเครื่องหมายผลทุเรียนด้อยคุณภาพในวันนี้

อนาคตและชื่อเสียงของทุเรียนไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญนั่นคือปัญหาการปนเปื้อนของ Basic Yellow 2สารบีวายทูรวมทั้งปัญหาการตรวจพบแคดเมียมในทุเรียนมีค่าเกินมาตรฐานที่จีนกำหนดปัญหาดังกล่าวได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงโดยทางจีนขอให้กรมวิชาการเกษตรระงับการส่งออกชั่วคราวกับโรงคัดบรรจุที่ ถูกแจ้งเตือนเพื่อสอบสวนสาเหตุและกำหนดมาตรการควบคุมทางการจีนพิจารณา

ซึ่งจังหวัดชุมพรกรมวิชาการเกษตรจึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีโรงคัดบรรจุตั้งอยู่เป็นจำนวนมากจำนวน 487 โรงคัดบรรจุให้รองคัดบรรจุทำ Big cleaning day Set Zero การใช้สารเคมีและปฏิบัติตามมาตรการสีไม่เพื่อส่งสัญญาณที่ชัดเจนและหนักแน่นไปยังประเทศคู่ค้าเรา

มุ่งมั่นที่จะผลิตคุณภาพที่ปลอดภัยเท่านั้นนอกจากนี้โรงคัดบรรจุต้องใช้ใบรับรองแหล่งผลิตพืช ใบคิวตามผลผลิตที่ได้รับมาเท่านั้นไม่ทำการสวมสิทธิ์ใบรับรองของเกษตรกรหากตรวจพบการกระทำความผิดกรมวิชาการเกษตรพิจารณาดำเนินการระงับหรือเพิกถอนหนังสือสำคัญการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตพืชตามประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่องหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนโรงผลิตสินค้าพืชฉบับที่สองพ.ศ. 2567

จึงหวังว่าขอให้ร่วมมือจากพี่น้องผู้ประกอบการทุกโรงคัดบรรจุร่วมทำความสะอาดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ครั้งใหญ่นี้อย่างจริงจังที่สุดขัดล้างอุปกรณ์ทุกชิ้นพื้นที่ผลิตทุกพื้นที่ซึ่งการทำความสะอาดต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีสารบีวายทูตกค้างอยู่และต่อให้การทำความสะอาดครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับมาตรฐาน การปฏิบัติงานที่จะดำเนินต่อไปอย่างเข้มแข็งตลอดฤดูกาลนี้

ธนากร โกศลเมธี ภาพ/ข่าว รายงาน 0818923514

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พัฒนาศักยภาพเครือข่ายประชาสัมพันธ์ก้าวทันสื่อใหม่ ระดับจังหวัด สร้างเครือข่ายใหม่ ต่อยอดเครือข่ายเดิม ทันต่อยุคดิจิทัล

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายประชาสัมพันธ์ก้าวทันสื่อใหม่ ระดับจังหวัด เพื่อสร้างเครือข่ายใหม่และพัฒนาเครือข่ายเดิมทั่วประเทศให้เป็นเครือข่ายที่มีคุณภาพ โดยมี นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผวจ.บึงกาฬ

นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผวจ.บึงกาฬ นายพนมวัสส์ วุฒาพาณิชย์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ นายธนิต รามัญวงค์ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ, นายอนุชิต บุญชม ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ ตลอดจนผู้เข้าอบรม เข้าร่วม ที่ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

โครงการนี้จัดโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ ภายใต้กรมประชาสัมพันธ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ทั้งเครือข่ายเดิมและเครือข่ายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ให้สามารถสื่อสารข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคดิจิทัล โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 90 คน ประกอบด้วยเยาวชน สื่อมวลชน หอกระจายข่าว และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

เนื้อหาการอบรมครอบคลุมความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์นโยบายรัฐบาล การสื่อสารในภาวะวิกฤติ การรับมือข่าวปลอม กลยุทธ์สร้างการรับรู้ และการผลิตสื่อยุคใหม่ที่ดึงดูดใจ รวมถึงกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยมุ่งเน้นการ Re-skills, Up-skills และ New-skills ให้แก่ผู้เข้าร่วม

โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดอบรมใน 37 จังหวัดทั่วประเทศ ตลอดเดือนมิถุนายน 2568 ตามนโยบายของนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ผลักดันให้กรมประชาสัมพันธ์สร้างเครือข่ายการสื่อสารคุณภาพที่สามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นพลังสำคัญในการสื่อสารเพื่อประเทศต่อไป
ข่าว/ภาพ ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล จ.บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยจังหวัดน่านจัดประชุมสัญจรและเยี่ยมเยียนชมรมผู้สูงอายุโซนกลาง ประจำปี 25688

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าวังผา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน สาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยจังหวัดน่านจัดประชุมสัญจรและเยี่ยมเยียนชมรมผู้สูงอายุโซนกลาง ประกอบด้วยตัวแทนจากอำเภอท่าวังผา อำเภอภูเพียง อำเภอสองแคว

อำเภอสันติสุข และเทศบาลเมืองน่าน โดยมีประธานชมรมผู้สูงอายุของแต่ละตำบล ของอำเภอท่าวังผา มีคณะกรรมการจากสาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่ง

ประเทศไทยจังหวัดน่าน นำโดย ประนายสวัสดิ์ สิงห์ธนะ ประธานสาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน นำทีมเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนท 50 คน

โดยได้รับเกียรติจาก นายฐสิษฐ์ บำเพ็ญ ปลัดอาวุโส อำเภอท่าวังผา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม พร้อมให้ข้อเสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมผู้สูงอายุให้มีคุณภาพและยั่งยืนในแต่ละพื้นที่ต่อไป

ในการประชุมครั้งนี้ ประธานชมรมผู้สูงอายุโซนกลาง ได้นำเสนอผลงาน กิจกรรมเด่น และแนวทางการดำเนินงานของชมรมฯ เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบ และเป็นการเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้แทนแต่ละพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

กิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่โซนกลาง และเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุให้สามารถดำเนินกิจกรรมร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ/ภาพ/วิสุทธิ์ ศรีเมือง/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจะงหวัดน่าน รายงาน

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 นางสาวศุภาวดี สุทธิแสน เกษตรอำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ร่วมจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 3/2568

โดยมีว่าที่ร้อยตรี ณฐพล นพณัฐธนากุล นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ กล่าวต้อนรับ และนายประจักร์ ไชยกิจ ปลัดจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ

มีวัตถุประสงค์จัดงานเพื่อให้บริการแก่เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ห่างไกล ให้บริการในการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร

โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมให้บริการทางการเกษตร เช่น บริการเอกสารวิชาการ พันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์ และวัสดุการเกษตรอื่นๆ

จากหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมรับบริการ จำนวน 125 ราย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทหารไทย-ลาว ประชุมร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ตามแนวชายแดน

แชร์เนื้อหานี้

ทหารไทย-ลาว ประชุมร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ตามแนวชายแดน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/ชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว (จังหวัด​หนองคาย – นครหลวงเวียงจันทน์)

ร่วมกับ กองบัญชาการทหาร นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จัดการประชุมระหว่างชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย –

ลาว เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ตามบริเวณแนวชายแดนไทย – ลาว

กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/ชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว (จังหวัดหนองคาย – นครหลวงเวียงจันทร์) ร่วมกับ กองบัญชาการทหาร นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จัดการประชุมระหว่างชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว

โดยมี พันเอก จักรพงษ์ โพธิ์นาแค รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เป็นผู้แทน พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว (จังหวัดหนองคาย – นครหลวงเวียงจันทน์) เป็นประธาน (ฝ่ายไทย) และ

พันเอก บุนลิด สีสุพอน หัวหน้ากองบัญชาการทหาร นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว/หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนลาว – ไทย (นครหลวงเวียงจันทน์ – จังหวัดหนองคาย)เป็นประธาน (ฝ่ายลาว)

พร้อมด้วย ผู้บังคับหน่วยป้องกันชายแดน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ (ฝ่ายไทย) และ (ฝ่ายลาว) เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องเกียรติยศ ด่านสากลสะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 1 นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

โดยการประชุมในครั้งนี้เพื่อหารือข้อราชการ และการบูณาการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบขนส่งยาเสพติดข้ามแดน และป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ตามแนวชายแดนไทย – ลาว อีกทั้งยังได้ประสานการจัดตั้งจุดประสานงานชายแดน ระหว่าง อำเภอของไทย กับ เมืองของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ การดำเนินการโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน พร้อมทั้ง

การขยายผลโครงการทหารพันธุ์ดี เพื่อขยายผลความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงการจัดการลาวตระเวนร่วม และการฝึกร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถประสานงานกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทันเวลา

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พาดหัววส.พุทธปัญญาฯ พัฒนาทักษะดิจิทัลนิสิตใหม่ เตรียมพร้อมประกอบอาชีพในอนาคต

แชร์เนื้อหานี้

นายวีรพงศ์ พิชัยเสนาณรงค์ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์
วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) จ.นครปฐม
กล่าวว่า ได้จัดโครงการเตรียมความพร้อมผู้เข้าศึกษาและปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ระหว่างวันที่ 18 พ.ค. -22 มิ.ย. โดยโครงการดังกล่าวมีการแนะนำหลักสูตรจากคณาจารย์หลักสูตรต่างๆ สำหรับนิสิตใหม่ระดับปริญญาตรี

ทั้งภาคปกติ และภาคพิเศษ ขณะเดียวกันนิสิตใหม่ทุกคนยังจะได้เรียนรู้การใช้ Artificial Intelligence ( AI) หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมไปถึงการสอนการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ และการเป็น Influencer ด้วย

นายวีรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้การที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี ได้จัดอบรมกิจกรรมส่งเสริมแนวคิดด้านการเป็น Influncer ควบคู่กับการเรียนรู้การตลาดออนไลน์ในกระบวนการเตรียมความพร้อมผู้เข้าศึกษาใหม่นั้น เพื่อเป็นกา

เตรียมการด้านพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะดิจิทัล และการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพในอนาคตให้กับนิสิตใหม่ อีกทั้งยังสอดคล้องกับการส่งเสริมสมรรถนะที่จำเป็นของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 คือ การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พลังทุนชุมชน! บึงกาฬคัดสุดยอดกองทุนหมู่บ้าน ปี 68 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ (12 มิถุนายน 2568) เวลา 13.30 น. จังหวัดบึงกาฬจัดกิจกรรม “ประกวดกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองดีเด่น ระดับจังหวัด ประจำปี 2568” อย่างยิ่งใหญ่ ณ หอประชุมหนองปลาตอง วิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬ โดยมี นายจุมพฏ วรรณฉัตรศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 150 คน กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สาขาเขต 6 และเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านจังหวัดบึงกาฬ

การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระดับชุมชน โดยอาศัยกลไกสำคัญอย่าง กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2544 ตามนโยบายของรัฐบาลในการกระจายอำนาจและแหล่งทุนสู่ท้องถิ่น เพื่อให้ชุมชนบริหารจัดการตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ สังคม และสร้างการพัฒนาอย่างทั่วถึง

จังหวัดบึงกาฬมีกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด 615 กองทุน ครอบคลุมเกือบทุกหมู่บ้านในพื้นที่ มีเงินทุนหมุนเวียนในระบบรวมกว่า 1,300 ล้านบาท โดยกิจกรรมสำคัญในงาน ปนะกอบด้วย นิทรรศการแสดงผลการดำเนินงาน และการประกวดกองทุนหมู่บ้านดีเด่น ระดับจังหวัด จำนวน 8 กองทุน ซึ่งได้นำเสนอแนวทางการบริหารจัดการที่โดดเด่นต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อพิจารณาคัดเลือกเป็นตัวแทนระดับจังหวัดต่อไป

นายเฉลิมเกียรติ แผนกิจเจริญ พัฒนาการจังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้ นายสยัมภู แพงจันทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน กล่าวรายงานในพิธีเปิด ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ เข้าร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้กล่าวเปิดงานพร้อมมอบโอวาทตอนหนึ่งว่า“กองทุนหมู่บ้านไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางเศรษฐกิจ แต่คือความหวังของประชาชนในการสร้างระบบที่ดูแลกันเองในชุมชน สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน”

ภายในงานยังมีกิจกรรมพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้บริหาร เครือข่ายกองทุน และผู้แทนกองทุนในบรรยากาศอบอุ่น พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการของแต่ละกองทุนอย่างใกล้ชิด โดยมีการบันทึกภาพหมู่ร่วมกันเพื่อเป็นที่ระลึกแห่งความร่วมมือและแรงบันดาลใจ

การจัดโครงการในครั้งนี้นับเป็นมากกว่าการประกวด แต่เป็นเวทีสำคัญในการ จุดประกายองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ และเสริมสร้างความพร้อมของกองทุนหมู่บ้านในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีในอนาคต เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย “ชุมชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง” อย่างยั่งยืนต่อไป

📷 ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล จ.บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชาวบ้านนับ 10,000 คนเก็บสัตว์ทะเล ใหญ่เล็ก กับปรากฏการณ์ปลาตายน้ำแดง2 คืน กว่า 50 ตัน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ชาวบ้านร่วม 2 พันคนเก็บสัตว์ทะเล ใหญ่เล็ก กับปรากฏการณ์ปลาตายน้ำแดง จังหวัดชุมพรมีฝนตกหนักติดต่อกันมา 3 วันทำให้น้ำจือไหลลงทะเลจำนวนมากจึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ปลาตายน้ำแดง


จากกรณี คืนวันที่ 7-9 มิถุนายน 2568 เวลา 21.30 น นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี หัวหน้าชุดกู้ภัยทางน้ำจังหวัดชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดปรากฎการณ์แพลงก์ตอนบลูม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปรากฏการณ์ปลาตายน้ำแดง” บริเวณหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ที่ 8 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบสัตว์ทะเลเป็นจำนวนมากกำลังว่ายวนเวียนอยู่บริเวณชายฝั่ง มีบางส่วนถูกคลื่นซัดขึ้นมาตายบนชายหาด มีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางไปจับมาประกอบอาหารกันเป็นจำนวนมาก

 จากการตรวจสอบน้ำทะเล พบว่ามีสีค่อนข้าง ดำและมีตะกอนจำนวนมาก ปรากฏว่ามีการเกิดและแพร่ขยายของแพลงก์ตอน ส่วนน้ำทะเลมีรสชาติเค็มเล็กน้อยสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจมีน้ำจืดบนฝั่งไหลลงสู่ทะเลค่อนข้างมากในช่วงนี้ จึงทำให้น้ำทะเลขาดจึงทำให้น้ำทะเลบริเวณอ่าวไทยขาดออกซิเจนปลาที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลไม่สามารถที่จะอยู่ในน้ำได้จึงได้พยายามเข้าปเป็นจำนวนมากจากการตรวจสอบและคาดคะเนสัตว์น้ำที่เกยตื้นขึ้นมาภายในสองคืนคิดว่าน่าจะมากกว่า 50 ตันเพราะชาวบ้านเป็นจำนวนมากที่เดินทางมาจับและนำไปประกอบอาหารกันอย่างมากมาย
นายวัชรินทร์ สุวพิศ กล่าวว่า "ปรากฎการณ์นี้อาจส่งผลให้เกิดแพลงก์ตอนบลูมตามมาในภายหลัง ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการเปลี่ยนสีของน้ำทะเลแต่อย่างใด หากมีการเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจหาค่าออกซิเจน หรือหาความเค็มของน้ำ น่าจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง" เมื่อคืนประมาณสามทุ่มได้รับแจ้งจากเครือข่ายพี่น้องประชาชนบริเวณหาดทุ่งวาแลนด์มีปรากฏการณ์ปลาใต้น้ำแดงหรือภาษาราชการเค้าเรียกว่าแพลงก์ตอนบลูม เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ที่มีฝนตกมากน้ำจืดก็จะไหลลงทะเลแล้วก็พาตะกอนไปด้วยจะเกิดแพลงก์ตอนบลูมเป็นสัตว์น้ำประเภทหนึ่ง เป็นแพลงก์ตอนบลูม สีน้ำเงินถ้ามีเยอะเยอะจะทำให้ระบบหายใจของสัตว์น้ำเสียแพลงก์ตอนบลูม พวกนี้จะมีอายุไม่กี่วันหลังจากตายออกซิเจนในน้ำก็จะหมดไปจากการตรวจสอบวันนี้น่าจะเป็นความเข้มของน้ำทะเลมีความเค็มลดน้อยลงไปมากคิดว่าคงจะยังไม่เป็นแพลงก์ตอนบลูมจากการชิมน้ำทะเล คล้ายๆเป็นน้ำกร่อยปรากฏการณ์นี้น่าจะเป็นปลา น็อคน้ำจืดมากกว่าเพราะว่าน้ำทะเลยังไม่เปลี่ยนสียังไม่มีปรากฏการณ์น้ำทะเลสีเขียวยังไม่มีแต่หลังจากนี้คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นเพราะจะเกิดขึ้นเป็นประจำของจังหวัดที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลในกรณีที่หน้าฝนกลางวันจะมีแดดค่อนข้างแรงก็จะเกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม ในครั้งนี้ปรากฏการณ์ก็มีปลาตายไม่มากส่วนใหญ่ก็ยังมีแรงว่ายน้ำอยู่ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวก็ใช้อุปกรณ์มาจับปาซึ่งปลาที่ตายไม่น่าจะเป็นอันตรายซึ่งยังไม่เกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม เมื่อคืนนี้ประชาชนเข้ามาที่ทะเลจำนวนมากแต่ปลาค่อนข้างที่จะน้อยกว่าปีที่แล้วในปีก่อนมีเยอะมากกว่านี้ และจะตายทั้งหมดเพราะเป็นแพลงก์ตอนบลูม ส่วนครั้งนี้ปาลก็ยังมีชีวิตเข้ามาว่ายในน้ำตื้นช่วงนี้มันเป็น ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ชายฝั่งตะวันออกด้านอ่าวไทยชาวประมงจะเรียกลมในคือลมที่พัดออกจากฝั่งสู่ทะเลทำให้คลื่นฝั่งทะเลตะวันออกเป็นคลื่นเรียบ ไม่มีคลื่นเพราะฉะนั้นการแลกเปลี่ยนของน้ำกับออกซิเจนในอากาศที่มันเกิดจากเป็นคลื่นซัดเป็นฝอยปะทะในอากาศก็จะน้อยลงออกซิเจนที่เข้ามาช่วยเติมในน้ำแทบจะไม่มีจึงทำให้ปลาอาจจะน็อคน้ำเพราะขาดออกซิเจนปริมาณออกซิเจนของปลาใช้ไม่เพียงพอเพราะในช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงฤดูฝนจังหวัดชุมพรก็มีฝนตกหนักมาสองสามวันแล้ว จึงได้ประสานกรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่งนำน้ำไปไปตรวจสอบในจุดดังกล่าวในเมื่อคืนนี้เกิดขึ้นในสองพื้นที่ในหาดทุ่งวอแลนด์แล้วก็หาดสะพีลมีน้ำจืดที่เกิดจากฝนตกหนักลงทะเลจำนวนมาก เป็นเหตุให้ปลาน็อคน้ำได้เพราะน้ำปกติจะเป็นน้ำเค็ม

ธนากร โกศลเมธี ภาพ/ข่าว รายงาน 0818923514