สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สนข. จัดเวที ‘แลนด์บริดจ์’ พร้อมประกาศความพร้อม การประมูลโครงการฯ ตามนโยบายของรัฐบาล /พบประชาชน ครั้งที่ 8 พื้นที่ต.วังใหม่ จ.ชุมพร

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ได้ดำเนินการจัดการสัมมนาสรุปผลการศึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์)
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ณ ห้องลอฟท์ มาเนีย 1 โรงแรมลอฟท์ มาเนีย บูทิกโฮเทล อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาข้อมูลรายละเอียดของโครงการ ข้อมูลและมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและข้อมูลรูปแบบการลงทุนจากข้อเสนอแนะของภาคเอกชนไทยและต่างชาติ โดยได้รับเกียรติจาก นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดการสัมมนาในครั้งนี้ และมีตัวแทนจากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมการสัมมนา

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้เป็นการนำเสนอสรุปผลการศึกษาข้อมูลรายละเอียดโครงการฯ ในทุกประเด็น ซึ่งจากการศึกษาพบว่าโครงการฯ มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในการลงทุน (EIRR) คิดเป็น 17.38% (กรณีวิเคราะห์เฉพาะท่าเรือ โครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยง และการพัฒนาพื้นที่หลังท่า) โดยรูปแบบโครงการฯ ประกอบด้วย ท่าเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทย ทำเลที่ตั้งบริเวณแหลมริ่ว จ.ชุมพร และท่าเรือน้ำลึกฝั่งอันดามัน ทำเลที่ตั้งบริเวณแหลมอ่าวอ่าง จ.ระนอง เชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งด้วยเส้นทางคมนาคม พาดผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด 2 อำเภอ 9 ตำบล ได้แก่

จ.ระนอง อ.เมืองระนอง ต.ราชกรูด และ จ.ชุมพร อ.หลังสวน ต.บางน้ำจืด ต.นาขา ต.วังตะกอ ต.หาดยาย อ.พะโต๊ะ ต.ปังหวาน ต.พระรักษ์ ต.พะโต๊ะ ต.ปากทรง ระยะทางรวม 89.35 กิโลเมตร ประกอบด้วย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 6 ช่องจราจร ทางรถไฟขนาดรางมาตรฐาน (Standard Gauge) และทางรถไฟขนาดราง 1 เมตร (Meter Gauge) พร้อมถนนบริการ ภายในพื้นที่เขตทาง 175 เมตร โดยมีการใช้ระบบขนย้ายตู้สินค้าที่ท่าเรือเป็นระบบท่าเรืออัตโนมัติ (Automation Port) การบริหารจัดการท่าเรือที่ทันสมัย (Smart Port) และการบริหารท่าเรือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Port) รวมทั้ง มีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์หลังท่าที่เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากมีการพัฒนาโครงการ

แลนด์บริดจ์ จะสามารถลดเวลาในขนส่งตู้สินค้าได้ถึง 4 วันและสามารถลดต้นทุนการขนส่งลงถึง 15% และจะทำให้ประเทศไทยเป็นประตูการค้าในการนำเข้าและส่งออกตู้สินค้าของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ สนข. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชน และศักยภาพของพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างรอบด้านจากการพัฒนาโครงการ ได้แก่ (1) การพัฒนาระบบคมนาคมทั้งทางถนน ทางรถไฟ และสนามบินในพื้นที่ ทำให้เกิดความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน และการขนส่งตู้สินค้าเพื่อกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ (2) การสร้างโอกาสการจ้างงานในพื้นที่ และทั้งประเทศถึง 280,000 ตำแหน่ง (3) การเพิ่มโอกาสของภาคเอกชนไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารและประมง อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ยา เวชภัณฑ์ ธุรกิจบริการ ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น และ (4) เกิดการพัฒนาต่อเนื่องทั้งด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (น้ำประปา ไฟฟ้า การกำจัดขยะ) นอกจากนี้ในการศึกษามีการระบุให้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาอาชีพเพื่อส่งเสริมทักษะให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อรองรับการจ้างงานของคนในพื้นที่ เข้าทำงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการพัฒนา โครงการ

สำหรับประเด็นข้อกังวลต่าง ๆ จากภาคประชาชนเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ เช่น ผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชนจากการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ หรือมาตรการในการชดเชยเยียวยา กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นอย่างไรนั้น ทาง สนข.ได้รับทราบข้อกังวลทั้งหมดจากประชาชนผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า 60 เวที และได้นำผลการรับฟังความคิดเห็นไปประกอบร่วมกับผลการศึกษา เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งกำหนดมาตรการชดเชยเยียวยาแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยยึดหลักการพัฒนาโครงการให้เกิดความยั่งยืน เพื่อให้โครงการสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบอาชีพของคนท้องถิ่นผ่านกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์และกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในการศึกษาครั้งนี้มีการกำหนดให้ผู้รับผิดชอบโครงการทำการจัดตั้งกองทุน โดยให้ผู้ประกอบการในพื้นที่สมทบเงินเข้ากองทุน และนำเงินในกองทุนเพื่อไปใช้ในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และส่งเสริมให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก่อนมีการพัฒนาโครงการ

ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทำให้การศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์มีความสมบูรณ์และสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการในขั้นตอนต่อไป สนข.กำลังจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาเพื่อดำเนินการจัดหานักลงทุนทั้งชาวไทย และต่างชาติเข้ามาดำเนินการก่อสร้างและพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งจะมีความพร้อมในการประกวดราคาในปีหน้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และของกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการเร่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ และประชาชนทั้งประเทศมีความกินดีอยู่ดี มีรายได้ มีงานทำต่อ

จังหวัดชุมพรพบประชาชน ครั้งที่ 8 พื้นที่ตำบลวังใหม่ อำเภอเมืองชุมพร
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันนี้(22 ส.ค. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร, นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร ร่วมโครงการจังหวัดพบประชาชนจังหวัดชุมพร “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ประจำปี 2568

ณ สำนักงานเทศบาลตำบลวังใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยมีหัวหน้าส่วนราชหาร ข้าราชการ ศาล อัยการ ทหาร ตำรวจ สาธารณสุข เหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร แม่บ้านมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครู นักเรียน เจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

โดยนำบริการต่างๆ อาทิ บริการด้านการแพทย์ตรวจรักษาโรคเบื้องต้น ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่นสายตาฟรี บริการทำบัตรประชาชนนอกสถานที่ บริการให้คำปรึกษา รับร้องเรียนร้องทุกข์ แจกพันธุ์ต้นไม้ พืชผัก พันธุ์ปลา มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ มอบทุนการศึกษา และมอบจักรยาน ให้แก่นักเรียน เป็นต้น
โครงการจังหวัดพบประชาชนจังหวัดชุมพร “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน”

เป็นโครงการสืบเนื่องมาจากแผนพัฒนาจังหวัดชุมพร พ.ศ. 2566 – 2570 สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนา ที่ยั่งยืนและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ภายใต้เป้าหมายการพัฒนา (วิสัยทัศน์) ที่ว่า “ชุมพร เมืองน่าอยู่ เศรษฐกิจดีและมีคุณค่ามุ่งสู่ การพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดในการสร้างคนคุณภาพ พัฒนาสังคมแห่งความสันติสุข มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและ

ทรัพย์สิน และการพัฒนาชุมชนให้มีความมั่นคงตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากแนวทางการพัฒนาดังกล่าว จังหวัดจึงได้จัดหน่วยบริการประชาชนขึ้น โดยบูรณาการหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรเอกชนต่าง ๆ ร่วมออกพบปะ เยี่ยมเยียน พร้อมนำบริการของภาครัฐ มาให้บริการพี่น้องประชาชน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายในการออกหน่วยบริการ ไว้เดือนละหนึ่งครั้ง หมุนเวียนไปยังอำเภอต่าง ๆ ครอบคลุมพื้นที่ทุกอำเภอ


นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ เปิดเผย กระผมมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาพบปะ เยี่ยมเยียน พี่น้องประชาชนชาวตำบลวังใหม่ อำเภอเมืองชุมพร ทุกท่าน ในวันนี้ ภายใต้เป้าหมาย การพัฒนา (วิสัยทัศน์) ที่ว่า “ชุมพร เมืองน่าอยู่ เศรษฐกิจดีและมีคุณค่า มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”

ซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนา จังหวัด ในการสร้างคนคุณภาพ พัฒนาสังคมแห่งความสันติสุข มีความ มั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการพัฒนาชุมชนให้มีความ มั่นคง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากแนวทางการพัฒนาดังกล่าว จังหวัดจึงได้จัดหน่วยบริการ ประชาชนขึ้น

โดยบูรณาการหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรเอกชนต่าง ๆ ร่วมออกพบปะ เยี่ยมเยียน พร้อมนำบริการของภาครัฐมาให้บริการพี่น้องประชาชน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายในการออกหน่วย บริการไว้เดือนละหนึ่งครั้ง หมุนเวียนไปยังอำเภอต่าง ๆ ครอบคลุม พื้นที่ทุกอำเภอของจังหวัดชุมพร และ

ในวันนี้ นับเป็นโอกาสอันดี ที่จังหวัดได้นำงานบริการ ของหน่วยงานต่าง ๆ มาให้บริการ และดูแล แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ในพื้นที่ตำบลวังใหม่ อำเภอเมืองชุมพร จึงอยากให้ทุกท่านที่ได้มาร่วมงานโครงการในวันนี้ ได้ใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยหน่วยงานที่ออกหน่วยให้บริการ ในครั้งนี้ มีความตั้งใจและพร้อมที่จะให้บริการแก่พี่น้องประชาชนทุก ๆ ท่านด้วยความยินดียิ่ง