
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 5 ตุลาคม 2568 ท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร

พร้อมด้วย นางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดชุมพร ร่วมกันเป็นประธานเปิดกิจกรรม “วิ่งไป เที่ยวไป กับแม่บ้านมหาดไทยชุมพร มีหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย

รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการของหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนผู้ที่รักและชื่นชอบการออกกำลังกาย ร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน โดยเริ่มต้นวิ่งที่ท่าเทียบเรือฯ ไปรอบตัวเมืองปากน้ำชุมพร กลับมาสิ้นสุดที่ท่าเทียบเรือฯ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ยังมีโอกาสถ่ายภาพสวยๆ ที่ชุมชนปากน้ำชุมพร ชม Street Art แลนด์มาร์กใหม่ของเมือง เที่ยว, ชม, ชิม, ช้อป ที่ “หลาดแค่เล” (ตลาดริมทะเล) และสามารถร่วมสนุก (ลุ้นรางวัล) ด้วยการสวมเสื้อ

โครงการฯ ออกไป วิ่งหรือเดิน ที่แลนด์มาร์ก/สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดชุมพร แล้วโพสต์ภาพลงใน Facebook ส่วนตัว (ตั้งค่าเป็น สาธารณะ) ติด แฮชแท็ก ให้ครบ #วิ่งไปเที่ยวไปกับแม่บ้านมหาดไทย #สถานที่วิ่ง

จังหวัดที่วิ่ง เพื่อร่วมลุ้นรางวัลเที่ยวฟรี! ช่วงเวลาลุ้นรางวัลตั้งแต่วันนี้ – 26 ตุลาคม 2568 ถือเป็นโอกาสที่ดีในการออกกำลังกายและโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรไปพร้อม ๆ กันเลย

เร่งช่วยชาวไทยพลัดถิ่น ที่ยังไม่มีสัญชาติไทย ยังไม่ได้รับบัตรประชาชนคนไทย

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514ชาวไทยพลัดถิ่น ขอภาครัฐเร่งแก้ปัญหาสิทธิคนไทย หลังตกอยู่ฝั่งพม่าจากการถูกปันเขตแดนสยาม เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 5 ต.ค 68 ที่โรงเรียนบ้านร้านตัดผม หมู่ที่ 4 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร

นายหนูไกร วงธรรม กำนันตำบลสองพี่น้อง พร้อมด้วย นายชาญณรงค์ เสนเผื่อก อดีตกำนัน นายสายัณห์ สุธานินทร์ อดีตกำนัน นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านทรายขาวหมู่ 1 ต.สองพี่น้อง นายสุชน สินสมบูรณ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยผู้ประสานงานนายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร นายปรีชา มีสุวรรณ นายก อบต.สองพี่น้อง พร้อมด้วยคณะบริหารและสมาชิกสภา ฯ นายทวีวัฒน์ เครือสาย นายกสมาคมประชาสังคมจังหวัดชุมพร

ได้ร่วมประชุมกับ ชาวไทยพลัดถิ่น ที่ยังไม่มีสัญชาติไทย ยังไม่ได้รับบัตรประชาชนคนไทย เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น และ ร่วมกัน แก้ไขปัญหา โดยมีชาวไทยพลัดถิ่นที่เดินทางมาร่วมประชุม ในส่วนที่มีบัตรขึ้นต้นด้วยเลข 0 เลข 6 เลข 077 และอื่นๆ จำนวน 250 คน คนที่ยังไม่มีบัตรอะไรเลยจำนวน 289 คน และบัตรตัว G ที่เป็นนักเรียนนักศึกษา 4 คน ที่ เข้าร่วมประชุม โดยเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐออกเอกสารบัตรประชาชนเพื่อจะได้รับสิทธิคนไทยโดยเท่าเทียมกัน

สำหรับความเป็นของของชาวไทยพลัดถิ่น เมื่อปี พ.ศ.2411 ยุคล่าอาณานิคมอังกฤษได้เข้าครอบครองพม่าโดยขอดินแดนตอนใต้ฝั่งตะวันตกของสยามคือ มะริด ทวาย ตะนาวศรี ให้เป็นของอังกฤษ ทำสนธิสัญญาแบ่งแยกดินแดน ทำให้สยามเสียดินแดนบริเวณดังกล่าวไป ส่งผลให้คนไทยที่อาศัยอยู่ในดินแดนนั้นติดไปกับดินแดน แต่คนไทยพลัดถิ่นไม่ได้สูญเสียความเป็นไทย บรรพบุรุษปลูกฝังความเป็นไทยอย่างเหนียวแน่นมาหลายชั่วอายุคน

แต่หลังจากประเทศพม่าได้อิสรภาพจากอังกฤษเมื่อปี พ.ศ. 2491 และเกิดรัฐบาลทหารพม่าปกครองแบบเผด็จการทหาร ส่งผลด้านลบต่อชนกลุ่มน้อยของประเทศพม่าทุกกลุ่ม กลุ่มคนไทยที่ติดแผ่นดินอยู่ในฝั่งพม่าได้รับความลำบาก บางส่วนจึงอพยพโยกย้ายกลับเข้ามายังแผ่นดินไทย มาอยู่กับญาติพี่น้องในฝั่งไทย ในพื้นที่จังหวัดระนอง ชุมพร

และ ประจวบคีรีขันธ์ พวกเขาพูดไทยปักษ์ใต้ มีวัฒนธรรมประเพณีเหมือนไทยปักษ์ใต้ แต่ปัญหาของการไม่มีบัตรประชาชนไทย ทำให้คนไทยพลัดถิ่น ไม่สิทธิตามความเป็นพลเมืองไทยในแง่ของกฎหมาย บางครั้งถูกจับกุม คุมขังข้อหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เผชิญปัญหาสารพัน แต่บางส่วนมีญาติพี่น้องที่สามารถยืนยันผังเครือญาติได้ ก็ได้รับสิทธิ์เป็นคนไทย

อย่างไรก็ดีในครั้งนี้ได้มีการสะท้อนปัญหาต่างๆที่เกิดกับชาวไทยพลัดถิ่นเช่น การไม่ได้รับสิทธิ์ต่างๆจากทางภาครัฐ การมีบ้านไม่สามารถขอบ้านเลขที่ได้ มีที่ดินก็ไม่มีสิทธิครอบครอง เจ็บป่ายก็ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเอง ลูกเรียนหนังสือก็ไม่มีสิทธิ์รับในปริญญา เรียนจบไม่สามารถสอบเข้างานราชการ หรืองานบริษัทได้ เพราะไม่มีบัตรประชาชน และยังขาดสิทธิต่างๆอีกมายมาย

ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร้องขอการขอมีบัตรประชาชนกับสำนักทะเบียนอำเภอท่าแซะ และได้รับบัตรประชาชนไปแล้วกว่า 1,000 คน แต่ส่วนหนึ่งยังไม่ได้รับ เนื่องจากมีชาวไทยพลัดถิ่นจำนวนมาก ที่ต้องรอสอบผังเครือญาติ รอการตรวจ ดีเอ็นเอ จากสำนักนิติวิทยาศาสตร์ ล่าสุด

นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร จึงมอบหมายให้ นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ เลขา นายก อบจ.ชุมพร นำลูกจ้างจำนวน 2 คน เข้าช่วยงานสำนักทะเบียนอำเภอท่าแซะ เพื่อเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการจัดเรียงเอกสารให้กับสำนักทะเบียนในการเรียกผู้ที่มีรายชื่ออยู่มาสอบปากคำดำเนินการตามขั้นตอนการขอรับสิทธิ์คนไทยได้เร็วยิ่งขึ้น
