สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภาค 7กวาดล้างอิทธิพล!คดีอุกฉกรรจ์/สะเทือนขวัญ หลายคดี และด่านสามร้อยยอดยึดยาบ้าได้ 1,200,000 เม็ด

แชร์เนื้อหานี้

🚨 กวาดล้างอิทธิพล! ตำรวจภูธรภาค 7 จับกุม 2 คดีสะเทือนขวัญที่ประจวบคีรีขันธ์ สังเวยความหึงหวง ดับ 1 เจ็บ 2
ประจวบคีรีขันธ์ – ตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 และคณะผู้บริหารระดับสูง ได้แถลงความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์/สะเทือนขวัญ และคดีน่าสนใจในพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในห้วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2568 ซึ่งมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

💥 คดีที่ 1: ยิงรถยนต์หน้าร้าน “อู่ประจวบมอเตอร์”

เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 02.37 น. ณ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 35/2 ถ.เพชรเกษม ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ (อู่ประจวบมอเตอร์) คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะ 4 ประตู สีดำ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ก ทะเบียน กจ 5555 ประจวบคีรีขันธ์ จนทรัพย์สินเสียหาย กระจกหลังและกระจกข้างฝั่งซ้าย (ข้างคนขับ) เป็นรูทะลุ โดยขณะนั้นมี นายชญานนท์ หรือแบงค์ จวบนก อายุ 26 ปี เป็นคนขับ และ นายศุภโชค หรือฟอร์ด ขอดประณาม นั่งเป็นผู้โดยสาร แม้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่คนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนและจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 ราย คือ นายฐิติพงษ์ หรือตาม กิจหงวน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ม.2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.290/2568 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ในข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนฯ” และ นายอานุภาพ หรือนิว เรืองโรจน์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/9 ม.11 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยได้ตรวจยึดของกลางประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน บพ 9888 ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 คัน และกุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก ซึ่งตรวจยึดจากนายวิชัย หรือ น้อย เรืองโรจน์ (บิดานายอานุภาพ) ณ บ้านเลขที่ 92/2 หมู่ที่ 11 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์

สาเหตุของการก่อเหตุมาจาก ความหึงหวง เนื่องจากนายชญานนท์ (ผู้เสียหาย) ไปคบหาแฟนเก่าของนายฐิติพงษ์ (ผู้ต้องหา)

🔫 คดีที่ 2: ยิงบนสะพานข้ามทางรถไฟ ดับ 1 เจ็บ 1

เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 01.10 นาฬิกา บนสะพานข้ามทางรถไฟ ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 2 ราย คือ นายสหรัฐ บุญช่วย (เสียชีวิต รพ.ประจวบฯ) และ นายอำนาจ กวดลวด (บาดเจ็บที่แขนซ้าย) คนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปทันที ส่วนผู้บาดเจ็บได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล

จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายฐิติพงษ์ หรือตาม กิจหงวน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ม.2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.291/2568 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนฯ” และ นายอดิศรณ์ หรือเขต วารีล้อม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/4 ม.2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.292/2568 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ในข้อหาเดียวกัน

โดยได้ตรวจยึดของกลางจำนวนมาก เช่น รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX160 สีขาว-ดำ ทะเบียน 1กธ 3637 ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 คัน ที่ใช้ก่อเหตุ, กางเกงชายาวสีเขียวลายพราง 1 ตัว, หมวกปีกผ้าคลุมปิดหน้าลายพรางทหาร 1 ใบ, เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า และเสื้อกีฬาแขนสั้นสีแดง ที่ผู้ต้องหาสวมใส่วันเกิดเหตุ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi สีเทา 1 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือระบบ AIS 2 ซิม และระบบ Dtac 1 ซิม ที่ตรวจยึดจากพยาน (นายธีระพงษ์ ปิ่นทอง)

สาเหตุของคดีที่ 2 นี้ สืบเนื่องมาจาก ความหึงหวง เช่นกัน เนื่องจากนายสหรัฐ หรือโซน บุญช่วย (ผู้เสียชีวิต) ไปคบหากับแฟนเก่าของนายฐิติพงษ์ หรือตาม กิจหงวน ผู้ต้องหาคนเดียวกันกับคดีแรก

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ตำรวจยึดยาบ้าได้ 1,200,000 เม็ดพร้อมรถยนต์ของกลาง คนขับหนี

เมื่อเวลา 21.00น.วันที่ 9 ธันวาคม 2568 บนถนนเพชรเกษม ขาขึ้นกรุงเทพ หมู่ 6 บ้านศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนถึงด่านตรวจถาวรสามร้อยยอด ประมาณ 800 เมตร ตำรวจสายตรวจรถยนต์ กำลังปฎิบัติหน้าที่ตรวจตรา พบรถเก๋งมาสด้าเอสยูวี สีฟ้า รุ่นซีเอ็กซ์ 5 ทะเบียน 5 กย 4045 กรุงเทพมหานคร คาดว่าหน้าเห็นแสงไฟสว่างจากจุดตั้งด่านตรวจ หยุดรถไม่ยอมขับเข้าด่าน พยายามขับถอยหลัง

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่มาเห็นความผิดปกติ จึงเขามาสอบถามว่ารถมีปัญหาอะไรรึเปล่า แต่คนขับไม่พูดและพยายามถอยหลังหนี เจ้าหน้าที่พบว่ามีพิรุธจึงสั่งให้หยุดเพื่อตรวจค้นแต่คนขับรถกลับขับหนี หนีมาได้ไม่ไกลก่อนถึงด่านประมาณ 400 เมตร คนขับได้จอดรถทิ้งไว้ข้างทาง อาศัยความมืดหลบหนีเข้าไปในป่า ตำรวจวิ่งตามไปแต่ก็ไม่เจอ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเปิดประตูหลังก็พบกล่องกระดาษ จำนวน 4 กล่องและในห้องโดยสารที่วางเท้าเบาะผู้โดยสารเบาะหลัง ภายในรถก็พบกล่องถุงปุ๋ย จำนวน 2 ภายในปิดบังของภายใน

จากนั้นจึงรายงาน พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงศ์เวียงจันทร์ รองผบก.จ.ประจวบฯ พ.ต.อ.พีรวัส ชูแก้ว ผกก.สภ.สามร้อยยอด ตำรวจชุดสืบสวน รุดมาที่เกิดเหตุพร้อมประสานพิสูจน์หลักฐานตำรวจประจวบฯ ให้มาตรวจสอบ เก็บลายนิ้วมือ เก็บดีเอ็นเอ พร้อมตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในกล่องด้วนสารเคมีก็พบว่าเป็นสาร Metamphetamine (ยาบ้า ) จึงได้อายัดไว้

จากนั้นจึงรถยนต์ของกลางนำไป สภ.สามร้อยยอดตรวจสอบอย่างละเอียด กล่องทั้งหมดที่พบ มี 6 กล่อง รวมพบยาบ้าทั้งหมด 1,200,000 เม็ด

สำหรับการที่ตำรวจสามารถยึดยาบ้าล็อตใหญ่ได้ จากตรวจสอบยาเสพติดชุดนี้หหน้าทางภาคเหนือ แต่ที่มาพบว่ารถคันดังกล่าวขับมาทางภาคใต้ ก็เพราะว่าคนขับไม่ชำนาณทาง ระหว่างที่กำลังขนยาบ้าลงสู่ภาคใต้ ก็มาด่านตรวจเสียก่อนจึงได้หลบหนีเข้าไปในซอยก่อนถึงด่าน

แต่ด้วยไม่รู้เส้นทาง เมื่อขับขึ้นมาบนถนนใหญ่ก็ต้องไปหาที่กลับรถแต่มาถึงก็มาเจอด่านตรวจที่ผ่านมา ทำให้ต้องพยายามขับถอยหลัง และต้องมาเจอรถสายตรวจเสียก่อน จึงทิ้งรถและหลบหนีไปดังกล่าว
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781